35
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกพวกกูก็แล้วกัน พวกกูเต็มใจ” ซีตัสพูดพร้อมกับตบบ่าของเนมเบาๆ ถึงจะเคยทะเลาะกันมาก่อนแต่นั่นมันก็นานมาแล้ว แถมยังเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันด้วย
“แต่กูไม่! ” ปิงบอกด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก
“ปิง อย่าเยอะ มึงอะเงียบๆ บ้างก็ได้” ซีตัสปรามคนรัก ปิงเลยเบะปากใส่
“เนมเนม เราช่วยๆ หน้าตาพี่ของเนมเนมเป็นยังไงหรอ”
“อืมม ไม่รู้สิกูเองก็ไม่เคยเห็น กูมีแต่รูปแม่เล็กตอนท้องอะ” เนมหยิบรูปที่เขาเอาติดตัวไว้ตลอด เอาออกมาให้ดู รูปมันเก่าจนสีซีดไปหมดแต่ก็ยังเห็นส่วนต่างๆ ได้ชัดเจน ในรูปใบนั้นเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ ท้องกลมนูนออกมา อย่างเห็นได้ชัดกับชายหนุ่มที่ดูก็รู้ว่าเป็นคนรักกัน ใบหน้าพวกเขามีความสุข รอยยิ้มถูกประดับบนในหน้าสวยๆ ของหญิงสาว
“ผู้หญิงในรูปคือแม่เล็ก แม่ของพี่กูเอง” ทุกคนมองเข้าไปในรูปที่ว่า พร้อมกับพยายามจดจำและนึกว่าเคยเห็นที่ไหนบ้างไหม แต่ก็นึกไม่ออก ใบหน้าของหญิงสาวในรูปเขารู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตามากแต่มันก็นึกไม่ออก
“เหมือนเคยเห็นตา ตาแบบนี้ที่ไหน จมูกด้วย แมร่งคุ๊นนนคุ้น” ปิงพยามเพ่งดูรูป
“เออ กูก็ว่าคุ้น” ซีตัส
“ถ้ามึงคุ้นแสดงว่ากูก็มาถูกทางแล้ว”
“มีเบาะแสอื่นอีกไหม”
“แม่เล็กมีพี่ชาย และพี่ชายแม่เล็กก็เคยอยู่ที่นี่” เนมบอกข้อมูลเท่าที่ตนเองมี
“ค่อยๆ หาเดี๋ยวก็เจอ จังหวัดนี้มันแคบ หาแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เจอ”
“ขอบใจวะ กูหาพี่มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เจอสักที บางครั้งกูก็ท้อนะ กลัวพ่อเป็นอะไรไปก่อน ตอนนี้แม่ใหญ่ก็เสียไปแล้ว กูเหลือแต่พ่อ ถ้ากูเจอพี่กูว่าพ่อน่าจะมีกำลังใจ อาจจะสู้กับโรคร้ายพวกนั้น” การตามหาแม่เล็กเหมือนกับการงมเข้มในมหาสมุทร เพราะเขาแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย แม้แต่ชื่อจริง รู้แต่ชื่อเล่นกับรูปถ่าย
“พ่อมึงป่วยเป็นไรวะ”
“โรคหัวใจ” แค่ได้ฟังทุกคนก็ใจหายเพราะโรคนี้มันร้ายแรง ต้องดูแลกันอย่างดี อย่าให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ
“พอกูเค้ายังหวัง ว่าจะได้เจอแม่เล็กอีกครั้ง แต่กูก็มีรู้ว่าจะได้เจอเขากับพี่ไหม๊” เนมพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เขาอยากเจอพี่เร็วๆ เพราะอยากจะช่วยพ่อของตนเอง
“เห้ย อย่าพึ่งคิดมาก เพื่อนกูเยอะ ยังก็ช่วยๆ กัน” ซีตัส
“อืม ว่าแต่นะโมมันมองไรวะ กูเห็นมันมองไปทางหน้าโรงเรียนนานละ” เนมที่มองไอ้เอ๋ออยู่อดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้ เพราะดวงตากลมมันเอาแต่จ้องไปยังหน้าโรงเรียน
“มองไรวะ?” ปิงมองตามสายตาของมันไป
“อะไรหรอ เค้าขายอะไรหรอปิงปิง สีสวยมากเลย” มันจ้องมองไปที่พ่อค้าหาบเร่ ที่กำลังนั่งพักเหนื่อยอยู่หน้าโรงเรียน
“อ่อ สายไหม มึงกินหรอ” ปิงถาม ไอ้เอ๋อรีบพยักหน้า
“อื้อเราอยากกิน เราไม่เคยกินเลย” มันใช้เสียงอ้อนๆ เพราะถ้าเดินออกไปตอนนี้คงไม่ได้เพราะมีครุเวรเฝ้าอยู่หน้าประตู
“เดี๋ยวถามส้ม ว่าเข้ามายัง” ซีตัสบอกพร้อมกับเข้าโปรแกรมแชท แชทหาเพื่อนทันที
อิส้มเน่า
ซีตัสคนจริงเข้ามาโรงเรียนยัง
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
ยังกำลังจะถึง
มีไร?
ซีตัสคนจริงซื้อสายไหมหน้าโรงเรียนมาให้ลูกมึงด้วย
มองจนน้ำเลยย้อยลงกางเกง
เห็นแล้วสงสาร
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
แล้วไมมึงไม่ออกไปซื้อ
อิแร้งน้ำใจ
มึงจะปล่อยให้ลูกกูน้ำลายไหลใส่กางเกงไม่ได้!!
ซีตัสคนจริงรีบ
อิสัส มันทำปากแจ๊บๆ ใส่กูแล้ว
สายไหม สามถุง
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
นี่แดกหรือเอาไปถมที่
ซีตัสคนจริงแดก
แต่พวกกูแดกด้วยไง รีบมา
ส้มคนสวยแห่งห้องสาม
เออ!!
ตังด้วย
ไม่ฟรี
“ส้มส้ม *0* ส้มส้มรู้ได้ไงว่าเราอยากกิน”
“คนสวยก็งี้แหละ ฉลาด^^”
“คึคึ ขอบคุณนะ ง่ำๆ ๆ ๆ”
“น้ำตาไหลเลย อะไรวะแค่กินสายไหมถึงกับร้องไห้” เนมเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้มัน ด้วยนความเอ็นดูปนขำ กะอิแค่ขนมหลอกเด็กแบบนี้ถึงกับหลั่งน้ำตา
“เราไม่เคยกินนี่เนมเนม เราไม่มีตังซื้อ แต่ตอนนี้มีแล้ว มันอร่อยมากเลย” มันพูดไปพร้อมกับยัดสายไหมเข้าปากไม่หยุด รสหวานติดลิ้นยิ่งกินยิ่งชอบ
“เออ ๆ กินๆ ไปจะได้เข้าเรียน”
วันนี้จะมีประกาศรับรางวัลให้กับมันในฐานะทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และให้เป็นขวัญกำลังใจกับชมรมหมากรุกด้วย มันถูกเรียกตัวอย่างกะทันหันก่อนจะขึ้นเวทีเพียงไม่ถึงชั่วโมง เขาให้มันกล่าวอะไรสักเล็กน้อยบนเวที แน่นอนมันประหม่าจนขาสั่นเดินไปหน้าเสาธงไม่ไหวลำบากปิงต้องพยุงมันขึ้นไปยืน เหล่าอาจารย์ก็เอาแต่ยืนยิ้มให้กำลังใจมัน ไม่มีช่วยมันสักนิด!
