ตอนนี้ เบาๆ
ต้อนรับ วันแห่งความรัก
………………10…………………..
ผมขับรถออกมาจากบ้าน สิริพิทักษ์ ด้วยความเหนื่อยใจ เรื่องราวที่เป็นอยู่กำลังทำให้ผมเหนื่อยจนแทบไม่มีแรงหายใจ ผมที่เคยเข้มแข็งคนนั้นหายไปไหน ทำไมวันนี้ผมถึงไม่มีแรงจะต่อกรกับเขาได้เลย ผมเกลียด เกลียดหัวใจตัวเองที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน หรือเขาจะร้ายกาจยังไง ผมก็ไม่เคยเกลียดเขาได้จริงๆสักครั้ง
ผมขับรถออกมาจากซอยบ้านไอ้เล็กก่อนจะสังเกตเหตุใครบางคนที่คุ้นเคย
“พี่โอ๋ นี่หว่ามาทำอะไรแถวนี้นะ” ผมบ่นเบาๆก่อนจะแอบมองพี่ชายคนสนิทของเพื่อนที่ดูท่าทางรีบร้อนชอบกล แบบนี้มันน่าสงสัยนะครับ ผมตัดสินใจขัยรถตามรถพี่โอ๋ไปทันที ผมว่าบางทีพี่โอ๋อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมได้เจอไอ้เล็กมันก็ได้ ถึงจะไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม
พี่โอ๋ขับรถมาสักพักก่อนจะจอดที่หน้าร้านกาแฟ ร้านนึง ผมรีบลงไปดูทันที ก่อนที่จะเห็นว่าใครที่ผมตามหามันมาเดือนนึงคุยกับพี่โอ๋อยู่
“ไอ้เล็ก!!!” ผมสบถลั่น ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาไอ้เล็กในร้านทันที ไอ้บ้านี่ต้องจู่โจมอย่างเดียวเท่านั้น เดี๋ยวมันจะหนีอีกแล้วคราวนี้ผมก็คิดว่าถ้ามันหนีได้อีกคงไม่มีใครตามหามันเจอแน่
“ไอ้เหี้ยเล็ก….ไอ้เพื่อนเวร!!!!” ผมตะโกนลั่น
“ไอ้เล็ก ไอ้เพื่อนชั่ว ไอ้….โถ่เว้ย!!!” ผมสบถเสียงดัง บอกไม่ถูกว่าตอนนี้อยู่ในอารมณ์ไหน มันทั้งโกรธ ทั้งดีใจ ทั้งน้อยใจ ทั้งห่วง ปนกันไปหมด ถ้าเป็นไปได้อยากจะตะโกนถามมันจริงๆว่ามันหายหัวไปไหนมาไม่รู้หรือไงว่าผมเป็นห่วงมันมากแค่ไหน
“เมฆเบาๆ ลูกค้าเค้ากลัวหมดแล้ว ” ไอ้เล็กบอกก่อนจะลากผมเข้าหลังร้าน
“ไอ้เล็ก มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะว่ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า” ผมเอ่ยถาม บอกตรงๆว่าน้อยใจมันมากไปไหนทำอะไรทำไมมันไม่บอกผมมันยังเห็นผมคนนี้เป็นเพื่อนรักมันอยู่หรือเปล่า
“เมฆ คือกู กู..”
“มึงไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ มึงรู้ไหมว่ากูเป็นห่วงมึงมากแค่ไหน ไอ้เพื่อนเวร กูตามหามึงมาเดือนนึงเต็มๆ มึงรู้ไหมว่า กูเกือบจะคิดว่ามึงฆ่าตัวตายไปแล้วด้วยซ้ำ”
“กูขอโทษนะ กูขอโทษ” ไอ้เล็กบอกเสียงแผ่ว เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วมันโกรธไม่ลงจริงๆ
“เฮ้อ ช่างเหอะ ตอนนี้กูก็เจอมึงแล้วนินา แต่ต่อไปห้ามปิดกูอีกเข้าใจไหม” ผมบอกก่อนจะยกยิ้มให้มัน ยังไงซะผมกับมันก็มีกันอยู่แค่นี้ คงไม่กล้าโกรธมันนานหรอกครับ
“แล้วนี่มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ที่นี่”
“กูบังเอิญ เจอพี่โอ๋น่ะ แล้วก็เลยลองตามพี่โอ๋มา ไงกูฉลาดใช่ไหม” ผมยกยิ้มกว้าง หึหึ เพื่อนมึงฉลาดมึงไม่รู้หรือไง
“ไอ้เพื่อนบ้า ที่มึงสะกดรอยตามน่ะ ตำรวจนะ พี่โอ๋เค้ารู้ตัว ว่ามึงตามมาตั้งนานแล้วเว้ย ไอ้ปัญญาอ่อน” มันบอกผมพลางกลั้นขำ อ้าว นี่ผมว่าผมเนียนสุดๆแล้วนะ
“กูว่าเราออกไปกันดีกว่า เข้ามานานแล้วเดี๋ยวคนอื่นสงสัย”
“อ้อ แล้วมึงไม่ต้องพูดอะไรนะ ฟังอย่างเดียวเข้าใจไหม” มันสั่งก่อนจะลากผมออกมา
คนอื่นๆที่อยู่ในร้านจ้องผมกับมันเขม็ง อย่างกับพวกผมไปฆ่าใครตายมางั้นแหล่ะ
“มีอะไรจะถามผมไหมครับพี่ต้น” ไอ้เล็กเอ่ยถามคนที่ดูท่าจะเป็นเจ้าของร้าน
“อะ เอ่อ คือ ….”
“พี่เล็ก คนนี้เป็นแฟนพี่เหรอ” จู่ๆเด็กที่ดูท่าทางกวนๆก็โพลงถามขึ้นมา
“ไอ้ไม้ เสียมารยาท” พี่ที่ชื่อต้นดุเสียงเข้ม พลางปิดปากไอ้เด็กนั่นซะแน่น ส่วนคนที่โดนปิดปากก็ดิ้นตะแหน่วๆ แต่ก็ยังพยายาม
จะพูด เออ ไอ้ร้านนี้มันฮาดีนะ ผมชักชอบซะแล้วสิ
“อื้อ อุงอ่อย องอัยอ้อ อามอิ ” เจ้าตัวแสบโวยวายเสียงอู้อี้
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่หรอก คนนี้ไอ้เมฆเพื่อนสนิทที่บ้านนอกน่ะ พอดีพี่เข้ากรุงเทพไม่บอกมันมันเลยโกรธไง” ไอ้เล็กบอก
“แต่ดูท่าทาง ไม่น่าจะเป็นเด็กต่างจังหวัดนะ” พี่ต้นเอ่ยถาม
“อ้อ พี่ไอ้นี่มันลูกชายนายก อบต บ้านมันรวยน่ะเลยเข้ามาเรียนกรุงเทพ มันเลยมีราศีคนกรุงไง งั้นวันนี้ผมลาครึ่งวันนะพี่ ไปไอ้
เมฆ ไปครับพี่โอ๋”
ไอ้เล็กบอกเสร็จก็ลากผมออกมาจากร้านโดยที่ไม่ถามความเห็นผมสักคำ เฮ้ยยยยยย ไอ้เพื่อนเวร มึงถามกูก่อนไหมว่ากูอยากเป็นหรือเปล่าไอ้ลูกชายนายกอบต เนี่ย ทำไมคุณชายไฮโซอย่างผมต้องเป็นลูกชายนายก อบต ด้วยว่ะ
ไอ้เล็กพาผมกับพี่โอ๋มาที่ห้องพักของมัน บอกตรงๆว่าแคบมาก ถึงผมจะไม่ใช่คุณชายที่ทำอะไรไม่เป้นแต่ว่า ไอ้เล็กน่าจะหาห้องที่มันดีกว่านี้ได้นะ ทำไมมันยังทนอยู่ที่นี่อีกเนี่ย
“ฮ่าๆๆๆๆ เดี๋ยวนะเล็กพี่ขอขำแปป นึง คิดได้ไงอ่ะ ลูกชายนายก อบต” พี่โอ๋ขำก๊ากหลังจากมาถึง
“ก็มันจวนตัวน่ะพี่ คิดออกแค่นี้ล่ะ” ไอ้คนต้นคิดบอก
“โห มึง ถามกูบ้างยัง ว่ากูอยากเป็นไหม” ผมเหวลั่น
“เอาน่ามึง คิดว่าช่วยกูนะ” นั่น นั่นไงไอ้สายตาอ้อนๆแบบนี้มาทีไรผมก็แพ้มันทุกที ชิ
“แล้วนี่มึงอยู่ที่นี่จริงๆเหรอว่ะ” ผมถาม
“อืม ทำไมเหรอ ที่นี่ดีออก ใกล้ร้านนิดเดียวเอง”
“แต่ว่ามัน…”
“เหอะน่ามึง กูเป็นแค่เด็กบ้านนอกนะตอนนี้ คงไม่มีปัญญาไปอยู่คอนโดหรูๆหรอก” มันตัดบทดื้อๆ คงรู้แหล่ะว่าผมจะให้มันไปอยู่
ด้วย บอกแล้วคนนี้เขาศักดิ์ศรีเยอะ อีโก้สูงเสียดฟ้าใครหน้าไหนก็อย่าได้ยุ่งเลย
“งั้นกูอยู่นี่กับมึงนะ” ผมบอก เอาสิมันอยู่ได้ผมก็อยู่ได้เหมือนกัน อย่างน้อยจะเฝ้าไม่ให้มันหนีไปไหนได้อีก มันหนีมาที่นี่ได้เป็นเดือนๆ โดยที่ไม่ถูกหาเจอแปลว่าที่นี่ก็ต้องปลอดภัยระดับนึงล่ะน่า แล้วตอนนี้ผมก็อยากหาที่หลบภัยสักพัก ที่นี่ท่าจะเหมาะ
“เฮ้ย อย่าเพิ่งนอนดิว่ะ มาคุยกันก่อน ไอ้เมฆ!!!”
“ฮ่าๆๆ พวกแกนี่ฮาดีว่ะ ตัวเล็กอยู่กับเพื่อนดีๆนะพี่ต้องไปเข้าเวรก่อน มีอะไรโทรหาพี่นะ” พี่โอ๋บอกก่อนจะออกไป
“ครับพี่”
“ไอ้เมฆ กูรู้นะว่ามึงไม่ได้หลับ ลุกมาคุยกันดิ” ไอ้เล็กเรียก
“มีอะไรว่ะ ไอ้เล็กกูง่วงนะ”
“เมฆ” มันเรียกเสียงเย็น ผมว่ามันคงรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังไม่สบายใจ แต่ตอนนี้ผมบอกมันไม่ได้จริงๆ บอกมันไม่ได้เด็ดขาด ผมกลัวว่ามันจะเกลียดผมไปอีกคน ถ้าไม่มีไอ้เล็กชีวิตนี้ผมก็คงไม่เหลือใคร
“เล็ก กูขอโทษแต่ว่าตอนนี้กูยังไม่พร้อม ไม่พร้อมที่จะบอกอะไรทั้งนั้น ขอเวลากูหน่อยได้ไหม”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม มึงคือเพื่อนกูเสมอนะเมฆ กูจะไม่มีวันทิ้งมึงให้เผชิญปัญหาคนเดียวหรอกนะ อยู่กับกูสักพักก็ได้
สบายใจเมื่อไหร่ค่อยบอกนะ” มันยืนยันหนักแน่น
“อืม ถ้ากูพร้อมกูจะบอกมึงคนแรก กูสัญญา”
ขอเวลากูหน่อยนะเล็ก ถ้ากูพร้อม กูจะบอกมึงทุกอย่างทั้งเรื่องตอนนี้และเรื่องความเลวของกูเมื่อ 5 ปีก่อน ถึงตอนนั้นมึงคงต้องตัดสินใจแล้วล่ะว่ามึงจะยังอยู่ข้างกูหรือเปล่า
“เอาล่ะๆ เริ่มงานกันเลย” ผมเอ่ยก่อนจะไปช่วยไอ้เด็กที่ชื่อไม้เปิดร้าน หลังจากที่ผมคุยกับไอ้เล็กแล้ว ผมก็ตัดสินใจที่อยู่ที่นี่กับไอ้เล็กอีกคน ผมว่าร้านกาแฟเล็กๆร้านนี้มีบรรยากาศอบอุ่นที่ทำให้คนอยู่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าผมอยู่ที่นี่บางทีผมอาจจะคิดทางออกของปัญหาทั้งหมดออกก็ได้
“เหอะ ดีจัง มีพี่เมฆมาช่วยอีกคน ร้านเราคงลูกค้าตรึมอ่ะ” เจ้าไม้บอก
“ทำไมว่ะ ไอ้น้อง” ผมถาม
“โด่พี่ อยู่หลังเขาป่ะเนี่ย เคยดูไหม คอฟฟี่ ปริ๊นซ์ น่ะ หุหุ ตอนนี้ร้านเรามีชายหนุ่มสุดหล่อ เป็นพนักงานตั้งสี่คนนะ ถึงลุงเจ้าของร้านจะแก่ไปหน่อยแต่คงเรียก ป้าแถวนี้ได้บ้าง ถือว่าหยวนๆ ฮ่าๆๆ” ไอ้ไม้เพ้อถึงซี่รี่ย์เกาหลีสุดฮิต เมื่อหลายปีก่อน พลางยกยิ้มภูมิใจ
“ไอ้ไม้ แกว่าฉันแก่อีกคำเดียว ฉันไล่แกออกแน่” พี่ต้นเหวลั่น พลางยืนแยกเขี้ยวใส่ไอ้ไม้ไปด้วย
“เหอะ เอาเด้ ถ้าลุงไล่ผมออกอ่ะนะ ร้านลุงนั่นแหล่ะจะเสีย เพราะขาดตัวดึงดูดลูกค้าอย่างผม อย่าลืมดิสาวๆมาที่นี่เพราะเสน่ห์
ผมนะ” ไอ้ไม้ท่า ทำให้พี่ต้นแต่ฮึดฮัดอยู่เพราะทำอะไรมันไม่ได้
“ครับ พ่อโดม พ่อณเดช ไปเลยนะ ไปเปิดร้านโน่นไป๊” พี่ต้นเอ่ยไล่ ผมได้แต่ยกยิ้มขำกับไอ้เล็ก ที่สองคนนั้นเถียงกันเป็นเด็กๆ เฮ้อ หวังว่า “ร้านแกลอรี่” คงจะทำให้ผมคิดอะไรได้บ้างนะครับ
.....................................TBC..........................