►.. เมื่อผมเป็น " ตัวสำรอง " ตอนที่ 18 !! อัพแล้ว หน้า 13 21/05/2558
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►.. เมื่อผมเป็น " ตัวสำรอง " ตอนที่ 18 !! อัพแล้ว หน้า 13 21/05/2558  (อ่าน 64810 ครั้ง)

ออฟไลน์ mypinmook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
14
[/b]




“ มึงแน่ใจนะเว้ยว่าจะไม่ให้กูไปส่งหนะ ” ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากเล็กๆของไอ้ทอยดังขึ้นขณะที่ผมกำลังก้มตัวลงผูกเชือกรองเท้าอยู่  ผมได้แต่เงยหน้าไปหามันแล้วส่ายหน้าไปมาเท่านั้น



 มันเองที่ได้เห็นดังนั้นก็เลยส่งยิ้มเล็กๆแบบที่เจ้าตัวชอบทำมาให้   ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วยกมือโบกลาอีกคนที่ตอนนี้กำลังจะขี่รถออกจากที่จอดรถของร้านเฮียที่ผมมาทำงานกับมันด้วย


ผมตัดสินใจมาช่วยมันทำงาน ที่ก่อนหน้านี้มันไปบ่นๆเอาไว้ งานที่มาทำคือร้องเพลงในร้านเฮียนั้นแหละ ตอนแรกที่มันบอกว่าทำงานร้านเฮียผมเองก็นึกไปถึง ผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างใหญ่พุงออกไว้หนวดหน้าตาดุๆคนนึง แต่พอเข้ามาเจอจริงๆ  กลับตรงกันข้ามกันกับสิ่งที่ผมมโนภาพมาซะได้



  ก็เฮียที่จ้างไอ้ทอยมันเล่นดนตรีดันเป็นผู้ชายหน้าดีคนนึงเลยทีเดียว แถมยังนิสัยดีอีกต่างหากและเป็นคนที่อัธยาศัยดีมากๆ  ทำให้ตัวผมเองนั้นไม่เกร็งเลยว่าทำงานกับเฮียเขา ที่จริงแล้วผมก็ได้มาร้องเพลงที่ร้านคู่กับไอ้ทอยก็เกือบสองอาทิตย์เต็มๆแล้ว 



ถ้าถามว่าเมื่อผมมาเป็นนักร้องคู่กับมันแล้ว คนที่มานั่งที่ร้านจะชอบหรือเปล่า ก็คงตอบได้เลยว่าอยู่ในขั้นที่เฮียแกพึงพอใจเลยทีเดียว เพราะว่าเหมือนคนที่มาที่ร้านในแต่ละคืนนั้นจะหมุนเปลี่ยนเวียนสลับไปเรื่อย ไม่ซ้ำหน้าคนที่มาฟังเลยก่อนหน้านี้


 เพราะเหตุคือคนเก่าที่ร้องคู่กับไอ้ทอยมันออกไปก่อนหน้านี้ทำให้ขาประจำที่มาฟังคนก่อนหน้านั้นก็หายหน้าหายตาไปบ้าง ทำให้ที่ร้านคนดูบางตาไปหน่อยในวันที่ไอ้ทอยมันขึ้นเล่น  แต่พอผมมาร้องเทสคนในช่วงวันสองวันแรก ก็กลับทำให้มีขาเก่าประจำของที่ร้านเฮียกลับมาแวะเวียนบ้างเป็นครั้งคราว




คนที่มาฟังเพลงและมาที่ร้านเฮียกส่วนใหญ่นั้นมีทั้งคนที่ทำงานแล้วและคนที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ปะปนกันไปแต่จะมีพวกคนที่ทำงานเยอะมากกว่าซะส่วนใหญ่  ร้านของเฮียออกแนวนั่งดื่มแบบสบายๆแล้วฟังดนตรีมากกว่าการที่เปิดเพลงเสียงดังๆและมีผู้คนมากมายเบียดเสียดกันอยู่ทุกคืนในที่แออัด 



สองขาของผมพาร่างของตนเองเดินไปตามท้องถนนที่ตอนนี้ดูโล่งและว่างเปล่าไร้ผู้คน ผมยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือดิจิตอลที่ใส่อยู่และดูว่าตอนนี้ตัวเลขที่ปรากฏนั้นบ่งบอกเวลาว่าเท่าไหร่แล้ว 



ตัวเลขที่ปรากฏแก่สายตาของผมทำให้รู้สึกตื่นตัว อยู่หน่อยๆ เพราะว่ามันเลยเช้าวันใหม่ของอีกคืนมาเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้เวลาตีสองกว่าๆ ไม่ค่อยมีผลแก่การนอนหลับของผมซักเท่าไหร่



 เพราะคืนนี้เป็นคืนวันศุกร์  อ่า .. ไม่ใช่สิวันนี้เป็นวันเสาร์ยามค่ำคืนต่างหาก ไม่ต้องตื่นไปเรียนเช้า สามารถตื่นตอนไหนก็ได้ตามใจตัวเอง  เหลือก็แค่งานอีกนิดหน่อยที่ทำค้างคาไว้และการไปซ้อมลีดคณะ ที่เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วมีการคัดเลือกขึ้นมา จึงทำให้ผมและไอ้ทอยก็พลอยโดนเพื่อนในเซคเลือกให้เป็นลีดอีกด้วย  จะว่าการที่ถูกเลือกนั้นมันดีก็ได้  หรือไม่ดีก็ได้



เพราะเรื่องดีๆที่มันเกิดขึ้นนั้นก็คือทำให้ผมรู้จักเพื่อนอีกหลายๆคนที่อยู่ในเซคเดียวกันมากขึ้น  และเพื่อนต่างเซคอีกด้วย ทำให้ผมได้รู้จักคนอื่นๆอีกมากมาย อย่างน้อยผมเองก็มีความสุขในช่วงเวลานี้ จะได้ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่นๆให้ปวดหัวไปกับมัน



แต่ไอ้ที่ไม่ดีคือผมต้องอยู่ซ้อมลีดนานๆตามคำสั่งของรุ่นพี่ ทำเอาแย่อยู่เหมือนกันสั่งยืนนานๆตั้งหลายช่วงโมง บางทีตั้งการ์ดนานทำเอาไปไม่เป็นเลยเมื่อยก็เมื่อย บ่นหน่อยพี่ก็ว่าเอา


แต่มันก็ยังเป็นเรื่องดีอยู่นั้นแหละ เพราะสมองผมร่างกายผมจะได้ไม่ต้องมาว่างจนเกินไป จนนำพาสิ่งอื่นๆเข้ามาในความทรงจำ และคอยนึกถึงสิ่งเหล่านั้น



สายลมยามค่ำคืน ที่คอยพัดผ่านไปมาอย่างเบาบาง แต่กลับทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างน่าประหลาด



 ช่วงเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา .. . ผมไม่ได้คุยกับเขาเลย และพี่เขาเองก็ไม่ได้คุยกับผมอยู่เหมือนกัน อาจจะมีที่บ้างครั้งเราสองคนบังเอิญเจอกันบ้าง แต่ผมกลับทำเพียงแค่หันหน้าหนี้ไปมองทางอื่นหรือไม่ก็ไปสนใจอย่างอื่นแทนเขา และเขาเองก็ไม่ได้สนใจผมด้วยเหมือนกัน



