[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 133783 ครั้ง)

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #150 เมื่อ12-09-2008 17:31:52 »

โฮ้ยยยยยยย~~~~~   :serius2:   อย่ามาว่าเจ๊หมวยใจร้ายซี    บทมันเป็นแบบนั้นอ่ะ  

อ่านนิยายเจ๊   จิตใจต้องเข้มแข็ง  อดทน  หนทางยังอีกยาวไกล  

ทุกคนต้องเอาใจช่วยไมเคิล  ถึงจะผ่านพ้นความทุกข์ไปได้

อย่ามาว่าเจ๊ใจร้ายยยยยยยยย    ไปว่าไอ้โทนี่มัน  ไอ้นั่นน่ะ  มันเลววววววววววววววจิง :laugh:



ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #151 เมื่อ12-09-2008 18:21:15 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ไมชีวิตไมเคิลถึงน่าสงสารอย่างนี้

แค่ตาบอดกับความจำเสื่อมก็ร้ายพอแล้ว

สำหรับเด็กอายุ13 แล้วนี่ยังมาเป็นโรคนี้

สงสารอย่างจับใจ สู้ๆๆต่อไปคร้าบบผมทุกๆคน

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

jeawsakon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #152 เมื่อ12-09-2008 20:05:37 »

สงสารไมเคิล



เศร้าจับใจ :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:





ใครเขียนบทมาอย่านี้ฟระ o12 o12 :angry2:






มารอต่อปาย :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:






andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #153 เมื่อ12-09-2008 22:55:27 »

สงสารไมเคิล
ไอ้โทนี่ใจร้าย ทำกับเด็กได้ไง

ออฟไลน์ korn_ken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #154 เมื่อ13-09-2008 10:37:44 »

 :o12: :o12:
    เศร้าอะ   ทั้งไมค์     ทั้งคริส
                               :o12: :o12:

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #155 เมื่อ13-09-2008 17:59:01 »

 :sad2: :sad2:

numa6

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #156 เมื่อ14-09-2008 12:11:33 »

ไอ้โทนี่ เเกมันเลววว  :m31: :m31:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #157 เมื่อ14-09-2008 22:32:11 »

โชคชะตาทำร้ายไมเคิล 

สงสารทั้งไมเคิลทั้งคริสเลย

 :o12:

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #158 เมื่อ15-09-2008 09:14:51 »

โฮ้ยยยยยยย~~~~~   :serius2:   อย่ามาว่าเจ๊หมวยใจร้ายซี    บทมันเป็นแบบนั้นอ่ะ  

อ่านนิยายเจ๊   จิตใจต้องเข้มแข็ง  อดทน  หนทางยังอีกยาวไกล  

ทุกคนต้องเอาใจช่วยไมเคิล  ถึงจะผ่านพ้นความทุกข์ไปได้

อย่ามาว่าเจ๊ใจร้ายยยยยยยยย    ไปว่าไอ้โทนี่มัน  ไอ้นั่นน่ะ  มันเลววววววววววววววจิง :laugh:




ไม่ได้ว่าเจ๊หมวยน้า

มันเป็นคำชม ว่าแต่งดีจนคนอ่านอินตาม

(เอาตัวรอดเห็นๆ  :laugh: แต่ที่ชมหน่ะเป็นความจริงล้วนๆนะคะ)

ว่าแต่...ให้ไปว่าไอ้โทนี่แทนใช่มั๊ยคะ

แก ไอ่โทนี่

 :เตะ1:  :m31:

แล้วจะไปฝึกจิตให้เข้มแข็ง มารออ่านตอนต่อไปนะคะ

ตอนนี้ขอไปพักปรับสมดุลให้ร่างกายและจิตใจก่อน

 :o12:




ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #159 เมื่อ15-09-2008 10:18:45 »

[18]


“ไมเคิล แด๊ดกลับมาแล้ว ลูกอยู่ไหน ไมค์…”

หลายวันแล้วที่คริส บริเจคส์ เรียกหาลูกชายทันทีที่กลับถึงบ้าน หากไมเคิลได้ยินไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนก็จะรีบลุกขึ้นเดินไปตามเสียงเรียก วันนี้คริสกลับบ้านเร็วกว่าปกติเพราะรู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงหนุ่มน้อยมากกว่าทุกวัน

ไมเคิลเดินกระเผลกออกมาจากห้องพักผ่อน มือถือไม้เท้าเคาะนำทางไม่มีใครจูงเดินหรือเดินตามเหมือนทุกวัน คิ้วเข้มขมวดรู้สึกแปลกใจกึ่งไม่พอใจเมื่อเห็นอาการเดินกระเผลกของหนุ่มน้อยมาจากรอยแผลถลอกตรงหัวเข่า เขาถลาเข้าไปสวมกอดร่างเล็ก เงยหน้าขึ้นจูบหน้าผากเบาๆ

“ทำอะไรอยู่ไมเคิล หัวเข่าเป็นอะไร หือ..”

“ผมหกล้มครับ”

คริสก้มลงดูจึงพบว่ารอยถลอกนั้นไม่ใช่แผลเล็กๆ ยังมีเลือดไหลซิบๆ ตรงบริเวณแผล และรอยเลือดแห้งกรังซึ่งไหลเป็นทางลงไปที่หน้าแข้งแสดงให้เห็นว่าบาดแผลเกิดขึ้นนานพอสมควรแล้วแต่ยังไม่ได้รับการชำระและทำความสะอาด แสดงถึงการละเลยของคนในบ้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด คริสบอกได้คำเดียวว่าเขาโกรธมาก

“ไม่มีใครอยู่กับลูกเหรอ วันนี้เวรใคร  ลู !!… แฟรงค์ !!.. มีใครอยู่บ้าง หายไปไหนกันหมด!!.. ”

คริสส่งเสียงดังด้วยความลืมตัว  เห็นร่างเล็กสะดุ้งตกใจรีบกอดปลอบ

“แด๊ดไม่ได้ดุลูก ไมเคิล.. ไม่ตกใจนะครับ..”

พ่อบ้านลูวิ่งหน้าตื่นออกมาจากครัว

“ครับ เจ้านาย”

“หายไปไหนกันหมด ทำไมปล่อยไมค์ยู่คนเดียว วันนี้เวรใคร!!.. ”

พ่อบ้านลูอึกอักไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน จังหวะเดียวกับที่หนุ่มน้อยทิมวิ่งหน้าตื่นเข้ามา หน้าตางัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นนอน

“วันนี้เวรผมอยู่กับไมเคิลฮะ คุณคริส..”    ทิมรีบตอบคำถามสุดท้ายแทนพ่อบ้าน หนุ่มน้อยรู้ว่าคริสกำลังโกรธมากจึงไม่กล้าสบตาด้วย ก้มหน้ารับผิดเสียงสั่น

“ผมขอโทษฮะ คุณคริส.. ผมเผลอหลับไป..”

คริสถอนใจเฮือกใหญ่   รู้สึกว่าวิธีของแฟรงค์ที่ให้เด็กในบ้านผลัดกันดูแลไมเคิลคนละวันเพราะคิดว่าอาจช่วยให้หนุ่มน้อยจำความได้เร็วขึ้น กลับเป็นวิธีที่ไม่ได้เรื่อง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังส่อเค้าว่าอาจทำให้สุขภาพของไมเคิลแย่ลงเพราะถูกพี่เลี้ยงจอมแสบเหล่านี้ละเลยบ่อยครั้ง

“เกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล ทิม.. เธอคงไม่ได้นอนหลับทั้งวันหรอกนะ”

“เอ่อ.. คือ..” ทิมอึกอัก

(( เกิดอะไรขึ้นกับไมเคิล )) คริสย้ำถามอีกครั้ง…

หนุ่มน้อยใจหายวาบรีบทรุดตัวลงละล่ำละลั่กตอบ ....คุณคริสใช้ภาษาอังกฤษเมื่อไรแสดงว่าอยู่ในอารมณ์โกรธแล้ว....

“เอ่อ.. ไมเคิลหกล้มฮะ ผมพาเขาไปนั่งเล่นที่ศาลาในสวน แต่ผมมัวแต่อ่านหนังสืออยู่เพราะใกล้จะสอบแล้ว เลยไม่รู้ว่าไมค์เดินออกไปตั้งแต่เมื่อไร ผมวิ่งตามหาเจอไมค์หกล้มอยู่ที่ลานหินฮะ ผมขอโทษฮะคุณคริส ผมผิดไปแล้ว...”

คริสตวาดใส่อย่างไม่สบอารมณ์

“แล้วไง!!... หกล้มตั้งแต่กี่โมง!!.. ทำไมป่านนี้ไม่มีใครคิดจะทำแผลให้  เธอทำไม่เป็นทำไมไม่บอกลู….”

คริสหันไปต่อว่าพ่อบ้านทันที

“นายก็เหมือนกันลู เป็นพ่อบ้านประสาอะไร!!.. เดินไปมาอยู่ในบ้านไม่รู้ไม่เห็นเลยหรือไงว่าไมเคิลหัวเข่าถลอก ทำไมไม่ช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้ ปล่อยทิ้งไว้ให้แผลแห้งกรังอย่างนี้ได้ยังไง”

“เอ่อ.. คือ..” พ่อบ้านเหงื่อตก ไม่เคยถูกเจ้านายคริสดุด้วยอารมณ์โกรธมาก่อน แต่ครั้งนี้ลูยอมรับว่าตัวเองผิดจริงๆ

เรื่องที่ไมเคิลอาจติดเชื้อเอชไอวีจากโทนี่  สมาชิกในบ้านแอบล่วงรู้กันหมด แม้ทุกคนจะมีความรู้สึกเดียวกันคือสงสารและเวทนาเด็กชาย แต่ความสงสารก็เกิดขึ้นพร้อมกับความกังวล ไม่เฉพาะคนรับใช้แม้แต่หนุ่มน้อยทั้งสี่ก็พยายามรักษาระยะห่าง ไม่จำเป็นจะไม่สัมผัสหรือจูงมือไมเคิลเดิน จะใช้วิธีเดินประกบข้างๆ ด้วยเหตุผลนี้ลับหลังคริสและแฟรงค์ ไมเคิลจึงถูกละเลยจากพี่เลี้ยงหนุ่มน้อยบ่อยครั้ง

“ผมโทรหาคุณแฟรงค์แล้ว คุณแฟรงค์ว่าจะกลับมาทำแผลให้คุณหนูไมค์เองครับ”

((ว่าไงนะ!!!.. แผลถลอกแค่นี้ต้องโทรเรียกแฟรงค์ให้กลับมาจัดการ บ้าหรือเปล่า!!. ลู.. ฉันจ้างนายมาเป็นพ่อบ้านทำไม!!... ถ้าไม่มีปัญญาแม้แต่จะทำความสะอาดบาดแผลถลอกให้เด็ก!!.. ))

คริสว่ากล่าวพ่อบ้านด้วยความโกรธ เสียงตวาดดังลั่นจนไมเคิลสะดุ้งเฮือก คิดว่าตัวเองถูกโกรธด้วย ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นน้ำตาคลอ

“ผมขอโทษที่หกล้มครับ แต่ผมไม่เจ็บ ไม่ต้องทำแผลก็ได้ครับ เดี๋ยวก็หาย..”

คริสใจหายวาบ รีบทรุดตัวลงสวมกอดร่างเล็กไว้ รู้สึกโกรธตัวเองอย่างมากที่เผลอดุว่าคนในบ้านเสียงดังจนเจ้าหนูของเขาตกใจกลัว

“แด๊ดไม่ได้ดุ ไม่ได้ว่าลูก ไมเคิล.. ไม่ตกใจนะครับ แด๊ดขอโทษ.. เราขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า แด๊ดจะทำแผลให้ลูกเองนะ ”   เสียงทุ้มกระซิบปลอบอ่อนโยนก่อนฉุดร่างเล็กขึ้นยืนและช้อนไว้ในวงแขน ร่างสูงเดินดุ่มขึ้นชั้นบนโดยไม่สนใจว่ากล่าวใครอีก

ทิมถอนใจโล่งอกโชคดีที่ถูกคุณคริสดุนิดเดียว หนุ่มน้อยรีบหนีกลับเข้าห้อง แต่พ่อบ้านลูยังยืนสำนึกผิดอยู่ รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของตัวเอง เขาไม่น่าเชื่อและเห็นดีด้วยกับสาวใช้ดอลลี่เลย การรอคุณแฟรงค์กลับมาทำแผลให้ไมเคิลเป็นคำชี้แจงที่แย่มากจริงๆ เขาควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำความสะอาดบาดแผลให้เด็กก่อน

“อย่าแตะต้องบาดแผลคุณหนูไมค์นะลุง นอกจากลุงจะสวมถุงมืออย่างที่คุณหมอเขาใช้กัน ทางที่ดีหนูว่าโทรหาคุณแฟรงค์ให้เธอรีบกลับมาเถอะ  แผลถลอกนิดเดียวคุณไมค์คงแค่แสบๆ คันๆ เท่านั้น”

ดอลลี่รีบเข้ามาห้ามเมื่อเห็นพ่อบ้านลูกำลังจะทำความสะอาดบาดแผลให้คุณหนูไมค์ด้วยมือเปล่า และเมื่อลูโทรหาคุณแฟรงค์ ก็ได้รับคำตอบว่าเขาจะรีบกลับมาทำแผลให้ไมเคิลเอง อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง นี่ก็เกือบจะหนึ่งชั่วโมงแล้วคุณแฟรงค์ยังไม่กลับ แต่คนที่กลับมาก่อนกลับเป็นเจ้านายคริส เรื่องก็เลยยุ่ง!!!...


 :เฮ้อ:


คริสพาไมเคิลขึ้นมาบนที่พักส่วนตัวและวางร่างเล็กลงนั่งที่โซฟา

“เดี๋ยวแด๊ดทำแผลให้นะไมเคิล.. นั่งรอตรงนี้นะครับ แด๊ดไปเอากระเป๋ายาเดี๋ยวเดียว ”

“ผมเจ็บนิดเดียวครับ ไม่ต้องทำก็ได้ เดี๋ยวก็หาย”

“เจ็บนิดเดียวก็ต้องทำ ต้องล้างแผลให้สะอาด จะได้ไม่ติดเชื้อ รู้มั้ย..”

ไมเคิลพยักหน้ารับ อารมณ์ของคริสผ่อนคลายขึ้น เขาสวมกอดร่างเล็กด้วยความรักสุดหัวใจ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ความรู้สึกที่เขามีให้หนุ่มน้อยคนนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือลดน้อยลง

“กระผมช่วยนะครับ เจ้านาย..” พ่อบ้านลูถือกระเป๋ายาเดินตามขึ้นมา

“ไม่ต้องลำบากหรอก ลู.. เอากระเป๋าไว้นั่นแหล่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

คริสกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติแม้ในใจจะยังรู้สึกเคืองอยู่ เสียงรถแล่นมาจอดหน้าตึก พ่อบ้านลอบถอนใจที่คุณแฟรงค์กลับมาทันเหตุการณ์พอดี

“คุณแฟรงค์กลับมาแล้วครับเจ้านาย.. ผมจะไปเรียนคุณแฟรงค์ให้รีบขึ้นมาช่วยครับ”

พ่อบ้านรีบผละไปตามเลขาคู่ใจของนาย

ดวงตาคู่สวยวาววับขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ควรรับผิดชอบกับการละเลยของหนุ่มน้อยและพ่อบ้านคือใคร  ....ออกหัวคิดให้คนในบ้านผลัดกันดูแลไมเคิล  แทนที่ตัวเองจะอยู่ด้วยกลับมีธุระออกข้างนอกเกือบทุกวันทั้งที่เขาไม่ได้สั่งให้ไปไหน... ทำตัวแบบนี้ฉันจะหวังพึ่งนายได้ยังไง แฟรงค์...


 o12


“แสบหรือไมเคิล อดทนนะแป๊บเดียวก็หาย ต่อไปจะเดินไปไหนต้องเรียกให้ใครพาไป ถึงจะมีไม้เท้านำทางแต่ก็อาจพลาดเหยียบอะไรสะดุดหกล้มได้นะ รู้มั้ย..”

แฟรงค์กล่าวปลอบน้ำเสียงอ่อนโยนขณะทำแผลให้หนุ่มน้อย เขาทำความสะอาดแผลและใส่ยาให้อย่างเบามือที่สุดแต่ร่างเล็กก็ยังสะดุ้งและร้องซี้ด คริสยืนกอดอกดูอยู่ห่างๆ เห็นกิริยาที่แฟรงค์ปฏิบัติต่อไมเคิลแล้วอารมณ์ฉุนและหมั่นไส้ชายหนุ่มคลายลง  เขาไม่เคยเห็นแฟรงค์แสดงความอ่อนโยนอย่างจริงใจกับเด็กผู้ชายมาก่อน โดยเฉพาะวัยหนุ่มน้อยแบบนี้ ถ้าไม่เล่นหัวแบบทโมนก็กรุ้มกริ่มเลาะเล็มเหมือนเห็นขนมหวาน

แฟรงค์ลงจากรถได้ก็วิ่งร้อยเมตรขึ้นมาบนที่พักของคริส เห็นรถเจ้านายจอดอยู่ก็รู้สึกกังวลว่าสถานการณ์คงไม่สู้ดี ยิ่งเห็นสีหน้าของพ่อบ้านลู..ขณะสวนกันที่บันไดก็รู้ว่าไม่ใช่แค่สถานการณ์ไม่ดีแต่เข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว

“กลับมาแล้วคร้าบบ.. บ๊อส.. เดี๋ยวผมทำแผลให้ไมค์เอง รอแป๊บเดียวนะ ผมขอล้างมือก่อน..”

แฟรงค์รู้วิธีอ้อนขอโทษและเอาใจเจ้านาย เขาส่งเสียงร้องทักอ่อนหวานขณะวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ ก่อนคว้ากระเป๋ายาปราดเข้ามาทรุดตัวลงเบื้องหน้าพ่อลูกบุญธรรม

ทำแผลเสร็จแฟรงค์กระซิบบอกหนุ่มน้อยให้นอนพักบนโซฟานิ่งๆ ห้ามลุกขึ้นหรือขยับไปไหน ซึ่งเจ้าหนูก็เชื่อฟังแต่โดยดี

คริสกล่าวน้ำเสียงเรียบขณะที่แฟรงค์กำลังเก็บของ

“ออกไปไหนมา”

แฟรงค์เงยหน้าขึ้นสีหน้าละห้อย

“เอ่อ.. ผมไปคุยธุระกับเพื่อนน่ะ  ตั้งใจออกไปแค่สองชั่วโมงแต่รถมันติดมาก ก็เลยกลับมาไม่ทัน ผมขอโทษ..”

คริสยืนนิ่งรอจนแฟรงค์เก็บของเสร็จและลุกขึ้นยืน เขาคว้ามืออีกฝ่ายเดินห่างออกมาจากเด็กชาย


((แฟรงค์.. ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่จีรังยั่งยืน  นายอยากไปจากฉันเมื่อไรก็ได้ ฉันจึงไม่มีสิทธิบังคับหรือขอร้องนายให้อยู่ช่วยฉันดูแลไมเคิลตลอดไป ขอเพียงแต่ตราบเท่าที่นายยังอยู่เคียงข้างฉัน ฉันหวังว่านายจะช่วยฉันดูแลไมค์ด้วย ได้มั้ยแฟรงค์..))

แฟรงค์มองคริสอย่างไม่พอใจ

((พูดอะไรน่ะคริส ทำไมไม่ถามความรู้สึกผมก่อน คุณคิดแทนผมได้ยังไง))

คริสกล่าวขอโทษน้ำเสียงขื่น

((ขอโทษแฟรงค์ ถ้านายลำบากใจหรือไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ฉันแค่ถามดู.. .))

แฟรงค์ขยับเข้าประชิดร่างสูง

((ฟังนะ คริส.. ความสัมพันธ์ระหว่างเรา.. ถ้ามันจะจบลงไม่ใช่เพราะผมเป็นฝ่ายเดินจากไปแน่ เราอยู่ด้วยกันมานาน… นานจนคุณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมแล้ว มันมากกว่าคำว่าเพื่อนหรือคนรัก.. ไม่ต้องห่วงเรื่องไมเคิลหรอกนะ  ผมรักเขาไม่น้อยกว่าที่คุณรัก ถ้าไมค์ป่วยเป็นโรคนี้จริงๆ ผมไม่ปล่อยให้คุณดูแลเขาคนเดียวหรอก ผมจะช่วยคุณดูแลรักษาพยาบาลไมเคิล ผมให้สัญญา คริส..))

คริสสวมกอดแฟรงค์ด้วยความรู้สึกตื้นตัน ในยามทุกข์แฟรงค์เป็นคนเดียวที่คอยปลอบโยนให้กำลังใจเขาเสมอมา จริงอย่างที่แฟรงค์พูด… สัมพันธภาพระหว่างเขากับแฟรงค์ ไม่ใช่แค่เพื่อนหรือคนรักกันธรรมดาจริงๆ แต่มันคือครอบครัว…

((ขอบใจนะแฟรงค์..  ไม่เสียแรงที่ฉันรักนายหมดหัวใจ))

แฟรงค์หัวใจพองโตเมื่อได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้ ซ่อนความปีติไว้ใต้สีหน้าทะเล้น

((หมดหัวใจจริงเหรอ.. หัวใจคุณมีกี่ดวง คุณให้ไมเคิลไปแล้วนี่นา))

((หัวใจฉันมีดวงเดียว แต่ความรักที่ให้นายและไมเคิลคนละแบบกัน))

….คนละแบบอีกแล้วเหรอ…. แฟรงค์รำพึงในใจเพราะเพิ่งได้ยินคำพูดนี้จากโจเมื่อสัปดาห์ก่อน

((คุณรักไมเคิลแบบลูก.. แล้วผมล่ะ คุณรักผมแบบไหนเหรอ คริส..))

แฟรงค์อ้อนถามทั้งที่รู้ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุก ตั้งแต่ไมเคิลกลับมาสู่อ้อมอกของคริสอีกครั้ง กว่า 3 สัปดาห์แล้วที่เขาไม่มีโอกาสได้อยู่แนบชิดกับคริสแบบนี้เลย

((นายไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่))

คริสเอ่ยถามเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเข้มของชายหนุ่มตรงหน้าส่งยิ้มและสายตาหวานเยิ้มให้เป็นคำตอบว่าแกล้งโง่.. ก่อนซบลงกับไหล่ จมูกโด่งซุกไซ้ที่ซอกคอเขา

คริสส่ายหน้ากับอาการอยู่ไม่สุกของแฟรงค์เพราะมันทำให้อารมณ์ของเขาเริ่มหวั่นไหว ดูท่าแล้วคงจะเอาจริงด้วย ถ้าไม่รีบหยุดยั้งไว้เป็นเรื่องแน่…
 
((พอแล้วแฟรงค์.. นี่ไม่ใช่เว.…))

เสียงทุ้มขาดหายเพราะถูกริมฝีปากร้อนของหนุ่มแฟรงค์ประกบจูบ ถึงตอนนี้อารมณ์ของคริสเตลิดไปไกลเกินกว่าจะเรียกกลับมาได้ จึงสนองความต้องการของตัวเองกลับไปบ้าง

คริสใจหายวาบเมื่อเห็นสายตาของไมเคิลจ้องมองมาที่เขาและแฟรงค์ เขารีบผละออกและผลักร่างอีกฝ่ายจนเซ โกรธตัวเองและฉุนแฟรงค์ที่ไม่เลือกเวลาและสถานที่ เผลอทำเรื่องน่าอายต่อหน้าเด็กชาย

((บ้าจริง!!.. ทำไมต้องผลักผมด้วย)) แฟรงค์โวย ถ้าทรงตัวไม่ทันเขาคงหงายหลังแล้ว    o12

((นายนั่นแหละ บ้า!!..)) คริสกระซิบต่อว่า  ((ไมเคิลนอนจ้องอยู่ไม่เห็นหรือไง))

แฟรงค์หันไปมองร่างเล็กที่ยังนอนนิ่งอยู่ตามคำสั่ง

((แล้วไง!!.. เค้ามองเห็นที่ไหนล่ะ))  กล่าวจบก็ขยับเข้าไปกระซิบแหย่   ((ถ้าคุณไม่เสียงดังผมรับรองว่าไมเคิลไม่รู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน))

คริสอึ้งไป   …จริงซี ไมเคิลมองไม่เห็น… แต่ทำไมสายตาของเจ้าหนูเมื่อครู่เหมือนมองเห็นเขากับ แฟรงค์ทำอะไรกันอยู่…

((ต่อเถอะน่าคริส.. ผมต้องการคุณนะ ได้โปรด..))

