“ มองงงง เธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มองงงง ฮิ้ววว ฮิ้วๆ ฮิ้ว “
“ ถ้าเธอไม่แจ่มฉันจะไม่จ้องฉันจะไม่มองให้หัวใจเต้นนนน ฮิ้ววววว น้องพูน่ารักจังคร้าบบบ “
“ ............................” นิ่ง เงียบ สงบ ผมเดินผ่านสามแยกปากหมาภายในโรงเรียนไปด้วยท่าทีสงบมโนเอาว่าเสียงที่ได้ยินเป็น
เสียงลมพัด ชินแล้วครับคนมันสวยก็เงี้ยเดินไปไหนมาไหนมีแต่คนแซว เอิ๊กๆๆ พวกที่หม้ออยู่ไกลๆอย่างนี้ไม่เป็นพิษเป็นภัย
อะไรหรอกครับอย่างมากก็เป็นมลพิษทางหูผมก็เลยไม่อะไร แต่ถ้ามาหม้อใกล้ๆใช้คำพูดหยาบคายหรือว่าทำตัวรุ่มร่ามนี่ผมไม่
ชอบจริงๆ
“ น้องพูคร้าบบบบ วันนี้น่ารักจังเลยนะครับ “ พูดถึงหม้อ หม้อก็หูดำมาเลยครับ = =” ผมถอยฉาดหลบรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาประชิดตัว
ก่อนจะทักทายกลับอย่างเป็นมิตรที่สุด
“ ขอบคุณครับ ผมน่ารักทุกวันอยู่แล้วครับ “ พูดกัดฟันก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างประชดประชันแล้วรีบเดินหนี ไม่ได้อยากเกรียนใส่
นะครับเลี่ยงได้ผมก็พยายามเลี่ยง แต่ทว่าพี่แกกลับเดินเข้ามาดักหน้าผมไว้อีก = =”
“ โหยยย น้องพูอ่ะอุตส่าห์ได้คุยกันทั้งที จะรีบไปไหนล่ะครับ “ ไม่พูดเปล่าครับ พี่หม้อแกพยายามจะคว้าแขนผมไว้ดีที่ว่าผม
หลบทัน กล้ามากปรี๊ดอ่ะปรี๊ด
“ กรุณาเคารพสิทธิส่วนบุคคลกันด้วยครับ แล้วก็ถ้ารุ่นพี่เคยได้รับการสั่งสอนเกี่ยวกับมารยาทมาบ้างก็อย่าลืมนำออกมาใช้ด้วยนะ
ครับ อ๋อ....ลืมบอกไปอีกอย่าง ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ขอตัวนะครับ “ประทานพรเสร็จผมก็จ้ำพรวดออกมาเลยครับ ไม่เข้าใจเลย
จริงจริ๊งงงง ผมว่าผมพูดอยู่ตลอดนะฮะว่าผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วแต่พวกนี้ก็ไม่สนใจแถมจีบผมต่อเสยยยย เฮ้ยยยย ผมมีคนที่
ชอบอยู่แล้วจริงๆนะ ทำไมไม่เชื่อผมว้า สวยกลุ้ม TT
คนที่ผมชอบเค้าเป็นนักกีฬาแบดมินตันของโรงเรียนฮะ
บ้านขายโจ๊กแต่ดั๊นชื่อข้าวต้ม หน้าตาก็งั้นๆแหละฮะตี๋ๆแต่ตาเสือกโต ผิวก็ขาวๆ ตัวก็สูงหยั่งกะเสาไฟตามไหล่ทางหลวง จมูกนี่ก็
ไม่รู้จะโด่งไปทิ่มตาใคร ปากก็ไม่รู้จะบางไปไหน รวมๆแล้วก็ถือว่าหน้าตาใช้ได้แหละอ่ะฮะ
แล้วถ้าถามว่าทำไมผมถึงได้ชอบคนๆนี้................
