SPECIAL 01
เพราะอีมูนเป็นเหตุ
“พวกมึงเป็นเหี้ยไรกัน?”
“...”
“...”
เกินครึ่งชั่วโมงแล้วที่ทุกคนรู้สึกได้ถึงความกระอักกระอ่วนเพราะท่าทางของหัวหน้าทีมและสมาชิกใหม่ดูเก้ ๆ กัง ๆ จนระหว่างทางการวางแผนทีมจึงประหลาดซึ่งตุ้บตั้บทนดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“เด็กปีหนึ่งตอนเข้ารับน้องยังไม่ประดักประเดิดเเมือนพววกมึงเลย เอ้า ไหนว่ามาจะยังไง ใครซับ* ใครเข้าป่า* ใครแครี่* ใครท็อป*?”
ซับ (Support) = ตำแหน่งช่วยเหลือเพื่อนในทีมเป็นหลัก ไม่เน้นฆ่า
เข้าป่า (Jungle) = สายตัดขาดจากโลกใบนี้เพราะตีแต่ครีปในป่าฟาร์มเงิน จะออกมาสู้กับชาวบ้านอีกทีก็ตอนมีของแล้ว
แครี่ (Carry) = ตำแหน่งความหวังของทีม แต่จะเก่งช่วงกลาง ๆ ถึงปลายเกม ต้องได้รับการดูแลจากเพื่อน ๆ เอาง่าย ๆ เป็นตำแหน่งพระเอกที่จะรุ่งหรือร่วงก็ขึ้นอยู่กับว่าทีมได้เปรียบมากน้อยแค่ไหน และคนเล่นตำแหน่งนี้สามารถฟาร์มหาเงินได้ไวมากเท่าไหร่
ท็อป (TOP) = ตำแหน่งดูแลเลนบน (ฝั่งซ้าย)
“พี่ธีร์บอกกูเล่นมุกจองท็อปเพราะเป็นตัวปังในวงการไม่ได้เลย”
“แต่ที่ว่างอยู่ก็มีแค่ตำแหน่งนั้นนะครับพี่แหลม คนไม่หล่อแบบพี่ธีร์ก็เล่นได้”
“โซ่”
“5555555555555555555555555” ทุกคนระเบิดหัวเราะออกมาโดยไม่มีใครห้ามใคร พอเป็นเรื่องกระทืบซ้ำคนล้มพวกเขาก็ไม่เคยที่จะพลาดเลยทีเดียว
ไอ้แจ็คนั่งอมยิ้มชอบใจหลังจากเห็นว่าคนในทีมสนุกไปกับการยำไอ้ธีร์ บอกตามตรงว่าตอนแรกเท็นตื่นเต้นและดีใจสุด ๆ จนแทบเก็บสีหน้าไม่อยู่ แต่พอต้องเผชิญหน้ากันจริง ๆ ทั้งเขาและไอ้ธีร์ก็เกิดอาการเลิ่กลั่กหาความเป็นตัวเองไม่เจอ
มันประดักประเดิดอย่างที่พี่ตั้บว่านั่นแหละ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ก็เขากับไอ้ธีร์ยังไม่ชินการหันหน้าเข้าหากันดี ๆ โดยไม่ต้องพูดจาค่อนแคะหรือง้างหมัดซัดหน้ากันเป็นการทักทาย
“ไอ้โซ่เข้าป่าแหละ มันดูมีสติสุดแล้วในนี้ แถมฟาร์มเงินไวด้วย” ไอ้เด็กฝรั่งคงพยายามดึงกลับเข้าเรื่อง แต่สายตาที่มองเขาก็ยังเหมือนเด็กอนุบาลเจอคนแปลกหน้า
“เดี๋ยวกูซับไอ้เท็น ส่วนเชี่ยแหลมให้อยู่เลนกลางไปเพราะมันถนัด” วันนี้ไอ้แจ็คดูจริงจัง สังเกตได้ปากกาที่จดทุกอย่างลงไปในสมุด “ส่วนมึงอยู่บนไหวไหมธีร์?”
“แจกตำแหน่งให้คนอื่นครบแล้วค่อยมาถามกูว่าไหวไหมอะนะ?” ธีร์หรี่ตาเบ้ปากใส่เพื่อนสนิท
“มา กูจะอธิบายให้ฟัง ข้อแรกไอ้แหลม ถึงมันจะจู๊กกากแต่มันตีดอทมาตั้งแต่ตอนที่พวกเรายังไม่ฟอร์มทีมนะมึงอย่าลืม ชั่วโมงบินน้อยที่ไหน อีกอย่างมันถนัดมิดเลน* ด้วย ในนี้คงไม่มีใครคุมซอยเก่งเท่ามันแล้ว ส่วนไอ้โซ่ก็เล่นกับไอ้เจมส์ ไอ้อาร์มตลอด ถึงจะไม่ได้เล่นทุกวันแต่ก็เป็นงานกว่ามึงแน่นอน”
“ทำไมกูรู้สึกเหมือนถูกมึงเรอใส่หน้าด้วยกลิ่นกระเทียมวะเพื่อน?”
มิดเลน (Middle Lane) = ในเกม MOBA คือเลนตรงกลาง
“พูดแบบนี้กูว่าเคี้ยวขี้แล้วพ่นใส่หน้าพี่ธีร์เลยดีกว่า” เด็กฝรั่งพูด
“โอเค๊ กูรับเหตุผลคนอื่น ๆ ได้ ว่าแต่มึงล่ะแจ็ค ไปแอบเล่นจนเก่งกว่ากูตอนไหนหื้อ?” ธีร์นั่งกอดอกเอนหลังพิงโซฟาพร้อมเลิกคิ้วมองระหว่างรอคำตอบ ก็รู้อยู่หรอกว่าไอ้แจ็คเล่นกับไอ้เท็นทุกวัน แต่อยากได้ยินคำตอบที่ต้องงัดออกมาจากปากมันแค่นั้นแหละ อยากให้มันกระอักกระอ่วนเป็นเพื่อนเขาบ้าง
“ก็เล่นไอ้แหลมไง”
“เหวย ๆๆๆๆๆๆๆ มึงโม้แล้วซึมเศร้าแมน มึงเล่นแต่กับพี่เท็นอย่ามาอ้างกู” คนถูกพาดพิงทั้งสองถึงกับนิ่ง ทุกสายตามองเท็นสลับกับไอ้คนหน้านิ่ง ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรถ้าทุกคนจะเข้าใจไปว่าแจ็คตีโดต้ากับเท็นเพราะติดเพื่อน ไม่ใช่เพราะรู้กันหมดแล้วว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนชุบแป้งทอดกัน
“ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าทุกคนเป็นงานหมดยกเว้นมึงคนเดียวน่ะธีร์เกมเมอร์”
“เซ็งจัด” ธีร์แค่นหัวเราะพลางปรายตามองสมาชิกใหม่ “เพราะมึงเลยไอ้เท็น”
“อะไร ทำไมกู?” คนถูกโบ้ยความผิดเลิกคิ้วมองพร้อมชี้หน้าตัวเอง
“เพราะมึงเล้ย ไม่งั้นป่านนี้กูได้เป็นแชมป์โลกแล้ว”
“เหรอ ถึงเจอคนแบบกูอีกร้อยคนแต่ถ้ามึงเก่งจริงก็คงไม่เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยหรอกเปล่าวะ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มึงติ๋มเองชัด ๆ”
“ติ๋มที่หน้า หนึ่ง-หนึ่งได้นะครับกูตบยับอะหัวเกรียนหัวทองหัวเทาก็มาเหอะ”
“อ้าวมาดิครับ เปิดคอมเลย”
“อ้าวมาาาา”
“เม้ง! ยกที่หนึ่ง!” แหลมทำมือตัดฉากตรงกลาง “มุมแดงคือธีร์เกมเมอร์ผู้มีแฟนคลับนับแสนแต่คนเกลียดเกินล้าน ส่วนเท็นสิบอยู่มุมน้ำเงิน อันนี้ด่าไม่ได้เพราะยังไม่สนิทกันเพราะงั้นติดไว้ก่อน แต่ถ้า -- แตก!!! แอนตาซินจะไม่แจกสักบาทเพราะ...?!!!”
“เขาไม่ได้จ่าย” ซึมเศร้าแมน พี่ธีร์ พี่ตั้บ ไอ้โซ่ ต่างก็ตอบประสานเสียงเหมือนนัดกันมาจากบ้าน
“พอเห็นพวกมึงสามัคคีกันแบบนี้กูก็สบายใจ”
“นั่นคำพูดกู” พี่ตั้บโพล่งขึ้นมาแหลมจึงระเบิดหัวเราะลั่น ดั่งใครว่าไว้ว่ามิตรที่ดีคือมิตรที่ตบมุกให้ เหล่าขี้ซุยบราเทอร์คือพี่น้องที่แสนดีกว่าใคร ๆ เพราะไอ้แหลมไม่มีใครคบแล้ว
แจ็คหันไปมองไอ้เท็นที่หลุดขำออกมาโดยไม่รู้ตัวกับมุกไก่กาอาราเล่ บรรยากาศเริ่มถูกผ่อนคลายไปกว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมุกกาก ๆ หรือบทสนทนาไร้สาระและเสียงหัวเราะ ไอ้ธีร์กลับไปพูดจาวอนตีนเหมือนปกติ และแจ็คเข้าใจดีว่าทุกอย่างต้องใช้เวลากว่าไอ้เท็นกับไอ้ธีร์จะหันหน้าเข้าหากันได้ แต่เขาก็รู้สึกดีเหลือเกินที่พี่ตั้บ ไอ้โซ่ ต่างก็ช่วยทำให้ไอ้เท็นผ่อนคลายขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปล่อยให้ไอ้ธีร์ต้องรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง
ส่วนไอ้แหลมอินกว่าใครอื่นเนื่องจากไอ้ธีร์เป็นพี่ชายสุดที่รัก ความรู้สึกด้านลบของมันก็ยังคงมีอยู่เพราะช่วงแข่งปีก่อนที่มีปากเสียงกันพูดจาถากถางหาว่าไอ้แหลมเป็นคนนอกไม่เคยรู้เรื่องตอนมอหก เด็กกะโหลกที่ถูกมองข้ามความรักที่มันมีต่อพี่ ๆ จึงฝังใจมาตลอด ดังนั้นมันจึงไม่มีส่วนของความทรงจำดี ๆ มาหักลบ และคงไม่สะดวกใจรู้สึกด้านบวกด้วยภายในไม่กี่วัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กกวนตีนแต่ก็พอมีเหตุผลอยู่บ้างอย่างมัน แจ็คเชื่อว่าหลังจากนี้อีกสักพักไอ้เท็นจะกลายเป็นพี่ชายอีกคนที่ไอ้แหลมสนิทใจด้วย พอคิดอย่างนี้แจ็คก็รู้สึกดีล่วงหน้าไปแล้ว
“ตกลงไอ้ธีร์คุมเลนบนนะ เคาะตามนี้ ไอ้แจ็คจดเลย”
“วันนี้พี่แจ็คท็อปฟอร์มเหรอวะ ดูเป็นงานเป็นการสุด ปกติเห็นวาร์ปไปดูดหรี่แล้วค่อยมานั่งฟังสรุปทีหลัง” แหลมอดแซวไม่ได้ หรือต้องทำเท่ต่อหน้าเพื่อนเก่า เห็นแล้วอยากหาเรื่องมาแหกหน้ามันจริง ๆ
“พูดถึงเรื่องนี้แล้วกูก็มีเรื่องอยากให้พวกมึงโหวตกันหน่อย” ตุ้บตั้บว่าพลางกวาดสายตามองเด็ก ๆ ทีละคน “เรื่องหัวหน้าทีม”
“พี่ตั้บจะไล่พี่ธีร์ออกเหรอครับ?”
“ยัง!!!” ทุกคนโพล่งใส่น้องเล็กพร้อมกัน และเด็กที่พยายามเป็นคนตลกก็ยิ้มเขินพลางลูบท้ายทอย
“เผลอไม่ได้เลย” แหลมหรี่ตามองรุ่นน้อง ไอ้นี่มันเริ่มร้ายขึ้นทุกวัน
“จริง คราวก่อนก็ Friendly fire* กูไปทีนึง เหตุผลเพราะโดนกูแซวว่าสูงน้อย” ธีร์ระบายความคับอกคับใจ เด็กใสซื่อคนนั้นหายไปแล้ว เดี๋ยวนี้เหลือเพียงเด็กน้อยที่เอามีดจ้วงท้องเขาพร้อมทำหน้าเด๋อ ๆ ไร้ความผิด
*Friendly Fire = ยิงทีมเดียวกันตาย
“กลับมาก่อน เรื่องหัวหน้าทีมทำไมวะพี่ตั้บ?” แจ็คมองนาฬิกาข้อมือ ยิ่งคุยก็ยิ่งเลอะเทอะไปเรื่อย
จริงอยู่ที่เคยชินกับบรรยากาศแบบนี้แล้วเขาก็อยากให้ไอ้เท็นเข้ากับทุกคนได้ แต่มันเพิ่งมาอย่างเป็นทางการครั้งแรกซึ่งแจ็คไม่อยากให้มันรู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับคนพวกนี้จนรู้สึกว่าอีหยังวะเพราะสาระที่หาแทบไม่ได้
“กูว่าจะให้มึงเป็นหัวหน้าทีม DotA” เด็กทุกคนนั่งเงียบรอฟัง ก่อนตุ้บตั้บจะขอสมุดจากแจ็คมาดู “เกมอื่นไอ้ธีร์ก็ยังเป็นหัวหน้าทีมเหมือนเดิม แต่ถ้า DotA กูอยากให้ไอ้แจ็คเป็น เพราะเล่นซัพพอร์ทมันจะมีวิสัยทัศน์กว้างกว่า มีเวลาสังเกตสิ่งแวดล้อม การเคลื่อนไหวได้มากกว่าคนอื่น อย่างหน้าที่ไอ้เท็นคือการพยายามลาสครีป*หาเงินให้ได้มากที่สุดถูกไหม มันไม่ควรละสายตาจากตรงนั้นไปอ่านเกมเลยเพราะจะทำให้เสียสมาธิ และคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน”
*ลาสครีป (Last shot Creep) = คือการฆ่ามอนสเตอร์ในจังหวะสุดท้าย หากทำแบบนี้จะได้เงินไวกว่ามาก
“แล้วตอนแข่งการกุศลที่กูไม่อยู่นี่ใครคุมทีม?”
“ไม่เชิงคุมครับ เหมือนใครเห็นอะไรก็พูด ช่วย ๆ กัน ส่วนใหญ่จะเป็นพี่เท็น เพราะพี่เค้าอ่านเกมเก่งกว่าพวกเราเยอะเลย” โซ่อธิบาย ส่วนพี่แจ็คจะถามไถ่ตลอดว่าต้องการความสะดวกเพิ่มตรงไหนบ้าง พี่เขาจะได้จัดการซัพพอร์ทให้
“ตอนนั้นมันจำเป็นเพราะพวกเราแทบไม่ได้คุยกัน แต่ตอนนี้ถ้ามีใครสักคนมาทำหน้าที่นั้นเต็มตัวมันก็จะดีมาก” เท็นอธิบายอย่างไม่ห่วงเท่อีกต่อไปแล้ว พอถึงตอนนี้เขาก็อยากเล่นเกมให้สนุก มากกว่าจะเล่นเพราะอยากเด่น หรืออยากเอาชนะใครเหมือนอย่างที่เคย
“มึงว่าไงเพื่อน?” ธีร์หันไปถามแจ็คเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากรับหน้าที่นี้ไว้หรือไม่ ก็ไอ้เพื่อนมันเป็นคนไม่ค่อยอะไร ถึงจะชอบเล่นเกม แต่การออกคำสั่งให้คนอื่นทำตามที่ตนเองพูดก็ยังไม่ใช่ทางที่พวกเขาจะคุ้นชิน
“กูไม่ถนัด แต่จะลองดูก็ได้”
“เดี๋ยวช่วย ยังไงก็อยู่เลนเดียวกันอยู่แล้ว” เท็นหันไปให้กำลังใจคนข้างตัวเพื่อบอกให้รู้ว่าการเป็นผู้นำครั้งแรกของแจ็คนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เขาเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว ดังนั้นทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี
แต่ในขณะที่กำลังยิ้มให้กำลังใจไอ้แจ็ค สายตาของทุกคนก็มองมาก่อนที่เท็นจะได้เห็นว่ามันเลิ่กลั่กมากแค่ไหน โอเค คนพวกนี้คงยังไม่ชินกับความสนิทสนมหรือการแสดงความเป็นห่วงด้วยคำพูดไม่ใช่การตบหัวลูบหลังอย่างที่ทำกันขำ ๆ มาตลอด
“เอาเป็นว่าตามนั้น” แจ็คกระแอมไอ และสายตาไอ้ธีร์ ไอ้แหลมที่พร้อมใจกันมองมาอย่างจับผิดเพราะท่าทีแปลก ๆ ของเขานั้นก็ยิ่งทำให้วางตัวปกติไม่ได้
“ส่วนเรื่องเสื้อทีมเดี๋ยวจัดการให้ภายในอาทิตย์นี้นะ เลขข้างหลังชื่อมึงนี่ตัวโอใช่ปะวะหรือว่าเลขศูนย์?”
“ตัวโอบ้านอีแตงอ่อนเรียกตัวเลขเหรอวะพี่ตั้บ -- อ๊า!!! กูหยอกเล่น!!!” ยังกวนตีนพี่ใหญ่ไม่ทันจบไอ้แหลมก็โดนคว้าท้ายทอยด้วยมือเดียว ซึ่งมันก็หดคอไว้เป็นเต่าอยากกลับเข้ากระดอง
แจ็คคิดได้ว่าสาระของวันนี้คงหมดแล้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนทำท่ามองนาฬิกาเพื่อบอกให้พวกขี้กากได้รู้ว่าพวกมันปัญญานิ่มกันมาจนถึงป่านนี้ ซึ่งถ้าได้กลับบ้านไปเล่นเกมหรือนอนเปิดซีรีส์ดี ๆ ในเน็ตฟลิกซ์ดูคงเข้าท่ากว่าเป็นไหน ๆ
“ไรมึงไร วันนี้วันศุกร์” <- ไอ้ธีร์
“กูทำงานมาทั้งวัน กูจะรีบกลับไปพักผ่อน มึงมีไร?” <- ไอ้แจ็ค
“บ้านใคร ถ้าบ้านพี่เท็นกูไม่นับว่าเป็นการพักผ่อนเพราะพวกมึงต้องหาเกมเล่นแน่ ๆ ใช่ไหมพี่ตั้บ?” <- ไอ้เด็กฝรั่ง
“การเล่นเกมก็เป็นการพักผ่อนนะครับ ถึงบางครั้งจะเหนื่อยบ้างแต่ก็ยังสนุกอยู่ดี” <- โซ่
“แล้วพวกมึงเสือกอะไร มันจะค้างบ้าน จะไปเปิดห้องตีหรี่ก็เรื่องของมันไหม?” <- พี่ตั้บ
“ผมทิ้งหมากับแมวไว้ที่บ้านอะพี่ ปกติต้องให้ข้าวเย็นแล้ว” ไม่ชินกับการโกหก และตอนนี้เท็นก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าทำไมถึงอยากหาเรื่องกลับบ้านนัก แค่เพราะไอ้แจ็คพูดออกไปแบบนั้นเลยทำให้รู้สึกว่ามันอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนน่ะเหรอ เออ ใช่ก็ได้
“แบบนี้ต้องรีบกลับเลยนะครับ สงสารน้อง” โซ่หันไปพูดกับพี่ ๆ แม้ว่าธีร์กับแหลมจะยังแสดงสีหน้าออกอย่างชัดเจนว่าอยากรั้งให้อยู่ด้วยกันก่อน แม้ว่าสาระสำคัญจะคุยกันเสร็จไปแล้ว และคงมีเวลาเตรียมตัวซ้อมอีกหลายวัน แต่ทุกคนก็ชอบบรรยากาศที่มีกันและกันมากกว่า
“ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็ไลน์มานะ”
“เป็นหัวหน้าทีมได้ไม่กี่นาทีมึงก็เข้มจัดแล้วเหรอวะพี่?” ไอ้แหลมทำหน้ากวนตีน แจ็คจึงยักคิ้วใส่
“คราวหลังเอาหมากับแมวมาด้วยสิครับ เดี๋ยวพี่ช่วยดูแลให้ แต่ขอเป็นวันเสาร์อาทิตย์นะ” ทุกคนหันไปทางคนมาใหม่ที่ไม่รู้ว่าแอบฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ บอสกับแก้วชาร้อนในชุดนอนนั้นต่างจากพวกขี้ซุยฯ แถวนี้มากแค่ไหน ก็คงเป็นท้องฟ้ากับใต้เหวลึก
“ไหนว่างานเยอะต้องเคลียร์ยาว ๆ ไง จังหวะไคลแม็กซ์เมื่อไหร่มีซีนเมื่อนั้นเลยน้า”
“พี่แวะลงมาชงชาเฉย ๆ มีใครตั้งใจซะที่ไหนกันล่ะ อีกอย่างพี่ก็แค่อยากเล่นกับหมาเท่านั้น เราน่ะชอบมองพี่เป็นคนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านอยู่เรื่อย”
“หมายถึงเสือกปะพี่กันต์?”
“ครับ ขอบคุณธีร์มากนะที่ช่วยอธิบายให้พี่” บอสยิ้มขณะสบตากับไอ้คนที่ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากเก็บอาการ
“บอสก็เล่นกับไอ้แหลมทุกวันอยู่แล้ว น่าจะทดแทนหมาไอ้เท็นได้นะครับ”
“อ้าว นี่น้องมึงไงพี่?”
“55555555555555555555555”
คราวนี้หวยลงที่ไอ้เด็กฝรั่ง พี่ ๆ ทุกคนยกเว้นไอ้แจ็คกับสปอนเซอร์ทีมอย่างพี่กันต์จึงโถมตัวไประเบิดหัวเราะหัดหูจนมันต้องเอานิ้วอุดไว้ บรรยากาศแปลก ๆ ไม่คุ้นชินแต่ก็รู้สึกอบอุ่นดี แค่คิดว่าสักวันเท็นจะได้เป็นหนึ่งในบรรยากาศเกรียน ๆ แบบนี้เขาก็อดขำไม่ได้เลย
*
ไอ้แจ็คเลือกกลับบ้านเขามากกว่าจะให้ไปส่งอย่างที่เคยตกลงไว้ อยู่ ๆ เท็นก็กลายเป็นคนพูดน้อยขึ้นมาซึ่งเหตุผลก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้อีกคนเปลี่ยนใจถ้าจะถามถึงเรื่องให้ไปส่ง ใครจะยอมเสี่ยงกัน คนเราควรเสียเวลาไปกับการถามอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ เขาไม่เอาด้วยหรอก
คืนวันศุกร์ในวัยใกล้สามสิบเหมือนตอนอยู่มัธยมตรงไหน เท็นก็คงอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่ามันคือคืนที่เขาอยากใช้เวลาร่วมกันกับไอ้แจ็คมากยิ่งกว่าอะไรในโลกใบนี้ อาจจะเล่นเกม ดูหนัง หรือว่าเปิดฝากระป๋องเบียร์ดื่ม ทุกอย่างมันดีไปหมดขอแค่ใช้เวลาร่วมกันกับมัน
เท็นขอไปอาบน้ำก่อนเพราะเหนียวตัวจากการออกไปทำภารกิจสู้โลกตั้งแต่เช้ายันดึก ระหว่างยืนอยู่ใต้ฝักบัวก็นึกชมตัวเองในใจ ทั้งเรื่องกล้าไปเผชิญหน้ากับบลูโดยไม่รู้เลยว่าเธอจะทนนั่งฟังถึงสามนาทีหรือไม่ และเรื่องกล้าขอโทษแม่จนได้ปลดล็อกความรู้สึก
ชายหนุ่มตระหนักได้แล้วว่าต่อให้เรื่องราวตอนอายุสิบแปดจะรุนแรงต่อใจแค่ไหน วันนั้นเขาเจ็บปวดได้ แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยไปเพราะความโกรธเคืองก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า ๆ เท็นคิดถึงช่วงเวลาที่ได้นั่งกินข้าวกับแม่ ได้เห็นรอยยิ้มของท่าน และอะไรก็ตามที่ลูกชายคนหนึ่งจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับผู้หญิงที่เรียกว่าแม่
ตั้งแต่ขึ้นรถไอ้แจ็คก็ยิงคำถามมาทันทีว่าเขาโอเคดีหรือไม่ ใช่ มันยิ่งกว่าโอเคอีก แต่เท็นไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม ในหัวตอนนี้คิดไปถึงการประชุมทีมครั้งหน้าแล้ว และเท็นตั้งใจไว้จะยิงมุกดูสักครั้งเพื่อให้ตนเองกลมกลืนกับทีมขี้กาก
ในส่วนของเพื่อนทีมเก่าที่เคยเอาเขาไปนินทาด่าว่าเสีย ๆ หาย ๆ นั้นคงไม่จำเป็นต้องติดต่อไปเพื่อขอเคลียร์อะไร เท็นได้เรียนรู้แล้วว่าคำขอโทษของเขามันมีค่าแค่คนที่ต้องการได้ยินมัน ซึ่งคนพวกนั้นก็ไม่ใช่กลุ่มคนที่อยากให้ค่าเสียด้วยสิ
บอกตัวเองว่าบางคนแค่ผ่านมาเพื่อให้บทเรียนกับชีวิต ทั้งเรื่องคาดหวังว่าเพื่อนจะรักและหวังดีด้วย หรือเรื่องที่ทำให้นึกย้อนมองตนเอง เท็นรู้ตัวว่าไม่ใช่คนดีนัก แต่ระหว่างทางก็ใช่ว่าเขาจะหลอกใช้ ถีบหัวส่งใครอย่างที่ชาวเน็ตเอาไปพูดปากต่อปากจนกลายเป็นนิสัยติดตัวเขา เท็นเคยเป็นคนดีที่ให้ใจเพื่อนเกมเมอร์ด้วยกัน แต่นั่นก็ก่อนที่เขาจะจับได้ว่าความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อน บางครั้งมันก็มีไว้ฉาบหน้าคำว่า ‘ผลประโยชน์’
โดยรวมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จะโทษว่าพวกนั้นแย่อย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเท็นเองก็เลือกเข้าหาความสัมพันธ์แบบนั้นด้วยความเต็มใจเช่นกัน... งั้นเอาเป็นว่าเจ๊า ๆ ไปจะได้ไม่มีอะไรติดค้าง อะไรที่ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อย เพราะตอนนี้เท็นรู้แล้วว่าควรทุ่มเทความจริงใจให้กับใคร
“โอ๊ย!!!”
เสียงดังมาจากด้านล่างเรียกความสนใจคนที่กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่บนห้อง เท็นเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะลงบันไดไปเพื่อพบว่าไอ้แจ็คกำลังล้างมืออยู่ในครัวโดยมีพี่ซันนั่งเป็นกำลังใจให้อยู่ห่าง ๆ
“เป็นอะไรวะ?”
“ลูกสาวมึงข่วนน่ะสิ” พูดจบแจ็คก็หันไปโชว์ร่องรอยบาดแผลจากเล็บแมว และพอรู้ว่าเขาเจ็บตัวไอ้เท็นก็รีบตรงเข้าเข้ามาประคองมือไปดูใกล้ ๆ แม้ว่าจะแผลเล็กนิดเดียว แต่ถ้าเป็นเรื่องเขาไอ้เวรนี่ก็พร้อมจะเนื้อเต้นตลอดเวลาเลยสินะ ทำไมไอ้เท็นมันน่ารักจังวะ งงเหี้ย ๆ
“แมวกูเป็นไรมากไหม?”
“...”
แจ็ครู้ตัวว่าตอนนี้หน้าคงเหวอโคตร ๆ ไอ้เท็นถึงพยายามกลั้นขำจนไหล่สั่น ชายหนุ่มชักมือกลับพร้อมดีดน้ำหมาด ๆ ใส่หน้ามันแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกพ่ออีแมวตัวร้ายสวมกอดจากข้างหลังเสียก่อน
“โอ๋ ๆ ล้อเล่น”
“ปล่อย กูจะไปจ้วงไส้แมวมึง”
“อย่าโหดดิ นั่นลูกผมกับคุณนะ”
“ถามจริง?” แจ็คเลิกคิ้วมองคนที่ยืนกอดอยู่ข้างหลัง “ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่ลูกคนอื่น?”
“พูดซะกูเป็นแม่สาวสุดแซ่บเลย” เท็นผลักหัวคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว “ถ้าไม่รับเป็นพ่อเด็กก็ออกจากห้องครัวไป”
“มันยังไงวะ ปกติเขาต้องไล่กลับบ้าน” แจ็คขำ นอกจากจะทำเท่ไล่แปลก ๆ แล้วยังกุมมือเขาไว้อีกด้วย
“ไม่ได้อยากให้กลับบ้านก็เลยไล่ออกจากครัวไงวะ” เท็นจับมือเพื่อนสนิทชุบแป้งทอดมาดูอีกครั้ง “เดี๋ยวทายาก็หายแล้ว เลิกบ่นลูก หรือว่าอยากให้ผมพาคุณไปให้หมอจิ้มก้น?”
