ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด ตอน9
"กลับมาแล้วเหรอคะหนูบราวป้าเป็นห่วงแทบแย่ คุณชาร์ลก็ใจร้ายไม่ฟังอะไรเลย" ป้าภาแม่บ้านคนเก่าแก่เอ่ยถามบราวนี่ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปว่าเจ้านายตัวโตที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย พอโตขึ้นมานี่ก็ไม่ฟังใครเลยเอาความคิดของตนเองเป็นที่ตั้งตลอด ส่งผลมาถึงโชวาที่ได้นิสัยคนเป็นพ่อมาเต็มๆ เวลาอยากได้อะไรต้องได้ให้สมดังใจ
"โธ่! ป้าภาได้ทีว่าผมใหญ่เลยนะครับ ผมรู้ตัวว่าผิดครับ" ชาร์ลหันไปคุยกับป้าภาด้วยท่าทางเขินหน่อยๆ เพราะค่อนข้างจะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้
"รู้ตัวก็ดีค่ะ โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล" ป้าภายังไม่หยุดบ่นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังบราวนี่ คนที่พอจะพูดจะเตือนอะไรชายหนุ่มได้ก็มีแต่ป้าภานี่แหละ เพราะไม่ว่าเธอจะด่าจะว่าเขายังไง ชาร์ลก็ไม่เคยเถียง เพราะป้าภาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ชายหนุ่มมี
"ครับๆ เข้าใจแล้วครับ"
"แล้วโชวาล่ะครับ" บราวนี่ที่ยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองคนสักพักเอ่ยขัดขึ้น เพราะตั้งแต่กลับมายังไม่เห็นโชวาเลยด้วยซ้ำ
"หลับไปแล้วค่ะ ทานยาเข้าไปคงเพลียด้วย"
"น้องบราวกลับมาแล้วเหรอ" เอกวิ่งออกมาจากด้านในทันทีที่เห็นบราวนี่ก็ร้องออกมาเสียงดัง ไม่ได้เกรงใจคนเป็นเจ้านายที่ยืนปั้นหน้านิ่งอยู่ข้างๆ เลยสักนิด
"กลับมาแล้วครับพี่เอก" บราวนี่หันไปยิ้มให้บอดี้การ์ดหนุ่มที่วิ่งกระหืดกระหอบออกมาจาด้านใน โดยมีเพื่อนสนิทอีกคนเดินนามเป็นเงาตามตัวแทบจะตลอดเวลา
"ไม่น่าจะกลับมาเร็วเลย น่าจะให้ง้อซะให้เข็ด" เอกบ่นออกมาเบาๆ หวังให้ได้ยินกันแค่สองคนกับบราวนี่ แต่อีกคนกลับหูดีซะเหลือเกิน จนเอกหุบปากที่กำลังเตรียมจะพูดแทบไม่ทัน
"เจ้าเอก" เสียงเรียกเหมือนเป็นคำเตือนจากเจ้านายหนุ่มกลายๆ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับทำเมินซะอย่างนั้น
"ครับเจ้านาย" เอกลอยหน้าลอยตาตอบไม่ได้รู้สึกรู้สากับการตะคอกเตือนเมื่อสักครู่เลยสักนิด เพราะเอกอยู่กับชาร์ลมาตั้งแต่เด็กชายหนุ่มจึงดูแลเหมือนเป็นคนในครอบครัวอีกคน
"กฤตเอาเมียนายไปจัดการซิ" เอกถึงกับตาค้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าเจ้านายจะรู้เรื่องของเขาและบอดี้การ์ดคนสนิทอีกคน ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนตุ๊กตาที่ลืมไขลานอ้าปากค้าง ตาเหลือกถลนมองชาร์ลนิ่งในทันที
"หมายความว่ายังไงครับ" บราวนี่ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย ก่อนจะหันไปถามชาร์ลที่ยินยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงด้วยเลศนัยบางอย่างส่งให้เอก จนบอดี้การ์ดหนุ่มต้องเดินมาหลบหลังกฤตทันที
