ตอน 2 คุณแม่
“คุณแม่ คุณแม่ขา คุณแม่อยู่ไหน กลับมาหาน้องอันดาก่อน คุณแม่ ฮึกๆๆ ฮื่อๆๆ คุณแม่!!” ร่างเล็กแผดเสียงจ้าก่อน ก่อนที่พี่เลี้ยงคนสนิทจะข้ามาปลอบคุณหนูที่ตื่นมาร้องไห้งอแง
“โถ่ คุณหนูขา ไม่เอาไม่ร้องค่ะ ไม่ร้อง” พี่เลี้ยงสาวปลอบเสียงเบาก่อนจะกอดร่างเล็กๆเอาไว้หลวมๆ
“พี่น้อย คุณแม่ละ คุณแม่อยู่ไหน” เสียงเล็กถามทั้งน้ำตา
“โถ่ คุณหนูของน้อย” พี่เลี้ยงบอกสียงเครือ เธอแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อเห็นว่าคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กร้องไห้อย่างหนัก
“คุณแม่ก็อยู่บนฟ้าไงคะ คุณแม่ของคุณหนูเป็นนางฟ้าอยู่บนท้องฟ้า”
“ไม่ใช่ พี่น้อยโกหก คุณแม่ของน้องอันดาเป็นเจ้าหญิงเงือกน้อย เมื่อคืนน้องอันดาเจอคุณแม่ด้วย พี่น้อยโกหก น้องอันดาจะไปหาคุณแม่!!” ร่างเล็กตะโกนลั่นก่อนจะสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยงแล้ววิ่งออกจากห้องทันที
“คุณหนู คุณหนูอย่าไปค่ะ คุณหนู” น้อยร้องเสียงหลงก่อนจะวิ่งตามคุณหนูของเธอไป เธอจะทำยังไง เมื่อทั้งบ้านแทบจะไม่มีใครเลย คุณผู้ชายก็ไปรับคุณหมอที่จะมาตรวจร่างเล็กตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับ
“ใครอยู่แถวนี้บ้าง ช่วยด้วย!!”
ร่างเล็กวิ่งไปร้องไห้ไปจุดหมายคือโขดหินริมหาดที่เธอได้เจอกับ “แม่” เมื่อคืน
“คุณแม่ คุณขา อยู่ไหน กลับมาหาน้องอันดานะคะ น้องอันดาคิดถึงคุณแม่ ฮื่อๆๆๆ คุณแม่ขา” เด็กหญิงตะโกนไปพลางวิ่งไปพลาง เท้าเล็กเหยียบเศษเปือกหอยจนเป็นแผล ทั้งล้มลุกคลุกคลานแต่ร่างนั้นก็ยังคงวิ่งไปที่ริมหาด
“คุณหนูขา อย่าไปค่ะมันอันตราย อย่าไปนะคะ” พี่เลี้ยงสาวที่วิ่งตามมาร้องห้ามก่อนจะเอื้อมคว้าเอวเล็กไว้ได้ ทันก่อนที่ คุณหนูของเธอจะวิ่งลงทะเล
“พี่น้อย ปล่อยน้องอันดานะ ปล่อยสิ น้องอันดาจะไปหาคุณแม่ ปล่อยนะ ฮื่อๆๆ” ร่างเล็กยังคงแผดเสียงลั่นมือน้อยๆระดมทุบเข้าที่มือของพี่เลี้ยงสาวเพื่อให้อีกฝ่ายยอมปล่อย
“คุณหนูขา เชื่อพี่น้อยนะคะ ในทะเลไม่มีคุณแม่ นะคะ ไม่มี” น้อยบอกทั้งน้ำตา แม้ว่าจะถูกคุณหนูตัวน้อยทั้งทุบทั้งข่วนแต่ต่อให้ต้องตายเธอก็ไม่มีวันปล่อยคุณหนูเด็ดขาด
“น้องอันดา!!” เสียงทุ้มเรียกลูกสาวเสียงงดัง ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอด ร่างสูงแทบเสียสติเมื่อกลับมาที่บ้านแล้วไม่เจอนางฟ้าน้อยๆของเขา ยังดีที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวทำให้เขาวิ่งตามมาที่ริมหาดทัน