ช่องว่างเล็กในตอนนี้เริ่มขยายตัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่ผมกลับมองเห็นช่องว่างนี้ว่าตอนนี้เราถอยห่างมากี่ก้าวกันแล้ว และที่ห่างออกมาไม่ใช่เพราะตัวเองนั้นหมดรักหรือเลิกชอบเลิกสนใจในตัวพี่เขา



แต่เพียงแค่ผมอยากจะกลับมาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเพียงเท่านั้นว่าสิ่งที่ได้ทำ และสิ่งที่ได้พบเจอ ยังเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่อีกหรือเปล่า สารพัดความรู้สึกที่มันอธิบายได้ยากประดังประเดเข้ามาในตอนนี้


ทำได้เพียงแค่ปล่อยผ่าน ให้ช่วงเวลาที่เดินต่อไปอย่างไม่มีจุดจบเป็นตัวบ่งบอกว่า ความรู้สึกนี่คืออะไรและจะหายไปเมื่อไหร่ อาจจะเหมือนแค่อาการเหนื่อย หรืออาจจะเป็นแค่อาการเวลาเหมือนเด็กเวลารักสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็อยากได้ความรักตอบแทนกลับมาบ้าง



เหมือนการรดน้ำต้นไม้ตั้งแต่เป็นต้นกล้าเล็กๆ ถ้ารดน้ำไปเรื่อยๆแล้วต้นไม้ต้นนั้นมันเติบโตออกดอก ก็คงจะดีใจเป็นอย่างมาก แต่ถ้าการที่เราหมั่นเพียรรดน้ำต้นไม้ต้นนั้นตั้งแต่เป็นต้นกล้า แต่ต้นกล้าต้นนี้กลับไม่ยอมเติบโต .. ไม่ว่าจะดูแลเอาใจใส่อย่างไร รดน้ำใส่ปุ๋ยให้มันเท่าไหร่ มันก็ไม่ยอมเติบโต แล้วเราจะทำอย่างไรได้ เราก็ได้แค่มองต้นกล้าต้นนี้อยู่ห่างๆและเราเองก็อาจจะเลิกใส่ใจมันในที่สุด


อาจจะแค่เหนื่อย ...


และเลิกสนใจมันในที่สุด .. .. ถ้าหากความรู้สึกผมเป็นแบบนั้น




ไม่มีใครทำอะไรให้คนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรอก .. . ไม่มี ทุกคนมีความโลภทั้งนั้น มีความต้องการที่จะอยากได้อยากมี ต้องการให้อีกฝ่ายรับรู้และตอบแทนความรู้สึกนั้นกลับมา



นี้คือความเป็นจริง .. .


สองขาของผมพาร่างเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ในยามค่ำคืนแบบนี้ภายในร้านมีคนอยู่ไม่มาก มีคนมาซื้อของเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมเดินตรงไปยังตู้เครื่องดื่มที่มีขวดแอลกฮอล์หลากสีวางอยู่เรียงราย ก่อนจะเปิดประตูตู้ออกแล้วหยิบแอลกฮอล์ออกมาขวดนึง ความเย็นจากขวดที่ผมจับอยู่เตือนสติได้อย่างดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไร



เพียงแค่อยากดื่มให้มันลืมๆไปในช่วงขณะหนึ่งเพียงเท่านั้น  และย้ำเตือนตัวเองอีกครั้งว่าเพียงแค่ดื่มไปครึ่งขวดอาการแพ้จะกำเริบขึ้นมา ผื่นแดงคงขึ้นเต็มหลังแน่ๆแต่ก็ยืนยันที่จะวางขวดลงบนเคาท์เตอร์ก่อนจะจ่ายเงินไปตามราคาของสินค้า


 ผมเดินออกมาจากตัวร้านก่อนจะทรุดตัวลงนั่งริมทางเดิน มันอาจจะเหนื่อยเพียงแค่ช่วงแรกๆ แต่ถ้าผมผ่านไปได้ก็คงจะดี ความรู้สึกที่มันปนเปไปมา มันไม่ตายตัวด้วยสินะ ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร อยากทำอะไร ต้องการอะไรกันแน่


แอลกฮอล์รสชาติปร่าๆ ถูกกรอกลงคออย่างรวดเร็ว รสชาติของมันช่างบาดคอจริงๆและเพียงไม่นานตอนนี้แอลกฮอร์สีสดใสที่อยู่ในขวดก็หายไปเกือบครึ่งแล้ว  ผมหลับตาลงและนึกทบทวนสิ่งที่ผ่านมา ทุกสิ่งมันหนักอยู่ภายในหัว มันเอาออกไม่ได้ และอยากจะลบออกแค่ไหนก็ทำไม่ได้เช่นกัน



ช่วงเวลาที่เดินต่อไปตอนนี้ มันพัดผ่านเอาความทรงจำในครั้งก่อนๆกลับมาในความทรงจำอีกครา อย่างห้ามไม่ได้ ผมหลับตาแน่น มือเตรียมคว้าขวดแอลกฮอล์เย็นๆที่วางอยู่ข้างตัวตอนนี้ พอคว้าไปกลับไม่มีอะไรเลย ทำให้ผมต้องลืมตามองหาสิ่งที่ต้องการ



แต่ภาพตรงหน้าที่เจอกลับเป็นด้านข้างของร่างสูงที่คุ้นเคยนั่งอยู่ข้างๆผมและพี่เขาเองนั้นกำลังดื่มสิ่งที่ผมต้องการอยู่ในตอนแรก  ร่างสูงดื่นมันจนหมดขวดก่อนจะวางลงข้างกาย อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนอยู่สักพักและผมเองก็ได้แต่มองการกระทำของเขาอยู่แบบนั้นจน มือหนาของเขายื่นมือมาจับมือผมเพื่อฉุดให้ลุกขึ้นยืน



และผมเองก็นึกบ้าอะไรไม่รู้ถึงได้ลุกขึ้นยืนตามอีกคนอย่างว่าง่าย ร่างสูงของเขาออกแรงดึงมือผมเบาๆให้เดินตามอีกฝ่าย


สองขาของผมก็คงเดินตามแผ่นหลังของร่างสูงอย่างไม่คิดที่จะพูดคุยอะไรกับคนตรงหน้า  ทำได้แค่เพียงเดินตามเขาอย่างว่าง่ายเหมือนเคย ความอบอุ่นที่แทรกผ่านมือของผมและมือของเขาที่จับกันอยู่นั้นเหมือนเตือนสติอีกครั้งว่ามันคือเรื่องจริงและไม่ได้ฝันไป 


พี่เอ็มทำแบบนี้ทำไม .. .


นี่คือคำถามแรกที่มันอยู่ภายในใจตอนนี้ และอาจจะมีคำความที่สอง สามหรือสี่ตามมาอีก ตอนที่นั่งอยู่หน้าร้านสะดวกนั้นผมก็ไม่ได้สังเกตสีหน้าเขาด้วยซ้ำ ... เพียงแค่เห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นใคร สิ่งที่มันอยู่ลึกๆก็เอ่อล้นออกมา ..



เกือบสองอาทิตย์เต็มที่ไม่ได้คุยกัน เพียงแค่บังเอิญเจอกันเท่านั้น


แต่วันนี้ตอนนี้กลับมาอยู่ใกล้กันขนาดนี้อย่างน่าใจหาย .. ..



บางที ไม่ว่าจะใกล้แค่ไหนมันก็ไม่มีผล ถ้าหากอีกคนไม่เคยคิดจะสนใจ ผมกับพี่เขาอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง ใกล้กันจริงๆนะ และผมเองก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรออกไป



ถ้าปล่อยให้เวลามันพัดผ่านไปแบบนี้จะดีหรือเปล่า ..



การที่ได้แต่ตั้งคำถามอยู่กับตัวเองทำให้ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาเดินพาผมมาถึงหอพักแล้ว อีกฝ่ายหยุดเดินและปล่อยมือผม ก่อนจะหันหลังกลับมาหา กลายเป็นว่าตอนนี้เขาเองก็มองใบหน้าผมอยู่และผมก็กำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน ใกล้กันขนาดเห็นแววตาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใกล้จนอยากถามคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่พี่เขาทำ ใกล้กันจนอยากจะบอกพี่เขาอีกครั้งว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผม .. . คิดถึงเขามากแค่ไหน



ความเงียบที่คืบคลานเข้ามาทำให้ตอนนี้บรรยากาศเริ่มดูอึดอัด การที่ยืนมองหน้ากันตอนนี้ทำให้ผมเริ่มประม่าเล็กน้อย เพราะไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆแบบนี้เลยมาสักพักแล้ว สายตาของผมเริ่มเสมองไปสนใจอย่างอื่นแทน พี่เอ็มไม่ได้พูดอะไรขึ้น เพียงแค่ทำสีหน้าเรียบนิ่งอย่างที่เคยทำประจำไม่ได้ยิ้มหรืออะไร แต่แววตาของเขาที่เป็นอยู่เหมือนกำลังจะสื่ออะไร .. แต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนพอถึงขั้นบ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอะไร



ช่วงเวลาที่กำลังเดินผ่านไปเรื่อยๆในตอนนี้ เหมือนเวลาล่วงเลยไม่อย่างเชื่องช้า ทุกสิ่งรอบกายดูหยุดนิ่ง .. . มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้นแหละ เหอะ ..



ผมถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วเบนสายตากลับไปมองอีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าหอไป  ผมกำลังอยู่ในอารมณ์ที่มันค้างคา ไม่ชัดเจนและรู้สึกสับสนปนเปไปหมด  และผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำเลยสักนิด มันหงุดหงิดตัวเอง




ในเมื่อเขาไม่ยอมพูดหรือบอกอะไร ผมก็จะไม่พูดไม่อะไรทั้งนั้น



การกระทำที่ไม่ชัดเจนของเขาในแต่ละครั้งกลับมาตอกย้ำความรู้สึกของผมอีกครั้ง ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นคืออะไรและทำมันทำไม อย่างเช่นตอนนี้ เหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ ยังคงวนเวียนภายในหัวไม่ไปไหน  ไม่ได้อยากคิดไปเองว่าที่เขาทำเพราะอาจจะกำลังรู้สึกอะไร หรือเพราะอย่างอื่น แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็เจ็บอยู่แล้วนะจริงๆ อยากจะเรียกร้องอะไรต่อมิอะไร ความรู้สึกที่เสียไป แต่ก็ทำได้เพียงคิดเท่านั้น



ความอบอุ่นของอีกฝ่ายที่เคยจับมือตนเองนั้น ยังรู้สึกได้ว่า คืนนี้... .. ผมไม่ได้ฝันไป 



ฝันดีครับพี่เอ็ม .




===========================================================

มาแล้วค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ มาน้อยด้วยเสียใจ 555555555555555555

ตอนนี้คือารมณ์เฟรนแบบ .. อยู่ในโหมดที่ความรู้สึกปนเป ประดังประเดดีจัง 5555

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆนะคะ เป็นเรื่องแรกที่เขียนแล้วรู้สึกดีมากเลย ที่ได้ทำมาจนถึงจุดนี้

ขอบคุณทุกคนนะคะ  แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะ  :hao3:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ถ้าอยู่ดีๆน้องเดินไปบอกพี่เอ็มว่าผมจะไม่ไล่ตามพี่แล้ว.....จะเป็นยังไงต่อนะ??

ออฟไลน์ AuyAaiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คาดว่าอีกไม่นาน....

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9



              เฮ้อออออ. อ่านตอนนี้ก็ยังหน่วงในอกเหมือนเดิม  :เฮ้อ:  รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ชื่นชอบวิธีการขจัดความฟุ้นซ่านของเฟรนจริงๆ เลยค่ะ ใช้เวลาว่างได้เป็นประโยชน์มากๆ แค่ผู้ชายโลเล สับสนในตัวเองแบบนั้นคนเดียว ไม่มีค่าพอให้น้องต้องคิดถึงเลยจริงๆ…

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ยังคงอึมครึมหน่วงจิตกันต่อไป อธิบายความรู้สึกไม่ออก แต่บอกได้อย่างเดียวพอเถอะไอ้พี่เอ็ม เลิกทำตัวงี่เง่าซักที

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อยากรู้จริงว่าถ้าเฟรนไม่สนใจพี่เอ็มแล้ว พี่เอ็มยังจะเฉยแบบนี้ได้อีกป่ะ ชักหมั่นใส้พี่เอ็มแล้วไม่ชัดเจนสักที ถ้าไม่ชอบน้องก็บอกน้องตรงๆ อย่ายื้อได้ป่ะ เพราะมันจะทำให้น้องมันเจ็บแบบเรื้อรัง ให้น้องแม่งเจ็บทีเดียวดีกว่าทำแบบนี้ไม่ชัดเจนเลยจริงๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เฟรนทำได้ดีมากเลยทีเดียว
ว้าวุ่นสับสนก็ถอยมาคิดก่อน
ตัดเอ็มไปชั่วคราวได้ก็มีความสุขดี
ยิ่งสับสนก็ยิ่งต้องหาอะไรทำอย่าอยู่คนเดียว
อย่าตามไปส่องเขา
ถ้าหากว่าไม่เจอเอ็มคืนนี้
เฟรนก็อยู่ได้นะ
มีเพื่อนมีงานพิเศษไม่เหงา
แต่คนที่จะเดือดร้อนก็น่าจะเป็นเอ็มมากกว่า
คนที่บอกรักตัวเองอยู่ๆก็ถอยออกไป
อีโก้ก็มีกันทั้งนั้น เจ็บเป็นกันทั้งนั้น

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
"หน่วง"   แต่ก็สู้เค้านะหนูน้อย  :L2:

