ผมกับแฟนพี่สาว♡ ความลับสุดท้าย (ผมกับแฟนของผม) P.19 06/06/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมกับแฟนพี่สาว♡ ความลับสุดท้าย (ผมกับแฟนของผม) P.19 06/06/58  (อ่าน 178327 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ bananato

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ pedonlyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
ความลับที่สิบเจ็ด

“ขอโทษค่ะ แต่แพรก็ไม่เข้าใจแม่เหมือนกัน”

“แต่พี่เพลิงพาแพรไปหาพ่อพี่เพลิงได้ไหมคะ?”

ผมได้ยิน ได้ยินทุกอย่างที่แพรกับพี่เพลิงพูด สิ่งที่ผมคิดได้คือผมจะไปด้วยเพราะผมอยากรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันบ้าอะไรกัน แพรออกไปจากห้องเพราะคิดว่าผมหลับไปแล้ว แพรห่วงความรู้สึกผมทุกอย่างทั้งที่ไม่จำเป็นจะต้องห่วง และทั้งที่ผมเคยทำอะไรหลายๆอย่างโดยที่ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของแพรเลย ภาพในฝันเมื่อคืน คำบอกเลิกของพี่เพลิง คำพูดของแพร มันชัดมากจนผมยังคงหวั่น

ผมยกมือขึ้นกุมหัวที่ปวดหนึบแล้วค่อยๆฝืนสังขารตัวเองลุกขึ้นจากเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนลงช้าๆแล้วค้นเสื้อพี่เพลิงในตู้มาใส่ ถ้าตามปกติแล้วพี่เพลิงจะพาผมกลับบ้านไปเอาเสื้อนักศึกษาแล้วพาไปส่งมหาลัยอีกที และวันนี้ผมไม่เข้าเลยไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน แต่เสื้อพี่เพลิงบางตัวผมก็ใส่ได้นะครับ เพราะพี่เพลิงไม่ค่อยได้มานอนที่นี่บ่อยเสื้อบางตัวก็ทิ้งไว้นานแล้วเลยไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ส่วนกางเกงผมขอเน่าใส่กางเกงเมื่อคืนดีกว่า

“แล้วจะให้พี่ทิ้งน้องลมไว้คนเดียวหรอครับ” ผมเดินมึนๆแง้มประตูออกแล้วก็ต้องหรี่ตาลงงเพราะแสงที่สาดเข้ามา ในห้องนอนมันค่อนข้างจะมืดครับ ผมเลยมึนไปชั่วขณะ

“ลม… ทำไมไม่นอนพักล่ะ ออกมาทำไม” แพรเดินมาจับตัวผมหมุนซ้ายขวาแล้วเอามือแตะหน้าผากผมพร้อมทำหน้าดุ พี่เพลิงยืนมองอยู่ไม่ไกลนักแต่ก็ทำหน้าดุไม่แพ้กัน

“ลมจะไปด้วย”ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย ทุกคนชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กและปิดทุกเรื่องไม่ยอมให้ผมรู้

“พี่ว่าเราอยู่เฉยๆกันก่อนดีไหมครับ” พี่เพลิงถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเสยผม จะให้อยู่เฉยก็ไม่ใช่ไอ้ลมแล้วครับ เงินที่ผมใช้ทุกวันๆนี้มันไม่ใช่อะไรน้อยๆเลยนะครับ ถึงจะไม่ได้กดออกมาจนหมดเพราะฝั่งแม่ก็ให้มาเหมือนกันแต่การโอนมาสม่ำเสมอแบบนั้นมันออกจะแปลกไปหน่อยถ้าไม่ใช่พ่อผมจริงๆ

“ไม่”

“ไม่”

ผมกับแพรนิสัยเหมือนกันแน่นอนครับ โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ผมไม่รู้ว่าไอ้พัดมันรู้เรื่องนี้หรือยังแต่มันอาจจะไม่คิดอะไรมากก็ได้เพราะมันไม่ค่อยจะสนใจพ่อหรือแม่สักเท่าไหร่ มันบอกว่ามีผมกับแพรก็เหมือนมีพ่อแม่แล้ว ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะครับ แต่แม่ทิ้งพวกผมตั้งนานแล้วความผูกพันมันไม่มีเท่าไหร่หรอก ผมก็เหมือนกัน

“พี่พาไปได้ครับ แต่ลองคิดให้ดีนะว่าพวกเราทำอะไรได้หรือเปล่า” ผมนิ่งแต่ยังไงผมก็จะไปให้ได้ถึงมันไม่มีประโยชน์อะไรผมก็จะไป และแพรก็คงคิดเหมือนกันกับผม

“พี่ยอมแล้วครับ แต่พี่ไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ รอพี่แป๊บนึงแล้วกัน” พี่เพลิงยกมือขึ้นทั้งสองข้างเล็กน้อยเป็นเชิงยอมแพ้แล้วก็เดินหาเข้าห้องนอนไป น่าจะเปลี่ยนเสื้อครับ ผมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วเอามือนวดขมับ

“ลมต้องทำหน้ายังไงอ่ะแพร” แพรนั่งลงข้างผมแล้วเอามือขยี้หัวผมเบาๆ

“แพรก็ไม่รู้” ลำบากใจกันทั้งคู่เลยครับ ผมคว้าตัวเล็กๆของแพรมากอดจนแน่น คนที่รับภาระมาตลอดตอนที่เราโดนทิ้งให้อยู่กันเอง ผมเสียใจกับสิ่งที่ทำแต่ผมก็อดเห็นแก่ตัวไม่ได้จริงๆ

“ลมรักแพรจริงๆนะ ลมไม่เคยโกหกเลย” รักแพรก็อยู่ส่วนรักแพร ผมรักแพรจริงๆในฐานะพี่สาวและแฝดของผม คำบอกรักแพรของผมอาจจะไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ และผมก็ไม่รู้ว่าแพรคิดแบบในฝันของผมด้วยหรือเปล่า แต่ผมก็อยากบอกมันอีกหลายๆครั้งด้วยซ้ำ

“แพรก็รักลม เด็กดื้อเอ๊ย…”แพรกอดผมตอบแน่นๆพอดีกับที่พี่เพลิงออกมาพร้อมกับชุดสูททำงานตามปกติ แพรบีบมือผมเหมือนให้กำลังใจกันเองแล้วลุกขึ้นยืนผมเลยลุกตาม

“พี่เพลิงขับนำนะคะ เดี๋ยวแพรขับตามไป ส่วนลม… แพรฝากด้วยค่ะ” แพรดันผมให้เซไปหาพี่เพลิงส่วนตัวเองก็เดินไปคว้ากระเป๋าแล้วออกไปเลย ผมยืนงงอยู่สักพักก็เงยหน้ามองพี่เพลิง

“ไม่โกรธลมใช่ไหม” พี่เพลิงขยี้หัวผมเบาๆแล้วส่ายหน้า

“จะโกรธเพราะไม่สบายแล้วยังดื้อแบบนี้แหละครับ” ผมทำหน้ายุ่งเลยครับ พี่เพลิงยิ้มแต่ผมรู้ว่าก็เครียดไม่แพ้กันหรอกครับ

ผมเม้มปากรวบรวมความกล้าอยู่สักพักก็ดึงเนคไทพี่เพลิงลงมา หายใจเข้าลึกๆก่อนที่ปากผมจะสัมผัสกับพี่เพลิง ไม่รู้ว่าไม่เอาความกล้ามาจากไหน หรือผมป่วยจนสมองกลับก็ไม่รู้ พี่เพลิงยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจแล้วประคองใบหน้าผมขึ้นรับสัมผัสนั้นอีกครั้ง ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาอย่างอ่อนโยนและผมก็พยายามซึมซับความรู้สึกทั้งหมดตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรอกแต่ผมกลัวจริงๆ

เราจูบกันอย่างเชื่องช้าและเนิ่นนานผลัดเปลี่ยนกันตักตวงอย่างไม่หยุดหย่อน แล้วผมก็หลงมัวเมาไปกับมันมากจนแทบบ้า สองมือของผมโอบรอบคอพี่เพลิงอย่างยากลำบาก หายใจไม่ค่อยทันหรอกครับแต่พี่เพลิงคอยผละช่วยผมตลอด จะติดหวัดกันหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ

“อ่อยพี่เหรอ” ผมยกยิ้มขึ้นอย่างนึกสนุกแต่ด้วยตอนนี้ผมควรไปหาความจริงมากกว่าจะมาสนใจเรื่องแบบนี้

“ไปกันเถอะพี่เพลิง” ผมรูดเนคไทพี่เพลิงขึ้นจนมันอยู่ในที่ที่ควรอยู่แล้วตบมันแปะๆเหมือนที่เคยทำบ่อยๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่เพลิงอีกครั้งแล้วยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก

“ทำไมน้องลมต้องทำเหมือนเราจะไม่เจอกันอีกแบบนี้ล่ะครับ”ผมเงียบ ผมอาจจะทำให้พี่เพลิงคิดแบบนั้นก็จริงแต่ผมรู้สึกไม่ดีอย่างไรก็ไม่รู้ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาลึกๆ ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันหมายความว่าอะไรแต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอกครับ

อาจจะเป็นจูบสุดท้ายก็ได้

ใครจะรู้?

“กว่าจะลงมานะคะ” แพรยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินหายไปขึ้นรถตัวเอง ผมมองตามแพรจนพี่เพลิงต้องจูงมือผมไปที่รถพี่เขาแม่พี่เพลิงจะเหมารวมว่าผมกับแพรหรือเปล่านะ

ตอนนี้ผมอยู่ในรถของพี่เพลิง ผมยกมือขึ้นกัดเล็บอย่างครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผมจะต้องเจอ แพรบอกว่าแม่ออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้วแสดงว่าแม่ต้องกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่แน่ แล้วแม่ทำอะไรล่ะ แล้วตกลงเงินที่ผมใช้มันของพ่อพี่เพลิงจริงๆหรอ ปวดหัวครับ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ลมหายใจของผมมันร้อนไปหมดเลยครับ

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ พี่เป็นห่วงนะ”พี่เพลิงพูดแล้วเอามือมาขยี้หัวผมแรงๆ ผมไม่ได้ปัดออกหรือรำคาญอะไร ผมเลือกที่จะเงียบจนพี่เพลิงถอนหายใจออกมา มองออกไปนอกกระจกรถก็เห็นแต่ทิวทัศน์เดิมๆที่เคยเห็น ไอ้ความรู้สึกสับสนในอกแบบนี้มันคืออะไรครับ ทำไมผมต้องกลัวขนาดนี้ด้วย

เรามาถึงหน้าตึกที่อยู่ของบริษัทพ่อพี่เพลิงแล้วครับ ผมถอนหายใจออกมานิดหน่อยแล้วมองหน้าแพรกับพี่เพลิงสลับกัน

“ลมว่ามันจะแปลกนะ แพรเดินคู่กับพี่เพลิงเถอะ” ผมดันหลังทั้งสองคนให้เดินคู่กันไป พี่เพลิงกับแพรทำหน้างงนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองคนเดินคู่กันไปเรื่อยๆโดยมีผมเดินตามอยู่ไม่ไกล รู้สึกโหวงๆแฮะ เหมือนเป็นส่วนเกินเลยครับ ผมคิดมากจริงๆกับฝันเมื่อคืนนะครับ

“สวัสดีค่ะคุณเพลิง” มีพี่คนนึงเดินมายกมือไหว้พี่เพลิงครับ พวกเราเลยหยุดเดินกันหมด

“คุณพ่ออยู่ที่ห้องไหมครับ” พี่เพลิงถามเสียงนิ่ง คนนั้นเงียบไปพักหนึ่งพอพี่เขาจะพูดขึ้นก็ดันมีเสียงแทรกเข้ามา

“มีอะไรหรือเปล่าตาเพลิง”

“แม่…”

แม่? แม่พี่เพลิงน่ะหรอ ผมหันไปมองก็พบว่าใช่จริงๆครับ ผมเคยเจอท่านแค่ครั้งเดียวในฐานะน้องชายฝาแฝดของแฟนพี่เพลิง ผมก้มหน้างุดลงทันที ส่วนแพรก็ได้แต่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่ก แม่พี่เพลิงยืนยิ้มเรียบนิ่งแต่มันดูน่ากลัวแปลกๆ กลัวว่าเราจะมาเพราะจุดประสงค์เดียวกัน

“เอ่อ…ดิฉัน” พี่อีกคนพูดขัดขึ้นมาแล้วทำท่าเหมือนจะหนีไปแต่ยังเกรงใจแม่พี่เพลิงกับพี่เพลิงอยู่

“สามีฉันอยู่ไหนเหรอคะ” แม่พี่เพลิงหันไปถามพี่คนนั้น พี่เพลิงเงียบไม่พูดอะไรขัดขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว

“ห้องประชุมเล็กค่ะ”

“แต่ฉันจำได้ว่าวันนี้สามีฉันไม่มีประชุมนะคะ” เสียงนิ่งแต่ดูทรงพลังออกมาจากปากแม่พี่เพลิงทำให้ผมเงียบจนแทบหยุดหายใจและผมเชื่อว่าคนอื่นก็เหมือนกัน นอกจากพี่คนนั้นที่กำลังโดนคาดคั้นเอาคำตอบครับ พี่เขาก้มหน้านิ่งเหมือนรวบรวมสติแล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นยิ้มเล็กน้อยอย่างประหม่า

“เห็นว่าไปคุยกับคุณเลขาค่ะ ดิฉันขอตัวนะคะ” วางระเบิดแล้วก็เดินย่ำเท้าหนีไปเลยครับ ผมเม้มปากหลับตาแน่นพร้อมถอนหายใจออกมา แม่มาก่อนพวกเราอย่างที่แพรบอกจริงๆ แล้วแม่ต้องการคุยอะไรกันแน่

“ตายแล้ว… แม่ไม่ค่อยรู้ทางเสียด้วยสิ เพลิงนำแม่ไปหาพ่อหน่อยได้ไหม แม่มีเรื่องจะคุยเยอะแยะเลย แล้วหนูสองคน? ไหนบอกเลิกันแล้วไงตาเพลิง” แพรก้าวถอยหลังมาหยุดอยู่ข้างผม เรามองหน้ากันอย่างตกใจกันทั้งคู่ ผมไม่รู้ว่าแม่พี่เพลิงรู้หรือเปล่าว่าผมกับแพรเป็นลูกของแม่

“อ่า.. แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่เพลิงเอ่ยถามเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาทำให้แม่พี่เพลิงหันไปสนใจพี่เพลิงแทน

“เรื่องเดิมๆ เอ้า นำทางแม่ไปสิคะ”

“ครับ” พี่เพลิงเดินเคียงข้างกับแม่ไปส่วนผมกับแพรก็มองหน้ากันแล้วก็ได้แค่เดินตามไปห่างๆ แม่พี่เพลิงจำหน้าผมได้แล้วก็รู้ว่าแพรเป็นแฟนพี่เพลิง และคงคิดว่าทั้งคู่ดีกันแล้วด้วยมั้งครับ

ป้ายหน้าห้องถูกเลื่อนให้เป็นคำว่าไม่ว่างหมายความว่ามีคนอยู่ข้างในจริงๆ แม่พี่เพลิงขมวดคิ้วนิ่งไปพักหนึ่งก่อนผลักประตูเข้าไปอย่างแรงจนผมสะดุ้งภาพที่ฉายเข้ามาคือแม่ของผมกับยินคุยกับพ่อพี่เพลิงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่บ่งบอกถึงตำแหน่งของตัวเอง

“ขอโทษนะคะฉันขอคุยด้วยคนได้ไหม” ทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ประทุขึ้นมาอย่างเงียบๆ บรรยากาศดูตึงเครียดขึ้นมาทันที แม่ผมกับพ่อพี่เพลิงหันมามองแล้วทำหน้าตกใจไปแวบหนึ่ง

“ลม แพร หนูมาทำไมลูก” แม่จะเดินเข้ามาหาพวกผมแต่พี่เพลิงกับแม่พี่เพลิงยืนอยู่ด้านหน้าแม่จึงหยุดแล้วเบี่ยงหน้าไปทางอื่นแทน

“หมายความว่ายังไงคะคุณ เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะที่จะมีปัญหาบ้านแตกแบบนี้ แถมยังกับคนเดิมๆ” พ่อพี่เพลิงยกมือขึ้นเท้าโต๊ะพร้อมใช้ปลายนิ้วนวดที่สันจมูกตัวเอง แม่หันมองซ้ายขวาสลับกันอย่างเลิ่กลั่ก

“คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ ดิฉันไม่ได้… อีกอย่างดิฉันมีลูกแล้วตั้งสามคนนะคะ” แม่ผมพยายามอธิบายแต่เหมือนคนในห้องไม่มีใครเชื่อและสนใจเท่าไหร่ ผมก็คนหนึ่งที่แอบไม่เชื่ออยู่ข้างในลึกๆแต่หวังจะให้มันไม่มีอะไร

“เพลิงพาแม่กลับบ้านไปก่อนไป” ทั้งแม่ผมและพ่อพี่เพลิงทั้งคู่ไม่ได้อายุมากอะไรเลย แถมหน้าตาก็ไม่ได้ล่วงเลยตามวัย ทั้งยังดูสุขุมและดูดีมากด้วยซ้ำ ถ้าให้พูดจริงๆผมเป็นแม่พี่เพลิงก็คงจะหวั่นไหวไม่น้อยเลยครับ

“ไม่ค่ะ คุณมีอะไรก็บอกฉันสิเงินในบัญชีส่วนตัวคุณ คุณโอนให้ใครเหรอคะ?” ยิงคำถามตรงกับคำตอบที่ผมอยากรู้เป๊ะเลยครับ ชัดเจนขนาดนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะส่งเงินให้ผมทำไม ผมมองหน้าแพรสลับกับมองเหตุการณ์ตรงหน้า

“ไว้ค่อยคุยกันที่อื่นไม่ได้หรือไงคุณ เด็กอยู่เยอะแยะ เกรงใจผมบ้าง” แม่พี่เพลิงหันมองไล่สายตาที่พวกผมทันทีครับ

“แค่แฟนลูกกับแฝดมันจะทำไมคะ”

“ขอโทษนะคะ สองคนนั้นเป็นลูกดิฉันเองค่ะ” กลับเป็นแม่ผมที่พูดแทรกขัดแม่พี่เพลิงขึ้นมา แม่พี่เพลิงหันกลับมามองผมกับแพรอีกครั้งด้วยสีหน้าตกใจ

“แม่ใจเย็นๆนะครับ” พี่เพลิงที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นไม้เริ่มพูดปลอบแม่ตัวเอง ทำไมมันวุ่นวายขนาดนี้วะ

“โลกกลมจริงๆนะคะที่ครอบครัวฉันต้องติดพันกับทางคุณอยู่เรื่อยเลย ทั้งลูกชาย.. ทั้งสามี…” น้ำเสียงเย้ยหยั่นถูกส่งออกมาจากปากของแม่พี่เพลิง บรรยากาศที่ชวนอึดอัดจนผมไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้แล้วแต่ก็ไม่กล้าขยับไปไหนอยู่ดี ทำไมแม่ผมไม่พูดแย้งมาอีกล่ะ แบบนี้มันก็เหมือนยอมรับไม่ใช่หรอ

“เอ่อ... หนูขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ” เป็นแพรที่พูดขึ้นมาครับ

“ทำไมต้องส่งเงินให้หนูระหว่างที่แม่ไม่อยู่ด้วยคะ ถึงหนูไม่ได้กดออกมาใช้อะไรมากมายแต่มันก็ไม่ใช่น้อยๆอยู่ดี รวมๆเป็นปีมันก็ค่อนข้างเยอะนะคะ”

“ฉันเองก็อยากรู้ค่ะ” แม่กลับเห็นด้วยกับแพรเสียอย่างนั้น แม่พี่เพลิงเลยยกมือขึ้นกอดอกรอฟังคำตอบ สายตาทุกคนกำลังกดดันไปที่พ่อพี่เพลิงอย่างช่วยไม่ได้

“ก็สามีคุณเขาขอผมมานี่ครับ” พ่อพี่เพลิงพูดขึ้นแล้วเงยหน้าสบตากับแม่ผม ผมได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจ พ่อผมจะมาขอพ่อพี่เพลิงทำไมล่ะ คิดยังไงก็ไม่เข้าใจแต่แพรกลับทำหน้าเหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมา แล้วทำไมผมยังไม่เข้าใจอะไรเลยวะเนี่ย

“สามีคุณก็ทำงานให้ผมนะครับ ก่อนที่เขาจะหายตัวไปเขาบอกให้เอาเงินเดือนเขาทั้งหมดส่งให้ลูกๆ แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ ให้ผมเก็บเงินที่ควรให้เขาไว้เฉยๆเหรอ” ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง เงินเดือน? เหรอ? พ่อผมทำงานกับพ่อพี่เพลิงด้วยเหรอ โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรอยู่ครับ

“ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะคะ แล้วก็เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณเลยนะ หรือเพราะเป็นลูกของผู้หญิงคนนี้คุณเลยช่วยจัดการให้ฟรีๆ” แม่พี่เพลิงถามสวนไปอีกครั้งแล้ววกกลับประเด็นเดิมๆที่จ้องจะเล่นงานแม่ผมอีกครั้ง

“พอได้แล้วคุณ ผมบอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรสิ เขาฝากผมมันก็คือหน้าที่ของผมไม่เกี่ยวกับคุณสาวิตรี” น้ำเสียงพ่อพี่เพลิงเริ่มแฝงด้วยอารมณ์หงุดหงิดมากขึ้น

“ฉันจะรีบคืนเงินให้เร็วที่สุดค่ะ” แม่พูดแล้วสบตาแม่พี่เพลิงตรงๆเพื่อให้ดูจริงใจมากขึ้น

“เดี๋ยวสิคุณ” พ่อพี่เพลิงหันไปพูดกับแม่ผมนั่นทำให้เหมือนมีระเบิดลงมากลางห้องเลยครับ แม่พี่เพลิงโกรธจนกำมือแน่น ผมเม้มปากอย่างอยู่ไม่สุข ผมไม่น่ารับฟังอะไรแบบนี้เลยจริงๆ

“นี่คุณ!”