"ก็หมายความว่าเจ้าเอกมันเป็น...." ชาร์ลไม่ได้ตั้งใจจะพูดจริงๆ หรอกแค่แกล้งให้คนสนิทปากดีเลิกพูดจาไม่เคารพว่าใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องก็เท่านั้น
"ถ้าเจ้านายพูดนะ ผมจะ...ผมจะ...." เอกไม่รู้จะหาคำอะไรมาขู่เจ้านาย
"จะอะไร ห๊ะ" ชาร์ลเหมือนกับยิ่งได้ใจ หันไปถามคนที่อยู่ดีๆ ก็เหมือนน้ำท่วมปากขึ้นมาซะอย่างนั้น
"ผมจะร้องให้จริงๆ ด้วย" คำพูดของเอกเรียกเสียงฮาจากผู้คนรอบข้าง คนในบ้านรู้ถึงความสัมพันธ์เกินเพื่อนของบอดี้การ์ดคู่หูดี แต่ไม่มีใครพูด ยิ่งเรื่องที่เอกเป็นเมียกฤตยิ่งไม่มีใครกล้าพูด เพราะเอกก็เป็นผู้ชายแมนๆ คนหนึ่ง จะมีก็แต่เจ้านายของเขานี่แหละที่ล้อเขาอยู่คนเดียว
"พามันไปเก็บได้แล้วกฤต" กฤตกระตุกยิ้มร้ายให้อีกคน ก่อนจะดึงมือเอกให้ตามมา อีกคนยื้อไว้สุดแรงแต่กลับสู้พลังช้างสารของคนที่ตัวใหญ่กว่าไม่ได้
"ปล่อยกูนะไอ้กฤต กูบอกให้ปล่อยไง" เสียงเอกดังแว่วๆ จากทางเดิน ก่อนจะค่อยๆ เงียบหายไป
"ถ้าอย่างนั้นผมขึ้นไปพักผ่อนแล้วนะครับ" บราวนี่หันไปบอกชาร์ลทันทีหลังจากที่คนอื่นลับตาไปแล้ว เพราะไม่อยากอยู่กับร่างสูงเพียงลำพัง
"อืม" ชาร์ลมองตามตาละห้อยแต่ทำอะไรไม่ได้
บราวนี่มีห้องส่วนตัว ติดกับห้องเจ้าตัวแสบ เพราะร่างเล็กต้องอยู่ที่นี่อีกนานจึงต้องมีห้องส่วนตัวเป็นของตนเอง แต่ถ้าวันไหนต้องไปพักที่บ้านตนเองคือทั้งสามคนต้องนอนด้วยกันเพราะชาร์ลบังคับอย่างไม่มีทางเลือก
ตอนนี้ความรู้สึกของคนตัวเล็กมันไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไหร่ จะบอกว่าหายโกรธเรื่องเมื่อตอนเย็นมันก็ไม่เต็มร้อยเปอร์เซนต์ แต่ถ้าถามว่ายังโกรธมากขนาดนั้นไหมก็ไม่ใช่ มันอาจจะหลงเหลือแค่ความน้อยใจที่ชาร์ลไม่คิดจะถามเขาเลยตอนเกิดเรื่องก็เท่านั้น
อีกเรื่องที่บราวนี่ยังงงกับตัวเองก็คงจะเรื่องที่ยอมนั่งรถไปกับชาร์ลง่ายๆ เขาพาไปไหนก็ยอมไปหมด ใจง่ายชะมัด ร่างเล็กได้แต่บ่นตัวเองในใจ ตั้งแต่รู้จักกับร่างสูง บราวนี่รู้สึกถึงความไม่ปกติที่เกิดขึ้นในจิตใจของตัวเองบ่อยๆ ทำไมต้องใจเต้นแรงเวลาที่อีกคนเข้าใกล้ แล้วทำไมชอบคิดถึงแต่จูบวาบหวามที่เคยได้สัมผัสจากคนตัวโตก็ไม่รู้ 'จะแรดไปไหมวะเรา'
โชวางัวเงียตื่นขึ้นในเช้าของอีกวัน ก่อนที่จะสอดส่ายสายสายตาหาอีกคนที่เคยนอนด้วยกันแทบจะทุกคืนกลับไม่เจอ ตาดวงน้อยสั่นไหว กระพริบตาปริบๆ อยู่บนที่นอน เด็กน้อยใจหายที่คนสำคัญไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ สมองน้อยๆ จำได้เลือนลางว่าคนเป็นพ่อด่าบราวนี่เรื่องที่ตนเองทำจักรยานล้มจนอีกคนหน้าเสีย ไม่ใช่ความผิดบราวนี่เลยสักนิด แต่เป็นความผิดของโชวาเอง โชวาเรียกหาบราวนี่เท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
"ฮึก...ฮือออ..บราว จะหาบราว" เด็กน้อยร้องให้จ้าเสียงดังขึ้นทันที ก่อนจะลงจากเตียงนอน ค่อยๆ เดินกะเผลกออกมาเปิดประตู มองหาจนทั่วกลับไม่เจอใคร มือป้อมๆ ยกปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะเดินไปหน้าห้องนอนของบราวนี่ทันที
"บราว...ฮึก..โชวาจะหาบราว" เด็กชายตัวน้อยร้องให้เสียงดังจนบราวนี่ที่กำลังหลับสบายต้องวิ่งออกจากห้องของตนเอง ภาพที่เห็นทำให้ร่างเล็กอดที่จะวิ่งเข้าไปหาไม่ได้
"โชวาเป็นอะไร" บราวนี่วิ่งเข้าไปหาเด็กน้อยทันที
"บราว..ไปไหนมา...ฮือออ" โชวาพุ่งเข้ากอดบราวนี่ทันทีที่ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ
"นอนอยู่ห้องนี่ไง ไม่ได้ไปไหน จะร้องให้ทำไม่เนี่ย" ปากก็บ่นเจ้าเด็กแสบ แต่มือบางกลับปาดน้ำตาให้เจ้าตัวไม่หยุด
"แดดดี๊ไล่..ฮึก..บราว โชวานึกว่าบราวไปแล้ว"
"ถ้าไปแล้ว คนที่นั่งอยู่กับเด็กตัวแสบนี่ใคร"
"บราวววว เจ็บ..ขา ฮึก..." เด็กแสบชี้ไปที่เข่าที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อยู่ เด็กน้อยเปลี่ยนเรื่องในทันที เพื่อเรียกความสงสารจากอีกคน อีกทั้งยังไม่อยากคุยเรื่องความผิดของตนเองที่ยังไม่ได้สะสาง
"ก็ซนไง บราวบอกแล้วไม่เชื่อ" บราวนี่ว่าเด็กน้อยที่ตนเองทั้งเอ็นดูแล้วก็หมั่นใส้ในคราวเดียวกัน
"เชื่ออยู่...แต่มันสนุกนี่"
"สนุกแล้วเจ็บตัวอีกต่างหากใช่ไหม ยังจะมาเถียงอีก ทีหลังจะไม่บอกแล้ว" บราวนี่พูดทีเล่นทีจริงกับโชวา ที่ตอนนี้ไม่ได้สะอึกสะอื้นเหมือนตอนแรกแล้ว เหลือแต่คราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มย้วยๆ เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
"อือๆ เจ็บเป่าให้หน่อย" บราวนี่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มลงเป่าแผลที่มีผ้าก้อซพันไว้ จนไม่รู้ว่าแผลลึกมาน้อยแค่ไหน
"ไม่คุยด้วยแล้วนะถ้าดื้ออีก"
"ไม่เอา บราวอ่ะ" โชวากระเง้ากระงอดบราวนี่ทันทีที่โดนอีกคนพูดแทงใจดำ
"ชิส์ เจ้าเด็กแสบ" มือเล็กผลักหัวเด็กแสบเบาๆ ก่อนที่จะก้มลงมองเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ตื่นมาก็หาเรื่องอ้อนแต่เช้า แต่ไม่รู้ว่าอ้อนอะไร อ้อนมือหรืออ้อน...
"อ้าว! ตื่นมาทำอะไรกันแต่เช้าเนี่ย" ชาร์ลที่นอนหลับลึกจนเช้า ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันหน้าห้องจึงออกมาดู รู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้จะวุ่นวายดีซะเหลือเกิน แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกมีความสุขและสนุกมากกว่าที่เคยเป็นอยู่
"ท่าทางจะหลับสบายนะครับ" บราวนี่เอ่ยถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ
"อือ ..หลับลึกเลย" ชาร์ลที่ไม่ทันได้คิดอะไรจึงตอบร่างเล็กไปตรงๆ
"อ้าว! แล้วไอ้โรคนอนไม่หลับนี่หายแล้ว" บราวนี่เอ่ยอย่างรู้ทัน หลังจากที่หลอกถามคนเจ้าเล่ห์มาสักพัก
"เอ่อ...มันเพลียก็เลยหลับ" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่มั่นคงทำให้บราวนี่รู้ในทันทีว่าที่ผ่านมาชาร์ลหลอกตัวเองมาตลอด
"หึ..แก้ตัว"
"เปล่า" ชาร์ลปฏิเสธไม่เต็มเสียง เพราะอีกคนนี่จ้องจะจับผิดดีเหลือเกิน จนเขาที่ว่าเจ้าเล่ห์บางที่ยังไม่ทันความคิดของอีกคน หรืออาจจะโกหกเยอะไปหน่อยเลยลืมคำพูดตนเอง
"แดดดี๊ โชวาโกรธ" โชวาเอ่ยขัดบทสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองขึ้น ชาร์ลถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนบราวนี่ได้แต่ฮึดฮัดอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่กำลังจะจับโกหกได้อยู่แล้วเชียว
"โกรธเรื่องอะไรแต่เช้า"
"แดดดี๊ว่าบราวเมื่อวานนี้" ชาร์ลที่พยายามทำเหมือนเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้นแล้วเชียว แต่ลูกชายตัวน้อยกลับมากระตุ้นความรู้สึก ให้อึดอัดกันตั้งแต่เช้า จนเขาต้องหันไปมองร่างเล็กที่ตอนนี้นั่งนิ่งเหมือนรอคำตอบจากปากของชาร์ล
"แดดดี๊ขอโทษบราวแล้ว" ชาร์ลหันไปหาร่างเล็กที่ตอนนี้เหมือนจะเงียบลงไปอีกครั้ง สีหน้านิ่งขึ้นเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่พูด
"บราวไม่โกรธแดดดี๊แล้วเหรอ" เด็กน้อยก็พาซื่อหันไปถามบราวนี่ในทันที
"อืม" บราวนี่ตอบผ่านๆ เพราะไม่อยากจะเก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจแล้วเหมือนกัน รังแต่จะไม่สบายใจไปเปล่าๆ บรรยากาศตอนนี้ไม่ได้มาคุเหมือนเมื่อวาน แต่กับแฝงด้วยความอึดอัดในใจของผู้ใหญ่ทั้งสองคน
"แดดดี๊ทำผิดต้องโดนลงโทษ" โชวาเสนอความคิดเห็นทำให้ผู้ใหญ่หันไปมองหน้ากันเลิกลั่ก
"ลงโทษอะไรครับ แดดดี๊ยอมทุกอย่างเลย" ชาร์ลพูดเอาใจอีกคนเพราะรู้ว่าถึงแม้ร่างเล็กจะทำเหมือนไม่โกรธ แต่ภายในใจยังค้างคากับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
"บราวววว " โชวาเรียกบราวนี่เสียงดัง เหมือนเป็นการเรียกสติของอีกคนให้กลับมาทันที
"อะไร"
"ทำโทษแดดดี๊สิ" คำพูดไร้เดียงสาของเด็กน้อยทำให้บราวนี่ถึงกับไปไม่เป็น
"ทะ..ทำยังไง" บราวนี่หันไปถามคนที่เสนอความคิดเห็นเรื่องทำโทษในทันที
"ตีไง เวลาโชวาทำผิดแดดดี๊ยังจะตีเลย" โชวาทำท่าทางขึงขังขึ้นมาทันที เพราะคนทำผิดต้องโดนลงโทษ
"ห๋า...ตีไม่ได้หรอก" บราวนี่ร้องออกมาด้วยความตกใจ ช่างเป็นข้อเสนอที่ไม่เข้าท่าซะเหลือเกิน จะให้เขาไปตีอีกคนได้ยังไง เขาเด็กว่าตั้งเยอะ แล้วใครที่ไหนเขาจะตีคนแก่กว่าแบบนี้
"ทำไม" บราวนี่ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี ทำไมเรื่องบางเรื่องเจ้าเด็กแสบถึงฉลาดนัก แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่เข้าใจ
"ก็แดดดี๊เป็นผู้ใหญ่แล้ว" ชาร์ลหันไปบอกเด็กน้อยขี้สงสัยทันที
"เวลาผู้ใหญ่ทำผิดเขาห้ามตีเหรอคับ ทำไมตีแต่เด็ก" มันก็จริงนะ ทำไมเวลาเด็กทำผิดถึงต้องตี แต่เวลาผู้ใหญ่ทำผิดทำไมตีไม่ได้ เหตุผลเพียงเพราะคำว่าเด็กกับผู้ใหญ่อย่างนั้นเหรอ ชาร์ลได้แต่หาคำตอบให้ทั้งตัวเองแล้วก็ลูกชายที่ชอบซักถามอะไรให้เขาหาคำตอบไม่ค่อยจะได้อยู่บ่อยครั้ง
"ไม่ใช่แบบนั้นครับลูก บราวนี่ช่วยตอบหน่อยสิ" ชาร์ลโยนให้บราวนี่ตอบในทันที อีกคนทำท่าอึกอักก่อนที่จะหันไปทำตาถลนใส่อีกคนด้วยความไม่พอใจ
"เอ่อ...ผู้ใหญทำผิดเขาลงโทษอย่างอื่น"
"ทำยังไงคับ"
"เขาลงโทษโดยการให้พาไปเที่ยว" ชาร์ลที่คิดหาทางออกได้รีบบอกลูกชายทันที เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว จะให้เอาไม้เรียวมาตีเขาคงจะไม่เข้าท่า
"จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นแดดดี๊ทำผิดบ่อยๆ นะคับ โชวาจะได้ไปเที่ยว" เด็กน้อยกระดี้กระด้าทันที ที่ตัวเองจะได้ไปเที่ยว
"ทำผิดบ่อยไม่ดีหรอกครับ คนเราต้องรู้จักแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดให้ดีขึ้นเข้าใจไหมครับ"
"เข้าใจคับ"
"เอาเป็นว่าวันนี้แดดดี๊จะพาไปเที่ยวเพื่อเป็นการไถ่โทษแล้วกันครับ แต่แดดดี๊ขอเคลียร์งานช่วงเช้าก่อน ค่อยไปบ่ายๆ นะครับ"
"ดีคร้าบบ" โชวาตอบรับเสียงใส หันไปยิ้มให้บราวนี่ทันที ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวของแต่ละคนในช่วงเช้า
*****************
บราวนี่และโชวานั่งดูหนังในห้องดูหนังขนาดใหญ่ กว่าจะตกลงกันได้ว่าจะดูเรื่องอะไรก็กินเวลาไปหลายนาที เพราะพอโชวาเลือกเรื่องนั้น บราวนี่กลับไม่อยากดู กลายเป็นว่านั่งเลือกหนังนานซะจนเกือบทะเลาะกัน
"บราวคนนี้เขาเป็นใครอ่ะ" โชวาเอ่ยถามเมื่อถึงฉากที่ตัวร้ายกำลังจะลอบฆ่าพระเอก
"ตัวร้ายไง ดูหนังยังไงไม่รู้เรื่อง" บราวนี่หันมาว่าเจ้าตัวแสบไม่จริงจังนัก ก่อนจะหัรไปสนใจหนังตรงหน้าต่อ
"ก็โชวายังเด็ก บราวต้องอธิบายสิ"
"เด็กแก่แดดสิไม่ว่า" ดูหนังไปก็ทะเลาะกันไป ช่างเป็นคู่ที่ไม่เคยพูดกันดีๆ เลยสักครั้ง
ดูหนังยังได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องต่างคนก็ต่างหลับ บนโซฟาเบดตัวใหญ่ ขาเจ้าเด็กแสบพาดก่ายเอวบางที่นอนหันหน้าเข้าหา ส่วนบราวนี่ก็กอดโชวาหลับสนิท กอดกันกลมดิ้กจนผู้ที่ย่องเข้ามาใหม่ถึงกลับอดยิ้มไม่ได้
กว่าชาร์ลจะเคลียร์งานเสร็จก็เกือบเย็น ทั้งๆ ที่ตอนแรกสัญญากับลูกชายตัวน้อยแล้วว่าจะพาไปเที่ยว แต่ตอนนี้คงไปไม่ได้แล้วเพราะพรุ่งนี้ชายหนุ่มมีประชุมสำคัญที่ไม่สามารถเลื่อนนัดได้
ร่างสูงใหญ่นั่งลงข้างๆ บราวนี่ก่อนจะแอบหอมแก้มนุ่มของคนหลับทันที ความรู้สึกของชาร์ลในตอนนี้มันเทียบไม่ได้กับรักครั้งเก่า มันไม่เหมือนกันสักนิด ความรู้สึกในครั้งนี้เพียงแค่ได้เห็นคนที่ตนเองให้ความสำคัญรักกันดูแลกันกลับทำให้เขามีความสุข ชาร์ลมองร่างเล็กที่หลับสนิทก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเพราะความน่ารักที่ไม่เหมือนใคร ชายหนุ่มก้มลงพรมจูบที่ข้างแก้มใสอีกรอบ คราวนี้ช่างอ้อยอิ่งเสียเหลือเกิน จนคนที่โดนขโมยหอมแก้ม ส่งเสียงครางอู้อี้ด้วยความรำคาญก่อนจะลืมตาปรือๆ จ้องมองใบหน้าคมที่ก้มลงแทบชิดกับกับริมฝีปากเล็กด้วยความตกใจ มือบางยกขึ้นดันอกแกร่งให้ถอยออกไปแต่ชาร์ลกลับขยับเพียงเล็กน้อย
"ว้า! ตื่นซะแล้ว" ชาร์ลพูดเหมือนเสียดายที่คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้ลวนลามมากกว่าน
"คะ..คุณขยับออกไปครับ" บราวนี่เอ่ยเสียงติดขัดเพราะริมฝีปากอีกคนอยู่ใกล้จนแทบจะชิดกับร่างบางอยู่แล้ว
"อยู่แบบนี้ดีแล้วพี่ชอบ ลืมรึยังไงที่เราตกลงกันไว้" ชาร์ลชอบให้คนตัวเล้กเรียกเขาว่าพี่มากกว่าที่จะมาเรียกคุณแบบนี้ มันดูห่างเหินกันเกินไป
"เปล่า..แต่โชวาก็นอนอยู่ข้างๆ" บราวนี่เหลือบไปมองเด้กน้อยที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ลูกหลับไม่ได้ยินหรอกครับ" ชาร์ลไม่ได้กลัวเจ้าตัวแสบเห็นเลยสักนิด จะเห็นก็เห็นไปสิ ลูกชายของเขาจะได้รู้ว่ากำลังจะมีแม่ใหม่
"ไม่เอา แล้วก็ลุกขึ้นได้แล้ว จะมานั่งคล่อมผมไว้ทำไม"
"ขอพี่จุ๊บก่อน ไม่อย่างนั้นก็จะนั่งอยู่อย่างนี้แหละ" ชาร์ลดื้อดึงที่จะทำให้ได้ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมเหมือนกัน ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยแล้วจะมาทำแบบนี้กันบได้ยังไง
"โชวาก็อยู่ เดี๋ยวตื่นมาเห็นจะทำยังไง"
"จะเห็นได้ยังไงหลับสนิทขนาดนี้"
"ไม่ครับ ห้ามรุ่มร่ามนะ"
"นะครับๆ น้องบราวคนดี" ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆหลบตาคนที่ทำหน้ากรุ้มกริ่มส่งมาให้
"ทำไมชอบแกล้ง"
"ไม่ได้แกล้ง แต่จะจูบจริงๆ" ชาร์ลก้มลงบดขยี้ริมฝีปากบางทันที บราวนี่ไม่กล้าขัดขืนเพราะโชวายังคงหลับอยู่ข้างๆ กลัวว่าจะตื่นขึ้นมาเห้นอะไรที่ไม่สมควรเห็น ก่อนที่จะถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดาย
โชวาที่ตอนแรกนอนหลับสนิท กลับตื่นขึ้นมามองการกระทำของผู้ใหญ่ทั้งสองนิ่งๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกตุ เด็กแสบมองพ่อตัวเองจูบอีกคนอยู่อย่างนั้น จนคนเป็นพ่อถอนจูบจากราวนี่โชวาจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
"แดดดี๊กัดปากบราวทำไม บราวเจ็บรึเปล่า" ผู้ใหญ่ทั้งสองคนหันไปมองเด็กแสบแทบจะทันที ตื่นตั้งแต่ตอนไหน บราวนี่ตกใจจนหน้าถอดสีเพราะไม่รู้จะตอบเด็กชายตัวน้อยว่าอย่างไร
"แดดดี๊ไม่ได้กัดปากบราวนะครับ แค่ชิมว่าปากบราวหวานไหม" ชาร์ลหันไปตอบลูกชายตัวน้อยทันที ไม่ได้สะทกสะท้านหรือรู้สึกผิดอะไรเลยที่ทำให้เด็กสี่ขวบเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นในวัยแค่นี้
"คุณชาร์ล!" บราวนี่ร้องปรามคนที่ไม่รู้จักคิด ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง
"จริงเหรอครับ แล้วหวานไหม โชวาชิมได้รึเปล่า" เด็กแสบหันไปถามพ่อด้วยความอยากรู้
"หวานมากเลยครับ แต่โชวาชิมไม่ได้หรอกยังเด็กอยู่ ถ้าโตเท่าแดดดี๊แล้วถึงชิมได้" บราวนี่นั่งอ้าปากค้างกับคำพูดของชาร์ลที่กำลังสอนลูกชายแบบผิดๆ แต่เขาก็ไม่รู้จะตอบเด็กน้อยว่ายังไงเหมือนกันเรื่องจูบ
"เสียดายจังเลย" โชวาทำท่าทางเสียดายที่ไม่ได้ชิมปากหวานๆ ของบราวนี่
"คุณชาร์ลลุกขึ้นได้แล้วครับ" บราวนี่ผลักคนตัวโตให้ลุกขึ้น ก่อนจะหันไปคุยกับโชวา
"โชวาห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะครับ"
"ทำไมล่ะครับ"
"เดี๋ยวคนอื่นจะอยากชิมบราวนี่เหมือนแดดดี๊น่ะสิ แดดดี๊หวง"
"แดดดี๊เก็บบราวไว้ชิมคนเดียวเหรอ"
"ครับลูก"
"คุณชาร์ลเลิกสอนอะไรแบบนี้ให้โชวาสักที จะบ้ารึไงครับโชวายังเด็กอยู่นะ แล้วก็เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว" บราวนี่หันไปด่าคนตัวโตที่ไม่รู้จักสอนสิ่งดีๆ ให้ลูกชาย แต่ชาร์ลไม่สนใจคำบ่นของร่างเล็กเลยสักนิด นั่งลอยหน้าลอยตายิ้มกริ่มราวกับคนบ้า
"เอาไว้เราทำอีกตอนอยู่กันสองคนดีกว่าเนอะ" นอกจากไม่ได้สำนึกแล้วชาร์ลยังหันมากระซิบกระซาบให้ได้ยินกันแค่สองคนกับบราวนี่อีกต่างหาก
"ใครเขาจะไปทำแบบนั้น เลิกพูดได้แล้ว" บราวนี่ทำปากขมุบขมิบด่าอีกคนเบาๆ เพราะกลัวว่าโชวาจะได้ยิน
"แดดดี๊จะพาไปเที่ยวใช่ไหมครับ" เจ้าเด็กแสบยังไม่ลืมสัญญาที่คนเป็นพ่อบอกไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า พอนึกขึ้นได้ก็ทวงทันที
"วันนี้คงไปไม่ได้แล้ว เอาไว้ไปอาทิตย์หน้านะแดดดี๊จะเคลียร์งานให้เสร็จ แล้วค่อยไปกัน" ที่จริงชายหนุ่มไม่ได้อยากผิดสัญญากับลูกชายตัวน้อยเลยสักนิด แต่ด้วยงานที่ยุ่งจนล้นมือทำให้ต้องเคลียร์ให้เสร็จ
"ทำไมล่ะ แดดดี๊ผิดสัญญา" โชวาตัดพ้อคนเป็นพ่อด้วยท่าทางผิดหวัง ทั้งๆ ที่จะได้ไปเที่ยวแล้วแท้ๆ เลย
"แดดดี๊ขอโทษ แต่รับรองอาทิตย์หน้าแดดดี๊พาไปจริงๆ ไปนอนค้างด้วยสามวันเลย ขอแดดดี๊เคลียร์งานให้เสร็จก่อน รับรองว่าคราวนี้ไม่เบี้ยวแน่นอน"
"ไปที่ไหนครับ" โชวาตื่นเต้นขึ้นมาทันที ที่จะได้ไปเที่ยวตั้งสามวัน
"ไปทะเลดีไหมครับ ว่าไงครับบราว"
"แล้วแต่สิ"
"เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ แต่วันนี้แดดดี๊จะพาไปทานข้าวข้างนอกกันดีไหมครับ"
"ดีๆ โชวาอยากกินอาหารญี่ปุ่น" โชวายิ้มร่าด้วยความดีใจ ที่จะได้ไปเที่ยวทะเล แล้วยังได้ทานอาหารอร่อยๆ อีก
"แล้วบราวล่ะ" ชาร์ลหันมาถามความคิดเห็นของอีกคน ไม่อยากให้บราวนี่คิดว่าเขาทำอะไรเอาแต่ใจเกินไปทั้งๆ ที่ตนก็ยังอยู่ด้วย
"ครับผมชอบอาหารญี่ปุ่น"
"ไปล้างหน้าแต่งตัวครับจะได้ไปกัน"
******************
"โชวาจะกินซูชิเยอะๆ กุ้งเทมปุระ แล้วก็โซบะเย็น" เสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วเรื่องเมนูอาหารขณะอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จนแม้แต่พนักงานยังอดเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้
"บราวทานอะไรครับ"
"เอาชีสซี่แซลมอนเอบูริซูชิ ที่หนึ่ง ข้าวแกงกะหรี่ โอโคโนมิยากิ มากิซูชิ แค่นี้ครับ" ชาร์ลหันไปมองร่างเล็กที่สั่งราวกับพายุ ตัวเท่านี้จะกินหมดหรือยังไง
"ทานหมดเหรอครับ สั่งเยอะจัง" ชาร์ลหันไปถามบราวนี่ที่สั่งอาหารโดยไม่ดูเมนูเลยสักนิด สงสัยจะมาทานร้านนี้บ่อย
"ไม่รู้ แต่อยากกินหลายๆ อย่าง"
"งั้นผมเอา ข้าวหน้าปลาไหล........" อาหารทยอยมาเสริฟ ทั้งบราวนี่และโชวาต่างพากันก้มหน้าก้มตาทานเมนูของตนเอง จนชาร์ลต้องเตือนให้ค่อยๆ ทานทั้งสองคน ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัวกับนิสัยที่เหมือนกันของแฝดคนละฝา ก่อนจะหันมาทานอาหารของตนเองบ้าง
"ชาร์ลค่ะ" เสียงหญิงสาวปริศนาเรียกชาร์ลมาแต่ไกล จนทั้งสามคนที่กำลังทานอาหารอย่างมีความสุขหันไปทางต้นเสียงแทบจะทันที ผู้หญิงผิวขาว แต่งตัวเซ็กซี่ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยสีสันจัดจ้าน จนไม่เห็นใบหน้าจริงว่าเป็นอย่างไร เรียวปากบางถูกแต่งเติมด้วยลิปสติกสีแดงสด เดินยิ้มเต็มใบหน้าตรงมายังโต๊ะของเขาในทันที