“ก็แย่ละ แผลแค่นี้หายใจสองทีก็หาย” แจ็คถอนหายใจใส่ไอ้คนที่ยักคิ้วกวนตีนอยู่ข้าง ๆ
“เดี๋ยวพี่เท็นทายาให้เองครับ เบา ๆ ซอฟท์ ๆ ไม่เจ็บ”
“ผมทำเองได้ คุณไม่ต้องเสือก” เขาเอามือดันหน้าอีกฝ่ายออก พอเดินมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นอีมูนนอนอยู่ข้างทีวีพร้อมมองมาเหมือนอยากบอกว่า
‘ไงล่ะมึง ทีหลังอย่าซ่ากับแมวบ้านนี้’
เขาก็แค่อุ้มมาฟัดเพราะมันเขี้ยว แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะผิดจังหวะไปสักหน่อย มูนถึงได้ดิ้นทุรนทุรายแล้วก็ฝากรอยแผลไว้เป็นที่ระทึกแบบนี้
“ปะ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูช่วย”
“เท็น กูแค่โดนแมวข่วน ไม่ได้เป็นง่อย” เหลือเชื่อเลย ถ้าแขนขาหักก็ว่าไปอย่าง
“เวลาแผลโดนน้ำมันแสบนะ มึงจะอดทนยังไงไหว?” ไอ้เท็นเลิกคิ้วปั้นหน้าพูดเหมือนว่าเรื่องนี้มันใหญ่โตระดับประเทศ
“อย่ามา ถ้าจะพยายามขนาดนี้ทำไมไม่เรียกกูไปอาบพร้อมกันตั้งแต่แรก?” แจ็คเปลี่ยนเป็นคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้พร้อมจ้องหน้าคาดคั้นจะเอาคำตอบ ซึ่งไอ้เท็นก็นิ่งไปก่อนจะอมยิ้มเล็ก ๆ
“เรียกได้... เหรอวะ?”
“...”
“...”
คำถามไอ้เท็นเหมือนได้ถามตัวเองไปด้วย จากบรรยากาศที่เคยฟุ้งไปด้วยความกวนประสาทอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นความกระอักกระอ่วนเพราะทั้งคู่เริ่มมีความคิดว่าการอาบน้ำคนเดียวมันไม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว
“มัวแต่คุย มึงน่ะให้ข้าวลูกหรือยัง?” แจ็ครู้ว่าเป็นการเปลี่ยนเรื่องโง่ ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศชวนเขินตายหายไปได้ มันมีแต่จะเพิ่มระดับความขลาดอาย แต่อีกใจเขาก็อยากวกกลับไปเรื่องนั้นอีกครั้ง
“ให้แล้วดิ จะลืมได้ไงวะเรื่องสำคัญขนาดนั้น” ไอ้เท็นพูดก่อนมันจะจับไปวางบนศีรษะที่ยังไม่แห้งดี “มึงว่ามันเหนียว ๆ เหมือนล้างแชมพูไม่หมดเปล่าวะ...?”
ประโยคนี้เบาจนแทบเหมือนกระซิบ ทั้งคู่ต่างขลาดอายกับสิ่งที่เป็นอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกที่เหมือนจะระเบิดจากอกได้อย่างไร ทั้งที่เคยกอด จูบ หรือทำมากกว่านั้นมาแล้ว แต่บอกตามตรงว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะไม่ตื่นเต้น ไหนล่ะความคุ้นชิน ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกไม่ต่างจากเด็กประถมแอบปิ๊งเพื่อนห้องข้าง ๆ เลย
“อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนซกมกเหรอ?” แจ็คลูบกลุ่มผมคนตรงหน้า ก่อนมือของเขาจะถูกประคองไปจูบหลังมือซ้ำ ๆ
“หายเจ็บนะ”
“...” ยิ่งกว่าการไม่ชินสิ่งที่ทำกับไอ้เท็นก็คือการไม่ชินตัวเองเวลาเขิน ทำไมไอ้เวรนี่มันฮุคหนักจังวะ ทั้งเรื่องถามว่าอาบน้ำด้วยกันได้ไหม ไหนจะไอ้อาการจูบมือโอ๋อีก ถ้ามันมายืนหลับตาทำปากจู๋ใส่เขาก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าตัวเองจะฟอร์มหลุดขนาดไหน
“หายเจ็บยัง?”
“มันจะหายทันทีได้ยังไงล่ะ?” แจ็คยิ้มขำมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ พอเห็นว่าเขายังไม่หาย ไอ้เท็นจึงจูบย้ำลงไปอีก แต่คราวนี้มันพลิกข้อมือแล้วจูบไปทั่วจนเหลือเพียงจุดแมวข่วนเท่านั้นที่ยังไม่ถูกสัมผัส
“หายเจ็บยัง?”
อะไรของมัน ปลอบเป็นเด็กแปดขวบเลยเด็กชายเท็น
“หายเจ็บยัง?” คนเอาใจเก่งเงยหน้าขึ้นถามและทำท่าจะจุ๊บซ้ำทันทีหากเขาตอบว่า ‘ยัง’ แจ็คไม่ได้ไม่ชอบสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำ แต่เขาคิดว่าตอนนี้การยืนเฉย ๆ ให้อีกฝ่ายจูบมือไปเรื่อย ๆ มันคงเสียเปรียบเกินไปหน่อย
“หายแล้ว ทีนี้ยังไงต่อล่ะ?” แจ็คใช้มืออีกข้างยีผมคนตรงหน้าจนยุ่งเหยิง ไอ้เท็นอมยิ้มกลอกตาล่อกแล่กเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ ก่อนมันจะขยับเข้ามาใกล้ราวกับกลัวว่าใครจะได้ยินประโยคต่อจากนี้
“ถ้าหายเจ็บแล้วผมจะเข้าไปเปิดน้ำในอ่าง ระหว่างนั้นคุณก็รีบแก้ผ้าแล้วตามผมเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูสองผืนนะ?”
คนกระซิบก็คงเขินอยู่ไม่น้อย ถึงได้รีบวิ่งเข้าไปด้านในพร้อมส่งเสียงระบายออกมาอย่างนั้น แจ็คยังคงยืนนิ่ง เขาหายใจลึก ๆ พลางเอาหน้าผากทาบกับผนังเผื่อว่าความเย็นของมันจะดูดเอาความร้อนบนใบหน้าออกไปได้บ้าง
ไอ้เท็น ไอ้ฉิบหาย
ต่อให้เคยใกล้ชิดระยะเผาขนกันสักแค่ไหน แต่ไอ้เท็นคิดว่าการแก้ผ้าอยู่ในอ่างน้ำด้วยกันแบบนั้นมันจะจบได้แค่การช่วยเพื่อนถูหลังเหรอวะ ใสซื่อเกินไปแล้ว ถึงจะไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้นแต่ก็ใช่ว่าชาตินี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น ซึ่งตัวเขาเองและไอ้เท็นก็คงมีลิมิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน
เหนื่อยมาทั้งวันแทนที่จะหาเรื่องพักผ่อน อาบน้ำ นอนเล่นเกมหรือดูหนังอะไรก็ว่าไป แต่อยู่ ๆ แจ็คก็นึกขึ้นได้... ว่าพรุ่งนี้แม่งวันเสาร์
“เท็น!”
“ว่า?!” เจ้าของชื่อโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเพื่อนสนิทชุบแป้งทอดอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนพร้อมหัวเข็มขัดซึ่งถูกปลดออกอย่างลวก ๆ
โอเค เท็นเป็นคนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากแกล้งให้ไอ้แจ็คเขินเล่น ต่อให้ตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอดก็เถอะ แต่เรื่องได้กอดได้ฟัดในอ่างถือว่าเป็นกำไรให้ชื่นใจ แต่เขาคงใช้เวลากับการคิดเรื่อยจนเกินไป เพราะพอละสายตาจากหัวเข็มขัดขึ้นไปก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาด้วยแววตาแบบที่รู้ว่ามีไว้มองเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“มาช่วยถอดกางเกงให้ผมหน่อย”
แผลข่วนจากอีมูนช่างสาหัสจนทำให้เพื่อนชุบแป้งทอดถอดกางเกงด้วยตัวเองไม่ได้ เท็นปล่อยให้น้ำอุ่นไหลลงอ่างเบา ๆ ขณะตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย และสุดท้ายเขากับไอ้แจ็คก็โถมจูบใส่กันโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
เสียงน้ำล้นอ่างเรียกความสนใจจากคนที่นอนฟัดจูบอยู่บนเตียง แต่การเดินไปปิดน้ำก็ช่างเป็นเรื่องเสียเวลาเกินกว่าใครคนหนึ่งจะยอมถอนริมฝีปากออก ค่าน้ำจะสักกี่แสนกี่หมื่นกัน มนุษย์โลกทุกคนควรลำดับความสำคัญว่าสิ่งไหนต้องมาก่อนหรือมาหลัง และแน่นอนว่าลำดับแรกไม่ใช่การกังวลเรื่องค่าน้ำซึ่งกำลังไหลไปตามพื้น
มันไหลไป... เหมือนกับมือแกร่งที่กำลังลูบไล้ตามหน้าท้องเพื่อนชุบแป้งทอด
TBC (ในเล่ม)*เงยหน้ามองชื่อตอน*
อะไรดี ๆ โทษแมวไปก่อน แล้วค่อยไปจ่ายค่าน้ำทีหลัง
========================
ปล่อยน้ำไหลทิ้งแล้วกินปากเพื่อนชุบแป้งทอดน่ะแค่น้ำจิ้ม
ส่วนที่เหลือในเล่มก็เตรียมโอ่งไว้รอหนูนะพี่นะ
ส่วนใครที่อ่านจบแล้วคอมเมนท์หรือติดแท็กทวิตเป็นกำลังใจให้คนเหงา 2019 อย่างหนูได้นะคะพี่ ร๊ากกกกกกกกกกก