ออฟไลน์ however_pat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
สารเลวเอ็ม
ขยะแขยงคนแบบนี้
คนแต่งอย่าพยายามนัดเยียดเหตุผลของมันเยอะเลยนะ แค่ตอนที่แล้วพอ
เพราะยิ่งอ่านยิ่งคลื่นใส้กับคนอย่างมัน
เหตุผลมากมายสุดท้ายมันก็เป็นแค่คนที่เห็นแก่ตัวคนนึงเท่านั้น
จริงอยู่ที่ทุกคนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้น
แต่ไม่คิดว่าคนๆนึงจะเห็นแก่ตัวเกินมนุษย์ได้ขนาดนี้

คิดว่าคนที่รู้จักกัไม่น่าจะทำร้ายกันขนาดนี้
แม้แต่คนเป็นศัตรูกัน ยังไม่ทำร้ายกันขนาดนี้เลย
ใครจะเจ็บเท่าไรมันไม่แคร์ ขอแต่มันได้ในสิ่งที่อยากได้ อ่านแล้วงงว่านี่คือคนรู้จักกันทำต่อกันหรอ
บอกเลยว่าไม่ว่ามันจะเจ็บ ทุรนทุรายยังไง ก็ไม่มีวันให้อภัยมัน
จะเอาเหตุผลล้านแปดยังไงก็ไม่มีวัน

คนสารเลวอย่างมันไม่ควรค่ากับความรักดีๆของน้องเฟรน.
เชิญป้ายหน้า อีคนโลกไม่ต้องการ
ไม่แปลกเลยที่มันถูกทิ้ง เป็นใครก็ไม่เอามันหรอก นอกจากหน้าตาก็ไม่มีคุณค่าอะไรกับโลกนี้เลย

#อินล้วนๆ.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เฟรนเริ่มก้าวออกจากเอ็มได้หน่อยนึงแล้วมั้ง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เห่อๆ สุดท้ายเฟรนก็รับไม่ได้ซินะ
ฐานะตัวสำรองอะไรนั่นน่ะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
สองคนนี้
จูงมือเดินมา

เพื่อจะนัดกันเล่นสะกดจิตเหรอ

อาการน่าเป็นห่วงทั้งคู่

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ sataav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนนี้ชวนหน่วง :katai1:
คงเพราะ อะไร ๆ มันยังไม่ใช่เจน
เฟรนก็คงหน่วง ๆ แบบที่คนอ่านหน่วงเหมือนกัน

ส่วนพี่เอ็ม ชัดเจนสักทีเถ๊อะ
ไม่รักน้องก็ปล่อยน้องไป แต่ถ้ารักก็ถนอมน้องหน่อย

ออฟไลน์ retrot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: ค้างค่ะ ฮือๆ
เราเปิดดูทุกวันเลย รอวันที่จะมาอัพ หน่วงมากค่ะ แต่เก๊าก็ชอบน้า -v- จะรออยู่นะคะ
ถ้าแต่งตันหรือยังไงก็ขอให้อย่าลืมกำลังใจจากเรานะ เผื่อจะแต่งต่อได้ ฮ่าๆ

เข้าใจพี่เอ็มนะ เข้าใจอารมณ์นางแต่คือฉันเข้าข้างเฟรนอ่ะ
ดังนั้น อีพี่เอ็มเลวอ่ะ คิดอะไรก็บอกไปเส่ ปากอ่ะอมหินไว้หรอ ถึงได้หนักขนากน๊านนนน
T-T เฟรนก็อย่าไปยอมง่ายๆนะคะ คุณลูก ถ้าอีพี่เอ็มมันยอมเราแล้วก็สะบัดก้นหนีทิ้งไปเลยค่ะ!!!

สู้ๆนะคะ เราติดตามเสมอน้า Fighting !  :กอด1:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ลองทบทวนดูนะเฟรม เราว่าถ้าพี่เอ็มไม่ชัดเจน แล้วยังทำร้ายกันอยู่ก็เลิกรักเหอะ เฟรนมีดีกว่าที่จะจมอยู่กับเอ็มนะ สู้ๆ

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มาต่ออีกเร็วๆนะครับ ร้องไห้ไปหลายรอบเลบทีเดียว มาต่อเร็วๆน้า

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
 :ling2: ยื้อไปทำไมให้เจ็บ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
มันต้องรอเวลาใช่มะ รอเวลาที่ต่างคนต่างรูัใจของตัวเอง

ออฟไลน์ mypinmook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
15
[/b]



“ คันโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยยย !! เหยดแม่งงงงงงงง ”  ผมรีบลุกขึ้นนั่งจากที่นอนแล้วรีบถอดเสื้อนอนออกอย่างเร่งรีบแล้วรีบลุกขึ้นไปยังหน้ากระจกก่อนจะหันหลังสำรวจดู ตาก็ยังคงจ้องแผ่นหลังของตนเองผ่านกระจกใสบานใหญ่ ผื่นแดงขึ้นเต็มหลัง เหี้ยมาก ! ผมได้แต่ด่าตนเองอยู่ในใจ โครตๆแย่เลยแม่ง



ผมถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อคืนตอนกลับเข้าห้องแล้วไม่น่าไปหยิบเบียร์ไอ้กิ๊กมากินเลย กลายเป็นว่าแพ้ยิ่งกว่าเดิมอีก ผื่นแดงมากมายปรากฏขึ้นเต็มแผ่นหลัง  ผมหันตัวกลับมายืนหันหน้าเข้ากระจกก็พบว่าตรงช่วงหน้าอกก็มีผื่นแดงๆอยู่เหมือนกัน แต่เป็นเพียงสีจางๆเท่านั้น ก่อนจะมองสำรวจอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งก็พบ รอยแดงตรงคอเป็นปื้นๆ สีแดงจางๆ คันก็คันชิบหาย ดีนะที่อาการแพ้ของเขามันแค่มีผื่นไม่ได้เป็นอะไรที่มันร้ายแรงกว่านี้



มือเรียวยาวของตนเองคว้าไปยังผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่แขวนอยู่กะว่าจะรีบไปอาบน้ำ ก่อนรูมเมทตัวดีจะมาเห็นสภาพของเขาตอนนี้ และก็สภาพกระป๋องเบียร์ที่วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของตนอีกด้วย กินไปแค่ไม่กี่กระป๋องเอง ทำไมถึงเป็นเยอะขนาดนี้ว่ะ ! 



เป็นเพราะว่าเมื่อคืนไม่มีคนห้ามด้วยละมั้ง เขาถึงได้กล้ากินเบียร์ของเพื่อนในตู้แบบนั้น เมื่อวานไอ้กิ๊กมันไปทำงานที่สตูทั้งคืนกว่าจะกลับก็คงเช้า นั้นคือสิ่งที่มันบอกผม แต่ตอนนี้ก็เกือบจะเก้าโมงแล้วมันก็ยังไม่โผล่หัวเข้าห้องมา



 ก่อนที่จะสิ้นสุดความคิดเรื่องไอ้กิ๊ก อยู่ดีๆประตูห้องก็ถูกไขกุญแจเข้ามา ผมเองที่ยังไม่ได้ไปอาบน้ำและเก็บกระป๋องเบียร์ไปทิ้งก็ได้แต่รีบไปเอากระป๋องเบียร์ที่วางไว้บนโต๊ะนั้น กวาดใส่อ้อมแขนแล้วรีบวิ่งไปยังระเบียงที่ประตูเปิดอยู่ก่อนจะโยนกระป๋องทั้งหมดลงทั้งขยะ แล้วรีบปิดประตูระเบียงเตรียมจะวิ่งเข้าห้องน้ำแต่ก็ไม่ทันการ เพราะรูมเมทสุดโทรมก็ปรากฏกายขึ้นให้เห็นแล้ว



มันเองเมื่อเห็นผม มันก็ได้แต่ไล่สายตาผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วทำหน้าเหมือนจะอ้วก พร้อมทั้งยื่นมือมาจับเอาผ้าเช็ดตัวที่พาดไหล่ออก  ผมคิดว่าตอนนี้มันเองคงเห็นรอยแดงจากผื่นหมดแล้วแน่ๆ แถมยังเห็น .. .



“ เดี๋ยวก่อนนะมึง กูไม่แปลกใจที่มึงจะกินเหล้าแล้วเสือกผื่นขึ้น แต่กูติดใจตรงนี้ ”  นิ้วเรียวของมันกดลงมาย้ำๆที่ช่วงหัวไหล่ผมหนักๆ 
จะไม่ให้มันแปลกใจได้ยังไงในเมื่อผม .. .. ไปเพ้นท์มา ก็ในช่วงที่ซ้อมลีดนั้นแหละเห็นเพื่อนคนอื่นเพ้นท์บ้างไม่ก็สัก ด้วยความอยากลองมาตั้งนานแล้วเลยทำให้ไม่ลังเลยที่จะไปเพ้นท์มัน  เลยกลายเป็นว่าช่วงหัวไหล่ผมตอนนี้มีรอยเพ้นท์รูปมือแบบโครงกระดูกเหมือนกำลังจับไหล่ผมอยู่และในมือโครงกระดูกนั้นก็มีดอกกุหลาบอยู่ด้วย ที่จริงมันก็คงจะจางหายไปได้แล้ว ยิ่งโดนน้ำบ่อยก็ยิ่งเลือนจางหาย บางคนอาจจะไม่สนใจและคิดว่าแค่เพ้นท์เล่นๆเท่านั้น  แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้กลับไปให้พี่ช่างเขาเพ้นท์ย้ำรอยเดิมอีกครั้ง



“ กูก็แค่เพ้นท์เล่นๆหน่า ”


“ ไม่คิดว่ามึงจะชอบอะไรแบบนี้ แล้วมึงกินไปเท่าไหร่ว่ะชิบหาย ผื่นถึงขึ้นหนักขนาดนี้ ” ไอ้กิ๊กมันทำสีหน้าหน่ายๆ เบื่อที่จะบ่นผม ไอ้เรื่องกินเหล้าแล้วผื่นขึ้นมันกลายเป็นเรื่องปกติตั้งแต่ผมได้ไปคัดตัวลีดแล้วละ  แรกๆมันก็บ่นเอาซะยกใหญ่แต่พอผมบอกกับมันว่าจะกินแบบหักห้ามใจตนเอง มันก็พอโล่งใจ เพราะว่าตอนนั้นที่เคยกินเหล้ากับมันครั้งแรกแล้วแพ้ มันก็ตกใจเอาซะยกใหญ่แล้วพาผมไปโรงพยาบาล ไอ้กิ๊กมันนี่ขี้เป็นห่วงชิบหายเลยครับ



“ ก็สามกระป๋องประมาณนั้นแหละ  ” ผมเรียบๆเคียงๆพูดขึ้น ก่อนจะต่อท้ายอีกประโยค



“ แต่เบียร์ที่กูกินมันเป็นเบียร์มึงนะ ”  เมื่อผมพูดจบก็รีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทันที ก่อนจะได้ยินเสียด่าไล่หลังมาติดๆ  ไอ้กิ๊กแม่งห่วงเบียร์จะตาย ผมเห็นมันเก็บเบียร์นั้นมาจะสามสี่อาทิตย์ได้แล้วก็ยังไม่แตะ เวลาจะกินเหล้าหรือเบียร์ทีไร มันก็ไม่เคยเอาในตู้มากิน ได้แต่ลงไปซื้อข้างล่าง ไม่รู้จะห่วงอะไรหนักหนาก็แค่เบียร์สามกระป๋องเอง ..



หลังจากที่ออกจากห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็พบกับความจริงว่า ไอ้กิ๊กมันยึดเตียงผมไปและหลับไปอย่างไม่สนใจใครอีกเลย ที่มันมาไปนอนเตียงมันก็เพราะว่า บนที่นอนของมันตอนนี้มีแต่งาน งานและงานเท่านั้นที่วางรอมันอยู่บนเตียงรวมทั้งเศษกระดาษที่ถูกขย้ำๆ วางเกลื่อนเตียงเนื่องจากช่วงนี้ใกล้เดดไลน์มันแล้ว รีบเคลียร์งานส่ง



งานมันมาแบบวันต่อวันทำให้ช่วงนี้ไอ้กิ๊กไม่ค่อยได้พักผ่อนสักเท่าไหร่ นอกจากอยู่ทำงานดึกๆแล้วมันยังกินกาแฟแบบเพิ่มชอตทุกวัน เพื่อให้งานเสร็จ บางคนอาจจะคิดว่าทำไมต้องเร่งทำอะไรขนาดนี้แต่คือว่า มันเรียนออกแบบ สาขามันคณะมันทำงานส่งเพื่อเก็บคะแนนแบบดิบๆเลย ไม่มีการสอบอะไรทั้งนั้นมาช่วย เหมือนกับว่าที่มันเรียนอยู่ตอนนี้ก็คือการสอบนั้นเอง



บางครั้งผมก็เห็นมันทั้งเหนื่อยทั้งล้า แต่ก็ยังคงทำงานอยู่ดึกดื่น มาจะสองสามอาทิตย์ติดกันได้แล้ว ก็อดสงสารมันไม่ได้จริงๆที่ต้องอดหลับอดนอนแบบนี้ เมื่อคืนก็คงทำงานที่สตูทั้งคืนโดยไม่ได้พักละสิ ผมเดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่งบาง ที่ผอมกว่าผมและลอบมองสีหน้าที่เหนื่อยอ่อนยามหลับของอีกฝ่าย



แม้มันจะทำงานหนักแค่ไหน แต่มันก็ยังคงถามไถ่ผมเรื่องผมกับพี่เอ็มอยู่เสมอ และคอยถามความรู้สึกว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มันยังคงตักเตือนอะไรหลายอย่างเพราะความเป็นห่วง แม่งเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ 



ผมมองดูนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาอยู่บนฝาผนัง ก่อนจะหยิบเอาเสื้อคลุมที่วางอยู่แถวเตียงขึ้นมาแล้วรีบใส่รองเท้าออกจากห้อง แม่งเกือบได้เวลาละ ได้เวลาตั้งการ์ดเป็นชั่วโมงๆ ถ้าใครมาเห็นสภาพผมตอนนี้ก็คงนึกว่าไปทำอะไรมาแน่นอน รอยแดงจางๆเป็นปื้นอยู่ตามซอกคอ  เวรของกรรม เขาจะไม่คิดว่ากูมีค่ำคืนที่เร่าร้อนเหรอว่ะ ..


ช่วงเวลาที่มันผ่านไปอย่างเชื่องช้าก็จบลง อย่างกับเข็มนาฬิกามันไม่ขยับเดินอย่างนั้นแหละ  กว่าจะผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละชั่วโมง ทำเอาเมื่อยและล้ามากจริงๆ  ผมบิดตัวไล่ความเมื่อยล้าอยู่ก็โดนไอ้เพื่อนตัวดีมันมาตบหลังซะเสียงดัง



“ ไอ้กาย ! ” ผมหันไปเอ็ดมันเสียงดังเพราะความเจ็บที่ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลัง  ทั้งแสบทั้งเจ็บ ทั้งคันเลย



“ เสียงดังไปละมึงๆ ” ไอ้กาย เพื่อนใหม่ของผมพูดขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะยกแขนมาคล้องคอผม  ลากตัวผมไปหาพวกไอ้ทอย  ไอ้กายมันเป็นคนตัวผอมๆแล้วก็สูงมากๆด้วย เกือบๆร้อยแปดสิบเซนเลยทีเดียว แถมผิวมันก็ขาวซะแบบเกือบซีดเลย รูปหน้าดีผมมันก็โคเรียสไตล์ตามแบบฉบับนิยม  ลักยิ้มมันก็มี เวลายิ้มหรืออ้าปากทีจะเห็นเหล็กดัดฟันที่มันใส่อยู่ แม่งเวลาอยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักจริงๆ เวลามันแกล้งอะไรแรงๆ บางทีก็ไม่โกรธนะแม่งแบบ พอมันยิ้มส่งมาถึงแค่จะยิ้มแบบเล็กๆแนวขอโทษ เท่านั้นแหละ หายเลย แพ้คนมีลักยิ้มจริงๆ ยอมๆ 




“ โบ้ มึงดูคอไอ้นี่ดิแม่ง เหมือนเมื่อคืนไปฟัดสาวมาเลย ” เสียงของไอ้กายพูดขึ้นเมื่อมันลากผมเข้าไปหาพวกเพื่อนที่นั่งกองกันอยู่ใต้ตึกคณะ 


“ ฟัดสาวไรละมึง กูว่าไอ้เฟรนไปฟัดหนุ่มมารึเปล่า พอเลิกร้องเพลงก็หิวหนุ่มกลับห้อง ”  ไอ้โบ้ เพื่อนชายตัวสูงผิวสองสีพูดขึ้น ไอ้นี่ก็เพื่อนใหม่อีกคนเหมือนกัน แต่เพียงแค่มันอยู่คนละคณะกันเท่านั้น  ไอ้โบ้มันเรียนออกแบบครับ  แต่ก็รู้แค่ว่าเรียนอกแบบเพราะมันก็ไม่ได้บอกอะไรเพิ่ม มันอาจจะเป็นเพื่อนร่วมเซคกับไอ้กิ๊กก็ได้ละมั้ง  ไอ้โบ้มันตบท้ายคำพูดด้วยเสียงหัวเราะแล้วก็หันไปหยิบขนมมากิน



“ มึงก็ว่าไปนั้น แดกเหล้าไปอ่ะดิมึง ผื่นขึ้น ”


“ ไปกินไม่ชวนว่ะ ” 


“ กูกินที่ห้องต่างหาก หยิบของเพื่อนมากิน ” ผมพูดตอบไอ้โบ้แล้ว คว้าขนมมากินบ้าง



“ แม่งซ้อมลีดเอาซะหมดวันเลยสัส  ”  ไอ้ทอยที่นั่งตรงกันข้ามผมพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ มันก็คงจะเซ็งจริงๆนั้นแหละเล่นซ้อมตั้งแต่ ช่วงสิบโมงครึ่ง สิบเอ็ดโมง เลยเวลามาจนถึงเกือบห้าโมงเย็น



“ ทอย แล้ววันนี้ขึ้นสามทุ่มใช่ป่ะมึง จะซ้อมมั้ย ”


“ เออซ้อมหน่อยก็ดีว่ะ พวกมึงคืนนี้จะไปร้านป่ะว่ะ ” ไอ้ทอยตอบกลับว่าก่อนแสดงคงต้องซ้อมสักหน่อย และหันไปถามไอ้ที่เหลือว่าคืนนี้จะไปร้านมั้ย  พวกมันสองคนก็เคยไปร้านอยู่ประมาณสองถึงสามครั้งก็ประมาณว่าไปนั่งฟังเพลงที่พวกผมแสดงและก็อาศัยไปกินเหล้าและถ้าเจอคนที่น่าจะ “  เข้า ” กันได้ มันก็หิ้วกลับไปบ้างบางครั้ง 


“ ไปแน่นอน !  ” สองเสียงที่ประสานขึ้นมาพร้อมกันทำเอาผมกับไอ้ทอยหัวเราะร่วน แม่งจะไปฟังเพลงกินเหล้ารึว่าหิ้วหญิงกันแน่ว่ะเนี่ย




ตกกลางคืน ช่วงค่ำคืนของวันเสาร์เวลาสามทุ่มครึ่ง สายตาของผมยังคงจับจ้องอยู่ตรงโต๊ะข้างหน้า แม้ว่าไฟในร้านตอนนี้จะสลัวแค่ไหน แต่ไม่รูว่าทำไมรูปหน้าโครงหน้าของเขาถึงได้ชัดเจนในสายตาของผมขนาดนี้ ไม่คิดว่าเขาจะมาร้านนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะปกติพี่เขาและกลุ่มเพื่อนของเขานั้นมีร้านประจำของตนเองอยู่แล้ว ไม่นึกเหมือนกันว่าวันนึงที่ขึ้นแสดงแล้วจะมาเจอพี่เขาที่ร้านแบบนี้ 



แม้ว่าตอนนี้ ขณะนี้ผมกำลังร้องเพลงอยู่ก็เถอะแต่สายตา ยังไม่สามารถออกห่างจากร่างสูงได้ เหมือนเขาเองก็ไม่ได้สนใจคนร้องเพลงอย่างผม แต่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่ ผมไล่มองเพื่อนในโต๊ะของพี่เขาแล้วก็ปรากฏร่างที่ผมคุ้นเคยนั้นก็คือพี่ต้นใหญ่  คงไม่แปลกที่พี่ต้นเล็กจะไม่มาก็ขานั้นไม่ค่อยจะชอบกินเหล้าน่ะสินะ



จวบจนเวลาผ่านมาจนถึงสี่ทุ่มครึ่งแล้ว พวกพี่เขาก็ยังอยู่ที่โต๊ะเดิมอาจจะมีคนอื่นๆแวะเวียนมาบ้าง ทั้งผู้ชายและผู้หญิง  ทั้งๆที่ผมควรจะสนใจร้องเพลงของตนเองไป  แต่ไม่ว่ายังไงแม้จะละสายตาได้แล้ว แต่มันก็ยังคงไม่เชื่อฟังคำสั่งจากสมอง วนกลับไปมองเขาอีกครั้งอยู่ดี
สิ้นเสียงเพลงที่จบไป ผมกับทอยก็หยุดพักกัน แล้วชวนคนที่นั่งดื่มมาขอเพลงตามช่วงเวลาที่กำหนดในแต่ละคืน  ผมปล่อยหน้าที่นี้ให้กับไอ้ทอยมันแล้วแยกตัวลงมาหาน้ำดื่มกินข้างล่างแทน ก่อนจะหยิบขวดน้ำดื่มติดมือขึ้นไปให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเวทีด้วย



ไอ้ทอยส่งกล่องที่มีกระดาษหลายแผ่นมาให้ผมเลือกเพลง  และมันเองก็ชวนลูกค้ารอระหว่างผมเลือก สายตาของผมไล่มองกระดาษที่อยู่ในมือตอนนี้ ไม่เพลงรัก ก็เพลงเศร้าอกหัก บางเพลงก็เป็นเพลงสากล คืนนี้มีแต่เพลงที่ผมอยากร้องทั้งนั้น แต่อย่างว่ายังไงก็ต้องเลือกแค่เพียงเพลงเดียวเท่านั้น  และเพราะว่ากลัวว่าจะรอกันนานเลยตัดสินใจจะเลือกเพลงสากลเพลงหนึ่ง แต่สายตาดันไปสะดุดกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกขย้ำอย่างลวกๆ ผมตัดสินใจหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาคลี่ดูชื่อเพลง



ชื่อเพลงที่ปรากฏแก่สายตาทำเอาความคิดของผมชะงักอยู่เพียงเสี้ยวหนึ่ง “ ตกลงเราเป็นอะไรกัน ” คือชื่อเพลงที่ถูกเขียนลงในการะดาษ และผมเองคงจะไม่ติดใจอะไรถ้ากระดาษใบนี้ ไม่ได้มีลายมือต่อท้ายคำว่า พี่ต้นเอง




และก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้ผมส่งกระดาษแผ่นนี้ไปให้ไอ้ทอย  มันเองพอรับไปก็ก้มหน้าอ่านชื่อเพลง พอมันอ่านจบก็ได้แต่เงยหน้ามองผม  เพราะมันเองก็รู้ว่าผมเลี่ยงการร้องเพลงอกหักมาสองสามครั้งแล้ว และมันก็คงไม่นึกว่าอยู่ดีๆ ผมจะอยากมาร้องเอาตอนนี้ 


ผมพยักหน้าให้มันเบาๆ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับผู้ฟังที่กำลังรอผมร้องเพลง เสียงที่เปล่งออกมาบ่งบอกชื่อเพลงผ่านไมค์ ผมยิ้มเล็กๆตบท้าย แล้วเริ่มร้องเพลง . ..



      ถึงเนื้อเพลงนี้ จะบอกเป็นกลายๆว่า เราเป็นแฟนกันหรือเปล่า ความจริงนั้นรักกันไหม มันก็ยังคงดีกว่าสิ่งที่ผมเป็นตอนนี้ ถึงบทสรุปแล้วมันจะคือความไม่ชัดเจนก็เถอะ แต่ความจริงของผมก็คือ ความไม่ชัดเจน และ สิ่งที่มันโครตค้างคากับความรู้สึกของผมก็คือพฤติกรรมที่พี่เขาทำ




แอบข่มอารมณ์น้อยใจ ในส่วนลึก


รู้มั้ยว่าฉันรู้สึก เรื่องความสัมพันธ์


คลุมเครืออย่างไงไม่รู้ อาการที่ดูยิ่งคบกัน


แต่ไม่เห็นว่ามันจะเกินกว่าคนทั่วไป


เธอบอกว่าปลื้มใครต่อใคร ยังไง


เหมือนเธอไม่รู้รึว่า เจ็บนะ บางทีก็สงสัย




    พอใกล้ถึงท่อนฮุคของเพลง สายตาที่เคยมองแบบผ่านๆในช่วงแรกที่ร้องเพลงนั้น ก็วกกลับไปหาเจ้าของหัวใจของตนเอง ที่ตอนนี้เขานั้นก็กำลังมองผมอยู่เช่นกัน  มีคำถามมากมายที่อยากจะถามไถ่ออกไป ในเรื่องของเมื่อคืน และความรู้สึกของเขา แต่ก็ได้เก็บเอาไว้ เพราะความรู้สึกตอนนี้มันยากที่จะอธิบายจริงๆ




ว่าฉันเป็นแฟนของเธอรึเปล่า ความจริงเรารักกันไหม


เวลาใครถามฉันควรตอบเขาอย่างไร


วันใดที่ไม่เจอ เหมือนเธอขาดอะไรมั้ย


    นั้นดิพี่ .. . สองอาทิตย์เต็มที่ไม่ได้เจอผม ไม่ได้คุยกัน เหมือนพี่ขาดอะไรบ้างมั้ย หรือว่าพี่นั้นไม่รู้สึกอะไรเลยกันว่ะ
ต้องการแน่ใจ ตกลงเราเป็นอะไรกัน



ต้องการแน่ใจ ตกลงเราเป็นอะไรกัน




ความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ก็คงจะเป็นแบบนี้ ตกลงเราเป็นอะไรกันกันแน่  กังวลจริงๆวะ พี่แม่ง .. . ไม่เคยสงสัยบ้างเลยเหรอ 



ถึงบรรยากาศยามค่ำคืนภายในร้านจะสนุกแค่ไหน จะผ่อนคลายแค่ไหน แต่ผมก็ยังจมกับความรู้สึกเมื่อสักครู่หลังเพลงจบได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ผมลงจากเวทีแล้วเนื่องจากวันนี้ไม่ต้องเล่นจนดึกเพราะมีสองวง ผมเล่นถึงห้าทุ่มครึ่งเท่านั้น 



เสียงพูดคุยบวกกับเสียงเพลงจากวงพี่แต้มดังขึ้นอยู่ตลอด ทั้งๆที่วงพี่เขาก็เล่นแต่เพลงที่สนุกๆ และไม่ค่อยจะมีเพลงอกหักก็เถอะ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมยังรู้สึกติดกับความรู้สึกนั้นอยู่ ทั้งๆที่ร้องเพลงจบแล้วมันก็น่าจะจบตามไปด้วย  ผมยกแก้วที่มีน้ำสีสดใสอยู่ขึ้นมาดื่มติดๆกันหลายครั้ง จนไอ้กายแย่งแก้วไปจากผม


“ อยากผื่นขึ้นหนักกว่าเดิมเหรอครับมึง ”


“ มึงห่วงนักก็ไปซื้อยามาให้กูไงครับ ” ผมยักคิ้วพร้อมส่งยิ้มไปให้มันทีนึง ก่อนจะลอบมองสีหน้ามัน หน้าแดงจะตายห่าอยู่แล้ว กินไปเยอะกว่ากูอีกมั้งแหม


“ ใครบอกกูห่วงมึง ”


“ ห่วงกูก็บอกเถอะ ” ผมพูดแหย่มันไป ก่อนจะหันไปสนใจเรื่องที่ไอ้ทอยกับไอ้โบ้คุยกันอย่างออกรส



ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันหนักๆหัว เหมือนว่าจะกำลังมึนๆอยู่ ตอนนี้บุคคลภายในโต๊ะได้ล้มพับไปหนึ่งแล้วนั้นก็คือไอ้กาย กินเอาๆอย่างเดียว จนไม่ทันสังเกตว่ามันล้มฟุบไปตอนไหน ผมควักเอาโทรศัพท์เครื่องบางที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดดูเวลา จะตีหนึ่งแล้วเหรอว่ะเนี่ย ผมเลิกสนใจเวลาที่ปรากฏอยู่แล้วกดเข้าไปดูแจ้งเตือนในโปรแกรมแชทไลน์ 



มีของไอ้กิ๊กด้วยแหะ  ผมกดเข้าไปอ่านก็พบว่าคืนนี้มันจะไปทำงานที่สตูเหมือนเดิม สองนิ้วพิมพ์ตอบกลับไปหามันว่าสู้ๆ และกดส่งสติ๊กเกอร์ให้มันแค่นั้น และกำลังจะกดออกจากโปรแกรมแชท สายตาก็ไปเห็นแจ้งเตือนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นเวลาใกล้เคียงของคืนนี้ มันเป็นแชทสนทนาระหว่างผมกับพี่เอ็มที่ผมไม่ได้เข้าไปคุยเหมือนเดิมแล้ว



ข้อความที่พี่เขาส่งมานั้นปรากฏให้เห็นคือ



//  กลับหอกัน ดึกแล้ว // 



ที่จริง .. ผมคิดว่าพี่เขาน่าจะไปต่อที่อื่นไม่ก็กลับไปก่อนหน้านี้แล้วซะอีก  ผมนั่งมองข้อความที่พี่เขาส่งมาให้อยู่สักพัก ก่อนจะกดพิมพ์ตอบกลับไป อีกใจก็อยากไป .. . เพราะแค่เมื่อคืนคงไม่พอที่จะหายคิดถึง ทั้งๆที่ไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ แต่อีกใจกลับบอกว่าอย่าไปกับพี่เขา ยิ่งไปเจอ ไปพบ ไปคุย ยิ่งทำใจยากกับความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นตอนนี้


และก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ถึงพิมพ์ตอบกลับไปแบบนั้น และหน้าจอสนทนาตอนนี้ก็ขึ้นว่า อ่านแล้วเรียบร้อย


//  เจอกันหน้าร้านครับ  //




และนี่ก็เป็นอีกคืนที่ผมกับพี่จับมือกัน .. . และความอุ่นที่ได้สัมผัสจากมือพี่เขานั้นเรียกสติได้อย่างดีว่าคืนนี้เขากลับมาจับมือผมอีกครั้งและพาผมกลับหอ  เรียวนิ้วที่ดูเรียวยาวนั้นสอดประสานกับมือของผม เพียงแค่พี่เขากระชับมือเบาๆ ก็ทำให้ผมกลับไปตกหลุมเดิมอีกครา . .. ไม่มีคำพูดในตอนนี้ มีแค่ความเงียบและแสงไฟจากเสาไฟในยามกลางคืนเท่านั้น และสายลมที่พัดผ่านเบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงใจชื้นขึ้นขนาดนี้เหมือนกับว่ามีน้ำมาหล่อเลี้ยงมันแล้ว



ถ้าถึงหอพัก .. . ผมคงได้หลุดปากถามคำถามอะไรกับพี่เอ็มแน่ๆ 



อาการที่มันไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ เขาเรียกมันว่าอะไรนะ .





=============================================

สวัสดีวันสงกรานต์นะคะ  มาแบบมึนๆ 5555

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามเรื่องนี้กันนะ  ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ  :hao3:

เล่นน้ำกันให้สนุกนะค้าบบบบบบบบบบบบบบบ  :hao7:





ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
บ่นหน่อยนะ

หลบเลี่ยงจนอยู่ได้แล้ว
ยังจะตามมาหลอกหลอนทำไม?
ไปสู่ที่ชอบที่ชอบเถอะเอ็มเอ๊ย
น้องมันจะได้มีโอกาสเจอคนอื่นและเปิดใจกับรักใหม่ได้
ตัวเองไม่ชัดเจนแล้วจะลากน้องมันมาสนองอีโก้ตัวเองทำไม
ตัวเองมีคนที่คุยอยู่แล้วก็ไปคุยกับชะนีโน่นสิ
ปล่อยน้องมันเถอะ
ถ้าหากกลับมาตอแยกับน้องแล้วทำกับน้องแบบเดิมนะ
ก็เลวอย่างที่สุดเลย
ไม่รู้จะเก็บน้องไว้เผื่อเลือกหรือไง

ป.ล น้องเฟรนคะ  ขุ่นแม่ขอตีหน่อยเถอะ  ไม่เข็ดหรือไงคะ?  ถอยห่างออกมาแล้วยังจะ.......ไม่มีแรงต่อว่าจนจบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2015 18:03:57 โดย Freja »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แล้วแต่เฟรนเลยค่าา..:undecided:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
งงกับพี่เอ็ม ตอนแรกแบบไม่โอเคกับน้องนะ(ในทางเลิฟๆ)

แล้วทำไมตอนนี้ไหงมาเทคแคร์??

ไม่ใช่เทคน้องอยุ่ดีๆบอกให้น้องตัดใจนะ??

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :hao4:แล้วแต่เฟรนเลย

ออฟไลน์ domeloly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-4
  มาต่อ  แค่จับมือ 
 งง กับการกระทำของเอ็ม  และความโง่ของเฟรม
  ปัญญาอ่อนทั้งคู่

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9



                    ยังงัยดีล่ะเอ็ม กำลังรู้สึกสนใจเฟรนมากขึ้นอยู่รึเปล่า ที่หายไปสองอาทิตย์นี่ไปทบทวนความรู้สึกที่มีต่อเฟรนใช่มั้ย

       (มโนเอาเองล้วนๆ)  เอาล่ะนะเฟรน มีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ก็ทำไป เจ๊เป็นกำลังใจให้เอาชนะใจอีพี่เอ็มได้ซักทีเถอะ

                                                รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เฟรนไม่ต้องตัดใจหรอก เริ่มมาอย่างดีตายตอนจบทุกทีวนเวียนอยู่อย่างนี้น่าเบื่อ เอาที่สบายใจเลยอยผุ่ในวังวนเดิม ๆ เลย เจ็บและหน่วงให้มันตลอดเลยนะจะคอยสมน้ำหน้า ดีแต่ปากว่ะเฟรนเชิญเดินย่ำอย่างนั่นแหละให้คนอื่นมันมองว่าเป็นของตายแบบนั้นเลย ไม่ค้องห่างไม่ต้องตัดใจไม่ต้องคิดทำอะไรทุ่งนั่นอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด