ตอนที่ 5
มานะกลับมาจากไปเยี่ยมน้องที่บ้าน ดีหน่อยที่ขากลับเขาเจอเข้ากับกรที่กลับมาพอดี เลยได้ติดรถเข้ามา พอถามหาเจ้าขอบ้าน ก็ได้คำตอบว่า คุณเจ้าของบ้านจะกลับพร้อมกับคุณพ่อบ้านมิน มานะเลยไม่ได้เซ้าซี้มาก พอถึงบ้านต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง มานะมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องนอนของดลด้วย คนใบ้จึถือโอกาสนี้เข้าไปทำความสะอาดในห้องทำงาน คนตัวโตด้วยเลย ระหว่างที่ทำงานอยู่เงียบๆไร้เสียงใดๆมานะ เห็นกล่องยามากมายอยู่ในตู้ข้างโต๊ะทำงาน
จะกินยาอะไรเยอะแยะวะคนรวยพวกนี้
ถ้ามานะอ่านภาษาอังกฤษออกเขาจะรู้ว่ายาที่มีมากมายนั้นไม่ใช่วิตามินอย่างที่ตนเองเข้าใจ
"มานะ มานะ คุณดลกลับมาแล้วนะ" เสียงเรียกของคุณพ่อบ้านดังขึ้นมาจากวิทยุสื่อสาร มานะกดตอบรับแล้วส่งเสียงอือๆตอบกลับไป
ลงมาด้านล่างมานะสังเกตเห็นว่าสีหน้าของดลไม่สู้ดีนัก จมูกแดง ตาแดง
"พากูขึ้นข้างบนที"ร่างสูงหันมาหาเพื่อนรักที่วางของลงบนโต๊ะ
"อืม แล้วจะกินข้าวเลยไหม?"
"ไม่ กูอยากนอน" ดลเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งกว่าเดิม มานะคิ้วขมวดอีกรอบ
"แต่ มึงไข้ขึ้นไอ้ดล"มินคงจะลืมไปว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่กันแค่สองคน มานะฟังแล้วแอบตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะเขาพอจะรู้มาอยู่บ้างถึงความสัมพันธ์ของคนในบ้านนนี้
"กู ไม่ ได้เป็นอะไร กูจะนอน"ใช่ดลเอก็คงจะลืมคนที่ไร้เสียงว่ายืนอยู่ด้วย
"มึงนี่ดื้อจังวะ เดี๋ยวกูไปตามพี่เจตก่อน"
"มึงจะตามมันมาทำอะไร กูไม่อยากฟังมันบ่น"ดลพูดอย่างคนหัวเสีย เจตเป็นผู้ช่วยเขาอีกคน แต่ไม่ได้ทำงานกับเขาโดยตรง เจตเป็นตำรวจสายสืบ และเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเขา
"ใครเรียกหากู?"ว่ายังไม่ทันขาดคำ เจตที่พึ่งจะมาถึงก็เดินเข้ามา มานะเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านก็รีบหลบมุม
"เวร! ตายยากฉิบหาย"ดลสบถ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่โซฟารับแขก
"เออ กูตายยาก แล้วมันจะทำไม?"เจตทำเสียงขึ้นจมูก
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะพี่เจต"มินเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆกับดล
"เมื่อเช้า นี่กูคิดว่ากูจะไม่ได้กลับมาเจอพวกมึงแล้วนะเนี้ยะ"เจตบ่นออกมา
"ทำไม งานที่กูให้มันน้อยไป?"
"น้อยพ่อง! กูถามมึงจริงๆนะดลมึงเกลียดอะไรกูปะ? ทำไมชอบสั่งให้กูไปเสี่ยงตายตลอด!"เจตแทบจะกินหัวคนที่สั่งงานเขา ดลยกยิ้มขำ กับท่าทีของรุ่นพี่คนสนิท
"แล้วตายไหม?"ดลถามกลับหน้าตาย เขารู้ว่างานที่เขาให้เจตไปทำมันเสี่ยง แต่ค่าตอบแทนที่เขาให้เจตมันก็สูงตามเช่นกัน
"ตายแน่!ถ้ากูไม่ไหวตัวออกมาเสียก่อน พวกแมร่ง รู้มากฉิบ กว่ากูจะเข้าไปใกล้พวกมันได้"
"แล้วได้อะไรมาบ้าง"ดลรีบเปิดประเด็น ใบหน้าหล่อมีสีหน้าที่เข้มขึ้นทันที
"นี่ไง เอาไปอ่านดู เอ่อ แล้วบัดเล่อคนใหม่มึงอะ กูยังไม่เห็นหน้าเลย" ความจริงเขาได้เห็นหน้าของมานะแล้วตอนที่กรคุยผ่านแชทกลุ่ม แต่เขาอยากจะเห็นตัวจริงมากกว่า คนที่ไอ้ดลเพื่อนรักมันยอมให้แตะตัว
"จะเห็นทำไม?"ใช่จะอยากเห็นทำไม ร่างสูงยืดตัวพิงกับพนักพิงแล้วมองรุ่นพี่ของตัวเองด้วยแววตาขุ่นๆ
"เอ้า ก็อยากทำความรู้จักเอาไว้ ทำไมวะ? หวงเหรอ?"
"หวงอะไร อย่ามาบ้า เดี๋ยวกูตามให้" ความจริงถ้าพวกเขามองไปรอบๆก็จะเห็นว่ามานะยืนรออยู่ที่มุมเสาอยู่แล้ว
"อ่าว มานั่นละ"พอได้ยินว่าดลจะเรียกเขาเลยรีบเดินมาหา"
"อยากเห็นก็เห็นซะ กะอีแค่คนใบ้ จะสนใจทำไมนักหนา"ดลถอนหายใจแรงๆ เขาไม่คิดว่าคำพูดของตนเองจะไปทำร้ายจิตใจขอใครเข้า มานะเม้มปากแน่น กับคำพูดจาที่ออกจะดูถูกเขาจากปากของดล
"น้องใบ้"เจตเอ่ยทักมานะยิ้มรับ
"น้องชื่อมานะ"มินแก้แทนให้
"มานะ ชื่อน่ารักดี"เจตเอ่ยชม น้อยคนนักที่จะมาชมว่าชื่อเขาน่ารัก มานะยิ้มเขิน เพราะเริ่มทำตัวไม่ถูก
"เออ น้องพูดไม่ได้แบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องเหรอวะ?"เจตเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจ
"รู้เรื่องดิ น้องเรียนหนังสือจบมอสาม ใช้วิธีเขียนเอา"มินอธิบาย มานะเลยยื่นสมุดเล่มเล็กที่ตนเองใช้ออกมาให้เจตดู
"โหววว เปลืองตายห่า ทำไมไม่คุยเเชทเอาละ ง่ายออก"เจตเสนอความคิด มานะกำมือนิดๆเพราะตนเองไม่มีโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ใช้ไม่เป็นด้วย
"เออวะ มานะมีไลน์ไหม เฟสก็ได้"มินอ่ยถาม เพราะเขาเองก็ลืมคิดเรื่องนี้เช่นกัน มานะส่ายหน้าช้าๆเป็นการบอกว่าเขาไม่มีของอย่างที่มินบอกหรอก
"อ่าว"เจตอุทานออกมาเบาๆ
"ซื้อไหมเดี๊ยวพี่พาไปซื้อ"เจตบอกออกมาอีกมานะส่ายหน้าพร้อมกับเขียนข้อความลงบนกระดาษ
"ผมไม่เงินเยอะขนาดนั้นครับ ผมต้องเก็บเงินเอาไว้ย้ายบ้านให้น้องๆ" เจตอ่านออกเสียงให้คนอื่นได้ยินด้วย มินพยักหน้าเข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดลเองกนั่งเงียบมาสักพักแล้ว มานะลอบมองเจ้านายขอตนก่อนตาจะเบิกขึ้นนิดๆ แล้วเดินไปหาดลที่นั่งเอนหัวพิงโซฟา มือบางจับลงบนหน้าผากขออีกฝ่ายก่อนจะรีบชักมือออก
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเพื่อนทั้งสอง ปรกติต่อให้ดลหลับลึกขนาดไหนถ้ามีคนเข้าใกล้ ดลจะต้องรู้สึกตัวก่อนและไม่มีทางให้ใครจับตัวได้ง่ายขนาดนี้
คุณดลตัวร้อนมาก!
มานะรีบเขียนสิ่ที่ตนอยากจะบอกให้มินอ่าน มินเองก็รีบลุกมาดูอาการของเพื่อนด้วย
"พี่เจต ช่วยผมแบกมันขึ้นข้างบนที"
หลังจากพาดลขึ้นมานอนด้านบนแล้ว มานะรีบไปหาผ้ากับน้ำมาเตรียมไว้ให้มิน เพราะยังไงก็ต้องเช็ดตัวไข้จะได้ลด แต่มินกลับให้เขาเป็นคนทำให้เพราะมินจะไปเอายา มานะเลยต้องเป็นคนเช็ดตัวให้ดลแทน แม้จะเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายจนชิน แต่ก็ไม่เคยได้สัมผัสแบบใกล้ชิดขนาดนี้ ทำให้มานะอดที่จะใจเต้นไม่ได้ อาการเขินมันก่อเกิดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ มานะสูดลมหายใจลึก พร้อมกับบอกกับตัวเองว่าต้องไม่อิจฉา ใช่ที่เขาใจเต้น ออกอาการเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าแบบนี้ เขาแค่อิจฉา ดลเท่านั้นแหละ!
หลังจากที่คนใบ้เดินออกไปแล้ว ดวงตาที่เคยพับปิดก็เปิดขึ้นมาแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิดลง มุมปากหยักยกขึ้นนิดๆก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง .....
"ข้าวต้มนี่มันร้อนเกินไป"ดลตื่นมาในตอนเช้า อาการไข้เขาลดลงไปมากแล้ว ร่างสูงนอนเหยียดกายบนที่นอนขนาดคิงไซด์ แผ่นหลังกว้างพิงกับหมอน ตรงหน้ามีชามข้าวต้มปลาร้อนๆวางอยู่ แต่เขากลับไม่แตะมันเลยสักนิด มานะมองชามข้าวต้มที่ตัวเองคนเอาไว้จนอุณหภูมิมันลดลงไปแล้วด้วยความสงสัย ว่ามันจะเอาอะไรมาร้อน
"เป่าให้หน่อย" ดลเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าคนข้างกายยังเงียบ มานะเริกคิ้วนิดๆ
จะให้เป่าอะไรวะ?มันอุ่นจนจจะเย็นอยู่แล้วนะนั่น
"ไม่ได้ยินเหรอมานะ เป็นใบ้ไม่พอ?หูหนวกด้วย?" ดลก็ยังเป็นดลอยู่วันยังค่ำต่อให้หล่อเหมือนเทพบุตขนาดไหนก็ต้องมาตายเพราะปากหมาๆของตัวเอง มานะมองค้อนคนปากไม่ดีไปหนึ่งดอกก่อนจะหยิบเอาถ้วยข้าวต้มมาเป่าให้หายร้อน แล้ววางลงที่เดิม
"ป้อนด้วยสิ"
ต้องป้อนด้วย? มือไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย
"เอ้า มาสิ"เมื่อเห็นอีกคนยังยืนนิ่งก็แกล้งขึ้นเสียง
"อืม"มานะขานรับในลำคอ ก่อนจะขยับตัวไปนั่งข้างๆคนป่วย แล้วลงมือป้อนข้าวต้ม ไม่นานก็ดลก็อิ่ม มานะยื่นยาให้พร้อมกับแก้วน้ำ ดลรู้สึกสนุกเวลาได้เห็นสีหน้าง้ำงอของอีกฝ่าย ยิ่งมานะพึมพำกับตัวเองหรือทำปากขมุบขมิบเหมือนจะด่าตนก็ยิ่งชอบ วันไหนโดนอีกฝ่ายมองค้อนหรือมีอาการฝึดฝัด ดลยิ่งชอบ
"สิ้นเดือนนี้จะกลับบ้านใช่ไหม?"ดลเอ่ยถามหลังจากที่มานะเอาจานลงไปเก็บ คนใบ้พยักหน้า
"ให้กรมันเอารถไปส่ง แล้วก็ย้ายของ"ดลพูดจบก็หลับตาลงทันที มานะพยักหน้าตอบเงียบๆเพราะคนที่สั่งไม่ได้รอเอาคำตอบจากเขา สองขาเล็กก้าวออกจากห้องนอนของเจ้านายแล้วเดินลงไปด้านล่าง
"อ้าวมานะ หาตั้งนานแหนะ เอาข้าวไปให้พี่ดล เอ้ย คุณดลมาเหรอ?"ดาวีเดินหามานะทั่วบ้าน เพราะเจ้าตัวหายไปนาน
"อื้อ"
"เ่ออ มานะ วันนี้ช่วยไปซื้อของกับหวีหน่อยนะ"ดาวีรีบบอกจุดประสงค์ของตนเองทันที
"อ่า"
"หวีต้องซื้อของหลายอย่างอะ ไปคนเดียวคงไม่ไหว"มานะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ดาวียืนยิ้มหวานส่งให้คนใบ้ อย่างดีใจ เพราะของที่อามินสั่งให้ตนไปซื้อมียาวเป็นหางว่าว
ตกบ่ายมินกลับมาจากบริษัทก็สลับเปลี่ยนไปดูแลคนป่วยแทนมานะ ที่ถูกดลเรียกใช้ตลอดช่วงเช้า ไม่ยอมให้คนตัวเล็กได้ออกนอกห้องแม้แต่ก้าวเดียว
"มานะไปไหน?"ทันทีที่มินเข้ามาก็เอ่ยปากถามเพื่อนทันที
"ไปซื้อของกับหวี มึงจะเอาอะไรเพิ่ม?"
"เปล่า"ร่างสูงนอนเหยียดกายลงกับที่นอนนุ่ม ในมือข้างหนึ่งมีไอแพดที่เอาไว้ใช้ทำงาน ถึงตัวเองจะป่วยขนาดไหนดลก็ไม่เคยหยุดทำงานเลย มินมองอาการของเพื่อนที่ดูจะติดบัทเลอร์คนนี้เอาการ
"วันนี้ มึงสั่งห้ามพวกคนงานไม่ให้เข้ามาในนี้แล้วใช่ไหม?"ดลละสายตาจากตัวหนังสือตรงหน้าแล้วเอ่ยถามอีกที่ที่กำลังจัดเอกสารอยู่ตรงโต๊ะทำงาน
"อืม บอกแล้ว"
"ยานอนหลับเริ่มใช้ไม่ได้ผลกับกูแล้ว ครั้งนี้มึงล็อกประตูด้านนอกไว้ด้วย กันไว้"หลังจากที่เงียบไป ดลก็เอ่ยกับมินถึงเรื่องของตัวเอง มินละสายตาขึ้นมามองหน้าเพื่อนตัวเอง แล้วพยักหน้าเข้าใจ
"ไปหาหมอไหมมึง ขอยาที่มันแรงกว่าเดิม"มินเสนอ
"ยาแรงแค่ไหน มันก็มีค่าเท่าเดิมไหมมิน มึงก็รู้มันไม่เคยได้ผล บางที่กูก็คิดว่ากูน่าจะหลับไปเลยแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก"ใช่ไม่ว่าเขาจะรักษาหรือขอยารักษาที่แรงเท่าไหร่อาการคลุ้มคลั่งของเขามันก็ไม่เคยทุเลาลงเลย แผลที่กัดกินหัวใจเขามันลุกลามจนยากจะรักษา
"....."
"กูจะได้ไม่ต้องทรมาน พวกมึงก็จะได้ไม่ต้องมาคอยดูแลกูแบบนี้"
"มันต้องมีสักวิธีที่ทำให้มึงหายสิวะดล กูจะหาทางช่วยมึงทุกอย่างเอง ทุกคนพร้อมที่จะช่วยมึงนะ "มินเดินมาตบบ่าเพื่อนรักของตนเองอย่างให้กำลังใจ มินรู้ดีกว่าใครว่าดลต้องทนทุกทรมานขนาดไหนกับโรคที่รักษาไม่หายของตัวเอง เขาต้องทนเจ็บปวดมากมายขนาดไหนกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป
"ขอบใจ"
มานะกับหวีออกมาซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของใช้ในบ้าน แต่สิ่งที่ทำให้มานะสงสัยคือเชือกเส้นใหญ่กับโซ่เส้นหนึ่ง และยาทำแผล หรือไอ้คุณดลมันจับใครมาทรมาน!!
"มานะ เดี๋ยวเราแวะร้านขายขนมตรงนี้ก่อนนะ เราจะซื้อ ทาตไข่ ของโปรดคุณดลอะ"เสียงของหวีดังขัดความคิดบ้าๆของมานะ ร่างโปร่งส่งยิ้มจางๆไปให้ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขนมชื่อดัง ทันทีที่เดินเข้าไปกลิ่นหอมของขนมก็ตีเข้าจมูกของมานะทันที มานะชอบกลิ่นของขนมอบใหม่ มีบางครั้งที่เดินผ่านร้านขนมพวกนี้แล้วมานะหยุดสูดดมกลิ่น แม้อยากจะกินมากเท่าไหร่แต่ตอนนั้นเขาไม่มีแม้แต่เงินที่จะกินข้าว เลยได้แต่ฝันและจินตนาการเอาเท่านั้น
"มานะอยากกินอันไหน เลือกเลยนะคุณดลให้เราซื้อกินได้"หวีบอกกับคนข้างกายโดยที่สายตาไม่ได้ละจากตู้กระจกตรงหน้าแม้แต่น้อย
ให้กินได้เหรอ คนใบ้ลอบกลืนน้ำลาย กับขนมตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจเลือกเอาทราตผลไม้หนึ่งมาชิ้น นิ้วเรียวจิ้มไปที่กระจกตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ หวีเดินมาบอกกับพนักงานว่าจะเอาชิ้นไหนบ้าง ก่อนจะหันไปถามมานะอีก
"เอาอันเดียวเหรอมานะ อันนี้ก็อร่อยนะ"นิ้วเรียวของหวีชี้ไปยังเค้กแครอทด้านหน้า เพราะตนเองมาซื้อขนมร้านนนี้บ่อยเลยรู้ว่าอะไรอร่อยไม่อร่อยบ้าง มานะหยิบเอาสมุดออกมา
(เอาอีกได้เหรอหวี?)
"ได้สิมานะ จะกินกี่อันก็ได้คุณดล เธอให้หมดแหละ คนดลใจดีจะตาย"เสียงเจื้ยแจ้วที่อวยคนเป็นเจ้านายของหวีดังไม่ขาดปาก จนมานะต้องแอบเบะปาก กับเขาไม่เห็นจะใจดีเลย
(งั้นเอา เค้กแครอทอีกอันก็ได้)
"ดีมาก กินเยอะๆนะรู้ไหม มานะน่ะผอมเกินไปแล้ว ดูสิขนาดหวีจับ แบบนี้ยังเจอแต่กระดูกเลย" คนอย่างน้องหวีนี่ปากว่ามือถึงกับเขาตลอด มานะโดนหวีลูบแขน ลูบเอว จนเขาต้องขยับออกห่าง หวีเลยยิ้มขำ แล้วมองเขาด้วยสายตากรุ้มกิ่ม
หลังจากที่กลับมาจากการซื้อของมานะก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปกวนดลที่บ้านใหญ่ ให้เขาหาทำอะไรก็ได้ตามใจ และเย็นวันนั้นทุกคนก็ไม่ออกจากที่พักของตนเลย ทุกอย่างเงียบจนมานะอดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงเอาแต่อยู่ในห้องของตัวเอง ทำไมถึงปล่อยให้คนป่วยอย่างดลอยู่บ้านหลังนั้นคนเดียว
ร่างโปร่งฝ่าฝืนคำสั่งที่ได้รับ หลังจากนอนพลิกไปพลิกมา ทำยังไงก็ไม่อาจจะสลัดความสงสัยและความเป็นห่วงของตนเองลงได้ สองขายาวก้าวออกจากประห้องของตัวเองในเวลาดึกสงัด และมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังใหญ่ ดวงตากลมกวาดมองไปทั่งบริเวณ
มันแปลกมาก แปลกจนเขาคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในบ้านผีสิงหรือเปล่า มันเงียบและวังเวง ไหนแสงจันทร์ที่สาดลงมาอีก วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง มานะเลยไม่ต้องพกไฟฉาย พอไปถึงบ้านใหญ่เขาก็ต้องแปลกใจอีก เพราะในบ้านไม่เปิดไฟเลย เหมือนไม่มีคนอยู่ สองขาเล็กก้าวขึ้นไปตามบันได จุดมุ่งหมายคือห้องนอนของดล แต่ทว่า เขากลับได้ยินเสียง ครางฮึม ๆ อยู่ไม่ไกล เสียงนั้นทำให้มานะรู้สึกขนลุกซู่ เสียงกรีดร้องของความทรมานของใครบางคน เสียงโซ่ดังกระทบกันแว่วมาให้ได้ยิน
หรืออิตาคุณชายนั่นมันจับคนมาทรมานจริง ๆ วะ? ใจของมานะเต้นไม่เป็นสัม ทั้งกลัวและก็อยากรู้ เมื่อขามาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู สิ่งแรกที่เห็นคือโซ่เส้นโตถูกคล้องด้วยกุญแจ
ปึง ๆ ๆ
เฮือกกกกก !!
"ปล่อยกู ปล่อยกู! ไอ้มิน พี่เจต หวี ไอ้กร พวกมึงปล่อยกู!" เสียงตะโกนโวยวายที่มานะจำได้ดี เสียงแบบนี้คือเสียงของดลแน่นอน มานะตาโต พร้อมกับเขย่าประตู และ ออกแรงทุบให้สัญาณกับคนด้านใน
"ใคร! มานะ มานะเหรอ มานะช่วย ช่วยด้วย ปล่อยผมไปที" พอได้ยินว่าอีกคนขอร้องให้ช่วยเขาก็รีบทุบประตูอีก ตาก็กวาดมองหาอะไรที่จะพอทำลายโซ่ตรงหน้าได้
มานะวิ่งลงไปด้านล่างไปหาค้อนมาทุบกุญแจ
ปัก ปัก ปัก เคร้ง! มานะออกแรงทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อทำลายกุญแจ ไม่นานมันก็หลุดออก สองมือเรียงรีบดึงบานประตูออก โดยไม่รู้เลยว่ามีมัจจุราชรอคอยเขาอยู่ด้านใน
ดลถูกมัดกับเตียงด้วยเชือกเส้นหนา มานะจำได้ทันทีที่เห็น เพราะเขาเป็นคนไปซื้อมาเองกับมือ ดวงตากลมตื่นตลึ่งกับสิ่งที่เห็น ดลมีสีหน้าที่ทรมาน ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อจนเสื้อที่ใส่เปียกชื้น ข้อมือมีแผลถลอกจนขึ้นสีแดงขาก็ถูกมัดเอาไว้ ร่างโปร่งรีบแก้มัดให้กับเจ้านายของตัวเองทันที รีบจนไม่ได้มองเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของดล แววตาของคนที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งตรงหน้า เมื่อเขาเป็นอิสระ
"อาาาาา ไอ้ใบ้คนน่ารำคาญ หึหึ"น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นทันทีที่มานะปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามองเจ้านายของตัวเองด้วยแววตาไม่พอใจ
//คนอุตส่าห์มาช่วยแล้วยังจะปากหมาใส่อีก มันน่าเอากระทะฟาดสักทีสองที//
"ไม่น่าโง่เลย มึงมันไม่น่าโง่แบบนี้เลย" รอยยิ้มที่ผิดปรกติของดล ทำเอามานะต้องก้าวถอยหลัง พอสบตามานะก็ใจกระตุกวูบ แววตาแบบนี้ มันเหมืนแววตาของฆาตกร
"...."
"ก็บอกแล้วว่าวันนี้อย่าขึ้นมาที่นี่ ทำไมไม่ฟังคำสั่งไอ้มินมันละ ฮ่าๆ " สิ้นคำหัวใจของคนใบ้ก็แทบจะหลุดออกจากอก เมื่อร่างสูงที่อยู่ไม่ห่าง พุ่งตัวเข้าจับที่ลำคอของเขาแล้วออกแรงบีบ มานะตาเหลือกขึ้นด้วยความหวาดกลัว แม้อยากจะเปร่งเสียงร้องมากขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากใครๆได้ สองมือเล็กพยายามจะแกะฝ่ามือที่บีบออก อีกมือก็ออกแรงทุบลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าสวยขึ้นสีคล้ำเพราะเริ่มจะขาดอากาศหายใจ ดลจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสนุก เขาชอบเห็นความทรมาน ยิ่งอีกฝ่ายไม่มีเสียงร้องไห้รำคาญใจอีก เขายิ่งรู้สึกสนุก อยากฆ่าให้ตาย
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ใกล้ตายรึยัง?"น้ำเสียงที่เปร่งอออกมาทำเอาคนฟังตัวสั่น เพราะมันทั้งเย็นชาและไร้หัวใจ ดลคลายแรงบีบออก เพื่อไม่ให้มานะขาดใจตาย เขาลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงนั้นไปยังเตียงนอน ก่อนจะโยนร่างทั้งร่างลงไปแล้วกระโดดขึ้นคร่อมตัวเอาไว้ รวบมือทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัว มานะดิ้นพล่านน้ำตาไหลนอง ความกลัวเข้ากัดกินหัวใจเขาจนไม่เหลือชิ้นดี
"ทรมานฉิบหายเลยวะ กูทรมานมากๆที่ต้องทนอยู่กับความคิดเหี้ย ๆ แบบนี้ มึงรู้ไหม ว่ากูต้องฝันเห็นพ่อแม่กูตายทุกครั้งที่กูหลับตา อาส์ พ่อแม่กูจะรู้สึกทรมานแบบมึงไหมนะ? รถคว้ำเหรอ ฮ่า ๆ ๆ ตอแหลฉิบหาย พวกแมร่งโกหก โกหก!"ความทรงจำร้ายๆในวัยเด็กกำลังถูกเล่าออกมาจากคนตรงหน้า มานะตื่นตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าของซาตาน น้ำตาของซาตานกำลังไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น
"พ่อกูโดนทุบหัวจนหน้าเละ แม่กูโดนตีด้วยไม้จนตาย แล้วอะไรรู้ไหม กูเห็นทุกอย่าง เห็นทุกอย่าง แต่กูช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย" มานะนอนฟังเรื่องราวด้วยความหวาดกลัว ร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่มีเสียง ดลยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่ามานะนั้นร้องไห้อย่างทรมาน
"กูอยากจะทุบหน้าพวกแมร่ง อย่างที่มันทำกับพ่อกู"
ผั้วะ!
"อึ๊ก..ฮืออ"
"มึงเจ็บไหม รู้สึกยังไง เวลาโดนทุบหน้าแบบนี้" ดลเอ่ยถามเหมือนคนอยากรู้ แต่สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมานั้นมันไม่ใช่ เขากำลังสนุกกับการทรมานคนอื่น ดวงตาคู่ผมวาววับพร้อมกับเงื้อหมัดขึ้นสูงอีกครั้งก่อนจะเหวี่ยงมันลงมาที่ใบหน้าของมานะ
"ฮึก อื้ออออ "//เจ็บผมเจ็บมากๆเลย พอแล้วครับคุณดล//เขาได้แต่ร้ำร้อง ให้คนตรงหน้าหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนแบบนี้กับเขา มุมปากมีเลือดไหลซืมออกมา
"ยังมีอีกนะ...มึงต้องได้รู้ว่าพ่อแม่กูรู้สึกยังไง" ร่างสูงลุกออกจากตัวของมานะ แล้วเดินไปยังตู้กระจกที่เก็บ โมเดลของเล่นเอาไว้ ก่อนจะเหวี่ยงหมัดใส่ตู็กระจกนั้นเต็มแรง มานะสะดุ้งเฮือก และตั้งสติ พยายามจะหนีออกจากห้อง แต่ก็ช้าไป ดลตรงเข้ามากระชากผมจากด้านหลังแล้วลากมานะกลับไปที่เดิม มานะกรีดร้องที่ไร้เสียงออกมาด้วยความตกใจ
"หนี เหรอ รู้ไหม ถ้าหนี จะโดนลงโทษนะ"ในมือที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นมีเศษกระจกอยู่ มานะส่ายหน้าไปมาอย่างหวาดกลัว
"มันเอากระจกกรีดหน้าแม่กูด้วย"
"ฮืออออออออ"
"ตอนกูเห็นแม่ก็แค่พูดบอกว่าอย่าส่งเสียง ส่งสายตาให้กูแอบอย่าออกมา กูกลัว กลัวมาก กลัวเหมือนมึงตอนนี้เลยล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
ตอนนี้มานะไม่รู้จะทำอย่างไรให้ดลสงบสติลงได้ เรื่องราวที่เขาได้รับรู้จากปากของดลทำให้มานะโกรธคนตรงหน้าไม่ลง เข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียครอบครัวไป ความโศกเศร้าเสียใจ กับอดีตอันเเสนเลวร้ายหล่อหลอมให้ดลกลายเป็นแบบนี้ มานะร้องไห้ออกมา ปากก็บอกว่าขอโทษ ขอโทษ กับ สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างบางรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายก่อนที่คมกระจกจะกรีดใบหน้าของตัวเอง โถมใส่ตัวของดลไว้ สองแขนโอบกอดคนตรงหน้าและใช้ฝ่ามือตัวเองลูบแผ่นหลังกว้างนั้นเบา ๆ เสียงสะอื้นดังก้องอยู่ข้างหูของดล เขาชะงักค้างกลางอากาศ มือที่กำแผ่นกระจกแตกบีบแรงเข้าหากันจนเลือดไหลนองออกมา
ความเจ็บปวดที่ฝ่ามือทำให้เขาเริ่มมีสติ ความรู้สึกอบอุ่น อ้อมแขนที่อ่อนโยน กำลังปลอบประโลมเขาอย่างช้าๆ ดลก้มหน้าลงกับไหล่เล็กที่สั่นไหว แล้วฝังคมเขี้ยวลงไปจนสุดแรง มานะไม่ได้ผลักให้อีกคนหยุดการะกระทำ เขายังคงลูบแผ่นหลังนั้นไว้ ยังคงกอดดลเอาไว้ไม่ปล่อย
"อึก...ฮึก.." //ไม่เป็นไรนะคุณดล ไม่เป็นไรนะ//
ปัง !!!
"ไอ้ดล!! มานะ!! ชิบหายแล้ว หวีตามหมอมาเร็ว!"
.............................................................................................
ถ้าเขียนให้พระเอกเป็นผีบ้าแบบนี้ยังจะอ่านกันอยู่ไหมคะ 5555555 ปาดน้ำตา รุนแรงเหลือเกิ้นน พ่อคุณ
คำนิยามบ่งบอกถึงตัวตนของคุณดล - คือ เป็นบ้า แล้วปากหมาค่ะ