บทที่ 28 เป็นการสอบปลายภาคกันแล้วครับ จะขึ้น ม.5 กันแล้ว ติวหนังสือมันเครียด เลยแก้เครียดกันสักหน่อย บทนี้จะเป็นบรรยากาศชีวิตก่อนสอบ ที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยผ่านมา หรือใครเรียนอยู่ ก็อาจพึ่งผ่านไป หรือกำลังจะเจอกัน
บทนี้ยาว 5 หน้า A4 อีกบท เพราะผมใส่เรื่องที่บ้านของแทนไว้ด้วย ทำไมถึงมีเรื่องของที่บ้านแทน? และบทนี้ น่าจะทำให้ผู้อ่านรู้จักปูมหลังของแทนมากขึ้นด้วยนะครับ
เชิญชมกันเลยครับ
**********
Chapter 28ฝันร้ายที่สุดของชีวิตการเรียนก็มาถึงอีกครั้ง “สอบปลายภาค” ถ้าแทนไม่ช่วยติวไว้ ผมแทบจะนึกไม่ออกเลยว่า ผมจะเอาอะไรใส่สมองไปเข้าห้องสอบ นับตั้งแต่หลังวาเลนไทน์ สามชั่วโมงก่อนนอน ไม่ว่าจะอยู่ห้องแทน หรือบ้านผม กลายเป็นเวลาที่แทนยึดมือถือ ห้ามผมเล่น iPad ติวเต็มที่ ให้พักได้ด้วยการกอด จูบ (แต่ห้ามเลยเถิดจนปล้ำติวเตอร์) ถ้าติวเสร็จ มีสิทธิคลายเครียดด้วยการเล่นหนึ่งยกกับติวเตอร์ก่อนนอน
“อ่าห์ๆๆๆๆ” ผมทิ้งตัวลงเตียงนอน ตามด้วยบิดขี้เกียจไปมาบนเตียง
“นอนดีๆ ซิครับ” ตอนนี้ผมนอนทแยงมุมหัวอยู่ปลายเตียง ขาอยู่หัวเตียง ผมลุกขึ้นนอนฝั่งขวาให้เรียบร้อย ก่อนที่แทนจะนอนฝั่งซ้าย พอแทนนอน ผมตระครุบตัวแทนทันที
“ติวให้เราแบบนี้ แล้วแทนจะเอาเวลาอ่านหนังสือตัวเองยังไงอะ” แทนยิ้มๆ แล้วยักคิ้วอย่างมั่นใจ
“ชิลล์มาก ติวให้บิ๊ก ก็เหมือนติวให้ตัวเองนั้นแหละ” ครับ..โทษที ไม่ได้เกิดมาเก่ง
ผมขยับตัวคร่อมแทนอย่างรวดเร็ว เพราะหลังติวเสร็จทุกคืน ผมต้อง....ขอรางวัลผ่อนคลายจากแฟนผม จริงๆ อย่าเรียกว่ารางวัลเลย เพราะการที่ผมอยู่กับแทนในฐานะแฟน ทุกคืนอย่างน้อยหนึ่งรอบ
“พรุ่งนี้เช้าต้องสอบปลายภาคไม่ใช่เหรอ” แทนเตือนความจำให้ผมต้องพักผ่อน
“เราคงสอบไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่ได้...” ผมต่อประโยคให้จบด้วยการประกบปากแทนเบาๆ แรงบดของริมฝีปากกับลิ้นที่ผมสอดเข้าไป ทำให้แทนหลับตา แล้วมือซ้ายของแทนก็ลูบศีรษะเกลี้ยงๆ ของผม
“รู้ตัวเปล่าเดี๋ยวนี้ขี้เซามากขึ้น” กิจกรรมนี้ใช้แรงเยอะ ผมรู้สึกหมดแรงสุดๆ ถึงจะแค่รอบเดียวกับแทนก็เถอะ ทุกอย่างที่ออกจากร่างผมเข้าทางรักของแทน มันกระตุกเหมือนดึงเครื่องในผมให้หลุดออกเป็นชิ้นๆ แล้วเอ็นโดรฟีนผมก็หลั่งออกมาจนทำให้ผมหลับเอาตายได้เลยทีเดียว
ผมถอดเสื้อของแทนออก แล้วขบหน้าอก หัวนมทั้งสองข้าง ทุกอย่างเป็นไปอย่างเบามือที่สุด รอยที่คอกับหน้าอกของแทนตอนนี้ มีทั้งรอยเก่าและรอยใหม่ผสมกันไป ที่ว่างตรงคอที่ผมพอจะดูดได้ ก็คงสงวนให้มันสะอาดไว้หน่อย แทนร้องเบาๆ ตอบรับการดูดขบของผมตอนนี้ แล้วผมก็ถอดกางเกงของแทนออกก่อนจะสูดกลิ่นหอมใต้ร่มผ้า แล้วพลิกตัว ยกขาทั้งสองของแทนขึ้น ก่อนจะดูดกับเลียทางรักของแทนสักนิด
สวมเสื้อผ้าให้ตัวเอง กับทาหล่อลื่นให้ทางรักของแทนเสร็จแล้ว ผมเข้าแล้วนะ...ช้าๆ ค่อยๆ ถึงผมจะทำเกือบทุกวัน แต่ทางรักของแทนก็ยังเข้ายากเหมือนครั้งแรกเสมอ ผมต้องค้างเอาไว้ก่อนทุกครั้งเมื่อเข้าไปได้ทั้งหมดแล้ว สิ่งเดียวที่แทนต่างจากทุกคนที่ผมทำกิจกรรมเดียวกันนี้คือ ผมอยากให้แทนมีความสุขทุกครั้ง ทุกท่า เช่นเดียวกับที่ผมมีความสุขเช่นกัน
ผมยกตัวแทนขึ้นกอดไว้ นั่งขัดสมาธิเอาขาล็อคกับลำตัวท่อนล่างของแทนไว้ ส่วนแทนที่นั่งทับท่อนล่างผม ตอนนี้ก็เอาขาล็อคตัวผมแล้ว เราสองคนอยู่ในแบบเดียวกับตัว V ผมขบดูดหัวนมของแทน หรือไม่ก็ดูดหน้าอกจนเป็นรอยเพิ่มอีก ในขณะที่แทนค่อยๆ ขยับเอวขึ้นลง สลับกับขยับเอวซ้ายขวาบ้าง
เสียงหอบหายใจของผมกับแทนเริ่มดังขึ้น เมื่อแทนเร่งความเร็ว ในขณะที่ผมเองก็พยายามกลั้นไม่ให้มันเสร็จ แทนเริ่มร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็เริ่มกลั้นไม่อยู่แล้ว หน้าท้องของผมรู้สึกเปียกจนแฉะ เป็นสัญญาณว่าแทนเสร็จแล้ว แต่แทนยังคงเขย่ารัวๆ อีกสักเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกตัวลงแรงๆ จนผมกลั้นไว้ไม่อยู่ ทุกสิ่งที่ออกไป ผมต้องกอดแทนแน่นๆ เพื่อให้ทุกอย่างที่ออกไปนานอยู่หลายวินาทีหมดเรียบร้อยก่อน เมื่อทุกอย่างเสร็จ หน้าผมตอนนี้ซุกอยู่ที่หน้าอกของแทนที่เหงื่อซึมเปียก
“อาบน้ำกันใหม่นะ” แทนบอกผม หลังจากสัมผัสได้ว่าผมก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมรวบรวมแรงที่เหลือทั้งหมด อุ้มแทนที่ยังค้างอยู่ท่าเดิมลงจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะปล่อยให้มันอ่อนตัวจนออกมาเอง แล้วผมค่อยปล่อยแทนลงไปยืน แทนเองก็เกือบยืนไม่ได้เพราะขาอ่อนแรง แล้วเราสองคนก็เริ่มอาบน้ำให้กันและกัน
“เราต้องไปสอบได้แน่นอน เพราะตอนนี้เราสบายตัวสุดๆ” แทนเอาฝักบัวที่กำลังอาบอยู่ฉีดใส่หน้าผม
“ถ้าบิ๊กสอบตก จะงดทำการบ้านบนเตียงหนึ่งเทอม” ไม่!!!! อย่าขู่แบบนี้ซิ เราขาดใจตายพอดี
แล้วแทนก็หัวเราะสะใจขณะอาบน้ำ เพราะผมเหวอไปเต็มๆ
………………..
มอไซค์สีดำด้านคาดแดงที่หลายคนในโรงเรียนคงคุ้นตาดี กำลังจอดส่งผมใกล้ๆ กับตึกเรียน บิ๊กในชุดขับมอไซค์เต็มยศ มาส่งผมตอนเช้า เพราะวันสอบของเราไม่ตรงกัน บิ๊กเหลือสอบวันสุดท้ายคือพรุ่งนี้ แต่วันนี้เป็นวันสอบวันแรกของโรงเรียนผม
“ทำข้อสอบให้ได้นะครับ” บิ๊กอวยพรผมก่อนจะขึ้นตึก
“ชิลล์ๆ สิวๆ” ไม่งั้นเก็งข้อสอบคุณชายไม่แม่นหรอก
“คร๊าบ...คนเก่ง คนน่ารัก และรักเรา” ถึงมีสีหน้ายิ้มเรียบๆ แต่น้ำเสียงอ้อนแบบบิ๊ก หาใครทำให้น่ารักก็คงยากอยู่ ยิ้มที่ผมส่งให้บิ๊ก เชื่อได้เลยว่าวันนี้ข้อสอบไม่ยากเกินแน่นอน
บิ๊กใส่หมวกกันน็อคแล้วขับน้องถ่านไปโรงเรียนต่อ เพื่อนๆ ของบิ๊กนัดอ่านหนังสือกันที่บ้านแชมป์ (ซึ่งเดาได้ว่า อ่านอยู่สิบห้านาที แล้วเล่นเกมกันต่อยันดึก) แต่ยังไม่ทันหันตัวเดินนั้น...
“ไบรท์ ปล่อย” ผมโดนปิดตาด้วยฝีมือไบรท์อีกแล้ว
“ไม่ได้แกล้งนาน เลยเล่นหน่อย” มือเค็มเหมือนเดิมนะ
“โน่น เก็บไว้ไปเล่นกับแฟนไบรท์ไป” ไบรท์ทำหน้าเหมือนคนกลัวแฟน
“รายนั้นได้ชกเราก่อนซิ นี่นะ เล่นจะเอ๋ กอดตอนเผลอทีไร ไม่ศอกก็ต่อยเราทุกที” โอ็ย..ขำ สมน้ำหน้า
“นี่...แฟนแทนอะ เมื่อไหร่จะเลิกเป็นผีดูดเลือดเนี่ย” หมายถึง...อ้อ คอผมใช่มะ
“อิจฉาก็บอกมา...” ไบรท์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ไว้ไปถามบิ๊กมันเองละกัน เราไปละ บายๆๆ” มาไว เคลมไว ไปไวจริงๆ สงสัยต้องรอถามแฟนผมละ ว่าไบรท์มีของดีอะไรไว้กับแชมป์ไว้เปล่า
ระหว่างที่แทนกำลังสอบอยู่ ตอนนี้ผม แชมป์ โจ ตั้ม นั่งกันคนละมุมห้อง กำลังง่วนกับวิชาที่โหดที่สุด ที่กำลังจะเจอพรุ่งนี้ นั้นคือเลขเสริม...ที่ยากเชี่ยๆ แต่การได้เคล็ดลับจากแทนในการแก้โจทย์ ถึงจำได้ไม่หมด แต่ก็จดไว้ว่า ตรงไหนที่ผมลืม หรือติด คืนนี้ค่อยไปถามก็ได้
“เอ้ย!!! เที่ยงแล้วเว้ย หิวๆๆๆ” เสียงโวยวายไอ้ตั้ม ทำให้เราพวกเรารู้ว่าถึงเที่ยงแล้ว
“แดกไรครับเพ่ จะได้โทรสั่ง ไก่ทอด พิซซ่า หรือเบอร์เกอร์” แชมป์ที่ยังอ่านหนังสืออยู่ถามพวกที่เหลือ