“เพลิงพาแม่กลับบ้านไปก่อน เร็วสิ”

“แม่ไปเถอะครับ มีอะไรคุยกันที่บ้านดีกว่า”

“ฉันจะไม่ให้ลูกยุ่งกับเด็กคนนั้นค่ะ หนูรีนยังจะดีกว่า….” พี่เพลิงก้มลงคุยกับแม่แล้วพยายามดึงตัวท่านให้ออกจากห้องไป ก่อนที่พี่เพลิงจะออกไปเขาก็ก้มลงกระซิบข้างหูผม

‘เดี๋ยวพี่ติดต่อไปทีหลังนะครับ ขอโทษนะ’

แล้วก็เดินพาแม่พี่เพลิงออกจากห้องไปเลย โดยที่พ่อพี่เพลิงก็เดินผ่านผมไปติดๆกันด้วยสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ แทบลืมไปด้วยซ้ำว่าตัวเองไม่สบายอยู่ หัวที่ปวดหนึบมาสักพักเริ่มกลับมาเล่นงานอีกครั้ง ผมเซไปชนแพรที่ยืนอยู่ข้างๆ แพรก็ตกใจรับตัวผมไว้

ขนาดคำว่า ’เด็กคนนั้น’ แม่พี่เพลิงยังไม่ได้หมายถึงผมเลย ถ้ารู้ความจริงผมคงไม่มีสิทธิ์ได้เป็นใครคนนั้นหรอกมั้งครับ แล้วก็บอกว่ารีนยังดีกว่า ผมคงต้องทำใจแล้วมั้งครับ

“ลมลูก แพรน้องเป็นอะไร?” แม่เดินเข้ามาเอาหลังมือแตะหน้าผากผมแล้วขมวดคิ้วยุ่ง

“ลมไม่สบายค่ะ แพรว่าเรากลับกันเถอะนะคะ อยู่ไปก็ไม่น่าจะได้อะไร” แม่พยักหน้างึกงักตอบรับ แพรพยุงผมด้วยแรงอันน้อยนิด แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเบลอๆจนยืนแทบไม่ไหว

ไม่รู้ว่าแพรกับแม่แบกผมอีท่าไหนแต่ผมก็กลับถึงบ้านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่มีอะไรเลยจริงๆ

…………………………………………………….

เกือบอาทิตย์แล้วที่พี่เพลิงไม่ได้ติดต่อผมมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมไม่รู้ว่าทางนั้นเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ผมไม่รู้อะไรเลย ความเคลื่อนไหวทุกอย่างในโซเชียลที่ปกติก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้วก็เงียบหายไป พี่เพลิงเป็นอะไรหรือเปล่า มันมีปัญหาอะไรจริงๆใช่ไหม

ผมไม่กล้าติดต่อไปเพราะกลัวว่าพี่เพลิงกำลังยุ่งอยู่ ไม่กล้าทำอะไรนอกจากรอ ทำได้แค่รอจริงๆแม้ว่าผมจะกลัวว่าพี่เพลิงจะอยู่กับผู้หญิงที่ชื่อรีน พี่เพลิงไม่เคยปฏิเสธอย่างเด็ดขาดสักที ยิ่งแม่พี่เพลิงเป็นแบบนั้น กลัวจังครับ กลัวพี่เพลิงจะหายไปจากชีวิตผมเฉยๆ ทั้งที่มีแค่จูบครั้งนั้น

“ลมมึงแดกเยอะไปแล้ว” ไอ้เคนดึงแก้วเหล้าในมือผมออกแล้วส่งสายตาดุผม แต่ผมก็มองค้อนมันกลับแล้วเอือมมือไปดึงแก้วเหล้าคืนจากมัน ยื้อกันไปกันมาเหล้าแม่งเทรดหัวไอ้เคนเต็มๆครับ แถมมันยังกระเด็นมาโดนเสื้อผมอีกตะหาก

“หึ”

ผมมาทำรายงานอยู่หอมันครับ โดยมีไอ้ตัวแถมอีกคนคือไอ้พีทที่นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ ไอ้เคนโวยวายนิดหน่อยแล้วก็เดินเซหายเข้าห้องน้ำไป ผมปรายตามองไอ้พีทที่นั่งหัวเราะเหมือนมีความสุขมากแล้วเอามือปัดเสื้อที่เปียกไปนิดหน่อยเบาๆ

“แล้วมึงจะทำไงต่อ พี่เขาไม่ติดต่อมึงหลายวันเลยนะเว้ย” ผมก้มหน้างุดสักพักก็เงยหน้าขึ้นสบตามัน

“รอไง” หึ น่าสมเพชชิบหาย

“มึงแม่งบ้าว่ะ” มันพูดแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมด พอดีกับที่ไอ้เคนเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูเช็ดผม น่าสงสงสารมันนะครับ แต่มันทำตัวมันเองนี่นา

“มันจะทำอะไรก็เรื่องของมันดิพีท” ผมเงียบไม่ได้พูดอะไรไอ้เคนก็นั่งลงข้างๆผมตรงที่เดิม ไอ้พีทยักไหล่ไม่สนใจพร้อมกับยิ้มออกมา

“งานก็เสร็จแล้วกูว่าพวกมึงกลับไปได้แล้วมั้ง กูจะได้นอน”

ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาก็เห็นว่ามันจะเที่ยงคืนกว่าแล้ว ผมมากับมันน่ะสิครับติดรถไอ้เคนมา ถ้าจะกลับก็คงต้องกลับกับไอ้พีท จริงๆแล้วผมน่าจะเอารถที่บ้านมาใช้บ้างนะเนี่ย แต่รู้สึกมันจะติดนิสัยโหนนู้นโหนนี่ หรือไม่ก็มีคนไปรับไปส่ง... ไม่อยากนึกถึงมันเลยจริงๆ

“ว่าไง จะกลับเลยไหม” ผมพยักหน้า มันเลยดึงแขนผมให้ลุกขึ้น ผมก็ลุกขึ้นยืนชวนไอ้เคนเก็บของนิดหน่อยแล้วก็พากันลงมาด้านล่าง

“เอามอไซค์มาหรอ” ผมถามแบบไม่ต้องการคำตอบเพราะตรงหน้ามันก็เห็นชัดอยู่แล้ว

“เห็นเป็นอะไรล่ะ” ผมตวัดตามองค้อนมันแล้วก็ชูนิ้วกลางใส่ มันยิ้มออกมาแล้วยกมือขึ้นลูบหัวผมแต่ผมปัดออกเพราะมันหนัก

“ไม่เห็นต้องไปใส่ใจเขาเลย อย่างมึงหาใหม่ได้เยอะแยะ” มันพูดพร้อมขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ทรอผมให้ขึ้นนั่ง ผมกำเสื้อบนไหล่มันแน่นแล้วขึ้นซ้อนท้ายมัน

มันขี่ออกห่างจากหอไอ้เคนมาพอสมควร ลมเย็นๆพัดใส่หน้าผมแรงจนเจ็บผมเลยก้มลงให้เสื้อและตัวมันบังหน้า มันกลับเอื้อมมือมาจับมือผมให้กอดเอวมันจนแน่นแล้วจับไว้

“เกาะกูแน่นๆเมาแบบนี้ตกไปตายห่าทำไง” ผมยิ้มขำแล้วซุกหน้าลงกับเสื้อมัน

“กูไม่อยากกลับบ้าน ไปบ้านมึงก่อนได้ไหม” ผมพูดเสียงดังพอที่จะให้มันได้ยิน ซึ่งมันก็คงรับรู้ล่ะครับ

“ได้เลย” มันพูดตอบผมมาแล้วก็ไม่ได้สนใจผมอีก ผมก็ซุกหน้าลงกับหลังมันแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

คิดถึงพี่เพลิงจริงๆครับ ป่านนี้จะนอนสบายใจอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ คอนโดที่นั่นพี่เพลิงจะยังนอนอยู่หรือเปล่า ถ้าผมไปหามันจะเป็นอะไรไหม แล้วทำไมพี่เพลิงต้องหายไปแบบนี้ด้วย ไม่นึกถึงผมบ้างเลยหรอ แล้วช่วงนี้จะงานหนักเหมือนเดิมหรือเปล่า พักผ่อนบ้างไหม แล้ว...ลืมผมไปหรือยัง

แปลกที่แค่คิดแต่น้ำตามันก็ไหลออกมาเงียบๆ ไอ้พีทคงรู้สึกได้เพราะเสื้อของมันชื้นเพราะผม มันหันหน้ามามองผมแล้วก็กลับไปมองถนนตรงหน้าอีกครั้ง

“รักเขามากเหรอวะ” มันถามผม ผมเม้มปากแน่นแล้วกลั้นเสียงสะอื้นอยู่ในใจ

“กูไม่อยากให้เขาหายไปแบบนี้เลย” ผมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วกอดเอวมันจนแน่น น้ำตาแม่งก็ไหลออกมาไม่หยุดเลยทีนี้ ผมคงรักเขามากจริงๆนั่นแหละ

“ไหวไหมมึง” มันถามผมหลังจากที่หิ้วปีกผมเข้ามาในบ้าน ผมพยักหน้างึกงักให้รู้ว่าผมไหว

“เอ้า ลมลูก ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย”

“เมาว่ะแม่ เดี๋ยวพามันไปข้างบนแป๊บนึง” ไอ้พีทหันไปพูดกับแม่แล้วดึงผมให้ขึ้นบันไดตามมันไป ผมมึนหัวนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ

มันโยนผมลงบนที่นอนอย่างแรงจนผมแทบจุกครับ ผมกลิ้งไปนอนอยู่กลางเตียงมองมันที่ยุกยิกจะเปลี่ยนเสื้อก่อนที่จะหลับตาลงเพราะเริ่มปวดตาครับ พักสายตาลงสักพักก็เกิดความรู้สึกยวบยาบบนเตียงเหมือนมันมานั่ง ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรก็เลยนอนหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น แต่มันคงคิดว่าผมหลับจริงๆ

“ทำไมมึงดื้อแบบนี้วะ”

“ทำไมมึงไม่รักกูบ้าง ทำไมต้องมองข้ามกูตลอด มันมาทีหลังทำไมมึงต้องรักมันขนาดนี้ด้วยวะ”

“รักกูบ้างไม่ได้เหรอ”

เอ๋อสิครับ มันพูดใส่หน้าผมแบบนี้จะให้ผมพูดอะไร ตกลงมันชอบผมจริงๆใช่ไหม แล้วทำไมมันไม่บอกผมมาเลยวันนั้น ต้องรอให้ผมนอนโง่ๆบนเตียงแบบนี้ก่อนเหรอ ผมแสร้งหายใจให้สม่ำเสมอที่สุดให้มันดูเหมือนคนกำลังหลับอยู่จริงๆเผื่อว่ามันจะล้มตัวลงนอนข้างผมนิ่งๆ แต่ที่เหี้ยกว่าคือที่รดหน้าผมมันไม่ใช่ลมหายใจของผมคนเดียว

ผมจะทำไงดีวะ???

“มึง...” หัวใจผมเต้นตุ้บๆอย่างตื่นเต้นเมื่อผมตัดสินใจลืมตาขึ้นมองหน้ามันที่อยู่ชิดกับหน้าผมจนแทบจะติดกัน ปากผมพึมพำเรียกมันขึ้นมาเบาๆ

..................................................................................................

“เอ้าว่าไงท่านรองประธาน ได้ข่าวว่าโดนกักบริเวณ” ผมหันกลับไปมองไอ้เพื่อนเหี้ยที่ก้าวเข้ามาให้ห้องทำงานของผมอย่างถือวิสาสะ จะใครล่ะครับ ก็ไอ้นัทคนว่างงานที่คอยกวนตีนผมอยู่เรื่อยๆ

“ไม่ต้องทำหน้าโหดใส่กู  แล้วเรื่องน้องว่าไง ถ้าแม่มึงยังปัญหาเยอะแบบนี้กูเก็บไว้เลี้ยงเองเลยดีไหม” ผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเพราะคำที่มันใช้กับแม่ผม แต่ถ้าให้พูดจริงๆแม่ผมก็ปัญหาเยอะอย่างที่ว่า

เรื่องรีนเรื่องคุณสาวิตรีกว่าจะเคลียร์ได้บ้านผมแทบแตกจริงๆเลยครับ แม่ไม่ยอมรับฟังอะไรเลยจนพ่อผมต้องอยู่บ้านคอยเอาอกเอาใจแม่ตลอดเวลา แล้วไงครับ ประธานหายทีภาระงานที่ผมรับผิดชอบได้มันก็ตกอยู่ที่ผมจนหมด เหนื่อยก็เหนื่อยจะตายห่าครับ แต่ที่หนักกว่าคือผมบอกแม่ไปแล้วว่าผมคบกับน้องลม

แม่ผมรู้เท่านั้นแหละครับ ผมโดนด่าโดนห้ามสารพัด แถมบอกจะไปคุยกับบ้านนั้นด้วย แต่ผมห้ามเอาไว้แล้วแม่ยังจะมาบอกในเมื่อผมห้ามแม่ผมก็ต้องเลิกยุ่งด้วย บ้านก็แทบจะแตกอีกครั้งครับ

รายละเอียดเอาไว้ทีหลังดีกว่าครับ

“แม่กูบอกให้ลองเลิกคุยกับน้องสักเดือนนึง ลองใจกูกับน้อง” แม่ผมว่าอย่างนั้นจริงๆครับแถมมาเฝ้าผมตลอดตอนที่พ่อไม่อยู่ แค่ไม่กี่วันผมก็แทบบ้าแล้วครับ อยากกอด อยากให้น้องมาน่ารักอยู่ใกล้ๆ

“แล้วไง ถ้าเด็กมึงโดนคาบไปแดกขึ้นมามึงจะทำไงวะ” มันเลิกคิ้วกวนตีนผม นี่ผมยังไงคิดบัญชีกับมันเรื่องวันเกิดผมนะครับ เฮ้อ แค่คิดก็คิดถึงน้องแล้วครับ ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“กูก็ไม่รู้ แม่กูตามจี้กูทำงาน กลับบ้าน ทำงาน กลับบ้าน มาเป็นอาทิตย์แล้วเนี่ย” ผมบ่นไปอย่างเบื่อหน่ายเพราะแม่ผมตามจิกผมจริงๆนะครับ ตอนนี้คุณนายยังอยู่ในห้องรับรองที่ไหนสักแห่งของบริษัทนี้แน่ๆ

“มึงอยากไปที่อื่นบ้างไหม” มันทำหน้ากวนตีนใส่ผมผมได้แต่ยักไหล่

“ไปโดดให้รถชนเล่นไหมมึง ได้ที่อยู่ใหม่เลยนะ โรงพยาบาลไง” มันพูดแล้วก็หัวเราะเบาๆให้กับความคิดตัวเอง ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา แต่ถ้ามันทำให้แม่ใจอ่อนลงมาได้บ้างคงดีครับ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนะเนี่ย หึ

“อย่าเสือกทำจริงนะมึง ตายห่าอย่ามาหลอกกู” มันทำท่าขนลุกแล้วก็หัวเราะออกมา ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้สนใจมันอีก
_________________________________________
น้องคิดมากนะรู้ไหมมมมม อ้อ ใกล้จบแล้วนะคะเรื่องนี้เราแพลนไว้ที่20ตอนซึ่งก็น่าจะพอดี อิอิ

ขอโทษที่มาช้าค่ะเพราะว่าช่วงนี้สอบแหละ ใครสอบเหมือนเราก็สู้ๆนะคะ
แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ :mew1: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2015 17:46:02 โดย pedonlyy »

ออฟไลน์ gwaiplay

  • ♛ Victoria 。
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ผู้ร้ายปากแข็ง  o18

ออฟไลน์ Lovelyjess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โห กว่าจะมาต่อ. ต้องตามไปอ่านก่อนหน้า  เพราะลืม

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ลม สู้ๆผ่านด่านแม่พี่เพลิงได้คงสมหวังแล้วสินะ

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 :z3: ดูอึดอัดไปนะตาเพลิง แม่เล่นจี้ทำงาน กลับบ้าน ทำงาน กลับบ้าน อย่างนั้นน่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ bananato

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แม่อีพี่เพลิง งี่เหง้าปัญญาอ่อนมากๆๆๆ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
่ประเด็นคือน้องลมจะโดนเพื่อนพีทแดกอยู่แล้วอ่ะ ค้างงงค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ. สู้ๆนะคะเรื่องสอบ

เริ่มเข้มข้นแล้วอย่าดริฟดราม่าอีกนะ เอาแค่ลงสวยๆพอค่ะ

ออฟไลน์ TOY_SKY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สู้นะคะคนเขียน   :katai2-1: :katai2-1:

อ่านตอนนี้แล้วสงสารลมอ่า   ยิ่งลมไม่มั่นใจในตัวพี่เพลิงด้วย  คงกังวลอยู่ตลอด   :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ punnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลืมจริงๆนะ ขออ่านตอนที่แล้วก่อน :z3:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ punnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ pedonlyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
ความลับที่สิบแปด

“มึง…” ผมพึมพำออกมาเบาๆเหมือนช่วยเรียกสติมันให้ด้วย หน้าเรายังคงอยู่ห่างกันไม่ถึงห้าเซ็นด้วยซ้ำ  มันเบิกตากว้างเหมือนตกใจก็จริงแต่ไม่มีท่าทีจะถอยออกไปเลยสักนิด กลิ่นเหล้าจากลมหายใจของผมกับมันคละคลุ้งไปหมดจะเริ่มปวดหัว

“ไอ้เหี้ยมึง..” ผมผลักมันออกสุดแรง เพราะมันก้มหน้าลงมาประกบปากกับผมจริงๆ แต่ได้แว๊บเดียวผมก็ผลักมันออกด้วยความตกใจ ผมไม่ได้อยากจะจูบกับเพื่อนตัวเองสักหน่อยนะครับ ไม่ได้อยากให้มันเข้าใกล้ผมมากขนาดนี้ด้วย ผมยันตัวเองให้ลุกขึ้นมองหน้ามันด้วยความโกรธ พร้อมยกมือขึ้นเช็ดปากแรงๆ

“ขอโทษ” มันพูดออกมาเบาๆจนผมแทบจะไม่ได้ยิน ผมเลยถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่รู้จะทำอะไร

“เมื่อไหร่” ผมถามมันแต่ก้มลงมองตีนตัวเองที่แกว่งไปมา

“วันที่มึงเดินโง่ๆหลงตึก” หือ…. นั่นแม่งวันแรกที่ผมกับมันรู้จักกันเลยนะครับ

“คนเหี้ยอะไรเป็นเด็กใหม่ไม่คบเพื่อนในห้อง เดินคนเดียวก็หลงตึกอีก”เอ้า ไอ้ห่านี่ผ่านมาจะห้าปีแล้วยังมาด่าผมอีก ผมหันไปมองค้อนมันอย่างนึกหมั่นไส้

“แต่แม่งยิ้มน่ารักชิบหาย เดินดุ๊กดิ๊กเล่นไปเรื่อย หลับตาปี๋เวลามีคนมาแกล้ง โกรธแม่งก็มองค้อนตาแทบหลุด คนเหี้ยอะไรจะแสดงออกทางสีหน้าได้ขนาดนั้น เวลาที่กูวาดรูปชอบมาจ้องเหมือนสนใจมากแต่พอมาเรียนจริงๆเสือกเข้าบริหาร ยังดีที่กูยังเอาตัวรอดตามมาเข้าที่เดียวกับมึงได้ ชอบทำตัวน่ารำคาญแต่โคตรจะน่าเอ็นดู”

“ตอนมึงบอกกูว่ามึงคบกับพี่เพลิงกูแทบบ้า โคตรจะคิดไม่ถึงเลยว่ะ”

แม่งพูดมาซะยืดยาวจนผมเริ่มอายตัวเองเมื่อก่อนมากครับ เหี้ยอะไรเนี่ย… มันสังเกตยังกับกำลังทำรายงานประวัติชีวิตผม มันว่าผมทำตัวน่ารำคาญแล้วก็บอกว่าน่าเอ็นดู คำพวกนี้ออกมาจากปากของเพื่อนที่ผมรักที่สุดจริงๆหรอครับ ถ้ามันบอกผมก่อนที่ผมเจอพี่เพลิงทุกอย่างมันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า

นั่นสิ ทุกอย่างมันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า?

“เฮ้อ...” มันถอนหายใจออกมาเสียงดังแล้วก็เดินออกไปเลื่อนระเบียงไปยืนอยู่ด้านนอก แล้วแม่งก็เลื่อนปิด ทิ้งให้ผมนั่งอึดอัดอยู่ในห้องคนเดียว ผมนั่งกรอกตาไปมาแล้วหันไปมองมันที่เริ่มจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ผมรู้ว่ามันสูบตอนที่คิดงานไม่ค่อยออกหรือว่าสูบให้สมองโล่ง แต่ไม่เคยเห็นมันสูบตรงๆสักครั้ง

ผมเม้มปากแน่นอยากคิดหนักแล้วยืนขึ้นเดินไปหามัน มือผมเลื่อนกระจกระเบียงออกช้าๆ กลิ่นบุหรี่เหม็นๆตีเข้ามาในหัวผมทันที มันหันมามองผมก่อนที่จะสูบและพ่นควันออกมาครั้งสุดท้ายแล้วขยี้บุหรี่ลงกับระเบียง

“สูบแล้วมันหายเครียดไหม” ผมยืนเกาะระเบียงแล้วมองหน้ามันที่ยืนพิงอยู่ข้างๆ

“มั้ง” มันพูดแบบขอไปทีแล้วไม่ได้มองหน้าผมอีก ผมควรจัดการความรู้สึกของผมตอนนี้ยังไงดีวะ ทำไมผมถึงสับสนได้ขนาดนี้ ผมมองหน้ามันแล้วก้มลงมองพื้นชั้นล่าง รู้สึกหวิวจริงๆ

“จูบกูอีกครั้งได้ไหม” ผมกลั้นใจพูดออกไป ผมอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างในตัวผม และใช้มันเป็นเครื่องมือ… เหี้ย ผมมันเหี้ยชิบหาย ผมเล่นกับความรู้สึกของมันจนไม่มีชิ้นดี แต่ผมก็แค่อยากลองดูเฉยๆว่าผมจะคิดยังไงถ้าจูบกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่เพลิง ทั้งที่ตอนนี้เราห่างกัน

“มึงต้องการอะไร” มันถามผมแล้วทำหน้าหงุดหงิดแต่ก็ลังเล ลึกๆแล้วมันคงคิดกับผมไปไกลมากจริงๆ ผมมองหน้ามันนิ่งแล้วเดินเข้าใกล้มันมากขึ้น มันทำท่าจะถอยหนีแต่ตัวมันไม่ขยับเลยสักนิด เพราะผมกำลังเมาอยู่หรอ ทำไมผมถึงคิดบ้าๆแบบนี้ขึ้นมาได้ลงวะ

ผมจับแขนมันทั้งสองข้างให้มาวางไว้บนเอวผม ผมไม่รู้สึกห่าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งที่ควรจะรู้สึก ทำๆไปเหมือนกับสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยครับ แววตาของมันวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้สึกผิดแต่เหมือนมันจะสายไป ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลงพอดีกับที่มันก้มหน้าลงมา

“กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่กูจะยอมมึงทุกอย่าง”สัมผัสนุ่มอุ่นที่ผมได้รับมันหอมหวานจริงๆแต่ผมก็แอบรับรู้ถึงกลิ่นและความขมเปรี้ยวของบุหรี่ที่มันเพิ่งสูบ มันค่อยๆไล่จูบผมเหมือนกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาด ต่างจากพี่เพลิงลิบลับจริงๆ เหอะ

“ฮื้อ…” ผมเผลอครางเสียงสูงไปเพราะมือมันที่เริ่มเกาะแกะผมมากจนเกินไป ผมต้องการแค่จูบไม่ได้ต้องการให้มันเกินเลยอะไรมากกว่านี้ ลิ้นมันสอดเข้ามาช้าๆอย่างยืดยาด ผมยกมือขึ้นกอดมันไว้แล้วจิกลงไปที่เชิ้ตมันแน่นทั้งสองข้าง สมองผมโล่งมากจนลืมไปว่าเราสองคนอยู่ที่ระเบียง

ลืมไปว่าที่นี่บ้านมัน แม่มันก็อยู่…

ที่สำคัญคือผมลืมว่าเพิ่งปฏิเสธมัน

“มึงแม่งก็เป็นแบบนี้” มันผละออกไปผมเลยไล่เลียริมฝีปากตัวเองอย่างไม่รู้สึกห่าอะไรทั้งนั้น มันไม่ได้รังเกียจไม่ได้รู้สึกดีมันกลับว่างเปล่าเหมือนผมจูบกับตุ๊กตาที่บ้าน

“กูเจ็บว่ะ” ผมพึมพำออกมาเบาๆแล้วก้มใช้มือกุมอกตัวเอง

“กูเจ็บกว่ามึงเยอะว่ะ แต่ก็… ได้กำไรดี” มันยิ้มแห้งๆให้ผม และผมก็ได้แต่ก้มหน้ามองเท้าตัวเอง ผมคิดถึงพี่เพลิงมากจริงๆ ใครก็มาแทนเขาไม่ได้ ถ้าพี่เพลิงรู้ว่าผมมาทำแบบนี้จะโกรธผมหรือเปล่า ผมต้องทำยังไงดีครับ

“พี่เขาทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ กูไม่รู้ว่าพี่เขาไว้ใจได้หรือเปล่า ขนาดกูยังไม่ไว้ใจตัวเองเลย”ผมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไง

“มึงก็ไปหาพี่เขาเลยสิ”

“กูรอได้”

ครืดดดดดดดดดดด

“พี่เขาโทรมาหรือเปล่า?” มันถามขึ้นในขณะที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ผมส่ายหน้าไปมาทันทีเพราะเบอร์ที่โชว์อยู่ไม่ใช่เบอร์พี่เพลิงแต่เป็นเบอร์พี่นัท ผมติดต่อพี่นัทล่าสุดก็ตอนวันเกิดพี่เพลิง ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะสไลด์กดรับสายไป

“ฮัลโหลครับ” ผมกรอกเสียงลงไปแต่ปลายสายกลับเงียบตอบกลับมาเลยพูดย้ำไปอีกครั้งแล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนสตาร์ทรถ ผมเกาหัวอย่างงงๆหรือว่าพี่เขาจะกดผิด ผมเลยจะกดวางแต่เสียงก็แทรกขึ้นมาพอดี

‘ฮัลโหล น้องครับ’ ผมรีบยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง พร้อมกรอกเสียงตอบไป

“ว่าไงครับพี่นัท”

‘ไอ้เพลิงมันโดนรถชนแม่งเหี้ยอะไรวะเนี่ย’ หือ ผมงง สมองผมเหมือนมีแมลงมาตอมอยู่ใกล้ๆจนมันอื้ออึงไปหมด ประโยคแรกพี่นัทพูดกับผมแต่ประโยคถัดมาเหมือนจะสบถกับตัวเองมากกว่า ผมนิ่งตาค้างอย่างเลื่อนลอยแต่ยังกำโทรศัพท์ไว้แน่นเพราะความกลัว

“พ…พี่ ว่าไงนะ..” ผมถามไปอีกครั้ง ไอ้พีทมองผมด้วยความสงสัย ผมไม่รู้ว่าผมแสดงสีหน้าอะไรออกไปแต่ผมวูบอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ

“ไอ้เพลิงโดนรถชน! ตอนนี้พี่กำลังไปโรงพยาบาล แม่งเอ๊ย” โทรศัพท์ผมร่วงหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว ผมได้ยินชัดเจนจนสติแทบล่องลอย พี่เพลิงโดนรถชน ทำไมล่ะ แล้วเป็นยังไงบ้างช่วงดึกๆแบบนี้คนขับรถกันเร็วจะตาย พอผมตั้งสติได้เลยเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้แล้วกรอกเสียงลงไปอีก

“พี่เพลิงเป็นอะไรไหม อยู่โรงพยาบาลไหน เจ็บมากไหม โดนใครชน เรื่องมันเป็นยังไงวะพี่” ผมรัวถามไปทั้งที่ใจเต้นรัว ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่เพลิง คนอย่างพี่เพลิงจะไปเดินที่ไหนให้รถชนได้ แล้วผมไปหาพี่เพลิงตอนนี้ได้หรือเปล่า แม่พี่เพลิงจะว่าว่าผมไม่เกี่ยวอะไรหรือเปล่า

‘พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรมากหรือเปล่า พี่เพิ่งออกจากบ้าน’

หลังจากนั้นพี่นัทก็บอกชื่อโรงพยาบาลมา ตอนแรกไอ้พีทมันจะมาส่งแต่ผมสะดวกใจที่จะไปเองมากว่าเลยนั่งแท็คซี่จากหน้าบ้านมันมาลงที่โรงพยาบาล ใจของผมเต้นระรัว ผมไม่เคยมาที่โรงพยาบาลนี้ อาศัยเอาปากถามทางจากพยาบาลแถวนี้ก็รู้ทิศของห้องฉุกเฉิน

ผมวิ่ง วิ่งแบบที่ไม่ควรจะวิ่งในโรงพยาบาล และแล้วผมก็เห็นพี่นัทยืนอยู่หน้าห้องและพ่อแม่พี่เพลิง กับผู้หญิงอีกคนที่ผมไม่รู้จัก ผมเดินเลี่ยงเท่าที่จะทำได้ไปหาพี่นัท เดินก้มหน้าไปหาอย่างช้าๆ

เขาจะคิดว่าผมยุ่งไหมครับ?

เขาจะคิดว่าผมจะมาทำไมหรือเปล่าครับ?

แค่คิดน้ำตาผมก็พานจะไหลออกมาซะแล้ว

“พี่เพลิง…แฮ่ก เป็นไงบ้าง” ผมเผลอหอบออกมาเพราะวิ่งมาเหนื่อยมาก พี่นัทละจากการยกมือขึ้นกอดอกหันมามองผมด้วยสีหน้าเครียดๆ

“พี่มาไม่ทันเห็นมันแต่เขาบอกว่าไม่มีอะไรนะครับ อาจจะโดนเข้าเฝือกมั้ง” ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับยืดตัวขึ้นแต่อยู่ดีๆก็รู้สึกหน้ามืดตาพร่ามองไม่ค่อยเห็นภาพตรงหน้า คนเมายังไม่ทันสร่างแบบผมมันก็ต้องมีมึนกันบ้างนั้นแหละครับ

ติดอยู่อย่างเดียวที่พี่นัทคว้าตัวผมไว้ก่อนที่ผมจะเซ เสียงรองเท้าผมดังกระแทกกับพื้นทำให้พ่อแม่พี่เพลิงหันมามอง ผมสะบัดหน้าไปมาเรียกสติตัวเองพร้อมกระพริบตาถี่ๆไล่ความมัวของภาพออกไปแล้วพยักหน้าขอบคุณพี่นัทให้รู้ว่าผมไม่เป็นไร

“จะมาทำไมก็ไม่รู้”

“คุณก็ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ฟังลูกบ้าง”

ผมยกมือขึ้นกุมหัวแล้วยิ้มให้พี่นัท งงครับ ฟังลูกบ้างคืออะไรผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าแม่พี่เพลิงพี่ชอบหน้าผมเลยสักนิด

“ผมโทรบอกให้น้องมาเองครับ ผมว่ามันอยากเจอน้องที่สุดแล้วครับคุณน้า ต้องขอโทษด้วยครับ” พี่นัทพูดขึ้นแล้วโยกหัวผมไปมา แม่พี่เพลิงดูหน้าเสียไปเล็กน้อยส่วนพ่อพี่เพลิงได้แต่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ผมวางตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แบบนี้คือแม่พี่เพลิงรู้แล้วหรอว่าผมคิดยังไงกับพี่เพลิง

“พี่นัท มันยังไงวะลมงง” พี่นัทไม่ได้พูดอะไรแต่ดึงให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้แถวนั้นก่อนที่พ่อแม่พี่เพลิงจะมานั่งฝั่งตรงข้าม แม่พี่เพลิงจ้องผมอย่างพิจารณาทำให้ผมนั่งเกร็งอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี

“เล่าได้ยัง เล่นตัวว่ะ” ผมเหวี่ยงใส่พี่นัทที่นั่งยิ้มหน้าเสร่อใส่ผม หงุดหงิดก็หงุดหงิดครับ เกร็งก็เกร็งอีกแต่ที่รู้สึกที่สุดคือห่วงพี่เพลิง ถึงจะบอกว่าไม่เป็นอะไรแต่มันก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว รถชนนะครับไม่ใช่มดกัด

“แบบนี้ไงไอ้เพลิงมันถึงหลงชิบหาย”พี่นัทพูดแล้วโยกหัวผมไปมา ผมปัดออกด้วยความรำคาญพี่นัทชอบหยอกถึงเนื้อถึงตัวยิ่งกว่าพี่เพลิงอีกครั้ง ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ก็แอบรำคาญเหมือนกัน

“ปากแดงมาเชียวเนอะ สภาพก็เหมือนผ่านสงครามมา กลิ่นเหล้าจางๆก็ยังอยู่ครบ หวงแทนไอ้เพลิงจริงๆว่ะ” ผมยกมือขึ้นเช็ดปากลวกๆอย่างตกใจแล้วก้มลงดมเสื้อตัวเองตามลำดับ ยอมรับว่าไม่ได้กลิ่นครับ ก็คนมันกินมาจะให้เอาประสาทส่วนไหนรับรู้กลิ่นได้ครับ

“คุณมองน่าเกลียดไปแล้วนะ นั่นเด็กนะคุณ” พ่อพี่เพลิงพูดเหมือนดุแม่พี่เพลิงนั่นทำให้ผมก้มหน้างุดแทนครับ โดนจ้องไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะครับ

แกร๊กๆ…..

เสียงล้อลากทำให้ผมดีดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงรวมถึงคนอื่นๆด้วย ผมเดาว่าอย่างบ้านพี่เพลิงคงดูเรื่องห้องไว้อย่างดีแล้วแน่ๆ ติดอยู่อย่างเดียวคือผมจะมีสิทธิ์เข้าไปยุ่งไหม

พี่เพลิงโดนใส่เฝือกทั้งขาและแขนด้านขวาเหมือนกัน ผมมองอยู่ห่างๆโดยที่คนอื่นลุกเข้าไปใกล้ โล่งใจแต่ก็แอบอึดอัดไม่น้อยเลยครับ พี่เพลิงหันมาเห็นผมแล้วก็ทำหน้าตกใจ แต่ผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ตั้งแต่แรกเรียกความสนใจพี่เพลิงไปเต็มๆ พ่อแม่และพี่นัทบังพี่เพลิงไว้จนมิด ผมถอนหายใจออกมาแล้วยืนมองอยู่ห่างๆอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อ

แล้วพี่เพลิงก็โดนเข็นออกไปพ่อพี่เพลิงเดินเคียงข้างไปไม่ห่าง พี่เพลิงหันมามองผมแล้วก็หันกลับไป ส่วนพี่นัทก็เดินหยอกพี่เพลิง ผมยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อนผมไม่ควร ไม่ควรอยู่ตรงนี้จริงๆ พี่เพลิงมีคนรอบตัวมากมายที่รักและสนใจ โดยที่ไม่จำเป็นตรงมีผมด้วยซ้ำ

“ยืนอยู่ทำไม เดินมาสิ” ผมเงยหน้าขึ้นแบบงงๆ แม่พี่เพลิงปรายตามองผมเล็กน้อยก่อนที่จะเดินตามรถเข็นพี่เพลิงไป ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีไม่น้อย อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ได้รังเกียจผมขนาดนั้น

“เจ็บไหม ข้ามถนนไม่รู้จักระวัง” ผมเดินตามหลังแม่พี่เพลิงอย่างกล้าๆกลัว พร้อมปิดประตูลงแล้วยืนอยู่แถวนั้น มีคนยืนอยู่เต็มห้องเลยครับ เสียงคนในครอบครัวพูดหยอกล้อกันขึ้นทำให้ผมตัวลีบยิ่งกว่าเดิม

“โหยพ่อครับ...”

“หนูขอโทษค่ะพี่ ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ”ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ในห้องก้มหัวขอโทษพี่เพลิงทีพ่อพี่เพลิงที ผมเลยเดาได้ว่าคงเป็นคนที่ชนพี่เพลิง

“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ระวังเอง” พี่เพลิงพูดแล้วยิ้มออกมาพอดีกับที่สายตาผมสบเข้ากับพี่เพลิงพอดี พี่เพลิงมองผมอยู่ที่เตียงและผมก็มองตอบอย่างตื่นเต้น หายไปแค่อาทิตย์เดียวทำไมผมถึงประหม่าขนาดนี้ก็ไม่รู้

“เข้าไปสิ” พี่นัทผลักผมให้เขาไปในวงเฉยเลยครับ ผมเผลอชนพ่อพี่เพลิงจนต้องยกมือขึ้นไหว้แบบลวกๆ พ่อพี่เพลิงไม่ได้ว่าอะไรแถมยังถอยให้ผมยืนดีๆอีกต่างหาก

“เจ็บไหม” ผมถามไอ้คนที่นอนยิ้มระรื่นอยู่บนเตียงทั้งที่น่าจะเจ็บชิบหายอยู่แล้ว พี่เพลิงส่ายหน้าไปมาผมก็นิ่งไม่รู้จะทำยังไงต่อ

“คุณ ผมว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า” พ่อพี่เพลิงหันไปพูดกับแม่พี่เพลิงผมเลยหันไปมองตาม

“ฉันจะอยู่ดูแลลูกค่ะ”

“คุณอย่าไปแกล้งเด็กสิ พรุ่งนี้ค่อยมาเถอะ วันนี้ให้หนูคนนี้เขาเฝ้าไป” พ่อพี่เพลิงพูดไกล่เกลี่ยจนสีหน้าแม่พี่เพลิงเริ่มดีขึ้น ผู้หญิงคนที่ชนที่เพลิงให้เบอร์ติดต่อไว้แล้วขอตัวกลับไปพร้อมๆกับพี่นัท

“พ่อฝากดูมันด้วยนะ” พ่อพี่เพลิงเดินมากระซิบใกล้หูผมก่อนที่จะลากแม่พี่เพลิงออกไปจากห้อง

(ต่อรีพลายล่างค่า)

ออฟไลน์ pedonlyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
เสียงประตูที่กระทบบานประตูเป็นสัญญาณว่าผมอยู่กับพี่เพลิงสองคนอีกครั้งหลังจากที่ห่างกันอาทิตย์หนึ่ง กะอีแค่อาทิตย์เดียวทำอย่างกับไม่ได้เจอกันเป็นชาติไปได้ ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างที่พี่เพลิงไม่ได้ใส่เฝือกแล้วซบลงกับแขนพี่เพลิง เอาหัวหนักๆของตัวเองวางกดมันไว้

“ไหนบอกว่าจะโทรมา หายไปหลายวันไม่ห่วงลมบ้างหรอ ลมอาจจะทนไม่ไหวไปหาคนอื่นก็ได้ แล้วทำไมคนที่โทรมาต้องเป็นพี่นัท ทำไมพี่เพลิงต้องสภาพแบบนี้ด้วย ลมไม่เข้าใจอะไรเลยว่ะ” ผมบ่นพึมพำกับเตียงและแขนพี่เพลิง เสียงสบถเบาๆทำให้ผมรู้ว่าพี่เพลิงจะยกแขนขึ้นลูบหัวผมแต่ยกไม่ได้

“พี่ขอโทษ พี่มีปัญหากับที่บ้านนิดหน่อย แต่พี่ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวแม่ก็รับได้” ยังมีหน้ามายิ้มให้ผมอีกครับ ผมแกล้งข่วนแขนพี่เพลิงไปเบาๆแล้วนั่งนิ่งอย่างไม่รู้จะทำอะไร

“เจ็บไหมอ่ะ” ผมถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“เจ็บครับ แต่มาเจอกันแบบนี้ได้ก็ดี” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆไม่รู้จะทำไง มันไม่ใช่เรื่องจะมาดีใจเลยสักนิดนะครับ

“ไปเดินอีท่าไหนให้รถชนขนาดนี้” ผมเลิกคิ้วถาม พี่เพลิงมองผมเลิ่กลั่กนิดหน่อยแต่ก็ยอมมองตาผมตรงๆ

“เปล่าครับ พี่เหม่อนิดหน่อย ช่วงนี้งานหนักมากเลยครับ”

“สมน้ำหน้าดีไหมเนี่ย” ผมพึมพำออกมาอย่างนึกหมั่นไส้

“พี่คิดถึงน้องลมจะตายแล้ว ทำไมน้องลมมาเมาเละแบบนี้ล่ะครับ” พี่เพลิงพูดพร้อมยิ้มล้อผม ผมเลยแกล้งทำหน้ามุ่ยใส่แต่ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ พี่เพลิงดูหน้าซีดแล้วก็ผอมลงเยอะเลยครับ เหมือนคนไม่มีแรงเลย แล้วตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วยผมควรเลิกพูดมากแล้วปล่อยให้พี่เพลิงนอนพักดีกว่า

“ใครใช้ให้หายไปเลยล่ะ เออ ลมว่าพี่เพลิงนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” ผมจัดแจงดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวคนเจ็บที่ทำหน้าระรื่นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่บนเตียง พี่เพลิงดูแลผมมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ผมคงต้องตอบแทนบ้างเสียแล้วล่ะครับ

“คุยวันนี้ไม่ได้หรอ ไม่เจอกันตั้งนาน” ผมบุ้ยปากแล้วกดปิดไฟในห้องจนทั้งห้องเงียบลงอย่างชัดเจน เสียงที่ลอดเข้ามาจากกระจกระเบียงทำให้ผมพอจะมองเห็นทุกอย่างในห้องอยู่บ้าง

“เป็นคนเจ็บก็เจียมตัวหน่อยสิ” ผมเหวี่ยงไปนิดหน่อยแต่พี่เพลิงมันดันบ้ายิ้มออกมา

“ทำไมพี่ต้องหลงน้องลมขนาดนี้ก็ไม่รู้ แบบพี่นี่จะหาใครใหม่ก็ได้สบายๆเลยนะ” ผมเบ้ปากแล้วซุกตัวลงกับผ้าห่มที่เขาวางไว้ตรงโซฟา ผ้าห่มแข็งๆกับหมอนยางไม่ได้ทำให้ผมสบายตัวเลยสักนิดแต่มันกลับทำให้ผมสบายใจมากจนผมแอบยิ้มออกมา

“คนที่รอลมก็เยอะนะ เดี๋ยวจะพลาดของดี” โอ้โหผมนี่ก็กล้าพูดว่ะ พี่เพลิงหลุดหัวเราะออกมาผมเลยหัวเราะตามก่อนจะซุกหน้าลงกับผ้าห่มแข็งๆ

“หายหน้าไปนี่ทำอะไรบ้าง” ผมพูดขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่ควรเงียบให้พี่เพลิงพักผ่อน คนมันอดไม่ได้นี่ครับ

“ทำงาน กลับบ้าน ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่เหมือนบางคน” ผมเบ้ปากอยู่ใต้ผ้าห่มครับ น่าหมั่นไส้จริงๆ

จากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ผมง่วงก็จริงแต่ก็ยังอ้าปากตอบพี่เพลิงไปเท่าที่ยังไหว ทำเหมือนเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยครับ ผมมีความสุข รู้สึกดีจริงๆทั้งทีผมต้องมาเฝ้าคนเจ็บและพี่เพลิงก็ยังนอนเจ็บอยู่แบบนี้ แต่ผมกลัวแม่พี่เพลิงจังเลยครับ

………………………………………………………………………………………….

ผมให้แพรเอาของมาให้ผมเพื่อที่จะอาบน้ำและนอนเฝ้าคืนวันนี้ แพรมาแป๊บเดียวครับเพราะวันนี้มีสอบปลายภาค แล้วก็พี่เพลิงต้องนอนดูอาการอีกวันครับ เมื่อกี้พี่พยาบาลเข้ามาอธิบายวิธีดูแลคนไข้ เรื่องอาบน้ำหรือเรื่องต่างๆให้ผมกับพี่เพลิงฟัง ไอ้ผมน่ะอาบน้ำตั้งนานแล้วปัญหาคือไอ้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงนี่แหละยังไม่อาบ

พ่อกับแม่พี่เพลิงก็ยังไม่มาเสียด้วย ผมได้แต่พยักหน้างึกงักรับคำพี่พยาบาล พี่เขาคิดว่าผมเป็นน้องพี่เพลิงครับซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

“เอาไงอ่ะ อาบเลยไหม” ผมเดินไปถามคนที่นอนทำหน้าเหยเก รู้สึกจะบ่นว่าคันมาสักพักแล้วครับ น่าสงสารจริงๆ

“ก็ดีครับ พี่เหนียวตัวมากเลย” ผมช่วยพยุงพี่เพลิงลงมาจากเตียงอย่างยากลำบาก หนักครับหนักจริงๆ มือผมรวบเอวพี่เพลิงไว้ใกล้ๆแล้วพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เสียงบ่นมาเป็นระยะครับ ฮ่าๆ

“เหนื่อย...” ผมบ่นขึ้นมาพร้อมมองพี่เพลิงที่ใช้แขนซ้ายเท้ากับเคาน์เตอร์เพื่อพยุงตัว เอาล่ะครับทีนี้จะเริ่มยังไง แขนน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่ขาน่ะสิครับต้องใช้ถุงพลาสติกมัดไว้หลายๆชั้น โอ้ยยย ทำไมมันลำบากแบบนี้วะครับ ผมยกมือขึ้นขยี้หัวด้วยความหงุดหงิดทันที

อุปกรณ์พร้อมแล้วครับ..... แต่ใจผมไม่พร้อม ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อไอ้คนเจ็บที่ยืนพิงเคาน์เตอร์อยู่นิ่งๆ ใจเต้นตุ้บๆด้วยความตื่นเต้น มันจะตื่นเต้นเพื่ออะไรวะ ปลดลงจนเม็ดสุดท้ายแล้วค่อยๆเอามืออ้อมหลังไปเพื่อดึงเสื้อจนมันออกมาอย่างง่ายดาย รู้สึกอยากจะหดลงให้เหลือตัวเท่ามดครับ ผมจะบ้าตายแล้วเนี่ย

“น้องลมอย่าทำหน้าแบบนี้สิครับ พี่จะแย่เอานะเนี่ย” ยิ้มออกมาแห้งๆกันทั้งคู่เลยครับ สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดๆ ผมพับเสื้อพี่เพลิงอย่างลวกๆแล้ววางพาดไว้ราวแขวนเสื้อ อยู่ดีๆก็มีเสียงจากด้านนอกแทรกเข้ามาครับ

“คุณนี่เยอะจริงๆ”

“ฉันผิดด้วยเหรอคะที่ไม่ชอบ นั่นลูกชายคนเดียวนะคะ เอ้า ไปไหนซะล่ะ”

“เข้าห้องน้ำหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ ฉันหมายถึงเด็กคนนั้น”

“คุณนี่นะ...”

ห้องมันเล็กครับ พูดอะไรมันก็เข้าหูผมหมดแหละ ผมได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ในใจผมกำลังสับสนทุกอย่างมันตีรวนไปหมดได้แต่แสดงออกโดยยิ้ม ครับ ยิ้มอย่างเดียว

“เอ่อ ลมว่าลมไปให้แม่พี่เพลิงมาจัดการดีกว่า... เนอะ” ผมพยักพเยิดไปทางประตูแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่พี่เพลิงจับมือผมไว้

“พี่ไม่ได้อยากให้แม่มาอาบน้ำให้สักหน่อย อ้อ น้องลมไปขอที่โกนหนวดที่แม่มาให้พี่หน่อยสิ แม่น่าจะเอามาให้พี่อยู่นะ” ให้ผมออกไปตอนนี้? ตอนนี้เนี่ยนะครับ? ผมลังเลนิดหน่อยแต่ก็ยอมเปิดประตูห้องน้ำออกไปด้านนอก แน่นอนว่าแม่พี่เพลิงหันมามองผมแทบจะทันที

“เอ่อ.. พี่เพลิงให้ผมมาเอาที่โกนหนวด.... ครับ” มองผมแบบนี้อีกแล้ว… มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยครับ ผมได้แต่ยืนโง่ๆอยู่ตรงหน้าแม่พี่เพลิงด้วยความประหม่า

“มาเอานี่เลยลูก” พ่อพี่เพลิงกวักมือเรียกผม ผมเลยหันไปก้มหัวให้แม่พี่เพลิงนิดหน่อยก่อนที่จะเดินไปหาพ่อพี่เพลิงที่ยืนอยู่อีกมุมของห้อง

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบรับพ่อพี่เพลิงก่อนที่จะรับมันมาถือพร้อมๆกับอุปกรณ์อาบน้ำอื่นๆที่ยังไม่ได้เปิดใช้ด้วยซ้ำ ซื้อใหม่เพื่อการนี้เลยหรอเนี่ย ลงทุนจริงๆ

“หน้าเหมือนแม่จริงๆ” ผมได้แต่เดินเกร็งเพราะคำพูดที่ออกมาจากปากแม่พี่เพลิงทุกคำ พ่อพี่เพลิงลอบถอนหายใจออกมาแต่ผมก็ได้ยิน ผมกระพริบตาถี่ๆอย่างกังวลแล้วเคาะประตูห้องน้ำพี่เพลิง มีเสียงน้ำดังออกมาแล้วแสดงว่าเจ้าตัวเริ่มอาบเองแล้วสิครับ ไอ้คนรักสะอาดเอ๊ยยยย

“พี่เพลิง ลมเข้าไปนะ” ผมพูดแล้วเคาะประตูเบาๆจนมีเสียงตอบรับมาผมถึงเปิดประตูเข้าไป

โล่งอกครับที่พี่เพลิงอาบพร้อมๆกับท่อนล่าง อาจจะไม่มีอารมณ์จะถอดออกหรืออะไรก็ไม่รู้หรอกครับ แต่ก็ดีแล้วแหละ พี่เพลิงพยายามยกแขนให้ห่างจากตัวจนหน้าเหยเกไปหมดเลยครับ สงสัยว่าจะปวดน่ะสิ

“เสร็จยัง ลมช่วยไหม” ผมเสนอตัวจะช่วยแต่พี่เพลิงส่ายหน้าปฏิเสธ สบู่ผมถูกเอาไปใช้ผมเลยวางของที่พ่อพี่เพลิงเอามาให้ไว้เฉยๆแล้วแกะที่โกนหนวดกับแปรงสีฟันออกมาให้พี่เพลิง จัดแจงบีบยาสีฟันให้อย่างดี ไอ้พัดเด็กๆผมยังไม่ดูแลดีขนาดนี้เลยนะเนี่ย

“ขอบคุณครับ” พี่เพลิงรับแปรงสีฟันที่ผมเตรียมไว้ให้ไปถือ ลองนึกสภาพคนน่าตาดีคนนึงที่เนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยน้ำแต่แขนกับขาเข้าเฝือกและแปรงฟันอย่างยากลำบากด้วยมือซ้าย ดูไม่จืดเลยครับให้ตายสิ ฮ่าๆ

“โกนหนวดให้พี่หน่อยได้ไหมครับ” หือ? ผมหันไปเลิกคิ้วให้พี่เพลิงที่ก้มหน้าบ้วนปากอยู่ข้างๆผม

“เอาจริงหรอ ลมไม่เคยโกนว่ะ กลัวบาด” ผมพูดตามความจริงครับเพราะผมไม่มีหนวดจะมีก็แต่ขึ้นมาเป็นไรอยู่นิดหน่อยใต้จมูกซึ่งผมก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมพยักหน้าอย่างลังเลเล็กน้อยแล้วยกตัวขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์พร้อมดึงตัวพี่เพลิงให้เข้ามาใกล้ เสียงถุงพลาสติกกระทบกับพื้นทำเอาผมตลกขึ้นมานิดหน่อย

“เจ็บตัวอยู่ยังอยากหล่ออีก” ผมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่พี่เพลิงจะใช้แขนซ้ายยันตัวไว้อยู่ข้างเอวผมพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมบีบโฟมล้างหน้าออกมาลูบๆหน้าพี่เพลิงตรงที่จะโกน จั๊กจี้ดีครับ ฮ่าๆ

“เอานะ” ผมถามพร้อมเลิกคิ้วอีกรอบเพราะไม่มั่นใจเล๊ยยย

“ครับ”

ผมจับคอพี่เพลิงให้ได้องศาที่ต้องการ ค่อยๆเลื่อนมันลงมาตามโครงหน้าช้าๆเพราะกลัวว่ามันจะไปบาดจริงๆครับ แต่นี่ผมทรมานคนเจ็บไปไหมครับ ผมนั่งบนเคาน์เตอร์ส่วนพี่เพลิงยืนอยู่ตรงหน้าผม เอาเถอะ ไม่เห็นเป็นไรเลยเนอะ ผมเผลอละสายตาจากปากมามองตาพี่เพลิงแทนแล้วมันก็เขินขึ้นมาเสียอย่างงั้น จ้องจะผมอยากเอาหน้ามุดถุงพลาสติกให้ขาดใจตายกันไปข้าง

“มองทำไม” ผมถามแล้วแกล้งโกรธกลบเกลื่อนครับ

“น้องลมเวลาตั้งใจทำอะไรแล้วน่ารักดี พี่ชอบ” บางทีก็ไม่ต้องพูดหยอดอะไรแบบนี้ก็ได้มั้งครับ เอาตรงๆเลยคือผมเขิน เขินชิบหายแล้ว ใครไม่มาโดนจ้องแบบผมไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกผมเลยจริงๆ ผมแกล้งปั้นหน้าโกรธออกไปแล้วตั้งสมาธิอยู่กับคางและการโกนหนวดให้คนเจ็บที่ห่วงหล่อแทนครับ

“นานเนอะ” ผมออกมาเอาเสื้อผ้าให้พี่เพลิงเปลี่ยนครับเพราะผมลืมหยิบเข้าไปพ่อพี่เพลิงก็ยิ้มล้อผมเลยครับ พ่อพี่เพลิงท่านน่ารักจริงๆนะครับ คารมดีชิบหายเลยล่ะ

“ลำบากนิดหน่อยครับ” ผมพูดแล้วเหลือบไปเห็นกระเป๋าที่คิดว่าน่าจะใส่เสื้อผ้าพี่เพลิงมาให้ก็เลยถือวิสาสะเข้าไปหยิบ แต่มันต้องใส่ชุดโรงพยาบาลผมเลยหยิบมาแต่ชั้นใน แอบขนลุกอยู่เหมือนกันครับ แต่คงต้องทำใจให้ชิน

“แม่คุยโทรศัพท์อยู่นู้นครับ” สงสัยว่าผมจะชะโงกหาจนชัดเจนไปหน่อยพ่อพี่เพลิงเลยพูดขึ้นมาแบบนั้น ผมยิ้มแห้งๆแล้วมองไปทางระเบียงที่แม่พี่เพลิงยืนคุยโทรศัพท์อยู่จริงๆ ก่อนที่จะก้มหัวขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พี่เพลิง

“งือ ใส่เองได้ไหม” ผมพูดใส่พี่เพลิงครับ แบบว่าใจผมไม่แข็งพอจริงๆ พี่เพลิงหัวเราะแล้วรับเสื้อผ้าไปอย่างว่าง่าย ผมหันหลังไม่มองพี่เพลิงแต่ก็แอบห่วงว่าจะไหวไหมเพราะเป็นผมคงลำบากน่าดูเลยครับ

เสียงจิ๊ปากทำให้ผมกลั้นใจแล้วหันไปช่วยพี่เพลิงใส่ครับ เพราะท่าจะลำบากจริงไม่มีแสตนอินอะไรทั้งนั้น พี่เพลิงจับไหล่ผมแล้วยกขาใส่อย่างว่าง่าย แล้วก็ใส่เสื้อครับ ลำบากใจกันมากๆทั้งคู่จริงๆครับแต่ก็ผ่านไปแบบเรียบร้อยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พ่อ สวัสดีครับ” ผมพยุงพี่เพลิงให้นั่งลงบนเตียงแล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆขยับขึ้นไปนั่งท่าสบายๆ

“เป็นไงบ้างล่ะ ไม่เอาเรื่องใช่ไหม” ผมเดาว่าน่าจะหมายถึงคนที่ชน พี่เพลิงส่ายหน้าไปมาพ่อพี่เพลิงเลยพยักหน้ารับรู้ พ่อเทพบุตรเอ๊ย น่าหมั่นไส้จริงๆครับ

สักพักแม่พี่เพลิงก็เดินเข้ามาทวงถามอาการพี่เพลิง ผมเหมือนโดนกันยังไงก็ไม่รู้เลยนั่งหน้าหมาหงอยอยู่บนโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนแล้วเลื่อนอีกก็ไม่มีท่าทีว่าผมจะแทรกเข้าไปได้เลย รออยู่สักพักพี่แม่บ้านก็เอาอาหารเข้ามาครับ ผมเหม่อมองตามแล้วก็ต้องสะดุ้งเพราะคำพูดของแม่พี่เพลิง

“เอ้า มาป้อนสิ อยากอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรอ” หน้าผมต้องเหวอมากแน่ๆครับ เพราะไม่คิดว่าแม่พี่เพลิงจะเปิดทางให้ผม

“ค…ครับ?”

“ฉันมีธุระ มาแค่นี้แหละ ฝากดูแลลูกฉันด้วยแล้วกัน ตาเพลิงก็อย่ามาทำหน้าล้อเลียนใส่แม่อีกนะ นี่ เราไปกันเถอะคุณ” อยู่ดีๆแม่พี่เพลิงก็พูดประโยคยืดยาวออกมา ผมงงๆแต่ก็ตอบรับไปโดยดี แม่พี่เพลิงลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากห้องผมเลยยกมือไหว้อย่างลวกๆด้วยความตกใจ

“ค่ำๆฉันจะดูแล้วกัน”

“ครับๆ”

“ลมงงว่ะ” ผมยกมือขึ้นเกาหัวแล้วนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ข้างเตียงพร้อมลากที่วางข้าวให้ใกล้ตัวพี่เพลิง ไล่เปิดดูแต่ละอันก็กับข้าวธรรมดาๆทั้งนั้นเลยครับ ไข่เจียวเอย แกงเอย มีน้ำส้มอีกแก้วครับ จะว่าไปผมยังไม่ได้กินอะไรเลยครับ แต่ก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้หิวอะไรอยู่แล้ว

“แม่คงเห็นน้องลมทำหน้าน่ารักเลยยอมมั้งครับ” พี่เพลิงพูดแล้วยิ้ม ผมเบ้ปากพร้อมเอาช้อนตักข้าวคำใหญ่ๆยัดปากพี่เพลิงไป

“ไหนขยายความหน่อย” เสียงอู้อี้ๆที่พี่เพลิงพยายามพูดทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ รู้สึกเป็นผู้นำครับ อิอิ

“ก็น้องลมนั่งหงอยอยู่คนเดียว แม่พี่ใจอ่อนง่ายจะตาย”

“ลมว่าแม่พี่เพลิงไม่ชอบลมเลย ลมต้องทำยังไงอ่ะ” ผมพูดบ่นแล้วยัดไข่เจียวปิดปากพี่เพลิงไม่ให้พูด พี่เพลิงตวัดตามองผมเหมือนอยากด่าแต่ผมชิงหัวเราะก่อน

“แม่พี่ก็เป็นแบบนี้ พี่คุยแล้วคุยอีก คงต้องให้สัมผัสความน่ารักของเด็กพี่เองแล้วมั้ง”

“อ๋อหรอ”

“ไปอยู่บ้านพี่ไหมครับ”

“อะไรนะ???”
_____________________________________________________________
(คลานเข่าเข้ามาแปะ) มาช้าแต่ยาวนะคะ แง5555555
เราขออย่างหนึ่งค่ะ ถ้าหากว่าคนอ่านคนไหนคิดว่าเรื่องนี้ยังมีอะไรที่ค้างคาอยู่หรืออยากให้เราอธิบายเพิ่มตรงไหนบอกได้เสมอนะคะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเราเลยที่จะจบแล้วเราก็รักเรื่องนี้มากๆเลยอยากทำให้ดีที่สุดค่ะ แฮร่

ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ อีก2ตอนก็จะจบแล้ว ตื่นเต้นจังค่ะ เพราะทุกคนเลยนะ ขอบคุณจริงๆค่ะ :กอด1:
ปล.วันนี้เป็นทั้งวันเกิดและเปิดเทอมเลยค่ะแต่ก็ยังไม่ยอมนอน55555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อุ้ยยยยย   ชวนไปอยู่บ้านเลยเหรออออ  แม่สามีจะไม่กินหัวเหรอออ 555

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
น้องลมไม่ควรไปอ่อยแบบนั้นนะลูกกกกกกกก สงสารพีท T_________T ขัดใจแรง  :katai1: :katai1:
ส่วนของพี่เพลิงนั้น...ยอมรับค่ะว่าหมั้นไส้ พี่เพลิงบอกหลงน้อง ตกลงรักหรือแค่หลงคะ
เรื่องที่โดนรถชนก็ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี 555555555555555555555555 (หมั่นไส้มานานเป็นอย่างหลังแล้วกันเนาะ)
อีกสองตอบจบขอจบแบบแฮปปี้นะคะ คุณแม่เซย์เยสนะ สงสาร  :mew2: :mew2:


สุดท้ายนะฮะ.. วันเกิดคนเขียน.. สุขสันต์วันเกิดค่ะ ไม่รู้จะอวยพรอะไร(5555) เอาเป็นว่ามีความสุขนะ ขอให้ชีวิตดี ขอให้ได้ขอให้โดน 5555555555 รักนะ

 :give2: :give2: :give2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ค้างคาเรื่องความสัมพันธ์แม่ลม-พ่อเพลิง-แม่เพลิงน่นแหละ แถมมาตอนนี้พ่อลมอีกล่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือเราว่าพ่อเพลิงกับแม่ลมไม่อธิบายอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไม่ทำให้มันจบ คนที่ระแวงก็ไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านได้

พีท-ลมจูบกันที่ระเบียงจะมีมือดีมาถ่ายรูปหรือเปล่า แม่เพลิงอาจจะให้คนตามดูลมก็ได้มั๊ง 

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย ชวนไปอยู่บ้านเลยเชียว  :-[ :-[ :-[
 :m20: คุณพ่อพี่เพลิงแซวน่าดู แถมเบรกคุณแม่ไว้เรื่อย รักพ่อพี่เพลิงเลย o13

ออฟไลน์ punnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ถึงจะรู้สึกสับสนยังไงหนูลมก็ไม่ควรจะพิสูจน์ด้วยการจูบนะจ๊ะ จำเอาไว้อย่าทำอีกละกัน
เข้าไปอยู่บ้านพี่เพลิงแล้วก็ทำให้คุณแม่ใจอ่อนให้ได้นะลม (ได้ข่าวลมยังไม่ได้ตกลง)

ออฟไลน์ TOY_SKY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนนี้ลมทำไม่ถูกเลยอ่า   ถ้าเพลิงรู้เข้าจะเสียใจนะ   :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เรื่องแม่ปัจจุบัน เป็นอย่างนี้เอง
แล้วอดีตมันเป็นอย่างไรนะ

สงสารพีท ทำยังไงดี

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เปิดทางแล้วสินะพี่เพลิงไปคุยยังไงนะ  แล้วที่รถชน มันเป็นแผนใช่มั้ย 555

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ชอบโมเม้นต์โกนหนวดมากกก งื้อออ><

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อะไรกัน  ชวนเข้าบ้านแล้ว

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พี่เขาชวนแล้ว ไปสิๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด