Because of you ซน ตอนที่ 29 back to the start
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์น่านฟ้าดังขัดจังหวะเราทั้งคู่ มันเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูชื่อก่อนจะกดรับ
“ว่าไงแอล” น่านฟ้ากรอกเสียงลงในโทรศัพท์พร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือผม มันยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ก่อนจะพรมจูบลงที่ปลายนิ้วผม
“สกปรก” ผมด่ามัน “น้ำลายมึงอ่ะ” แล้วตีไปที่ปากไอ้น่านทีนึงก่อนจะยื่นมือไปเช็ดที่เสื้อไอ้คนที่กำลังนอนหัวเราะอยู่
“มึงใจเย็นๆ...” น่านฟ้าไม่ได้คุยกับผม แต่สีหน้าดูเครียดลงจากเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด “เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูคุยกับไอ้โก้ให้....ทำไมวะ...กูไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นคนแบบนั้น....โอเค....ให้กูไปหาเดี๋ยวนี้เลยเหรอ....เปล่าไม่มีอะไร....” น่านฟ้าหันมามองหน้าผมก่อนจะลุกขยับลุกขึ้นนั่งดีๆ
ผมเลิกคิ้วถามไอ้น่านประมาณว่ามีอะไร มันก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วจูบลงมาที่ปากผมเป็นคำตอบแทน
“อยู่กับซน...ไม่เป็นไร..ไอ้ซนมันเข้าใจ งั้นเดี๋ยวกูไปหามึงที่ห้องนะ...เลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวกูรีบไป” น่านฟ้าวางโทรศัพท์พร้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“พี่แอลเป็นหนักเหรอวะ”
“อื้อ ร้องไม่หยุดเลย...มึงไปแต่งตัวใหม่ไปจะได้ออกไปกันเลย” น่านฟ้าลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือมาฉุดผมให้ลุกขึ้นตาม
“ไม่อยากไปเลยอ่ะ”
“ทำไมล่ะ...ไปด้วยกันเถอะนะ...” ผมยังเงียบอยู่ไม่อยากรับปากมันเลย “นะครับ”
แล้วดูมันดิบทจะอ้อนขออะไรสักอย่างก็ดูน่าสงสารจริงๆนั่นแหละ “เออ ก็ได้”
ผมรับปากมัน ทั้งๆที่ในใจรู้ดีว่าไม่อยากไปเลยสักนิด มันรู้สึกหวิวแปลกๆ ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมไหม แต่เวลาที่ผมรู้สึกไม่ดีแบบนี้ทีไรมักจะเกิดเรื่องไม่ดีทุกครั้ง
“ถ้างั้นก็ไปแต่งตัว” น่านฟ้าดันตัวผมให้เดินขึ้นไปบนห้อง ตอนที่กำลังเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมดันนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่มันบอกว่าจะเล่าอะไรสักอย่างให้ผมฟัง
“น่าน แล้วเรื่องที่มึงบอกว่าจะเล่าให้กูฟังล่ะ...”
“เอาไว้...”มันขมวดคิ้วทำหน้าเครียด ก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยแก้มผมอย่างเบามือ “กลับมาแล้วเดี๋ยวกูเล่าให้ฟังทีเดียวล่ะกัน”
“ทำไมวะ เล่าตอนนี้เลยดิ เรื่องมันยาวเหรอ”
“ก็ไม่ได้ยาวขนาดนั้น.. แต่รายละเอียดมันเยอะว่ะ เรื่องแบบนี้ถ้ารีบร้อนเล่ากูกลัวว่ามึงจะเข้าใจแบบผิดๆ ยิ่งเป็นพวกชอบคิดเองเออเองอยู่ด้วย”