“น้องอันดา เป็นอะไรคะ ทำไมคนสวยของพ่อร้องไห้” เอ่ยถามเสียงสั่นมือหนายกขึ้นลูบผมลูกสาวตัวน้อยที่ยังคงสะอื้นอยู่ อย่างแผ่วเบา
“คุณพ่อขา เมื่อคืนน้องอันดาเห็นคุณแม่ คุณแม่คือเจ้าหญิงเงือกน้อย” เด็กน้อยบอกเสียงสั่นเครือ ภาพความทรงจำเมื่อคืนย้อมเข้ามาในหัวของร่างสูง วินาทีที่พี่เลี้ยงสาววิ่งมาบอกว่าลูกสาวของเขาหายไป นั้นหัวใจของคนเป็นพ่อแทบหยุดเต้น เขาวิ่งพล่านไปทั่วก่อนจะได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องอันดา และภาพที่เขาเห็นยิ่งทำให้เขาแทบใจสลายเมื่อลูกสาวสุดที่รักกำลังจะวิ่งลงไปในทะเล วินาทีนั้นขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าทะเลจะพรากหัวใจของเขาไปอีกครั้ง ชายหนุ่มกลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูกน้องอันดาคือสิ่งเดียวในชีวิตที่เขามี ถ้าเขาต้องเสียลูกไปอีกคน ชีวิตนี้เขาจะอยู่ได้ยังไง
“จริงๆนะคะ น้องอันดาไม่ได้โกหก คุณแม่อยู่ในนั้น คุณแม่เป็นเจ้าหญิงเงือกน้อย” เสียงเล็กย้ำพลางชี้นิ้วไปที่ทะเลตรงหน้า
“ค่ะ คุณพ่อเชื่อหนู แต่ตอนนี้หนูต้องหยุดร้องไห้แล้วให้คุณลุงหมอทำแผลก่อนนะคะ หนูไม่กลัวคุณแม่เห็นแล้วจะไม่สบายใจเหรอเอาไว้หนูหายดีแล้วเราค่อยไปหาคุณแม่กันดีไหมคะ” ชายหนุ่มบอก พลางเช็ดน้ำตาให้ลูกสาวอย่างแผ่วเบา เด็กหญิงพยักหน้าช้าๆก่อนจะซุกหน้าลงบนอกของผู้เป็นพ่อ
“คุณพ่อสัญญากับน้องอันดาแล้วนะคะ ว่าจะพาไปหาคุณแม่”
“คุณพ่อสัญญาค่ะ”
“หลับไปแล้วเหรอ น้อย” เสียงทุ้มเอ่ยถามพี่เลี้ยงของลูกสาว ที่เพิ่งเปิดประตูออกมา
“ค่ะ คุณผู้ชาย พอคุณหมอตรวจเสร็จคุณหนูก็หลับเลยสงสัยจะเพลียมาก น้อยขอโทษนะคะที่ดูแลคุณหนูไม่ดี”
“ไม่ใช่ความผิดของน้อยหรอก เข้าไปดูอันดาเถอะ ฉันจะไปคุยกับ ไอ้หมอสักหน่อย”
“ค่ะ” พี่เลี้ยงสาวบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องคุณหนูของเธอ
“เป็นไงบ้างว่ะ” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยถามกับเจ้าของบ้านร่างสูง
“หลับไปแล้วล่ะ ขอบคุณมึงมากนะที่มาดู น้องอันดาให้” ร่างสูงบอกับเพื่อนสนิท
“เฮ้ย ลูกมึงก็หลานกูนะ ไม่ดูแลหลานตัวเองกูจะไปดูแลใคร มึงนั่นแหล่ะไหวไหม ดูเหมือนไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนสินะ”
วิชาญ เอ่ยถามเพื่อนสนิทเบาๆ เพราะความเป็นหมอทำให้เขาพอจะจับอาการเครียดของเพื่อนได้
“ไหวมั้ง แต่กูแค่ไม่เข้าใจ เมื่อคืนน้องอันดาเห็นอะไร ทำไมแกถึงบอกว่าเจอ น้ำ ”
“บางทีมันอาจเป็นจินตนาการของเด็กก็ได้นะเว้ย” คนเป็นหมอบอก
“จินตนาการ??”
“บางที น้องอันดาอาจจะคิดถึงแม่ มากเกินไปก็เลยเกิดภาพหลอนมึงเคยบอกกูนิว่า น้องอันดาชอบฟังนิทานเรื่องเจ้าหญิงเงือกน้อย”
“มึงพูดเหมือนลูกกูเป็นบ้า”
“เฮ้ย ไอ้ดล ปากหมานะมึง กูแค่บอกว่ามันเป็นจินตนาการของเด็กเว้ย ไอ้ห่า กูต้องไปแล้วนะตอนบ่ายต้องเข้าเวรอีก มึงก็ดูแลตัวเองด้วยแล้วกันถ้ามึงป่วยขึ้นมา คนอื่นจะยิ่งขวัญเสีย กูไปล่ะ” คุณหมอหนุ่มบอกกับเพื่อนสนิทก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ร่างสูงนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
จินตนาการ
มันจะใช่เหรอ เท่าที่เขาเลี้ยงลูกมา น้องอันดาไม่ใช่เด็กที่จะพูดอะไรเพ้อเจ้อขนาดนั้นและที่สำคัญลูกเขาไม่เคยโกหก แล้วที่น้องอันดาเห็นมันคืออะไร…
ร่างสูงของธราดลค่อยๆนั่งลงข้างเตียงของลูกสาวคนเดียวก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มใสอย่างหมั่นเขี้ยว คืนนี้เป็นคืนแรกในรอบหลายปีที่เขาตัดสินใจเข้ามานอนในห้องของลูกสาว เพราะกลัวแกจะฝันร้ายเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
“อื้อ คุณพ่อขา”
“คุณพ่ออยู่นี่ค่ะ คนสวยของคุณพ่อหลับซะนะคะ” เสียงทุ้มบอกก่อนจะตบหลังของลูกสาวตัวน้อยเบาๆ เป็นการกล่อมนอน
กลางดึกคืนนั้น เสียงเพลงแผ่วดังแว่วมากับสายลมเช่นทุกครั้ง เด็กหญิงตัวน้อยลืมตาโพลงก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นจากที่นอน ร่างเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตัวเองไม่ได้ทำให้คนที่มานอนเป็นเพื่อนตื่น
“คุณแม่ขา น้องอันดาจะไปหาคุณแม่” เด็กหญิงบ่นพึมพำ ก่อนจะแอบย่องลงไปข้างล่างคนเดียว
วันนี้เป็นคืนเพ็ญแสงสีเงินงวงนั้นยิ่งทำให้ร่างขาวที่นั่งอยู่บนโขดหินเปล่งประกายราวกับจะเรืองแสงได้ ผมสีดำขลับที่สะท้อนแสงจันทร์นั้นทำให้น้องอันดาตาโต
“คุณแม่สวยจังเลย”
“คุณแม่ขา” เสียงเล็กๆนั้นเรียกความสนใจจาก ชลัมพุ ได้มากโข เพราะไม่คิดว่า คืนนี้เขาจะได้เจอกับ เด็กมนุษย์ อีกครั้ง
“เจ้าเองหรือ” เสียงใสกังวานนั้นตอบกลับก่อนจะยกยิ้มให้ร่างเล็ก
“ฮึกๆ คุณแม่จริงๆด้วย น้องอันดาไม่ได้ตาฝาด เจ้าหญิงเงือกน้อยคือคุณแม่ของน้องอันดาจริงๆด้วย” ร่างเล็กบอกเสียงสั่น เพราะคืนนี้พระจันทร์ไม่ได้ถูกเมฆบดบังทำให้สามารถเห็นใบหน้านวลนั้นได้อย่างชัดเจน
“อันดา เจ้าพูดเรื่องอะไร เราไม่เข้าใจเลย”
“คุณแม่ขา น้องอันดาคิดถึงคุณแม่มากนะคะ คุณแม่กลับมาอยู่กับน้องอันดาไม่ได้เหรอคะ ฮึก ฮื่อๆๆ” ร่างเล็กถามทั้งน้ำตา ชลัมพุได้แต่เบือนหน้าไปอีกทางเพราะไม่อาจทนเห็นเด็กหญิงตรงหน้าร้องไห้ได้ ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้นะ
“เราเป็นชาย จะเป็นแม่ของเจ้าได้อย่างไร” ชลัมพุพยายามอธิบาย
“ไม่จริง คุณคือแม่ของน้องอันดา น้องอันดาจำได้ คุณแม่ขาไม่รักน้องอันดาแล้วเหรอคะ ฮึกๆๆ ใครๆก็บอกว่า น้องอันดาเป็นเด็กไม่มีแม่ แม่เกลียดน้องอันดา แม่เลยหนีไปอยู่บนสวรรค์”
“น้องอันดาเป็นเด็กไม่ดีหรอคะ คุณแม่ถึงไม่รัก ฮื่อๆๆ ”
ชลัมพุได้แต่ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของเด็กหญิง เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่อยู่ดีๆก็มีมนุษย์มาบอกว่าเขาเป็นแม่ ในชีวิต 250 ปี ที่ผ่านมาเขาเป็นเงือกมาตลอดจะไปมีลูกเป็นมนุษย์ได้อย่างไร
“อันดา เราไม่ใช่แม่ของเจ้า เราเคยบอกไปแล้วว่าชาวเงือกไม่โกหก”
“ฮึก ฮื่อๆๆๆๆๆ คุณแม่ไม่รักน้องอันดาแล้ว แง้ๆ” ยิ่งพูดก็เหมือนว่ายิ่งไปกันใหญ่เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยไม่ยอมรับฟังอะไรเลยสักอย่าง ชลัมพุได้แต่ถอนหายใจก่อนจะตอบเด็กหญิงออกไป
“เอาล่ะๆ เรายอมแล้ว เจ้าหยุดร้องไห้เถอะนะ” เสียงใสกังวานเอ่ยบอก เด็กหญิงยิ้มร่าก่อนจะชูสองแขนขึ้น
“คุณแม่อุ้มหน่อย น้องอันดาอยากให้คุณแม่อุ้ม” แววตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังของเด็กหญิงทำให้ ชลัมพุ ใจอ่อนอีกจนได้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รักและเอ็นดูลูกมนุษย์คนนี้มากเหลือเกิน
“เฮ้อ งั้นก็หลับตานะ” ร่างบางบอกก่อนจะ เดิน ไปอุ้มเด็กหญิงไว้แนบอกแล้วพาไปที่โขดหินที่ไม่สูงมาก
“ลืมตาได้แล้ว อันดา”
“โห น้องอันดา นั่งเหมือนคุณแม่เลย” เด็กน้อยบอกสียงใส เมื่อลืมตาแล้วพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนโขดหินพร้อมกับ “คุณแม่” เด็กหญิงซุกหน้าเข้าที่อกเปือยเปล่านั้นก่อนที่มือเล็กๆจะโอบเอว คนตรงหน้าเอาไว้แน่น
“น้องอันดาคิดถึง คุณแม่มากเลยนะคะ คุณแม่หายไปไหนมา”
ชลัมพุได้แต่ยิ้มแห้งเพราะตัวเขาไม่เคยหายไปไหนอย่างที่เด็กหญิงถาม จึงได้แสร้งพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน
“อันดา อยากฟังเพลงไหม เราจะร้องให้ฟัง”
“อยากค่ะ อันดาอยากฟังเพลงที่คุณแม่ร้องบ่อยๆ แต่อันดาฟังไม่ออกว่ามันร้องว่าอะไร” เด็กหญิงบอกก่อนที่ตากลมโตจะเป็นประกายเมื่อท่วงทำนองหวานปนเศร้านั้นเริ่มขึ้น
ธราดลสะดุ้งตื่นกลางดึกมือหนาจะปัดป่ายหาเจ้าหญิงตัวน้อย หัวใจของคนเป็นพ่อกระตุกวาบเมื่อสัมผัสได้เพียงฟูกที่เย็นชืด
“น้องอันดา!!” ร่างสูงตะโกนลั่น ก่อนที่จะพุ่งตัวออกจากห้องลูกสาวอย่างรวดเร็วจุดหมายปลายทางคงหนีไม่พ้นชายหาดที่ติดกับระเบียงห้องลูกสาว แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ชายหนุ่มกลับได้ยินเสียงคล้ายคนร้องเพลงดังแว่วเข้ามา ยิ่งใกล้เสียงใสกังวานนั้นกลับดังขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นภาษาที่เขาไม่เข้าใจ แต่เขากลับรู้สึกว่าเพลงนี้ “เพราะ” เหลือเกิน ร่างสูงคล้ายตกอยู่ในห้วงความฝันขายาวค่อยๆก้าวตามเสียงนั้นไปเรื่อยๆจนหยุดที่ริมหาดไม่ไกลจากโขดหินมากนัก
“นั่นมัน” ชายหนุ่มเบิกตาโพลงกับสิ่งมีชีวิตที่เห็นอยู่ตรงหน้า เกิดมา 32 ปี สาบานว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็น เงือก เงือกตัวเป็นๆที่กำลังแกว่งหางไปมาตามทำนองเพลง ซ้ำในอ้อมกอดนั้นกลับมี ร่างน้อยๆที่เขาตามหาอยู่ด้วย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน หรือว่าเขาจะฝันไป
“น้องอันดา!!” เสียงทุ้มเรียกลูกสาวเสียงดังแต่คนที่สะดุ้งงกลับเป็นร่างขาวซีดที่นั่งอยู่ แม้ต้องการจะกระโดดหนีเหมือนทุกครั้งแต่ร่างบางก็ทำไม่ได้เมื่อมีร่างน้อยๆร่างหนึ่งกำลังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขน
“แกปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่ปล่อยจะหาว่าไม่เตือน!!” ร่างสูงตวาดลั่นไม่ว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้คืออะไร เขาไม่มีเวลาคิดกลัวทั้งนั้น เพราะน้องอันดาสำคัญกว่าทุกอย่าง
“เราไม่ได้จับลูกเจ้ามา เจ้ากำลังเข้าใจผิด” เสียงใสกังวานนั้นตอบ ก่อนที่ร่างนั้นจะค่อยๆหันหน้ามาช้าๆ ใบหน้าขาวที่สะท้อนแสงจันทร์นั้นทำให้ร่างสูง ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม เมื่อใบหน้านั้นเหมือนภรรยาที่จากไปเมื่อ 3 ปีก่อนราวกับพิมพ์เดียวกัน !!!
................................TBC.............................
มาแล้ว เจ้าค่ะ มาแล้ว
เรื่องนี้บอกเลยนะคะ ว่า การ์ตูน มาก
แฟนซีล้วนๆ หาความจริงลำบาก
แถมดราม่าเป็นพักๆ ตามสไตส์ พิตต้า
ฮ่าๆๆๆ