กระสวยร้อยหัวใจ
Part 4 “คุณพ่อขา หนูอยากกินไอติม” เจ้าหญิงตัวน้อยสองมือจับนิ้วผมกับกระสวยคนละข้าง
แหงนหน้าบอก วันนี้บริษัทฯเลิกครึ่งวันพนักงานกลับไปเตรียมตัวร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายปี
“ได้สิคะ งั้นเราไปกินกันนะสวย” ผมก้มบอกลูก ก่อนหันไปพูดกับกระสวย พาเดินไปยังร้านชื่อดังในห้างใหญ่
ลากกระสวยมาด้วย ต้องใช้คำว่าลากไม่งั้นไม่ยอมออกจากบ้าน ทั้งที่ช่วงบ่ายลูกค้าซาลงแล้ว
ปล่อยให้เด็กๆปิดร้าน ตั้งใจพามาซื้อชุดให้ใส่ไปงานเย็นนี้ หลังคิดได้ว่ากระสวยคงไม่มีเสื้อผ้าออกงาน
วงหน้าหวานตาคม ปล่อยผมดำขลับยาวจรดกลางหลัง ปกติมัดรวบเผยต้นคอขาว
สวมหมวกคลุมศีรษะกับผ้ากันเปื้อน พออยู่ในชุดยีนส์ขายาวรัดรูปเสื้อยืดคอกลมรองเท้าส้นเตี้ย
ปล่อยผมแบบนี้มองไม่รู้เป็นกะเทย
สังเกตคนรอบข้าง สายตาไม่มีใครสงสัย พากันยิ้มให้ลูกสาวตัวน้อยในชุดกระโปรงชมพู
กับเสื้อยืดขาวน่ารักๆลายมิกกี้เม้าส์ ทำให้เจ้าหญิงน้อยของผมซึ่งผูกเปียสองข้างติดกิ๊บดอกไม้เล็กๆ
ดูน่ารักขึ้นเป็นกอง ผลงานดีไซน์ของกระสวยล้วนๆ ไปทางไหนได้รับรอยยิ้มส่งให้ไม่น้อย
“อร่อยไหมคะ” ถามเจ้าหญิงน้อย ปากเลอะวิปครีมเป็นภาระกระสวยคอยเช็ดให้ตลอด
ท่าทางอ่อนโยนบวกสายตาอบอุ่นที่เธอมองลูก บ่งบอกชัดว่ารักกระแตแค่ไหน
“อร่อยค่ะ พ่อกับแม่ไม่ทานเหรอคะ” เรียกแบบนี้คนทั่วไปไม่มีใครต้องถามละมั้ง
ว่าผมกับกระสวยคือพ่อแม่ของกระแต
“คร๊าบพ่อจะทานให้หมด บอกแม่เค้าสิครับ มัวแต่คอยเช็ดคราบบนปากให้หนู
เล่นไม่ยอมทานเลยดูสิ” อยากแหย่ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าใบหน้าสวยหวานขึ้นสีเรื่อทันตา
“แม่ขา ทานค่ะ” เจ้าหญิงน้อยหันไปบอกเธอจ้องตาแป๋ว
“จร้าคนเก่ง” ยิ้มหวาน ก่อนตักไอติมละเมียดอย่างมีมารยาท
“แวะดูของขวัญให้ลูกหน่อยนะครับ” ชวนไปโซนเด็ก ตั้งใจซื้อของขวัญให้ลูกสักชิ้น
ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ อีกเหตุผลที่บังคับกระสวยให้มาด้วย ปล่อยเป็นหน้าที่แม่ลูกเค้าเลือกกันเองตามสะดวก
เจ้าหญิงน้อยคว้าตุ๊กตาหมาราคาร่วมสองพันอย่างถูกใจ ผมทำหน้าที่จ่ายอย่างเดียว
เป็นปกติคงหน้าซีดกับราคาที่ต้องควักแบบนี้ เผอิญโบนัสออกแล้ว ได้หกเดือนตามอายุงานที่ผมทำมาร่วมแสนเศษๆ
เลยทำให้ไม่คิดมากเท่าไหร่จัดให้ได้ ออกจากโซนของเด็กมายังเสื้อผ้าสตรีต่อ
“สวย..พี่อยากให้เลือกชุดใส่ไปงานเย็นนี้ กระโปรงสวยใส่ไหม”
เสือกอยากให้เธอแต่งหญิงเต็มสตรีม อยากเห็นเหมือนกัน
“มันแพงนะคะพี่คร” อาการผีประหยัดเข้าสิงทันควัน
“เถอะน่า พี่ให้เป็นของขวัญลองเลือกดู พี่อยู่กับลูกเอง” พูดจบผมพาเจ้าหญิงน้อย
