คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 22
"คุณแม่ทำอะไรฮะ" เสียงน้องภาคแฝดพี่ร้องถามพัสกรที่กำลังเดินวนไปวนมาหยิบโน่นนี่นั่นอยู่ในครัว
"คุณแม่กำลังจะทำคุ๊กกี้ปังแมนกับขนมปังใส่กรอกรูปน้องหมาที่หนูชอบใส่โหลไว้ให้พี่ภาค ภีมและก็
น้องภามไว้ทานยังไงครับ" พัสกรก้มตัวบอกกับลูกแฝดคนโตของตัวเอง ก่อนที่จะเดินวนไปหยิบเนยก้อนใน
ตู้เย็นอีกทีเพราะลืมหยิบออกมาพร้อมกับตอนที่ไปหยิบไข่ไก่ออกมาเมื่อกี้
"พี่ภาคอยากช่วยคุณแม่ด้วย" น้องภาคบอกออกมานิ่งๆตามสไตล์ของตัวเอง...ลูกชายฝาแฝดของพัสกร
และณัฐภาสนั้นนอกจากจะหน้าตาไม่เหมือนกันแล้ว ลักษณะนิสัยและบุคคลิกท่าทางก็ยังไม่เหมือนกันอีก
เรียกได้ว่าสามคนสามสไตล์เลย พี่ภาคแฝดโตนั้นคนนี้เขาสไตล์หล่อขรึมเพราะนอกจากจะหน้าตาเหมือนกับ
ณัฐภาสผู้เป็นพ่อแล้วยังมีนิสัยนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยสนใจโลกเหมือนกับณัฐภาสตอนที่สวมหัวโขนนั่งโต๊ะทำงาน
เป็นประธานขาโหดในบริษัทอีกด้วย ส่วนน้องภีมแฝดกลาง คนนี้เขาลูกชายคุณแม่ของแท้ เพราะนอกจาก
จะมีหน้าตาหน้ารักจิ้มลิ้มที่ได้มาจากพัสกรผู้เป็นแม่แล้วยังมีนิสัยชอบออดอ้อนช่างพูดช่างเจรจา ออร่าเคะ
น้อยแตกกระจายให้เห็นกันตั้งแต่เด็กเลย คุณพ่อภาสเลยหวงเป็นพิเศษ ส่วนน้องภามแฝดเล็กคนนี่ไม่รู้จะ
อธิบายเพราะนอกจากจะไม่เหมือนพ่อแม่แล้ว ยังแสบหลุดโลกอีกต่างหาก เหมือนเอาเจ้านาย น้องภาค
น้องภีม มาผสมอยู่ในตัวน้องภามคนเดียวเลย แต่คนนี้เขาเป็นขวัญใจของคุณปู่เพราะความเกรียนหลุดโลก
ของเจ้าตัวนี่แหละ!!
"น้องภีมอยากทำด้วย!!"
"พี่ภามก็ช่วยด้วย!!"
แฝดกลางกับแฝดเล็กที่ได้ยินพี่ชายคนโตของตัวเองพูดบอกคนเป็นแม่อย่างนั้นก็เข้ามากระโดดโลดเต้น
พูดบอกอยู่ข้างๆ ตัวพัสกรอย่างกระตือลือล้น จนพัสกรต้องยอมให้เด็กแฝดทั้งสามคนช่วยกันร่อนแป้งสำหรับ
ทำขนมปังในที่สุดเพราะพ่ายแพ้ต่อสายตากลมๆ เว้าวอน ที่ยากจะปฏิเสธทั้งสามคู่นั่นได้ จึงเดินไปหยิบโต๊ะ
ญี่ปุ่นที่เด็กแฝดเอาไว้เขียนหนังสือมากางวางไว้กลางห้องนั่งเล่นที่แปลสภาพเปลี่ยนไปเป็นห้องของเล่นแฝด
เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่พัสกรจะต้องเอาโต๊ะญี่ปุ่นมากางในห้องนั่งเล่นอย่างนี้ก็เพราะว่าในห้องครัวมันอันตราย
ต่อเด็กเล็กอย่างสามแฝดนี้เกินไป
"อ๊ะ!...ตั้งน้ำไว้นี่..ลืมเลย เดี๋ยวพี่ภาคช่วยดูน้องแทนแม่ด้วยนะครับ อย่าทำให้เลอะเทอะกันนะครับสาม
แสบของแม่" พัสกรพูดออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองตั้งหม้อน้ำเตรียมจะทำอาหารมื้อเย็นไว้ด้วย จึงพูดบอก
ให้น้องภาคแฝดพี่ที่เป็นเป็นพี่ใหญ่และดูมีความรับผิดชอบที่สุดให้ดูแลแฝดน้องอีกสองคนแทนตัวเอง...วันนี้
พัสกรดูวุ่นวายนิดๆ เพราะแม่บ้านที่ประจำอยู่บ้านนี้โดนณัฐภาสส่งกลับไปอยู่ที่บ้านเจ้าสัวชัชวาลย์เป็นที่
เรียบร้อยแล้วเพราะสาเหตุอะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน และพรุ่งนี้เช้าถึงจะมีแม่บ้านและคนดูแลบ้านชุดใหม่
จากบ้านโน่นเข้ามา ส่วนสนที่พอจะเป็นเพื่อนคุยกันได้ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้หายหน้าหายตาไปไหนไม่โผล่มาให้
เห็นเหมือนอย่างเมื่อก่อนเลย
"ฮะ" น้องภาคตอบรับคำสั่งของแม่อย่างแข็งขัน
"แฮ่ๆ / คิก..คิก!"
"เล่นไม่ได้นะภาม" เป็นเพราะได้ยินเสียงประหลาดๆ ของน้องภามและเสียงหัวเราะคิกคักของน้องภีม
แฝดน้องทั้งสองคนของตัวเอง น้องภาคผู้พี่ที่กำลังตั้งอกตั้งใจก้มหน้าก้มตาร่อนแป้งตามที่พัสกรผู้เป็นแม่
สอนไปก่อนหน้านี้ จำต้องเงยหน้าจากกะละมังผสมแป้งตรงหน้าขึ้นมองแฝดน้องอีกสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรง
ข้ามกับตัวเอง และพอดีกับที่เห็นน้องภามแฝดเล็กกำลังใช้สองมือกำแป้งที่คุณแม่สั่งให้ร่อนโปะเข้าเต็มหน้า
ของตัวเองจนขาววอกและแลบลิ้นร้องแฮ่ๆ ใส่น้องภีมแฝดกลางและน้องภีมก็หัวเราะคิกคักออกมาอย่าง
ชอบใจ...น้องภาคจึงต้องรีบพูดห้ามน้องด้วยเสียงจริงจังเพราะคุณแม่สั่งให้เขาเป็นคนดูแลน้องๆทั้งสองคน
"ได้สิ! ทำอย่างงี้ๆ อ่ะ!" น้องภามแฝดเล็กพูดเถียงพี่คนโตพร้อมกับโชว์เกรียนกำแป้งในกะละมังผสม
ของตนโปะเข้าหน้าตัวเองอีกสองที แถมยังขยี้ให้ดูอีกต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำอย่างนี้ของน้องภาม
เรียกเสียงหัวเราะของน้องภีมได้อีกก๊ากใหญ่เพราะมันดูตลกในสายตาของน้องภีม แต่สำหรับพี่ภาคแฝดโต
ผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ฟังตามคำสั่งของคุณแม่อย่างแน่วแน่เป็นเลิศนั้นย่อมทนไม่ได้ที่น้องภามแฝด
เล็กตัวแสบทำอย่างนั้น
"ห้ามเล่น! เล่นไม่ได้!" พี่ภาคแฝดโตพูดเสียงเข้มพร้อมกับยึดกะละมังผสมของน้องภามแฝดเล็กมาวาง
ไว้ที่พื้นทางฝั่งตัวเองนั่ง เพื่อที่จะไม่ให้น้องแย่งไปได้อีก
"พี่ภาคเอาของพี่ไปทำไม!!" น้องภีมตะหวาดถามอย่างไม่พอใจ เพราะตัวเองกำลังเล่นสนุกอยู่เลย
และหลุดใช้สรรพนามที่คุณแม่คอยห้าม(แต่ไม่ฟัง)ใช้พูดแทนตัวเองออกมา...ทั้งๆ ที่เป็นน้องเล็กคนสุดท้อง
แต่กลับเรียกแทนตัวเองว่า 'พี่' จนเคยชิน
"ก็ภามดื้อ! ไม่ใช่ของเล่น เล่นไม่ได้" พี่ภาคตอบพร้อมกับมือที่ร่อนแป้งในส่วนของตัวเองด้วยหน้านิ่งๆ
ไม่สนใจน้องฝาแฝดคนเล็กของตัวเองที่ยืนเต้นเร่าๆ ด้วยความโมโหอยู่ฝั่งตรงข้าม
"พี่ไม่ดื้อนะ!! พี่ภาคแหละดื้อ!! ขโมยของเขาไป!! เด็กดื้อต้องโดนจัดการ นี่แน่ะๆ" พูดเสร็จน้องภามก็
คว้าแป้งในกะละมังผสมของน้องภีมแฝดกลางที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวเองเต็มสองกำมือปาโปะใส่หน้าพี่ภาคแฝดโต
เข้าเต็มแรงอย่างต่อเนื่องไม่คิดจะหยุดพัก จึงทำให้ทั้งตัวของพี่ภาคแฝดโตนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นแป้งจนแทบจะ
มองไม่เห็นอะไรเลย
"ภามนั่นแหละดื้อ!! นิสัยไม่ดี!! ไอ้เด็กเกเร!!" พี่ภาคแฝดโตว่าพร้อมกับยกกะละมังผสมของตัวเองที่มี
แป้งขนมปังอยู่เกือบเต็มกะละมังสาดเข้าใส่น้องชายฝาแฝดคนเล็กของงตัวเองอย่างเต็มแรงเหมือนกัน
ก่อนที่ทั้งสองคนจะกวาดเศษแป้งที่ตกอยู่ข้างๆ ตัวของตัวเองสาดใส่อีกฝ่ายนึงอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
จนน้องภีมที่ยืนมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ อยู่เฉยๆ ตั้งแต่แรกโดนลูกหลงจากการที่แฝดพี่ใหญ่และน้องเล็ก
ยื้อแย่งกะละมังใบเดียวกันไปมาแล้วพลาดหลุดมือลอยไปใส่หัวน้องภีมแฝดกลางจนร้องไห้จ้าออกมา
เสียงดังจนพัสกรที่ยังคงวุ่นอยู่ในครัวหลังบ้านต้องรีบวิ่งออกมาดูลูกๆ ของตัวเอง
"นี่มันอะไรกันเนี่ย!! หยุดๆ น้องภาค น้องภามแม่บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!!!" พัสกรแทบจะเป็นลมกับสิ่งที่เห็น
อยู่ตรงหน้า ห้องนั่งเล่นที่เคยสะอาดเอี่ยมฟรุ้งเต็มไปด้วยฝุ่นแป้ง ลูกชายฝาแฝดคนโตและคนเล็กที่ตัวขาววอก
เต็มไปด้วยแป้งจนแทบจะมองไม่เห็นแม้แต่ลูกตายืนฉุดกระชากถุงแป้งกันอยู่คนละฝั่งโดยที่มีโต๊ะญี่ปุ่นตัว
เตี้ยๆ กั้นกลาง ส่วนน้องภีมคนกลางที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยแป้งจนขาววอกไปไม่ต่างจากพี่และน้องของ
ตัวเอง แต่จะต่างก็ตรงที่น้องภีมกำลังยืนใช้สองมือกุมหน้าผากตัวเองร้องไห้จ้าน้ำตานองอยู่ไม่ห่างจากคู่
กรณีทั้งสองคนสักเท่าไหร่
"น้องภีมเป็นอะไรครับ...ไหนมาให้แม่ดูหน่อยสิลูก" พัสกรละสายความสนใจในแฝดโตแฝดเล็กที่เป็นคู่
กรณีกันเสียก่อน เมื่อเห็นว่าแฝดกลางกำลังร้องไห้อยู่
"ฮึก!..น้องภีม..เจ็บฮะ..คุณแม่...ฮื่ออออออ...." น้องภีมร้องบอกพร้อมกับเปิดมือที่กุมหน้าผากตัวเองให้
พัสกรได้ดูว่าตัวเองเจ็บตรงนี้
"หนูไปโดนอะไรมาครับลูกหัวปูดโนหมดเลย...ไปครับเดี๋ยวแม่จะเอาน้ำแข็งประคบให้ก่อนจะได้หายโน
ส่วนเราสองคนน้องภาค น้องภามไปนั่งเข้ามุมคนละมุม แล้วก็อยู่เงียบๆ ห้ามทะเลาะอะไรกันอีกจนหว่าแม่
จะกลับมา..เข้าใจมั้ยครับ!" พัสกรอุ้มน้องภีมขึ้นก่อที่จะหันไปบอกน้องภาคและน้องภาม ส่วนแฝดเล็กและ
แฝดโตก็ทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย เดินหน้าเศร้าเข้ามุมใครมุมมันน้ำตาเริ่มไหลนองเพราะความกลัว
เพราะนานๆ ทีคุณแม่จะสั่งให้เข้ามุมสักทีและหลังจากที่นั่งเข้ามุมจ้องกำแพงเรียกสติเสร็จแล้ว ยังจะโดน
ลงโทษต่ออีกด้วย
**(การเข้ามุมคือการที่ให้เด็กๆนั่งมองพนังห้องอยู่นิ่งๆ เพื่อให้มีเวลาได้คิดทบทวนในความผิดของตัวเองจ้า..)
"ว่ายังไงครับ มีใครพอจะบอกคุณแม่ได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น" พัสกรเดินอุ้มน้องภีมที่หยุดร้องไห้แล้ว
ถามขึ้น หลังจากที่เอาน้องภีมไปประคบน้ำแข็งและปลอบให้หยุดร้องไห้บนห้องนอนอยู่พักใหญ่ แต่เขาก็พอ
จะรู้สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการหลอกถามน้องภีมมาแล้วบ้างหล่ะ แต่ที่ต้องมาถามคู่กรณีทั้งสองคน
อีกก็เพราะเขาอยากจะรู้ว่า ทั้งน้องภาคและน้องภามรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
"ภาคทะเลาะกับภามครับ" น้องภาคพี่โตตอบออกมาด้วยเสียงนิ่งๆ
"ภามดื้อกะพี่ภาคฮะ" น้องภามแฝดเล็กเองก็ตอบออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แทบจะพร้อมกันกับน้องภาค
"ดีครับ..ลูกผู้ชายทำผิดแล้วต้องยอมรับผิด...ถ้าอย่างนั้นแม่จะลงโทษพี่ภาคกับน้องภามโทษฐานที่
ทะเลาะกันโอเคมั้ยครับ" พัสกรถามต่อ..แต่ครั้งนี้ไม่มีใครตอบคำถามเขาออกมาเลย เพราะเด็กแฝดทั้ง
สามคนนั่งร้องไห้ปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลกันออกมาอย่างเงียบๆ เมื่อได้ยินว่าจะถูกลงโทษไม่เว้นแม้
กระทั่งน้องภีมแฝดกลางที่นั่งอยู่ที่ตักของพัสกรก็ร้องไห้ออกมากับเขาด้วยทั้งๆที่ตัวเองนั่นไม่ได้โดนลงโทษ
แต่อย่างใด
"พี่ภาค น้องภาม นั่งคุกเข่าแล้วชูมือขึ้นทั้งสองมือเลยครับ" พัสกรพูดสั่งออกมา โดยที่พยายามจะไม่มอง
สบตากลมที่รื้นเต็มไปด้วยน้ำตาของลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนของตัวเองด้วย เพราะกลัวว่าจะใจอ่อน
"ฮื่อออออ..." น้องภีมแฝดกลางที่ไม่ได้โดนลงโทษไปกับแฝดพี่และแฝดน้องตัวเองร้องไห้จ้าออกมาอีกครั้ง
เมื่อมองเห็นว่าแฝดพี่กับแฝดน้องของตัวเองกำลังนั่งคุกเข่ายกสองมือชูขึ้นเหนือหัวตัวเองตามคำสั่งลงโทษ
ของคนเป็นแม่
"ร้องไห้ทำไมครับน้องภีม" พัสกรก้มถามลูกชายคนกลางที่นั่งอยู่บนตักของตัวเอง
"พี่ภาค..กะ..น้องภาม..โดนลงโทษ...ฮึก!" น้องภีมสะอื้นบอก
"คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษครับ" พัสกรบอกเหตุผลไปเหมือนกับทุกครั้งที่มีต้องลงมือทำโทษลูกชาย
ฝาแฝดของตัวเองทั้งสามคน เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้และไม่กลับำปทำผิดอย่างนั้นอีก
"น้องภีมก็ผิด...ฮึก!...น้องภีมไม่ห้าม..ฮึก!" น้องภีมบอกพร้อมกับเดินไปนั่งคุกเขาชูสองมือขึ้นเหนือหัว
ตามที่พัสกรสั่งลงโทษตรงกลางระหว่างแฝดพี่และแฝดน้องของตัวเอง
"เฮ้อ!...ถ้าอย่างนั้นทั้งสามคนก็นั่งอย่างนี้ไปจนกว่าแม่จะทำความสะอาดในสิ่งที่พวกหนูทำเลอะไว้
จนกว่าจะเสร็จ....ตกลงไหมครับ" พัสกรถอนหายใจทิ้งอย่างไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อน้องภีมเป็นคนตัดสินใจ
ที่จะรับผิดยอมโดนทำโทษร่วมกับพี่และน้องของตัวเอง ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีสามพี่น้องฝาแฝดที่พยักหน้า
ตอบรับการลงโทษของเขาด้วยน้ำตา และรีบจัดการทำความสะอาดเศษฝุ่นแป้งที่ลูกๆของตัวเองได้ทำเลอะไว้
"หนูต้องรักกันอย่างนี้ตลอดไปเลยนะครับลูก" พัสกรพึมพัมกับตัวเองด้วยรอยยิ้มปนน้ำตาของความภูมใจ
ที่เห็นแฝดสามใช้มือช่วยกันยันไม่ให้แขนของใครคนใดคนหนึ่งตกลงเพราะความเมื่อยไปเสียก่อนที่จะจบ
การลงโทษในครั้งนี้
.
.
.
"กลับมาแล้วครับ..ลูกชายคุณพ่อไปอยู่ไหนกันหมดน้าาาาา....." ณัฐภาสตะโกนเรียกหาลูกชายฝาแฝด
ทั้งสามคนของตัวเองเสียงดัง เมื่อไม่เห็นลูกๆ ไปรอต้อนรับตัวเองอยู่ที่หน้าบ้านอย่างทุกที เพราะปกติแล้ว
ทุกๆ เย็น เมื่อถึงเวลากลับบ้านหลังเลิกงานของณัฐภาสจะต้องมีหนึ่งในแฝดสามไม่คนใดก็คนนึงจะต้อง
โทรหาเขาว่าจะกลับบ้านหรือยัง หรือไม่ก็โทรหาเขาเพื่อที่จะให้เขาซื้อขนมที่สามแฝดอยากจะกินเข้ามาด้วย
และทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงรถของเขาเลี้ยวเข้ารั้วบ้านมาสามแฝดก็จะมายืนรอต้อนรับเขาที่หน้าบ้านแล้ว
แต่วันนี้กลับไม่มีสักคนและที่สำคัญบ้านเงียบกว่าที่ควรจะเป็นมาก
"อ้าว! ทำอะไรกันอยู่ครับลูก" ณัฐภาสร้องถามเสียงหลงเบรคตัวโก่งในขณะที่กำลังจะเดินผ่านห้องนั่งเล่น
เพื่อที่จะขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน
"โดนคุณแม่ลงโทษฮะ!!!" แฝดสามตอบออกมาพร้อมกัน มือที่ตอนแรกยืดตรงชูสุดแขนค่อยๆ เลื่อน
ต่ำลงๆ ทุกทีเพราะเริ่มที่จะล้าเต็มทน
"ลงโทษเรื่องอะไรครับ" ณัฐภาสย่อตัวนั่งลง ถามลูกแฝดทั้งสามคนของตัวเอง
"ทะเลาะกันครับ พัสเลยลงโทษ....เอามือลงได้แล้วครับลูกแม่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว" พัสกร
บอกกับสามี ก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับลูกๆ ตัวเอง ส่วนเด็กแฝดทั้งสามคนพอได้ยินที่แม่บอกแล้วก็ทิ้งตัว
นอนพื้นเอาหัวชนกันทั้งสามคนเลย เพราะเมื่อยไปหมดทั้งตัว
"ทั้งสามคนเลยหรอ?" ณัฐภาสถามต่อ
"พี่ภาคกับน้องภามทะเลาะกันครับ ส่วนน้องภีมเขาบอกว่าเขาผิดเพราะไม่ยอมห้ามเลยขอโดนลงโทษ
ไปด้วยอีกคน" พัสกรตอบในขณะที่คว้าตัวน้องภาคแฝดโตเข้ามานวดแขนนวดขาคลายกล้ามเนื้อให้ เพราะ
กลัวว่าตะคิวจะกินขากินแขนลูกชายเพราะนั่งเกร็งอยู่นาน ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามที่จะทำความสะอาดให้
เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังช้าในความรู้สึกเขาอยู่ดี ไม่ได้อยากจะลงโทษหรอก แต่ถ้าปล่อย
ให้ผ่านไปเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น เด็กๆ ก็จะเคยตัวและจะกลับมาทำอย่างนี้กันอีกและจะพูดบอกด้วยปาก
เปล่าเฉยๆ ก็ไม่ได้เพราะเคยทำมาแล้ว แต่เด็กๆ ทั้งสามคนก็ไม่จำและทำความผิดเดิมๆ ซ้ำขึ้นมาอีกรอบนึง
เขาถึงต้องทำใจแข็งลงโทษลูกๆ ที่นั่งน้ำตานองหน้าอยู่อย่างนั้น...ทั้งๆ ที่เขาก็รู้สึกแย่เหมือนกัน
"อืม...แล้วหัวหนูไปโดนอะไรมาเนี่ยครับน้องภีม" ณัฐภาสพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะถามออกมาเสียงหลง
เมื่อเห็นรอยช้ำที่ยังคงปูดโนนิดๆ ที่กลางหน้าผากของน้องภีมแฝดกลางลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง
"ก็โดนลูกหลงจากที่สองคนนั้นทะเลาะกันนั่นแหละ...น้องภามมาหาแม่มาครับ แม่จะนวดให้" พัสกรตอบ
ณัฐภาสที่นั่งสำรวจความเสียหายของลูกชายสุดที่รักของเจ้าตัว ก่อนที่จะหันไปเรียกให้น้องภามแฝดเล็กมาหา
ตัวเองเพราะจะนวดคลายกล้ามเนื้อให้เหมือนกันกับที่ทำให้น้องภาค ส่วนน้องภีมน่ะหรอ? รายนั้นไม่ต้องไป
ห่วงเขาหรอก...คุณพ่อเขายินดีดูแล...เซอร์วิสให้อย่างเต็มที่...โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องร้องขออะไรเลย
เฮ้อ!!.....บ่งบอกถึงความเท่าเทียม..รักลูกไม่ลำเอียง(หรอ?)....มากอ่ะ....ณัฐภาส!!!
...
มาไวป๊ะล๊ะ!!.....ชดเฉยให้กับช่วงที่หายไป (ความรู้สึกช้าไปไหมแกห้ะไอ้มี่...ฮ่าาา)
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ!!