“ใจเย็นมึง ค่อยเดิน หายใจลึกๆ เออ อย่างนั้นแหละ”
“ตะ ตะ ตื่นเต้น ตื่น ตื่น เต้น งืออ เราว่าเราไม่ไหวปิงปิงT^T” มันทำท่าจะถอยลงจากเวทีหน้าเสาธง
“เห้ยไม่ได้ ขึ้นไป! ” ปิงคอยดันหลังมันเอาไว้
“แต่เราพูดไม่เป็น เราจะต้องพุดอะไรอะ ปิงปิง ฮรืออ” มันหันมาทำหน้าเบะใส่ จะไม่ขึ้นเวทีท่าเดียว จนอาจารย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต้องมาช่วย จนมันขึ้นมายืนอยู่บนเวที
“ปุก ปุก โหล โหล” จู่ๆ มันก็ลองไมค์ ทำเอาทุกคนพากันฮาครื้น
“พูดเลยมึง” ปิงกระซิบ
“อะ งืออ ระ ระ เราชื่อ ว่านะโม นักเรียนมอหกทับสาม ละเลขที่ สิบสองกอ คะ คือว่า งืออ ปิงปิง เราไม่ไหว “จู่มันก็หันหลังให้กับเพื่อนนักเรียนที่กำลังตั้งอกตั้งใจฟังมันอยู่
“ไม่ได้ พูดไปว่ามึงทำอะไรมาบ้าง”
“งือ เรา งือ คือเราได้ไปแข่ง หมากรุก มา ละแล้ว แล้วเราได้ที่สาม มีคนเก่งกว่าเรา เราเลยแพ้ แต่พี่จ๋าบอกว่าไม่เป็นไร พี่จ๋าบอกจะให้รางวัลเป็นไข่พะโล้ ตะ แต่ ว่า พี่บอกว่า มีลางวัลพิเศษให้ด้วย -///- พี่จ๋าปุ๊ๆ กับปากเรา ปุ๊ๆ จนมันเจ่อ เอ่อ คืออันนี้เราต้องบอกไหมอาปิงๆ” มันหันมาถาม แต่ว่าเสียงของมันทุกอย่างดังออกไมค์ไปแล้ว ในเมื่อบอกให้มันพูดมันก็พูด พูดด้วยใบหน้าอันใสซื่อของมัน และนั่นทำเอาหลายคนหงายท้องตึงลงไป โดยเฉพาะ ส้ม ล้มหงายตั้งแต่มันทำท่าปุ๊ๆ ใส่ไมค์
“ชิบหายไอ้เอ๋อมึงพูดอะไรออกป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เสียงปิงหวีดร้องอยู่ด้านหลังพร้อมกับพุ่งตัวไปคว้าไมค์มาปิดด้วยสีหน้าที่ตกใจ ซีตัสตบหน้าผากตัวเองสียงดังป๊าป อาจารย์รีบเอามันลงจากเวทีแทบไม่ทัน
“อะไรอ่า เราทำอะไรผิดอีก ก็บอกให้เราพูดเราก็พูดแล้วไง” มันยังไม่รู้ตัวว่าเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ไม่ควรเอามาพูด
“มึงไม่ผิด กูผิดเองที่บอกให้มึงพูดเรื่องของหมากรุก” ปิงบอกอย่างเหนื่อยใจ เขาควรจะอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้ แต่ตอนนั้นมันไม่เวลา พอกลับมาถึงห้องทุกคนก็โห่แซวมัน บางคนไม่รู้ว่าพื้นฐานของไอ้เอ๋อคือเด็กกำพร้า หลายคนคิดว่าสิงห์คือพี่ชายแท้ๆ แต่กับซีตัสกับปิงที่รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“ให้บอกไหมว่ามึงกับพี่สิงห์ไม่ใช่พี่แท้ๆ” ปิงถาม
“อ่า บอกก็ได้ เราไม่คิดมากหรอก”
พอมันบอกไม่คิดมากซีตัสก็บอกพวกนั้นไปว่าสิงห์รับเลี้ยงและเป็นผู้ปกครอง และยังบอกด้วยว่ามันเป็นเด็กกำพร้า ทุกคนรู้เรื่องของมันหมดแล้วก็พากันเข้าใจและไม่แกล้งมันอีก ทำให้มันโดนสายตาดูถูกน้อยลงและมีคนเอ็นดูมันมากขึ้น โดยเฉพาะเนม
