---- Am I Worth Your Bet? ----
“Salud!”
ฆาเบียร์ยกขวดเบียร์โคโรน่าของเขาขึ้นชนกับของเจ พวกเขานั่งอยู่ที่บาร์ Rendez-Vous ของโรงแรมโซฟิเทลซึ่งอยู่ข้างล็อบบี้ บรรยากาศในบาร์นี้ไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก บนคลับเลาจ์ยังดีกว่า แต่ว่าพวกเขามาใช้สิทธิ์ welcome drink ของทางโรงแรมซึ่งได้เบียร์ ไวน์ หรือซอฟท์ดริงค์คนละแก้ว พวกเขาทั้งคู่เลือกเบียร์ Corona ของเม็กซิโกซึ่งดูจะเป็นตัวเลือกที่โอเคที่สุดแล้ว
"ฉันคงดื่มซักครึ่งขวด ที่เหลือเจเอาไหม?"
ฆาเบียร์ถาม เขาไม่ได้นิยมเบียร์นัก เจพยักหน้ารับ เพิ่มเบียร์ไปอีกครึ่งขวดไม่ได้ทำให้เขาสะเทือนแต่อย่างไร
"กลัวมันลงไปสะสมในพุงล่ะสิ ฆาบี้"
คนตัวโตหน้าแดงน้อยๆ
"ฉันเลขสี่แล้วนะเจ จะเป็นชายวัยกลางคนแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องกินเพิ่มขึ้นอีก"
"เมียครับ แค่นี้คุณก็กินน้อยจะแย่อยู่แล้วนะ"
"อย่าเอามาตรฐานเจมาวัดสิ ฉันไม่ได้กินน้อยหรอก เจกินเยอะไปแล้วต่างหาก"
ฆาเบียร์ขมวดคิ้วและบ่นขึ้นเบาๆ เขาล่ะเป็นห่วงหลอดเลือดและตับไตของเจนยุทธจริงๆ เจหัวเราะแหะๆ แล้วบอกว่าเขาเช็คสุขภาพเป็นประจำ และจะคุมอาหารเมื่อตัวเลขมันขึ้นมาเกินเกณฑ์
"ตอนคุณไม่อยู่ผมก็ออกกำลังกายเป็นประจำนะ วิ่ง เวท ไปว่ายน้ำบ้าง อะไรบ้าง แค่เว้นไปตอนคุณอยู่"
"อ้าว ทำไมล่ะ ทำไมตอนฉันอยู่นายถึงงดออกกำลังกาย"
เจยิ้มกริ่มและกระดิกนิ้วเรียกให้คนตัวโตเอนตัวเข้ามาใกล้ๆ
"ก็แค่ออกกำลังกายกับคุณ ผมก็หมดแรงแล้วไงล่ะ"
เจกระซิบเบาๆ ข้างหูเมียตัวโตของเขาที่หน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งหน้าแดงขึ้นไปใหญ่เมื่อเจ้าตัวเล็กไล้มือไปตามต้นขาของเขา นิ้วเรียวๆ ของเจไต่เดียะไปใกล้จุดอันตราย เขารีบคว้าข้อมือของคนตัวเล็กไว้ทันที
"อย่าพึ่งซนสิ เจ..."
ฆาเบียร์พูดเสียงต่ำๆ เขากระซิบบอกเจว่าเขาคิดว่าเขาเห็นคนรู้จักนั่งดื่มอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของห้อง เจสะดุ้งรีบยกมือออกและนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวทันที เขาลืมไปว่ามาเก๊านั้นไม่ได้ไกลจากฮ่องกงเลยและพ่อเจ้าประคุณคนนี้ก็กว้างขวางนัก จึงไม่แปลกที่จะเจอคนรู้จักสักคนสองคน ฆาเบียร์ขอตัวไปทักทายคนๆ นั้น เจนั่งดื่มต่อเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งจนเบียร์หมดขวด ฆาเบียร์ก็ยังไม่กลับมาที่โต๊ะ เขาหันไปมองหาคนรักแล้วก็เจอเมียตัวโตของเขานั่งคุยกับชายชาวตะวันตกวัยเดียวกันท่าทางภูมิฐาน
เจอดร้อนในอกไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมที่คนๆ นั้นแสดงออกมา ร่างที่นั่งตรงข้ามกับฆาบี้นั้นเอนเข้าหาคนรักของเขาอย่างเห็นได้ชัด มือของคนๆ นั้นบางครั้งก็สัมผัสแตะอยู่ที่เข่าของคนตัวโตเมื่อบทสนทนาเริ่มออกรสออกชาติ จากสายตาของคนนอกอย่างเขา มันค่อนข้างชัดเจนว่าคนๆ นี้คงเคยเป็นมากกว่าคนรู้จักของฆาเบียร์
ฆาเบียร์ขยับขาหลบมือที่แตะลงมาอีกครั้งอย่างอึดอัดเล็กน้อย การสนทนาของพวกเขาที่วกเข้าเรื่องงานทำท่าจะยาวนานกว่าที่คิด เขาแอบชำเลืองมองคนตัวเล็กแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นเจนยุทธเหลือบมองมาที่พวกเขาเช่นกัน ดวงตากลมโตของเจที่มีแววไหวหวั่นน้อยๆ ทำให้ฆาเบียร์ใจหาย หากเจเลือกที่จะนิ่งเฉยและไม่เข้ามายุ่มย่าม
'เดี๋ยวผมขึ้นไปรอที่ห้องนะ คุณมีคีย์การ์ดแล้วใช่ไหม?'
ฆาเบียร์เหลือบอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา เขาชำเลืองมองและเห็นคนตัวเล็กกำลังเก็บของและเตรียมจะลุกออกไป ฆาเบียร์จึงขอตัวกับคู่สนทนาและเดินเข้าไปหาเจนยุทธ
"เจ มากับฉันก่อนนะ"
โดยไม่รอฟังคำตอบ เขาลากแขนคนรักเดินลิ่วกลับไปหาคนที่เขานั่งคุยด้วย
"คุณเพเทรลลี่ครับ ผมขอแนะนำให้รู้จักคนรักของผม เจ เจนยุทธครับ"
ชายวัยเดียวกับฆาเบียร์คนนั้นที่ขนาดผู้ชายอย่างเจยังคิดในใจว่าหล่อยิ่งกว่าดารามีสีหน้างุนงงเล็กน้อย จากนั้นก็มีรอยยิ้มกว้างจะผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลานั้น เขายื่นมือไปจับกระชับและเขย่ามือของเจที่ยื่นมาอย่างแรง
"เหรอ แฟนนายจริงๆ เหรอ มาร์ติเนซ นี่ฉันนึกว่านายจะลอยชายไปมาจนแก่เสียอีก..."
ฆาเบียร์หัวเราะเบาๆ
"นั่นคุณพูดถึงตัวเองแล้วครับ คุณเพเทรลลี่..."
เขาหันไปหาเจนยุทธ
"เจจ๊ะ นี่คุณโดเมนิโก้ เพเทรลลี่ บริษัทของคุณเพเทรลลี่เป็นพาร์ทเนอร์รายใหญ่รายนึงของบริษัทเรา พ่อของคุณเพเทรลลี่เป็นเจ้าของเครือโรงแรมใหญ่ในอิตาลีและอีกหลายประเทศในยุโรป คุณเพเทรลลี่ยังเป็น influencer ที่ทำงานร่วมกับเว็บของเราด้วย..."
Influencer ที่ฆาเบียร์พูดถึงคือคนที่มีอิทธิพลต่อผู้ติดตามในการบริโภคสินค้าต่างๆ มักเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่งจนทำให้คนเชื่อถือได้ ฆาเบียร์บอกเจว่าคุณเพเทรลลี่คนนี้เป็นทายาทนักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จและมีหน้าตารูปลักษณ์เป็นของแถม อินสตาแกรมของหนุ่มอิตาเลียนรูปงามคนนี้มีคนติดตามไม่น้อยกว่าของเขาเลยด้วยซ้ำ เจกล่าวคำทักทายอีกครั้ง ทั้งสามคนนั่งสนทนากันอีกครู่หนึ่งก่อนที่เจจะขอตัวไปก่อน
"ผมขึ้นไปที่ห้องก่อนนะ ฆาบี้ คุณคุยงานต่อเถอะ ไม่ต้องรีบนะ"
เขาจุ๊บเบาๆ ที่แก้มของคนรักก่อนที่จะหันไปจับมือลากับหนุ่มรูปงามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม คนตัวโตยิ้มน้อยๆ เจคงดูออกจริงๆ แม้เจ้าตัวไม่ได้แสดงทีท่าหึงหวงอะไรออกมาแต่ก็ยังแอบสร้างแลนด์มาร์คเล็กๆ ไว้ก่อนไป
เจนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์อยู่ในอ่างอาบน้ำ เขาเปิดม่านที่ผนังกระจกใสไว้เพื่อให้มันดูโปร่งโล่ง เขาใส่เกลืออาบน้ำหอมๆ ที่พกมาจากบ้านลงไปในอ่างด้วย เจระบายลมหายใจออกปากอย่างมีความสุข น้ำร้อนที่โอบรอบกายเขาอยู่นี้ช่างทำให้เขารู้สึกสบายดีเหลือเกิน โรงแรมโซฟิเทลนี้ยังรู้ใจคนชอบแช่น้ำด้วยการจัดเตรียมหมอนน้อยๆ ที่เปียกน้ำได้สำหรับไว้หนุนคอให้ด้วย เขาเปิดเพลงจากไอแพดและซิงค์มันกับเจ้าลำโพงน้อยที่เขามักพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วย เสียงเปียโนอันเพราะพริ้งและความสบายตัวบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์น้อยๆ ทำให้เจเคลิ้มหลับไปอย่างรวดเร็ว
"เจๆ ตื่นสิ! เจ!"
เจนยุทธสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือของคนตัวโตที่ตบเบาๆ เข้าที่หน้า เขาลืมตาขึ้นก็เห็นฆาเบียร์ที่ลงมานั่งคร่อมเขาทั้งตัวในอ่าง เจกระพริบตาปริบๆ
"คุณทำอะไรของคุณน่ะ ฆาบี้ ทำไมลงมาทั้งเสื้อผ้าแบบนี้ล่ะ...โอ๊ย!"
เจร้องลั่นเมื่อคนตัวโตดึงเขาเข้าไปกอดไว้แน่นจนเจ็บ คนตัวโตตัวสั่นจนเจรู้สึกได้
"ฆาเบียร์ คุณเป็นอะไร"
"เจ วันหลังนายห้ามนอนแช่น้ำคนเดียวอีกนะ!"
คนตัวโตดันร่างเขาออกแล้วเอ็ดลั่น เขากลับเข้าห้องมาก็ต้องแทบช็อคเมื่อเห็นตัวเจแช่อยู่ในน้ำโดยที่หน้ามุดลงไปอยู่ใต้น้ำกว่าครึ่งหน้าแล้ว เจนยุทธที่หลับไม่รู้เรื่องเองก็ตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเกือบไปสวรรค์โดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว อ่างที่ห้องของเขาที่เชียงใหม่มันสั้นและตื้นกว่านี้จึงไม่ค่อยมีปัญหาว่านอนแล้วตัวเลื่อนลง หากอ่างที่นี่ยาวและลึกกว่า เมื่อเข้าเข้าสู่ภวังค์แล้ว ตัวของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนไหลลงจนหน้าอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ เจกอดตอบคนรักที่ยังตัวสั่นน้อยๆ เพราะความตระหนก เขาลูบหลังฆาเบียร์เบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียดในใจของคนตัวโต
"ไม่เป็นไรแล้วนะครับ คนดี ผมสัญญา ผมจะไม่แช่น้ำอีกแล้วถ้าคุณไม่อยู่ในห้องด้วย โอเคไหม?"
ฆาเบียร์พยักหน้า เขาเองก็เคยเผลอหลับไปแบบนี้บ่อยๆ เวลาแช่น้ำ แต่ด้วยความที่ตัวเขายาวกว่าจึงไม่ค่อยมีปัญหานี้ เขากอดรัดร่างเพรียวไว้ในอกอีกครั้ง เจตบหลังคนตัวโตเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ
"นี่ คุณ ไปถอดเสื้อถอดผ้ามาตากซะเถอะ เปียกหมดแล้ว แล้วนี่เอากระเป๋าตังค์ มือถืออะไรออกหรือยังน่ะ?"
เจถามอย่างเป็นห่วง ฆาเบียร์พยักหน้าว่าเขาโยนกระเป๋าตังค์ไว้บนโต๊ะทีวีแล้วตั้งแต่ตอนเข้าห้องมา จากนั้นเขาถึงหันมาเห็นเจผ่านทางผนังกระจกใส
"ดีนะที่เจเปิดม่านไว้ ไม่งั้นฉันคงเห็นไม่ทันกาล เห้ย!"
ฆาเบียร์อุทานออกมาดังลั่นเมื่อควานเจอโทรศัพท์มือถือของเขาในกระเป๋ากางเกงที่เปียกโชก เขาสบถลั่นเป็นภาษาสเปนแล้วรีบเอาผ้าขนหนูมาห่อเช็ดภายนอกมันจนแห้ง เจที่ขึ้นจากน้ำตามมาชะโงกหน้ามาดูอย่างเป็นห่วง เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าจอมันยังแสดงผลเหมือนปกติ คนตัวโตเพิ่งเปลี่ยนมือถือใหม่เป็นรุ่นเดียวกับเขาซึ่งกันน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที ฆาเบียร์ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่ามันยังใช้งานได้เหมือนเดิม
"ฆาบี้ครับ...ขอบคุณนะ"
เจสวมกอดคนรักจากด้านหลัง เขาซบหน้าลงบนเสื้อที่เปียกชื้นของคนรัก คนตัวโตหันกลับมา เขาเชยคางคนรักขึ้นและจุมพิตแผ่วๆ ที่ริมฝีปากคู่งาม เจนยุทธจูบตอบ จูบของพวกเขาทั้งคู่เริ่มร้อนแรงขึ้น ฆาเบียร์ถอดเสื้อฮู้ดแขนกุดของเขาแล้วโยนทิ้งไว้บนพื้น เจช่วยคนรักถอดเสื้อกล้ามออก เขาจูบไล่ไปตามแผงอกกว้าง ฆาเบียร์ซี้ดปากออกมาเมื่อนิ้วเรียวของเจสัมผัสกับยอดอกสีน้ำตาลอ่อนของเขา เจเขี่ยคลึงมันอย่างชำนาญจนแข็งชูชันเป็นไต คนตัวโตสลัดกางเกงจ็อกเกอร์ออก เผยให้เห็นส่วนสงวนที่อัดแน่นอยู่ในกางเกงชั้นใน เจเอื้อมมือไปเขี่ยไล้ส่วนหัวที่เขาดันให้พ้นขอบกางเกงในขึ้นมา
"เจ...อย่าแกล้งกันสิ"
คนตัวโตครางออกมาเบาๆ เมื่อเจใช้ปลายนิ้วสะกิดไล้ไปที่รูตรงปลายยอดแถมยังใช้นิ้วโป้งเขี่ยวนอยู่ตรงใต้รอยหยัก ฆาเบียร์สูดปาก เจเน้นทั้งสองจุดนี้ทำให้สติเขาแทบจะหลุดลอย ฟันขาวๆ ที่กัดริมฝีปากแดงระเรื่อของเจก็ทำให้เขาแทบคลั่งไปเช่นกัน เจจูบหนักๆ ที่ปากของคนรักที่ทำท่าจะเข่าอ่อนยวบเมื่อถูกเขาสัมผัสเข้าที่จุดอ่อนไหว ฆาเบียร์ดูดดึงริมฝีปากของคนตัวเล็กของเขาอย่างกระหาย เจอาจไม่ใช่คู่นอนที่จูบเก่งที่สุดของเขา แต่สัมผัสจากริมฝีปากของคนตัวเล็กทำให้เขารู้สึกสบายใจและต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆ
"ฆาเบียร์ครับ..."
"อะไรเหรอ เจ?"
"ลงอ่างกันอีกรอบไหม?"
ฆาเบียร์ขมวดคิ้ว เมื่อกี้เขาดึงจุกปล่อยน้ำออกหมดแล้ว ถ้าลงอ่างตอนนี้กว่าจะเปิดน้ำเต็มก็คงอีกหลายนาที
"ไม่ต้องมีน้ำก็ลงอ่างได้นะ ฆาเบียร์"
เจยิ้มอายๆ ให้คนรักตัวโตของเขา เขารุนหลังให้ฆาเบียร์ลงนั่งเอนกึ่งนอนในอ่างอาบน้ำโดยให้หนุนหมอนอาบน้ำนิ่มๆ นั้นไว้ ตัวเขาเองนั่งคร่อมอยู่ข้างบนและเปิดน้ำอุ่นลงมาในอ่างจำนวนหนึ่งและวักน้ำรดตัวคนรักให้เปียกชื้น เขาเทเจลอาบน้ำลงบนใยขัดตัวที่ทางโรงแรมมีให้ขยี้ให้เกิดฟอง จากนั้นใช้มันค่อยๆ ขัดตัวให้คนตัวโตของเขา ฆาเบียร์นอนยิ้มกริ่มปล่อยให้คนรักถูสบู่ให้เขา เจไม่เพียงแค่ขัดตัว เขายังจูบไล้ไปตามเนื้อตัวของคนรักก่อนที่จะขัดถูในบริเวณนั้นๆ ฆาเบียร์ครางแผ่วๆ เมื่อเจประทับจูบร้อนๆ เลาะไล้ไปตามต้นขาด้านในของเขา เจไล้ใยขัดตัวไปตามต้นขาและเลี้ยวเลาะไปยังบั้นท้ายแน่นหนั่น ฆาเบียร์แยกขาออกน้อยๆ อย่างลืมตัว เขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเจฟอกฟองสบู่ลื่นๆ ไปที่รอยแยกระหว่างก้อนเนื้อแน่นทั้งสอง
"อูย เจ นั่นแหละ..."
ฆาเบียร์ครางออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อนิ้วเรียวของเจนยุทธชำแรกเข้าสู่ช่องทางแคบ เขาชินกับการถูกเจล่วงล้ำแล้ว ยิ่งมีริมฝีปากร้อนๆ ของเจคอยปรนนิบัติเขาพร้อมๆ กันเหมือนอย่างที่กำลังทำตอนนี้ เขาก็ไม่ขัด ฆาเบียร์ขยุ้มกลุ่มผมดำขลับนั้นและเสยสะโพกน้อยๆ รับความเสียวซ่าน เจกระแทกนิ้วย้ำๆ ไปยังจุดที่เขารู้ว่าสร้างความหฤหรรษ์ให้คนรัก ฆาเบียร์ต้องใช้มืออุดปากตัวเองเมื่ออารมณ์ของเขาพุ่งขึ้นสูงสุด เจดูดกลืนน้ำสีขาวขุ่นที่ฉีดเข้ามาในปากเขาทุกหยด
"ไม่ทำต่อเหรอ เจ?"
ฆาเบียร์ถาม เจส่ายหัว เขาทำฟองสบู่เพิ่มและฟอกฟองลงบนตัวของคนรักจากนั้นใช้ร่างกายตัวเองถูไล้กับตัวของฆาบี้ คนตัวโตขบกรามเมื่อรู้สึกถึงตุ่มไตบนอกของเจที่รูดไล้ไปกับลำตัวเขา จากความชูชันของมันเขารู้ได้ว่าเจกำลังมีอารมณ์มากๆ ฆาเบียร์ใช้มือดีดดุนมัน เจสะดุ้งน้อยๆ ฆาเบียร์ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงครางแผ่วๆ จากปากคนรัก
เจนยุทธเปลี่ยนมาขึ้นนั่งคร่อมแก่นกายของคนรักที่เริ่มชูคอขึ้นน้อยๆ อีกครั้ง เขาจับมันแนบไปกับร่องแยกที่บั้นท้ายและร่อนสะโพกไปมา ฆาเบียร์ซี้ดปากเบาๆ มือของเขากอบกุมแท่งลำของเจไว้และให้ความสุขกับคนรัก เจซบหน้าไปกับไหล่ของฆาเบียร์ และปล่อยให้คนรักเป็นฝ่ายขยับเอง
"คุณ!"
คนตัวเล็กอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อรู้สึกถึงการล่วงล้ำ เขาพยายามดันตัวออกแต่ถูกรัดตัวไว้แน่น
"แค่นิดเดียวนะเจ แค่ส่วนปลาย โอเคไหม?"
ฆาเบียร์กระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหูคนรัก เจเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าตกลง ฆาเบียร์ดันตัวขึ้นและพลิกตัวเจนยุทธให้คุกเข่าหันหลังให้เขา เขาถูไถส่วนสงวนของตัวเองไปกับรอยแยกระหว่างก้อนเนื้อแน่นทั้งสอง มือของเขาช่วยให้ความสุขเจไปด้วย จนเมื่อเขาเห็นว่าเจถึงจุดสุดยอดไปแล้วเขาจึงเร่งเร้าตัวเองจนเกือบถึงที่ จากนั้นเขาดันแท่งลำของตัวเองเข้าในกายเจเพียงเล็กน้อยและขยับเบาๆ เจสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกส่วนปลายของแก่นกายคนรักที่ถูกดันผ่านช่องทางเข้ามา หากฆาเบียร์ก็ทำตามที่พูดไว้จริงๆ ฆาเบียร์ขยับอีกไม่กี่ทีแล้วก็คำรามลั่นออกมา เขารีบถอนกายออกและปลดปล่อยบนบั้นท้ายแน่นๆ ของเจ คนตัวโตซบหน้าบนหลังของคนรัก เขาขยับกายไปจูบคนตัวเล็กผู้ใจดีของเขา หากฆาเบียร์ก็ต้องใจหายวาบเมื่อเห็นน้ำตาหยดน้อยๆ ที่หางตาของเจ
"เจ ฉันขอโทษ นายเจ็บมากเลยเหรอ?"
"ไม่เลย ฆาเบียร์ ไม่เจ็บ"
เจรีบปาดน้ำตาทิ้งไปและปั้นยิ้มหวานให้คนรัก คนตัวโตถอนหายใจ มันจะไม่เจ็บได้ยังไง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาล่วงล้ำเจโดยที่ไม่ได้ใช้เจลหล่อลื่นช่วย มีเพียงแค่ความลื่นจากสบู่เท่านั้นซึ่งก็แทนกันไม่ได้ เขานึกด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เขาดึงร่างเพรียวให้ลุกขึ้นแล้วประคองพาไปอาบน้ำชำระกายที่ส่วนชาวเวอร์
"เจจ๋า...ฉันรักนายที่สุดเลย นายรู้ใช่ไหม?"
ฆาเบียร์จูบแผ่วๆ ลงที่หน้าท้องแบนราบของคนรัก เจที่นั่งเอนพิงหัวเตียงลูบหัวคนรักที่ใช้พุงน้อยๆ ของเขาเป็นหมอน เขาใช้นิ้วม้วนผมสีน้ำตาลที่ยาวปรกคอของคนรักเล่น
"ผมก็รักคุณนะ ฆาบี้"
เจยิ้มและดึงมือของคนรักมาจูบ
"วันหลังเจไม่ต้องตามใจฉันทุกเรื่องก็ได้นะ"
ฆาเบียร์พูดเสียงอ่อยๆ เขายังรู้สึกผิดที่ฝืนใจและกายคนรักไปเมื่อครู่
"ไม่เป็นไรหรอก ฆาเบียร์ แค่นี้ผมยังพอไหว แต่ถ้าคุณทำมากกว่านั้นผมร้องโรงแรมแตกแน่..."
เจพูดยิ้มๆ ฆาเบียร์ยิ้มแหยๆ เขาเชื่อว่าเจคงทำอย่างนั้นจริงๆ แน่
"เอ๊ ผมบอกแล้วว่าอย่า คุณนี่ ซนจริง"
เจตีมือคนรักและเขยิบหนีคนตัวโตที่พยายามจะก้มหน้าลงสำรวจความเสียหายที่ตัวเองทำไว้
"เจจ๋า...ไหนๆ เราก็มาอยู่บนเตียงแล้ว เจลอะไรก็พร้อมแล้ว ฉันขอ...อุ๊บ"
ฆาเบียร์ร้องออกมาเมื่อโดนเจนยุทธเอาหมอนฟาดหน้า
"ไม่ได้ สามวันนี้เป็นวันของผม ผมต้องเป็นฝ่ายกอด"
เจใช้หมอนในมือตีคนตัวโตต่อ ฆาบี้คว้าหมอนของเขามาไล่ตีคนตัวเล็กบ้าง เสียงหัวเราะของทั้งคู่กลายเป็นเสียงจูบ ร่างเปลือยทั้งสองร่างกระหวัดเกี่ยวกอดกันบนเตียงนุ่ม ไฟรักของทั้งสองยังคงไม่ถูกดับลงง่ายๆ
"ฆาบี้ครับ"
เจเรียกชื่อคนรักเบาๆ คนตัวโตที่กำลังเพลินกับการจูบไล้ไปบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของคนรักที่นอนหันหลังให้เขาหยุดกึก เขาสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงแปลกของคนรัก
"มีอะไรเหรอ เจ"
เจนยุทธพลิกตัวมาซบอกคนรัก
"ผมถามอะไรหน่อยสิ คุณอย่าหาว่าผมงี่เง่านะ"
เจพูดเสียงอ่อยๆ เขาพยายามข่มใจไม่ให้พูดเรื่องนี้แต่ก็อดไม่ได้ ฆาเบียร์ถอนหายใจ เขาว่าเขารู้แล้วว่าเจจะถามอะไร
"เอ้า อยากรู้อะไร ถามมา"
คนตัวโตขยับขึ้นนั่ง เขาจับเจนอนหนุนตัก เจนยุทธจ้องตาเขาเป๋ง ตากลมใสของเจแฝงแววอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
"คุณเพเทรลลี่อ่ะ เอ่อ คุณกับเขา..."
ฆาเบียร์ลูบผมดำที่นุ่มราวเส้นไหมเบาๆ
"ก็แค่สนุกกันนานๆ ทีน่ะ เจ"
ฆาเบียร์ก้มลงจูบหน้าผากเนียนของคนรัก ระหว่างเขากับหนุ่มอิตาเลียนรูปงามคนนั้นไม่มีอะไรกันมากไปกว่าเรื่องเซ็กส์และธุรกิจเท่านั้น
"ผมว่าเขาหล่อมากเลยนะคุณ ผู้ชายอย่างผมยังตะลึงเลย โปรไฟล์ดีมากๆ ด้วย คุณไม่เคยคิดจะคบหาเขาจริงจังมั่งเหรอ?..."
เจหยุดพูดเมื่อเห็นแววตาที่เริ่มขุ่นมัวของฆาเบียร์ เขาใจหายวาบ
"ขอโทษจริงๆ ครับฆาเบียร์ ผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณ"
เจละล่ำละลักขอโทษเมียตัวโตของเขา เขาไม่ควรไปยุ่งเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตของคนตัวโตเลย ฆาเบียร์ชักสีหน้า
"นี่นายกล้าชมผู้ชายคนอื่นว่าหล่อต่อหน้าฉันเหรอ เจ"
เจนยุทธกระพริบตาปริบๆ นี่เมียตัวโตของเขาเคืองเรื่องนี้หรอกหรือ
"เอ่อ ที่ชมนี่ผมไม่ได้คิดอะไรนะ ผมก็พูดไปตามจริง เหมือนเห็นดาราหล่อหรืออะไร"
"ฉันไม่ยอมจริงๆ นะ"
คนตัวโตทำหน้าบึ้ง เขาดึงแก้มป่องๆ ของคนรัก
"โอ๊ยๆๆ ดึงแก้มผมอีกแล้วอ่ะ..."
"...นี่แกล้งทำงอนกลบเกลื่อนอะไรหรือเปล่าเนี่ย หือ? ว่าไง คุณมาร์ติเนซ"
คนตัวเล็กทำท่าสงสัย
"เห้ย ฉันไม่ได้ปิดบังอะไรเลยนะ นายอยากฟังอะไรถามมาได้เล้ย ฉันเล่าให้นายฟังได้หมด จะให้ไล่เรียงมาเลยก็ได้ว่าฉันเคยเดทเคยคบหาใครบ้าง เฉพาะคนที่ฉันจำได้นะ"
คนตัวโตพูดเสียงดังพร้อมทำท่าจริงจัง เจยกมือห้ามไว้
"อย่าเลยคุณ เท่าที่เห็นๆ มา คนในอดีตของคุณมีแต่โปรไฟล์สูงๆ ไม่ก็เป็นคนดัง รู้ไปผมก็มีแต่รู้สึกถึงความต่ำต้อยของตัวเอง"
เจพูดอย่างน้อยใจในตัวเองเล็กๆ คนตัวเล็กสารภาพว่าเขาเองก็แอบไปหารูปคนในอดีตของฆาเบียร์ดูบ้าง ซึ่งหาไม่ยากเลย แค่เอาชื่อคนตัวโตไปหาดูในเน็ต บางทีมันก็เด้งรูปตัวคนรักของเขาพร้อมกับคู่เดทของเจ้าตัวในขณะนั้นขึ้นมา บางคนก็เป็นนักกีฬาชื่อดัง หนุ่มไฮโซหรือดารา นายแบบก็ยังมี หรือต่อให้ไม่ได้เป็นคนดัง หนุ่มๆ เหล่านั้นก็ต่างหน้าตาดีและดูดี ดูจากรูปพวกนั้นแล้วเห็นได้ชัดว่าเมียตัวโตของเขานั้น "งานยุ่ง" ทีเดียว
"...ยิ่งมาเห็นคุณกับคุณเพเทรลลี่วันนี้ พวกคุณดูสมกันมากเลย รู้ไหม?"
เจไม่ได้พูดเกินจริง เขามองภาพชายหนุ่มสองคนที่หน้าตา บุคลิกและการแต่งตัวภูมิฐานเหมือนกัน บทสนทนาที่เป็นการเป็นงาน บรรยากาศสูงส่งรอบตัวคนทั้งสองนั้น มันเหมือนกับคนทั้งคู่อยู่คนละจักรวาลกับเขา กับคนที่เขาเคยเจอแล้วเช่นฌอง ริเชลิเยอหรือกระทั่งจอช ก็ล้วนแต่ดูสมกับฆาบี้มากกว่าเขาทั้งนั้น
“…แล้วพอผมเห็นรูปตัวเองที่ถ่ายคู่กับคุณ ผมมันเด็กกะโปโลชัดๆ เลยอ่ะ…โอ๊ย!”
เจร้องลั่นเมื่ิอคนตัวโตใช้นิ้วดีดกลางหน้าผากเขา ฆาเบียร์ดึงคนตัวเล็กขึ้นมานั่งประจันหน้ากับเขา
“คิดบ้าๆ อะไรอีกแล้ว เจนยุทธ ไม่ต้องมาคิดเลยว่านายด้อยกว่าคนนั้นคนนี้ แค่ว่าฉันรักนายแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน นายก็น่าจะมั่นใจได้แล้วไม่ใช่เหรอ”
“...ฉันขอล่ะ เจ ช่วยมองข้ามพวกเรื่องฐานะอะไรไปได้ไหม? ช่วยมองฉันเป็นเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าเจ ขอร้องเจให้รักฉัน”
เจนยุทธมองลึกเข้าไปในดวงตาแพรวพรายของคนรัก
“ฆาบี้ครับ…”
เจนยุทธยื่นมือไปกอบกุมมือใหญ่ของคนรัก
“ก๊อปเรื่อง Notting Hill มาหน้าด้านๆ เลยนะคุณ”
เจหัวเราะคิกออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อคนรักดัดแปลงประโยคดังอย่าง “I’m also just a girl, standing in front of a boy, asking him to love her” ที่ดาราสาว Anna Scott ในเรื่องซึ่งแสดงโดย Julia Roberts พูดกับ Hugh Grants ซึ่งแสดงเป็นหนุ่มเจ้าของร้านหนังสือเก่าเล็กๆ ในน็อตติง ฮิลล์
“ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะ”
คนตัวโตบ่นอุบ เขาไม่นึกว่าเจจะจำประโยคจากหนังรักน้ำเน่าเก่าๆ เรื่องนี้ได้ เจยิ้มบางๆ ฆาเบียร์ดูถูกคนที่ยามว่างก็ต้องเปิดทีวีดูอย่างเขาเสียแล้ว เจมักเปิดทีวีทิ้งไว้เพื่อดูคอยดูสำนวนการแปลจากทั้งหนัง ซีรีส์และสารคดี แล้วไอ้เจ้าเรื่อง Notting Hill นี่ก็เพิ่งผ่านตาเขาไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
"งั้น เอาใหม่..."
"...Fear not, my love. My heart will never ever change no matter what. That's because I've already surrendered all my heart, my love and my life to you"
'อย่ากลัวเลย ที่รัก ไม่ว่าอย่างไรหัวใจฉันจะไม่มีวันเปลี่ยน นั่นก็เพราะฉันได้ยินยอมมอบทั้งหัวใจ ความรักและชีวิตของฉันให้นายไปแล้ว'
เจยิ้มเยาะ นี่คงไม่แคล้วมาจากหนังสักเรื่องอีก
"หึ น้ำเน่าอีกแล้วนะคุณ ทีนี้จากเรื่องอะไรอีกล่ะ"
ฆาเบียร์ยิ้มกว้างและจูบเบาๆ บนหน้าผากของคนรัก
"จาก La Historia del Amor de Javier y Jay จ้ะ"
เจนยุทธหน้าแดงก่ำเมื่อคนตัวโตบอกว่ามันมาจาก 'เรื่องราวความรักของฆาเบียร์และเจ' คนๆ นี้น่าจะไปแต่งบทละครน้ำเน่าจริงๆ
คนตัวโตจับมือคนรักขึ้นจูบแผ่วๆ
"เจจ๋า ฉันขอล่ะ อย่ามองความรักของฉันเป็นอย่างอื่นไปเลยนะ ฐานะ หน้าที่การงาน หน้าตาหรืออะไรมันไม่ใช่สิ่งสำคัญเลยสำหรับฉัน ฉันไม่เคยเอามันมาตัดสินความสัมพันธ์ของเราเลย"
เจถอนหายใจออกมาเบาๆ ใช่สินะ ตัวเขาเองก็เคยพูดไว้ว่าเขาไม่เคยมีคนรักจริงจังเพราะยังหาใครที่จะมองข้ามหน้าตา ฐานะและอื่นๆ ของเขาไปได้ แต่ในตอนนี้เขาเองกลับนำเรื่องเหล่านี้มาตัดสินคนรักของตัวเอง
“แล้วคุณเองก็จะมองผมเป็นแค่ชายคนหนึ่งที่รักคุณด้วยใช่ไหม?”
"ใช่ เราจะเป็นแค่ชายสองคนที่รักกัน ผูกพันกันด้วยใจและจิตวิญญาณ..."
"...และกายด้วย"
เจพูดแทรกขึ้นเบาๆ เขาจูบแผ่วๆ ที่ริมฝีปากของคนรักซึ่งจูบตอบอย่างอ่อนโยน ฆาเบียร์ดึงร่างเพรียวของเจขึ้นมานั่งบนตัก เขาโอบกระชับคนรักเข้าแนบอก ริมฝีปากของเจช่างหวานนัก มันดึงดูดให้เขาเลาะเล็มจูบไล้ได้ไม่เบื่อ
"เจ...อยากทำอีกเหรอ?"
ฆาเบียร์กระซิบถามคนตัวเล็กที่หอมซ้ายหอมขวาเขา แม้เจจะจัดการเขาไปรอบหนึ่งแล้วเมื่อก่อนหน้านี้หลังออกมาจากห้องน้ำ แต่เขาก็รู้ดีว่าความต้องการของคนรักนั้นล้นเหลือแค่ไหน หากเจสั่นหัวปฏิเสธ เขาบอกว่าเขาแค่อยากนัวเนียกอดๆ หอมๆ ฆาเบียร์แบบนี้เฉยๆ
"ก็คุณทำตัวน่ารักนี่นา ขอฟัดเล่นหน่อยได้ไหมอ่ะ"
เจพูดยิ้มๆ ฆาเบียร์ทำตาปริบๆ เจพูดซะเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหมาหมูโรซ่าเลยทีเดียว
"เจ เจจ๋า พอก่อนดีกว่าไหม? เดี๋ยวฉันจะทนไม่ไหวก่อนนะ"
คนตัวโตขอร้องคนรักที่กอดปล้ำจูบเขาเล่นอย่างสนุกสนาน เจอาจจะแค่อยากจะนัวเนียกับเขาเฉยๆ แต่สัมผัสร้อนๆ แบบนี้ทำให้ฆาเบียร์เองชักจะทนไม่ไหวแล้ว เจรีบปล่อยร่างคนรักทันที เขาเองก็ยังไม่อยากลำบากเช่นกัน
"พอแล้วก็ได้..."
เจพูดเสียงอ่อยๆ เขาลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบนาฬิกาที่ถอดไว้ข้างเตียงมาดู
"ตีหนึ่งกว่า จะนอนแล้วไหม ฆาเบียร์?"
"นอนแล้วก็ได้เจ ง่วงแล้วใช่ไหมล่ะ?"
เจนยุทธส่ายหัว เขายังไม่เชิงง่วงซะทีเดียว เขาตัดสินใจลุกขึ้นแต่งตัว
"นายจะไปไหน?"
คนตัวโตชันกายลุกขึ้นนั่ง
"ผมจะลงไปหยอดสล็อตแป๊บนึง คุณไม่ต้องลงไปกับผมก็ได้ ผมเอาตังค์ไปนิดเดียว เดี๋ยวก็หมดละ"
ทุกครั้งที่มามาเก๊า เจไม่เคยลงไปเล่นอะไรจริงจังในบ่อน เขาแค่ชอบหยอดสล็อตแมชีนเล่นโดยรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางได้เงิน เขาแค่เล่นให้ได้รู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ เท่านั้น
"เดี๋ยวฉันไปด้วย"
ฆาเบียร์รีบโดดลงเตียง เขาหยิบกางเกงยีนส์และเสื้อยืดมาใส่พร้อมกับรองเท้าลำลองคู่แพงระยับของเขา เจใส่กางเกงผ้าขาสั้นกับเสื้อยืดและรองเท้าแตะรัดส้น เจหยิบซองจดหมายเล็กๆ ซองหนึ่งออกมาจากซองใส่เอกสารเดินทางทั้งหลายของเขา เขาหยิบเงินออกมา 100 ดอลลาร์ฮ่องกงหรือประมาณ 400 กว่าบาท
"ผมจะเล่นแค่นี้พอนะ"
เขาบอกฆาเบียร์ว่าเขาจะตั้งลิมิตของตัวเองไว้และหยิบเงินลงไปเพียงแค่นั้น เขาเอาซองนั้นใส่กลับเข้าไปในตู้เซฟพร้อมกระเป๋าเงินและของมีค่าอื่นๆ
(ต่อคอมเมนท์ถัดไปค่ะ)