“เอาอิ่มๆ อะมึง” โจผู้ทานแหลก แต่ไม่ค่อยจ่ายเงินย้ำมา
“ไก่ทอดวะ กูอยากกิน” ของโปรดผมเลย
“พิซซ่าวะ กูว่าอิ่มชัวร์” ไม่เอาวะ กูแดกกับแฟนบ่อยแล้ว
“เอางี้ ครึ่งทาง เอามาทั้งคู่ เพราะกูแดกหมด” สมกับเป็นโจผู้กินเรียบจริงๆ
สี่สิบห้านาทีต่อมา พิซซ่าถาดใหญ่สองถาด กับไก่ทอดถังใหญ่ 12 ชิ้น และน้ำอัดลมขวดสองลิตร ก็วางอยู่โต๊ะกินข้าวบ้านแชมป์ ตอนจ่ายเงิน เราทุกคนตกลงให้ไอ้โจจ่าย เพราะค่าอาหารมื้อนี้ เคลียร์หนี้สิ้นที่ยืมทุกคนได้พอดี
“สัส พวกมึงแมร่งทำกูหมดตัว กลับบ้านไงวะเนี่ย เชี่ยบิ๊กมึงต้องไปส่งกูด้วยเลย” ปากบ่น แต่มือนี่หยิบไวนะโจ
“แหม่ ที่ยืมพวกกู กับชักดาบเวลากินข้าวด้วยเนี่ย จะให้กูทวงแบบไหน แบบพี่เฉโปมะ” ไอ้ตั้มจัดไปดอก แต่โจทำไม่รู้ไม่ชี้ กูกินอย่างเดียวต่อไป
“ครึ่งบ่ายถึงเย็นนี้ จะรอดไหมวะกู อ่านแล้วง่วงเหี้ยๆ” ตั้มกำลังฉีกไก่เข้าปาก ก็น่าบ่นอยู่นะ อ่านหนังสือห้านาที หลับสิบห้านาที สะดุ้งมาอ่านต่ออีกแป็ป ก็หลับต่อเนี่ย
“กูว่าแยกกันอ่าน ไม่รอดแน่ๆ แต่ในที่นี้ ก็ไม่มีใครติวให้ได้นี่ซิ” ความคิดไอ้โจมันก็จริงอยู่ แต่นั้นก็...
“ไหนใครบอกไม่ยาก อ่านเองก็ได้” แชมป์สวนกลับมาที โจถึงกับเงียบ เพราะไอ้นี่แหละ คนบอกในกลุ่ม LINE ว่า ไม่ต้องนัดไอ้เอ๋อห้อง 1 มาติวให้ก็ได้
“สงสัยจะได้ Let it go ใช่มะ” แชมป์แมร่งพูดโดนใจพวกเรามาก
หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จ พวกเราทุกคนเลย Let it go กันจริงๆ แชมป์กับโจเล่นเกม Play Station ในห้องแชมป์ ไอ้แชมป์นอน ส่วนผม อ่านๆ พักๆ แต่หนักไปทางพักมากขึ้น
รอเวลาบ่ายสาม จะไปรับแฟนละ...
………………..
สอบวันแรกของผมผ่านไปด้วยดี แต่คืนนี้ ผมต้องช่วยบิ๊กที่พกคำถามโจทย์เลขมากมายมาถามผม แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ หวังว่าแฟนผมจะเข้าห้องสอบแล้วไม่เหวอเมื่อทำข้อสอบจริงแล้วกันนะ
“แทน ปิดเทอมนี้กลับบ้านที่ขอนแก่นเปล่า” ผมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะกลับไปดีไหม...
“ยังไม่ได้คิดเลย แต่คงกลับไปสักอาทิตย์นึงได้” ทำไมเหรอบิ๊ก
“จะขับรถไปส่งแทนให้ถึงบ้านไง” เหนื่อยแย่ อย่าเลยบิ๊ก
“ก็ ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยไง เดี๋ยวเราไปเช่าโรงแรม แล้วให้แทนพาทัวร์เอาไง” บิ๊กตะแคงตัวให้ชิดผมมากขึ้น
“งั้นเอางี้ เรากลับบ้านสักอาทิตย์ เดี๋ยวเรากลับมาให้บิ๊กพาไปเที่ยวสักสองสามที่แทน เอามะ” ผมไม่อยากให้บิ๊กไปส่งผม หรืออยู่แถวบ้านผมนะ
“ไม่อยากให้เราไปส่งที่บ้าน กลัวโดนลูกซองจากพ่อตา แม่ยาย เหรอครับ” ไม่ล้อเล่นนะบิ๊ก เรากลัวจริงๆ
“กลัวจะไม่แค่ลูกซองอะซิ พ่อ แม่ เรา ดุจะตาย บิ๊กนึกไม่ออกหรอก ว่าถ้าเราพาบิ๊กไปเที่ยวบ้าน มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง” ใบหน้าเด็กขี้สงสัยของบิ๊ก ทำให้ผมไม่อยากตอบเท่าไหร่
“ไม่ต้องห่วงนะ เราแค่ไปส่ง รับรอง ไม่ทำอะไรให้พ่อแม่แทนไล่ยิงเราแน่นอน” ผมพลิกตัวมาคุยกับบิ๊ก
“เราขอละกัน พ่อแม่เรา คงไม่ปลื้มบิ๊กกับเรื่องของเราแน่ๆ บิ๊กจะเดือดร้อนเปล่าๆ” บิ๊กพยักหน้าตกลง ก่อนจะต่อรองว่า
“งั้นเอางี้ เราไปส่งจุดที่แทนคิดว่า ส่งเสร็จ รอที่บ้านมารับได้สบายสุดละกัน โอเคมะ” ผมคงห้ามไม่ได้ นี่คงดีที่สุด สำหรับความต้องการของบิ๊กเช่นกัน
บิ๊กดึงผมไปจูบปาก ลิ้นที่คลึงกับลิ้นผม ให้น้ำหนักที่นุ่มนวลมากกว่าปกติ ก่อนที่บิ๊กจะปล่อยมันออก แล้วลูบหัวผมช้าๆ
“เราก็กลัวแม่เราไม่ยอมรับเรื่องของเราเหมือนที่แทนกลัวนั้นแหละ แต่เราจะทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งเห็นว่า เรื่องของเรามีอนาคต เราทั้งคู่ทำได้แน่นอน ถึงมันจะหลายปี แต่ก็ไม่นานเกินรอใช่มะครับ” ผมก็เชื่อในความตั้งใจของบิ๊กเช่นกัน
“ตื่นนอนแล้ว ทำอะไรอร่อยๆ ให้เราทานนะ เดี๋ยวหัวไม่แล่น เที่ยงสอบเสร็จ จะรีบกลับมาทานฝีมือแฟนนะครับ” บิ๊กหอมแก้มผม ก่อนจะกลับไปนอนเหมือนเดิม
ผมจะเชื่อในสิ่งที่เราสองคนเป็นอยู่ เชื่อว่ามันต้องมีอนาคตแน่นอน
………………..
