คุณตำรวจยอดรัก
==============
3
เช้าวันถัดมา กานต์แทบไม่อยากจะเดินลงจากเตียงนอนในห้องเควินด้วยซ้ำ แต่เพราะความที่เป็นคนบ้างานสุด ๆ อยู่แล้ว ต่อให้ป่วยหนักปางตาย เขาก็ต้องลากสังขารไปทำงานให้ได้ ต่อจากนั้นใครจะลากเขาไปโรงพยาบาลต่อ อันนั้นก็เป็นเรื่องของคนอื่นเขาจะตัดสินใจ
“พักสักคืนไม่ดีกว่าหรือ ยังไงพรุ่งนี้ก็หยุดพักร้อนแล้ว คงไม่มีใครเขาว่าหรอก โทรไปลาสิ”
เควินบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นห่วงเป็นใย แต่ผู้หมวดหนุ่มกลับมองตาอีกฝ่ายเขม็งอย่างขุ่นเคือง เพราะต้นเหตุที่ทำให้เขาหมดสภาพแบบนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวคนพูดนั่นล่ะ
“ไม่เอา จะไปเคลียร์งานให้เสร็จ พรุ่งนี้จะได้เที่ยวอย่างสบายใจ”
พอได้ยินอย่างนั้นก็ทำให้คนฟังชะงักกึก แล้วเริ่มมีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นผิดจากเมื่อครู่
“เฮอะ! มันน่าจะทำให้หนักจนลุกไม่ขึ้นไปเลยชะมัด”
หนุ่มลูกครึ่งบ่นพึมพำเบา ๆ ซึ่งกานต์เองก็จับใจความไม่ค่อยได้ แต่ก็พอจะเดาออกว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ตกลงจะไปจริง ๆ อย่างนั้นรึ”
เควินถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพัก ทำให้คนที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย หันมามอง แล้วตอบสั้น ๆ
“ก็ใช่น่ะสิ วันหยุดฉันนี่”
เมื่อเห็นว่าคนถามนั้นเงียบไป พร้อมสีหน้าที่เคร่งขรึมลง กานต์ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปรยเสียงดังคล้ายกับจะบ่นกับตัวเอง
“เฮ้อ! แต่ลองมีแต่รอยเต็มตัวแบบนี้ คงไปใส่ชุดว่ายน้ำอวดหุ่นล่ำ ๆ ให้สาวเห็นไม่ได้แล้ว น่าเสียดายเป็นบ้า แต่ทำไงได้สงสัยคงต้องไปนอนตากลมทะเลอย่างเดียวเสียแล้วล่ะ!”
ท้ายประโยคผู้หมวดหนุ่มหันมายิ้มน้อย ๆ ให้กับเจ้าของห้อง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทางด้านเควินพอได้ยินและเห็นรอยยิ้มอีกฝ่าย เขาก็หัวเราะในลำคอ พลางพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา
“รอดตัวไปนะ ถ้ายังยืนยันจะไปเล่นน้ำอวดหุ่นให้ชาวบ้านเห็นอย่างเดิมล่ะก็ จะจับขังอยู่ในห้องนี้จนหมดพักร้อนเลย คอยดู”
แน่นอนว่าเควินคิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ และเขาเชื่อว่าหากกานต์รู้ เขาจะต้องโดนโกรธและโวยวายใส่แน่ แต่สำหรับเขาแล้วมีวิธีที่จะง้อให้อีกฝ่ายหายโกรธอยู่มากมาย แต่พอมาลองคิดดูว่ากานต์นั้นอยากไปพักผ่อน ประกอบกับอีกฝ่ายก็ทำงานหนักจริง ๆ จะให้เขาใจร้ายใจดำ พรากวันหยุดมาจากเจ้าตัว เขาก็ทำไม่ลง
แต่ถ้าอีกฝ่ายคิดจะไปว่ายน้ำโชว์หุ่นให้คนอื่นเห็นอย่างที่ตั้งใจครั้งแรกล่ะก็ มันก็เป็นอีกเรื่อง ต่อให้กานต์จะร้องไห้อ้อนวอนขอร้องเขา เขาก็จะจับอีกฝ่ายล่ามเอาไว้บนเตียงไม่ให้ไปไหนแน่
เควินคิดในใจพลางเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนที่เดินออกมาหยิบผ้าขนหนูชะงักกึก แล้วมองคนรักอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก
“คิดอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“คิดอยากทำต่อรอบเช้าไงล่ะ อาบเสร็จหรือยัง หรือต้องการผู้ช่วย?”
ร่างสูงแกล้งตอบ พร้อมกับทำเป็นเดินเข้าไปใกล้ จนกานต์ต้องรีบปิดประตูห้องหนี พร้อมกับโวยวายยกใหญ่
“ไปให้พ้นเลยไอ้คนบ้ากาม! เมื่อคืนก็ทำทั้งคืนไม่พออีกหรือไง!”
เสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ดังมาจากอีกฟากของประตู พร้อมกับคำพูดที่ทำให้คนฟังใจเต้น
“ทำกับนายกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ …”
“ไอ้บ้ากาม…”
กานต์ตอบเสียงแผ่ว แต่ใบหน้านั้นแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมคำพูดเร่งตามมา
“ให้เวลาอีกห้านาที ไม่อย่างนั้นจะเข้าไปช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้ข้างในนั้น”
“เออ! รู้แล้ว!”
ผู้หมวดหนุ่มตวาดลั่นด้วยความอาย พร้อมกับรีบทำตามอีกฝ่ายสั่ง เพราะว่าห้องน้ำในคอนโดของเควินนั้นไม่มีกลอนประตู และเจ้าของห้องก็หน้าด้านพอที่จะทำอย่างที่ปากว่าเอาไว้ได้อีกด้วย
และแล้วในที่สุดวันพักร้อนที่รอคอยของผู้หมวดหนุ่มก็มาถึง หลังจากที่เมื่อวานเจ้าตัวสะสางงานจนดึก และถูกก่อกวนด้วยข้อความทางมือถือที่บ่นบ้าง ขู่บ้าง เรื่องที่เขาไม่ยอมกลับไปนอนค้างคอนโดก่อนจะออกเดินทาง แต่พอกานต์ส่งข้อความกลับไปว่า ‘กำลังทำงาน อย่ามายุ่ง’ ข้อความต่าง ๆ ก็ไม่ถูกส่งมาจากเควินอีกเลย และพองานเสร็จ ผู้หมวดหนุ่มก็คิดโทรไปง้อ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมรับสายเขา โทรตื๊อหนัก ๆ เข้า เขาก็เลยหงุดหงิด และไม่ได้โทรติดต่อกลับไปอีกเลยจนกระทั่งวันเดินทางมาถึง
“งี่เง่า แค่นี้ก็ต้องงอน นายเป็นมาเฟียไม่ใช่หรือไงวะ ทำตัวให้มันหนักแน่นหน่อยสิ”
กานต์บ่นอุบกับตัวเองในขณะที่จ้องมือถือตรงหน้า เขาไม่โทรไป เควินก็ไม่ยอมโทรมา จ้องไปจ้องมาหนักเข้า ชายหนุ่มก็ตัดสินใจเก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วปิดตาลงนอนหลับตลอดระยะการเดินทางของเขา ชายหนุ่มเลือกเดินทางโดยรถทัวร์ไปยังจุดหมายปลายทางคือหัวหิน และเนื่องจากวันลาพักของเขาไม่ใช่อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว กานต์เลยคิดว่าจะไปหาที่พักเอาดาบหน้า โดยใช้ข้อมูลที่พักซึ่งเขาเลือกหามาในอินเทอร์เน็ตประกอบการตัดสินใจ
หัวหิน สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งตากอากาศขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในประเทศไทย และอยู่ไม่ไกลกรุงเทพมหานครมากนัก มีบ้านพักชายทะเล โรงแรม รีสอร์ตมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนตามอัธยาศัย และงบประมาณในกระเป๋า สำหรับกานต์นั้น เขาเลือกพักที่บ้านพักติดชายหาดแห่งหนึ่ง ดูสงบเงียบ และไม่พลุกพล่าน อย่างที่เขาต้องการ อีกทั้งยังมีร้านอาหารในที่พัก เหมาะสำหรับชายหนุ่มที่มาท่องเที่ยวคนเดียว ไร้คนดูแลอย่างเขา
กานต์โชคดีได้ที่พักติดหาด แค่ก้าวลงจากบ้านพักไม่กี่ก้าว ก็เป็นชายหาดแล้ว เขาลากเจ้าเตียงผ้าใบมานอนเล่นเหม่อดูทะเล อยู่สักครู่ และโดยไม่ทันรู้ตัว ก็มีคนมานั่งข้าง ๆ พร้อมกับชวนเขาคุย
“ไม่ลงเล่นทะเลหรือครับ”
กานต์ที่กำลังเคลิ้ม ๆ สะดุ้ง เหลือบมองไปยังคนพูดด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นสีหน้าและรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร ก็ทำให้เขายิ้มตอบกลับไป
“ไม่หรอกครับ…ง่า พอดี เพิ่งหายไข้ เลยไม่อยากเล่นน้ำ เดี๋ยวไข้กลับ”
ผู้หมวดหนุ่มหาข้ออ้างแก้ตัว เพราะว่ารอยจ้ำบนร่างของเขามันยังไม่หายดี ขืนอวดให้ใครเห็น มีหวังโดนนินทาไม่ก็ถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ เป็นแน่
ชายหนุ่มที่ชวนกานต์คุย เป็นชายหนุ่มที่มีผมยาวดำถึงกลางหลัง แต่ถูกมัดเอาไว้อย่างเรียบร้อยเป็นระเบียบ หน้าตาของอีกฝ่ายเกลี้ยงเกลา ดูดี ติดออกจะหน้าค่อนข้างไปทางสวยด้วยซ้ำ มองดูแล้วคล้ายกับว่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าเชื้อไทยล้วน อายุก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียว หรือไม่ก็อาจจะมากน้อยกว่ากันกับกานต์แค่ไม่กี่ปีก็ได้
“ผมชื่อโทนี่ครับ โทนี่ หว่อง คุณล่ะครับชื่ออะไร”
อีกฝ่ายแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ แล้วถามชื่อเขาต่อ ทำเอากานต์ยิ้มแห้ง ๆ แต่เพราะความสุภาพและเป็นมิตรของอีกฝ่าย จึงทำให้เขาแนะนำตัวเองไปบ้าง
“ผมกานต์ครับ กานต์ รักเลิศ เรียกกานต์ก็ได้ ผมไม่มีชื่อเล่น”
“หรือครับ ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตเรียกคุณกานต์นะครับ”
“ตามสบายครับ”
กานต์บอก และจากนั้นเขากับโทนี่ก็คุยกันต่อ ซึ่งพอได้คุยกับอีกฝ่ายสักพัก กานต์ก็เริ่มถูกชะตากับชายหนุ่ม ด้วยอีกฝ่ายนั้นมีอัธยาศัยดี และยิ้มแย้มสุภาพอ่อนโยนต่อคู่สนทนาเสมอ
“ผมเองก็มาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันครับ คนโสดก็แบบนี้ล่ะครับ ไปไหนมาไหน ก็ต้องไปคนเดียว ไม่มีคนเหลียวแล”
“เอ๋? อย่างคุณโทนี่น่ะหรือครับโสด ผู้หญิงรอบข้างเอาตาไว้ไหนกันหมดครับนั่น ถึงปล่อยให้คุณรอดมาได้”
กานต์ถามด้วยความสงสัย เพราะอีกฝ่ายหน้าตาดีมาก ๆ ชนิดว่าเดินผ่านผู้หญิง ๆ ก็ต้องเหลียวหลัง เผลอ ๆ เดินผ่านผู้ชาย ๆ ก็ยังเหลียวหลังมองตามตาค้างด้วยซ้ำไป
“จริง ๆ ครับ แต่อย่างผมไม่ใช่สเป็คสาวหรอกหรับ ถ้าแมน ๆ อย่างคุณกานต์ ก็ว่าไปอย่าง คุณมีแฟนแล้วหรือยังล่ะครับ”
กานต์ชะงัก หน้าแดงนิดหน่อย กำลังอ้ำอึ้งว่าจะตอบดีหรือไม่ แต่ท่าทางลังเลเขินอายของอีกฝ่าย ก็ทำให้คนถามหัวเราะเบา ๆ แล้วเปรยขึ้นอย่างรู้ทัน
“น่าอิจฉาจังนะครับ ใคร ๆ เขาก็มีคู่กันหมด แล้วอย่างคุณกานต์มาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ แฟนปล่อยให้มาได้ยังไงครับ เขาไม่หึงแย่หรือครับ”
“เอ่อ หึงอะไรกันครับ ผมไม่ได้เป็นคนเสน่ห์แรงอะไรขนาดนั้นสักหน่อย”
กานต์รีบปฏิเสธยกใหญ่ แต่โทนี่นั้นอมยิ้มน้อย ๆ แล้วเปรยขึ้นเบา ๆ
“หึ ๆ คนที่มีเสน่ห์จริง ๆ เขาก็มักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีเสน่ห์ขนาดไหนหรอกครับ ถึงต่อให้มีคนมาทัก มาเสนอตัวอยู่ใกล้ ๆ ก็เถอะ”
ผู้หมวดหนุ่มหันมาทำหน้างง ๆ ซึ่งก็ทำให้หนุ่มลูกครึ่งยิ้มน้อย ๆ ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้ผ้าใบ แล้วจึงหันมาบอกชายหนุ่มก่อนจาก
“ขอตัวก่อนนะครับ ไว้แล้วค่อยพบกันใหม่”
จากนั้นโทนี่ ก็เดินจากไปพลางโบกมือน้อย ๆ โดยไม่หันกลับมามอง ซึ่งกานต์ก็นึกแปลกใจในพฤติกรรมของอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่รู้สึกรังเกียจอะไรชายหนุ่มเท่าใดนัก อีกอย่างบรรยากาศรอบตัวของโทนี่เองนั้น ก็ดูคล้ายกับเควินอยู่ไม่น้อย เพียงแต่เจ้าคนรักหื่นกามของเขา เวลาคุยด้วยไม่ชวนให้สบายใจแบบนี้ แต่กลับชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นราวกับกระต่ายที่กำลังโดนสิงโตไล่ต้อน เพราะพฤติกรรมที่แสนจะชอบเอาเปรียบเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองประจำนั่นล่ะ
“เจ้าคนบ้ากามนั่น ป่านนี้คงทำงานยุ่งอยู่สินะ เฮ้อ! รู้งี้รอให้ว่างพร้อมกันแล้วค่อยขอลาพักก็ดีหรอก”
กานต์พึมพำกับตัวเองอย่างเหงา ๆ เขาก็ดีใจอยู่หรอกที่ได้มาพัก แต่หากมีเควินมาด้วย คงจะดีกว่านี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
....(ยังมีอีก ไว้มาต่ออีกครึ่งบททีหลังนะคะ)....