มือไม่ยอมปล่อยตุ๊กตาหมาตัวโปรด มานั่งรอตรงเก้าอี้ ปล่อยกระสวยสอบถามพนักงานตามสบาย
เห็นหายเข้าไปในห้องลองชุด
สายตากวาดมองเรื่อยเปื่อย ทางเดินนอกร้านหญิงสาวสวยเดินควงแขนหนุ่มวัยกลางคน
ท่าทางบ่งบอกเป็นอะไรกัน จะไม่รู้สึกสะดุดเลย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่..แก้ว!! จังหวะสายตาเธอมองมาเห็นผมจ้องอยู่
แอบเห็นสีหน้าเธอดูตกใจนิดๆ รีบเบือนหนีพาผู้ชายคนนั้นไปจากบริเวณนี้ทันที
คงกลัวเข้าไปทักสินะ เห็นแบบนี้ไม่มีทางทักหรอก รู้ไม่ลำบากก็ดีใจด้วย ผมกับลูกผ่านมาได้ตั้งเจ็ดเดือน
ลงตัวแล้วครับ ไปได้ดียินดีด้วย อย่างน้อยเธอก็มอบของขวัญสำคัญในชีวิตให้ผมคือ ‘ลูก’
“เออ..พี่ครคะชุดนี้..?” กระสวยสวมชุดที่เข้าไปลอง เป็นชุดเดรสเข้ารูปสีดำกำมะหยี่สายเดี่ยว
มีเสื้อคลุมน่ารักสีแดงเอวลอยแบบบอดี้สูทไว้สวมทับอีกที ดูเธอเป็นสาวไฮโซขึ้นทันตา
“เหมาะกับสวยมาก” ไม่ได้แกล้งอวย ดูสง่างามราศีจับ
“ถ้างั้นสวยเลือกชุดนี้นะคะ” ผมพยักหน้าให้ ก่อนลุกไปจ่ายตังค์ที่เคาน์เตอร์ ระหว่างเธอกลับเข้าห้องลอง
ชิงจ่ายก่อนกลัวมีปัญหาออกตัวช่วยจ่ายขึ้นมา พานทำผมขายหน้าพนักงานเปล่าๆ นิสัยขี้เกรงใจของเธอผมเดาทางถูกแล้ว
“ชุดที่ผู้หญิงเมื่อกี้ใส่เท่าไหร่ครับ” สอบถามปั๊บ พนักงานไปหยิบบาร์โค้ดมาแจ้งราคาทันที
เผลอพูดเต็มปากเต็มคำแทนเธอว่าผู้หญิงไม่ยักกระดากเลยเหะ พนักงานยังไม่เห็นสงสัยว่าเธอใช่หรือไม่ใช่
“สองพันห้าร้อย ราคาลด 50% ฉลองปีใหม่ของทางร้านเราค่ะ” คิดไว้แล้ว ลองราคาเต็มกระสวยคงไม่กล้าซื้อแน่
ชุดเดียวห้าพันเงินเดือน 1 ใน 4 เชียวนั่น นิสัยขี้เกรงใจไม่มีทางเอาเด็ดขาด ต่างกับแก้วต่อให้ไม่มีตังค์กินขอได้แต่งตัวก่อน
ทำเล็บทำผมทุกอาทิตย์
“เรียบร้อยค่ะ” ผมยื่นเงินให้พนักงานเสร็จ กระสวยออกมาพอดี
“เออ..พี่ครจ่ายแล้วเหรอคะ” สีหน้าแบบนี้ต้องรีบตัดบท
“ครับ..ส่งชุดให้น้องเค้าใส่ถุงเถอะจะได้รีบกลับ” เร่งตัดจบดีที่สุด เธอยอมส่งชุดให้พนักงานพับใส่ถุงยี่ห้อร้าน
ถือเป็นการพามาช็อปปิ้งครั้งแรกในรอบเจ็ดเดือนก็ว่าได้
กลับถึงบ้าน ผมแยกเข้าห้องอุ้มเจ้าหญิงน้อยมาเล่นที่ห้องด้วย ถือตุ๊กตาหมาไม่ยอมห่าง
นัดกระสวยหกโมงเย็นออกไปงาน ตอนนี้ขอเล่นกับลูกให้เต็มอิ่มก่อน
จวนสี่โมงเจ้าหญิงน้อยที่ไม่ได้นอนกลางวันก็หลับไปเรียบร้อย ได้เวลาผมงีบตามลูก
ขอพักร่างกายเอาแรงให้สดชื่นหน่อย
มาตื่นเพราะนาฬิกาที่ตั้งปลุกตอนห้าโมงครึ่งดังขึ้น รีบปิดเสียงหันมองลูกที่นอนอยู่ข้างๆ
ยังหลับสนิทไม่มีวี่แววจะตื่น ลุกอาบน้ำเสริมหล่อ
วันนี้ไปแบบมีระดับหน่อย กางเกงยีนส์ยี่ห้อดังน้อยครั้งเอามาใส่ เสื้อยืดคอปกสีขาวทับด้วยสูตรน้ำตาลดีไซด์เท่