“ตลกและไม่ใช่กูเหอะ” ผมผลักมือไอ้น่านออกจากหัวแล้วเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องนอน เสื้อผ้าผมจริงๆไม่จำต้องเปลี่ยนอะไรมากมายหรอกครับ แต่น่านฟ้ามันไม่ชอบให้ผมใส่เสื้อกล้ามออกไปข้างนอก ผมเองก็ไม่ชอบหรอกครับ แดดร้อนขนาดนี้
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ มันก็พาผมขับรถมาที่หอพี่แอล ก่อนมาที่หอ เราสองคนแวะส่งไอ้เงินกับไอ้ทองที่บ้านก่อน ตอนที่ม๊าเห็นลูกชายผมโดนตัดเกรียนแทบจะกรี๊ดด่าผมว่าทำไมทำกับเงินทองแบบนั้น แต่จะให้ทำไงอ่ะก็ขนยาวแบบที่ม๊าชอบมันดูไม่เข้ากับลูกชายผมเลยสักนิด
พวกเราแวะซื้อเครื่องดื่มของมึนเมากับของกินที่โลตัสก่อนจะไปหาพี่แอล ซื้อกันไปหลายอย่างมาก เลือกเพลินจนคิดว่าจะย้ายสัมมะโนครัวมาที่นี้ด้วยซ้ำ
“อีซน” เรียกแบบนี้มีคนเดียว
“ว่าไงหมวยมึงมาทำไรแถวนี้วะ แล้วใส่ชุดนักศึกษา??? ทำเพื่อใคร”
“มึงนี่มันกวนตีนนะคะอีดอกซน กูมาถ่ายรูปค่ะ ทำเรื่องขอย้ายวิทยาเขต” ผมทำหน้างงจนไอ้หมวยเบ้ปาก “มัวแต่อยู่กับผัวจนไม่รู้เรื่องรู้ราวของโลกเลยสินะคะอีดอก”
ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าหมวยเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักมาก แต่คำพูดมันทำให้คำว่าน่ารักหายไปเกินครึ่ง แต่เห็นแบบนี้ดังมีผู้ชายเข้ามาจีบมันเยอะกว่าผู้หญิงเรียบร้อยปกติทั่วๆไปอีก
“อะไรของมึง” ผมเฉไฉเรื่องที่มันพูดออกมาเมื่อกี้
“คิดว่ากูโง่และไร้สมองเหมือนมึงเหรอซน เรื่องพี่น่านผัวมึงที่เป็นที่ต้องการของเหล่าชะนีดันกินกับมึงเนี่ย มึงคิดว่ากูดูไม่ออกคะ”
“มึงพูดเรื่องอะไร กูไม่เข้าใจ” ผมยังพยายามจะปิดความลับที่มันไม่ลับต่อไป แม้ว่าสายตาหมวยมันจะรับไม่ได้กับอาการปฏิเสธผมก็เถอะ
“โอ้ยยยย มึงยังจะไม่เข้าใจอะไรอีกคะอีซน เขาอิจฉามึงกันทั้งบางล่ะค่า ไม่เห็นต้องทำหน้าเขินอายปฏิเสธอะไรแบบนั้นก็ได้...แล้วนี่พี่น่านไปไหนวะ ปล่อยมึงมาเดินคนเดียวไม่มีปลอกคอแบบนี้ได้ไง”
“ไม่รู้มัน”
“นั่นไง ยอมรับแล้วล่ะสิว่าเป็นแฟนกับพี่น่าน” ผมว่าตอนแรกไอ้หมวยมันแค่ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของผมกับไอ้น่านแน่ๆ แต่ตอนนี้มันคงรู้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ว่าผมกับไอ้น่านเป็นแฟนกันจริงๆ
“มึงเยอะและหมวย สรุปว่าเรื่องย้ายวิทยาเขตคืออะไรวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ เบื่อจะพูดเรื่องที่ทำให้หน้าสูบฉีดถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติแต่ผมก็ยังรู้สึกอายอยู่ดีที่มีคนพูดว่าผมกับน่านฟ้าเป็นแฟนกัน
“จริงๆกูก็เพิ่งรู้เมื่อวานก่อน เขาบอกว่าวิทยาเขตชุมพรจะเปิดสาขาวิศวะ แล้วก็จะให้พวกเด็กปวส.ย้ายไปเรียนวิทยาเขตชุมพรตั้งแต่เทอมหน้า” ผมทำหน้าอึ้งๆเพราะผมเป็นเด็กที่มาจากปวส. “อย่าพึ่งทำหน้าตอแหลขนาดนั้นค่ะ เขาอนุโลมให้ว่าปีนี้เขาไม่บังคับให้ไปทุกคน แล้วแต่สมัครใจว่าใครจะไปบ้าง”
“แต่มึงไม่ได้เรียนปวส.เหมือนกูไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่ แต่จารย์เขาก็ไม่ได้จำกัดนี่ว่าเด็กสายปกติแบบกูไปเรียนไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กจากจังหวัดภาคใต้ไปนั่นแหละ” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ไอ้หมวยพูด ผมไม่เคยรู้ว่ามันเป็นคนใต้
“มึงเป็นคนใต้”
“ใช่ค่ะ”
“จังหวัดไรวะ”
“เชียงใหม่ไง”
“ เชียงใหม่?? แม่งใต้ยังไงวะ”
“ใต้เชียงรายไงคะอีดอก อ่าวนั่น..พี่น่านนี่นา พี่น่านๆ ทางนี้ค่ะ ทางนี้” หมวยโบกไม่โบกมือตะโกนเรียกน่านฟ้าโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ที่ดูน่ารักของตัวเองสักนิด”สวัสดีค่ะพี่น่าน”
“อ่าครับ”
“มากับใครคะเนี่ย” มันจะแกล้งถามทำไมวะทั้งๆที่แม่งรู้อยู่เต็มอกว่าไอ้น่านมากับผม
“มากับแฟนครับ” ผมเหล่ตามองไอ้น่านทันทีที่มันพูดจบ มันยิ้มกวนตีนก่อนยักคิ้วส่งมาให้
“อุ้ยตายแล้ว แฟนพี่น่านคนไหนคะเนี่ย”
“ก็แถวๆนี้แหละครับ แต่ไม่อยากพูดมากเพราะแฟนพี่มันเป็นคนขี้อาย” พอได้ยินคำว่าอายเท่านั้นและ ไอ้หมวยมันทำหน้ารับไม่ได้ทันที
“ขี้อาย?? พี่น่านแน่ใจนะว่ามันขี้อายจริงๆ มันหลอกพี่หรือเปล่า น้ำหน้าอย่างอีซนอายเป็นด้วยเหรอพี่”
“หมวย” นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นผู้หญิง ผมคงด่าไปแล้ว
“โอเค พอหอมปากหอมคอก็ได้ค่ะอีซน แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำขึ้นเสียงใส่ เชอ ไปดีกว่าเบื่อคนมีความสุข” หมวยยกมือไหว้ไอ้น่านอีกทีก่อนจะหันมายกมือบ๊ายบายผม
“มึงกวนตีน”
“เปล่ากวน หมวยมันรู้อยู่แล้วว่ามึงกับกูเป็นไรกัน” ก็เพราะไอ้ท่าทางแสดงออกแบบนอกหน้าที่มึงกำลังทำอยู่นี่ไง เขาถึงรู้กันทั่วไปหมด
“เออช่างแม่งเหอะ ซื้อของหมดแล้วก็รีบไปกันได้แล้ว ป่านนี้พี่แอลคงรอแย่” ผมเดินไปเข็นรถนำหน้ามันไปที่เคาเตอร์จ่ายตังค์ ก่อนจะพากันขับรถมาหาพี่แอลที่หอ ไอ้น่านบ่นใหญ่โตเรื่องหอผมที่ไม่มีที่จอดรถและห้องแคบ จะให้ไปห้องใหญ่และมีที่จอดรถเหมือนหอพี่แอลได้ไง ก็หอที่พี่แกเช่าอยู่มันเป็นคอนโดราคาเป็นหมื่น ส่วนหอผมมันเป็นหอพักนักศึกษาที่คนปกติทั่วไปเขาอยู่กัน
เสียงเคาะประตูของน่านฟ้าทำให้คนที่อยู่ภายในห้องตะโกนกลับมาว่าให้รอแป๊บนึง ผมยืนพิงพนังข้างๆประตูรอพี่แอลมาเปิด ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงประตูก็ไม่วายยื่นมือมาเล่นหัวผม
“ทำไมชอบเล่นหัวกูจังวะ”
“มึงเองก็ชอบเล่นหัวกูเหมือนกันเถอะ กูรู้นะว่ามึงคิดว่าหัวกูเหมือนขนหมา” แม่งแสนรู้จริงๆ
แกร๊ก
“น่าน....ฮึก...” พี่แอลเปิดประตูออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้ ผมจะไม่แปลกใจเลยสักนิดหากพี่แอลไม่โผเข้ากอดไอ้น่านเต็มแรงแบบนั้น ผมหันไปมองเขาสองคนแบบงงๆ แต่ไอ้น่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการบอกว่าไม่เป็นไร
ผมเข้าใจอยู่ว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันและการกอดเพื่อปลอบแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะที่ผู้ชายเขาทำกันก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น
“ซน....มาด้วยเหรอ” แล้วทำไมพี่แกต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยวะ กะอีแค่ผมมาด้วย
“ครับพี่...” ผมพูดตอบกลับไปพร้อมยกมือไหว้พี่เขา ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม แต่สายตาที่แอลส่งมาให้มันมีแว่บนึงที่เขาไม่ค่อยพอใจในตัวผมเท่าไหร่ แต่มันก็แค่แว่บเดียว
พอเดินเข้ามาในห้อง น่านฟ้าก็เข้าไปตรงโซนครัวหยิบกระติกน้ำแข็งมาใส่น้ำแข็งก่อนจะเดินไปหยิบแก้ว พี่แอลเดินเข้าไปช่วยทั้งๆที่หน้าตาไม่ได้ดูโอเคนัก ส่วนผมได้แต่ยืนเงอๆงะๆเหมือนเป็นส่วนเกินของห้อง
“พี่แอลมีอะไรให้ผมช่วยไหมพี่”
“ไม่ต้องๆ...ซนนั่งดูโทรทัศน์ไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่กับน่านเตรียมของกินไปให้” ในเมื่อเขาไม่อยากได้ความช่วยเหลือ ผมเองก็ไม่ใช่พวกขัดศรัทธาคนอื่นด้วยสิ เลยขยับนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเปิดโทรทัศน์ดูไปเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังมาจากทางห้องครัว พี่แอลกำลังยิ้มทั้งๆที่ตาบวมเพราะน้ำตา คนอย่างไอ้น่านใครได้อยู่ใกล้ก็คงมีความสุขกันหมด
“แล้วพวกไอ้ป็อบไอ้บาสล่ะ” น่านฟ้าถามขึ้นตอนที่มันเอาของกินมาวางไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง
“พวกมันไม่มา แม่งไม่ห่วงกูเลยสักคน...ทั้งๆที่กูอกหักแท้ๆ” สีหน้าพี่แอลดูเศร้าจนปิดไม่มิด ยิ่งผสมกับการถูกซ้ำเติมจากเพื่อนที่ไม่สนใจอีกสองคนพี่แอลคงจะรู้สึกแย่ไม่มากก็น้อย
“ที่นั่งมีตั้งกว้างมึงจะมาเบียดกูทำไมวะ” ผมละสายตาจากพี่แอลมาด่าไอ้คนตัวใหญ่ที่กำลังนั่งเบียดผมอยู่“น่านฟ้า”
“ขอพิงหน่อย”
“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าพิงแล้ว เขาเรียกว่าเบียด...ฮึ้ยยยย” น่าหมั่นไส้ ผมส่ายหัวแล้วเอื้อมมือไปขยี้หัวมันเต็มแรง น่านหัวเราะเบาๆพร้อมกับวางคางไว้บนบ่า ลมหายใจร้อนผ่าวประทะที่แก้มจนผมอดไม่ได้ที่จะเอียงแก้มหนี “หนีไมครับ”
“พี่แอลอยู่”
“อายไร เพื่อนกัน”
“มึงมันโรคจิต...เอามือถือมึงมาหน่อยจะเล่นเกมส์” ไอ้น่านเพิ่งซื้อไอโฟนหกสีทองมาใหม่ เวลาเล่นเกมส์แล้วมันส์มือมากครับ ผมโหลดคุกกี้รันมาเล่นโดยใช้ชื่อน่านฟ้าเป็นคนล็อคอินซึ่งตัวคุกกี้ในมือถือมันดีกว่าของผม
“น่าน!!!! มาช่วยกูยกเหล้าหน่อยดิ” พี่แอลดึงความสนใจจากน่านฟ้าไปที่ตัวเอง ได้ยินเสียงไอ้น่านถอนหายใจนิดๆแต่ก็ยอมเดินไปช่วยยกของมาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้อง
หลังจากที่ช่วยกันเตรียมกับแก้มมาพักใหญ่ ผม น่านฟ้า แล้วก็พี่แอล ก็ได้เวลากินเหล้าเคล้ากับแก้มกันสักที ส่วนใหญ่ไอ้น่านจะเป็นคนชงเหล้า มันไม่ได้กินเยอะเพราะว่าต้องขับรถ พี่แอลกวนประสาทผมใหญ่ว่าทำไมผมไม่ขับเอง ทั้งๆที่ผมก็บอกไปแล้วว่าเดี๋ยวขับให้ แต่น่านฟ้ามันปฏิเสธ สุดท้าย คนที่กินจริงๆจังๆก็คงมีแต่ผมกับพี่แอล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนบอกไอ้น่านเองว่าไม่อยากกินเหล้า
“กูเสียใจว่ะ..กู...ฮึก...ไม่น่าสารภาพกับมันเลยว่ากูชอบมัน”
“มึงก็ใจเย็นก่อนเถอะแอล โก้มันไม่น่าเป็นคนแบบนั้น เอาไว้เดี๋ยวกูคุยกับมันให้” ผมพยักหน้าเห็นด้วย เพราะผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าคนอย่างพี่โก้จะนิสัยแย่ถึงขนาดนี้
“มึงไม่ต้องคุยกับมันเรื่องกูหรอกน่าน พูดไปมันก็ยิ่งจะเกลียดกูมากขึ้น...ฮึก...มึงเชื่อไหมไอ้โก้..มันตบกูด้วย มันด่ากู ว่ากูมันน่ารังเกียจ...น่าขยะแขยง...ฮึก” ถ้าผมเป็นพี่แอล ผมคิดไม่ออกเลยว่าผมจะรู้สึกยังไง
ในชีวิตผมผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่างเพื่อนๆผมที่มันแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเอง เขาไม่เคยพูดจาด่าว่าเพื่อนอีกคน เขาอาจจะแค่พูดออกมาว่าไม่ได้ชอบแบบนั้นแต่ก็ไม่เคยมีใครสักคนที่แสดงท่าทีขยะแขยงและรับไม่ได้แบบนี้ ผมมองว่าถ้าเราเป็นเพื่อนกันแล้ว เราไม่น่าจะเกลียดกันด้วยเรื่องแค่นี้ ยิ่งเป็นเพื่อนกันมาหลายปีด้วย มันยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
“แอล..ไม่ต้องเสียใจหรอกวะ คนอย่างมึงหาได้ดีๆกว่าไอ้โก้เยอะ”
“กูรู้...เออว่าแต่มึงมีบุหรี่สักตัวไหมวะ ของกูหมดพอดี”
“กูไม่ได้เอามาว่ะ เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าช่วงนี้กูจะลดๆ ไอ้ซนมันไม่ชอบกลิ่น” ผมเอียงคอหันไปมองหน้าน่านฟ้า เพราะผมเองก็เพิ่งจะรู้เนี่ยแหละว่ามันลดบุหรี่ ถึงว่าไม่ค่อยได้กลิ่นบุหรี่จากตัวมันเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ผมเคยบ่นมันเรื่อยๆว่าไม่ชอบกลิ่น ยิ่งมันสูบเสร็จแล้วมาจูบผม ผมยิ่งไม่ชอบ แต่ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะลดให้ผมได้จริงๆ “กูน่ารักใช่ไหมล่ะ”
ยังไม่ได้พูดอะไรน่านฟ้าก็หันมายิ้มตาหยีใส่ผมและ
“เหอะน่ารักตาย” ผมยิ้มตามมันพร้อมกับยกมือขึ้นเกาคางไอ้น่านเบาๆ มันเองก็เองคอตามราวกับอ้อนผม
“น่าน!!! กูบอกว่ากูอยากดูดบุหรี่ไง” ผมกับน่านฟ้าเลิกสนใจกันและกันแล้วหันไปมองพี่แอลที่กำลังมองเราอยู่ “มึงไปซื้อให้กูได้หรือเปล่าน่าน”
“อะไรวะ...” น่านฟ้าขมวดคิ้วไม่พอใจหน่อยๆแต่ก็เป็นผมที่ดึงเสื้อมันไว้ก่อน