“นะโม” เสียงเรียกชื่อมันดังขึ้นขณะที่กำลังเดินไปที่โรงอาหารพร้อมกับคนอื่นๆ
“อ่าว เนมเนม มีไรหรอ” เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวสูง
“ไปกินข้าวด้วยดิ”
“ปรกติก็ไปกินอยู่แล้วใช่ไง จะมาขอทำเพื่อ! ” คู่กัดอย่างปิงพูดออกไปพร้อมกับทำปากมุบมิบ
“ขอให้หมาถาม ปะนะโม ไปแดกข้าวกัน” เนมกอดคอพาไอ้เอ๋อเดินไปที่โรงอาหาร
“กวนตีนนะไอ้สัส...มึงดูมันดิ” ปิงหันไปหาซีตัสที่ยืนมองขำๆ
“มึงจะอะไรนักหนา ไปกินข้าวได้แล้วมันแต่ทำหน้าปัญญาอ่อนอยู่นั่นแหละ” ซีตัสจูงมือปิงให้เดินตามไอ้เอ๋อไป
“แหม่ เกรงใจคนไม่มีคู่แบบกูบ้าง อิพวกเหี้ย” เสียงส้มดังขัดขึ้นมา เธอมองเพื่อตัวเองด้วยสายตาหมั่นไส้
“ไอ้ยิมยังว่าง ไปหามันไป” ปิงบอกพร้อมกับผลักเพื่อนตัวเองใส่ยิมที่เดินคู่กันมา
“ส้ม ถึงปิงมันจะผลักแต่มึงจะมาทำตัวเหมือนไม่มีกระดูกไม่ได้ กูหนัก” ยิมที่รับเอาตัวส้มไว้เต็มอ้อมแขนพูดออกมา
“ตบตากเท่าอายุ กูไม่ได้หนัก!! ” ส้มแหวใส่ยิมเสียงดัง ใบหน้าง้ำงอที่ดูแล้วน่ารัก ทำเอาอีกคนเผลอใจเต้นแรง
“-///- อะ อะไร ไม่ตบ”
การกินข้าวมื้อกลางวันเป็นอะไรที่ไอ้เอ๋อมันชอบมาก เพราะทุกคนจะสรรหาของกินมาให้มัน เรียกได้ว่าป๋าเปย์ก็ว่าได้ โดยเฉพาะเนม ที่แทบจะออกทุกอย่างให้มัน วันนี้มันได้กินไข่พะโล้ของโปรดมันเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษกินข้าวเสร็จก็โทรหาสิงห์เหมือนที่ทำทุกวัน คุยกันเสียงกะหนุงกะหนิง จนหมดเวลาพัก ก็พากันขึ้นห้องเรียน
“คณิตศาสตร์อีกแล้ว หรอ ตัสตัส เราป่วยได้ไหม อาจารย์อังดุเราเยอะ เราไม่ไหว” มันโอดครวญเพราะเป็นวิชาที่มันไม่ชอบและไม่ถนัด
“ไม่ได้ ไม่เก่งยิ่งต้องเรียนจะได้รู้เรื่อง” ซีตัสดุมันพร้อมกับบังคับให้มันเอาหนังสือขึ้นมา
“งืออซีตัสโหดร้าย ไม่อ่อนโยนกับเรา”
“แหมะ เดี๋ยวนี้หัดใช้คำพวกนี้นะ”
“เราต้องวัยรุ่นไง”
“เอออ วัยรุ่น แล้ววัยรุ่นจะโง่คณิตไม่ได้”
“งะ”
กว่าจะหมดคาบมันก็นังกุมขมับจ้องมองโจทย์การบ้านที่ได้มา ใจคิดว่าซวยแล้วกลับบ้านไปใครจะสอน สิงห์เองก็ดูเหนื่อยๆ จนมันไม่กล้าที่จะเอ่ยปากให้ช่วยสอน ระหว่างที่นั่งรอเข้าคาบต่อไปมันหยิบเอาสมุดวาดรูปขึ้นมากางบนโต๊ะ แล้วลงมือวาดส่วนที่ค้างคาไว้จากเมื่อครั้งก่อน มันวาดตามความทรงจำที่มีอยู่ในหัว รูปของสิงห์กำลังหันหลังถอดเสื้อ แผ่นหลังกว้างที่อบอุ่นและเซ็กซี่ มันใส่รายละเอียดแม้กระทั่งรอบสักที่อยู่บนสะบักหลังข้างซ้าย
“นี่หลังพี่สิงห์หรอวะ?” ปิงชะโงกหน้าข้ามหัวมันเพื่อดูภาพในสมุด
“อื้อ” มันตอบโดยที่ไม่เงยหน้า
“โคตรคูล รอยสักอย่างเท่ห์” ปิงพูดออกมาอย่างชื่นชมพร้อมกับหันไปหาซีตัสที่นั่งอยู่ข้างๆ
“มึงถ้ากูสักบ้างมันจะเท่ห์ไหมวะ”
“-*- กูไม่ชอบให้ผิวมึงมีรอย ไม่ต้องเสือกยากเท่ห์ เพราะนอกจากกุจะไม่ชอบแล้วมึงจะโดนตีนกูนาบแทนรอยสักด้วย” ซีตัสพูดเสียงเข้มพร้อมกับทำหน้าดุใส่คนรัก
“หูยยยย รุนแรง มึงไม่อ่อนโยน”
“โยนที่หน้ามึงสิ มาทำงาน! ”
“คึคึ ตัสตัส ไม่อ่อนโยน ตัสตัสไม่ใช่แลคตาซิสสักหน่อย” ไอ้เอ๋อพูดเสียงทะเล้น แล้วหันหน้าไปยิ้มหวานให้
“ไอ้นี่..” ซีตัสทำท่าจะเขกหัวมัน
“คึคึ ไม่อ่อนโยน”
หมดไปหนึ่งวันกับการเรียน ตอนเย็นมันมารอสิงห์ที่หน้าโรงเรียนเหมือนเดิมพร้อมกับแก้งองครักษ์ของมัน แต่รอได้ไม่เท่าไหร่สิงห์ก็โทรหามัน
“นะโมครับ วันนี้กลับบ้านเองได้ไหม พี่ติดประชุมคงกลับไปรับหนูไม่ทัน พี่ขอโทษนะครับ” พอมันได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่เคยสดใสกลับสลดลง
“ครับ น้องกลับเองได้ พี่จ๋าไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ถึงปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่สีหน้ามันกลับตรงกันข้ามไปหมด
“พี่ขอโทษนะครับพี่ติดประชุมจริงๆ เพื่อนพี่ไม่มีใครว่างสักคน”
“อื้อ น้องกลับได้ พี่จ๋ารีบกลับบ้านนะครับ” มันบอกเสียงอ้อน
“ครับ เพื่อนๆ อยู่ตรงนั้นไหม พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
“ครับ” มันยื่นดทรศัพท์ให้ซีตัสที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ว่าไงพี่”
“กูฝากส่งน้องมันด้วยนะ กูติดประชุมกลับไปไม่ทัน กล้วน้องรอ”
“ได้พี่เดี๋ยวพวกผมไปส่งที่บ้านให้”
“เออขอบจะพวกมึงมาก เดี่ยวซื้อขนมไปฝาก”
“เปลี่ยนเป็นน้ำสีทองๆ ได้ไหมพี่” ซีตัส
“เออ ไว้จะเลี้ยงตอบแทนไอ้ห่า เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมแดกแต่เหล้า” สิงห์บ่นแต่ไม่จริงจังเพราะรู้อยู่แล้วว่าเด็กพวกนี้เป็นคนยังไง
“ขอบคุณคร๊าบบ เออ ไม่ต้องห่วงไอ้เอ๋อมันนะพี่เดี๋ยวพวกผมดูแลเอง”
“อืม ขอบใจกูไปละ ต้องเข้าประชุม”
หลังจากวางสายไอ้เอ๋อมันก็เงียบๆ ไม่จ้อเหมือนเดิม จนเนมต้องพาไปกินไอติมปลอบใจกันที่ร้านคาเฟ่ใกล้กับวิทยาลัยชื่อดัง ร้านเล็กที่แน่นไปด้วยเหล่านักเรียนนักศึกษา ร้านนี้เนมมาบ่อย และสนิทกับเจ้าของร้านที่ชื่อฟ้า เนมพาเข้าไปนั่งโซนด้านในเพราะมันเป็นมุมสงบของร้าน อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายสักเท่าไหร่
“พี่ฟ้า เอาช็อกโกแลตปั่นสองแก้ว ตัส ปิง เอาไร”
“ผมเอาโฟรสชาเขียวเพิ่มวิป” ปิง
“ผมเอาม็อกค่าปั่นละกัน”
“ขนมละเอาไรไหมเนม” ฟ้าเจ้าของร้านที่เดินมารับเมนูเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“เอาฮันนี่โทสสำหรับสี่คน แล้วก็เค้กผลไม้ละกันพี่” เนมสั่งตบท้ายก่อนที่ฟ้าจะหายไปหลังร้าน