หนึ่งปีที่แล้ว...ผมกำลังนั่งที่โซฟาหนังในห้องทำงานของคุณพ่อ คุณแม่ ห้องนี้สำหรับลูกน้องพ่อแม่ผม บรรยากาศไม่ต่างอะไรกับห้องเชือด พ่อกับแม่ผม กำลังมองผมด้วยสายตาแห่งความผิดหวัง เสียงถอนหายใจของแม่ คือการเริ่มต้นเรื่องทั้งหมดของผม
“แทน...ลูกเป็นอย่างที่เป็นข่าวใช่ไหม” ผมพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะตอบกลับ แต่...แม่ลุกขึ้นตบหน้าผมแรงมาก แรงจนผมหน้าหันล้มไปบนโซฟา
“ลูกฉีกหน้าพ่อกับแม่แบบนี้ได้ไง พ่อกับแม่ไม่เคยเลี้ยงเราให้เป็นเด็กใจแตกแบบนี้นะ” เสียงตวาดของพ่อดังขึ้นเป็นไม้ที่สอง
“ผมขอโทษ...ครับ” ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี นอกจากคำนี้
“ลูกทำอะไรลงไป คิดถึงหน้าพ่อแม่บ้างไหม คิดถึงชื่อเสียงตระกูลเราไหม พ่อจะลง สส. สมัยหน้า ตำแหน่งนายก อบต. ของแม่อีกละ ลูกน้องพ่อกับแม่เค้าเอาไปนินทากันถึงไหนแล้ว” แม่ผมเริ่มส่งเสียงตวาดแบบคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“พ่อกับแม่ไม่อยากได้ลูกเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว พ่อมั่นใจว่าไม่ได้เลี้ยงแกมาเป็นแบบนี้” ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะครับ...
“ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด...” ผมไม่ชอบคำนี้เลย มันไม่ใช่ผม
“แล้วไอ้ที่แกไปนอนให้ผู้ชายทำอุบาทว์นั้นคืออะไร!!!” พ่อผมผลักหัวผมจนเซไปกระแทกกับที่วางแขนของโซฟา ผมรู้สึกได้ว่าหัวโนอยู่...เจ็บ น้ำตาแห่งความเจ็บไหลออกมาจนผมคุมไม่ไหวแล้ว
“ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ผมรักพี่เค้าจริงๆ ผมไม่รู้จะบอกยังไงกับคุณพ่อ คุณแม่ ว่าผมชอบผู้ชาย” ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม มันเป็นความรู้สึกที่ผมบอกใครไม่ได้ ปรึกษาใครไม่ได้
“วิปริต...ลูกทำให้พ่อ แม่ ผิดหวังมากที่สุด แม่กับพ่อคุยกันแล้ว จะส่งแกไปหาจิตแพทย์รักษาอาการนี้” ผมผิดปกติใช่ไหม
“จะไม่มีใครต้องไปหาจิตแพทย์ทั้งนั้น!!!” เสียงคุณยาย...ช่วยผมด้วยครับ
“คุณแม่คะ หลานคุณแม่เสียคนก็เพราะคุณแม่ใจดีนี่แหละ” ผมทำให้แม่ต้องทะเลาะกับคุณยายอีกแล้ว
“อะไรคือเสียคน แกรักลูก หรือห่วงแต่หน้าตาตัวเองกันแน่ละ ที่ผ่านมาลูกแกทำอะไรให้แกสองคนบ้าง คิดดูบ้างซิ” ไม้เท้าของคุณยายกำลังกระทืบพื้น จนเสียงดังตามคำพูดที่กำลังปะทะกับแม่ผมอยู่
“ถ้ากลัวคนนินทา ก็ให้แทนไปเรียนกรุงเทพฯ ไม่ก็ต่างประเทศมันซะเลย จะได้ไม่ต้องให้ใครมาพูดถึง” คุณยายครับ ผมขอโทษ...