ก็คงต้องย้อนกลับไปประมาณกีฬาสีเมื่อสองปีที่แล้ว
“ เร็ววววววว เร็วๆๆๆ วิ่งสิเว้ยเฮ้ยวิ่ง สีฟ้ามันมานู่นแล้ววิ่งงง “
“ กรี๊ดดดดดดด สีเขียวจี้ตูดมาแล้ว เร็วๆๆๆๆ กรี๊ดๆๆ “
“ เชดดดดดดดด มรึงจะหันไปโบกมือทำไมไอ้ฟาย เดี๋ยวก็ล้มหรอก วิ่งสิเว้ยเฮ้ยวิ่งงงงง!!!!! “
ผมยืนมองดูเหล่ากองเชียร์ที่พากันยืนชิดติดขอบสนามเต้นแร้งเต้นกาตะโกนเชียร์สีตัวเองอย่างไม่คิดชีวิตขำๆ ก่อนจะหย่อนตูดลง
นั่งบนแสตนช้าๆ แต่ไม่ทันที่ตูดผมจะสัมผัสกับแสตนดีก็มีมือปริศนาเอื้อมมาคว้าไหล่ผมเอาไว้
“ พะ.....พู “ เจ้าของมือพูดปนหอบหน้าแดงก่ำด้วยความเหนื่อยจนผมกลัวว่ามันจะช็อคเลยหันไปหาขวดน้ำมายื่นให้ไม่ใช่ใคร
ที่ไหนหรอกครับ แอลประธานกีฬาสีผมเอง
“ คืองี้นะ........แฮ่กกก “ แอลพูดไปหอบไปกระดกน้ำไปจนผมต้องยื่นมือไปตบไหล่มันเบาๆ
“ ใจเย็นๆนะ ค่อยๆพูด “ มันก็พยักหน้าตามก่อนจะหยุดพักหายใจไปแป็บนึงแล้วพูดต่อ
“หลังจากนี้พูมีแข่งอะไรอีกป่ะ “
“ ไม่มีแล้ว ว่ายน้ำชิงไปละ ทองสามรายการเลย “ ผมพูดแล้วยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ สวยเก่งอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆ
“ อื้ม งั้นพูลงแข่งแชร์บอลหน่อยนะ “ ยะ....ยิ้มค้างเลยครับ อะ...แอลมันว่าอะไรนะ
“ ฮ่าๆๆ ว่าอะไรนะแอล เมื่อกี้เหมือนเราได้จะได้ยินว่าให้เราไปแข่งแชร์บอลหรอ “ ผมหัวเราะเฝื่อนๆ เซลล์หน้าหนังตอนนี้ชาไป
กว่าครึ่งแล้วฮะ
“ อื้ม คนมันขาดน่ะ ช่วยทีนะเราส่งชื่อไปแล้วอ่ะ แก้ตอนนี้ก็คงไม่ทัน ฝากด้วยนะ เดี๋ยวเราต้องไปดูนักกีฬาปิงปองต่ออ่ะ เออลืม
บอกไปอีกยี่สิบนาทีจะเริ่มแข่งแล้วไปเตรียมตัวรอเลยนะ โชคดีๆ “ แอลว่าแล้วก็ตบไหล่คนหน้าสวยแปะๆก่อนจะรีบชิ่งโดยเร็ว
ปล่อยให้คนสวยยืนยิ้มกรามค้างด้วยความช็อค
“ เช็ดดดดดดดดดดดด ตรูเล่นเป็นที่ไหนกันละฟะ!!!!!!!!!!!! TT TT “
หลังจากที่ทำใจอยู่นานผมก็กลั้นใจก้าวขาเข้าสู่สมรภูมิ ผมพยายามเดินเข้าโรงยิมให้ช้าที่สุดเผื่อว่าเวลาตายของผมจะยืดออก
ไปหน่อย แต่พอพวกนักกีฬาสีผมมันเห็นผมเท่านั้นแหละ ตะโกนโหวกเหวกโวยวายเรียกให้ผมเข้าไปหา
“ เฮ้ยพู ทางนี้ๆเร็วใกล้จะแข่งแล้ว ”หนึ่งในพวกมันตะโกนขึ้นมาทำให้ผมต้องรีบวิ่งเข้าไปหา ฮือออออออออ ให้เวลาตรูทำใจ
บ้างอะไรบ้างงงงง TT TT
“ พูเล่นแชร์บอลใช่มั๊ย ขอบคุณๆๆๆๆ นึกว่าจะได้คนไม่ครบซะแล้ว เฮ้อ ขอบคุณ “ ไอ้เอ็มเพื่อนห้องเดียวกันกับผมแทบจะถลา
เข้ามากราบไหว้ผม ไอ้เอ็มเอ็งอย่าพึ่งดีใจไปเอ็งถามตรูสักนิดเหอะว่าตรูเล่นเป็นมั๊ยยยยยยย