“มึงเลี้ยงใช่ไหม?” ปิงถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“เออกูเลี้ยง” เนมรับปากว่าจะเลี้ยงปิงเลยยกยิ้มขึ้นมา ยกเว้นอยู่คนที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ไม่พูดไม่จา
“ไอ้เอ๋อ จะมาทำหน้าหงอยทำไม เดี๋ยวพี่สิงห์ก็กลับ”
“แต่เราไม่ชอบแบบนี้นี่ ไม่ชอบที่พี่จ๋าไม่มารับ”
“งอแง อะกินเข้าไปขนม จะได้อารมณ์ดี” เนมตักฮันนี้ดทสยัดใส่ปากมัน ระว่างที่นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆ ก็มีเสียงดังเอะอะอยู่หน้าร้าน พอชะโงกหน้าดูก็เจอเข้ากับกลุ่มนักศึกษาต่างสถาบันที่พากันวิ่งไล่ตีกัน และหนึ่งในนั้น มีต้าร์วิ่งรวมกันอยู่ด้วย ไอ้อ๋อมันเห็นเต้มสองตาว่าต้าร์เนื้อตัวมีแต่แผล
“ลุกพี่ ลูกพี่ ไม่ๆ อย่าทำอย่าทำ” มันลุกขึ้นและรีบวิ่งไปทางหน้าร้าน เนมที่ไวกว่าเพื่อนรีบวิ่งไปจับตัวมันได้ทันก่อนที่มันจะออกจากร้าน
“อะไรวะ มันเกิดอะไรขึ้น” เนมถามด้วยความตกใจกับเหตุการณ์
“พี่ต้าร์ พี่ต้าร์ โดนตี อย่า อย่า จะช่วย จะช่วย” มันกำลังหวาดกลัวและพูดจาซ้ำๆ ดวงตาของมันฉายแววกังวลออกมา
“ใครนะไอ้เอ๋อ” ซีตัสเดินตามออกมา
“พี่ต้าร์ พี่ต้าร์ โดนตี”
“กูว่าละ เห็นหลังคุ้นๆ ใจเย็นมึงเดี๋ยวกูโทรบอกพี่หมอให้” ปากบอกมือก็กดโทรศัพท์หาหมอไม้เมืองถ้าถามว่าไปมีเบอร์กันตอนไหนก็ตอนตั้งวงกินเหล้าที่บ้านสิงห์ครั้งนั้นแหละ พอโทรบอกเรียบร้อยก็พากันกลับไปที่โต๊ะ
“มึงว่าพี่ต้าร์จะเป็นไรป่าววะ?” ปิงเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวถึงได้ถามออกไปโดยไม่ทันคิด
“ฮึก..ฮึก ลูกพี่” มันเบะทั้งๆ ที่มีขนมอยู่ในปากน้ำตามันคลอเบ้า
“เห้ย!! ไม่ใช่กูหมายถึง เอ่อป่านนี้พี่ต้าร์จะโดนพี่หมอดุว่าอะไรบ้างมึง อย่าร้องนะเว้ย” ปิงอยากจะเอามือตบปากตัวเอง พึ่งปลอบมันเสร็จแท้ๆ
“หาเรื่องจริงๆ เลยมึงนี่ ปลอบมันเองเลยงั้น” ซีตัสดุแฟนตัวเอง
“มึงอะ ไอ้เนมปลบอมันดิ๊”
“เกี่ยวไรกับกูมึงทำมันร้องมึงก็ปลอบมันดิ”
“ (ฮึก ฮืออ ฮึก ฮึก พี่ต้าร์) ”
“อะไรวะเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
กลับจากร้านคาเฟ่ของฟ้าเนมเป็นคนอาสามาส่งไอ้เอ๋อที่บ้านเองเพราะเป็นทางผ่านพอดี สายตาคมมองไปที่บ้านไม้หลังใหญ่
“เข้ามาก่อนสิเนมเนม เดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้” มันพาเนมเข้าไปนั่งในบ้าน เนมมองสำรวจไปทั่วๆ พร้อมกับถามมันว่า
“มึงอยู่กับเขาแค่สองคนเหรอ”
“อื้อ เราอยู่กับพี่จ๋าแค่สองคน ทำไมหรอ”
“พ่อแม่พี่สิงห์ละ”
“เราไม่รู้”
“แล้วเมื่อก่อนนะโมอยู่กับใครเหรอ”
“เราอยู่กับหลวงตา”
“หลวงตา?”
“อื้อแต่หลวงตาไปบนสวรรค์แล้ว” มันตอบด้วยเสียงเศร้าๆ มันคิดถึงหลวงตา แต่แค่ไม่พูดออกไปมันเดินวนไปเวียนมา ตาก็เอาแต่มองไปยังหน้าบ้าน จะทุ่มหนึ่งแล้วพี่จ๋ามันยังไม่ยอมกลับมาสักที
“เนมเนม เนมเนมว่าพี่จ๋าจะหลงทางไหม?”
“หืม ทำไมคิดงั้น”
“ก็พี่จ๋าไม่ยอมกลับมาสักที เราคิดว่าพี่จ๋าอาจจะหลงทางอยู่ที่ไหนสักที่”
“แล้วทำไมไม่โทรหาละ?”
“อ๊ะ จริงด้วย เนมเนมนี่ก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี้ยะ”
“-*- รู้สึกเหมือนที่ผ่านมากูโง่ยังไงไม่รู้” เนมลูบหน้าตัวเองทั้งๆ ที่ถูกชมแต่รู้สึกเหมือนโดนด่าว่าโง่ไงไม่รู้
“งั้นเนมเนมรอนี่นะเราจะไปเอาโทรศัพท์”
“อืม”
มันวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ในกระเป๋านักเรียนออกมา
“งะ ใครโทรมาหลายสายเลย *0* พี่จ๋าโทรมา” มันเห็นว่ามีคนโทรมาหลายและเป็นเบอร์ของสิงห์มันเลยโทรกลับ
“พี่จ๋า พี่จ๋า ถึงไหนแล้ว” ทันทีที่สิงห์กดรับมันก็กรอกเสียงลงไปโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้พูด
“ทำอะไรอยู่ครับทำไมถึงไม่รับสายพี่!! ” สิงห์ถามมันเสียงเขียว เขาโทรหาหลายสายแต่ไม่มีคนรับ ทำเอาเขาห่วงมันแทบบ้า โทรไปหาซีตัส ซีตัสก็บอกว่า เนมพาไปส่งบ้านแล้ว แต่นั่นไม่ได้ทำให้สิงห์คลายความกังวลไปได้เลย เนมเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้เพราะพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานแถมมาคนเดียวด้วย สิงห์ยังไม่ไว้ใจใครง่ายๆ นอกจากพวกของซีตัส
“งูย เสียงดุ หนูไม่ได้ทำอะไรครับ นั่งรอพี่จ๋าอยู่” มันตอบเสียงอ้อนๆ เพราะไม่อยากให้สิงห์โกรธมัน
“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ เราทำให้พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม?”
“คือน้อง เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไว้ครับ น้องขอโทษนะครับ”
“เห้ออ ไม่เป็นไรครับพี่กำลังจะกลับแล้ว เราหิวไหม? พี่จะได้ซื้อของเข้าไป” ยังไงก็แพ้มันอยู่วันยังค่ำแค่ได้ยินเสียงหงอยๆ อ้อนๆ ของมันเขสก็ใจอ่อนใจละลายแล้ว
“หิวครับ” มันตอบตามความจริงมันหิวแต่มันอยากกินพร้อมกับสิงห์
“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะครับ พี่จะรีบกลับ”
“ครับ” หลังจากวางสายมันก็เดินออกไปหาเนมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มต่างจากตอนแรก จนเนมอดที่จะแซวมันไม่ได้
“พี่เค้าจะกลับมาแล้วดิ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนี้”
“อืม คึคึคึ >///< “
“นี่กูถามอะไรหน่อยได้ปะ” เนมแกคิดถึงคำพูดของซีตัส ที่เคยพูดว่าหน้าเขาคล้ายกับหน้าไอ้เอ๋อขึ้นมาเลยอยากจะถามอะไรบางอย่างให้แน่ใจ
“เคยเห็นหน้าพ่อแม่ไหม หรือมีรูป พ่อแม่รึเปล่า” ไอ้เอ๋อมันเงียบไปพักก่อนจะตัดสินใจพูดมันออกไป
“ไม่เคยเห็นหรอก แม่เอาเรามาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่เล็กๆ แล้ว จะมีก็แต่แม่ด่าง แต่แม่ด่างก็ตายไปแล้ว หลวงตา” บัว” เลี้ยงเรามา เนมเนมถามทำไมเหรอ” ไอ้เอ๋อมันไม่อยากรื้อความทรงจำขึ้นมา เพราะมันจะคิดถึงคนที่จากไปแล้ว มันเคยน้อยใจนะ ว่าทำไมแม่ต้องทิ้งมัน ทำไมมันต้องไม่เหมือนคนอื่น ทำไมมันไม่มีพ่อไม่มีแม่
“หลวงตาบัว อืม ไม่มีอะไรหรอกเราแค่อยากรู้เฉยๆ” ชื่อหลวงตาบังมันติดหูเขามาก มากเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักที่ แต่ก็นึกไม่ออก เนมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ หยิบเอาแหวนที่ห้อยคอตลอดออกมาลูบเล่นอย่างเคยชิน แหวนทองคำที่มีเม็ดทับทิมสีแดงประดับ
สักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้านไอ้เอ๋อมันจำเสียงรถของสิงห์ได้ ร่างป้อมของมันวิ่งลงบันไดไป
“พี่จ๋ามาแล้ว พี่จ๋ามาแล้ว” มันแทบจะกระโดดใส่สิงห์ตอนที่ลงจากรถ
“หึหึ คิดถึงเด็กดื้อจัง”
“คิคิ คิดถึงเหมือนกันครับ อ่อ พี่จ๋า เนมเนมอยู่ด้วยนะ”
“เนม! ” ทันทีที่ได้ยินว่ามีใครอีกคนอยู่บนบ้าน แถมยังเป็นคนที่ทำให้เขาหึงเลือดขึ้นหน้าอีก เขาคิดว่าเนมมาส่งแล้วก็คงกลับไม่คิดว่าจะยังอยู่เฝ้าคนของเขาจนถึงป่านนี้
“ครับ เนมเนม เนมเนมพาไปกินขนมมาด้วย อร่อยมากๆ ๆ ๆ” พูดไปด้วยพร้อมกับทำท่าทางมีความสุขไปด้วย สิงห์มองมันที่ยิ้มเวลาพูดถึงผู้ชายคนแล้วรู้สึกคันยิบๆ ในใจ คิ้วเรียวเริ่มจะขมวดเข้าหากัน มันไม่ได้รู้เลยว่ามันกำลังจะก่อพายุใส่หัวตัวเอง
“สงสัยพี่คงใจดีกับหนูมากเกินไปถึงได้เอาผู้ชายขึ้นบ้านแบบนี้ พี่ว่า เราคงต้องมีการลงโทษกันหน่อยแล้วละครับ” พูดพร้อมกับสาวเท้าเข้าหา
“งะ คะ คือ ไม่ใช่ พี่จ๋าไม่ทำหน้าแบบนั้น น้อง น้องว่าน้องไม่ปลอดภัย”
“หึหึหึ”
“เนมเนม เนมเน้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม ออกจากไปบ้านเราได้แล้ว ออกไปเลยเน้มมมมมมม”
“เห้ย อะไรวะ อย่าผลัก ให้กูใส่รองเท้าก่อนไหมล่ะ อะไรของมันวะพี่” เนมตั้งตัวไม่ทันกับท่าทีหวาดหวั่นของเพื่อนตัวน้อย ดูเหมือนเขาจะกลัวอะไรสักอย่าง เขารีบใส่รองเท้าพร้อมกับสบตามองคนตัวสูงที่ยืนแสยะยิ้มให้
“ขอบใจมึงมากทีทำให้กูได้หาเรื่องลงโทษเมียตัวเอง” สิงห์โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเด็กมอปลายที่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วก็หัวเราะในลำคอ
“พี่นี่มันปีศาจชัดๆ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิพี่...พี่จะหื่นทุกตอนไม่ได้
คิกค้ากกกกกกกกกกกก นะทุกคน
อ่อต้องกลับไปแก้ไขตอนที่แล้วเรื่องล็อกเก็ต มันไม่ใช่ แต่มันเป็นแหวนทับทิม แหวนประจำตระกูล
ขอบคุณที่ช่วยแก้คำผิดให้เค้าด้วยน้าา
เจอกันตอนหน้าค่ะ