"ดีใจจังเลยค่ะที่เจอชาร์ล มิกะคิดถึงคุณจังเลย พึ่งรู้นะคะว่าชอบทานอาหารญี่ปุ่นด้วย" หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทีมีจริตจะก้านจนเกินงาม จนร่างเล็กเผลอเบะปากออกมาด้วยความหมั่นใส้
"คุณมิกะมาทานอาหารเหมือนกันเหรอครับ" ชาร์ลเอ่ยถามไปตามมารยาทเพราะมิกะเป็นลูกสาวของนักธุรกิจดังในประเทศ อีกทั้งชาร์ลยังต้องติดต่อเจรจาการค้ากับพ่อของเธอด้วย ชายหนุ่มจึงไม่อยากมีปัญหาและทักทายไปตามความเหมาะสมเท่านั้น
"ร้านนี้เป็นร้านโปรดมิกะเลยล่ะคะ ถ้ารู้อย่างนี้มิกะชวนชาร์ลมาทานบ่อยๆ ดีกว่า" มิกะยืนคุยกับชาร์ลแต่สายตากลับแอบเหล่มองร่างเล็กที่นั่งทานอาหารอยู่เงียบๆ
"ผมไม่ได้ชอบอาหารญี่ปุ่นหรอกครับ ลูกชายผมกับบราวนี่เขาชอบเลยพามา" ชาร์ลเอ่ยไปตามความจริง ก่อนจะหันไปมองสองคนที่นั่งทานอาหารเงียบๆ โดยไม่สนใจผู้มาใหม่เลยด้วยซ้ำ
"มิกะนั่งด้วยนะคะชาร์ล พอดีมาคนเดียว" หญิงสาวเอ่ยขอออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาชาร์ลไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง
"เชิญครับ" บราวนี่และโชวาเงยหน้าขึ้นมองชาร์ลแทบจะพร้อมกัน
"แดดดี๊ครับโชวาไม่อยากนั่งกับคนอื่น" เจ้าเด็กแสบเอ่ยขึ้นในทันทีที่หญิงสาวนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆชาร์ลอีกตัว
"อย่าเสียมารยาทครับลูก" ชาร์ลหันไปเตือนลูกชายที่เสียมารยาทกับผู้ใหญ่
"ลูกชายชาร์ลน่ารักจังเลยนะคะ แล้วอีกคนนี่ใครคะ" มิกะหันไปพูดเสียงหวาน ส่งยิ้มหวานให้กับโชวา ทั้งๆ ที่เธออยากจะขย้ำคอเด็กแสบที่บังอาจมาว่าเธอแบบนั้น
"บราวนี่ครับเป็นพี่เลี้ยงของโชวา" แม้ว่าชาร์ลไม่อยากจะบอกอย่างนี้แต่ความสัมพันธ์ของเขาและบราวนี่มันยังไม่ชัดเจนพอที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้
"ไม่ใช่ซะหน่อย เป็นคนสำคัญของแดดดี๊แล้วก็โชวาต่างหาก"
"ผมเป็นพี่เลี้ยงโชวาครับ" บราวนี่เน้นคำว่าพี่เลี้ยงให้ชาร์ลได้ยินชัดๆ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากจะประชดชาร์ลก็ไม่รู้ ความน้อยใจตีตื้นขึ้นมาในทันที ใช่สิเขามันแค่พี่เลี้ยงโชวานี่นาไม่ได้มีความสำคัญอะไร
"ทำไมชาร์ลให้พี่เลี้ยงน้องโชวามาทานอาหารด้วยล่ะคะ ควรให้เขาทานที่อื่นจะดีกว่านะคะ" หญิงสาวเอ่ยหยันคนตัวเล็กที่นั่งมองชาร์ลด้วยสายตาตัดพ้อ
"ป้าอย่ามาวาบราวนะ บราวเป็นคนสำคัญของโชวา" โชวาหันไปถลึงตาใส่หญิงสาวด้วยความไม่พอใจที่บังอาจมาว่าบราวนี่ของเขาแบบนี้ได้ยังไง
"โชวาอย่าเสียมารยาท"
ปกป้องผู้หญิงคนนั้นสินะ บราวนี่ได้แต่บอกตัวเอง ก่อนจะเลิกสนใจคำพูดที่รังแต่จะทำให้คิดมากเกินไป หันไปคุยเล่นกับโชวาแค่สองคน ปล่อยให้ชาร์ลอยู่กับผู้หญิงคนนั้นน่ะดีแล้ว
****************
จบตอนแล้วนะคะ งานเข้าป๋าชาร์ลเต็มๆ งานนี้จะแก้ตัวยังไงดีล่ะ
ยังไม่ได้แก้คำผิด เดี๋ยวมาทวนให้อีกทีนะคะ
ไม่รู้ว่าน่าเบื่อไปรึเปล่าตอนนี้
TBC.