รองเท้ามาติโนสีเดียวกับสูตร เซทผมเล็กน้อยคนที่อยู่ในกระจกก็หล่อจนอดยักคิ้วให้ตัวเองไม่ได้ ผมไม่ได้บ้าหลงรูปตัวเองนะ
คนรอบข้างต่างหากที่ยกให้ผมหน้าตาดีที่สุดในบริษัทฯ ความจริงมีสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งโสดไม่โสดทอดสะพานให้ไม่น้อย
อดีตทำให้ผมขยาดกับความผิดพลาด เลยไม่คิดเดินขึ้นสะพานเหล่านั้นต่างหาก
“จันนา พี่รบกวนไปอยู่เป็นเพื่อนกระแตที่ห้องหน่อย ไว้กลับจากงานเลี้ยงเธอค่อยกลับห้อง อ่ะนี่รางวัลพิเศษ”
ผมหยิบแบ็งค์ร้อยสองใบให้ จันนาถือเป็นพี่เลี้ยงที่กระแตติดเป็นตังเม
“ได้ค่ะ พี่คร” เธอเป็นสาวลาวที่พูดไทยชัด จัดการธุระเรื่องคนอยู่เป็นเพื่อนลูกเรียบร้อย
ผมตรงไปเคาะประตูห้องกระสวยทันที
“ก๊อกๆๆ พร้อมหรือยังครับ”
“แอ๊ด!!..พี่ครคะ สวยติดปัญหานิดหน่อยค่ะ” เธอแง้มประตูไม่ยอมเปิดเต็มบาน สีหน้าดูลำบากใจเล็กน้อย
กลับไม่สามารถกลบความงามเหนือเครื่องสำอางที่เธอแต่งแต้มได้พอดิบพอดี ตาคมสวยมีสีสันขนตางอนยาว
เป็นแพแบบตาแขก ถูกปัดให้คมหวานกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ริมฝีปากอิ่มมีความชุ่มชื้นด้วยลิปสติกวาวมันสีชมพู แก้มออกสีเรื่ออมส้ม ทุกอย่างบนใบหน้าดูสวยจนผมอึ้ง
ยังไม่นับผมยาวดำขลับที่ถูกเกล้ายกเป็นมวยสูงเผยลำคอระหงนวลเนียน ติ่งหูใส่ตุ้มหูเข้าชุดสร้อยคอทองคำขาวฝังเพชร
แวววาวสะท้อนไฟของจริงแน่นอนผมดูเป็น
“พี่ครคะ” เธอเรียกอีกครั้ง ถึงได้สติ
“สวยว่าอะไรนะ” จำไม่ได้เธอบอกอะไรผม
“สวยติดปัญหาเล็กน้อย รบกวนพี่ครตามจันนาสักครู่ได้ไหมคะ” ปัญหาเหรอ อะไร..?
“สวยมีอะไรครับ” ถามเพราะกังวล
“คือๆ..สวยรูดซิปด้านหลังไม่ได้ค่ะ ตอนลองพนักงานเค้าช่วย พี่ครตามจันนาให้สวยหน่อยสิคะ” รูดซิปเหรอ
“พี่รูดให้ไหม จันนาดูกระแตอยู่ที่ห้องพี่ไม่อยากทิ้งลูกไว้ลำพัง” ปากเร็วกว่าความคิด นึกขึ้นได้เธอคงอาย
เพราะแก้มกำลังขึ้นสีไม่สามารถปิดบังเลือดลมที่สูบฉีดใบหน้าลำคอ แม้แต่หูขาวเล็กๆ เห่อแดงเป็นริ้ว
เริ่มรู้ตัวว่าสร้างความกระอักกระอ่วนให้เธอไปแล้ว
“เออ..โทษทีสวยคงลำบากใจ พี่ไปตามจันนาดีกว่า” กำลังจะผละออกจากประตู
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ครช่วยเถอะ” ปากเธออนุญาตแต่ตาไม่กล้าสบผมสักนิด มีแต่ถอยห่างประตู
ไม่อยากเสียเวลามาก ผมผลุบเข้าไปด้านใน ก่อนบริการเธอตามที่อาสา
พอเห็นเธอเต็มตัวแบบนี้ ไอ้ที่ตะลึงตอนแรกถึงกับพับเก็บไว้เลย รูปร่างขาวผ่องต้นแขนเรียวมน
ไหปลาร้านวลเนียนในชุดกำมะหยี่สีดำขลับผิวเธอกระจ่างขึ้นไปอีก ทำผมเผลอกลืนน้ำลายเลยทีเดียว
ไม่อยากเชื่อนางซินแปลงโฉมจะพริ้งเพราได้ขนาดนี้
“ให้พี่รูดซิปตรงไหน” นึกได้หลังต่างฝ่ายต่างเงียบเป็นครู่ เธอยังไม่ยอมสบตา มีแต่ผิวที่เห่อแดงเอาแดงเอา
ค่อยๆหันหลังให้ช้าๆ ก้มหน้ามองพื้นเหมือนมีสมบัติล้ำค่าอยู่ตรงนั้น เล่นไม่ยอมเงยเสียเลย
“เอื้อก!!” ให้ตายนี่เสียงกลืนน้ำลายผมได้ยินชัดในหู แผ่นหลังเนียนขาวเปลือยเกือบถึงสะโพกยังไม่ได้รูดซิปปิด
ไร้รอยตำหนิไฝฝ้าสักเม็ดไม่มีให้เห็น ผมแอบมือสั่นก่อนรีบสลัดศีรษะปัดความคิดอกุศลทิ้งให้ว่อง ค่อยยื่นมือไปจับซิป
รูดให้อย่างเบามือ เผลอโดนเนื้อนวลขาวตรงหน้าโดยไม่ตั้งใจไปนิดตอนซิปรูดสุดปลายทาง ทำให้รู้ว่าผิวเนื้อตรงหน้า
ละเอียดเนียนเหมือนผิวเด็กทีเดียว
“เสร็จแล้วครับ พี่ออกไปรอข้างนอกนะ” เจ้าของห้องได้แต่พยักหน้ารับไม่หันมาด้วยซ้ำ ต้นคอขาวแดงเถือก
เธอคงเขินมาก อายอะไรกันมีของดีขนาดนี้ ควรภูมิใจถึงจะถูก
ผมลงมาเตร่อยู่ชั้นล่าง สงบสติอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่าน คงห่างเรื่องอย่างว่านานเกินไป กลิ่นกายหอมผิวเนียนขาว
ของกระสวย เป็นภาพติดตาอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีอะไรทำให้ผมกังขากับเพศเธอเลยนี่สิ พานหาคำตอบให้ตัวเองยกใหญ่
หรือผมจะเบี่ยงเบนไปแล้ววะ!
ดันมีความคิดค้าน ภาพที่ผมสัมผัสมันไม่มีส่วนไหนบ่งบอกถึงความเป็นชาย เธอแตกต่างด้านสรีระชัดแจ้งแดงแจ๋
เทียบสาวประเภทสองที่ผมเคยเห็น บางคนสวยไม่แพ้ผู้หญิง แต่เสียงกับลูกกระเดือกเป็นปัญหา
ทำให้ลดคุณค่าความงามลงไปทันที
ต่างจากกระสวยเสียงเธอนุ่มเย็นฟังได้เรื่อยๆ แถมลูกกระเดือกมองไม่ค่อยเห็นด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า เธอเกิดมาผิดเพศหรือไงกัน
“พี่ครคะ สวยพร้อมแล้วค่ะ” เสียงนุ่มดึงสติผมกลับ หันไปดูความงามพิสุทธิ์กระจายรอบร่างระหงบนรองเท้าส้นสูง
เพิ่มความสูงของเธอเกือบเท่าผม ซึ่งสูง 185 ตอนนี้เธอคงราวๆ 178 ละมั้ง
สง่างามเหมาะคำนี้มาก เธองามสง่าดึงดูดสายตาทันที ไม่กล้าจาบจ้วง การวางตัวของเธอทำให้ดูมีคุณค่า
เกินกว่าจะหยอกเอินให้ขำขัน งานนี้ไอ้เป้คงได้ตาค้างแน่ ไม่เฉพาะมันหรอก พนักงานที่แอบขายขนมจีบเธอประจำ
คงไม่ต่างกัน เป็นหน้าที่ผมสินะ ที่ต้องแสดงบท ‘หวง’ คิดถึงตรงนี้แอบสะดุ้งคนเดียว หวงไว้ทำไม
หรือผมไม่ต่างผู้ชายพวกนั้น
“พี่ครคะ” เสียงเรียกอีกครั้ง ทำให้หยุดความคิดทั้งหมดลง
“อืม..ไปกันเถอะ” ก่อนเดินนำเธอออกไปขึ้นแท็กซี่ ตรงไปงาน จะหวงเพื่ออะไรไม่สำคัญ
แต่ผมจำเป็นต้องหวงไว้ก่อนล่ะนะ..?
พี่ครเริ่มจะหวั่นแหละไหวแล้ว ตอนหน้ามี เฮฮฮฮฮฮฮ!!!!!...ฮิ้วววววว!!!!
ใครที่ตามลุ้นตามเชียร์ ได้กำเดาทะลัก...อร๊ากกกก!!!!!
Luk.