“ไปเถอะ กูฝากซื้อไอติมด้วย”
“เอารสอะไรอ่ะ” น่านฟ้าเลิกสนใจพี่แอลแล้วหันมามองหน้าผมแทน
“อยากกินคอนเนตโต้ รสช็อคโกแลต ถ้าไม่มีเอาช็อคชิบ หรือ สตรอเบอรี่ก็ได้”
“โอเคได้” มันพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์ผม เวลาที่ผมกำลังเล่นโทรศัพท์มันอยู่น่านฟ้ามันจะรู้อัตโนมัติว่าโทรศัพท์ผมที่ว่างอยู่มันสามารถเอาไปใช้ได้ “มึงเอาบุหรี่ยี่ห้อเดิมใช่ไหมแอล”
“อื้ม”
“โอเคงั้นเดี๋ยวกูมา” ไอ้น่านพูดพร้อมกับขยี้หัวผมก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมกับพี่แอลต่างคนก็ต่างมองมันจนปิดประตู รู้ตัวอีกทีสายตาเราทั้งคู่ก็หันมาสบกันแล้ว พี่แอลถอนหายใจออกมาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมือ โดยปกติผมกับพี่แอลก็ไม่ได้สนิทกันขนาดหรอกครับ ยิ่งช่วงหลังจากที่ผมกลับมาเป็นแฟนน่านฟ้าคราวนี้ดูเหมือนอะไรๆก็แปลกๆไปหมด ตอนที่ไปหนองคายพี่เขายังไม่ทำสีหน้าไม่พอใจใส่ผมมากเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร และผมเองก็ไม่อยากกวนใจเขามากไปกว่านี้ด้วย
“ซน...” จนเป็นเขาเองที่เรียกผม
“ครับ???” ผมขานรับพร้อมกับเงยหน้ามองพี่แอล
“อยู่กับไอ้น่านแล้วเป็นไงมั่งวะ”
“ก็ดีนะครับ มันเอาใจเก่ง แต่ก็ขี้บังคับปกตินิสัยมันนั่นแหละ”
“หึ มันก็เป็นคนแบบนี้” พี่แอลเงียบอีกครั้ง เขารินเหล้าลงแก้วแล้วตามด้วยโซดาก่อนจะใช้ที่คีบน้ำแข็งแกว่งเบาๆให้เหล้าผสมกัน
“ว่าแต่...น่านมันเคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับกูให้มึงฟังไหมซน” ผมเงียบเพราะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พี่แอลพูดหมายถึงอะไร “มันเคยบอกมึงไหมว่ามันปิดบังอะไรมึงไว้บ้าง”
“พี่กำลังจะพูดถึงอะไรพี่แอล”
“เปล๊า กูก็แค่ถามดูว่าน่านฟ้ามันเคยบอกมึงไหมว่ามันเป็นคนปล่อยรูปมึงให้น้องเอยดู” น่านฟ้าไม่เคยบอกแต่เรื่องนี้ผมรู้เอง น้องเอยเป็นคนพูดออกมาเอง
“เรื่องนี้ผมรู้...”
“งั้นเหรอ...”พี่แอลเงียบไปนิดนึงก่อนจะช้อนตาขึ้นมองหน้าผม “แต่มันคงไม่เคยพูดสินะ...”
“.......”
“ว่ากูกับมันเคยมีอะไรกัน” สิ่งที่ผมได้ยินตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พี่แอลพูดออกมามันไม่ได้มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ผมไม่อยากแสดงให้เขารู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกแย่แค่ไหน ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในอกผม
“..........”
“กูไม่ได้อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้มึงฟังหรอกนะซน....” พี่แอลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง ดวงตาแดงกร่ำจ้องมองไปที่อื่น...แล้วหันกลับมามองหน้าผมอีกรอบ “แต่กูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“.........”
“มึงรู้ไหมซนจริงแล้วกูไม่ได้ชอบโก้...คนที่กูชอบมาตลอดคือไอ้น่าน...ไม่สิ...ต้องพูดว่าจริงๆแล้วกูกับน่านเรารักกันมาก่อนที่มึงจะเข้ามาด้วยซ้ำ...แต่พอมึงเข้ามามันก็ทิ้งกู...มันโผเข้าไปหามึงโดยไม่ลังเลด้วยซ้ำ...และมันเป็นคนวางแผนให้กูดึงไอ้โก้เข้ามาเพื่อหลอกมึง ให้มึงคิดว่ากูชอบโก้”
“ผมไม่เข้าใจ...” ผมแค่รู้สึกว่ามันขัดแย้งกันเพราะทั้งพี่ป็อบ พี่บาสเขาเองก็เข้าใจไปในทางเดียวกับผม น่านฟ้าเองก็ไม่น่าจะใช่คนร้ายกาจขนาดที่ยอมทิ้งคนที่รักมาหาผมคนที่เข้ามาใหม่แบบนี้แน่ๆ
“มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอซน น่านมันเป็นคนเจ้าแผนการ ในเมื่อมันอยากได้อะไร มันก็ต้องได้ แล้วสิ่งที่มันทำคือเขี่ยกูออกให้พ้นทาง มันให้กูหลอกใช้โก้...กู..ไม่ได้อยากทำแบบนี้ซน..โก้มันเป็นเพื่อน แต่มันผิดตรงที่มันมารักกู ส่วนมึงก็เป็นคนที่น่านต้องการ...มันไม่อยากให้มึงรู้เรื่องของกูกับมัน...สุดท้ายมันก็เลยให้กูทำแบบนี้” ผมเงียบเพราะสิ่งที่รับรู้มามันกำลังตีกันไปหมด ผมรู้ว่าน่านมันเป็นคนแบบไหน ผมรู้ว่าคนแบบมันยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง แล้วผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะทำแบบนี้
“แล้วทำไมพี่ถึงมาบอกผมตอนนี้” ทำไมพี่เขาไม่บอกผมตั้งแต่ทีแรก เขาน่าจะบอกผมตั้งแต่ก่อนที่ผมกับมันจะมีความสัมพันธ์ที่ลงลึกขนาดนี้
“กูเคยบอกมึงไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไง บอกไปแล้วว่ากูชอบน่าน...มึงคงคิดว่าสิ่งที่กูพูดตอนนั้นมันเป็นละคร แต่สิ่งที่กูพูดตอนนั้นกูพูดความจริงซน แต่มึงก็ยังกลับมา...มึงกลับมาทำไมวะ...กลับมาเพื่อมาแยกกูกับไอ้น่านอีกครั้งงั้นเหรอ....ฮึก...ซน...ฮึก...ปล่อยน่านกลับมาหากูเถอะนะ...ให้มันกลับมาหากู...ถือว่าสงสารกูเถอนะซน...ฮึก...ฮือ...กู...ไม่ไหวแล้วจริงๆ”
จู่ๆคำพูดไอ้น่านก็ดังขึ้นมาในหัว คำพูดที่มันเคยบอกว่ายังมีเรื่องบางเรื่องที่มันไม่ได้เล่าให้ผมฟัง ผมคิดว่าบางทีเรื่องที่น่านฟ้าจะเล่าอาจจะเป็นเรื่องนี้ก็ได้
แกร๊ก
“ซนคอนเนตโต้รสช็อคโกแลตไม่มีว่ะ กูเลยซื้อช็อค...ชิบ...มา...มีอะไรกันหรือเปล่า มึงร้องไห้อีกแล้วเหรอแอล” จู่ๆไอ้น่านก็โผล่พรวดเข้ามาในห้อง ผมกับพี่แอลเรายังคุยกันไม่จบ แต่ผมเองก็ไม่ไหว ไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว
“กู..กลับแล้วนะ”
“อ่าว...อะไรวะ” ผมเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องมาโดยไม่หันไปลาพี่แอลสักคำ ได้ยินเสียงไอ้น่านวิ่งตามมาจนถึงหน้าลิฟท์ “ซน”
“อื้ม”
“มึงเป็นอะไร....จู่ๆก็วิ่งออกมา”
“เปล่า แค่อยากกลับหอน่ะ...” ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้น่าน พยายามอย่างมากที่จะยิ้มออกมาให้กว้างที่สุด
“อ่าว ไม่กลับไปนอนบ้านเหรอ พรุ่งนี้วันอาทิตย์” ผมส่ายหน้าให้มันเป็นคำตอบ
“ไม่สบายหรือเปล่า...”
“เปล่า...”
“หรือว่าไม่ได้กินเหล้านาน มึงปวดหัวใช่ไหม”
“น่าน..”
“ห้ะ”
“เรา...เลิกกันดีไหม”
>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<
น้องซนโดนพี่แอลทำพิษอีกแล้ว ประเด็นคือน้องจะฟังความจริงจากพี่น่านไหม (ดราม่าเอยจงซับซ้อน)
ติดตามชม(ดราม่า)กันต่อไป (ควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเอาคำว่า drama ไว้ข้างหน้าดีไหม)
ปล.ขอบคุณสำหรับคำผิดนะคะ