แฟรงค์ขยับเข้าประชิดอีกแต่คริสเบี่ยงตัวหนี

((นี่ไม่ใช่เวลานะแฟรงค์ ฉันไม่มีอารมณ์กับนายหรือกับใครทั้งนั้นตราบใดที่ไมเคิลยังอยู่ในสภาพนี้))

((โอ้ว! ไม่นะคริส ถ้าไมเคิลป่วยเป็นโรคนี้จริงๆ เค้ายังต้องอยู่กับเราอีกนาน ไม่ต่ำกว่า 3 ถึง 5 ปี บางทีอาจจะมากกว่า10 ปีด้วยซ้ำถ้าเราดูแลเค้าดีๆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะไม่มีอารมณ์เป็นเวลายาวนานขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ  คุณตายด้านแล้วรู้มั้ย..))

คริสใจหายอย่างแรง เขาไม่ใส่ใจคำพูดอื่นใดของแฟรงค์ แค่ได้ยินว่าไมเคิลจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่ต่ำกว่า 3 ถึง 5 ปี หัวใจคริสก็แทบจะสลาย มือใหญ่คว้าคอเสื้อชายหนุ่มเค้นถามน้ำเสียงแห้ง

((พูดจริงหรือเปล่าแฟรงค์ 3 หรือ 5 ปีที่นายว่ามันไม่นานเลยนะ ไมเคิลยังอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ))

แฟรงค์ใจหายวาบ เสียใจที่เผลอพูดความจริงออกไปโดยลืมนึกถึงความรู้สึกของคริส


o2




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #159 เมื่อ: 15-09-2008 10:18:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #160 เมื่อ15-09-2008 10:42:44 »

บ้ากันจริงๆทำไมไม่พาไปหาหมอล่ะครับ
แค่เลือดนิดเดียวเองจะได้กระจ่าง :m16:ไม่ต้องมาทำให้เด็กคนหนึ่งมาเจ็บปวดแบบนี้หรอก o12

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #161 เมื่อ15-09-2008 10:47:21 »

บ้ากันไปทั้งบ้าน :m16:
ทำไมไม่พาไปพบแพทย์ก่อนล่ะครับผมได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย o12

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #162 เมื่อ15-09-2008 10:57:34 »

ไมเคิลฝันร้ายอีกครั้งหลังจากที่นอนหลับสนิทมาสามคืนเต็ม แต่คืนนี้ไม่มีเสียงกรีดร้องเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา....

“ฮึก.. ฮือๆ..”

คริสรู้สึกตัวกลางดึกกับเสียงสะอื้น ร่างสูงลุกพรวดขึ้นถลาไปที่เตียงเล็ก นึกโกรธตัวเอง.. ไมเคิลลุกขึ้นมานั่งร้องไห้นานแค่ไหนแล้วทำไมคืนนี้เขาถึงนอนขี้เซา ไม่ได้ยินเสียงร้องของเจ้าหนูเลย..

“แด๊ดอยู่นี่ไมเคิล.. ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ ไม่ต้องกลัวนะลูก..” คริสกระซิบปลอบให้หนุ่มน้อยรู้ตัวก่อนรั้งร่างเล็กที่นั่งกอดเข่าสะอื้นอยู่เข้ามาสวมกอด

“นี่บ้านเราไมเคิล แด๊ดกอดลูกอยู่นี่แล้ว.. ไม่ต้องกลัวนะ..”

“โทนี่.. โทนี่..” เสียงพึมพำเรียกหาโทนี่ หลังจากไม่เคยถามถึงเลยเกือบ 2 อาทิตย์

“ผมอยากหาโทนี่.. ฮือๆ..”

คริสใจหายรู้สึกเจ็บในหัวอก นึกว่าไมเคิลลืมหมอนั่นได้แล้ว มาวันนี้ไม่ใช่แค่ถามถึงแต่อยากกลับไปหา.. เขาจะทำยังไงดี.. มือใหญ่ลูบศีรษะหนุ่มน้อยปลอบประโลม

“โทนี่ไปทำงานที่ไกลๆ แด๊ดไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน.. ไว้รอเขาติดต่อกลับมาก่อน แล้วแด๊ดจะพาไปหานะ” ทั้งที่หัวอกร้อนรุ่มแต่เสียงกระซิบปลอบกลับอ่อนโยน

“คุณคริสรู้จักโทนี่มั้ยครับ.. หน้าตาเขาดุหรือเปล่า..”

คริสเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อหนุ่มน้อยเอามือแตะใบหน้าเขาแต่กลับถามถึงหมอนั่น

“แด๊ดจำหน้าเขาไม่ได้ เคยเจอแค่ครั้งเดียว.. หน้าตาคนไม่สามารถบ่งบอกจิตใจได้นะไมเคิล.. คนหน้าตาดีอาจมีนิสัยเลวร้ายก็ได้..”

“แต่คุณยังใจดีเลย ผมรู้ว่าคุณหล่อแล้วก็ใจดีด้วย” ฝ่ามือเล็กแตะแผ่วที่แก้มของคริสขณะพูด

คริสยิ้มออก

“รู้ได้ยังไงว่าแด๊ดหล่อ.. แค่จับก็รู้เหรอ หือ..”

“ผมรู้..หน้าตาคุณใจดี แล้วผมก็ชอบเวลาที่คุณกอด มันทำให้ผมหายกลัวจากฝันร้าย.. ฮึก…” ทั้งที่บอกว่าหายกลัวแต่เจ้าหนูกลับสะอื้นขึ้นมาอีกเมื่อพูดถึงฝันร้าย..

ลำแขนแกร่งกระชับร่างเล็กในอ้อมกอดแน่นขึ้น ไม่อยากเห็นเจ้าหนูของเขาร้องไห้ ไม่ว่าจะเพราะฝันร้ายหรือคิดถึงไอ้หมอนั่น..

“หายกลัวแล้วทำไมยังร้องไห้อยู่อีกล่ะ หือ.. ความฝันก็เป็นแค่ความฝัน ฝันร้ายผ่านไปแล้วตื่นขึ้นมาลูกก็จะพบแต่เรื่องดี..”

“แปลว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดีเหรอครับ..”

“ใช่จ้ะ..”

“งั้นจริงๆ โทนี่ก็ไม่ได้ดุเหมือนในฝันใช่มั้ยครับ..”

คิ้วเข้มเลิกขึ้น  “ลูกฝันว่ายังไงเหรอ..”

พูดถึงฝันร่างเล็กสะท้านขึ้นอีก

“ผมฝันถึงใครไม่รู้ เขาตีผมเจ็บ ผมร้องเขาก็ยิ่งตีผมแรงๆ.. ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร~~  แต่เสียงเขาเหมือนโทนี่.. ฮึก ๆ.. ผมอยากเจอโทนี่~~  ผมอยากถามว่าเขาตีผมหรือเปล่า..”

คริสสวมกอดร่างเล็กไว้แนบอก ในที่สุดไมเคิลก็ฝันเห็นตัวตนที่แท้จริงของไอ้วายร้ายนั่น... ที่อยากเจอก็เพราะคลางแคลงใจเรื่องนี้หรอกหรือ...

“ไม่ว่าจะใช่เขารึไม่ใช่.. แด๊ดอยากให้ลูกหายกลัวจากทุกๆ สิ่งแล้วเผชิญกับความจริง ถ้าลูกทำได้.. ลูกก็จะไม่ฝันร้ายอีกต่อไป..”

“ผมอยากเผชิญกับความจริง แต่ผมจำอะไรไม่ได้แล้วผมก็มองไม่เห็นด้วย..”

เสียงใสสั่นเครือเหมือนคิดว่าตัวเองเป็นภาระกับเขา คริสรีบปลอบ

“แด๊ดจะรักษาตาลูกให้หาย ลูกจะต้องมองเห็นไมเคิล.. แต่ลูกไม่จำเป็นต้องจำได้ แด๊ดหมายถึงจิตใจต่างหาก.. ขอแค่ใจเราเข้มแข็ง เราก็จะฟันฝ่าความทุกข์ต่างๆ ไปได้..”

“ผมจะเข้มแข็ง ผมไม่อยากฝันร้ายอีก.. ผมอยากจำทุกอย่างได้ ผมอยากอยู่กับคุณ แต่ถ้าผมจำคุณไม่ได้ คุณจะให้ผมอยู่ด้วยตลอดไปมั้ยครับ..”

..โอ! พระเจ้า.. หัวใจคริสพองโตจนคับอกกับถ้อยคำวอนขอของหนุ่มน้อย ความรักที่เขามีให้ไมเคิลนับวันมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น แม้ดวงตาจะมองไม่เห็นและจำความไม่ได้ หรือต้องป่วยด้วยโรคร้ายที่สังคมรังเกียจ เขาก็มิอาจทอดทิ้งหรือรักเจ้าหนูน้อยลง

คริสจูบหน้าผากมนเบาๆ ก่อนเสยผมนุ่มไปมา...

“แน่นอนที่สุดไมเคิล.. ลูกต้องอยู่กับแด๊ดตลอดไป.. เราจะไม่จากกันอีกแล้ว พระเจ้ามอบลูกให้แด๊ดปกป้องดูแล แด๊ดสัญญาด้วยชีวิตว่าจะไม่ยอมให้ใครพรากลูกไปอีก.. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แด๊ดจะอยู่กับลูกจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตแด๊ดเลย.... แล้วลูกล่ะ สัญญากับแด๊ดได้มั้ยว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป..”

ไม่มีคำถามและคำพูดใดๆ ตอบโต้กลับมา คริสก้มลงดูก็พบหนุ่มน้อยเข้าสู่ภวังค์ไปแล้ว เขาขยับร่างเล็กลงนอนและห่มผ้าให้ รู้สึกเจ็บร้าวกับคำพูดของตัวเอง วันสุดท้ายของชีวิตเขาจะมีไมเคิลอยู่เคียงข้างหรือไม่.. ไม่สำคัญ.. เพราะในห้วงคำนึงไมเคิลจะอยู่เคียงข้างจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตเขาจริงๆ



o7


“คริส.. อยู่ไหนครับ เจ้านาย…”

เสียงแฟรงค์ร้องเรียกอยู่ด้านนอก คริสสระผมให้ไมเคิลเสร็จพอดี ระยะหลังไมเคิลดูแลตัวเองได้เกือบทุกเรื่อง ทำธุระในห้องน้ำเองได้ แต่ถ้าไม่ติดธุระอื่นใดคริสจะจัดการอาบน้ำให้ไมเคิลด้วยตัวเอง

“คริสสส..” เสียงเรียกดังใกล้เข้ามา คริสไม่ทันได้ขานรับเจ้าของเสียงก็โผล่หน้าเข้ามาโวย

“ทำไมไม่ตอบสักคำ ปล่อยให้ร้องเรียกอยู่ได้ ทำอะไรกันอยู่พ่อลูก..”

แฟรงค์ตรงเข้ามาทรุดตัวลงข้างอ่างกระเซ้าแหย่หนุ่มน้อย

“อาบน้ำหรือไมเคิล ไหนดูซิ น้องชายโตขึ้นรึยัง”

“อื้อ~~ อย่า!!..”

ไมเคิลส่งเสียงร้อง เบี่ยงตัวหนีมือที่ซุกซนของแฟรงค์ พร้อมกับสะบัดน้ำในอ่างขึ้นมา แฟรงค์หัวเราะชอบใจเพราะคนที่โดนน้ำไม่ใช่เขา    :m4:  คริสตาเขียวใส่เลขาหนุ่มจอมทะเล้น

“อย่าเล่นเป็นเด็กๆ ได้มั้ย แฟรงค์.. เรียกหาทำไม!!  มีธุระอะไร”

แฟรงค์ชักมือขึ้นจากน้ำและขยับตัวนั่งพิงขอบอ่างสีหน้าระรื่นหายไป

((เมื่อไรจะพาไมเคิลไปตรวจเลือดซะที คริส..))

คริสใจหายวาบ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกใจหายทุกครั้งที่แฟรงค์ทวงถามทั้งที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว เขาส่ายหน้าไม่ตอบและฉุดหนุ่มน้อยลุกขึ้นจากอ่าง แฟรงค์ลุกขึ้นตามและถอยไปยืนกอดอกพิงประตูมองดูมหาเศรษฐีบริเจคส์ ผู้ซึ่งไม่เคยทำอะไรให้ใครโดยถือเป็นภาระหน้าที่  ที่ผ่านมามีแต่คนคอยแย่งกันปรนนิบัติ แต่วันนี้.. หนุ่มน้อยลูกครึ่งวัย 13 ปีได้กลายเป็นภาระให้คริสต้องคอยปรนนิบัติดูแล จนแฟรงค์แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าคริสจะทำได้ ภาระหน้าที่ของพ่อซึมซาบเข้าในสายเลือดหนุ่มใหญ่ผู้นี้แล้วจริงๆ

คริสผัดแป้งแต่งตัวให้ไมเคิลเสร็จเรียบร้อยก็พาออกมานั่งพักผ่อน และเปิดรายการทีวีให้หนุ่มน้อยฟัง

“แด๊ดนั่งคุยกับคุณแฟรงค์อยู่แถวนี้นะ”

ไมเคิลพยักหน้ารับรู้ คริสก้มลงหอมแก้มขาวนวลด้วยแป้งหนึ่งฟอดอย่างชื่นใจ เงยหน้าขึ้นก็เจอแฟรงค์จ้องมองอยู่ด้วยสีหน้าอมยิ้ม  คริสเดินเลี่ยงไปทรุดตัวลงบนโซฟานอนตัวโปรด

“ขอเวลาฉันทำใจก่อน แฟรงค์.." คริสตอบคำถามที่ค้างไว้ "ตรวจช้าหน่อยผลที่ได้รับก็ยิ่งแน่นอนกว่า ธุระของนายแค่จะมาถามฉันเรื่องไมเคิลเท่านั้นเหรอ”

“เปล่า.. ผมมีธุระสำคัญกว่านั้นอีก ”

แฟรงค์เดินตามมาทรุดตัวลงนั่งเบียดร่างสูงอย่างจงใจ คริสกระเถิบหนีแต่กลับถูกชายหนุ่มขยับเข้าสวมกอดและหอมแก้มหนึ่งฟอดด้วยความรวดเร็ว

“จะบ้าหรือแฟรงค์ อย่าบอกว่านี่เป็นธุระสำคัญของนายนะ”

แฟรงค์หัวเราะ

“ธุระสำคัญไว้ทีหลัง ตอนนี้ผมอยากมีอะไรกับคุณมากกว่า”

“อย่าล้อเล่นน่ะ แฟรงค์.. <<< นี่ไม่ใช่เวลาและสถานที่ >>> ”

แฟรงค์เอ่ยประโยคสุดท้ายพร้อมกับคริส

((คุณพูดอย่างนี้ทุกครั้ง จะมีเวลาและสถานที่เอื้ออำนวยได้ยังไง ในเมื่อไมเคิลติดคุณแจเหมือนลูกหมีลูกจิงโจ้อย่างนี้ แม้กระทั่งเวลานอนคุณยังต้องเฝ้าอยู่ข้างๆ เกือบเดือนแล้วนะที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้ชิดคุณเลย ไม่รู้หรือว่าผมคิดถึงและต้องการคุณอ่ะ...))

แฟรงค์ใช้ภาษาอังกฤษทุกครั้งที่เรื่องพูดคุยเป็นเรื่องที่ไมเคิลไม่สมควรได้ยิน

((แต่นายยังมีเด็กพวกนั้น เรียกขึ้นมาซี.. ถ้านายต้องการ..))

 o12  ((โธ่เว้ย!.. มันไม่เหมือนกันนะคริส เด็กพวกนั้นผมไม่เคยเรียก เขาขึ้นมากันเอง บางครั้งผมไม่ต้องการด้วยซ้ำ ผมไม่อยากให้พวกเขารู้สึกน้อยใจและเสียใจที่คุณไม่สนใจ…))

((แม้แต่บอยงั้นเหรอ..)) คริสรู้ว่าบอยชอบแฟรงค์มาก แต่แฟรงค์จะชอบตอบหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ

แฟรงค์ไม่ตอบ รู้สึกฉุนและน้อยใจที่คริสไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา

((ช่างเถอะคริส.. ไม่เป็นไรหรอก ความจริงผมเองก็มีฐานะไม่ต่างจากเด็กพวกนั้นเท่าไร เมื่อคุณไม่ต้องการ... ผมก็ไม่สิทธิเสนอหน้ามาขอให้คุณสนองความต้องการให้..))

แฟรงค์ลุกขึ้นยืน

“ผมจะออกไปข้างนอก กลับดึกมากหรืออาจจะไม่กลับเลย กู๊ดไนท์ บ๊อส..”


แฟรงค์เดินคอตกผละจากไป  คริสใจหายกับอาการน้อยใจของชายหนุ่ม จะร้องเรียกก็กลัวไมเคิลตกใจ จึงลุกขึ้นเดินตามไป

“เดี๋ยวก่อนแฟรงค์ จะออกไปไหน..”

แฟรงค์จับลูกบิดประตูค้างไว้ ก่อนหันมาตอบด้วยสีหน้าระรื่น

“ว่าจะโทรชวนจอร์จออกไปนั่งรถเล่น”

“จอร์จเป็นใคร!!… อย่าบอกนะว่ามันคือฝรั่งกุ๊ยคนนั้น”   สีหน้าคริสเฉยแต่น้ำเสียงแสดงความไม่สบอารมณ์

แฟรงค์หัวเราะขำคำพูดของคริส

“คุณเก่งภาษาไทยมากเกินไปแล้วนะคริส รู้หรือว่า ‘ กุ๊ย ’ แปลว่าอะไร”

“แปลว่าคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าไง”

คริสกล่าวน้ำเสียงเย็นชา และโดยที่แฟรงค์คาดไม่ถึง เขาถูกคริสกระชากคอเสื้อเข้าไปใกล้และกระซิบด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ถ้านายนอนกับมันคืนนี้... ตั้งแต่เช้าพรุ่งนี้อย่ามาเข้าใกล้ฉันอีก”

แฟรงค์ลอบยิ้มในใจ ลอยหน้าถามอย่างกวนอารมณ์

“ทำไมจะเข้าใกล้ไม่ได้ ทุกวันนี้ผมก็อยู่ใกล้คุณอยู่แล้ว ไม่เห็นจะ… อุ้บ!!..”

คริสดันร่างเพรียวกระแทกกับประตูห้องและกดที่บริเวณลำคออย่างแรง

“นายกำลังจะบอกฉันว่าเคยมีอะไรกับมันยังงั้นเหรอ”

คริสปล่อยมือออกเพื่อให้อีกฝ่ายตอบคำถาม แฟรงค์ไอค่อกแค่ก รู้สึกโกรธที่ถูกใช้กำลังจึงสวนกลับอย่างท้าทาย

“ใช่!!.. ผมมีอะไรกับจอร์จ ไม่ใช่แค่เคย.. ทุกวันนี้ผมก็ยังมีอะไรกับเขาอยู่ และคืนนี้ผมก็จะมีอะไรกับเขาอีกหลายๆ ครั้ง คุณมีปัญหามั้ยคริส..”

คริสหัวเราะในลำคอหันมองไปที่ไมเคิลแว่บหนึ่ง เห็นหนุ่มน้อยกำลังกดรีโมทเลือกฟังรายการทีวีที่น่าสนใจอยู่ คงไม่ได้ยินหรือรับรู้ว่าเขากำลังมีปัญหากับแฟรงค์

สีหน้าและสายตาท้าทายของแฟรงค์ทำให้คริสระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เขาไม่เคยรู้สึกโกรธใครถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกตัวอีกทีเลขาคู่ใจของเขาก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นโดยไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ..

ร่างสูงยืนกอดอกเอ่ยกระเซ้าด้วยน้ำเสียงเรียบ

“ฉันไม่มีปัญหาหรอกแฟรงค์ คนที่มีปัญหาคือนาย จะออกไปขับรถกินลมกับไอ้หมอนั่นไหวหรือเปล่า”

แฟรงค์เงยหน้าขึ้นสบตากับคริส รู้สึกจุกอย่างแรงจนพูดอะไรไม่ออก งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นึกไม่ถึงว่าคริสจะลงมือกับเขาด้วยความรุนแรงเช่นนี้ ร่างเพรียวพยายามทรงตัวขึ้นยืน กัดฟันพูดน้ำเสียงขาดห้วง..

“ทำไมต้องใช้กำลังด้วย.. พูดกันดีๆ ก็ได้ ว่าแต่ไอ้โทนี่ คุณเองก็เหมือนมัน”   :m15:

คริสใจหายเมื่อเห็นแฟรงค์น้ำตาคลอ รู้สึกตัวว่าทำรุนแรงเกินไปจริงๆ

“ผมขอโทษที่ทำให้คุณโกรธ ผมแค่ล้อเล่น ผมไม่เคยนอนกับจอร์จ ไม่เคยมีอะไรด้วย กลิ่นตัวแรงขนาดนั้นแค่เข้าใกล้ก็แทบจะสลบแล้ว”

แฟรงค์พูดติดตลกก่อนเปิดประตูเดินโซเซออกจากห้อง  คริสยืนอึ้งรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไปเช่นกัน


:m15:


แฟรงค์เดินตัวงอออกจากห้องนอนคริส  โกรธตัวเองที่หาเรื่องเจ็บตัว แต่ก็อดดีใจอยู่ในส่วนลึกไม่ได้เมื่อเห็นคริสไม่สบอารมณ์กับเรื่องที่เขาแต่งขึ้น

“เดี๋ยวก่อน!! แฟรงค์..”

แฟรงค์ชะงัก หายใจไม่ทั่วท้องกับเสียงเรียกไล่หลัง ยืนนิ่งรอรับสถานการณ์ว่าจะถูกดุเรื่องอะไรอีก แต่แล้วร่างสูงที่ก้าวตามเข้ามาประชิดกลับสวมกอดเขาไว้ในวงแขน กลิ่นกายหอมและลมหายใจร้อนสัมผัสรดซอกคอเขาอย่างจงใจ นี่ถ้าเมื่อครู่ไม่ถูกอัดออกมาซะก่อน แฟรงค์คงหวั่นไหวกับสัมผัสที่ได้รับนี้

“ขอโทษแฟรงค์.. ฉันทำรุนแรงกับนาย  เจ็บหรือเปล่า หือ…” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วทำให้อารมณ์ของแฟรงค์เริ่มไม่ปกติ

“ช่างเถอะ.. เจ็บกายเดี๋ยวก็หาย”

คริสจับไหล่แฟรงค์หันมาเผชิญหน้าโดยที่อีกฝ่ายมิได้ขัดขืน จะขืนได้ยังไงในเมื่อยังรู้สึกจุกไม่หาย

“ฉันเสียใจจริงๆ นะแฟรงค์ ฉันจะจ่ายค่าทำขวัญให้นะ นายอยากได้อะไร”

แฟรงค์ซ่อนยิ้มในสีหน้า คริสเป็นเช่นนี้เสมอ.. ชอบลงโทษให้หลาบจำก่อนแล้วค่อยตามปลอบภายหลัง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2008 15:06:57 โดย j-muay »

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #163 เมื่อ15-09-2008 11:02:14 »



“ 3 ล้าน” สองคำสั้นๆ แต่สีหน้าและน้ำเสียงเอาจริง ธุระสำคัญที่แฟรงค์ตั้งใจจะมาคุยกับคริสคือขอยืมเงินไปลงทุนเปิดร้านอาหารกับเพื่อน เขาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองบ้าง ทุกวันนี้อยู่สบายไปวันๆ รอรับเงินเดือนจากคริสจนรู้สึกละอายใจ

คริสยิ้มละไม ดวงตาสีฟ้าคู่สวยต้องแสงไฟวาววับ

“ฉันให้นาย 10 ล้าน”

แฟรงค์เบิกตากว้าง คริสไม่เคยพูดล้อเล่นเรื่องเงินทอง ให้คือให้ ไม่ให้ก็ไม่ต้องเซ้าซี้ ยังไม่ทันเอ่ยถามคริสก็ให้ความกระจ่างเรื่องเงิน 10 ล้าน

“ฉันจะเปิดบัญชีให้นาย 10 ล้าน แต่มีข้อแม้ว่าจะเบิกใช้ได้ปีละไม่เกิน 2 ล้านบาท ระหว่างนั้นนายมีหน้าที่ดูแลไมเคิลตามสัญญาที่เคยให้ไว้ นายจะต้องอยู่กับฉันอย่างน้อย 5 ปี หรือมากกว่านั้นตราบเท่าที่ไมเคิลยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งหมายถึงนายอาจจะได้เงินมากกว่า 10 ล้าน”

แฟรงค์ยืนอึ้งกับแผนการที่คริสเตรียมไว้ล่วงหน้า

“นี่ไม่ใช่ค่าทำขวัญนะคริส คุณกำลังจ้างให้ผมอยู่ดูแลไมเคิลพร้อมกับที่ต้องอยู่กับคุณไปอีกอย่างน้อย 5 หรืออาจจะถึง 10 ปี ด้วยเงินค่าจ้างปีละสองล้านบาท เฉลี่ยเดือนละแสนหก ยังงั้นเหรอ..”

“น้อยไปหรือแฟรงค์.. นายต้องการเท่าไร” คริสเอ่ยถามอย่างใจเย็น ทั้งที่รู้สึกใจหายกับท่าทีไม่ชอบใจของแฟรงค์

“ถ้าเงื่อนไขตามที่คุณเสนอ อย่างน้อยผมควรจะได้ปีละ 10 ล้าน สัญญา 10 ปี 100ล้านบาท คุณไหวหรือเปล่าคริส..” แฟรงค์ย้อนถามพร้อมกับถอยออกห่างไม่ให้อยู่ในระยะประชิดที่จะถูกทำร้ายร่างกายได้อีก

คริสสีหน้าเฉยจนแฟรงค์เดาใจไม่ถูก

“100 ล้านบาท มันไม่น้อยเลยนะแฟรงค์ แต่ถ้านายต้องการฉันก็ยินดีที่จะให้ เงื่อนไขยังเหมือนเดิม เบิกจ่ายเป็นรายปี ระยะแรกฉันจะให้นายเบิกปีละ 5 ล้านก่อนนะ  ถ้าไมเคิลอยู่ไม่ถึง 10 ปี~~ "   น้ำเสียงแหบพร่าด้วยความรู้สึกขมขื่น

“….นายไม่จำเป็นต้องอยู่กับฉันจนครบกำหนดเวลา แต่ฉันจะจ่ายเงินให้นายครบ 100 ล้านภายใน 10 ปี โอเคมั้ย..”

แฟรงค์ยืนตะลึงจนคริสต้องถามย้ำ

“เอ่อ.. โอเค!..”

แฟรงค์ไม่รู้ว่าตัวเองตอบรับอะไรไป รู้แต่ว่าเขาถูกคริสสวมกอดอีกครั้งด้วยความยินดี

“ฉันต้องการนายนะแฟรงค์ นายเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจมากที่สุด อยากให้นายอยู่เคียงข้างฉัน ช่วยฉันดูแลไมเคิล ช่วยปลอบใจเวลาฉันทุกข์ เวลาที่ไมเคิลต้องจากฉันไปฉันอยากให้นายอยู่ข้างๆ ฉันตอนนั้นด้วย”

น้ำเสียงแหบพร่าปนสะอื้นของคริส ทำให้แฟรงค์ไม่อาจล้อเล่นต่อไปได้อีก

“ผมล้อเล่นนะคริส  ผมไม่ต้องการเงินของคุณหรอก ผมยินดีอยู่เคียงข้างคุณ ช่วยคุณดูแลไมเคิล ผมรักคุณ ผมไม่ได้อยู่กับคุณเพราะเงินนะคริส..”

คริสยิ้มให้แฟรงค์ด้วยความรู้สึกตื้นตัน

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายล้อเล่น แฟรงค์.. แต่ถ้านายกล้าขอฉันก็กล้าให้ ตราบใดที่นายยังอยู่เคียงข้างและซื่อสัตย์กับฉัน..”

คริสเน้นประโยคสุดท้าย ทำเอาแฟรงค์สะดุ้งและยิ้มแหยๆ

“ผมไม่เคยมีอะไรกับจอร์จจริงๆ นะ สาบานได้ ผมไม่ได้ออกไปแร่ดกับใครที่ไหนตั้งนานแล้วคุณก็รู้..”

คริสหัวเราะ    “ฉันรู้… ตั้งแต่นายยอมเป็นของฉันอีกครั้ง นายไม่เคยออกไปแร่ดที่ไหนจริงๆ”

แฟรงค์หน้าแดงไม่ใช่เพราะถูกว่าแร่ด แต่เพราะรู้สึกเขินกับประโยคแรก รีบผละออกโวยวายกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง

 o12  “รู้แล้วคุณอัดผมทำไม ให้ผมชกคุณกลับคืนซะดีๆ ”   

แฟรงค์เงื้อหมัดขึ้น แต่ด้วยรูปร่างที่บางกว่าจึงถูกคริสรวบตัวกลับเข้ามาแนบชิด เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหู

“อยากจะชกกลับหรืออยากให้ฉันปลอบขวัญให้ ถ้าอยากให้ปลอบขวัญ คืนนี้รอไมเคิลหลับแล้วฉันจะลงไปหานายที่ห้อง แต่ถ้าอยากชกก็ชกตอนนี้เลย”

แฟรงค์ไม่ตอบ มือที่กำหมัดคลายออกเปลี่ยนเป็นโอบลำคอร่างสูงไว้ แก้เขินด้วยคำถาม

“มาได้แน่เหรอ.. ถ้าไมเคิลตื่นขึ้นมาเรียกหาคุณไม่เจอล่ะ”

“ถ้าไม่ฝันร้ายเค้าก็จะไม่เรียก ถ้าฝันก็มักจะฝันกลางดึก ทันทีที่เค้าหลับฉันจะรีบลงไปหานายเลย สามชั่วโมงไม่พอหรือแฟรงค์ หือ… ฉันมัดจำไว้ก่อนก็ได้นะ ”

คริส บริเจคส์ ไม่พูดเปล่า ริมฝีปากร้อนไซ้ซอกคอหนุ่มแฟรงค์ไปด้วย ไออุ่นจากลมหายใจและร่างกายที่แนบชิดกันอยู่ขณะนี้ทำให้แฟรงค์แอบภาวนาให้ไมเคิลหลับเร็วๆ

“คุณคริส...”

คริสและแฟรงค์สะดุ้งรีบผละออกจากกัน  คริสหันขวับไปทางเสียงเรียก  ไมเคิลยืนอยู่หน้าประตู  ดวงตาสะลืมสะลือเหมือนง่วงนอน

“แด๊ดอยู่นี่ไมเคิล.. หยุดรอตรงนั้นอย่าเดินมา”

:เฮ้อ:  แฟรงค์ลอบถอนใจ ...รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลักลอบมีอะไรกับหนุ่มใหญ่ที่แอบหนีลูกชายมาคบกับเขา..

คริสหันมายิ้มให้

“ไมเคิลคงง่วงอยากจะนอนแล้ว ฉันจะพาเค้าเข้านอนก่อน เดี๋ยวเจอกันนะ แฟรงค์.. อย่าหลับซะก่อนล่ะ..”

แฟรงค์พยักหน้ารับด้วยอาการเขิน คริสเดินกลับไปหาหนุ่มน้อยที่ยืนเกาะประตูรออยู่และจูงกลับเข้าห้อง แฟรงค์รู้สึกโกรธตัวเอง คริสเตรียมแผนให้เขาอยู่ช่วยดูแลไมเคิลเพราะคิดว่าเจ้าหนูต้องติดเชื้อเอชไอวีอย่างแน่นอน ความรู้สึกของคริสขณะนี้ทุกข์ร้อนและขมขื่นใจมากมายพอแล้ว เขายังหาเรื่องแกล้งให้คริสเสียความรู้สึกและเสียใจกับความไม่มีน้ำใจของเขาอีก    แบบนี้แล้วใครกันแน่ที่สมควรจะเป็นฝ่ายถูกปลอบขวัญ…

.. ผมต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายปลอบขวัญคุณ คริส..



:m13:



:a11:   วันนี้ยาวสะใจเลยใช่มั้ย 


ต่อพรุ่งนี้ >>>>>>>>>>


TBC >>>>>>

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #164 เมื่อ15-09-2008 11:21:39 »

ต่อวันนี้เลยได้มิฮะ นะนะนะนะนะ :m13: :oni3: :m13:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #165 เมื่อ15-09-2008 11:25:16 »

ได้ฮะปะกัวันพรุ่งเน้อ :laugh:เป็นกำลังใจให้นะครับผม :L2:

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #166 เมื่อ15-09-2008 14:54:16 »

คริสกับแฟรงค์

แอบหวาน

 :o8:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #167 เมื่อ15-09-2008 15:00:49 »

วี้ดดดดดด คริสกับแฟรงค์ หวานซ้า  :oni1:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #168 เมื่อ15-09-2008 15:20:35 »

เอาใขช่วยไมเิคิลครับ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #169 เมื่อ15-09-2008 16:16:41 »

คริส แฟรงค์ ไมเคิล
เหมือน พ่อ แม่ ลูกชาย น่ารักจังเลย
เรื่องมันเศร้า แต่ยิ้มหน่อยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
« ตอบ #169 เมื่อ: 15-09-2008 16:16:41 »





numa6

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #170 เมื่อ15-09-2008 19:19:21 »

เห้ออออ

อิจฉาไมเคิลจังคับ  :o8:

เเต่ เรื่องมันเศร้า :sad2:

เพราะไอ้โทนี่คนเดี๊ยวววววววว เเกกกกกกก :เตะ1: :เตะ1: :m31: :m31: :angry2: :angry2:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #171 เมื่อ15-09-2008 21:00:04 »

เมื่อไหร่จะพาไมเคิลไปตรวจ

สงสารไมเคิล

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #172 เมื่อ15-09-2008 21:18:19 »

แหม .................แฟรงค์ก็มีบทน่ารักเหมือนกันน่ะเนี่ย

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #173 เมื่อ15-09-2008 23:05:26 »

เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #174 เมื่อ16-09-2008 01:25:26 »

 :o12: :o12:

โหๆๆๆ

อ่านหน้าที่แล้ว เศร้าอย่างแรงเลยอ่ะ....

 :m15:

VitamiN

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #175 เมื่อ16-09-2008 02:00:57 »

นิยายโศรกก ระทม :sad2:(อ่านรวดเดียว= =)

เอ..... ทำไมนะ เศร้ามากๆ 
แต่ไม่ร้องไห้  :m23:(ปกติต้องใช้ตุ่มรองน้ำตา)

อาจเป็นเพราะ
ยังมีหวัง กับเรื่องนี้
ว่าจะไม่โหดร้ายกับชีวิตไมเคิลไปมากกว่านี้ก็ได้นะ  อิอิ:o12:

แล้วเมื่อไหร่แด๊ดดี้คริสจะพาลูกไมเคิลไปตรวจเลือดซักทีนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #176 เมื่อ16-09-2008 08:50:15 »

เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบมากมาย :m1:


ไมเคิลสู้ๆ :L2:

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #177 เมื่อ16-09-2008 09:55:39 »

 o7

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #178 เมื่อ16-09-2008 10:34:51 »

[ 19 ]
 
          
 

     ไมเคิลผุดลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดหน้าตึก

      “คุณคริส..   คุณคริสกลับมา..”

      “ไม่ใช่คุณคริสหรอกไมค์  น้าจอนนี่ต่างหาก  สงสัยมาเปลี่ยนรถมั้ง”   แจ๊คพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากแค้ตตาล็อกรถ  

ตั้งแต่ไมเคิลกลับมาอยู่กับคริส สมาชิกหนุ่มน้อยทั้งสี่เพิ่งได้มีโอกาสขึ้นมาบนที่พักส่วนตัวของคริสขณะที่คริสไม่อยู่ ก่อนหน้านั้นทุกครั้งที่ขึ้นมาบนนี้  นั่นคือเวลาที่คุณคริสต้องการให้ปรนนิบัตรไม่ใช่เวลาที่จะมาชมสมบัติหรือสิ่งของในห้อง

      แจ๊คกำลังให้ความสนใจกับแค้ตตาล็อกรถสปอร์ตหลายเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของคริส  ไม่เข้าใจว่าคุณคริสเอาแคตตาล็อกรถมาดูทำไม หรือคุณคริสจะซื้อ ?  ซื้อให้ใครกันนะ ?  ของคุณแฟรงค์ก็ยังใหม่อยู่  หรือว่า…. แจ๊ครู้สึกตื่นเต้นเมื่อหวนนึกถึงคำพูดของคุณคริสเมื่อปีกลาย…..

คุณคริสเคยสัญญากับพวกเขาทุกคนว่าหากตั้งใจเรียนและทำตัวดีๆ จะมีรางวัลให้คนละหนึ่งอย่าง แจ๊คเป็นคนแรกที่บอกรางวัลที่ตัวเองต้องการกับคุณคริสต่อหน้าทุกคน ทุกคนอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึงเมื่อแจ๊คบอกว่าอยากได้รถสปอร์ต   แม้แต่คุณแฟรงค์ยังหัวเราะและบอกกับแจ๊คว่า  กว่าเขาจะได้รถสปอตปอร์เช่คันนี้มาต้องอ้อนขอคุณคริสอยู่หลายปี  แจ๊คคอตกเมื่อคุณคริสนิ่งเฉย รางวัลที่แจ๊คขอคงจะสูงมากเกินไปจริงๆ ทุกคนถึงนั่งอึ้งกันไปหมด  แต่แล้วคำพูดของคุณคริสก็ทำให้แจ๊คและสมาชิกทุกคนตื่นเต้นดีใจ  มีเพียงคุณแฟรงค์คนเดียวที่มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

      “ถ้าแจ๊คได้รถหนึ่งคัน ทุกคนก็มีสิทธิที่จะได้เท่ากับแจ๊ค  แต่ถ้าบ้านนี้ต้องมีรถเพิ่มขึ้นอีก 4 คัน ก็คงไม่มีที่จอด เดือดร้อนจอนนี่ด้วย  คนอื่นค่อยๆ คิดก็ได้ว่าอยากได้อะไร ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหรอก  สำหรับแจ๊คอายุเธอยังไม่ครบที่จะทำใบขับขี่ได้เลย  รอให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยมาดูว่าเธอยังต้องการมันอยู่หรือเปล่า”

แจ๊คใจเต้นแรงด้วยความยินดีเมื่อลองคิดเล่นๆ ว่าคุณคริสอาจจะซื้อรถสปอร์ตให้ตน  เนื่องจากแจ๊คจะมีอายุครบ 18 ปี ในอีกสองเดือนข้างหน้าแล้ว

“ว้าววว~ ~ ”

      แจ๊คร้องครางด้วยความตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นรูปรถสปอร์ตสวยถูกใจหลายคัน แต่เมื่อเห็นราคาแล้วก็คอตก  คุณคริสคงไม่ยอมเสียเงินมากขนาดนี้เพื่อซื้อรถให้เขาหรอก   ถ้าเป็นคุณแฟรงค์หรือไมเคิลก็ว่าไปอย่าง

      “ไมค์.. มาดูรถคันนี้ซี  นายต้องชอบแน่ถ้านายเห็น เอ่อ..”  

      แจ๊คใจหายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไมเคิลมองไม่เห็น รีบหันไปขอโทษ

      “ขอโทษนะไมค์ ฉันลืม.. อ้าว!!.. ไมค์!!… ไมเคิล!!….”

      แจ๊ควางแคตตาล็อกลงเมื่อหันมาไม่พบไมเคิล  ทีวียังเปิดอยู่แต่หนุ่มน้อยไม่ได้นั่งอยู่หน้าทีวีทั้งที่เมื่อครู่ยังอยู่  

      “ไมเคิล!!..  อยู่ไหนอ่ะ  ไมเคิล!!..”

      แจ๊คใจหายวาบ  ...จริงซี!!.. เมื่อสักครู่ไมเคิลถามหาคุณคริสนี่นา..  หรือว่า..  เร็วเท่าใจคิด ร่างเพรียวของหนุ่มน้อยวิ่งไปที่ประตูทันที

      แจ๊ควิ่งตามออกมาพบไมเคิลกำลังจะก้าวลงบันได   เด็กหนุ่มตาเหลือกด้วยความตกใจเพราะไม่เคยปล่อยให้ไมเคิลขึ้นลงบันไดเอง จะจูงมือหรือคอยระวังหลังให้ตลอด  ไม่มีใครรู้ว่าไมเคิลสามารถขึ้นลงบันไดเองได้นอกจากแฟรงค์  เพราะวันไหนที่เป็นเวรแฟรงค์ดูแล  เขาจะปล่อยให้หนุ่มน้อยขึ้นลงบันไดเองโดยคอยระวังอยู่ห่างๆ

:laugh:     “ไมเคิล!!.. หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!!!!!..”

      เสียงร้องของแจ๊คดังลั่นจนไมเคิลสะดุ้งตกใจหันขวับไปตามเสียง  จังหวะเดียวกับที่กำลังก้าวเท้าลงบันไดทำให้หนุ่มน้อยกะจังหวะก้าวพลาดเสียหลักไถลลง  หากสายตามองเห็นคงคว้าราวบันไดไว้ได้ทัน  แต่เมื่อมองไม่เห็น….  

...ภาพเจ้าหนูไมค์กลิ้งตกจากบันได ทำให้แจ๊คยืนช็อค!!!!...   o2  o2

      

F a t h e r h o o d  …

 

แฟรงค์พยายามติดต่อคริสแต่โทรเท่าไรก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ  เขาไม่สามารถเบิกเงิน 3 ล้านได้ เพียงเพราะลายเซ็นต์ของคริสเพี้ยนไปเล็กน้อย  แฟรงค์รู้ว่าเขาถูกผู้จัดการแบงค์หนุ่มโฮโมกลั่นแกล้งเพราะอิจฉาเขาซึ่งอยู่ในฐานะคู่ขาของคริส   เขาเกือบวางมวยกับหมอนั่น   ไม่ใช่เพราะเบิกเงินไม่ได้แต่เพราะคำพูดเยาะเย้ยและยั่วโทสะ

“เสียใจด้วยนะครับคุณแฟรงค์.. เราต้องรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า ต่อให้นอนเตียงเดียวกัน  ถ้าลายเซ็นมีปัญหาเราก็ให้เบิกไม่ได้”

 

RRRR~~~

      เสียงสัญญาณเรียกเข้าดังแทรกขึ้นทันทีที่แฟรงค์ตัดสัญญาณโทรออก แฟรงค์รีบกดรับ  ยังไม่ทันเอ่ยทักปลายสายก็ส่งเสียงละล่ำละลักมา

 laugh:   “คุณแฟรงค์!!..  ช่วยด้วยฮะ  ไมเคิลตกบันได  ผม.. ผมไม่รู้ว่าไมค์เดินออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไร  ผมวิ่งตามออกมาเรียกไว้แต่ไม่ทัน…  เขาตกจากบันไดตอนนี้หมดสติไปแล้ว    :serius2:  คุณแฟรงค์ช่วยด้วย  ทำไงดี  ฮึออ~~~ ”

      แฟรงค์ใจหายวาบ  

      ...ให้ตายเถอะ!   ทำไมเคราะห์กรรมของเจ้าหนูไม่จบสิ้นซะที  รู้สึกโกรธแจ๊คที่ละเลยไมเคิลจนเกิดเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่เวลาจะดุว่า เพราะขณะนี้หนุ่มแจ๊คเองก็ตกใจกลัวจนร้องไห้แล้ว

      “โทรหาหมอบ๊อบให้ส่งรถพยาบาลมารับด่วน แล้วดูซิว่าไมเคิลมีเลือดออกตรงไหนหรือเปล่า”

      เสียงแจ๊คบอกพ่อบ้านลูให้โทรหาหมอบ๊อบโดยด่วน นับว่ายังมีสติพอใช้ แม้ว่าน้ำเสียงจะตื่นตระหนกก็ตาม

      “ไมค์มีเลือดออกที่คิ้วขวาฮะ  ทำยังไงดีคุณแฟรงค์.. ผมไม่กล้าขยับตัวไมเคิล ผมไม่รู้ว่าไมเคิลกระดูกหักตรงไหนบ้างหรือเปล่า..”

      “มีเลือดออกที่อื่นอีกไหม”  แฟรงค์พยายามระงับอารมณ์ตัวเองให้เย็น ทั้งที่รู้สึกร้อนใจไม่น้อยเช่นกัน

      “ไม่มีฮะ”

      “โอเค!  เช็คชีพจรซิว่าปกติหรือเปล่า”

      “เช็คตรงไหนฮะ”

o12     “โธ่เว้ย! แจ๊ค.. เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมไม่รู้ ตรงไหนก็ได้ที่ทำให้นายรู้ว่าไมเคิลยังหายใจปกติอยู่”

      แจ๊คเงียบเสียงไปนานจนแฟรงค์ร้อนใจ  สัญญาณไฟเขียวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองที่สี่แยกหน้าทำให้แฟรงค์ต้องเหยียบคันเร่งแซงซ้ายรถคันหน้า 3 คัน ที่กำลังชะลอความเร็วลง  BENZE S 600 COUPE  ของเจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์ฝ่าไฟแดงไปอย่างเฉียดฉิว  ตำรวจจราจรยืนมองตาปริบๆ

      “คุณแฟรงค์..  ไมเคิลยังหายใจอยู่ฮะ”

      แฟรงค์ส่ายหน้า ถอนใจด้วยความระอา  เจ้าตัวแสบพวกนี้ไม่มีใครได้เรื่องสักคน

      “ฟังนะแจ๊ค ถ้าไมเคิลไม่หายใจ นายคงรู้นะว่าควรจะจัดการกับตัวเองยังไง  ฉันจะไปถึงในอีก 5 นาที  นั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้นอย่าไปไหน!!…”

      แฟรงค์โทรหาบ๊อบด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่อาจไว้ใจใครในบ้านได้โดยเฉพาะเรื่องสำคัญและร้ายแรงขนาดนี้  วางสายบ๊อบ..  แฟรงค์กดเข้ามือถือคริสอีกครั้งก็ยังไม่สามารถติดต่อได้  รู้สึกโล่งอกเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะรายงานคริสยังไง  เขาควรได้เห็นอาการไมเคิลกับตาก่อนจะดีกว่า



F a t h e r h o o d  …



      ไม่เคยมีช่วงใดในชีวิตที่คริสจะรู้สึกทุกข์ร้อนใจมากเท่านี้ ความรู้สึกขณะนี้  คือความทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของหนุ่มน้อยที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง

      คริสตกใจแทบช็อคเมื่อแฟรงค์โทรรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น  เขาคงไม่ทุกข์และกังวลใจมากเท่านี้หากไมเคิลมีร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาพปกติเหมือนเด็กชายทั่วๆ ไป  เคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับไมเคิลทำให้คริสรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย

      “อย่ากังวลเลยคริส ไมเคิลไม่เป็นอะไรมาก  คิ้วแตก แขนซ้ายหักและฟกช้ำตามตัวนิดหน่อยเท่านั้น”

      คริสแค่นหัวเราะ

      “สำหรับนายไม่มากหรอกแฟรงค์  แต่ถ้านายเป็นฉันจะไม่พูดอย่างนี้”

      แฟรงค์ลอบถอนใจ คริสเปลี่ยนไปมากจากที่เคยเป็นคนอารมณ์เย็น มองโลกในแง่ดีเสมอ  ตั้งแต่อยู่ในฐานะพ่อบุญธรรมของไมเคิล  คริสมีแต่เรื่องทุกข์ใจ วิตกกังวล โดยเฉพาะเวลาที่เห็นหนุ่มน้อยเจ็บ

      “นายว่าไม่เป็นอะไรมาก  ทำไมป่านนี้ยังไม่รู้สึกตัว  ไมเคิลหลับไป 10 ชั่วโมงกว่าแล้วนะแฟรงค์”

      “ศีรษะไมเคิลกระแทกกับขอบบันได เขาอาจจะหลับนานหน่อย แต่รับรองว่าไม่เป็นอะไรมาก”

      “แน่ใจหรือแฟรงค์.. เขาจะจำฉันได้หรือเปล่า”  ดวงตาสีฟ้าคู่สวยหม่นหมองด้วยความทุกข์  แฟรงค์ขยับเข้าไปโอบไหล่ปลอบใจ

      “จำได้แน่นอนคริส สาบานได้ว่าฉันไม่โกหก บ๊อบบอกฉันเองว่าได้ยินไมเคิลเพ้อหานายตอนเย็บแผลให้”

      แฟรงค์ยืนยันคำพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้คริสสบายใจ หากแต่ในใจแอบภาวนาขออย่าให้ไมเคิลมีปัญหาเกี่ยวกับความจำอีกเลย  เขาไม่อยากเห็นคริสอยู่ในห้วงของความทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

F a t h e r h o o d  …



      ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเจ็บปวดแทบขาดใจทุกครั้งที่แส้กระทบแผ่นหลัง  แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้เพราะมือและเท้าถูกมัดติดกับขอบเตียง  

          “ได้โปรดอย่าทำผมเลย โทนี่.. ผมเจ็บ...ฮือ..”  ไมเคิลพยายามอ้อนวอนขอร้อง  แม้รู้ว่าไม่มีความหวังที่ชายผู้โหดร้ายและอยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงคนนี้จะยอมใจอ่อน

      “ฮะ ฮะ ฮะ ”  เสียงหัวเราะด้วยความสะใจกับความเจ็บปวดที่เด็กชายได้รับ

      “นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ ไมเคิล..  ฉันต้องการให้แกเจ็บปวด  วิญญาณแม่แกจะได้ไม่เป็นสุข..”

      ไมค์สะอื้นเมื่อนึกถึงแม่ แม่จากเขาไปอยู่ในที่ที่สบายแล้ว ไมค์ไม่อยากโกรธและเกลียดแม่หรอก แม่คงไม่ได้อยากมีสามีหลายคน และคงไม่ได้ต้องการให้สามีของแม่มาทำร้ายลูกตัวเองแบบนี้  คนที่ไมค์ควรจะเกลียดชังคือชายใจยักษ์คนนี้ต่างหาก

      “คนใจร้าย  แม่ทำอะไรให้คุณ.. ถึงต้องโกรธและเกลียดแม่ผมด้วย..”

      ชายใจยักษ์ฟาดแส้ลงที่แผ่นหลังเด็กชายอีกครั้งเมื่อเจอคำถามแทงใจ  ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก  ส่งเสียงร้องให้ช่วยด้วยความลืมตัว

      “ฮือๆ …. แด๊ดดี้.. ช่วยด้วย…ฮือ.. โอ้ยยยย~~~”  

      ไมเคิลส่งเสียงร้องโหยหวน ครั้งนี้ไม่ใช่ความเจ็บปวดจากแส้แต่เป็นความร้อนจากน้ำตาเทียนหยดลงที่แผ่นหลัง

      “อย่าเรียกแด๊ดดี้.. ให้ฉันได้ยินนะไอ้หนู  ไม่ยังงั้นแกจะทั้งเจ็บทั้งร้อนแบบนี้”

      โทนี่กัดฟันพูดด้วยความสะใจ ความโกรธแค้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อได้ยินหนุ่มน้อยร้องเรียกแด๊ดดี้ให้ช่วย เพราะรู้ดีว่าแด๊ดดี้ที่หนุ่มน้อยเรียกหาไม่ใช่เขาแต่คือคริส บริเจคส์   วิศวกรหนุ่มใหญ่ผู้มั่งคั่งแม้จะมีพฤติกรรมรักร่วมเพศแต่ก็มีเสน่ห์และสง่างามจนเขาเองยังรู้สึกอิจฉา และเหตุที่ทำให้เขารู้สึกโกรธไมเคิลมากขึ้นเพราะเจ้าหนูไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ…

      เสียงร้องโหยหวนของหนุ่มน้อยทำให้อารมณ์ของโทนี่รุนแรงมากขึ้น

      “โอ๊ยยย~~~….. ฮือๆ โทนี่  ผมเจ็บ ผมกลัวแล้ว… ฮือๆ…”  ไมค์สะอื้นไห้  ไม่กล้าส่งเสียงเรียกหาแด๊ดคริสอีก

      “กลัวก็ดี.. จำไว้นะ!!.. อย่าเรียกไอ้หมอนั่นเป็นพ่อให้ฉันได้ยินอีก  คนอย่างมันเป็นพ่อใครไม่ได้หรอก  ทำตัวเป็นสุลต่านเปิดฮาเร็มเลี้ยงเด็กหนุ่มๆ  มีพ่อวิปริตแบบนั้นสักวันจะต้องถูกมันกิน ฉันใจดีขนาดไหนแล้วที่รับทั้งแม่และลูกมาอยู่ด้วย  แต่แม่แกกลับหลอกลวงปิดบังฉัน   เพราะฉะนั้นแกต้องรับโทษแทนแม่แก  ไอ้หนู...”

      ชายใจยักษ์แสยะยิ้มอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นแผ่นหลังบอบบางของเด็กชายเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยแส้  เลือดไหลซิบทั่วแผ่นหลัง

          ไมเคิลใจหายวาบเมื่อเห็นพ่อเลี้ยงใจยักษ์หยิบมีดพกขึ้นมา ความกลัวแล่นจับหัวใจแต่ในส่วนลึกก็รู้สึกเหมือนกำลังได้รับการปลดปล่อย... ไมค์หลับตานอนนิ่งแทนที่จะอ้อนวอนขอร้องชีวิตจากคนใจยักษ์  กลับส่งกระแสจิตอ้อนวอนขอร้องสวรรค์

      ...ผมอยากไปหาแด๊ดดี้คริส..   ช่วยพาผมไปหาแด๊ดด้วย..

          .........

          .........

      ไมเคิลนอนคว่ำหน้าลืมตานิ่งอยู่ในความมืด  เจ็บระบมและปวดแสบปวดร้อนที่แผ่นหลัง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้วที่ไมค์ได้รับโทษจากพ่อเลี้ยงใจยักษ์ น้ำตาหนุ่มน้อยไหลพรากเมื่อนึกถึงใบหน้าของแด๊ดดี้คริส..  ผู้มีแต่ความเอื้ออารีและอบอุ่นเวลาได้อยู่ใกล้

      “แด๊ดดี้..  แด๊ด.. ผมเจ็บ ฮือ ๆ … เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”

ไมเคิลพึมพำเรียกหาคริสในลำคอ ไม่กล้าส่งเสียงดัง กลัวโทนี่ได้ยินแล้วเขาจะต้องเจ็บตัวอีก

 

F a t h e r h o o d  …

 

      ไมเคิลลืมตาขึ้นอีกครั้งพบตัวเองนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่ที่ที่ถูกกังขังและทรมานจากโทนี่  แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเขาก็ยังรู้สึกเจ็บ.. และสำนึกแรกที่ไมเคิลนึกถึงคือแด๊ดดี้คริส..

      “แด๊ดดี้..  แด๊ดดี้..”

      คริสสะดุ้งขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ รีบลุกขึ้นถลาไปที่เตียงพบหนุ่มน้อยสะอื้นไห้ทั้งที่ยังหลับ  แม้จะเป็นแค่เสียงพึมพำในลำคอแต่คริสได้ยินและรู้ว่าเป็นเสียงเรียกหาเขา

      “แด๊ดดี้.. แด๊ด.. ฮือ~~ ”

      คริสสวมกอดหนุ่มน้อยด้วยความยินดี  เสียงทุ้มกระซิบปลอบอ่อนโยน

      “แด๊ดอยู่นี่ ไมเคิล..  ไม่ต้องกลัวนะ  ลูกไม่เป็นไรแล้ว”

      หนุ่มน้อยรู้สึกตัวลืมตาขึ้น  น้ำใสเอ่อคลอหยดเป็นทาง

      “แด๊ดดี้คริสจริงเหรอ…”

      คริสจับมือหนุ่มน้อยกุมไว้และจูบเบาๆ ดีใจที่ไมเคิลยังจำเขาได้

      “จริงซีลูก..  รู้มั้ยว่าแด๊ดเป็นห่วงลูกแค่ไหน  กลัวลูกตื่นขึ้นมาจำแด๊ดไม่ได้อีก”

      คริสกระซิบปลอบและซับน้ำตาให้  สีหน้าและแววตาของไมเคิลฉายแววยินดีแต่แฝงไว้ด้วยความตื่นกลัว  แขนข้างซ้ายถูกเข้าเฝือกไว้แต่หนุ่มน้อยพยายามยกขึ้นจะสวมกอดเขา

      “แด๊ดดี้จริงๆ  ผมคิดถึงแด๊ดทุกวันทุกคืนเลย  ผมเจ็บ...ฮะ”

      คริสใจหายเมื่อได้ยินไมเคิลบอกเจ็บ สงสารหนุ่มน้อยจับใจ  

      “เจ็บแขนหรือไมเคิล..  อดทนนะ  อีกไม่กี่วันก็หาย”

      “ผมเปล่าเจ็บแขน  ผมเจ็บที่หลัง..”

      “เจ็บที่หลังตรงไหนหรือไมเคิล  เจ็บมากมั้ย”  

คริสตกใจเมื่อรู้ว่าไมเคิลมีอาการเจ็บที่หลัง ขยับจะกดปุ่มสัญญาณเรียกพยาบาลก็ต้องชะงักกับคำบอกเล่าที่พรั่งพรูออกมา   รู้สึกว่ามันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนตกบันได  

      “ผมปวดแผลที่หลัง  ผมขยับตัวไม่ได้  ผมคิดถึงแด๊ดทุกวันทุกคืนเลย  ผมอยากโทรหาแต่ผมออกจากห้องไม่ได้”

      ขณะเล่าสีหน้าหนุ่มน้อยตื่นกลัวและเจ็บปวดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์  หัวใจคริสเต้นแรงเมื่อรู้สึกว่าความทรงจำของไมเคิลกำลังกลับคืนมา

      “ทำไมถึงออกจากห้องไม่ได้ครับ  หือ..”

      “ผมถูกขังในห้องออกไปไหนไม่ได้  โทนี่ตีผมทุกวัน  ผมถูกไฟลวกที่หลังด้วย ผมร้อน~~  ผมเจ็บมาก~~   แด๊ดดี้ผมเจ็บ~~”  

หนุ่มน้อยสะอื้นด้วยความกลัว   เหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นและผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง

      ...โอ! พระเจ้า คริสบอกไม่ถูกว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร  มันเป็นความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน  สุขใจและยินดีเมื่อรู้ว่าไมเคิลจำความทั้งหมดได้แล้ว  พร้อมกับที่รู้สึกเจ็บจนหัวใจแทบจะสลายเช่นกันเมื่อได้รับรู้ถึงความทุกข์และความเจ็บปวดที่หนุ่มน้อยได้รับ

      คริสช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน  และกระซิบปลอบอย่างอ่อนโยน

      “ลูกไม่เป็นไรแล้วไมเคิล แด๊ดสัญญา.. จะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องหรือทำร้ายลูกอีก เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่จากกันอีกแล้ว  ไม่ต้องกลัวนะ ไมเคิล..”

      หลังจากปลอบโยนจนหนุ่มน้อยหายกลัวแล้ว  คริสค่อยๆ เลียบเคียงถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นกับลินดา  คำบอกเล่าของไมเคิลตรงกับที่โทนี่เล่าว่าลินดาประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต  และเรื่องที่ไมเคิลถูกทำร้ายร่างกายก็เป็นเรื่องจริงทุกเรื่อง  แม้เขาจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาแล้วจากคำบอกเล่าของโทนี่  หากแต่คำบอกเล่าที่ออกจากปากไมเคิลเอง ก็ยังทำให้หัวใจของเขาแทบจะสลายตามไป

      “โทนี่ไม่ยอมให้ผมออกไปไหน  ไม่ยอมให้โทรหาแด๊ดด้วย  ยิ่งพอแม่ตายเขายิ่งเกลียดผม  เขาบอกว่าแม่หลอกเขา  ผมต้องชดใช้แทนแม่~~   เขาขังผมในห้อง เอาแส้เฆี่ยนผม  ผมเจ็บมาก  ผมหลับฝันถึงแด๊ดทุกคืน~~อยากกลับมาอยู่กับแด๊ด~~ ”  

หนุ่มน้อยบอกเล่าน้ำเสียงสั่นเครือ  คริสรวบรวมกำลังใจกระซิบคำถามสำคัญด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

      “เขาบอกรึเปล่าว่าโกรธแม่เรื่องอะไร นอกจากเฆี่ยนตีแล้วเขาทำร้ายลูกอย่างอื่นอีกมั้ย”

          “เขาบอกแต่ว่าแม่หลอก  ผมต้องชดใช้  ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร   เขาเอาเทียนหยดหลังผมด้วย  แล้วเขาก็เอามีดขึ้นมา ผมคิดว่าผมต้องตายไม่มีโอกาสได้เจอแด๊ดอีกแล้ว..”

      น้ำตาไหลนองแก้มเนียนขณะบอกเล่าเรื่องที่น่ากลัว  ขณะที่ดวงตาสีฟ้าคู่งามของคริสเอ่อรื้นด้วยน้ำตา

          “เขารังแกลูกหรือเปล่า ไมเคิล..  แด๊ดหมายถึงเขาทำร้ายลูกเหมือนตอนที่ลูกถูกทำร้ายที่เรือนคนรับใช้หรือเปล่า..”

      คริสกลั้นใจฟังคำตอบที่จะได้รับ ไมเคิลนิ่วหน้าเหมือนกำลังนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เขาถามถึงก่อนส่ายหน้าและให้คำตอบว่าจำไม่ได้..  

          คริสน้ำตาไหลพรากอาบแก้มด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและโกรธแค้น สงสารหนุ่มน้อยที่ประสบชะตากรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไมเคิลไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ทำไมตัวเองต้องได้รับโทษ คำบอกเล่าของหนุ่มน้อยยืนยันความโหดร้ายใจยักษ์ของไอ้สารเลวโทนี่ ความหวังลางเลือนที่ไมเคิลอาจไม่เป็นโรคร้าย... หมอนั่นอาจพูดโกหกเรื่องการแพร่เชื้อให้เด็ก กลับกลายเป็นเรื่องที่เขาหลอกตัวเอง คำตอบที่ได้รับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ ไมเคิลจำไม่ได้  ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ถูกกระทำ และไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน  มันก็ไม่ได้ทำให้หัวใจที่แหลกสลายของเขากลับคืนเป็นปกติได้  

      คริสพาลโกรธตัวเองที่ปล่อยให้ไมเคิลกลับไปกับลินดา แทนที่จะใช้เงินอย่างที่แฟรงค์เสนอ ถึงวันนี้เงินทองมากมายของเขาไม่สามารถช่วยให้หนุ่มน้อยกลับเป็นปกติเหมือนเดิมได้แล้ว คริสไม่รู้ว่าตัวเองนิ่งเงียบไปนานแค่ไหน  รู้สึกตัวอีกทีเมื่อถูกมือเล็กเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้มเขา

      “แด๊ดอย่าร้องไห้ซี  ผมไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ..”

      คริสจับมือหนุ่มน้อยกุมไว้และจูบเบาๆ ไมเคิลคงเห็นเขานิ่งเงียบไปนานและรู้ว่าเขากำลังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      “ใช่.. ลูกไม่เป็นไรแล้วไมเคิล..  ที่ลูกได้รับมันมากเกินพอแล้ว  แด๊ดจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องทำร้ายลูกได้อีก  เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่จากกันอีกแล้ว  ลูกหายเร็วๆ แด๊ดจะพาไปจดทะเบียนรับเป็นบุตร   เราจะได้เป็นพ่อลูกกันจริงๆ ซะที”

      รอยยิ้มของไมเคิลทำให้อารมณ์ของคริสผ่อนคลายขึ้น  ... วันนี้ดวงตาของหนุ่มน้อยแวววาวมีชีวิตชีวากว่าทุกวัน  อาจเป็นเพราะน้ำตาที่เอ่อคลอ...

      “ตาลูกสวยมากรู้มั้ยไมเคิล.. รอให้ลูกหายดีและแข็งแรงกว่านี้   แด๊ดจะให้หมอตรวจเช็คและรักษาดวงตาของลูกให้หาย  ลูกจะได้เห็นว่าแด๊ดยังหล่อเหมือนเดิมรึเปล่า.. ”

      หนุ่มน้อยมีสีหน้าข้องใจ  กำลังจะเอ่ยถามก็ถูกคริสตัดบท

      “แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว  นอนดีกว่าไมเคิล  พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ ตื่นเช้าเราค่อยคุยกันใหม่นะ”

      ไมเคิลหลับตาลงอย่างว่าง่ายและเคลิ้มหลับไปภายในเวลาไม่นาน สีหน้ามีความสุขเพราะได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของแด๊ดดี้ที่เขารักแล้ว   หากแต่สีหน้าของคริสขณะนี้กลับทุกข์ใจอย่างหนัก สวรรค์ช่างโหดร้ายกับหนุ่มน้อยผู้นี้เหลือเกิน  และไม่ปราณีต่อเขาด้วยเช่นกัน   ให้เขาได้มาพบเจอต้องชะตาและรักเจ้าหนูอย่างลูกชาย แต่กลับมอบความทุกข์อย่างแสนสาหัสในฐานะพ่อให้เขา  

      “แด๊ดรักลูกไมเคิล.. รักหมดหัวใจเลย  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  แด๊ดไม่มีวันทอดทิ้งลูก”   o7

 

F a t h e r h o o d  …

 

      “จะไปจริงๆ หรือแจ๊ค”

      โอเอ่ยถามขณะที่แจ๊คกำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า

      “ฉันไม่กล้าอยู่ให้คุณคริสเห็นหน้าอีก”  แจ๊คพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  

      “คุณคริสโกรธฉันมาก ไม่ยอมต่อว่าฉันสักคำ ไม่พูดด้วย ไม่แม้แต่จะมองหน้า  ถ้านายเป็นฉันนายยังจะกล้าอยู่ที่นี่อีกหรือโอ..”

      “แต่นายไม่ได้ตั้งใจ  มันเป็นอุบัติเหตุนะแจ๊ค..”

      “มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความละเลยของฉัน..” แจ๊คน้ำตาคลอยิ้มให้เพื่อน  

      “ฉันยอมรับผิดและควรจะพิจารณาตัวเอง”  

แจ๊คหยิบกีตาร์ไฟฟ้าตัวโปรดยื่นให้โอ..

      “เก็บไว้กับนาย โอ..  มันไม่ใช่สมบัติของฉัน  คุณคริสซื้อให้พวกเราแบ่งกันเล่น”

      โอรับกีตาร์มาถือไว้ แจ๊คเป็นนักดนตรีประจำบ้าน เล่นเครื่องดนตรีได้เกือบทุกชนิด ในขณะที่บอยเล่นเป็นแต่คีย์บอร์ด ส่วนทิมกับเขาผลัดกันเป็นนักร้อง โอวางกีตาร์ลงบนเตียงและกล่าวท้วงการตัดสินใจของแจ๊คอีกครั้ง

      “อย่าไปเลยแจ๊ค.. คุณคริสกำลังตกใจและเป็นห่วงไมค์ ไม่มีอารมณ์ต่อว่านายหรอก   คุณแฟรงค์โทรมาบอกแล้วว่าไมค์ไม่เป็นอะไรมาก  รอคุณคริสอารมณ์เย็นลงนายค่อยไปขอโทษ  คุณคริสคงไม่โกรธมากถึงขนาดจะให้นายไปจากที่นี่หรอก  ฉันเคยทำผิดต่อไมเคิลมาแล้ว  คุณคริสยังยอมยกโทษให้เลย”

      “เฮอะ! คุณคริสไม่ได้ยกโทษให้นายซะหน่อย  จำไม่ได้หรือว่าคุณคริสไล่นายออกจากบ้าน ไมเคิลต่างหากที่ขอคุณคริสยกโทษให้นาย  แต่สำหรับฉันไม่โชคดีอย่างนาย ความจำไมเคิลยังไม่ปกติ  ตาก็มองไม่เห็น  คงช่วยฉันไม่ได้  ฉันขอจากไปเองดีกว่าถูกคุณคริสไล่ออกไป”

      แจ๊คปิดกระเป๋าเดินทาง  น้ำตาร่วงผล็อยด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      โอรู้สึกหมดหวังเมื่อไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเพื่อนให้อยู่ต่อได้  แจ๊คไม่อยู่เขาคงเหงามากเลย  ทุกวันนี้แต่ละชีวิตในคฤหาสน์ใหญ่โตหลังนี้แทบจะต่างคนต่างอยู่แล้ว  ตั้งแต่ไมเคิลเข้ามาเป็นสมาชิกที่นี่ ความเป็นอยู่ของพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของคุณคริส   แม้แต่คุณแฟรงค์เองก็เปลี่ยนไป.. ถ้าไม่ยุ่งอยู่กับธุระของตัวเอง..ก็จะอยู่กับไมเคิลและคุณคริส  ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งคุยเล่นกับพวกเขาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว..  

 

F a t h e r h o o d  …

 


TBC >>>>>


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD [up ทุกวัน ^_^]
«ตอบ #179 เมื่อ16-09-2008 10:41:21 »

น่าสงสารไมเคิล ทำกรรมอะไรมาหนอ ว่าแต่ เด็กๆของคริสจะเริ่มย้ายออกกันแล้วเหรอเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด