ตอนที่ 3
สูงและใหญ่
เข้าสู่วันที่ห้าของการหาพี่รหัส ผมซึ่งมีชื่อหนึ่งอยู่ในใจแล้ว จึงคอยสังเกตว่าพี่กรเดินมายืนข้างหน้าผมบ้างไหม และพบว่าพี่แกวนเวียนมาบ่อยมาก ผมถึงกับชูหมัดขึ้นเพื่อประกาศชัยชนะ นอกจากไม่ต้องวิ่งรอบสนามแล้ว ยังได้ดูหนังฟรี มีออฟชั่นเสริมเป็นการตามติดชีวิตคุณมาสเตอร์พีชอีกด้วย
เรื่องดีๆ ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เมื่อใกล้เวลายังมีอีกหลายคนที่คิดไม่ออก สุดท้ายก็ยอมแพ้ไปขอคำใบ้ ทำให้ผมหลุดจากตำแหน่งปีหนึ่งคนเดียวที่ไปขออย่างหวุดหวิด ในช่วงโค้งสุดท้ายพอดี นั่นแปลว่าแม้จะมีการประกาศรายชื่อผู้ขอคำใบ้ ผมก็จะมีคนกอดคอโชว์ความบื้อไปด้วยกัน
เย็นวันที่หก พวกเรารวมกลุ่มกันหลังเลิกประชุมเชียร์ เพื่อวิเคราะห์เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ใช้เวลาปรึกษากันอยู่พักใหญ่ สรุปกันได้ว่าลูกจันจะตอบพี่ทวีป ขลุ่ยจะตอบพี่อ้อฝ่ายสันทนาการ ส่วนฝนตัดตัวเลือกจากสามเหลือหนึ่ง เสี่ยงตอบว่าเป็นพี่เก้งฝ่ายพยาบาล โดยไม่ไปขอคำใบ้เพิ่ม ด้วยเหตุผลที่ว่าวิ่งสิบรอบสนามบอลถือเป็นเรื่องสบายๆ แถมให้อีกสักห้าก็ยังไหว ส่วนผมแน่นอนว่าจะตอบพี่กร และไม่ได้เตรียมการสำหรับวิ่งไว้เลย
ในบ่ายของวันที่เจ็ด...
“เก้าอี้”
ผมหยุดเดินหันไปมองคนเรียก พี่กรยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลัง สูงสมกับคำว่า ‘สูงใหญ่’
“ครับ”
“ดีที่ชื่อจำง่าย ช่วยขนของหน่อยสิ”
“อ๋อได้ครับ” ผมพยักหน้าเดินตามพี่กรไปที่รถ จอดอยู่ด้านหลังคณะใกล้กับทางเดินพอดี
“แล้วเราหาพี่รหัสเจอหรือยัง เย็นนี้แล้ว” พี่กรหยิบกล่องเอกสารจากเบาะหลังส่งให้ผม
“ผมว่า..ผมเจอแล้ว” ผมซ่อนรอยยิ้ม แหนะๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“งั้นเหรอ เด็กปีนี้เก่งนะ น้องรหัสหาพี่เจอตั้งแต่สองวันแรก”
!!!
“หะ!” ผมตกใจจนเกือบปล่อยกล่องในมือทิ้ง
พี่กรหันมามองหน้าผม “ตกใจอะไร”
“ปะ..เปล่าครับ” หน้าผมซีดเป็นไก่ต้ม ความมั่นหน้ามั่นโหนกลอยหายไปกับอากาศ
“ตามมา” พี่กรล็อครถ ยกกล่องขนาดใหญ่เดินนำหน้าผม ผมเดินตามพี่กรไปด้วยใจเต้นระทึก เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงเส้นตาย ผมจะไปหาพี่รหัสมาจากไหนทันวะ
“วางไว้” พี่กรวางของลงบนโต๊ะใต้ตึกคณะ ผมวางกล่องที่ถืออยู่ลง
“ได้ข่าวว่าเราพักอยู่หอเดียวกับคีรินทร์เหรอ”
“ครับ” ผมยิ้มแห้ง อยากเลิกคุยเพราะใจพะวงอยู่กับเรื่องอื่น
“ยิ้มแบบนี้แปลว่าเคยโดนดีแล้วใช่ไหม คีรินทร์ก็เป็นแบบนั้นแข็งทื่อสมชื่ออย่าไปถือสาเลย รู้ใช่ไหมว่าแปลว่าอะไร”
“รู้สิครับ คีรินทร์ก็คือภูเขา..ใหญ่” ตาผมสว่างวาบ
สูงใหญ่
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมไม่คิดให้ได้ก่อนหน้านี้วะ
“เป็นอะไร” พี่กรจ้องหน้าผม
“ไม่มีอะไรพี่ งั้นผมขอตัวเลยนะครับ”
“อืม ขอบใจมาก”
“ครับ” ผมผละจากพี่กร สายตากวาดหาเพื่อนเพราะนัดไว้ที่ใต้ตึกพอดี
“มึงงงง” ผมถลาเข้าไปหา นั่งลงข้างลูกจัน
“เป็นไรวะหน้าตาอย่างกับเห็นผี” ฝนมองหน้าผม
“ยิ่งกว่าผีอีก กูรู้แล้วว่าพี่รหัสกูเป็นใคร”
“อ้าว ไม่ใช่พี่กรเหรอ” ลูกจันสงสัยเพราะก่อนหน้านี้ผมปักใจเป็นมั่นเหมาะ
“ไม่ใช่ เมื่อกี้พี่กรเพิ่งบอกกูเองว่าน้องรหัสหาแกเจอตั้งแต่สองวันแรก”
“บอกได้ด้วยเหรอวะ” โคนันขลุ่ยนิ่วหน้า “แปลกๆ กูไม่เคยเห็นพี่ว้ากชวนน้องคุยสนิทสนม”
“ก็ไม่ได้คุยอะไรขนาดนั้น” ผมแก้ตัวให้พี่กร แต่ก็เริ่มเอะใจ
“เดี๋ยวกูมา” ผมลุกพรวดขึ้นยืน
“เฉลยก่อนสิวะใครเป็นพี่รหัสมึง” ลูกจันดึงชายเสื้อผมไว้ไม่ให้ไป
“เดี๋ยวกูกลับมาเล่ายาวๆ รอแป๊บหนึ่ง”
ผมเดินตรงไปยังโต๊ะที่พี่กรให้วางของเมื่อครู่ แต่ไม่เห็นอีกฝ่ายนั่งอยู่ ผมมองซ้ายมองขวา ถึงเห็นว่าพี่กรยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล
“เออกูบอกให้แล้ว”
ผมชะงักเท้าเมื่อได้ยิน สัญชาตญาณบอกว่าเรื่องที่คุยเกี่ยวกับผม จึงขยับตัวหลบไปยืนหลังเสา
“ไอ้เหี้ย ชัดกว่านี้ก็ให้กูบอกชื่อไปเลยเหอะ รู้แล้วชัวร์ มองหน้าก็รู้ ตาแม่งโตจนจะหลุดออกมา”
ผมหยีตาลงโดยอัตโนมัติ บ้า ไม่ได้ทำตาน่าเกลียดขนาดนั้น ผมเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน
“ใจดีไปแล้วมึง อย่าให้ไอ้พลรู้เชียวมันยิ่งเคร่งอยู่”
ผมเดินห่างออกมาอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่กรถึงพูดประโยคแปลกๆ นั้นออกมา ได้แต่ถอนใจเบาๆ นี่กูโง่ขนาดพวกพี่ต้องยอมบอกใบ้ตรงๆ เลยเหรอวะ
• • • • • • • •
“พี่รหัสของคุณเป็นใคร” เสียงตะโกนดังข้างหู หยาดฝนโปรยปรายตกลงพื้นนิดๆ พอให้เกรงขาม ผมมองตรงไปข้างหน้าไม่กล้าหันไปมองรุ่นพี่ ไม่ใช่เพราะกลัวจนหัวหด แต่เพราะกลัวจะหลุดขำออกมา
“พี่รหัสของผมคือพี่คีรินทร์ครับ” ผมตอบเสียงดังฟังชัด
“อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”
“เพราะคำใบ้บอกไว้ชัดเจนครับ ว่าพี่รหัสผมสูงและใหญ่”
พี่ว้ากหลุดยิ้มก่อนปั้นหน้าเคร่งขรึม “คุณแน่ใจเหรอ”
“ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ครับ ผมรู้แต่ว่าสูงแต่ไม่แน่ใจว่าใหญ่ไหม”
ทั้งห้องเงียบกริบ ก่อนเสียงขลุกขลักจะดังเข้าหู พี่ที่กำลังว้ากผมอยู่กลั้นขำจนตีนกาขึ้น
“คือ..ผมหมายถึงคีรินทร์แปลว่าเขา แต่ผมไม่รู้ว่า ‘เขา’ ใหญ่แค่ไหนครับ”
“นั่งลง”
พี่ว้ากเลิกยุ่งกับผมทันที เดินไปหน้าแถวแล้วเปลี่ยนคนอื่นมาทำหน้าที่แทน ผมคิดว่าพี่ว้ากน่าจะชอบคำตอบของผม แต่พี่คีรินทร์คงไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะสายตาที่มองมาเล่นเอาขนคอผมลุกชัน ไม่เห็นต้องน้อยใจเลย ใหญ่ก็บอกกันดีๆ ก็ได้
การเฉลยพี่รหัสเป็นไปด้วยความโหดและฮา ไม่ใช่ทุกคนที่ตอบถูก บางคนโดนรุ่นพี่หลอกให้คิดว่าใช่ บางคนหลงประเด็นไปไกลจนกู่ไม่กลับ ผมเองก็เกือบจะเป็นหนึ่งในนั้น ดีที่รอดตัวมาได้เพราะ... ผมมองคนที่ยืนสูงสง่าอยู่ด้านหน้าแถว ใบหน้าที่เห็นบึ้งตึง ดวงตาดุ ดูน่าเกรงขาม เห็นแบบนี้จริงๆ เป็นคนใจดีสินะ ผมคงต้องมองคุณมาสเตอร์พีชใหม่แล้ว
“พี่รหัสผมคือพี่เก้งครับ”
ผมหันความสนใจมาที่ฝนแทน เมื่อถึงคราวอีกฝ่ายลุกขึ้นตอบ
“ใครอนุญาตให้คุณเรียกชื่อเล่น”
“พี่รหัสผมคือ..คุณนายกรวิก เรืองเลิศปัญญาครับ”
ผมก้มหน้าลงกลั้นเสียงหัวเราะ หลายคนตัวโยนเพราะอดขำการใช้คำว่าคุณนายของฝนไม่ได้
“คุณเก่งมาก แต่ช่วยแสดงความสามารถของคุณให้เราเห็นอีกนิด วิ่งรอบสนามสิบรอบ”
ผมกับลูกจันกลั้นขำไม่อยู่จริงๆ เมื่อฝนยักไหล่ต่อหน้าพี่ว้าก และได้การวิ่งเพิ่มมาอีกสองรอบเป็นของขวัญ เมื่อฝนนั่งลงก็ถึงคราวของขลุ่ยเป็นคนถัดไป
“บอกชื่อพี่รหัสคุณมา”
“พี่อ้อ พรนภา อยู่ฝ่ายสันทนาการครับ”
“คุณมั่นใจแล้วเหรอ! คุณคิดว่ารู้จักรุ่นพี่คุณดีเหรอ มั่นใจอย่างนั้น?”
“พี่อ้อ ชื่อจริงว่าพรนภา ตั้งเจริญกิจครับ เป็นลูกคนที่สอง คนโตเป็นผู้ชาย เรียนดี มีแฟนมาแล้วสองคน อกหักทั้งสองครั้ง กำลังตามจีบพี่ปีสามชื่อ..”
“พอแล้วมึง กูขอ” เสียงพี่อ้อตะโกนลั่น พี่ว๊ากหันหลังขวับกันเป็นแถว ไหลสั่นกันถ้วนหน้า อย่าถามถึงปีหนึ่งอย่างพวกผม ใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ ผมหยิกขาตัวเองจนเขียว พี่ว้ากถามใครไม่ถามดันถามโคนันขลุ่ย มันก็ได้ผลลัพธ์แบบนี้
จบการเฉลยพี่รหัส สี่ยอดกุมารทำได้สามในสี่ มีเพียงฝนเท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้วิ่งรอบสนามบอลสิบสองรอบ
“สวัสดีครับพี่รหัส” ผมก้าวเท้าไปดักหน้าพี่คีรินทร์
“เก่งนี่” คำพูดของคนตัวสูงเรียบเฉย ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก ถ้าผมไม่บังเอิญได้ยินพี่กรคุยโทรศัพท์ คงไม่รู้ว่าหน้าแบบนี้เสียงแบบนี้แหละที่ช่วยผมเอาไว้
“เกือบหลอกผมได้แล้ว ใจร้ายนะครับที่หลอกให้ผมเอนเอียงไปทางพี่กร” ผมพูดเหมือนไม่รู้อะไรเลย
“เราเป็นคนถาม”
“ก็ใช่ครับ แต่คำใบ้พี่สุดยอด จะคิดว่ากวนตีนก็ได้ แต่พอรู้เฉลยก็ตรงตัวสุดๆ”
“ปีหนึ่ง!”
“อุ้ย” ผมสะดุ้งโหยง ยกมือขึ้นตบปากตัวเองเบาๆ
“ผมแวะมาฝากเนื้อฝากตัวครับ จากนี้ก็รบกวนด้วย มีอะไรก็สั่งสอนได้...ผมจะทำตามพี่คีรินทร์ทุกอย่างเลย”
ถือว่าผมได้บอกกล่าวเป็นการขออนุญาตล่วงหน้าแล้ว จากนี้ก็ช่วยรับผมเป็นศิษย์ด้วยนะครับพี่
เสียงถอนใจดังเฮือกใหญ่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่รหัสปลื้มใจน้องอย่างผมมากแค่ไหน
“ไม่ไปดูเพื่อนวิ่งเหรอ”
“กำลังจะไปครับ แวะมาทักทายพี่รหัสก่อน”
“อืม”
“งั้นผมไปก่อน อ๋อ วันเสาร์นี้อย่าลืมนัดของเรานะพี่ ผมชนะพนัน”
ผมหยั่งเชิง อยากรู้ว่าคนที่ตั้งใจเฉลยคำตอบให้ผมจะตอบว่าอย่างไร”
“รู้แล้ว แค่เลี้ยงหนังใช่ไหม”
“ครับ”
“ได้”
ผมก้มหน้าลงซ่อนยิ้ม รู้สึกดีกับคนตรงหน้า เป็นการพนันที่รู้ว่าไม่มีวันชนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยอมเลี้ยงหนังผม
“เจอกันครับ” ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง ถึงแม้คนตรงหน้าไม่ยิ้มตอบก็ไม่เป็นไร อ่า..เพราะเท่แบบนี้หรือเปล่านะ สาวๆ ถึงได้ชอบ ผมยืดหลังขึ้นตรง ไหล่ตึง ตามองไปข้างหน้า ใบหน้าเรียบเฉย ผ่านไปสิบก้าว..
ไม่ไหววะ ไม่เมื่อยหรือไงวะ สงสัยจริงๆ
• • • • • • • •
“สู้ๆ” ผมตะโกนเชียร์เมื่อฝนวิ่งผ่านไป เชื่อแล้วว่าฝนแข็งแรงสมคำโฆษณา ขณะที่คนอื่นวิ่งหอบ ความเร็วลดลงเรื่อยๆ ฝนกลับวิ่งสม่ำเสมอไม่มีตก
“ดีนะกูตอบถูกไม่งั้นตายแน่” ลูกจันยื่นถุงลูกชิ้นทอดให้ผม
“กูก็เกือบไป ไม่งั้นป่านนี้หอบเป็นหมาแล้ว” ผมจิ้มลูกชิ้นเข้าปาก
“กูน่าจะเดาได้ ทำโง่อย่างนี้วะ” ขลุ่ยยังบ่นไม่เลิก ที่เดาไม่ได้ว่าสูงใหญ่หมายถึงชื่อ ไม่ใช่ความสูง
“ถ้ามึงโง่ พวกกูไม่ปัญญาอ่อนเลยเหรอวะไอ้ขลุ่ย” ลูกจันค้อนขวับ “ว่าแต่มึงเถอะ สืบประวัติพี่อ้อขนาดนั้น พี่เขายังอยากเป็นพี่รหัสมึงอยู่เหรอวะ”
“กูก็ไม่ได้อยากทำ แต่พวกรุ่นพี่เป็นคนสั่งให้กูหาเอง”
“กูว่าต่อไปรุ่นพี่ต้องใส่เพิ่มในคำสั่งว่า ให้หาพี่รหัสแต่ห้ามขุดประวัติเป็นอันขาด ฮ่าๆ” ลูกจันหัวเราะเสียงดัง ผมก็พลอยขำไปด้วย ต่อไปอาจมีคำสั่งนี้เกิดขึ้นจริงๆ ก็ได้
“เออเสาร์นี้พวกมึงไปไหน ไปบ้านกูไหม” ลูกจันชวนผมกับขลุ่ยและน่าจะรวมถึงฝนที่ยังวิ่งอยู่ด้วย
“วันอาทิตย์ได้ไหม เสาร์กูมีนัดวะ”
“ไปไหน”
“ดูหนังไง ที่กูพนันกับพี่คีรินทร์ไว้”
“กูลืมไป งี้มึงก็มีเบอร์พี่คีรินทร์แล้วดิวะ” ลูกจันตาวาว ทำท่าจะคว้าโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่บนเป้
“เออว่ะ” ผมเบิกตากว้าง “กูไม่มี”
“อ้าวแล้วมึงจะนัดกันยังไงวะ”
“อยู่หอเดียวกันไม่ใช่เหรอ ง่ายจะตาย” ขลุ่ยไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องยากอะไร
“เออจริง มึงก็ไปเคาะเรียกที่ห้องได้นี่หว่า” ลูกจันเห็นด้วยกับขลุ่ย
“อืม” ผมพยักหน้า นึกโมโหตัวเองที่เรื่องแค่นี้ดันลืมคิด นอกจากเบอร์ห้องแล้วผมไม่มีอะไรสักอย่าง ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ทั้งไลน์ เห็นทีจะไม่ได้การ
• • • • • • • •
ก๊อก ก๊อก
ก๊อกก๊อก ก๊อก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเปิดประตูดังจนผมตกใจ กระโดดโหยงถอยไปสองก้าว ร่างสูงใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงเลสีน้ำทะเล ผมยุ่งนิดๆ หล่ออย่าบอกใคร
“มีอะไร”
“ผมจะมาขอเบอร์โทรกับไอดีไลน์พี่คีรินทร์ครับ จะได้เอาไว้นัดกัน”
“ต้องตอนนี้ด้วยเหรอ”
ไม่ให้ขอตอนนี้เหรอ ผมมองหน้าพี่คีรินทร์ สงสัยจะยุ่งอยู่ หรือมีหญิงอยู่ในห้องหว่า
“งั้นเดี๋ยวผมมาใหม่ครับ” ผมหมุนตัวกลับด้วยมารยาทที่คิดว่าดี แต่มือใหญ่คว้าคอเสื้อเอาไว้
“เอาโทรศัพท์เรามา”
ผมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าส่งให้พี่คีรินทร์ อีกฝ่ายจัดการพิมพ์เบอร์แล้วโทรออก กดเข้าไลน์ผมทำการแอดไลน์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนส่งคืน
“ขอบคุณครับ” ผมรับโทรศัพท์มาถือ ร่างสูงกลับเข้าห้องโดยไม่ร่ำลา
“อะไรของเขาวะ” ผมยกโทรศัพท์ขึ้นหมายจะเปิดดูไอดีไลน์ แต่ตาแทบถลนเมื่อเห็นเวลาบนหน้าจอ ผมยกแขนขึ้นดูนาฬิกา ฉิบหาย! นาฬิกาผมตาย ก็คิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมวันนี้เวลามันเดินช้า ผมไปนั่งเล่นอยู่ห้องฝนตั้งนาน กลับมายังสี่ทุ่มอยู่เลย ที่ไหนได้ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
ผมหันรีหันขวางอยู่หน้าห้อง จะเคาะประตูขอโทษก็กลัวว่าจะยิ่งโดนโกรธ ผมเลยหยิบปากกากับกระดาษโน้ตออกจากกระเป๋าเป้ เขียนคำขอโทษลงไป
“นาฬิกาผมตายเลยไม่รู้ว่ามันเที่ยงคืนแล้ว ขอโทษที่กวนดึกๆ ครับ”
แค่นี้ก็ได้มั้ง ผมอ่านข้อความซ้ำ ควานมือลงไปในกระเป๋ากางเกงเมื่อนึกบางอย่างได้ เจอแล้ว! ยังดีที่เหลือ
ผมสอดกระดาษโน้ตกับลูกอมสีแดงรูปหัวใจเข้าไปใต้ประตู เกือบไม่ผ่านดีที่ช่องว่างใต้ประตูสูงพอ
“หลับฝันดีนะพี่ ขอบคุณที่ช่วยผม”
ผมพูดเสียงเบาหน้าห้อง ยิ้มเมื่อคิดถึงคนที่อยู่ข้างใน โชคดีจริงๆ ที่คุณมาสเตอร์พีชกับพี่รหัสผมคือคนเดียวกัน
ต่อจากนี้ไม่น่ามีอะไรยาก สาวๆ จ๋า รอเจอนิวเก้าอี้กันได้เลย
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin