บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)  (อ่าน 172439 ครั้ง)

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
อยากมีแฟนเป็นหนุ่มบราซิลจริงๆ แล้วนะเนี่ย  :-[

นอนดูดาว โรแมนติกอะ อยากไปแอบดูเค้านอนดูดาวกันซะแล้วซิ

คุณนุ่นขา รออยู่เน้อ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
กอดคุณไนท์แน่นๆ แล้วอ้อนเบาๆ นุ่นคิดถึงน้องเซย์ค่ะ (กร้ากกกกกกกกกกส์)

wisa

  • บุคคลทั่วไป

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เรียกเลือดตั้งแต่ต้นเลยนะน้องนุ่น

แต่แอบโหด มากกว่าเสียวนะ บรื๊อออ

ส่วนเจ้าเอดู ไม่ปล่อยโอกาสที่จะหยอดเลยนะเนี่ย....


เดี๋ยวขอไปดูลาดเลา แอบดูคนไปดูดาวดีกว่า
เอ๊ แอบตรงไหนดี ...ใต้แคร่ หลังต้นไม้ ตุ่มน้ำ หรืออะไรดี
(สงสัยออกแนว บ้านผีปอป มีตุ่มน้ำด้วย 555)

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะไรเตอร์ มาตามกระเเสด้วย เกล็กดัดฟัน ติดกัน เเอะ สยอง อะ เเก็ เเอบอบอุ่นนะที่เค้าคอยปลอบกันอะ เเต่ อิสน่ารักอะ เเอบกวนเล็กๆ เรื่องความหวาน ยกให้เอดู คุคุคุ  เราจะไปเเอบดูดาวด้วย คุคุคุ

ออฟไลน์ Rukki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
ตามอ่านหมดแล้วค่ะ
แบบว่า . . .   ทีแรกเห็นชื่อเรื่องแล้วกลัวจะเศร้ามาก เพราะมันเหมือนกับว่า .. ความทรงจำ ..
ความทรงจำที่เราได้เพียงแค่ระลึกถึงมันเท่านั้นอะ T_T เลยไม่กล้าอ่าน วันนี้ลองตัดสินใจอ่านดู...


ก็ยังกลัวเศร้าอยู่ค่ะ !!

55555555

แต่ความน่ารักของอิส กับความหวานของเอดูกลบหมดแล้ว ที่ยังเศร้าเพราะว่ากลัววันที่ทั้งสองจะต้องลาจากกัน
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นเลยง่ะ  TT__________TT
อย่าเศร้านะไรท์เตอร์สุดที่รัก

อ่านเรื่องนี้แล้วอยากเรียนภาษาโปรตุเกสขึ้นมาเรยอ๊ะ >w<!!!!
(อิ้งกับแจปยังไม่รอด . .  เอื๊อกกกกกกกกกก)

หวานนนนนนน อ่านไปอมยิ้มไป ปากจะฉีกอยู่แล้ว แทบบางตอนมีเขินด้วย ทั้งที่ไม่ใช่นางเอก = =''
ไรท์เตอร์สู้ๆ ค่า

ออฟไลน์ mimilove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ เอดูววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
>_<
ขอบคุณที่มาอัพนะคะ

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
เดทด้วย ไปด้วยคนนน~~!!~

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
แวบตอบเมนท์พร้อมรายงานว่าตอนต่อไปเสร็จแล้ว ขอตรวจคำผิดอีกนิดหน่อยนะคะ

เดทด้วย ไปด้วยคนนน~~!!~
กึ๋ยๆๆๆ มามะๆๆๆๆ ^o^

ยิ่งอ่านยิ่งชอบ เอดูววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
>_<
ขอบคุณที่มาอัพนะคะ
กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เหงาม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยคะ เดี๋ยวมาอ่านตอนต่อไปเน้อ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
ตามอ่านหมดแล้วค่ะ
แบบว่า . . .   ทีแรกเห็นชื่อเรื่องแล้วกลัวจะเศร้ามาก เพราะมันเหมือนกับว่า .. ความทรงจำ ..
ความทรงจำที่เราได้เพียงแค่ระลึกถึงมันเท่านั้นอะ T_T เลยไม่กล้าอ่าน วันนี้ลองตัดสินใจอ่านดู...


ก็ยังกลัวเศร้าอยู่ค่ะ !!

55555555

แต่ความน่ารักของอิส กับความหวานของเอดูกลบหมดแล้ว ที่ยังเศร้าเพราะว่ากลัววันที่ทั้งสองจะต้องลาจากกัน
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นเลยง่ะ  TT__________TT
อย่าเศร้านะไรท์เตอร์สุดที่รัก

อ่านเรื่องนี้แล้วอยากเรียนภาษาโปรตุเกสขึ้นมาเรยอ๊ะ >w<!!!!
(อิ้งกับแจปยังไม่รอด . .  เอื๊อกกกกกกกกกก)

หวานนนนนนน อ่านไปอมยิ้มไป ปากจะฉีกอยู่แล้ว แทบบางตอนมีเขินด้วย ทั้งที่ไม่ใช่นางเอก = =''
ไรท์เตอร์สู้ๆ ค่า
ไม่เศร้าค่ะ จุ๊ๆๆๆ ไม่แซดเอ็นดิ้งแน่นอน กอดดดดดดดดดดดด ยินดีต้อนรับนะคะ ^o^

ขอบคุณนะคะไรเตอร์ มาตามกระเเสด้วย เกล็กดัดฟัน ติดกัน เเอะ สยอง อะ เเก็ เเอบอบอุ่นนะที่เค้าคอยปลอบกันอะ เเต่ อิสน่ารักอะ เเอบกวนเล็กๆ เรื่องความหวาน ยกให้เอดู คุคุคุ  เราจะไปเเอบดูดาวด้วย คุคุคุ
เหตุเกิดเมื่อสิบปีที่แล้ว กร้ากกกกกกกกกส์ สยองเนอะ เรื่องจริงนะคะนั่นน่ะ (ตอนที่แล้วจริงทั้งหมดนะเออ แอบบอก)

ตอนนี้เรียกเลือดตั้งแต่ต้นเลยนะน้องนุ่น

แต่แอบโหด มากกว่าเสียวนะ บรื๊อออ

ส่วนเจ้าเอดู ไม่ปล่อยโอกาสที่จะหยอดเลยนะเนี่ย....


เดี๋ยวขอไปดูลาดเลา แอบดูคนไปดูดาวดีกว่า
เอ๊ แอบตรงไหนดี ...ใต้แคร่ หลังต้นไม้ ตุ่มน้ำ หรืออะไรดี
(สงสัยออกแนว บ้านผีปอป มีตุ่มน้ำด้วย 555)
สยองๆๆๆๆ น่ากลัว ติดตาเลยค่ะพี่แม่หมู

ปล.อีกไม่เกินสิบนาทีมาแปะตอนต่อไปนะคะทุกท่าน ใกล้จบเต็มที หงิงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีต้อนรับนักอ่านทุกท่านค่ะ
เรื่องของอิสกะเอ๊ดูก็ใกล้จะถึงบทสรุปเข้าไปทุกทีแล้ว
ตอนแรกคนเขียนตั้งใจจะรอให้ยอดวิวสัก5555 แบบว่าเลขสวยแล้วค่อยเริ่มเขียนตอนต่อไป ก็เลยช้า
(ที่จริงเริ่มเขียนตั้งแต่แปะตอนที่แล้วแหละค่ะ แต่ตอนนี้มันเขียนยาก เขียนไปก็ใช้พลังงานเยอะไป หงิงๆ)
อย่างไรก็ตาม......มาอ่านกันเลยนะคะ  :กอด1: คนอ่านทุกท่านเลยค่ะ
...........................

บทที่หนึ่งในความทรงจำ
: Sob a lua esta noite...


“Eu prom….”

“Chu chu, não, não prometa.”


………………..


กิจวัตรประจำเย็นวันอาทิตย์หลังกลับจากบ้านไร่ของผมและครอบครัวที่ซาน โฮเซ่ คือนั่งๆนอนๆรอเวลาถ่ายทอดฟุตบอลลีก ดูบอลเสร็จก็ราวๆหนึ่งทุ่ม แล้วถึงเข้าไปนั่งกินอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตา ปะไป๊ มะเม้ย วิเวียน แล้วก็ผม....นายอิสรภาพ

แต่ไม่ใช่สำหรับวันนี้ครับ เพราะวันนี้....ผมมีนัด
แล้วก็.....ผมจะยอมรับก็ได้ครับ ว่าผมกำลังตื่นเต้น....มากด้วย


มันก็จริงที่ผมกับมัน....เอ่อ คุณเอดูวาร์โด้ ปาสโคอาลิโน่ นักเรียนไฮสกูลปีสุดท้ายแห่งโรงเรียนมัธยมประจำเมือง2 อดีตนักเตะทีมเยาวชนซาน โฮเซ่ (ทีมชุดใหญ่ตอนนั้นอยู่ดิวิชั่นสามครับ แต่ชาวเมืองเราก็ยังมีหวังนะเออ) เพื่อนคนแรกและกลายเป็นเพื่อนคนสำคัญที่สุดของผมในตอนนี้ จะสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด หาเรื่องมาเจอหน้ากันได้แทบทุกวัน
แต่.....การต้องเจอมันในวันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมเลย เพราะไอ้คำชวนอย่างจริงจังเป็นงานเป็นการของมันเนี่ยแหละ เฮ้ออออออออออออ

มันจะรู้บ้างมั้ยว่าทำให้ผมดูบอลอย่างไม่มีสมาธิ พักครึ่งแทนที่จะได้ดูประมวลภาพของครึ่งแรกกับโฆษณา....คือผมชอบดูโฆษณาน่ะครับ สนุกดี แหะๆ นั่นแหละๆ แทนที่ผมจะได้ใช้เวลาตอนพักครึ่งอย่างเคยๆก็กลับต้องละจากหน้าจอโทรทัศน์มาหมกมุ่นกับการรื้อเสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่กี่ชุดออกมาวางจนเต็มเตียง ชีวิตนี้ไม่เคยมีสักทีไอ้การเดท แล้วกูจะต้องแต่งยังไงวะ??

“อิส พี่จะไปไหนอะ?” ระหว่างผมกำลังวุ่นวายใจอยู่หน้ากระจกที่ติดอยู่กับประตูด้านในตู้เสื้อผ้า เสียงไอ้น้องสาวที่มันทำตัวเหมือนเพื่อนแถมบางทียังเป็นพี่มากกว่าก็ดังขึ้น

ผมชะโงกหน้าผ่านประตูตู้เสื้อผ้าออกไปก็เห็นวิเวียนมันมายื่นหน้าอยู่ตรงประตูห้อง พอเห็นผมยื่นหน้าออกไปมันก็ถือโอกาสเดินเข้ามาในห้องแล้วกวาดสายตาไปตามความวุ่นวายบนเตียงของผม

“ไปดูหนังแล้วก็กินข้าว” ผมบอกแค่นั้นครับ แค่นี้ก็พอแล้ว ไอ้คำชวนที่จะพาไปดูดาวน่ะ......เขินครับ คงแปลกพิลึกเนอะ ผู้ชายสองคนนัดกันไปดูดาว ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีพยากรณ์เกิดฝนดาวตก หรือว่าปรากฏการณ์พิเศษใดๆบนท้องฟ้าสักหน่อย

“แค่นั้นจริงอะ?” แน่ะ นิสัยจิกไม่ปล่อย น่ากลัวจริงๆผู้หญิงคนนี้

“ก็แค่นั้นแหละ....” ไม่ครับ ผมจะไม่ยอมสบตากับไอ้น้องสาวตัวดีเด็ดขาด เดี๋ยวมันจับได้ว่าปิดบังข้อมูล ฮี่ๆๆๆ

วิเวียนมันหยิบๆจับๆเสื้อผ้าที่ผมขนออกมากองดูทีละชิ้น แล้วเลยกระทำการช่วยเหลือโดยไม่ต้องร้องขอทันที

“ตัวเลือกน้อย......แต่ไปดูหนังนะอิส พี่ก็ต้องใส่อะไรหนาๆหน่อย โรงหนังเรายิ่งรอบดึกนะ แอร์เย็นมาก หรือถ้ากลัวว่าตอนไปกินมื้อค่ำจะร้อน พี่ก็ใส่เสื้อตัวในบางๆก็ได้ แล้วใส่แขนยาวคลุมอีกตัว เออ......ว่าแต่อิส พี่กับคนที่จะมารับนี่ ตกลงเป็นอะไรกันน่ะ?”

“ฮะ......เฮ้ย!! ก็.......”

“ก็?”

“ก็........ปะ เป็นเพื่อนกันไง เพื่อน บะ...แบบ....สนิทมากๆอ้ะ” เวรกรรม ตกใจสติกระเจิงจนติดอ่างเลยผม คือว่า.....ตอนแรกคุณน้องสาวที่ตัวโตเป็นสองเท่าของผมคนนี้มันก็เข้ามาให้คำแนะนำเรื่องชุดออกไปดูหนังกับผมดีๆหรอกครับ ผมเองก็กำลังเคลิ้มๆ คิดตามคำแนะนำของมันอยู่เลย จู่ๆมันก็หักมุมตั้งคำถามแบบนี้ออกมาไม่ให้ตั้งตัว มันกะเล่นทีเผลอนี่หว่า ฮึ่ย!!

“อ๋า......สนิทมากๆเลยเนอะ แล้วนี่ไปกันสองคนเหรอ?”

“อืม”

“หึๆ” ดูมัน อมยิ้มไม่พอ ยังส่งสายตาว่ารู้ทันนะเว้ยมาให้อีก ผมจะทำไงได้ล่ะครับ นอกจาก......หนี

อยู่เผชิญหน้าสองต่อสองกับมันต่อไปคงถูกซักจนผิวสีนมใส่กาแฟที่แสนภาคภูมิใจขาวแหงๆ แถมไม่ขาวอมชมพูดูสุขภาพดีด้วยสิ แต่จะขาวซีดเอา ผมเลยเนียนๆเดินหนีวิเวียนออกจากห้องตัวเอง แล้วกลับไปดูบอลครึ่งหลังเสียเลย



หนึ่งทุ่มสิบห้านาทีผมอาบน้ำอีกครั้งตามคำแนะนำของน้องสาวสุดที่รัก พร้อมแต่งตัวเรียบร้อยในชุดธรรมดาสุดชีวิตแบบกางเกงยีนส์สีซีดชายลุ่ยๆ กับเสื้อกล้ามสีขาว มีเสื้อไหมพรมบางๆแขนยาวแบบสวมหัวสีขาวครีมสวมทับอยู่อีกชั้น แถมหนีบแตะคีบให้วิเวียนมันทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่ พร้อมความพยายามให้ผมเปลี่ยนรองเท้าเพื่อความดูดีขึ้นสักนิด แต่......ไม่ครับ ก็ใส่อีแตะมันสบายดีนี่นา

ระหว่างนั่งรอวิเวียนมันก็ชวนผมคุยบ้าง แต่ผมไม่ค่อยตอบมันครับ คนกำลังตื่นเต้น ไม่มีสติจะตอบเท่าไหร่ แหะๆ ขณะกำลังงงกับประโยคคำถามล่าสุด เพราะผมตัดสินใจจะไม่พกดิคไปด้วยเหมือนเป็นอวัยวะชิ้นที่33 เสียงกดออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น

“Você tem camisinha?”  โว้เส เตง คามิซิ่งหงะ? อะไรหว่าคามิซิ่งหงะ????

ผมหันไปเลิกคิ้วทำหน้างงใส่วิเวียน แล้วเลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆเรียกความมั่นใจขณะที่ลุกไปหน้าบ้าน ไอ้น้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆก็เดินตามออกมาด้วย

พอผมเปิดประตูไปเจอไอ้คนชวนดูหนังก็ต้องเบิกตาโต เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปราดเดียวก็บอกได้เลยว่ามันพยายามหล่อ ไม่อยากจะบอกเลย แต่มันทำสำเร็จด้วยสิครับ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำปล่อยชายออกมาจากยีนส์สีซีดจาง รองเท้าหนังโผล่มาให้เห็นนิดๆ

ที่แน่ๆจนมืดขนาดนี้ก็ยังมีหมวกแปะอยู่บนหัวให้เจ้าตัวมันถอดออกมาถือแก้เขิน เพราะเท่าที่ผมเห็นตอนนี้มันกำลังมีอาการไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน เลยถือหมวกไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างก็ยกขึ้นลูบหัวเกรียนๆของตัวเอง ก้มหน้านิดๆส่งยิ้มอ่อนๆผ่านแว่นตากรอบดำอันเดิมมาให้

ผมส่งยิ้มกลับไปให้มัน พร้อมกับตัดสินใจเลือกเอามือซุกกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างเพราะเกิดอาการรู้สึกว่ามือเกะกะขึ้นมากะทันหันบ้างแล้ว กำลังจะก้าวขาออกไปนอกประตูก็มีมืออุ่นๆของน้องสาวที่รักรั้งแขนไว้ ก่อนจะกระซิบคำถามเมื่อกี้มาอีกครั้ง

“Você tem camisinha?”  ....มีคามิซิ่งหงะแล้วยัง? มันยังไม่เลิกสงสัยแฮะ แล้วมันอะไรหว่าไอ้คามิซิ่งหงะนี่.....
ผมเริ่มรวบรวมสติ ถ้า camisa แปลว่าเสื้อ จากภูมิรู้ก้อนน้อยๆในสมอง ข้อมูลคือ ถ้าเติม –inha หรือ –inho จะแปลว่าอะไรที่มันเล็กๆ เหมือนโรนัลโด้ (Ronaldo) กับ โรนัลดินโญ่ (Ronaldinho) ไงครับ ว่าแต่ ผมจะต้องมีเสื้อตัวเล็กๆไปด้วยทำไมล่ะ? ผมเลยหันไปส่ายหน้าปฏิเสธ พอดีกับมีอีกเสียงดังขึ้น เอ่อ....ปะไป๊มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

“Meia-noite.” แล้วพอมาถึงแทนที่จะพูดกับผมก็หันไปพูดกับเอดูมันซะงั้น เที่ยงคืนงั้นเหรอ
โห....ไป๊กะไม่ให้เถลไถลเลยนะเนี่ย เอดูมันก็รับปากว่าจะมาส่งผมถึงบ้าน รับรองความปลอดภัยอะไรเรียบร้อยผมก็พาตัวเองออกจากบ้านมาขึ้นรถมัน....พูดให้ถูกคือรถพี่ชายมัน