“นั้นยิ่งไกลหูไกลตานะครับ ขนาดอยู่ใกล้เรา ยังก่อเรื่องงามหน้าขนาดนี้ อยู่ไกลกว่านั้น ไม่ยิ่งกว่านี้เลยเหรอครับ” คุณยายยกไม้เท้าฟาดใส่หัวคุณพ่อ
“พวกแกสองคนเคยทำผิดไหม ถ้าเคยทำ แล้วคนเป็นแม่อย่างฉัน เคยตบตีลูกแบบที่แกทำกับหลานฉันไหม!!! ตอบ!!!” ผมเห็นคุณพ่อกับคุณแม่ กำมือโกรธ
“ถ้าไม่ปล่อยให้เด็กล้มแล้วลุกเอง แทนจะโตเป็นผู้ใหญ่ได้ไง พวกมึงสองตัว ก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เหมือนกัน” คุณพ่อกับคุณแม่ได้แต่อยู่นิ่งๆ ในขณะที่คุณยายตวาดใส่อยู่
“แกสองคนเคยคุยกับลูกบ่อยแค่ไหน เคยกอดมันไหม เคยถามเปล่าว่าลูกคิดอะไร ชอบอะไร แทนเป็นเด็กเชื่อฟัง อยู่ในโอวาท เรียนได้ที่หนึ่ง แกสองคนอยากให้ทำอะไร ลูกแกก็ทำให้ไม่เคยขัด แล้วมีเรื่องแบบนี้ ทำไมแกสองคนไม่คิดจะอยู่ข้างมันบ้างละ ตอบ!!!” ความเงียบของคำถามนี้ ทำให้ทุกอย่างในห้องนี้ตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่คุณยายจะเดินมาหาผม
“ไปเถอะ มาหายายนะ” ผมกลัวครับ...คุณยายประคองผมเดินออกไป
“ดี!!! ให้ทายกันเข้าไป แล้วคุณแม่จะเสียใจ!!!” สิ้นเสียงคุณแม่
“ถ้าแกไม่อยากเลี้ยงลูก ก็ไม่ต้องเรียกแทนว่าลูก ฉันเลี้ยงเองก็ได้” เสียงตวาดของคุณยาย ทิ้งไว้ขณะที่พาผมออกจากห้องทำงานของคุณพ่อ คุณแม่ แล้วกระแทกประตูใส่จนปิดดังมาก
ที่เรือนคุณยาย ผมนอนอยู่ที่ตักคุณยาย...มือของคุณยายที่แห้งกร้านตามแบบผู้หญิงอายุ 80 กว่า กำลังลูบหัวผมช้าๆ
“ผมขอโทษครับ...” คุณยายยังคงลูบหัวผมช้าๆ
“หลานไม่ได้ตั้งใจทำ หลานแค่เจอคนไม่ดีคนนึงในชีวิต” แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ผมต้องรับผิดชอบมัน
“ผมขอโทษ ที่ผมไม่ได้เป็นผู้ชายแบบที่คุณพ่อ คุณแม่หวัง” ผมรู้สึกเกลียดสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่มากๆ คุณยายจับผมลุกขึ้นมากอด
“ยายขอให้หลานเป็นคนดี เพราะหลานเป็นความสุขชิ้นสุดท้ายที่ยายมีอยู่” คุณยายกอดผมไว้
“ยายจะอยู่จนกว่าหลานจะเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่เหลือของยาย คงพอเลี้ยงเราให้โตนะ” ไม่เอานะครับ คุณยายอย่าพูดแบบนี้
“คุณยายต้องไม่ทิ้งผมไปไหนนะ” คุณยายยังคงกอดและลูบหัวผมอย่างเอ็นดู
“ผมควรทำไงกับเรื่องนี้ดีครับ” ผมเองก็คิดไม่ออก คลิปที่หลุดไป สิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน ทำให้ผมรับมือไม่ได้เลย
“จำไว้นะ ไม่มีใครลดคุณค่าของเราได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น หลานไม่ต้องไปสนใจ วันนึง ทุกคนจะเห็นแล้วเข้าใจเองว่า หลานไม่ได้เป็นอย่างนั้น” ครับ...ผมจะจำไว้
“หลานไม่ได้เป็นตุ๊ด ไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ้า หลานเป็นผู้ชาย สำหรับยาย หลานน่ารักมาก และหล่อมากด้วย” ขอบคุณครับคุณยาย
“แต่ผม...ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะครับ ผมจะเป็นผู้ชายได้เหรอครับ” คุณยายถอยผมออกจากกอด แล้วเช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าประจำตัวของท่านให้ผม
“หลานก็ไม่ได้ทำอะไรตุ้งติ้งแบบกระเทยนี่ ฉะนั้นหลานเป็นผู้ชายแน่นอน ถึงยายจะแก่ แต่ยายก็ไม่ได้ตกโลกนะ ถ้าหลานรักและชอบเพศเดียวกัน ยายเปลี่ยนอะไรที่เป็นหลานไม่ได้หรอก สิ่งเดียวที่ยายอยากได้จากหลานคือ ยายต้องมั่นใจว่า หลานคนเดียวของยายคนนี้ โดขึ้นแล้ว จะอยู่ได้อย่างมั่นคง มีความสุข แค่นี้ยายก็หมดห่วงแล้ว” รอยยิ้มบนใบหน้าที่ผ่านโลกมานานขอบคุณยาย เปี่ยมด้วยความหวังที่มีให้ผม จนผมรู้สึกเกลียดตัวเอง ที่ก่อเรื่องงามหน้าแบบนี้
“ตั้งใจอ่านหนังสือ สอบเข้าโรงเรียนดีๆ ที่กรุงเทพฯ ให้ได้นะ ลืมเรื่องไม่ดีที่นี่ แล้วเริ่มต้นใหม่นะ ถ้าพ่อแม่เราไม่ตกลง ยายจะออกค่าเรียน ค่ากินให้เองทั้งหมด จะเรียนถึงด็อกเตอร์ ยายก็ออกเงินไหว” คุณยายลูบหัวผมด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยหายไปจากใจผม
“ผมจะไม่ทำให้คุณยายผิดหวังนะครับ” ผมกอดคุณยายอีกครั้ง
“หลานเป็นเด็กดีสำหรับยายเสมอนะ”“แทนๆๆๆ เป็นไรอะ แทนๆๆๆ” เสียงบิ๊ก...ผมฝันอีกแล้ว ผมตื่นขึ้น กอดบิ๊กแน่นๆ ปล่อยน้ำตาที่จมในใจผมนานออกมาเต็มที่
“ช่วยเราด้วย...” บิ๊กกอดผมแน่นมาก มือของบิ๊กลูบหัวผมเบาๆ บิ๊กกดจูบที่กระหม่อมผมค้างไว้
“ฝันร้ายเฉยๆ เราอยู่นี่นะ แทนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” บิ๊กพูดขณะยังกดจูบที่กระหม่อมผมค้างไว้อยู่
“กอดเราไว้แบบนี้ได้ไหม” ผมร้องไห้เหมือนคนขวัญเสีย บิ๊กกดจูบแรงขึ้นอีกนิด เพื่อบอกผมว่าทุกอย่างจะปลอดภัย
อย่าปล่อยเรานะ...เราไม่อยากคิดถึงมัน ไม่ว่าจะเวลาไหน ขอให้ผมรับรู้แค่ปัจจุบันก็พอ...
**********
บทที่ 29 ขออนุญาตไม่กำหนดเวลาแน่นอนนะครับ อาจจะลงตอนบ่ายของวันอังคาร หรืออาจเป็นตอนดึกๆ เพราะตารางวันจันทร์ถึงพุธแกว่งจนไม่แน่นอนมากครับ แต่ได้อ่านอย่างช้าสุดวันพุธแน่นอนครับ
ตอนนี้เขียนถึงบทที่ 35 บทสุดท้ายที่จะอ่านแล้วยิ้ม หวาน ก่อนที่มรสุมใหญ่จะมาอีกหลายบทเลยครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับผม^^