บทที่20
เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ ดีทริชกับเซซิลถึงได้หยุดพักการเรียน โนเอลบอกว่าเสาร์และอาทิตย์จะเป็นวันปล่อยสบาย
ในทางกลับกันโนเอลแทบไม่มีวันหยุด แต่ว่าวันนี้ช่วงเช้าอีกฝ่ายว่างพอที่จะใช้เวลาร่วมกับเขา
ตอนแรกคิดว่าโนเอลจะเข้ามาวุ่นวาย แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลยหมอนี่พาเขาไปร้านหนังสือ พร้อมกันกับเซซิลนั่นแหละ
ร้านที่พามาชื่อว่าcartoon maniaเป็นร้านหนังสือชั้นนำที่อยู่ทุกมุมเมืองบนจูปิเตอร์ ทันทีที่เข้าไปในร้านดีทริชเดินไปหาแบบเรียนสำหรับมัธยมต้น
เขาอยากจะศึกษาล่วงหน้าก่อนที่จะเลื่อนชั้นไปเรียนในอีกไม่กี่เดือน การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งที่ดีทริชทำอยู่เสมอ
“ขยันดีนี่” โนเอลยื่นหน้ามาจากด้านหลัง “ฉันจะซื้อให้ แล้วก็มีหนังสือแนะนำให้นายอ่าน เราสองคนจะได้รู้จักกันมากขึ้น”
โนเอลลากดีทริชไปยังจุดวางหนังสือ มองให้ดีๆ ตรงนั้นเป็นจุดรวมหนังสือการ์ตูนจำนวนมาก เซซิลหยิบเลือกหลายเล่มส่งให้ลูกน้องชุดดำรับไป
“มาทางนี้” โนเอลลากดีทริชไปข้างๆ เซซิลจัดการยัดเยียดหนังสือการ์ตูนภาพสีมาให้เล่มหนึ่ง
เปิดดูอย่างเสียไม่ได้ ข้างในมีเนือหาเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นเพศเบต้าพลังตื่นขึ้นมาด้วยการถูกจับทดลองด้วยองค์กรลับของตัวร้ายที่เป็นอัลฟ่าเผ่าปีศาจ
“นายอ่านของแบบนี้หรือโนเอล” โนเอลยิ้มพลางหยิบหนังสือทุกเล่มในซีรีย์ยื่นส่งให้ลูกน้อง
ตกลงว่าบังคับให้เขาอ่านสินะ
“เรื่องนี้สนุกนะฉันซื้อผ่านแอ๊ปคิดว่านายน่าจะชอบ”
“ฉันไม่ชอบอ่านการ์ตูน”
“ทำไม” โนเอลตั้งคำถาม ดีทริชนิ่งคิดที่ไม่ชอบเพราะมันเป็นของฟุ่มเฟือย อีกอย่างเอฟเว่นเองก็ไม่อ่านเหมือนกันเพราะพ่อของเพื่อนสนิทไม่ชอบหนังสือประเภทนี้ เขาเลยไม่รู้สึกว่าควรต้องขวนขวายหาอ่านเหมือนคนรุ่นเดียวกัน
“มันเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แม่ไม่ได้มีเงินให้ฉันขนาดนั้น”
“ถามหน่อยสิความบันเทิงในชีวิตนายคืออะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่นดูละครเข้าโรงหนังฟังโอเปร่า”
ดีทริชขมวดคิ้ว
“มันจะเป็นไปได้ยังไงใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้น แค่ละครทางโทรทัศน์ยังไม่ว่างดูเลยฉันดูแต่ข่าวเท่านั้นแหละ”
ก็เวลาว่างส่วนใหญ่นำไปใช้หาเงิน ถ้าว่างจริงๆ จะทบทวนบทเรียนดูข่าวมีแค่นี้จริงๆ
“นายใช้ชีวิตได้แห้งแล้งมาก” คำพูดของโนเอลชวนให้หงุดหงิดนิดหน่อย เขาไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตตัวเองขาดอะไรไปนี่นา
“เหมือนคนแก่” เซซิลทำเสียงเยาะหยันไม่รู้ฟังนานเท่าไหร่แล้ว
“นี่ถือว่าเอาบุญร้านหนังสือนี่เป็นของฉันทุกสาขา ถึงแม้ว่าท่านพี่จะเป็นคนบริหารก็ตาม ฉันอนุญาตให้นายหยิบหนังสือได้ตามใจชอบ”
“ท่านพี่ขา มาดูนี่สิคะ น่ากรี๊ดมากเลย” เซซิลยื่นหนังสือมาให้โนเอล สองพี่น้องสุมหัวกันเหมือนเด็กๆ ยิ่งกว่าจินตนาการไว้เสียอีกไม่คิดเลยว่าสองพี่น้องจะเป็นพวกcartoon mania
“ดีทริชมาดูตรงนี้สิ” โนเอลกวักมือเรียกไปสุมหัว ไม่คิดว่าจะได้รับการเผื่อแผ่ขนาดนี้ แต่เซซิลยังเหมือนเดิมดูฮึดฮัดไม่พอใจ
“ไม่รู้ว่าตาแก่หัวโบราณจะชอบไหมนะ” ยังแขวะเหมือนเดิม
แต่จะว่าไปเมื่อได้ฟังโนเอลเล่าด้วยเสียงเรียบเรื่อยพร้อมภาพประกอบดีทริชก็สนใจเจ้าหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
“สนใจสินะ” โนเอลยกยิ้มมุมปาก ดีทริชตอบตามความจริง
“ก็น่าสนใจอยู่นะ” เซซิลทำหน้ายี้ ดีทริชเดาว่าคงไม่พอใจ แต่สนที่ไหน
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาไปสามชุดนะ”
“ฉันอ่านกับนายก็ได้ ถึงจะเป็นกิจการของบ้านนายก็เถอะ แต่มันเป็นของขายนะ”
โนเอลยิ้มนิดๆ สีหน้าดูพึงพอใจ ในขณะที่เซซิลแทบไม่อยากเชื่อ ท่านพี่เป็นคนหวงของมากแม้กระทั่งหนังสือ ถึงกับเธอจะไม่ออกอาการแบบนั้นแต่เธอยังต้องเกรงใจ ดีทริชใช้อภิสิทธิอะไร เพราะว่าได้เป็นคนรักของท่านพี่แล้วนะหรือ
“แต่ว่าท่านพี่หวงของมากนี่คะไม่กลัวหนังสือชำรุดหรือคะ”
“ประหยัดขึ้นอีกนิดผลกำไรจะมากขึ้นนะเซซิล”
“ถ้าอย่างนั้นน้องก็จะอ่านชุดเดียวกับท่านพี่เหมือนกัน” โนเอลเอียงคอมองน้องสาว
“เอาอย่างนั้นหรือ”
“ใช่ค่ะ”
“ดีเลยตั้งแต่คราวหน้าเราเอากลับบ้านชุดเดียวแล้วผลัดกันอ่านนะ”
“อื้อ” เซซิลพยักหน้าถี่รัวก่อนจะสั่งลูกน้องชุดดำให้ทำตาม จากนั้นเริ่มหมกมุ่นกับหนังสือเล่มต่อไป
“ขอบใจนะ” โนเอลกระซิบ ดีทริชทำสีหน้างุนงง
“ฉันขอบใจที่ช่วยจัดการน้องสาวให้ ระยะหลังมานี้เธอเกรงใจที่จะหยิบยืมของฉัน ฉันจนปัญญาที่จะพูด”
“เพราะว่านายแสดงออกว่าหวงของมากไปหรือเปล่าเซซิลถึงได้ต้องทำแบบนี้”
“ใช่ฉันเป็นคนหวงของมาก ทุกอย่างที่เป็นของฉัน” ดีทริชยักไหล่
“งั้นก็โทษใครไม่ได้”
“นายไม่เคยเข้าโรงหนังสินะ” โนเอลถามขณะมองดูเซซิลเลือกหนังสือ
“ต้องบอกว่าไม่บ่อยต่างหาก”
“อย่างนั้นไปดูหนังกัน”
เพราะอย่างนั้นจึงมาที่โรงหนัง เรื่องที่เลือกดูเป็นหนังดราม่า ดีทริชไม่เชิงว่าไม่ชอบ แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยสนใจซักเท่าไหร่มากกว่า
หลังจากดูไปได้ระยะหนึ่งก็ถูกดึงดูดจนจับจด เมื่อไปถึงฉากสำคัญที่ตัวเองต้องตายดีทริชซาบซึ้งใจจนร้องไห้ออกมา
ชีวิตที่ต้องสู้ตลอดเวลาของตัวเอกในเรื่องทำให้นึกถึงตัวเองเพราะสภาพทางสังคมใกล้เคียงกัน
ตอนที่พยายามจะปาดน้ำตาโนเอลใช้ผ้าของตนซับออกให้อย่างเบามือ ดีทริชกล่าวขอบใจเสียงแผ่ว
หลังจากนั้นสมาธิของตนก็ถูกแบ่งเป็นสอง เพราะโนเอลปฏิบัติอย่างอ่อนโยนด้วย
นี่คือบรรทัดฐานในการปฏิบัติกับคนรักของโนเอลหรือ หางานอดิเรกทำด้วยกันและเอาใจใส่กัน ดีทริชคิดว่าแบบนี้ก็ไม่เลวเลย
“พอนายร้องไห้แบบนี้ ก็สงสัยว่าตอนอยู่บนเตียงจะแสดงสีหน้าแบบเดียวกันนี่ไหม ฉันสนใจจริงๆ นะ”
โนเอลพูดกับดีทริส ไม่ได้กระซิบด้วยคงคิดว่าเสียงในโรงภาพยนต์ดังอยู่แล้ว แต่เซซิลก็นั่งอยู่ข้างขวาไม่ใช่หรือ
“โรคจิต” ก่นด่ายังไม่ทันขาดคำโนเอลก็จับมือเขาที่วางบนแขนเก้าอี้
ดีทริชเม้มปาก อีกฝ่ายจับมือเขาไปตลอดจนจบเรื่อง รสชาติการคบหาอย่างคนรักเป็นแบบนี้นี่เอง
ไอ้ความรู้สึกประหม่าและปั่นป่วน ดีทริชไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เขายอมรับกับตัวเองได้ว่ารู้สึกดีกับโนเอลแล้วก็พึงพอใจกับการเดตช่วงเช้านี้ ถึงแม้จะมีเซซิลอยู่ด้วยก็ตาม
วันนี้เซซิลไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง ท่านพี่เอาอกเอาใจดีทริชจนลืมนึกถึงสายตาเธอไปเลย
ดีทริชเป็นตัวอันตรายสำหรับพี่ชายแน่ๆ ปกติท่านพี่จะเยือกเย็นอยู่เสมอเมื่ออยู่กับคนอื่น
แต่นี่กลับเปิดเผยความรู้สึกกับความคิดมากเกินจำเป็น ไม่เหมือนท่านพี่เลย
ต้องไล่ดีทริชออกไป
เซซิลไม่เชื่อหรอกว่าท่านพี่จะรักดีทริชจริง ต้องเป็นเพราะยังไม่ได้ซักครั้งแน่ๆ
“ไง…เซซิล”
เซซิลสะดุ้ง เมื่อหันไปก็พบไอดริส เวอร์นอนญาติพี่น้องจากตระกูลรอง หมู่นี้ตระกูลสาขาส่งหมอนี่มาประจบท่านพี่บ่อย ท่านพี่บอกว่าให้อย่าไปใส่ใจ
“นายดูอารมณ์ไม่ดีนะ”
เพราะว่าทักได้ถูกจังหวะละมั้งเซซิลผู้อ่อนต่อโลกจึงพลั่งพรูเรื่องที่คิดอยากจะขับไล่ดีทริชออกไป
“ฉันมีแผนน่าสนใจอยู่นะ ลองไหมล่ะ”
“ไหนลองเล่าให้ฟังทีสิ”
เซซิลคิดว่าขอให้ขับไล่ดีทริชออกไปจากพี่ชายได้ ต่อให้เป็นแผนการณ์จากปากไอดริสก็นับเป็นเรื่องน่าสนใจ