แค่ห้านาทีเราสองคนก็มาถึงหน้าโรงหนังครับ ผมเคยลากวิเวียนมาดูเป็นเพื่อนครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อสองสามเดือนแรก ตอนนั้นเป็นหนังบราซิล ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด แถมทั้งนักแสดงทั้งภาพทั้งเสียงยังทำให้นึกถึงหนังไทยยุคคุณลุงสมบัติ เมทะนีเป็นพระเอกอะไรเทือกนั้นไปเลยด้วย แต่คราวนี้คนชวนมันเป็นคนเลือกครับ แถมคงศึกษามาดีก่อนชวนแล้วด้วยสิ เพราะมันเลือกให้ผมดูเรื่อง The Beach


The Beach ที่ใบปิดหนังเป็นลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ บนพื้นหลังสีส้มเหลือง ที่มีชายหาดจากภาคใต้ของประเทศไทยของเราเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำนั่นแหละครับ ผมใช้ความเร็วช่วงชิงสิทธิ์การจ่ายค่าตั๋วของเราทั้งคู่มาจากมันสำเร็จ ทำให้มันทำหน้าเป็นตูดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะง้อมันด้วยการลากไปตรงบาร์ที่ขายของขบเคี้ยว แล้วจับมือมันชี้ๆว่าจะเอาป๊อกกี้รสช๊อคโกแล๊ตหนึ่งกล่อง สตอเบอร์รี่อีกหนึ่งกล่อง กัวราน่าอีกกระป๋อง แค่นี้......มันก็กลับมามีสีหน้าอมยิ้มกรุ้มกริ่มจนทำให้ผมไม่กล้าสบตาด้วยได้เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ

เอ่อ.....อายที่จะเล่า แต่ก็เอาเถอะครับ หลวมตัวเล่ามาขนาดนี้แล้ว แต่นั่นเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ผมดูหนังแทบไม่รู้เรื่องเลย ไม่ใช่แค่เพราะเสียงโปรตุกีสและบรรยายอังกฤษนะครับ แต่.......เพราะหนังเรื่องนี้ไม่สนุก ฮ่าๆๆๆๆ

อย่างน้อย ไอ้การลอบสังเกตพฤติกรรมคนนั่งข้างมันก็น่าสนใจกว่าเนื้อเรื่องของหนังเยอะอะครับ ก็โรงหนังทั้งโรงมีคนดูไม่ถึงสิบคน แถมยังนั่งกันกระจายๆไม่เป็นกลุ่มก้อนอีกต่างหาก ดีใจสุดๆที่เชื่อคำแนะนำของวิเวียนใส่เสื้อแขนยาวมาอีกตัว ยิ่งไอ้ส่วนที่ไม่มีผืนผ้าให้ความอบอุ่นอย่างใบหน้านี่ยิ่งไม่ต้องกลัวหนาวครับ เพราะแค่พฤติกรรมของไอ้คนข้างๆตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงหนังก็ทำผมหน้าร้อนตั้งแต่หนังตัวอย่างจนถึงตอนหนังจบขึ้นเครดิตคนทำงานกันเลยทีเดียว

พอซื้อเสบียงไว้ระหว่างดูหนังเรียบร้อยผมก็จะปล่อยมือมัน แต่เอดูมันไม่ยอมครับ พลิกมือมายึดข้อมือผมเอาไว้หลวมๆ แต่จะพอดึงออกก็ไม่หลุด แล้วจูงเดินเข้าโรงหนัง พอนั่งลงเรียบร้อยมันก็เอามือไปกุมไว้บนหน้าขามัน จนหนังเริ่มฉายผมจะแกะกล่องป๊อกกี้นั่นแหละ มันถึงยอมปล่อยมือ แล้วพอผมนั่งกินไปดูหนังไปก็ค่อยรู้สึกได้ว่าไอ้บ้าข้างๆมันแทบไม่ได้ดูหนังเลย แต่มันดูผม....ไอ้จะหันไปบอกว่าหน้ากูไม่ใช่จอหนังนะเว้ยก็ไม่กล้า แบบว่า....ผมเขินอะ

ผมเลยเนียนๆยื่นกล่องป๊อกกี้ไปให้มัน เผื่อมันสนใจกินจะได้ไม่สนใจผม แต่แทนที่มันจะรับกล่องป๊อกกี้ไปดีดี มันกลับคว้าเอาไปหมดทั้งมือทั้งกล่อง แถมพอผมตกใจหันไปมองหน้ามันมันยังส่งยิ้มกลับมาให้อุณหภูมิบนใบหน้าผมสูงขึ้นอีก

ผมเลยใจง่าย....ก็มันอยากจับ ก็ปล่อยให้มันจับไป แถมถ้านั่งตัวตรงแบบนี้แต่แขนถูกดึงไปไว้บนหน้าขามันแบบนั้นก็เมื่อยด้วย ผมเลยเอียงๆตัวเข้าหามันอีกหน่อย แค่นี้ก็สบายแล้ว ยิ่งเข้าใกล้มันก็ยิ่งอุ่น หอมด้วยนะครับ วันนี้เอดูมันพยายามหล่อมาเต็มที่ เพราะพอเข้าไปใกล้มันแบบนี้แล้วผมได้กลิ่นหอมๆ หอมเย็นๆให้อารมณ์เหมือนไปทะเล หึๆ เข้ากับหนังจริงๆเลยครับ แถมพออยากกินป๊อกกี้ต่อก็ไม่เมื่อยด้วยสิ เพราะแค่เหลือบๆตามองกล่องในมือมันแล้วหันมาทำท่าสนใจลีโอนาร์โดต่อ ก็มีมือข้างที่ว่างของอีกคนป้อนป๊อกกี้รสช๊อคโกแล๊ตให้ถึงปากแล้ว

คือ......ที่ผมดูหนังไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เพราะอย่างอื่นนะครับ แต่หนังมันไม่สนุกจริงๆ ฮี่ๆๆๆ ไม่ใช่เพราะพอไอ้คนป้อนมันป้อนแล้วไม่ยอมให้จับเอง แต่กลับเป็นฝ่ายค่อยๆเลื่อนแท่งป๊อกกี้ใส่ปากผมเรื่อยๆความเร็วตามจังหวะการเคี้ยวของผม ให้ผมต้องชิงจังหวะตอนป๊อกกี้ใกล้หมดแท่งดีดี ไม่งั้นต้องชิมรสชาติปลายนิ้วมันเข้าไปด้วยหรอกนะครับ ผมยืนยัน....



เราสองคนออกจากโรงหนังก็ดึกแล้วครับ หนังยาวเกือบสองชั่วโมง ผมชักงงๆว่าไอ้ข้าวมื้อเย็นที่มันชวนเราจะกินอะไรกันที่ไหน แค่ป๊อกกี้สองกล่องกับน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องไม่เพียงพอสำหรับวัยกำลังกินกำลังนอนหรอกนะครับ

“Está com fome?” ......หิวมั้ย? ขึ้นประจำที่บนรถเรียบร้อยเอดูมันก็ถาม แหม.....คำถามนี้มาได้เวลามาก ไม่หิวก็แปลกแล้วเอดูเอ๋ย

“อาฮะ” พอผมรับคำแล้วพยักหน้ารัวๆมันก็ยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่ มันขับรถไปอีกแค่ห้านาทีก็จอดลงหน้าร้านขายพิซซ่าครับ หันมาบอกให้ผมรอเดี๋ยวเดียว แล้วก็แค่เดี๋ยวเดียวจริงๆ ไม่ถึงห้านาทีมันก็เดินกลับมาพร้อมกล่องกระดาษที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามีพิซซ่าบรรจุอยู่ด้านใน พร้อมกับกระป๋องโค้กกับกัวราน่าอีกอย่างละสอง พอมันส่งกล่องมาให้ผมก็สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด หอมครับ กลิ่นชีสเข้มๆ เรียกน้ำลายมาสออยู่ในปาก

ระหว่างที่ปล่อยให้ไอ้คนขับมันขับพาไปที่ไหนไม่รู้ผมก็แง้มฝากล่องดูของมีค่าด้านใน พิซซ่าหน้าชีสเยิ้มๆมีเห็ดแล้วก็เปปเปอโรนีประดับอยู่หนาแน่น อยากจะกระโดดกอดไอ้คนขับรถแน่นๆเลยครับ เพราะนี่มันเอาใจผมชัดๆ ดีใจที่มันรู้ว่าผมชอบอะไร ปลื้มใจที่มันจำได้ แล้วก็ตั้งใจทำให้

ก็ลงไปเดี๋ยวเดียวได้ของมาแบบนี้ มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามันต้องสั่งร้านเขาทำแล้วนัดเวลารับของไว้เรียบร้อย เอดู...มันน่ารักเนอะ

นั่งรถไปส่งยิ้มให้ไอ้คนขับมันเป็นระยะๆไป แค่ไม่นานมันก็จอดรถให้ผมลงอีกรอบ ไม่รู้หรอกครับว่ามันพามาส่วนไหนของเมือง แต่ที่แน่ๆต้องเป็นเนินอะไรสักอย่างที่สูงมาก เพราะจากตรงนี้มองไปทางแสงสว่างเป็นแถวเป็นแนวเบื้องล่างผมมองเห็นยอดหลังคาโบสถ์กลางเมืองชัดเจน

ผมยังคงมีหน้าที่แค่ถือกล่องพิซซ่าเอาไว้ ส่วนไอ้คนขับรถมันก็เปิดประตูหลังหยิบอุปกรณ์คือผ้าหนาๆผืนเดิมกับคราวไปทะเลออกมาปู ปล่อยให้ไฟหน้ารถส่องให้แสงสว่างอยู่แบบนั้น ก่อนจะหยิบอุปกรณ์ที่ทำให้ผมต้องก้มหน้าซ่อนยิ้มอีกอย่างออกมา ตะเกียงครับ เอดูมันพกตะเกียงไฟฟ้าที่คงชาร์จแบตมาเรียบร้อยมาด้วย ผมน่ะลงนั่งเปิดกล่องพิซซ่า เปิดกระป๋องโค้กไว้สำหรับมันและกระป๋องกัวราน่าสำหรับตัวเองรอแล้วครับ จนมันจัดการเปิดตะเกียงมาตั้งเรียบร้อยมันถึงปิดไฟหน้ารถ

พอมันเดินมานั่งข้างๆมันก็ยิ่งทำให้ผมอยากขอบคุณมันสักร้อยหน เพราะของที่มันยื่นมาวางให้ตรงหน้า.....ซอสพริกครับ ฮ่าๆๆๆ ซอสพริกเผ็ดอร่อยที่ตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้เมืองนี้ผมกินล้างกินผลาญของที่บ้านหมดไปแล้วสองขวด จนมะเม้ยตัดสินใจซื้อพริกดองในน้ำมันมาไว้ให้ผมอีกอย่างประจำห้องครัว

เราสองคนนั่งพิงล้อรถ คือ......อันที่จริงเอดูมันพิงล้อรถ ส่วนผมก็พิงมันอีกต่อ แล้วก็กินพิซซ่า แหงนหน้ามองดาวบนฟ้า สลับกับดาวบนดิน ไม่อยากจะบอกแต่ก็ต้องบอก ดาวบนดินยังมีเยอะกว่าดาวบนฟ้าเสียอีก เอดูมันเตรียมพร้อมทุกอย่างครับ ยกเว้นลืมเช็คข้างขึ้นข้างแรม ก็พระจันทร์เสี้ยวใหญ่เบ้อเริ่มขนาดนี้ ดาวหน้าไหนจะมากระพริบให้ดูล่ะ แต่ว่าแค่พระจันทร์ก็คุ้มแล้วล่ะครับ เพราะพระจันทร์ตอนนี้ อยู่ใกล้ราวกับว่าแค่เอื้อมมือออกไปอีกนิดก็จะแตะได้แล้ว

แต่ไม่เป็นไรครับ ดาวฤกษ์มันน้อยนักก็ดูดาวจันทร์ไปก่อนก็ได้ อีกอย่างดูดาวบนดินเทียบกับแผนที่ในหัวสมองแล้วก็สนุกดี ผมก็จะคอยชี้ถามมันว่าไอ้ดาวบนดินตรงโน้นน่ะ บ้านผมรึเปล่า แล้วตรงนั้นล่ะ ใช่โรงเรียนเรามั้ย มันก็ใจดีไม่รำคาญคำถามผม ใจเย็นตอบมันเสียทุกคำถาม พอหมดความสนใจในกลุ่มแสงไฟที่อยู่ต่ำลงไป แล้วก็เริ่มอิ่มผมก็จัดการทำความสะอาดนิ้วตัวเองด้วยการเลีย ฮ่าๆๆ ซกมกเนอะ

จากนั้นก็หันไปแย่งพิซซ่าในมือมันมาป้อนมันแทน ตอนนั้นก็ลืมนึกไปว่ามันจะรังเกียจความซกมกของผมรึเปล่า ช่วยไม่ได้นะเอดู แกหลวมตัวมาแล้ว ผมป้อนมันไปแล้วก็พยายามจับสายตาไว้แค่ปากมันพอ ไม่กล้ามองตามันครับ ผมอาย....แต่ก็นะ มันทำให้ขนาดนี้ก็อยากจะตอบแทนมันบ้าง อยากจะเอาใจมันบ้างนี่นา  

พอผมจะหยิบชิ้นสุดท้ายในกล่องมาป้อนมันต่อมันก็บอกว่าอิ่มแล้ว ผมเลยบริการมันด้วยการเอาขวดน้ำเปล่าที่มันมีติดรถมาเทให้มันล้างมือ แล้วเอาทิชชูเช็ดมือให้มันด้วย แอบๆเหลือบตาขึ้นมองหน้ามันก็เห็นมันยิ้มกว้างขวางเสียจนกลัวหน้าจะเป็นตะคริวแทน ผมจัดการก้มหน้าก้มตาเช็ดมือมันจนแห้งแล้วก็ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยการปาทิชชูที่กลายเป็นขยะไปแล้วเข้าไปในความมืด พร้อมกับรู้สึกถึงแรงดึงรั้งให้ขึ้นไปนั่งเกยอยู่บนตัก ผมเลยสอดมือไปแยกขาสองข้างมันออกกว้างๆ

“เฮ้ย!!”

“ตกใจอะไร แยกขาออกสิ”

งงสิครับ แค่แตะต้นขาแค่นี้ทำหวง เอ.....หรือว่ามันจะมีจุดอ่อนที่ต้นขา จับแล้วจั๊กจี้ หึๆๆๆ ไม่ครับ ยังไม่ใช่เวลามาแกล้งมัน เก็บข้อมูลไว้ก่อน พอผมเงยหน้าพูดให้มันแยกขามันก็ยอมทำตามครับ แล้วจากที่มันจะดึงให้นั่งตัก ผมก็แทรกตัวนั่งตรงหว่างขาของมันแทน แล้วก็เลื้อยทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่อกมันนั่นแหละ เอนจนเกือบนอนแบบนี้มองดาวมองจันทร์ได้สบาย ไม่เมื่อยคอดี

ไอ้เบาะรองนั่งของผมมันทำตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสักพักก็สอดแขนสองข้างมากอดผมเอาไว้เหนือช่วงเอวขึ้นมาหน่อย แล้วก็ก้มลงมาสูดหายใจฟอดๆอยู่แถวขมับ แถวซอกคอ ผมชักไม่รู้จะเอามือไว้ตรงไหนดีอีกแล้ว เลยถือโอกาสแต๊ะอั๋งมันคืนด้วยการซ้อนมือทั้งสองข้างทาบลงกับมือมันซะ เอาคืนด้วยการยกแขนมันขึ้นมาดมผ่านเนื้อผ้าสีดำ....อืม....หอมตรงนี้ก็เป็นกลิ่นสดชื่นเหมือนไปทะเลอีกแล้ว ไหนลองเลื่อนจมูกไปหน่อย อาฮะ พอเข้าใกล้มือก็กลายเป็นเอดูวาร์โด้กลิ่นพิซซ่า ไหนลองที่มือเลยซิ ฮ่าๆๆ กลิ่นชีสเต็มๆเลย

“ฮะๆๆๆๆๆๆ” กรรมของกู เผลอหัวเราะออกมาจริงๆ

“ขำอะไรน่ะ เมว เบง....” อ้าว ไอ้นี่....อย่าเพิ่งมาคนดีจ๊ะจ๋าตอนนี้สิ คนกำลังดมนิ้วแล้วนึกถึงไส้กรอกพันชีสอยู่เลย

“ก็.....ขำเอดูกลิ่นชีส ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ตอนนี้ผมพลิกตัวหันหน้าไปหามัน แล้วยิ่งต้องหัวเราะกับสีหน้าเหมือนมีชีสค้างปีมาจ่อจมูกของมันเข้าไปใหญ่

รู้ตัวอีกทีมันก็พลิกมือยึดเอามือผมที่จับมือมันดมอยู่เมื่อกี้ไปพิสูจน์กลิ่นบ้างแล้ว ก่อนจะฟอร์มทำเป็นขมวดคิ้วบ่นอะไรไม่รู้งึมงำแล้วโดยที่ผมไม่ทันระวังตัวมันก็แลบลิ้นออกมาเลียตั้งแต่ปลายนิ้วแล้วไล้ลิ้นไปจนทั่ว จากนิ้วชี้เลื่อนไปนิ้วกลาง

ผมที่ตัวแข็งเป็นหินขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ไปแล้ว ได้แต่มองดูปลายนิ้วตัวเองถูกส่งเข้าไปในปากบางๆของคนที่ทำตัวเชื่องจนผมตายใจมาได้เป็นนานอย่างไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบโต้ รู้สึกถึงการขบเม้มเบาๆที่ปลายนิ้ว พร้อมๆกับเสียงหัวใจตัวเองที่เริ่มจะเร่งจังหวะจนระรัวอยู่ในอก เสียงหัวใจดัง.....ดังมากจนเชื่อว่าอีกคนที่ตั้งแต่ช่วงเอวลงไปแนบสนิทกันทั้งตัวต้องได้ยินด้วยแน่ๆ

เอดูปล่อยให้มือข้างนั้นของผมเป็นอิสระ โดยดึงให้โอบรอบคอมันเอาไว้ แล้วใช้มือข้างที่เพิ่งว่างนั่นเชยคางขึ้นให้ผมสบตาบรรจุประกายประหลาดแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนโดยไม่มีทางหลบเลี่ยง มืออีกข้างกุมทับมือของผมที่วางอยู่บนแผ่นอกหนาไว้ และเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนนั่นแตะลงที่หว่างคิ้ว ผมก็หลับตาลงช้าๆเผยอปากรอรับสัมผัสที่อีกไม่ถึงอึดใจก็ประทับลงมาแผ่วเบา ผละห่างแล้วค่อยประทับมาอีกครั้งอย่างแนบแน่น ขยับบดคลึงทั้งเรียกร้องทั้งโหยหา



“หยุด.......อย่า หยุดก่อน!!!”
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของผมกลับมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกตัวว่าเสื้อตัวนอกถูกถอดออก และลมดึกพัดผ่านแผ่นหลัง ผมหยิกลงไปเต็มแรงที่ท่อนแขนข้างที่กำลังส่งปลายนิ้วเลิกเสื้อตัวในขึ้น ทั้งที่คิดว่าตะโกนห้ามออกไป แต่เสียงที่ได้ยินกลับแผ่วเบาและแหบเครือจนแทบไม่เชื่อว่านี่คือเสียงตัวเอง

“...........อิส..........อิส....”
เสียงเรียกชื่อผมดังเหมือนเสียงครางของสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บทำให้ผมรู้สึกผิด
แต่....ผมรู้ตัวดีว่าไม่พร้อมสำหรับเรื่องแบบนี้ ผมยังไม่พร้อมจะมีสัมพันธ์ทางกายกับใคร แม้แต่กับคนดีที่สุดคนนี้ก็ตาม

“ขอโทษ.......ขอโทษนะ”
แล้วผมก็ทำท่าเข้มแข็งไม่ไหว ต้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนได้
ผมจะบอกได้ยังไง ว่าที่ไม่พร้อม ที่ทำไม่ได้มันก็เพราะผมกลัว ขนาดใกล้กันแค่นี้ผมยังกลัวจะเดินจากไปไม่ไหว
แล้วถ้ามันมากกว่านี้....วันต้องไป ผมจะไม่ตายเลยเหรอ


“อย่าร้องไห้.....ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร....” แล้วดูมันสิ ยังมีอารมณ์มาปลอบผมอีก
“Ficar quieto….Deixe-me te abraçá.” เอดูมันกดให้ผมแนบหน้าเข้ากับอกมัน แล้วก็บอกให้ผมอยู่แบบนี้ อยู่นิ่งๆให้มันกอด แค่นี้มันก็พอใจแล้ว


เราสองคนอยู่กันนิ่งๆ สักพักผมก็หยุดร้องไห้ไปเอง ทำเสื้อมันเปียกเลยครับ แหะๆ ส่วนมันก็สูดหายใจเข้าลึกๆถอนหายใจหนักๆ พอผมรู้สึกว่าทั้งเอดูทั้งตัวเองกลับมาเป็นปกติแล้ว ผมก็ค่อยๆขยับตัวยื่นหน้าไปจูบที่ปลายคางมันเบาๆ แล้วพลิกตัวกลับมากึ่งนั่งกึ่งนอนยึดอกมันเป็นพนักพิงตามเดิม



“อิส.....ไม่กลับไม่ได้เหรอ?”
เจ็บจังเลยครับ ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บหน่วงที่หัวใจ แล้วก็อึดอัดจนเหมือนจะหายใจไม่เข้าแบบนี้ จะว่าผมเป็นไอ้ขี้แยอ่อนแอกว่าผู้หญิงก็ได้ แต่น้ำตาผมเริ่มไหลออกมาอีกแล้ว ผมทำเนียนๆเอื้อมไปหยิบเสื้อไหมพรมของตัวเองที่กระเด็นไปกองอยู่บนพื้นหญ้าเอามาเช็ดน้ำตาออกเร็วๆไม่ให้ไอ้พนักพิงมันรู้ ทิ้งตัวลงให้แนบกับพนักพิงที่อุ่นที่สุดในโลกเข้าไปอีก แกะแขนข้างหนึ่งที่กอดอยู่รอบเอวผมเอาไว้ ยกฝ่ามือหนาๆนั่นมาแนบแก้ม

“เราต้องเดินต่อไปนะเอดู ชีวิตเรา บ้านเรา อยู่ที่โน่น.....ที่สุดขอบฟ้าโน่น ให้ยังไง เราก็ต้องกลับไป....”

“......เราไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย”

“เอดู....จากตรงนี้ ขอบฟ้าอยู่ใกล้นิดเดียวเองนะ”

“Iss, eu prom….” ….อิส เราสัญญ.....

“Chu chu, não, não prometa.” …..จุ๊ๆ ไม่เอา อย่าสัญญา

“Por quê não?” …..ทำไมถึงบอกว่าไม่ล่ะ?

“อย่าให้คำสัญญามาเป็นเครื่องพันธนาการชีวิต เราเชื่อ....เราเชื่อว่าวันนี้สำหรับเอดูเราเป็นที่หนึ่ง แต่อย่าให้คำสัญญาที่จะออกจากปากมาทำให้ต้องยึดมั่นกับเรา อนาคตน่ะ มันอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เราเองอาจจะเป็นฝ่ายเปลี่ยน อาจจะมีอะไรก็ตามที่จะผ่านเข้ามา เพราะงั้น....อย่าสัญญาเลย....นะ”

“Concordo, não prometa mas, confie em mim….Sob a lua esta noite…. Eu nunca vou esquecer, por tuda minha vida.”


“เหมือนกันนะเอดู......เราก็เหมือนกัน ใต้แสงพระจันทร์คืนนี้ เรากับเอดู เราจะไม่มีวันลืมแน่นอน......ตลอดชีวิต...”

............................................
............................................

..โปรดติดตามตอนต่อไป..



ปล. ถ้าใครเดาไม่ได้  camisinha ที่วิเวียนมันถามว่าอิสมีรึเปล่าก่อนออกจากบ้าน อิสมันมารู้ทีหลังว่าหมายถึง condom ค่ะ เวรกรรม ไอ้น้องบ้า :m20:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2010 17:58:17 โดย anajulia »

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป
เอี้ยดดดดดดดดด ปาดหน้าปาดหลัง กร๊ากกกก

อึ้ยยยย หนังเรื่องนี้ไม่หนุก เพราะอิสไม่มีอารมณ์จะดูอ่ะจิ (มัวเขินไอ้คนข้าง ๆ หึหึ)
แถมป๊อกกี้กล่องนั้นคงเป็นชอคแลตเคลือบน้ำตาลอีกทีซิ...หวานได้อีก
ดีแหะ..ไม่เสียแรงถอยทัพขนเสื่อกลับบ้านไปเสียก่อน ยังได้แอบเห็นรำไร ๆ กร๊ากกกก
เอดูเป็นปิศาจเขมือบนิ้ว มีพิษลุกลามไปทั่วตัว ((O_o'))
(ข้าว่างเอ็งเพ้อแระ  :beat: ตบให้ตื่น)

แล้วก็มาปวดอก จุกไต อ๊ากกกกก :serius2:
เป็นคำสัญญาที่ฟังแล้วเศร้าง่ะ (ใครเป็นมั่ง) หงิง~~   :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2010 15:16:49 โดย pandaๅ123 »

ออฟไลน์ Papoonn

  • inspiration <3
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ซึ้งงงงงงงงงงงง      !
รักเอดู + อิส     ><
รักมากกกกกกกกกกกกกกกกก    ~
ขอบฟ้าน่ะใกล้กันนิดเดียวเอง      ;xx

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะไรเตอร์ เศร้าโคตร ๆๆ ตอนเเรกก็ดีอะนะ เเต่มาตอนท้ายไม่ใช่เเระ อย่าบอกนะว่า  มาม่า เคลือบน้ำตาลคือเเบบนี้ โฮ  วันนี้อ่านมา 4 เรื่อง ทำน้ำตาไหลพรากไป 2 เรื่อง กระซิก กระซิก ขอเบิกค่า ทิชชู ได้เปล่า โฮ ๆๆ  :sad4:


ปล.ไรเตอร์ ด้า กับไรเตอร์ นุ่น นัดกันมา กระชากอารมณ์เหรอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2010 15:29:17 โดย butajang »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
:monkeysad: เศร้าอะค่ะพี่นุ่น ..
นึกถึงตอนที่ต้องห่างจากเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตคนนึง มันคงอารมณ์คล้ายๆกัน ติดว่าสองคนนี้เค้ารักกันอีกตะหาก
รักทางไกลมันเป็นอะไรที่ลำบากเนอะ อยากเจอก็ไม่ได้เจอ อยากสัมผัสก็ทำไม่ได้
แต่ไม่อยากให้จบลงแค่เพราะน้องอิสต้องกลับบ้านเลยอะค่ะ จากกันทั้งๆที่รัก เง้อออ โศกไปไหน TT
ไม่อยากให้เป็นแค่ความทรงจำ แต่อยากให้เดินไปด้วยกันมากกว่า ..
อินจัง *ปาดน้ำตา*

พี่นุ่นสู้ๆ รออ่านต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทั้งน้องอิสและเอดูที่น่ารักด้วย ^^

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
แง แง  อิสจะกลับบ้านแล้วเหรอ  แล้วเอดูล่ะจะทำยังงัย
อิสอย่านะ  ต้องรับผิดชอบเอดูด้วยนะ
ฟันแล้วทิ้งไม่ใช่นิสัยที่ดีของนายเอก (ไปไกลแล้วตรู)

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
  :-[
เขิลลล ทุบพี่นุ่นไปสองที อร๊ายยย
********************************
:monkeysad:
ฮือออ เอาขี้มูกป้ายพี่นุ่นซะเรยงิ กาซิก กาซิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2010 17:16:26 โดย aeecd »

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
พี่นุ่นนนนนนนนนนนนนนนน

ชื่อเรื่องก็ทำหนูสังหรณ์แปลกๆแล้ว มาประโยคอย่าสัญญาของอิสยิ่งทำหนูใจหาย

บอกทีค่ะว่าตอนจบอนาคตสองคนนี้ก็ยังคู่กัน!

ฮือ~

ส่วนเสื้อตัวเล็ก อืม...กะว่าพี่ชายไปนี่เสียจิ้นชัวร์เลยสินะหนูน้อย...ว่าแต่...ก็เกือบจริงนิ 555+

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
โรแมนติกอยู่ดีๆ เศร้าซะงั้น
แต่ก็จริงนะ คำสัญญา ถ้าเราไม่รู้อนาคต
อย่าได้พูดจะดีกว่า เฮ้อ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ซึ้งแบบเศร้าๆ
แต่มันก็เป็นประสพการณ์ชีวิตนะ
ถ้ามีวาสนาก็ได้มาอยู่คู่กัน
แต่ถ้าไม่ อย่างน้อยก็มีความทรงจำที่ดีๆไว้ให้นึกถึง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

หวานอยู่ดีๆ………….. :monkeysad:
เศร้าค่ะพี่นุ่น...ไม่อยากให้จากกันเลย
พี่นุ่นไม่เอาแค่ความทรงจำนะคะ
 :กอด1:

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว!!! Condom นี่เอง!!
ตรัสรู้แล้ว...
ซึ้งๆ หวานๆมากค่ะตอนนี้ ถ้าคู่กัน ห่างกันยังไงก็ต้องได้เจอจ๊ะ!!

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
วิเวียน ออกตัวแรงจริง
ที่แท้คือคอนดอมนี้เอง  :-[
แหม๋ เกือบได้ใช้แล้วไหมล่ะอิส
ช่วงต้นๆยังหว๊าน หวาน อยู่เลย
ปิดท้ายซะปวดตับเลย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก~~~!!!!!!!! เห็น ปล. สุดท้าย ไม่คิดว่า น้องสาวจะยุยงให้พี่เสียตัวขนาดนั้น
 
เฮ้ออออออออออออออออออ.. อินจน หยดสุดท้าย ไม่เสียแรงที่ เกาะกระโปรงรถตามเค้าไปเดทด้วย..

 

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากการไปให้หนังดูคนเป็นส่วนใหญ่กว่าคนดูหนัง หุ หุ หุ  ก็เป็นกิจกรรมดูดาว แต่...
กิจกรรมดูดาวคราวนี้ไม่ผ่านเพราะไม่ใช่ข้างแรมเดือนมืด
แต่อิสกับเอดูก็มีกิจกรรมอื่นที่หวานสุดๆแทน
เพียงแต่ตอนท้ายของกิจกรรม กำลังจะเริ่มต้นกินมาม่า เพราะใกล้ถึงวันจากลา

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
นุ่นนนนน ไม่เอาเศร้านะ ขอร้องงงงงงงงงงงงง

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ไม่แซด เอ็นดิ้งงิ เชื่อนุ่นได้โลดนะแนน
กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คึดฮอดดดดดดดดดดดหลายยยยยยยย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ใกล้จะจบแล้วหรอคะ เสียดายจัง
ตอนนี้เศร้าๆเนาะ

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :กอด1:
เอดูกับน้องอิสสู้ๆ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด