[6]
“เฮ้ย...เดี๋ยวใจเย็นๆพี่เค” ผมเริ่มโวยวาย เพราะไอ้พี่เคมันล้วงเข้ามาในกระเป๋ากางเกงผม
“จะอยู่นิ่งๆหรือจะให้โยนลงไป” เสียงเข้มๆดังขึ้น ทำให้ผมต้องหยุดดิ้นทันที
พี่เคล้วงอยู่สักพักก็ทำให้ผมเข้าใจ ก็พี่เคล้วงหากุญแจรถนี่เอง เฮ้อ....คิดมากไปจริงๆ
“โอ๊ย....” ผมร้องออกมาเสียงดัง เพราะพี่เคจับผมยัดเข้าไปนั่งข้างคนขับ แล้วหัวของผมก็ฟาดกับขอบประตูอย่างจัง
“เดี๋ยวจะเจ็บหนักกว่านี้อีก” พี่เคไม่ได้ขอโทษผม แต่ขู่ผมซ้ำอีก
เจอพี่เคขู่แบบนี้ผมก็ได้แต่นั่งนิ่งหละครับ ขนาดแค่ทำสมุดหล่นใส่หัว ผมยังโดนฟาดไปตั้งหลายที นี่กัดพี่แกไปเต็มเขี้ยว ผมจะโดนอะไรวะเนี่ย มาคิดได้เอาเมื่อสายหรือเปล่าวะนินจา
ก่อนที่พี่เคจะออกรถก็มีโทรศัพท์เข้าเสียก่อน
“ว่ามา” อืม..เป็นการทักทายที่ดีงาม
“....................”
“ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่ไปแล้ว” เสียงไอ้พี่เคเหมือนจะรำคาญ
“........................................”
“มึงว่าใครไปด้วยนะ” พี่เคเปลี่ยนสีหน้าจากรำคาญเป็นแปลกใจ
“...........”
“ก็ไหนมันว่าจะไม่ไปไง”
“.....................”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกูตามไป” ถ้าผมมองไม่ผิด พี่เคกำลังยิ้มอยู่ แต่มันก็แค่พักเดียวเท่านั้น ก่อนจะหันมาทำหน้ายักษ์ใส่ผม
“เดี๋ยวกลับไปรอที่ห้องนาย ห้ามหนีเด็ดขาด เข้าใจไหม!” คำสั่งแกมขู่ ทำให้ผมต้องสะดุ้ง กุญแจรถของผมถูกส่งมาให้
“ไปดิ” มีดุส่งท้าย ก่อนที่ผมจะลงจากรถพี่เค ไม่ว่าคนที่โทรเข้ามาหาพี่เคจะเป็นใคร ตอนนี้เค้าเป็นผู้มีบุญคุณต่อผมยิ่งนัก...อย่างน้อยก็ช่วยยืดเวลาได้อีกหน่อย 5555 เฮ้อออออออ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไม่มาที่ร้านตอนที่เพื่อนชวน แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจที่จะไป เพราะคนที่ผมแอบชอบอยู่ไปที่ร้านนั้นด้วย ไม่รู้อะไรเปลี่ยนใจให้เจ้าตัวไป ไหนตอนแรกว่าไม่อยากมาไง ผมขับรถมาที่ร้านด้วยความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เมื่อมาถึงร้านก็ต้องหุบยิ้มทันที
“ทำไมมาช้าจังหละเค” นิวเดินมาเกาะแขนผม ทำให้ผมรำคาญ
“ติดธุระนิดหน่อย” ผมตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงมานั่งที่โต๊ะ ซึ่งตอนนี้บีมาถึงแล้ว แต่นั่นคนละฝากกับนิว
“เคจะทานอะไรไหม เดี๋ยวนิวสั่งให้” นิวเริ่มเข้ามาเกาะแกะผมอีก จริงๆเรื่องนี้จะว่าผมผิดก็ว่าได้ เพราะผมอยากที่จะประชดบี ทำให้บีหึงผมบ้าง เลยยอมคบกับนิว แต่เมื่อยิ่งอยู่ใกล้ผมก็ยิ่งรำคาญ
“ถ้าเราจะกิน เราสั่งเองได้” ผมหันไปทำหน้าดุใส่นิว แต่เมื่อมองมาอีกด้านทางฝั่งของบี ก็ทำให้ใจผมวูบไหว เพราะบีไม่ได้สนใจผมเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ทำหน้าบึ้งดื่มอย่างเดียว ที่ผมอุตส่าห์ทำให้ตัวเองวุ่นวาย มันไม่ทำให้บีหันมาสนใจผมบ้างเลยหรือนี่
ผมนั่งมองบีอยู่พักใหญ่ แต่สักพักบีก็ยกเก้าอี้มานั่งข้างๆผม
“บีครับ กลับบ้านนะครับ” มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังพวกผม ทำให้ผมต้องหันไปมอง และก็ได้รู้สาเหตุว่าทำไมบีถึงมานั่งกับผม....ก็เพราะคนที่เข้ามาหาบี คือคนที่บีชอบนั่นเอง
“เค......บีอยากกินเนื้อแดดเดียวอะ” ก่อนที่ผมจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น อยู่ๆบีก็อ้อนผมขึ้นมา ถึงจะรู้ว่ามันมาจากการประชด แต่ผมก็ยินดีที่จะทำให้
“พี่ขอโทษครับ” อีกเสียงหนึ่งยังคงเรียกความสนใจจากบี
“อ้าวแก้วเราไปไหนเนี่ย งั้นเรากินแก้วเดียวกับเคนะ” บีไม่ได้สนใจเสียงนั้น ยังคงทำเป็นอ้อนผมต่อ
“ก็ถ้าบีไม่รังเกียจ เราก็ไม่ว่าอะไร” ผมตอบกลับคำของบี เพราะผมนะยินดีเสียมากกว่าที่บีจะมากินแก้วเดียวกับผม
ระหว่างที่ผมกำลังยิ้มมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้บีถูกพี่ใหญ่อุ้มขึ้นมาแล้ว เสียงโวยวายของบีไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทผมเลย เพราะมัวแต่อึ้ง เหมือนภาพมันไหลย้อนกลับมากับเหตุการณ์ที่ผมทำไว้กับไอ้เด็กตะเกียบ จนผมลืมที่จะช่วยบี....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ทำไมต้องล็อกห้อง” ทันทีที่ผมเปิดประตู พี่เคก็โวยวายทันที ผมไม่คิดว่าพี่เคจะมาเร็วขนาดนี้ เพราะนี่มันยังไม่ถึงสี่ทุ่มเลย ทำไมเวลาแห่งความสุขของผมมันสั้นนักนะ แต่อีกอย่างนะ.....นี่ผมล็อกห้องตัวเองก็ผิดอีกแล้วหรอนี่
“ช่างเถอะ..” พี่เคพูดก่อนจะเบียดตัวเข้ามาในห้องผม ผมมองตามพี่เคก็พบว่าพี่เคถือถุงอะไรมาด้วย
“ตู้เย็นอยู่ไหน” พี่เคยืนมองซ้ายมองขวาสักพัก ก่อนจะเอ่ยปากถาม
“ไม่มีครับ” ผมตอบไปนิ่งๆ
“ทำไมไม่มีวะ แล้วอยู่ไปได้ยังไง” อืม....ล็อกห้อง กูผิด .........ไม่มีตู้เย็น กูผิด .........ไอ้บ้าอำนาจ
“ไปเอากระติกมา.......อย่าบอกว่าไม่มีอีกนะ” พี่เคหันมาบอกผมอย่างเนือยๆ ก่อนจะเร่งเสียงให้ดังขึ้นตอนท้าย
“มีครับ” ผมรีบเดินไปหยิบกระติกมาก่อนที่พี่เคจะโวยวายมากกว่านั้น
และเมื่อผมกลับมาก้พบว่าของที่พี่เคถือมาคืออะไร มันคือเบียร์กระป๋องสองโหล และผมก็ต้องวิ่งลงไปซื้อน้ำแข็งมาใส่กระติกให้พี่เค โทษฐานที่ไม่มีตู้เย็นในห้อง เฮ้ออออ
พี่เคลากผมออกมานั่งกินเบียร์ด้วยกันที่ระเบียงห้องผม โดยเมื่อได้น้ำแข็งได้กระติกรียบร้อย พี่เคก็จัดการเอาเบียร์ใส่กระติก ก่อนจะเทน้ำแข็งลงไป ปิดฝาแล้วยกออกมาที่ระเบียง
“ถามอะไรหน่อยสิ” ตอนนี้กระป๋องเปล่ามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งของผมและของพี่เค แต่ส่วนมากจะเป็นของพี่เคเสียมากกว่า
“ว่าไงครับ” ผมถามกลับไปเพื่อรอคำถามของพี่เค
“พี่หล่อไหม” พี่เคหันมาทำตาเยิ้ม ไม่รู้ว่าแกทำหรือเพราะฤทธิ์เบียร์ แถมยังใบหน้าแดงๆแบบนั้น ผมจะตอบอะไรได้หละครับ
“หล่อสิครับ” ถ้าไอ้หน้าอย่างพี่เคไม่เรียกว่าหล่อ แล้วหน้าอย่างผมจะเรียกว่าอะไรหละ
ไอ้ตี๋....
ไอ้แว่น.....
ไอ้เตี้ย....
ไอ้โข่ง....
ไอ้ต๊อง.......
ฯลฯ ---------- > ขอบคุณทุกเสียงตอบรับ T_T
“แล้วทำไมเค้าไม่สนใจพี่” หน้าพี่เคตอนนี้ดูเจ็บปวดมาก สงสัยจะไปแอบรักใครหละสิแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกพี่เค เค้าไม่สนใจเรา แต่เราสนใจเค้าก็พอแล้วครับ” ผมเอามือไปตบบ่าพี่เค ออกจะแรงสักนิด เพื่อเป็นการเอาคืน 5555 และสีหน้าพี่เคก็ฉายแววงงๆให้เห็น
“เราก็มีความสุขที่ได้มอง ได้สนใจ ได้ดูแลเค้าสิครับ ดีใจในความสุขเค้า แค่นี้เราก็จะมีความสุขด้วยแล้ว” ผมยังวางมือบนบ่าพี่เคเหมือนเดิม พี่เคมองหน้าผมนิ่ง
“ลามปามละ” พี่เคปัดมือผมออกจากบ่าแก ก่อนจะหันมาทำหน้าโหดใส่ ...... เอาแล้ว ไอ้นินจา เรื่องก่อนยังไม่ชำระ มึงสร้างเรื่องใหม่อีกแล้ว
“แต่ก็ขอบใจนะ” พี่เคเบือนหน้าไปอีกทาง ก่อนจะบอกขอบใจผมเบาๆ......เฮ้ย เป็นคนดีก็เป็นได้นี่หว่าพี่เค 55555
“ไปนอนบนเตียง” พอมึนๆกันได้ที่ ผมกับพี่เคก้จัดที่นอนเหมือนเช่นเดิม คือผมนอนพื้น พี่เคนอนเตียง T_T นี่มันห้องเค้านะ ........ แต่อยู่ๆพี่เคก็แย่งหมอนผมไป ก่อนจะบอกให้ผมไปนอนบนเตียง
ผมมัวแต่ยืนอึ้งกับคำพูด จนพี่เควางหมอนลงกับพื้นแล้วล้มตัวลงนอน นั่นหละผมถึงเข้าใจ
“แล้วพี่จะนอนพื้นได้หรือครับ” ผมถามอย่างเป็นห่วง
“จะนอนไม่นอน”เสียงพี่เคดุจนน่ากลัว ทำให้ผมต้องพุ่งตัวขึ้นเตียง
“ขอบใจที่คุยเป็นเพื่อน” พี่เคบอก ก่อนจะหันหลังให้ผม.......ดูๆไปก็เป็นคนดีเหมือนกันนะพี่เคเนี่ย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ไอ้เตี้ยตะเกียบ ลงมาข้างล่างหอสิ” ผมงัวเงียรับโทรศัพท์และก็ต้องแปลกใจกับชื่อคนโทรมา ก็มันเป็นชื่อพี่เคนี่ครับ และ.......ไอ้เตี้ยตะเกียบนี่มัน......ผมขอเอาคำพุดเมื่อคืนกลับมา ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้แย้พี่เค!!
“นับหนึ่งถึงสิบถ้าไม่ลงมามึงโดนหนักแน่” แค่คำนั้นทำเอาผมสะดุ้งเด้งจากที่นอนทันที เหลือบตาไปมองดูเวลา นี่มันเพิ่งจะ 9 โมง ทำไมไอ้พี่เคมันตื่นเร็วนักวะ ผมไม่ต้องเข้าห้องน้ำให้เสียเวลา รีบวิ่งลงไปด้านล่างหอทันที
พอไปถึงก็ไม่เห็นรถของพี่เค ผมยืนมองหาอยู่สักพักก็มีเสียงแตรรถดังขึ้น เมื่อผมหันไปมองก็เจอกับพี่เคที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น
“เร็วๆเลยมึง” พี่เคบอกเร่งผมให้เดินไปเร็วๆ
“ทำไมพี่เคเอารถกระบะมาหละครับ” ผมถามอย่างสงสัย เพราะปกติพี่เคจะใช้รถ civic นี่นา
“เอาของมาส่ง ยกขึ้นไปเอง” พี่เคบอกผมพร้อมกับส่งสายตาไปที่กระบะท้ายรถ เมื่อผมมองตามไป ก็พบกับตู้เย็นตั้งอยู่
“ให้ผม?” ผมถามอย่างสับสน
“เออสิ”
“เอามาทำไมหละครับ แพงด้วย”
“กูเอามาจากในห้องกูที่บ้าน อย่าเรื่องมาก ยกๆไป” ดูพี่เคจะลืมอะไรไปหรือเปล่า ผมอยู่ชั้น 3 พี่เคจะให้ผมยกตู้เย็นขึ้นไปบนห้องคนเดียวหรือเนี่ย และเหมือนพี่เคจะเข้าใจว่าผมรู้สึกยังไง เพราะตอนนี้พี่เคลงจากรถเดินขึ้นไปที่กระบะ ผมเห็นแบบนั้นก็ต้องยิ้มออกมา เพราะพี่เคก็ใจดีเหมือนกันนะนี่
“จัดการต่อเอง กูรีบ” ผมคิดผิดอีกแล้ววันนี้ ก็ไอ้พี่เคมันแค่ช่วยยกลงมาจากรถเท่านั้นนะสิครับ พอลงมาได้แล้ว พี่เคก็วางแล้วเดินไปขึ้นที่คนขับเช่นเดิม ก่อนจะออกรถไปไม่สนใจผม
โว้ยยยยย ไอ้บ้าอำนาจ คิดว่าคนอื่นจะแรงควายเหมือนตัวเองหรือไงวะ แล้วนี่จะทำไงดีวะนินจา มึงจะแบกขึ้นไปยังไงหละทีนี้.........
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอโทษครับที่ต่อสั้นไป
และขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ^_______________^