บทที่ 11
By moggy
-----------------------
หลังจากจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่สักพัก ภูธิปจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับ คุณแม่” คนตัวโตยิ้มให้กับแม่พิมพ์
“พี่ภู”
“ผมดีใจครับที่จะมีลูก และมีลูกกับน้องด้วย ผมดีใจมากครับ ขอบคุณนะครับคุณแม่ ผมอยากดูแลน้องครับ”
“ขอบคุณนะคะ พี่ภู ที่ไม่รังเกียจน้อง”
“ผมจะรังเกียจคนที่ผมรักได้ยังไงครับ เรื่องลูกเดี๋ยวผมบอกน้องเองครับ” ภูธิปยิ้มให้แม่พิมพ์
“ค่ะ”
“คุณแม่ย้ายมาอยู่กับผมกับลูกข้าวนะครับ ผมเป็นห่วง”
“พี่ภู รู้อะไรมาหรือเปล่าคะ”
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยครับ ผมคิดว่า 2 พวกนั้นน่าจะร่วมมือกัน ตอนนี้ผมดูแลน้องได้ แต่ผมเป็นห่วงคุณแม่ครับ อีกอย่างผมอยากให้คุณแม่มาอยู่ด้วยกันครับ ข้าวน่าจะดีใจ”
“ขอบคุณนะคะ พี่ภู แม่ก็คิดๆ อยู่ค่ะ เพราะแม่ก็อายุเยอะแล้ว”
“ครับ ไปดูน้องกันเถอะครับ”
เข้ามาในห้องพักก็เห็นร่างเล็กนอนหลับตาพริ้มอยู่ แม่เขากับแม่พิมพ์อยู่ห้องข้างๆ ภูธิปเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เตียง ก้มลงจูบเหม่งน้อยๆ และเลื่อนลงไปจูบที่หน้าท้องด้วยความรักทั้งหมดของเขาแล้วยิ้มให้กับตัวเอง สักพักลูกข้าวก็ลืมตาขึ้น
“พี่ภู”
“ครับ” ภูธิปยื่นแก้วน้ำให้ลูกข้าวจิบ
“ข้าว”
“แม่ ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น” ลูกข้าวเอ่ยขึ้นพร้อมมองไปรอบๆ
“โรงพยาบาลหรอ”
“ใช่ลูก พี่ภูพามาน่ะ”
“อืม...ข้าวเป็นลม ข้าวจำได้”
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” นายแม่เอ่ยถามขึ้น
“หายแล้วครับ กลับได้เลยหรือเปล่า”
“น้ำเกลือหมดก็กลับได้” ภูธิปเป็นคนตอบ
“อ้อ ครับ” ลูกข้าวยิ้มให้ทุกคน
“ข้าวหิวอ่า แม่”
“หิวหรอลูก ทนหน่อยได้ไหม กินน้ำส้มไปก่อน”
“ได้ครับ หิวไม่มาก ^^”
“ข้าวนอนต่อได้ไหมครับ ง่วงจัง”
“ครับลูก นอนนะ” แปปเดียวร่างเล็กก็หลับสนิทอีกครั้ง
ลูกข้าวหลับไปแล้ว ภูธิปจึงออกไปโทรศัพท์ข้างนอกห้องเพื่อไม่ให้รบกวน และอีกอย่างไม่อยากให้รู้ด้วย
‘ว่าไง’
“เรื่องถึงไหนแล้ว ไอ้ชา”
‘กำลังจะโทรบอกอยู่พอดี’
“อืม...ว่าไป”
‘คนที่ทำร้ายมึง เป็นแค่นักเลงถิ่นธรรมดา แต่พวกที่มันไปร่วมด้วยนี่สิ เป็นพวกค้ามนุษย์เลยนะ แต่เท่าที่กูสืบมา มีคนนึงเป็นหมอว่ะ กูก็เลยงง มันเกี่ยวกันยังไงวะ’
“อืม...กูเข้าใจแล้ว มีรูปใช่ไหม” ภูธิปฟังเสร็จ ก็สามารถประติดประต่อเรื่องได้
‘ใช่’
“ส่งมาให้หมดเลย รายละเอียดด้วย กูจะเคลียร์พื้นที่”
‘ได้ วันไหนก็บอก เดี๋ยวกูส่งคนไปช่วย’
“ขอบใจ” หลังจากนั้นก็วางสายไป แล้วโทรหาอีกสายนึง
‘ครับ นายหัว’
“มีอะไรคืบหน้าบ้าง”
‘พวกมันเป็นนักเลงท้องถิ่น กับพวกที่มันร่วมด้วยเป็นพวกค้ามนุษย์ เป้าหมายคือคุณข้าวครับ’
“อืม” เป็นไปตามที่ภูธิปคาดการณ์ไว้แต่แรกอยู่แล้ว หึ “ตามต่อไป”
‘ครับ นายหัว’
หลังจากวางสายไป ภูธิปก็วางแผนคร่าวๆ ในใจ ก่อนจะกลับเข้าห้องพักของลูกข้าว
++++++++++++++++++
พอกลับถึงบ้าน ภูธิปก็ส่งลูกข้าวไปพักก่อน แล้วออกไปทำธุระต่อที่ไร่อนุสร ไร่ของชาครเพื่อนของเขาเอง
“คุณภู” ป้าละออแม่นมของไอ้ชา
“สวัสดีครับ ป้าละออ ไอ้ชาอยู่หรือเปล่าครับ ผมมีธุระ”
“อยู่ค่ะ คุณภูนั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าไปตามให้”
“ครับ”
สักพักมีเด็กเอาน้ำกับขนมเข้ามาให้ แต่ภูธิปไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จึงได้จ้องมองอยู่อย่างนั้น จนชาครเดินเข้ามา
“ไอ้ภู จะมาทำไมไม่โทรบอกก่อน”
“จำเป็นด้วยหรอ”
“ไอห่านิ อ้าว เอาน้ำมาให้เสร็จก็ออกไปได้แล้ว” ชาครสบถเสร็จก็หันไปไล่เด็กที่เอาน้ำเข้ามาให้ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของภูธิปไปได้ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก อะไรที่แปลกไปนิดเดียวมองกันก็รู้แล้ว แต่ภูธิปก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะไม่ใช่เรื่องของเขา
“ว่ามา มีอะไร” ชาครนั่งลงที่โซฟาอีกด้านแล้วถามขึ้น
“อีก 3 วัน กูจะถล่มถิ่นมันให้ราบ”
“3 วัน ทำไมเร็วอย่างนี้วะ”
“ยิ่งเร็ว ยิ่งดี ไม่ต้องให้พวกมันตั้งตัว จะได้ตายอย่างไม่รู้ตัวไง หึหึ”
“ไอห่านี่ โหดไปไหม”
“หึหึ ถ้ามีคนจะฉกเด็กนั่นไป มึงอาจจะโหดกว่ากูก็ได้ จริงไหม”
“ไอภู ไอสัด เบาๆ เดี๋ยวไก่ตื่น” ทั้ง 2 คนแสยะยิ้มให้กัน
“เออ เดี๋ยวกูเตรียมคนให้ ไปรวมกับคนของมึงที่ไร่เลยหรือเปล่า” ชาครพูดต่อ
“ไม่ มาเจอที่นี่ กูไม่อยากให้ที่บ้านรู้”
“โอเค”
“อ่อ...แล้วก็นี่ เชิญเฉพาะคนสนิทเท่านั้น ไปด้วยแล้วกัน” ภูธิปยื่นการ์ดใบนึงให้ เพิ่งจะพิมพ์เสร็จวันนี้เลย
“ใครจะแต่งวะ” ชาครเปิดดูถึงกับตกใจ “มึงจะแต่งงานหรอ ใครวะคือคนที่โชคร้ายคนนั้น ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ไอนี่ เดี๋ยวกูถีบ” ภูธิปง้างขาจะถีบจริง
“เฮ้ยๆๆ อย่านะเว้ย เดี๋ยวกูเจ็บไปงานมึงไม่ได้ทำไง”
“กวนตีนจริงมึง”
“เฮ้ย...นายหรอวะ” ชาครนั่งอ่านการ์ด แล้วย้ำอีกที
“เออ ตามนั้นแหละ”
“เฮ้ย ไอภู”
“อะไร”
“หึหึ ยินดีด้วย”
“คำยินดีมึงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนตัวเลขที่มึงใส่ซองมา หึหึหึ”
“จะรีดไถกูงั้นสิ”
“เปล่า แค่บอกไว้ กลับก่อน”
“โอเค อีก 3 วันเจอกัน”
“อืม…อ่อกูลืม ฝากให้นนท์กับนันท์ด้วย” ระหว่างลา ภูธิปเกือบลืมของฝากเจ้าแฝด
“เออๆ ขอบใจ เจอกัน” ชาครรับถุงไปถือไว้ ก่อนลาเพื่อน
ภูธิปขับรถออกมาสักพัก ก็มีสายโทรศัพท์เข้า
“ว่าไง”
‘นายหัวครับอีก 3 วัน พวกมันจะเข้าไปเผาไร่สร้างสถานการณ์เพื่อเอาตัวคุณข้าวครับ’
“ขอบใจ ถ้ามีใครสงสัย ก็รีบหนีออกมา เข้าใจไหม” ลูกน้องเขาที่แฝงตัวเข้าไปโทรมารายงาน
‘ครับนาย’
หลังจากวางสายไปแล้ว เขารีบโทรหาไอ้ชาก่อน
‘ว่าไง’
“เปลี่ยนแผน พรุ่งนี้ค่ำ กูจะเคลียร์พื้นที่”
‘เฮ้ย อะไรของมึงวะ’
“มันเตรียมการณ์อีก 3 วัน” ผมบอกรายละเอียดมันอีกที
‘เออๆ กูเข้าใจแล้ว เจอกันช่วงหัวค่ำล่ะกัน’
“โอเค” หลังจากวางสายไป ภูธิปก็รีบกลับไปเตรียมตัวที่ไร่
+++++++++++++++++++++++
พอกลับถึงบ้าน ก็เห็นร่างเล็กเดินไปเดินมาอยู่ในครัวให้วุ่น ภูธิปเลยเดินเข้าไปดู
“ทำอะไรกันอยู่”
“พี่ภู” ลูกข้าวหันมาหาแล้วยิ้มให้
“กำลังทำมะระตุ๋นซี่โครงหมูครับ”
“อืม น่ากิน” คนตัวใหญ่ยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ
“:)”
“แม่กับแม่พิมพ์ล่ะ”
“อยู่ที่ชานบ้านครับ” ลูกข้าวตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้า
“ฟอด..” ภูธิปรู้สึกมันเขี้ยวขึ้นมา
“พี่ภู ไปไกลๆ เลย เห็นไหมว่าทำอะไรอยู่ เอ้อ...แปปๆ นะ” คนตัวเล็กเอ่ยปากไล่ แต่เหมือนนึกอะไรออก
“น้ำอัญชัน ลองกินดูพี่ภู” คนตัวเล็กยกแก้วมาให้ ภูธิปมองไปยังน้ำสีสวย
“อืม อร่อยดี” หลังจากลองดื่มก็สดชื่นดี หึหึ ตั้งแต่ลูกข้าวมาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวก็หานู้นนี่มาให้เขาลองกินอยู่ตลอด ดีจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้น พี่ภูก็ออกไปได้แล้ว เกะกะ” ลูกข้าวเอ่ยไล่อย่างไม่จริงจังนัก แต่ทำให้น่ามันเขี้ยวขึ้นไปอีก
“ฟอด..”
“...” หลังจากหอมแก้มนุ่มๆ เสร็จ ก็เดินออกไปทางชานบ้าน เพื่อไปคุยเรื่องสำคัญ ทิ้งให้อีกคนบ่นไปเรื่อย
++++++++++++++++++++++++
“อ้าว ตาภู”
“ทำอะไรกันอยู่ครับ”
“เรื่องทั่วไปน่ะลูก”
“ผมนั่งด้วยนะครับ” ภูธิปเอ่ยขออนุญาตก่อนจะนั่ง
“มีอะไรหรือเปล่าลูก” คุณหญิงจันทร์เอ่ยถามอย่างรู้ทันลูก
“พรุ่งนี้ผมจะไปทำธุระ แม่อยู่เป็นเพื่อนข้าวนะครับ”
“หรือว่า...พี่ภู”
“ครับ แม่พิมพ์ ผมต้องไปจัดการ แต่ยังไม่หมดหรอกครับ ค่อยๆ จัดการไป”
“ลูกจะไปจริงๆ หรอ” คุณหญิงจันทร์ที่ทราบเรื่องคร่าวๆ จากดอกเตอร์พิมพ์พิกาก็นึกเป็นห่วง
“ถ้าไม่ไปจัดการ ลูกข้าวจะมีอันตรายครับ ผมต้องไป”
“โถลูก...ขอบคุณนะคะพี่ภู ที่ทำเพื่อน้องขนาดนี้”
“ผมเต็มใจครับ”
“ตาภู แม่จะดูน้องให้ แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ครับแม่”
พอถึงเวลาอาหารเย็น คนตัวเล็กสารวนเดินไปมาจนเขาเวียนหัวแทน อีกอย่างน้องไม่ระวังตัวเลย เขาก็เข้าใจว่าน้องยังไม่รู้เรื่อง แต่นี่เกินไปหน่อย แม่ผมบอก 3 เดือนแรกให้ระวัง แล้วน้องก็อยู่ในช่วงนั้นเสียด้วย
“ข้าวมานั่ง ให้แหววทำต่อ”
“อีกนิดเดียวพี่ภู”
“มานั่ง” ภูธิปกดเสียงเข้มขึ้น ต้องดุครับช่วงนี้ ลูกข้าวดื้อมาก แล้วก็อ้อนมากด้วย แม่ผมบอกเป็นผลมาจากการตั้งท้อง อารมณ์จะแปรปรวนง่าย
“พี่ภูอ่ะ” คนหน้างอเดินมานั่งที่ข้างๆ
“พี่ทำไม” ภูธิปถามต่อ แต่คิดว่าเจ้าตัวไม่น่าตอบกลับ เพราะกำลังงอนอยู่
“…”
“…” นั่นไงครับ ว่าแล้วเชียว
“น้องเป็นอะไร ตาภู” แม่ผมกับแม่พิมพ์ที่เพิ่งเดินเข้ามา
“งอนครับ”
“เปล่าซะหน่อย” คนตัวเล็กเถียง
“ไหนข้าว งอนอะไรพี่เขา หืม” แม่พิมพ์ถามขึ้น
“พี่ภูดุครับแม่” คนตัวเล็กมีการฟ้องด้วยหน้างอๆ
“พี่ภูดุน้องเรื่องอะไรลูก” แม่ผมถามขึ้น
“น้องเดินไปมา ไม่ระวังตัวครับ ถือของหนักอีก” ภูธิปแจงให้ฟัง
“ไม่เห็นมีอะไรเลย พี่เขาเป็นห่วงลูก”
“ปกติข้าวก็ทำอยู่แล้วนะครับแม่”
“ข้าว พี่ภูเขาเป็นห่วงนะลูก เชื่อฟังพี่เขานะครับ ดื้อมากๆ เดี๋ยวพี่ภูไม่รักนะ”
“พี่ภู” คนตัวเล็กหันไปเรียกคนที่นั่งข้างๆ
“ข้าวขอโทษครับ” ลูกข้าวยกมือไหว้ภูธิป
“ไม่เป็นไรครับ” ภูธิปเอ่ยตอบกลับก่อนจะก้มกระซิบให้ลูกข้าวได้ยินคนเดียว “ยังไงพี่ก็รักข้าว” พอได้ยินคนตัวเล็กก็เขินจนแก้มแดงปลั่ง เลยต้องก้มหน้างุด
“กินข้าวกันดีกว่าครับ” ภูธิปเอ่ยทำลายความเงียบ
ภูธิปตักอาหารให้ลูกข้าวตลอด อาหารส่วนใหญ่จะไม่มีกระเทียมหรืออะไรที่ฉุนๆ ผสม เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกข้าวเกิดอาการแพ้ อันนี้แม่ผมเป็นคนสั่งป้าสายกับแหววไว้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวกันพอดี
----------------------------
TBC.
**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
**เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดจ้า เลยมาต่อช้า ไม่ได้หายไปไหนนะคะ