“ คนครบแล้วใช่ป่ะ เออดี งั้นเราจะว่าตัวผู้เล่นละนะ “ข้าวต้มพูดขึ้นมาก่อนที่พวกเราเจ็ดคนจะเอาหัวจุ้มกันเพื่อวางแผน
“ เอ้วกับท็อปสูง เพราะงั้นตกลงกัน คนนึงถือตะกร้า อีกคนเป็นตัวปัด แดนกับปุ๊เล่นหลังอย่าให้หลุดนะ ที่เล่นหน้าจะมีเรากับแวน
“ ผมยืนฟังไปแบบมึนๆ ลอยๆ ปล่อยให้สติมันออกไปวิ่งเล่นชมนกชมไม้ข้างนอกโรงยิม
“ พู.... “
“ หะ.....หือ! “ สะดุ้งเล็กครับสะดุ้ง
“ เล่นอยู่กลางๆนะคอยดูลูกแล้วส่งให้เราหรือไม่ก็แวนนะ “
“ อะ..อื้ม “ ผมพยักหน้ารับคำช้าๆ แบบมึนๆ
“ โอเคงั้นมารวม สีม่วง.....สู้!!!!!!!! “
หลังจากที่รวมเสร็จ พวกผมก็มายืนดูสีฟ้าแข่งกับสีเขียวรอลุ้นกันอยู่ข้างสนามว่าจะได้
แข่งกับสีไหน ไอ้เอ็มบอกสีฟ้าเมพมาก นักกีฬาบาสกับแฮนด์บอลมาเล่นอย่างเยอะถ้าสีฟ้าชนะสีผมหืดขึ้นคอแน่ แต่ถ้าสีเขียว
ชนะก็ไม่นักหนาสาหัสเท่าไหร่เพราะมีตัวนักกีฬาอยู่ไม่กี่คนที่เหลือตัวแถมจาการว่างงานทั้งนั้น แต่ผมว่า......ไม่ว่าสีไหนจะชนะ
ตรูก็หืดขึ้นคออยู่ดีแหละว้า ให้ตายเหอะเกิดมาผมไม่เคยรู้สึกกังวลขนาดนี้มาก่อน
ลำไส้ใหญ่แมร่งเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย ฮือออออออ TT
“ อ๊ะ! “ ผมอุทานออกมาเบาๆเมื่อมีมือๆนึงมาคว้าข้อมือผมไว้แล้วดึงผมออกมาจากกลุ่ม ผมหันมันไปมองแทบจะทันที...........ไอ้
ข้าวนี่เอง
“ พู “ ข้าวมันเรียกชื่อเบาๆหลังจากที่ลากผมออกมายืนข้างสนามห่างจากพวกในสีประมาณสี่ห้าเมตร ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง
หน้ามันงงๆ
“ พูเล่นแชร์บอลไม่เป็นใช่มั๊ย “ มันถามออกมาเบาๆ ทำเอาผมตาโตรีบพยักหน้างึกหงัก
“ เฮ้ย รู้ได้ไงอะ เลี้ยงกุมารทองป่ะเนี่ย “ ผมถามกลับทำเอามันหัวเราะออกมาเบาๆ เอ้าไอ้นี่ จริงจังนะเว้ย - -“
“ ก็ตอนเราวางตำแหน่งผู้เล่นเราเห็นพูดูกังวลๆน่ะ “ มันว่าก่อนจะยิ้มบางๆ ผมเลยแต่เกาหัวแก้เก้อ เออมันก็ช่างสังเกตดีเนาะ
“ แล้วพูรู้กติกากับวิธีการเล่นมั๊ย “ มันถามโดยที่ยังคงรอยยิ้มบางๆไว้บนใบหน้า ทำเอาผมพลอยยิ้มตามไปด้วย ก่อนจะตอบมัน
ไปไปฮาๆ
“ รู้แต่ว่าต้องโยนลงตะกร้าว่ะ ฮ่ะๆ “
“ ฮ่าๆๆ งั้นเดี๋ยวเราจะบอกคร่าวๆนะ แชร์บอลน่ะ พอได้ลูกแล้วห้ามเลี้ยง ห้ามเดินแต่หมุนได้
ห้ามใช้ขาหรือเท้าเล่น แล้วก็ห้ามเข้าไปในครึ่งวงกลมของคนปัด เวลายิงก็ยิงตะกร้าที่ฝั่งเราเป็นคนถือ แล้วก็พยายามมองลูกไว้
ถ้าได้ลูกก็ส่งให้เราหรือไม่ก็แวนแต่ถ้าเรากับแวนถูกปิดก็ส่งให้คนที่ว่างอย่าส่งให้ฝ่ายตรงข้าก็พอ โอเคมะ “ มันถามผมเลยพยัก
หน้าแล้วชูนิ้วโป้งให้มันก่อนจะมองในการเล่นสนามต่อ ก่อนที่ลมหายใจของผมจะสะดุดเพราะคำพูดกับแรงของฝ่ามือที่บีบเบาๆ
บนไหล่ของผม
“ อย่าไปเกร็ง เดี๋ยวเราจะช่วยพูเอง “ พอผมหันไปมองก็พบรอยยิ้มกว้างๆของมัน ณ วินาทีนั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเป็น
อะไร รู้แต่ว่ารอยยิ้มกับคำพูดของมันทำเอาลำไส้ผมหายเกร็งได้ชะงัดแต่หัวใจกลับเต้นผิดจังหวะแทนซะงั้น
พอหลังจากนั้นมาผมก็รู้ตัวว่าผมเริ่มชอบไอ้นี่เข้าให้ซะแล้ว
ผมชอบก็แอบมองมันบ่อยๆเวลาเดินสวนกัน ชอบแอบไปดูตอนมันซ้อม
ชอบแอบมองเวลามันยิ้ม มองไปมองมาจนทำให้ผมรู้ว่ามันเป็นคนเรียนดี มีวินัย ใฝ่ศึกษา มารยาทงาม นามเพราะ ซื่อสัตย์ ขยัน
ประหยัดมัธยัสถ์ อดทน มีน้ำใจ เป็นลูกเสือที่ดี เหยดดด ไม่ใช่ เป็นคนดีสุดๆคนนึงเลยล่ะครับ
แต่แปลกที่ไม่ยักกะมีใครเอา ไม่น่าเชื่อฮะว่ามนุษย์ดีๆอย่างมันจะไม่มีแฟน ผมเลยคิดว่าผมน่าจะลองพยายามทำอะไรสักอย่าง
ดู.........................
หลังจากที่นั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดอยู่นาน..........สุดท้ายผมก็คิดไม่ออกฮะ ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังอุตส่าห์เดินมาหยุดอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องมัน
เอาวะครับ..............ยืนคิดมันตรงนี้แหละครับเผื่อคิดออกแล้วจะได้ทำเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทำไรดีว้า ทำไรดี......................................................อ่อย???
เออใช่อ่อยไง อ่อยมันเลยดีกว่าครับ มันจะได้รู้ว่าผมชอบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่อ่อยยังไงดีว้า.......แกล้งเดินชนมันดีมั๊ย.........ไม่เอาเดี๋ยวล้ม กลัวเจ็บ
อืมมมมม แกล้งทำปากกาหล่นให้เก็บดีกว่า ผมจะได้ดูเป็นนายเอกใสๆ โก๊ะๆดีด้วย ฮ่าๆๆๆ
ผมคิดได้แล้วก็จัดการควานหาปากกาในกระเป๋ากางเกงทันทีครับ
ปากกาจ๋าปากกา อ่ะ.....เอ่อ......เออะ! แล้วปากกาที่ตรูจะทำหล่นอยู่ไหนแว๊
ผมยืนล้วงๆ ควักๆอยู่สักพักก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีคนมาสะกิดหลัง ผมรีบหันหลังกลับทันทีก็พบไอ้คนที่ผมจะอ่อยยืนยิ้มแป้นแล้นอยู่
“ หาปากกาอยู่รึเปล่า “ ข้าวมันถามยิ้มๆก่อนจะชูปากกาขึ้น ผมได้แต่พยักหน้าอึ้งๆ มันก็ยิ้มก่อนจะสอดปากกาลงในกระเป๋าเสื้อ
นักเรียนผมแล้วเดินจากไป รู้สึกเฟลมากฮะ สวยเฟลลลลลลลลล!!!!!!!!!!!
ถึงคราวที่แล้วจะเฟลแต่อย่าคิดว่าผมจะยอมครับผมคิดแผนใหม่มาละ
เดี๋ยวผมจะไปดักรอมันหน้าห้องพอมันเดินออกมาผมก็จะเดินเข้าไปหามัน
ก่อนจะพูดว่า....................ข้าวแขนเราเรียวมากเลยนะ เรียวเธอข้างดัก รักเธอข้างเดียว ฮิ้ววววววววววว!!!!
แล้วผมก็จะบอกมันต่อว่า เดินดีๆระวังลื่นนะ...........เพราะหัวใจเรามันละลายทุกครั้งที่เห็นหน้านายเลย กร้ากกกกก
เท่านี้ละครับ ไอ้ข้าวมันจะได้รู้ซักทีว่าผมชอบมัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“..................................” งึ่บครับ! พอเอาเข้าจริงๆผมเสือกไม่กล้า เดินผ่านห้องมันไปผ่านห้องมันมาเฉยๆซะอย่างงั้น พอข้าวออกจากห้องมาผมก็รีบเดินสวนกลับไปห้องตัวเองทันที เง้ออออออออออออออ
หลังจากนั้นมาผมก็พยายามหาแผนใหม่ๆตลอดฮะแต่ไม่ได้เรื่องสักแผน ผมเลยได้แต่แอบมองมันทุกวัน จะเข้าไปพูดด้วยก็ไม่กล้า มากสุดก็เดินสวนกันไปสวนกันมาแล้วก็ยิ้มให้ จนเวลาผ่านไปเกือบสองปีเต็ม .........................
ก๊อกๆๆๆ
“ ใครครับ อ๋า.....อิ.....ไต แฮ่ก อิไต “ ผมเลิกคิ้วน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณแทรก
“ น้องพูฮะพี่ชาย “ ผมตอบกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงอะไรขลุกขลักๆ
“ อ๋อ....รอแป็บนะครับน้องพู เดี๋ยวพี่ชายเปิดประตูให้ “ พี่ชายเปิดประตูให้ก่อนจะยิ้มแล้วหัวเราะแห้งๆ
“ พี่ชายดูอะไรอยู่หรอครับ “ ผมแกล้งถาม ทั้งที่รู้อยู่ว่าพี่ชายดูอะไร ไอ้คุณพี่ชายผมก็แกล้งตีหน้าซื่อชี้ไปที่ทีวีแล้วตอบกลับมา
เบาๆ
“ เพาเวอร์พัฟเกิร์ลไงครับน้องพู “ ผมเลยหยิบรีโมทแล้วกดไปช่องวิดีโอก่อนจะยักคิ้วให้พี่ชาย จร้ะเพาเวอร์พัฟเกิร์ล เวอร์ชั่น
ญี่ปุ่นซะด้วย ขาว อึ๋มเชียว
“ แหะๆ รู้ได้ไงอ่ะ “ พี่ชายหัวเราะแห้งๆก่อนจะรีบเอาซีดีออก
“ แหมะ!!! เสียงมาเต็มขนาดนั้น “ ผมว่าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของพี่ชาย แล้วเอาหน้าซุกลงไปบนผ้าห่มนุ่มๆ
“ แหะๆ งั้นเดี๋ยวคราวหน้าพี่จะเบาเสียงลงหน่อยละกัน ว่าแต่น้องพูมาหาพี่ชายน้องพูมีอะไรรึเปล่าครับ “ พี่ชายถามก่อนจะตาม
มานั่งบนเตียงแล้วลูบหัวผมเบาๆ ผมเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
“ พี่ชาย.....น้องพูชอบผู้ชายอ่ะ “
“ อืม.......แล้วยังไงต่อครับ “ทั้งๆที่ประโยคที่ผมพูดออกไปควรทำให้พี่ชายตกใจแท้ๆ แต่น้ำเสียงที่พี่ชายถามกลับมายังคงปกติ
มือที่ลูบหัวผมก็ยังคงลูบต่อย่างอ่อนโยน
“ น้องพูชอบเขามากอ่ะพี่ชาย น้องพูอยากให้เขารู้อ่ะ พูอยากให้เขาลองคบกับพูดูอ่ะ ถึงเขาจะปฏิเสธพู ก็ไม่เป็นไรพูแค่อยาก
ทำในสิ่งที่พูพอจะทำได้อ่ะ “
“ แล้วพูกับเขารู้จักกันรึป่าวล่ะ “
“ ก็เผินๆครับ “
“ งั้นพูกับเขาก็ลองทำความรู้จักกันก่อนสิ “ ผมยันกายลุกขึ้นมามองหน้าพี่ชาย พี่ชายก็ยิ้มแล้วลูบหัวผมเบาๆทำความ
รู้จัก................อืม ใช่ทำความรู้จัก
หลังจากกลับจากห้องพี่ชายผมก็คิดได้แล้วครับว่าผมควรจะให้ข้าวรู้จักตัวตนของผมและผมก็ควรจะรู้จักตัวตนของข้าวให้มากขึ้น
ผมเลยเขียนสิ่งหนึ่งขึ้นมา.....................
โรงยิม
ผมยืนมองของที่อยู่ในมืออยู่นานก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเดินไปหาร่างสูงที่พึ่งเดินออกมาจากสนามหลังจากการซ้อม
“ หวัดดี “ ผมกล่าวทักทายแล้วสะกิดเบาๆที่แขนของอีกฝ่าย ข้าวหันมามองหน้าผมงงๆก่อนจะถามกลับมา
“ อ่าหะ.....เอ่อ..แล้วมีอะไรหรอ “
“ นับ 1-3 หน่อยสิ “ ผมกลั้นใจ แล้วพูดออกไปด้วยหัวใจเต้นรัวพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“ ห๊ะ..... “ แต่ข้าวกลับเลิกคิ้วถามอีกครั้งอย่างงงๆ
“ นับ 1-3 หน่อย “ ตอนนี้รอยยิ้มผมหายไปละครับตอนนี้ ลุ้นนะเว้ยเฮ้ย ใจคอไม่ดีแล้วเนี่ย
“อะ....เอาไทยหรืออังกฤษอ่ะ “ ข้าวถามกลับมาอีกครั้งทำเอาผมคิ้วกระตุก แล้วตอบกลับไปอย่างเริ่มฉุน
“ จะไทย อังกฤษหรืออูกานด้าก็ได้ แล้วแต่นายจะสามารถ “ทำเอาอีกฝ่ายหายงงและเริ่มนับเลขทันที
“ หนึ่ง สอง สาม………..อืมมม ละ แล้วไงต่อ “ พอนับเลขจนครบแล้วข้าวก็ถามผมต่อ ตามบล็อคที่ผมวางไว้เป๊ะๆ
“ คบมั๊ย “
“ อืม ก็ครบ “ ก็เท่านี้แหละครับที่ผมต้องการ
“ อืม ถ้าตกลงคบแล้วก็นี่ชื่อเฟส ทวิต อีเมลล์ แล้วก็เบอร์เราอ่ะ “ผมกลับมายิ้มพิมพ์ใจอีกครั้งก่อนจะจัดการยัดกระดาษแผ่นนึงใส่
มือข้าว
“ เออ....เกือบลืมไป นี่คู่มือแล้วก็ข้อตกลงต่างๆในการคบกัน ในนี้ก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับเรา อ่านให้จบแล้วก็ทำตามให้
ครบทุกข้อด้วยนะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็โทรมาล่ะ ส่วนของนายก็ทำมาให้เราวันหลังละกัน วันนี้เราไม่ว่างจะพาหมาไปหาหมอ ไป
ก่อนนะ บ๊ายบาย “ ผมพูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งออกมาทันที อาจจะดูมัดมือชกแล้วก็มึนไปซักหน่อยแต่ผมก็อยากให้เขากับผม
ลองรู้จักกันให้มากขึ้นและถ้าข้าวจะปฏิเสธผมในวันพรุ่งนี้หรือวันไหนก็ตามหลังจากนี้ ผมก็ไม่เสียใจแล้วครับเพราะผมถือว่าผม
ได้ทำในสิ่งที่ผมทำได้และควรจะทำไปแล้ว..................
_________________________________________________________________________________________
ขอโทษคนอ่านด้วยนะคะ งวดนี้อัพช้ามากกกก
ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ช่วงนี้สอบเยอะมาก
สำหรับพาร์ทนี้พาร์ทนี้ก็เป็นพาร์ทของน้องพู
แล้วพาร์ทหน้าจะสลับกลับไปเป็นของข้าวก่อนแล้วจะกลับมาเป็นของน้องอีกทีนะคะ
แล้วก็คาดว่าอีกไม่เกิน 5 ตอนเรื่องนี้ก็จะจบแล้วววววว นะจร้ะๆ
คือเราจะเร่งแต่งให้จบไวๆ คนอ่านจะได้ไม่ค้างคาเนาะๆ
เพราะเราไม่อยากดองฟิคมันค้างคาทั้งคนอ่านคนเขียน
ถ้ายังไงก็ฝากติชมด้วยนะจ้ะ รักอ่านน้า ม๊วฟฟฟฟฟ
เออ.........เกือบลืมไปอีกเรื่อง
เค้าจะบอกว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นว่าที่นางฟ้า(?)ในชุดขาวอ่ะตะเอง
เราเรียนพยาบาลจ้ะ ไม่ได้เรียนหมอ
ยังไงก็ฝากน้องพูไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนอ่านด้วยนะจ้ะ ม๊วฟๆๆๆ