—(••÷[พ่อสื่อ]÷••)— ตอนที่45-..รักนะ.. END P.15 140215 [รบกวนย้ายไปห้องจบเลยคะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: —(••÷[พ่อสื่อ]÷••)— ตอนที่45-..รักนะ.. END P.15 140215 [รบกวนย้ายไปห้องจบเลยคะ]  (อ่าน 153457 ครั้ง)

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2015 23:18:04 โดย minime »

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ตอนที่1-สมัครงาน


เหตุ...มันเกิดจาก ‘เนปจูน’ กำลังว่างๆงานนอกจากเวลาเรียน
และเหตุ...มันเกิดจากที่อยู่ๆก็มีคนรู้จักแนะนำงานงานหนึ่งให้เขาลองทำ
ซึ่งพอแค่ได้ยินชื่อเขาก็สนใจทันที ด้วยทั้งหมดทั้งมวล จึงนำพาให้เขามาที่บ้านสองชั้นหลังนี้


เขายืนกดออดหน้าบ้านอยู่ครู่เดียวก็มีคนมาเปิดประตู


“มาหาใคร”


“คือ...ผมมาสมัครงานครับ ไม่ทราบว่าที่อยู่ในนี้ใช่ที่นี่รึเปล่าฮะ”


เขายื่นกระดาษสี่เหลี่ยมขนาดเล็กให้คนตรงหน้าดู ได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ


“เออ เข้ามา” เด็กหนุ่มเปิดประตูให้กว้างขึ้น เชิญแขกเข้ามานั่งข้างในบ้าน แล้วเดินหายเข้าไปข้างในห้องแถวนั้น


“อ้าว...แล้วกูละ” เนปจูนพูดเบาๆ นั่งลงโซฟา


รู้สึกเหมือนตัวเองโดนเอามาปล่อยในที่ๆไม่คุ้นยังไงก็ไม่รู้
แต่ก็แอบคิดอยู่ว่าถ้าได้งานนี้ อีกหน่อยที่นี่คงกลายเป็นที่สิงสถิตที่ใหม่ของเขาแน่ๆ


“เชิญเข้าข้างใน ลูกพี่รออยู่”


คนที่หายตัวไปเมื่อครู่เดินออกมาบอก พร้อมกับเปิดประตูทิ้งไว้ ผายมือเชิญให้เขาเข้าไปข้างในห้อง


“ขอบคุณครับ” เขาตอบรับ เดินเข้ามาภายในห้องที่ถ้าเป็นบ้าน


ห้องนี้ก็คงเป็นห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างซึ่งติดกับห้องนั่งเล่น แต่ตอนนี้ห้องนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นออฟฟิตขนาดเล็กไปแล้ว





“สวัสดีครับ” เนปจูนยกมือไว้คนตรงหน้าที่ถ้าดูคราวๆหน้าจะอายุแค่30ต้นๆ


“เออ นั่งดิ” คนอายุมากกว่าพูดแล้วก้มลงเปิดลิ้นชักที่ใส่สำหรับใบสมัครงานยื่นมาให้โดยไม่ถามอะไรสักคำ เพราะว่าลูกจ้างเขาคนเมื่อกี้ได้บอกไว้หมดแล้ว


“แน่ใจนะว่าต้องการทำงานนี้จริงๆ”


“ก็...ครับ ผมว่ามันก็น่าท้าทายอยู่ไม่น้อย”


“มันไม่เกี่ยวกับความท้าทายนะ อยู่ที่ความสมัครใจและความอดทน
ถ้ามึงคิดว่ามึงมี ก็กรอกใบสมัครตรงนี้เลยอย่าได้คิดลังเล”


“เออ...ครับ” เนปจูนตกใจเล็กน้อยกับคำแทนตัวเองที่คนตรงหน้าใช้ภาษาพ่อขุนพูดกับเขาตั้งแต่แรกเจอ


เขาเอื้อมมือไปรับใบสมัครมากรอกข้อมูลของตนลงไป ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนใบสมัครทั่วๆไป


“บริษัทกูไม่ค่อยมีคนรู้จักหรอก ส่วนมากลูกค้าแต่ละคนที่มาใช้บริการก็พูดกันปากต่อปากทั้งนั้น”


“ครับ”


“พนักงานของที่นี่มีอยู่แล้วสองคน ถ้ารวมมึงด้วยก็เป็นสาม”


“ครับ” เนปจูนได้แต่รับคำก้มหน้าเขียนใบสมัครจนเสร็จแล้วยื่นส่งกลับคืน


เจ้าของบริษัทเหล่มองครู่นึงก็วางกระดาษขนาดเอสี่ จั่วหัวข้อใหญ่ๆว่าใบสมัครงานลงบนโต๊ะโดยที่ยังไม่ได้อ่านแล้วลุกขึ้นยืนเดินมือล้วงกระเป๋านำออกไปข้างนอก


“ตามกูมา”


เขาเดินตามคนพูดออกไปข้างนอกก่อนจะยืนอมยิ้มมองเจ้านายหมาดๆคุยกับลูกน้อง


“งานการไม่มีทำกันไงว่ะ มานั่งเล่นเกมส์เนี่ย”


“ไม่มี” ลูกจ้างคนที่ไปเปิดประตูบ้านให้เขาตอบ แล้วกดPause หันมายิ้มให้


“กวนเหรอ เดี๋ยวจะโดน” ลูกแก้วว่าเข้าให้แล้วแนะนำตัวกัน


“คนนี่ชื่อภาพ ไอ้คนนี้ชื่ออาร์ม ส่วนกูลูกแก้ว แล้วนี่ไอ้เนปจูน เพื่อนใหม่พวกมึง”


“หวัดดี เรียกกูจูนเฉยๆก็ได้” เนปจูนค้อมหัวเป็นการทักทายให้เพื่อนร่วมงานทั้งสองพร้อมยิ้มเล็กน้อย


เขายืนฟังบทสนทนาของทั้งสามแล้วมีความรู้สึกว่าทั้งนายและลูกน้องมีความเป็นกันเองดีจริงๆ


แรกๆที่เจอหน้าพี่ลูกแก้วก็นึกกลัวอยู่เหมือนกัน เพราะเห็นทำหน้านิ่งไม่ยิ้มทักทายอะไรเลย


“ดีมึง อายุเท่าไหร่ละ จะได้เรียกถูก” ภาพเอ่ยถาม


“21...มึงละ”


“เฮ้ย เท่ากัน...ก็เท่ากันหมดเนี่ยแหละ มึงเรียนที่ไหนวะ หน้าคุ้นๆ”


“xxx”


“อ้าว...ที่เดียวกันนี่ กูกับไอ้อาร์มเรียนวิศวะ มึงเรียนคณะไร”


“มัณฑนศิลป์”


ภาพพยักหน้ารับ เชิญเนปจูนนั่งแล้วหยิบจอยส์ขึ้นมากดPlay เล่นเกมส์กับอาร์มต่อ


“พวกมึงว่างงานกันจริงเหรอเนี่ย” ลูกแก้วยังสงสัยไม่หาย นี่บริษัทกูมันไร้ลูกค้าขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ


“จริงๆก็ไม่หรอกพี่ เดี๋ยวว่าจบเกมส์นี้จะออกไปหาลูกค้าแล้ว
ของผมพอดีเค้าเป็นพนักงานบริษัทเลิก5โมงครึ่งน่ะ” อาร์มพูดบอกหัวหน้าด้วยเสียงจริงจัง


“เออ ดีๆแล้วกัน อย่าให้บริษัทกูเจ๊งนะ ไม่งั้นเงินเดือนพวกมึงอด” คนว่าชี้หน้าแล้วเดินกลับเข้าห้องทำงาน


“ทำไมมึงถึงมาทำงานนี้ว่ะ” พอเจ้านายเดินหายไป อาร์มเลยชวนเนปจูนคุย


“ว่าง เบื่อ อยากหาไรทำ แล้วพวกมึงอ่ะ” เนปจูนตอบแล้วถามกลับ


“ส่วนหนึ่งก็เหมือนมึง แต่อีกส่วนกูสองคนหาเงินเรียนน่ะ”


อาร์มตอบยิ้มๆแบบไม่คิดอะไร แต่คนฟังกลับหน้าสลดแทนไปเรียบร้อยแล้ว


เนปจูนรู้สึกค่อนข้างหดหู่กับประโยคที่ได้ยิน พอย้อนกลับมาดูตัวเอง เหตุผลที่ตอบไป มันช่างไร้สาระเหลือเกิน


“เหรอ...แล้ว...พ่อแม่พวกมึงละ”


“พ่อแม่กูอยู่อีสานนู้น ส่วนพ่อแม่ไอ้ภาพอยู่เมกา”


“อ้าว แล้ว...”


“พวกกูอยากหางานทำส่งตัวเองเรียนมากกว่าน่ะ ไม่ต้องทำหน้าสลดขนาดนั้นหรอก
เงินที่ใช้ทุกวันนี้ก็พ่อแม่ส่งมาให้ ก็แค่ค่าเทอมเท่านั้นแหละที่พวกกูเอาเงินเดือนที่เก็บสะสมไว้ไปจ่าย เข้าใจยัง”


“อ๋อ...อื้อๆ เข้าใจแล้ว” เนปจูนพยักหน้าหงึกๆขึ้นลง 


“หยุดพล่ามกันสักครู่แล้วไปหาข้าวทานกันดีกว่ามั้ย”


ลูกแก้วเดินออกมายืนกอดอกพิงประตูถามลูกน้องทั้งสาม นั่นจึงทำให้บทสนทนาหยุดลงกระทันหัน


“พี่เลี้ยงนะ” ภาพส่งเสียงระริกระรี้ถาม


“ปิดเกมส์ปิดทีวีแล้วออกไปรอที่รถ” ลูกแก้วบอก หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องเคลียร์งานอีกนิดหน่อย


“คร้าบ” ทั้งสองขานรับพร้อมกัน เว้นแค่เนปจูนที่ยิ้มน้อยๆ


“แล้วกูละ” เขาถามภาพที่กำลังเดินไปปิดทีวีส่วนอาร์มออกไปรอข้างนอกแล้ว


“ก็ไปด้วยดิ เอากระเป๋าไว้นี่แหละ เดี๋ยวก็กลับมา เฮียแกพาไปกินร้านแถวนี้เอง ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก
ก่อนออกมาปิดไฟด้วยละมึง เดี๋ยวเฮียท่านจะเกรี้ยวเอา” ภาพบอกแค่นั้นแล้วเดินตามอาร์มออกไปข้างนอกอีกคน





...
..
.

“ฮ้า...อิ่มจริงๆ ขอบคุณมากคร้าบเฮียที่เลี้ยงข้าวพวกเรา” อาร์มยกมือไหว้แล้วเดินเข้าบ้านไป ส่วนภาพไปปิดประตูรั้วบ้าน


“ขอบคุณมากครับพี่ที่พาผมไปเลี้ยงด้วย แล้วพรุ่งนี้...”


เนปจูนถามค้างไว้เพื่อให้นายตอบว่าพรุ่งนี้เขาต้องมาที่นี้รึเปล่า หรืออะไรยังไง


“เลิกเรียนแล้วมาที่นี้แล้วกัน พรุ่งนี้กูจะไปปั๊มกุญแจบ้านไว้ให้ มึงสามารถมาที่นี้ได้ตลอด หรือจะค้างก็ได้ ตามใจ”


“ค้างได้เลยเหรอครับ”


“ใช่ บ้านนี้มีสามห้องนอนอยู่ข้างบน กูไอ้ภาพและไอ้อาร์มจองไว้หมดล่ะ แต่ยังมีเหลือข้างล่างอีกห้องหนึ่งแต่เป็นห้องเล็ก”


“อ้อครับ ผมไม่รบกวนดีกว่า พอดีผมพักอยู่แถวๆนี้”


“ก็ดี งั้นมึงกลับเถอะ เริ่มดึกล่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”


“ครับ หวัดดีครับพี่”


ลูกแก้วเดินออกมาส่งเนปจูนหน้าประตูรั่ว รอจนมีมอ’ไซค์รับจ้างขับผ่านมา ส่งเสร็จก็ปิดประตูเดินเข้าบ้านกลับไปเคลียร์งานต่อ





20นาทีต่อมา เนปจูนมาถึงคอนโด แตะคีย์การ์ดเข้าห้อง
เดินไปล้างเท้าในห้องน้ำแล้วออกมาถอดเสื้อผ้าพาดโซฟาเหลือแต่บ๊อกเซอร์
ก่อนจะเข้าไปในห้องครัวหยิบขวดน้ำออกจากตู้เย็นกระดกกิน


“อึก...อ่า...ชื่นใจวะ”


เขาครางด้วยความชื่นใจ หยิบขนมติดมือเดินไปนั่งโต๊ะคอมเพื่อทำงานส่งอาจารย์
กะไว้ว่าจะรีบทะยอยทำงานในคืนนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อพรุ่งนี้จะได้มีเวลารับมือกับงานที่ได้วันนี้


เนปจูนเป็นลูกคนที่สองจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน พี่คนโตเขาชื่อพลูโตเป็นผู้ชาย อายุ26ปี
ตอนนี้ได้ข่าวว่ากำลังลงทุนเปิดร้านเหล้ากับลูกพี่ลูกน้องอยู่สักที่ในกรุงเทพฯ


ส่วนน้องคนที่สามเป็นผู้หญิงชื่อวีนัส อายุ17เรียนอยู่ม.ปลาย
ปิดท้ายด้วยน้องคนสุดท้องชื่อจูปีเตอร์เป็นผู้ชาย อายุ14อยู่ม.ต้น
สองคนนี้เรียนที่เดียวกัน สรุปแล้วบ้านเขามีลูกชาย3ผู้หญิง1


บ้านใหญ่เขาอยู่ชานเมืองของกรุงเทพฯ มีเพียงวีนัสกับจูปีเตอร์อยู่กันสองคนเท่านั้น
เพราะพ่อเป็นนักการทูตอยู่อิตาลี ส่วนแม่เป็นห่วงพ่อเลยตามไปอยู่ด้วย
พวกเขาสี่พี่น้องเลยต้องดูแลกันเองแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร


ทุกอาทิตย์หรือบางอาทิตย์เขาและพลูโตต้องกลับไปกินข้าวกับน้องเพื่อถามไถ่ความเป็นอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นบ้านเขาก็มีห้องไลน์ส่วนตัวเอาไว้คุยกันทุกวันเป็นประจำอยู่แล้ว ความห่างเหินระหว่างเราเลยไม่บังเกิด



*โปรดติดตามตอนต่อไป*


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2014 12:06:15 โดย minime »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mc4: มาเจิมจ้า น่าสนุกดี

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0


ตอนที่2-พ่อสื่อยินดีต้อนรับ



RRR
(ไอ้ติณ มึงอยู่ไหน) แชมป์หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยถามมาตามสาย


“ห้อง มีไร”


(คืนนี้จะออกมามั้ย)


“ไม่วะ กูเบื่อๆ ขี้เกียจ”


(จะมาขี้เกียจห่าไร พรุ่งนี้เรียนตั้งบ่าย ออกมาเหอะน่า)


“มึงนี้เป็นคนยังไงว่ะ กูกำลังจะโผล่พ้นตมเสือกมาดึงขากูไว้อีก”


(พูดงี้ด่ากูว่าไอ้เลวเถอะ)


“หึหึ ขอให้สนุกแล้วกัน พรุ่งนี้เจอกัน อย่าไปเรียนสายละมึงไอ้เลว” ติณณภพเตือนเพื่อนก่อนวางสาย


จริงๆแล้วเหตุผลหลักที่เขาไม่อยากออกไปไหนคืนนี้เพราะว่ากำลังจะจีบสาวต่างหากล่ะ...


เรื่องมันก็มีอยู่แค่ว่า...เมื่อเช้าบังเอิญเดินผ่านไอ้พวกรุ่นน้องได้ยินมันคุยกันถึงบริษัทพ่อสื่อๆอะไรสักอย่าง
ยิ่งพอยื่นฟังพวกมันคุยถึงรายละเอียดการสื่อรักให้เพื่อนในกลุ่มแล้วได้ผล เขายิ่งรู้สึกสนใจอยากลองใช้บริการ
เลยเดินเข้าไปถามดู ไอ้เด็กพวกนี้ก็พร้อมใจกันบอก แถมยังให้ที่อยู่และเบอร์โทรของบริษัทนี้อีกด้วย


เย็นนี้พอเลิกเรียนเขาเลยรีบกลับห้องมาโทรหาไอ้บริษัทที่ว่า ส่วนเป้าหมายมีอยู่แล้วล่ะ ว่าจะจีบใคร
ซึ่งน้องคนนี้ เป็นคนที่เขาเล็งไว้แล้วตั้งแต่เธอประกวดดาวเดือน เป็นผู้หญิงที่เข้าถึงยากจนไม่มีใครอยากเล่นด้วย


เธอเป็นคนสวย น่ารัก แถมยังบริสุทธิ์อยู่อีกต่างหาก......


ติณณภพไม่ใช่โรคจิตชอบเปิดซิงใครนะ แต่.....ถ้าได้ก็ดี หึหึ




(พ่อสื่อครับ มีอะไรให้รับใช้ครับ)


“ถ้าผมจะขอใช้บริการ ต้องทำยังไงบ้างครับ”


(ขอประวัติคุณลูกค้าด้วยครับ)


“จะรั่วไหลมั้ยครับ”


(ไม่ต้องห่วงครับ ประวัติทุกคนของคุณลูกค้ามีผลต่อบริษัทเรามาก ทางเราเก็บประวัติไว้ในตู้เซฟอย่างดีครับ
ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะสะดวกมาที่บริษัทหรือให้ผมส่งแฟกซ์ใบกรอกประวัติให้ไปดีครับ)


“ส่งแฟกซ์ดีกว่าครับ ไม่ทราบว่าบริษัทปิดกี่โมงครับ”


(อ้อ พ่อสื่อเปิดตลอด24ชั่วโมงครับ)


“ลูกค้าเยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ” อดไม่ได้จริงๆเลยต้องถาม


(เปล่าครับ เพราะไม่ค่อยมีลูกค้านี่แหละ ถึงต้องเปิดตลอดเวลา ฮ่าๆ)


ปลายสายตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี จนไอ้ติณอยากถามจริงๆว่า บริษัทมึงอยู่ได้ยังไงวะครับ


“อ้อครับ งั้นเดี๋ยวรบกวนพี่จดเบอร์แฟกซ์ผมด้วยนะครับ”


(ครับๆ ได้ครับ พ่อสื่อยินดีบริการครับผม)


หลังจากวางสายไปไม่ถึง5นาที เขาก็ได้รับใบกรอกประวัติของบริษัทอะไรนั่นจากทางแฟกซ์


“ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์ พ่อแม่พี่น้องประวัติม.ต้น ม.ปลาย...โห้ เยอะขนาดนี้เลยเหรอว่ะ”


ที่ต้องพูดอย่างนั้นเพราะอีกหลายๆอย่างในใบกรอกประวัติมันมีให้มากกว่าการกรอกสมัครเรียนอีกนะเนี่ย


ติณณภพลงมือกรอกประวัติของตัวเองรวมทั้งเป้าหมายที่จะให้ช่วยจีบจนเสร็จจึงส่งกลับไป


ยอมรับว่าว่าคาดหวังกับการลงทุนเกือบสามหมื่นครั้งนี้มาก
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยจะมาไร้สาระกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
แต่เพราะคนนี้อยากจะลองจริงๆบวกกับอยู่ๆก็มีหนทางเข้ามา ตอนนี้เลยไม่คิดลังเลที่จะทำ


ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นพวกไม่ค่อยแคร์ผู้หญิง
คนมันมีหลายทางเลือกเลยอะไรก็ได้ แต่ของ่ายๆไว้ก่อน
พูดแล้วก็เหมือนว่าขี้อวด แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ

 



...
..
.

RRR
“จูน วันนี้เรียนเสร็จแล้วเข้ามาหาหน่อยนะ”


(ครับพี่ งั้นประมาณบ่ายสี่นะ พี่อยู่มั้ยครับ)


“เออ กูอยู่ตลอดแหละ”


(พาเพื่อนไปด้วยคนนึงได้มั้ยครับ)


“มาเหอะ” ลูกแก้วบอกแล้วกดวางสายเคลียร์งานที่กำลังพูนหัว



เนปจูนเดินกลับเข้ามาในโรงอาหาร
มองหาเพื่อนอยู่นานก็เจอพวกมันนั่งเกรียนอยู่สองคน แต่จริงๆแล้วกลุ่มเขามี5คน


“เห้ย” เขาทัก เดินไปนั่งข้างนนท์ หนึ่งในเพื่อนที่เป็นคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม เขาว่าเขาตัวเล็กแล้วนะ แต่ยังไม่เท่าไอ้นี้เลย


“อ่ะ สุกี้มึง” มิตรเงยหน้าบอก เลื่อนถ้วยสุกี้ผ่านหน้านนท์มาให้ก่อนจะก้มสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวคำใหญ่


“เออ ใจ” เนปจูนบอกก่อนจะลงมือทานบ้าง


พวกเขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ม.ปลาย
สัญญากันไว้ว่าจะเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกันให้ได้
จึงช่วยกันเข็นช่วยกันดันจนในที่สุดก็ได้มานั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ตรงนี้


“ไอ้ตั้มกับพุทธไปไหนอ่ะ” เขาถามหาเพื่อนอีกสอง


“เอากันในห้องน้ำมั่ง ไปตั้งนานละ” นนท์ตอบเบื่อๆ ตักข้าวไข่พะโล้คำสุดท้ายเข้าปาก


ตั้มกับพุทธเป็นเพื่อนที่ติดกันยังกับตังเม แต่ไม่ต้องห่วงว่ามันจะมีอะไรเกินเลยกัน
เพราะเมื่อต้นปีที่แล้วที่บ้านไอ้พุทธเพิ่งจะจับมันหมั้นกับแฟนไปหมาดๆ


เป็นการหมั้นที่ไม่ค่อยเป็นทางการเท่าไหร่ ในงานมีแค่พ่อแม่ญาติพี่น้อง คนสนิทมิตรสหาย รวมๆแล้วยังไม่ถึงยี่สิบคนเลย
และที่มันต้องหมั้นกับแฟนไว้ก่อนเพราะแฟนมันกำลังจะไปเรียนต่อนอกสองปี เลยกลัวการนอกใจกันเกิดขึ้น


“มึง วันนี้เย็นไปเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ” เนปจูนพูดกับนนท์หลังซดน้ำสุกี้จนหมดถ้วย


“ไปไหน”


“ที่ทำงานกู”


“ตกลงมึงได้งานที่นั่นจริงเหรอว่ะ” มิตรหันมาถาม แอบแกะถุงขนมของไอ้ตั้มที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไร้มารยาท


“เออ พี่เขารับ ตกลงว่าไง ไปได้มั้ยว่ะ” เขาหันมาถามนนท์ที่นั่งเงียบอีกครั้ง ไม่รู้วันนี้มันเป็นอะไร เงียบผิดปรกติ


“อืม”


“มึงเป็นอะไรนนท์ เงียบๆ”


“เจ็บคอ”


“หึ”


เสียงหึของมิตรทำให้เขายิ่งอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อน แต่เอาไว้อยู่กันสองคนค่อยถามดีกว่า


“เชี่ยมิตร แดกขนมกูหน้าตาเฉย ซื้อมาคืนเลยนะ” ตั้มกลับมาจากเข้าห้องน้ำ หันมาโวยเพื่อนทันที


“ใครบอกให้มึงชัก.....ช้า” มิตรเน้นคำว่าชักเน้นๆใส่หน้าเพื่อน ยักคิ้วลิ่วตา


“กวนตีน กูแค่ไปเข้าห้องน้ำเฉยๆเหอะ”


“นานเนอะ กูกินข้าวเสร็จไปเกือบสองถ้วย เพิ่งจะกลับมากัน”


“ถามไอ้พุทธนู้น งานเข้ามันเมื่อกี้”


ทุกคนต่างหันไปสนใจพุทธที่นั่งเงียบยกเว้นนนท์ เพราะแค่เรื่องของตัวเองก็เส้าจนไม่มีอารมณ์จะไปรับรู้เรื่องของใครแล้ว


“มีไรว่ะพุทธ” เนปจูนถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง


“กูรู้สึกว่า...หงส์เขามีคนอื่นว่ะ” พุทธตอบเสียงเบา ก้มหน้ามองมือตัวเองที่วางบนโต๊ะ


“มึงรู้ได้ไง” มิตรรีบถาม


“มันเห็นเพื่อนหงส์ไปแซวเล่นในเฟส แล้วมีอยู่คนหนึ่งมาเม้นท์ว่า
อย่าลืมพากลับมาด้วยนะ อยากเจอตัวจริง งี้ ไอ้พุทธมันก็เลยสงสัย
แถมโทรไปหาหงส์แต่ไม่รับอีก เลยมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่เนี้ย เฮ้อ เหนื่อยยย” ตั้มอธิบายยาว ตบท้ายด้วยพูดเหนื่อยเสียงดัง


“อ้าว แล้ว...ยังไงว่ะ มึงโอเคมั้ย” มิตรถามด้วยเป็นห่วง ย้ายมานั่งข้างๆลูบหลังลูบไหล่


“อืม มั่ง มีคนอื่นก็ดี กูก็เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน”


ทุกคนต่างพากันงงคำพูดของพุทธ แล้วตกลงมันเส้าเสียใจหรือไม่กันแน่ว่ะ....


“งั้นคืนนี้ไปเที่ยวแก้เบื่อมั้ยมึง”


“พรุ่งนี้เรียนอยู่นะเว้ยเชี่ยตั้ม”


“แหมมมม อย่ามาพูดเหมือนเป็นเด็กดีหน่อยเลยไอ้ศรัณย์ภัทร” ตั้มด่ามิตรแล้วตบหัวมันไปที


สรุปแล้วคืนนั้นพวกเขาก็ยกโขยงกันไปนั่งกินเหล้าปลอบใจทั้งไอ้นนท์และไอ้พุทธที่ห้องของตั้มและนอนมันซะที่นั่นเลย



*โปรดติดตามตอนต่อไป*

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
+1 เป็นกำลังใจให้ 

ในตอนที่ 1   คำว่า พูดพร่ำ น่าจะเปลี่ยนเป็น พูดพล่าม  นะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ยังเดาไม่ออกว่าใครเป็นตัวเอก  ติดตามจ้าาาาาาาา  มาต่อเร็วๆนะ  :3123:

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ตอนที่3-เปิดประวัติ



“พรุ่งนี้วันเสาร์ มึงห้ามปฏิเสธนะไอ้ติณคืนนี้”


“หึ ไม่มีกู พวกมึงจีบสาวกันไม่ได้รึไง”


“กูแค่อยากให้มึงไปปลดปล่อยมั่งเหอะสัด”


“ขอตัวว่ะ ช่วงนี้ต้องทำตัวดีๆหน่อย กูกำลังจ้างพ่อสื่อจีบสาวอยู่”


“อะไรนะ” เพื่อนทุกคนต่างพูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยอาการงงงวย


พะ...พ่อสื่ออะไรมันว่ะ


“กูบอกว่ากำลังจ้างบริษัทพ่อสื่ออยู่ ต้องรักษาภาพพจน์หน่อย”


“อะไรคือบริษัทพ่อสื่อว่ะ” แชมป์ถามเพื่อนด้วยอาการงงไม่หาย


“ไม่รู้จักล่ะสิ หึหึ กูก็เพิ่งรู้จักเมื่อวานเนี่ยแหละ
เดินผ่านไอ้พวกรุ่นน้องได้ยินมันคุยกัน โม้ว่าได้ผลหนักหนา
กูเลยอยากลองแม่งดูมั่ง”


“แล้วใครวะ ที่มึงจะจีบ ระดับมึงเนี่ยต่อให้เหี้ยยังไงก็จีบติดไม่ใช่รึไง”

เอิร์ธใช้น้ำเสียงขบขันถาม
แต่ก็ต้องรีบหลบเพราะมันสวนหมัดตอบกลับมา


“น้องอิงฟ้า ดาวเภสัชฯ ปีสอง”


“โห้ ไอ้เหี้ย นั่นอนาคตของชาติเลยนะเว้ย ปล่อยน้องเขาไปเถอะ อย่าให้มาจมปลักกับคนแบบมึงเลย”


แชมป์อุทานเตือนด้วยความหวังดี เขาหยุดอยู่หน้าคณะเมื่อเดินมาถึงทางแยกไปลานจอดรถ


“เหอะหน่า ไว้อีกสองอาทิตย์พวกมึงเตรียมตัวรอดูกูควงน้องเขาได้เลย”


ติณบอกด้วยความมาดมั่น ยิ้มกริ่มเมื่อนึกไปถึงอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า


“เออ ไว้จะคอยดู แล้วนี่มึงพวกมึงกลับยังไงกัน” กานต์ตอบรับแล้วถามเพื่อนทั้งสามหลังจากยืนฟังพวกมันคุยเรื่องไร้สาระอยู่นาน


“กูเอารถมา” ติณบอก ล้วงกุญแจรถออกจากกระเป๋ามาควงโชว์คนถาม


“กูมากับไอ้เอิร์ธ วันนี้ไอ้แฝดยืมรถกูไปเรียน”


แชมป์บอกเพื่อนแล้วทำหน้าเซ็ง เมื่อนึกไปถึงเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้าน


จู่ๆน้องชายฝาแฝดก็รีบวิ่งเข้ามาหาโวยวายเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่นบ้าน แล้วบอกว่าขอยืมรถไปเรียน
เขาก็เลยต้องจำใจโทรเรียกเอิร์ธให้มารับเพราะบ้านใกล้กัน โชคดีที่มันกำลังจะออกจากบ้าน เลยบอกให้แวะมารับด้วยซะเลย


“ไม่มีใครจะให้กูไปส่งใช่มั้ย” กานต์ย้ำถามอีกครั้งตามนิสัยคนใจดีชอบช่วยเหลือเพื่อน


“เออ มึงกลับห้องไปเถอะ คืนนี้อย่าเมามากละกันพวกมึง”


ติณเดินแยกออกมาและไม่ลืมที่จะย้ำบอกเพื่อนทุกครั้งเวลาไปเที่ยวกลางคืน





เขาเดินเอื่อยเฉื่อยจนมาถึงรถ
คิดไว้ว่าจะแวะไปทักน้องอิงฟ้าสักหน่อยแต่ก็ต้องเก็บความคิดนั้นไว้
เพราะข้างรถตอนนี้มีสาวสวยคนหนึ่งยืนรออยู่


“ปัด มายืนทำอะไรอยู่ข้างรถผม”


ติณณภพหยุดยืนถามหญิงสาว หรี่ตามองคนตรงหน้าที่กิริยาท่าทางเต็มไปด้วยความกะล่อนซ่อนอยู่จนปิดไว้แทบไม่มิด


“ปัดก็มารอติณไง คืนนี้เราไปเที่ยวกันนะค่ะ”


คนถามเขยิบเข้าไปใกล้ เบียดอกอวบอิ่มแนบชิดลำแขนเสียจนเขาต้องถอยห่าง
ด้วยเกรงเพราะว่าใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้มาเห็นเข้าแล้วมันจะไม่ดี


“คืนนี้ผมไม่เที่ยว ปัดไปเถอะ”


“ติณไม่ไปแล้วปัดจะไปกับใครล่ะ”


“ปัดไม่มีเพื่อนรึไง” ติณเริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อยถาม ไม่ชอบเลยคนที่พูดแล้วทำเป็นฟังไม่เข้าใจในประโยคนั้น


“ติณอ่ะ... งอนแล้วนะ” ปัดแสร้งหันหน้าหนี บอกให้รู้ว่างอน แต่ก็ได้แค่แปปเดียว
เพราะคนที่เธองอนไม่คิดจะเอ่ยคำง้อ ซ้ำยังกดเสียงต่ำคุยด้วยซะจนน่ากลัว


“ปัดไม่มีสิทธิ์มางอนผมนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว จำไม่ได้เหรอ”


“แต่เมื่อก่อน...”


“เมื่อก่อนผมถือว่ามันเป็นเรื่องของอดีต”


ติณพูดแทรกขึ้นก่อนที่เธอจะเริ่มรื้อฟื้นหาอดีตห่าเหวอะไรนั้นอีกครั้ง
อดีตที่เราเจอกันตามผับตามบาร์แล้วบังเอิญเรียนที่เดียวกัน เลยสานสัมพันธ์กันต่อเล่นๆ


แต่ก็ได้แค่แปปเดียวนั่นแหละ เพราะหูตาเขามันเยอะ
มีคนมาบอกแทบจะทุกวันว่าเด็กมึงไปกับคนโน่นทีคนนี้ที
จนเขาเริ่มจะทนไม่ไหว เลยตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับเธอ


“ติณเห็นปัดเป็นอดีตเหรอ มีคนใหม่แล้วใช่มั้ย”


ปัดเริ่มบีบน้ำตาออกมาเมื่อเห็นว่ารื้อฟื้นอดีตไม่เป็นผล
เงินเธอขาดมือ...จะให้เธอทำยังไง บอกกับตัวเองว่าปล่อยคนนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด


“ไม่เกี่ยวเลย ปัดก็รู้ว่าผมไม่เคยคบใครแค่คนเดียว
จำได้มั้ยว่าก่อนเราจะสนิทกัน ผมเคยบอกปัดว่ายังไง” ติณพูด เลี่ยงคำว่ามีอะไรกัน


“ติณ...ติณ...แต่ปัดรักติณนะ”


เสียงทุ้มต่ำเหมือนคนเริ่มหมดความอดทนทำให้เธอต้องใช้ไม้อ่อน
เพราะไม่ว่าเธอจะบอกรักใคร ผู้ชายที่ยังตัดเธอไม่ขาดก็ต้องคล้อยตามทุกคน


แต่เธอลืมไปหรือเปล่า...ว่าผู้ชายคนนี้ ไม่เหมือนกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ


“ขอบคุณครับที่รักผม แต่ผมรู้ คุณไม่ได้รักผมแค่คนเดียว เป็นเพื่อนกันดีกว่านะ”


ติณบอกลาสาวสวยคณะบัญชี ก่อนจะขึ้นรถขับรถออกไปไม่เหลียวแลเธออีกเลย


ชินแล้วกับสาวคนนี้ที่คอยตามตื้อ แต่พอลับตา เธอก็ไปควงคนอื่นอยู่ดี นี่หรือที่บอกว่ารักแค่คนเดียว...





...
..
.

“ตกลงมึงมีเรื่องอะไร” เนปจูนรีบถามทันทีที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มได้


ตอนนี้เขาสองคนกำลังนั่งแท็กซี่ไปหาพี่ลูกแก้ว


“ทำไมผู้ชายแม่งเหี้ยเหมือนกันทุกคนว่ะ” นนท์เริ่มใส่อารมณ์ในการพูด
โชคดีที่ลุงคนขับแท็กซี่แกค่อนข้างแก่แล้วเลยไม่สนใจเรื่องวัยรุ่นเท่าไหร่


“ทำไม ไอ้ต๊อดมันทำไรมึง”


ไอ้ต๊อด...คือแฟนของนนท์ที่ตอนนี้คบกันได้สามเดือนกว่าๆ


อาทิตย์แรกที่มันจีบนนท์ มันทำดีทุกอย่าง ไปรับไปส่ง
กลางวันถ้าว่างตรงกันก็มาทานข้าวกับกลุ่มพวกเรา
จนได้ใจไอ้นนท์ไปเต็มๆ ผ่านไปสองอาทิตย์พอมันขอเป็นแฟนแล้วบอกจะย้ายมาอยู่ด้วยไอ้นนท์ก็ตกปากรับคำ


แต่เรื่องมันมาเกิดตอนช่วงหลังๆ เชี่ยต๊อดเริ่มออกลาย
พาผู้ชายคนอื่นมาที่ห้องไอ้นนท์ บอกว่าเป็นเพื่อนมาทำรายงาน
สารพัดมันจะอ้าง จนวันหนึ่งอาจาร์ยยกเลิกคลาสตอนบ่าย
ไอ้นนท์เลยรีบกลับห้องเปิดประตูไปก็เจอแฟนมันนั่งดูดปากกับคนที่ชอบพามาบ่อยๆ


หลังจากนั้นมา นิสัยเหี้ยๆที่มันปกปิดไว้ก็เริ่มเผยทีละนิด พาคนอื่นมาที่ห้องไม่เกรงใจไอ้นนท์
แต่มันก็ทนเพราะมันรัก และเขาไม่รู้เหมือนกันว่าความรักมันทำให้คนเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ
ยอมแม้กระทั่งให้แฟนพาคนอื่นมาที่ห้องโดยนั่งทนมองไม่ไปไหน


เขาสาบานเลยว่า ถ้าเขามีแฟนแล้วเจออย่างนี้ จะไม่ทนแน่ๆ


ไอ้นนท์มันเป็นคนรักใครง่าย เขารู้ว่ามันก็รู้ตัวเอง แต่ก็ไม่เคยด่ามันว่าเป็นคนใจง่ายเลยสักครั้ง
คนเราจะรักจะชอบใครง่ายๆไม่ใช่เรื่องแปลก มันแล้วแต่คนนะเขาคิดว่า


“เมื่อวาน...มันพาคนอื่นมาเอาที่ห้อง แล้วไล่กูให้ไปนอนที่อื่น” บอกจบ นนท์ก็น้ำตาคลอเบ้าจนคนมองทนไม่ไหวต้องคว้ามันมากอด


“แล้วเมื่อคืนมึงไปนอนที่ไหน ทำไมไม่โทรหากู”


“กูนั่งอยู่หน้าห้องนั่นแหละ”


“ทำไมมึงต้องทนขนาดนี้ด้วยวะ มันเกินไปนะนนท์ มึงรักได้แต่อย่าโง่ เข้าใจมั้ย”


นนท์สะอื้นฮัก น้ำตายิ่งไหลมากกว่าเดิม จะบอกไอ้จูนยังไง ว่าพยามไม่โง่แล้ว แต่มันทำไม่ได้


“มึงเช็ดหน้าเช็ดตาก่อน ใกล้ถึงที่ทำงานกูแล้ว” เนปจูนผละออก ช่วยเช็ดน้ำตาให้เพื่อน


“คืนนี้มึงไปนอนห้องกูแล้วกัน” นนท์พยักหน้าตามที่เพื่อนชวน


เนปจูนบอกลุงคนขับให้จอดหน้าปากซอยเพราะเขาจะเดินมาเอง
บ้านที่พี่ลูกแก้วใช้เป็นบริษัทอยู่ประมาณกลางซอยเดินไม่ถึง5นาทีก็ถึง


วันนี้เป็นวันที่สองที่เขามาที่นี่ ฉะนั้นการจะเข้าไปข้างในจึงต้องกดกริ่งเรียกให้คนมาเปิด
ส่วนกุญแจคิดว่าพี่ลูกแก้วคงไปปั๊มมาให้วันนี้


“อ้าว ไอ้จูน มากับใครว่ะ” ภาพเดินมาเปิดประตูให้เพื่อนใหม่แล้วถามถึงคนยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆ


“เพื่อนกู เรียนที่เดียวกัน ชื่อนนท์”


“เพื่อนมึงเป็นไรป่าว ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหล่อๆของกูหน่อยเหรอว่ะ” ภาพพูดบอกขำๆ เดินตามเข้าไปในบ้าน


“เปล่า” เนปจูนตอบแล้วส่ายหัวให้ความอารมณ์ดีของมัน


“พี่ลูกแก้วล่ะ”


“ข้างในห้องนั่นแหละ มึงเข้าไปเลย” ภาพชี้บอกแล้วเดินขึ้นไปนอนต่อบนบ้าน


ที่จำใจต้องเดินลงมาเปิดรั้วให้นี่ก็เพราะเจ้านายตะโกนบอกหรอก คนกำลังหลับฝันดีอยู่แท้ๆ


“มึงนั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวกูมา”


“อือ” นนท์ครางบอก เนปจูนลูบหัวเพื่อนเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้านายหมาดๆ





“พี่ หวัดดีครับ” เขายกมือไหว้ก่อนจะนั่งลง


“เออ” ลูกแก้วพยักหน้ารับ เดินไปเปิดเซฟหยิบซองสีน้ำตาลที่เพิ่งเอาใส่ไปเมื่อคืนออกมา


“อะนี่ งานแรกมึง” เขาโยนซองลงตรงหน้าลูกน้อง


“ได้เลยเหรอครับ” เนปจูนถามเสียงตื่นเต้น ไหนบอกว่าไม่ค่อยมีลูกค้าไง ทำไมเพิ่งมาสมัครเมื่อวาน วันนี้ก็ได้งานเลยว่ะ


“อืม คนนี้เรียนคณะเดียวกับมึง กูเลยให้มึงทำ อีกอย่างไอ้สองคนนั้นไม่ว่างแล้ว มึงทำได้มั้ย”


“ก็...จะลองดูครับ”


“ลองไม่ได้ มึงต้องทำเลย ทำจริง เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เกี่ยวกับอะไรก็เอาบิลมาเบิกกับกู” ลูกแก้วบอกเสียงดุ


งานเขาจะมาทำเล่นๆเป็นเด็กขายของไม่ได้ เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรนั่นก็หมายถึงความหวังทั้งหมดของลูกค้าที่ฝากไว้กับเรา


“ครับ ผมจะทำให้เต็มที่ครับ” เนปจูนบอกเสียงหนักแน่นกว่าเดิม ทำให้คนฟังพยักหน้าพอใจ


“ดี ขอให้มึงสนุกกับงานแรก” เจ้าของบริษัทบอกแค่นั้นแล้วเดินนำออกมาข้างนอก


นนท์เงยหน้ามองคนตรงหน้าที่คิดว่าเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ เขายกมือไหว้ซึ่งทางนั้นก็พยักหน้ารับ


“เพื่อนผมครับพี่ ชื่อนนท์ ไอ้นนท์นี่เจ้านายกู พี่ลูกแก้ว” เนปจูนแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันแล้วขอตัวกลับเลย


ระหว่างทางเขากับเพื่อนไม่ได้พูดอะไรกันเลย เพราะเข้าใจว่านนท์มันคงอยากอยู่เงียบๆ จนมาถึงห้อง
เนปจูนก็บอกให้มันไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเข้านอนเลย เพราะเขาคงต้องนั่งอ่านประวัติของคุณลูกค้าและคิดแผนสื่อรัก



“นายติณณภพ ปัญญ์ชยธร...”


“เรียนมัณฑนศิลป์ ปีสาม ออกแบบภายใน เป็นลูกคนที่สามจากพี่น้องทั้งหมด
พ่อเป็นคนไทย แม่เป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ปากีสถาน
พี่คนโตชื่อตรัน คนรองชื่อตรัย ตอนเรียนม.ต้นเคยลองยา ม.ปลายยกพวกตีชาวบ้าน
แต่พอเข้ามหาลัยก็โดนพี่ชายทั้งสองสั่งห้ามทุกอย่าง
นอกจากอนุญาตให้ไปสังสรรค์กับเพื่อนเท่านั้น”


“แบดตั้งแต่เด็กเลยนะมึง” เนปจูนบ่น วางกระดาษประวัติลูกค้าลง หยิบอีกแผ่นขึ้นมาอ่าน


“อิงฟ้า...ชลญาดา ปทิตภาชา ดาวเภลัช ปีสอง...หึหึ หวังอะไรอยู่สินะ”


เขาหยิบรูปน้องอิงฟ้าที่แนบมากับใบประวัติออกมาดู สาวรุ่นน้องยืนยิ้มให้กล้องชูสองนิ้ว
จุดเด่นบนใบหน้าเป็นลักยิ้มเล็กๆมุมปากทั้งสองข้าง ผมยาวสีดำขลับสลวยถูกปล่อยจนถึงกลางหลัง
ชุดนักศึกษาที่ใส่ก็ดูน่ารักไม่รัดติ้วเหมือนสาวๆทั่วไปนิยมใส่...ก็เพราะน่ารักอย่างนี้สินะ มันถึงอยากได้


เขาวางรูปหญิงสาวลง หยิบอีกใบขึ้นมา เป็นรูปของติณณภพ โดนแอบถ่ายด้านข้าง
มันนั่งยิ้มมองไปที่ไหนสักที่ ยิ้มทั้งปากและตา และคำเดียวที่อยากนิยามให้กับใบหน้าของมันเลยคือ มึงหล่อมาก!


หน้ามันออกแนวลูกครึ่ง ซึ่งไม่แปลกอะไร ก็มันเป็นลูกครึ่ง -*-


แววตามันดูเจ้าชู้มาก นี่ขนาดมองแค่ด้านข้างนะ ถ้ามาเจอมันยืนมองใกล้ๆเขาคงใจเต้นแรงกว่านี้แน่ >.<


ไอ้นี่มันมีเสน่ห์ตรงดวงตาจริงๆ


ห๊ะ? เมื่อกี้เขาคิดว่าอะไรนะ? ใจเต้นแรง? ห๊ะ? ไม่จริงมั่ง...


เนปจูนยกมือทาบอกตัวเอง ไอ้บ้าเอ๊ย มันเต้นแรงจริงๆด้วยวะ!


เขารีบคว่ำรูปในมือลง นั่งหายใจเข้าออกลึกๆเรียกสติสักพักแล้วลุกออกจากโต๊ะคอม
เดินเข้าห้องอาบน้ำทำอะไรให้หัวโล่งลืมคนในรูปก่อนจะเหวี่ยงตัวนอนแล้วหลับตาลงช้าๆ


แต่มิวาย...คนในรูปก็ยังตามมาหลอกหลอนในความฝัน...
  o22



*โปรดติดตามตอนต่อไป*





คุณติณณภพ...
.
.
.


ตอนแรกพระเอกเรื่องนี้ไม่มีอิมเมจเลยคะ แต่อยู่ๆหน้าพี่เซนก็ลอยแวบเข้ามาในหัว แล้วบวกกับตอนนี้พี่แกเป็นโสดพอดี
เลยจับมาล้างน้ำใส่ตระกร้ายืมตัวเป็นพระเอกซะเลย  :hao7:

คุณ MK - ขอบคุณสำหรับคำผิดคะ
คุณ IsDeer - ขอบคุณที่เข้ามาเจิมคะ

ปล.นิยายเรื่องนี้แค่อ้างอิงชื่อคณะนะคะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2014 20:25:09 โดย minime »

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
สงสารนนท์  เพราะรักถึงยอมสินะ  แต่ก็ควรมีขอบเขตบ้าง เลิกเลยๆ ๆ  :katai2-1:  #เชียร์อะไร?

ตัวเอกเนี่ย เนปจูน กับ ติณ สินะ สินะ 

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ   :katai4:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
จูน แกก็ชอบคนง่ายเหมือนกันแหละ  :hao7:

สงสัยงานนี้ ลูกค้าคงจะได้เคลมพ่อสื่อ ซะแล้ว

รอตอนต่อไปจ้า  :katai2-1:

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0

ตอนที่4-บังเอิญ



“เฮ้...ไอ้ติณไหนบอกไม่มาไงวะ กูกะแล้ว คนอย่างมึงโผล่พ้นตมไม่เกินสองสามวันหร้อกกก”


“ไม่รู้ว่ะ ก็คนมันเคยเที่ยว อยู่ๆจะให้หยุดไป แม่งไม่ชิน”


ติณณภพยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่กานต์ชงมาให้
พร้อมตอบคำถามของแชมป์ที่ตะโกนแซวก่อนเพื่อนเป็นคนแรก


ปรกติทุกคืนวันเสาร์พวกเขามักจะมาสิงสถิตอยู่ที่นี่ (ที่นี่-ชื่อร้าน) เป็นประจำซึ่งเป็นร้านของรุ่นพี่ที่จบไป


และคืนนี้ก็อีกเช่นเคย ตอนแรกว่าจะไม่มาหรอก แต่มันอดไม่ได้ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ตามที่บอกไปข้างบน


“กูว่าแล้ว หน้าอย่างมึงอ่ะนะจะเปลี่ยนเพื่อใคร ...ไม่มีวันซะหรอก” เอิร์ธมองเพื่อนเหยียดๆ กล่าวด่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก


“มึงพนันกับกูป่ะไอ้เอิร์ธ” แชมป์พูดท้าเมื่อเริ่มเห็นเค้าลางของความสนุกจากบทสนทนาข้างต้น


เขาเชื่อว่าไม่มีใครที่จะเจ้าชู้ไปได้ตลอดหรอก
ถ้าสักวันไอ้ติณมันเจอคนที่ทำให้มันอยากหยุดจริงๆ วันนั้นคงเป็นวันที่ดีมากแน่ๆ


แล้ววันดีๆแบบนี้ มีหรือ...เขาจะปล่อยไปง่ายๆ


“พนันไร” เอิรธ์ถาม เอื้อมมือไปตักยำรวมมิตรตรงหน้าเข้าปากคำโตเคี้ยวตุ้ยๆ


“วันไหนที่ไอ้ติณมันจริงใจและพร้อมจะเปลี่ยนเพื่อใครสักคน มึงต้องพากูไปทัวร์ยุโรป”


“เฮ้ย! มึงจะบ้าเรอะ ทัวร์ยุโรปเลยเหรอ” คนโดนท้าตกใจ แทบสำลักยำในปาก บ้านเขาไม่ใช่แหล่งผลิตธนบัติเงินไทยนะโว้ย


“เอาป่ะละ มึงก็คนมีตังค์นี่” แชมป์ใช้น้ำเสียงเล่นๆถามพอให้มันรู้ว่าเมื่อกี้เขาโกหก


“แต่ที่กูใช้ทุกวันนี้มันเงินพ่อกู” เอิรธ์ตอบเสียงอ่อย
ก็รู้นะ ว่าใช้เงินพ่อ แต่ก็ยังสุรุยสุร่าย - -' ขอหน่อยเถอะพ่อ
เอาไว้เรียนจบเขาจะทำงานหาเงินมาใช้คืนให้


“เอางี้ กูจริงจังละ ถ้าใครแพ้ คนนั้นต้องไปสมัครทำงานร้านหมูกระทะ
ร้านไหนก็ได้เดือนหนึ่ง ตกลงมั้ย”  นี่ต่างหาก คือข้อตกลงแท้จริงที่คิดไว้ในหัว


ทุกคนพากันจ้องมองไปที่คนโดนท้า ซึ่งนั่นก็ทำให้เอิร์ธรับคำท้าไปโดยปริยาย เพราะกลัวโดนเพื่อนบอกว่าป๊อด


“เออ ตกลง”

 
“พวกมึงเล่นห่าไรกันวะ”


ติณพูดเอื้อมๆ ส่ายหัวไปมา จิบเหล้าทีละนิด เบนสายตาไปมองโต๊ะอื่น
ลึกๆแล้ว เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า จะมีวันนั้นมั้ย วันที่เขาจะหยุดเพื่อใครสักคน..


“มา! จับมือ แล้วก็ห้ามขี้โกงนะเว้ย ไอ้กานต์เป็นพยาน” แชมป์ยืนมือไปให้เอิร์ธจับกลางโต๊ะ


“เออ” กานต์ตอบรับ นั่งขำมันสองคน เล่นอะไรปัญญาอ่อนอีกแล้วนะพวกมึง


“มองเชี้ยไรไอ้ติณ เดี๋ยวนี้สนใจผู้ชายแล้วเหรอ” เสียงของกานต์ทำให้ทุกคนหันไปมองตามสายตาของติณณภพ


“หึ กูก็มองไปเรื่อย ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ”


ตอบเพื่อนไปแบบนั้นแต่ก็ยังไม่วายต้องหันกลับไปมองอีกอยู่ดี 
ซึ่งคนที่เขากำลังมอง มันนั่งเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
แต่พออาหารหมด ปากนั่นก็ยังขยับพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนจ้อๆ


“แหนะ มานั่งแดกสะตอใกล้กูอีก” แชมป์พูดแขวะเพื่อน


เขาไม่ค่อยแปลกใจอะไรถ้าไอ้ติณมันจะสนใจมองไอ้จูน
แต่ที่แปลกใจก็คือได้ข่าวว่ามันจ้างพ่อสื่อให้ไปจีบหญิงแต่ตาก็คอยจะมองหาผู้ชาย นี่มันคืออะไรวะเพื่อน?


“มันชื่อเนปจูน อยู่คณะเดียวกับเรา เรียนออกแบบนิเทศศิลป์ ห่าสองตัวนี้ก็รู้จัก”


แชมป์พูดบอกเมื่อเห็นว่าเพื่อนยังปากแข็งทั้งที่สายตามึงยังมองมันอยู่


“มองนาน มึงสนใจมันเหรอ” เอิร์ธถามทีเล่นทีจริง ทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ รอคำตอบ


“เปล่า ไม่ได้สนใจ” ติณตอบเสียงหนักแน่น


“ตอนมองมันหัวใจมึงกระตุกป่ะ”


“ทำไมต้องกระตุก หน้าตาแม่งก็เฉยๆ” ติณแหวเอิร์ธพร้อมตบหัวมันไปที


จะบ้าเรอะ ...ก็บอกแล้วว่าไม่ได้สนใจไง


“ตามึงบอดรึไง ออร่าแสงนีออนแม่งพุ่งโดดเด่นออกมาจากตัวจนคนรอบข้างหมองไปซะขนาดนั้น
แม่งเสือกมาบอกว่าหน้าตาเฉยๆ กูนั่งอยู่ตรงนี้ยังมองไปแล้วหลายรอบเลย”


แชมป์บอกเพื่อนชิลล์ๆ มองตามทุกคน ที่ตอนนี้สายตาทั้งสี่คู่กำลังให้ความสนใจอยู่กับเนปจูน


“แล้วเกี่ยวอะไรกับหัวใจกระตุก” ติณยังคงสงสัย


“ไม่รู้อ่ะ กูพูดไปงั้น” เอิร์ธบอกเพื่อนกลั้วหัวเราะ


“ฮ่าๆ แบบนี้เปล่าว่ะ หัวใจชักกระตุก ชักๆอยากไปหาเธอ”
เแชมป์ร้องเพลงขึ้นมา ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแต่ง ทำให้ทุกคนหัวเราะครื้น


“ฮ่าๆ มึงก็เข้าใจเห่าเนอะแชมป์” เอิร์ธด่าเพื่อน ปากอ้าหัวเราะด้วย


“เดี๋ยวกูต่อยเปรี้ยง แม่งหยาบคาย ไม่ได้เห่าสักหน่อย กูหอนต่างหากโว้ย”


คนโดนด่าตอกกลับด้วยประโยคสนุกสนาน ทำให้ทั้งโต๊ะหัวเราะยาวจนลืมเรื่องที่แซวติณณภพเมื่อครู่นี้หมด





...
..
.

อีกฝั่งของร้าน

“เป็นห่าไรไอ้จูน ขยับไปมาอยู่นั่นแหละ
จะแดกก็นั่งแดกดีๆ กูรำคาญ”  มิตรถามเพื่อนที่นั่งเคี้ยวอาหารอยู่ข้างนนท์ฝั่งตรงข้าม


เขาเห็นมันขยับไปมา ทำหน้ามุ่ยหลายครั้งเสียจนทนไม่ไหว ต้องเอ่ยถาม


“กูรู้สึกเหมือนมีคนมอง” เนปจูนขมวดคิ้วตอบ ปากยื่นปากยาว
หยิบแก้วน้ำเปล่ามาดื่มแก้เซ็งสายตาของคนรอบข้างที่มองมา


“ไอ้เหี้ยจูนนนนน ไม่รู้สึกได้ไง ทั้งซ้ายทั้งขวาหรือหน้าหลังก็มีแต่คนแอบมองมึงอยู่เนี่ย
เลือกเอาเลยนะ คืนนี้อยากตกเป็นของผู้หญิงหรือผู้ชาย” ตั้มเอ่ยขึ้นแล้วมองเพื่อนที่กำลังทำหน้ามุ่ยหนักขึ้นกว่าเดิม


“ปากมึงนี่ แม่ง น่าเอาตีนกูไปลูบ”


“มาก็กะแดกกับข้าวอย่างเดียวแล้วยังจะมาว่าคนจ่ายอีก”


“โหย ขอโทษครับพี่ตั้ม นี่ถ้าตู้เย็นกูมีของกิน ไม่ถ่อมาถึงนี่หรอก”


“แล้วทำไมไม่ซื้อใต้คอนโด”


“มันแพง เปลืองตังค์” เนปจูนตอบแบบไม่ต้องคิดแล้วรีบจ้วงข้าวเข้าปากคำสุดท้าย


ร้านข้าวแกงป้าแอ๋วเป็นร้านเดียวที่ทำอร่อยที่สุดในระแวกนั้น แต่ก็แพงสุดทีนเช่นกัน
ไม่รู้ว่าป้าแกจะโหดไปไหน ให้ก็ให้นิดเดียว จนบางคนต้องยอมสั่งสองจานจ่ายเบิ้ลให้
ที่สำคัญ หนึ่งในนั้นก็เคยมีเขาด้วย -_-





“เฮ้ย พวกมึง” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียง


“อ้าว ไอ้แชมป์ มาด้วยเหรอว่ะ” ตั้มเอ่ยทักเพื่อนร่วมคณะแล้วกวักมือเรียกให้มานั่งลงด้วยกัน


“เออ พวกกูมานานแล้วเนี่ย เห็นพวกมึงนั่งคุยกันสนุกดี เลยจะขอมานั่งด้วย”


“เอาดิๆ ย้ายของมาเลย” ทุกคนต่างพยักหน้า เขยิบที่นั่งให้เพื่อนกลุ่มใหม่ได้นั่งพอดีๆคน


“บอกเด็กเสิร์ฟล่ะ เดี๋ยวคงขนของมา” แชมป์บอกเสร็จแล้วถือโอกาสโซ้ยยำสามกรอบตรงหน้าเสียเลย


“ไงจูน สบายดีป่ะวะ ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอเลย” เอิร์ธถามเนปจูนที่หันหน้าไปคุยกับนนท์เพื่อนสนิทมันสองคนไม่สนใคร


“เออ สบายดี มึงละ”


“ก็ดี ...เออนี่ มึงสองคนยังไม่เคยเจอกันเลยนี่หว่า
ไอ้ติณนั่นเนปจูน...จูนนี่ไอ้ติณ...เคยเจอกันแวบๆมั่งป่ะ” เอิร์ธแนะนำเพื่อนทั้งสองให้รู้จักกัน


แม้ว่าจะอยู่คณะเดียวกัน เพื่อนในกลุ่มจะรู้จักกัน
แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เคยเจอกันจังๆ หรือบางทีอาจเจอข้างนอกแบบผิวเผิน


ด้วยเหตุผลที่ว่าไอ้ติณจะเข้าคณะเฉพาะวันที่มีเรียนหรือมีงานส่งอาจารย์ ส่วนไอ้จูนก็เช่นเดียวกัน 
แต่มันต่างตรงที่ว่านอกเหนือเวลานั้นถ้าไอ้ติณไม่ไปเที่ยวกับแฟนของมันก็คงนอนอยู่ที่คอนโด
ส่วนอีกคนก็คงสิงทำงานอยู่ที่ห้อง


“เอ้ออ หวัดดีหวัดดี หวัดดีหวัดดี หวัดดีเว้ย” เนปจูนพูดซ้ำๆไปมาจนเพื่อนขำ


แม่งจะไม่ให้ลุกลี้ลุกลนได้ไงละ
ก็ไอ้คนที่เขาเพิ่งคิดไปว่าถ้าได้มาเจอมันจ้องมองจังๆคงใจเต้นแรงกว่าเมื่อคืนกลับมายืนมองเขาอยู่ตรงนี้เฉยเลย -//-


ติณณภพพยักหน้าทักกลับ ทรุดตัวลงนั่งข้างกานต์


พอมาเจอมันใกล้ๆแบบนี้ก็เริ่มจะยอมรับคำพูดของแชมป์...แล้วที่เขาบอกไว้ว่าหน้าตามันเฉยๆ


ขอถอนคำพูดนะ..


ไอ้นี่มันมีออร่าสว่างออกมาจากตัวจนคนรอบข้างหมองลงไปจริงๆ


ขนาดคนตัวเล็กที่ชื่อนนท์เห็นไกลๆเขาก็ว่าน่ารัก แต่พอมาเจอใกล้ๆนั่งคู่กับเนปจูน มันยังดูหมองลงเลย


เขาเหลือบมองมันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกแว็บแล้วส่ายหัวยิ้มๆ เออแฮะ
นี่เขาไม่เคยยอมรับผู้ชายคนไหนว่ามันน่ารักเกินไป จนมาเจอคนนี้เลย


“หึ... มึงเตรียตัวแพ้ได้เลยเอิร์ธ กูว่าไอ้ติณตกม้าตายเร็วๆนี้แน่”
แชมป์พูดข่มเพื่อนเมื่อเห็นอะไรบ้างอย่างฟุ้งออกมาจากตัวไอ้ติณ


“อย่ามั่นใจเกินไป หึหึ ของแบบนี้มันต้องดูยาวๆ”


ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อนคนอื่นๆ
เอิร์ธและแชมป์ก็กำลังนั่งกระซิบคุยข่มกันถึงความพ่ายแพ้แบบไม่มีใครยอมใครเหมือนกัน



“เดี๋ยวคืนนี้ยังไม่ต้องกลับห้องนะ ไปนอนกับกู” เนปจูนพูดบอกนนท์เสียงเบา หลังจากนั่งคุยกันเรื่องไอ้ต๊อดยังไม่จบ


“แม่ง รบกวนมึงอีกแล้ว”


“ห่าไร เพื่อนกัน ถ้ากูได้ยินมึงพูดคำว่ารบกวนอีก กูจับมึงจูบแน่” เขาพูดชี้หน้า


“คิดว่ากลัวเหรอออ”


“หึ”


“กูขออยู่กับมึงสักพักนะ จนกว่าจะหาห้องใหม่ได้” นนท์ซบไหล่เนปจูน หลับตาลงเหนื่อยๆ


“เออ จริงๆแล้วมึงไม่ต้องหาห้องใหม่ก็ได้
เดี๋ยวกูไปโยนมันออกมานอกห้องให้มึงก็ได้ มันที่ของมึง ทำไมต้องไปยกให้มันว่ะ”


“กูไม่อยากอยู่ที่นั่นแล้วว่ะ แม่ง มีแต่ความทรงจำเลวๆ”


ทั้งสองคนนั่งเงียบสักพัก มองเพื่อนรอบโต๊ะ


ตั้ม พุทธ แชม์ เอิร์ธ มิตร นั่งชี้ชวนกันดูนมสาว ต่างจากติณและกานต์ที่มีสาวๆชี้ชวนกันมองดู


เนปจูนรีบหันหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองนั่งมองติณณภพนานเกินไป
เหอะ มึงจะยิ้ม จะยกแก้ว รึจะหยิบถั่วเข้าปากนี่แม่มก็ดูหล่อไปหมดเลยนะ '//'


เขาทำทีชวนนนท์คุย เปลี่ยนจุดโฟกัสมาก้มลงมองหัวเพื่อนตรงไหล่ตน


“นนท์”


“หื้อ”


“มึงเหนื่อยป่ะวะ”


“ที่สุด”


เนปจูนลูบหัวมันเบาๆ


"ยิ้มๆไว้ เดี๋ยวกูหาผัวใหม่ให้”


“สัด หาเมียให้กูบ้างสิ”


“มึงทำตัวให้เข้มแข็งก่อนผู้หญิงก่อนเถอะ แล้วกูจะหาให้”


ไอ้นนท์เป็นผู้ชายที่ใครมองผ่านไปมาก็รู้ว่าเป็นเกย์แน่ๆ
เพราะมันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่สำอางเอาเรื่องแต่ก็ไม่ออกแนวตุ๊ดแต๋วอะไร
มันเป็นคนอ่อนไหวง่าย หัวอ่อน มองโลกไม่ค่อยทัน เพราะอย่างนี้แหละถึงโดนไอ้ต๊อดหลอกเอา
ฉะนั้นพวกเราทุกคนถึงต้องดูแลมันเป็นพิเศษ แต่ส่วนมากก็มีเขานี่แหละดูแลมันมากกว่าใคร
คงเพราะเราเป็นเกย์เหมือนกัน เวลาปรึกษาอะไรเลยเข้าใจง่ายมากกว่าไอ้พวกที่มันนั่งดูนมผู้หญิง -*-


“จูนปากมึงว่างมั้ย” นนท์ถามขึ้นปัดมือไอ้จูนออก


“ไม่ว่าง เคี้ยวยำอยู่”


“จูบกูหน่อยดิ”


“เชี่ย มาเงี่ยนไรแถวนี้” เขาสบถเบาๆ มองคนพูดงงๆ อารมณ์ไหนของมัน


“เร็วดิ”


“ไม่ได้จูบกันนานแล้วนะ นี่ข้างนอกด้วย จะดีเหรอวะ”


เมื่อตอนม.ปลาย เนปจูนกับนนท์ชอบจูบกันบ่อยมาก
ยิ่งเวลากินเหล้าแล้วเมาๆก็จูบมันซะกลางวงนั่นเลยจนโดนล้อบ่อยๆว่าโชว์เลส


งงยังไม่ทันหาย ปากไอ้นนท์ก็ขยับเข้ามาประกบ
ยกมือกอดคอแล้วเอาลิ้นมาพัวพันจนเนปจูนต้องสนองตอบ
แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าพวกเขาไม่เคยมีอะไรกันเกินเลยมากกว่าจูบจริงๆ


จูบของพวกเขา เป็นจูบที่รู้สึกดีๆต่อกัน มันมากกว่าลึกซึ้ง
มันไม่ใช่จูบที่อยากมีอะไรกัน แต่เป็นจูบปลอบใจมากกว่า


“พอใจยัง” เขาถามยิ้มๆเมื่อมันถอนปากออกไป


“เออ” จากนั้นมันก็กลับไปนั่งข้างๆเหมือนเดิม


ถามว่า...ตอนนี้คนอื่นมองพวกเขายังไง
คำตอบคือ...มองแบบไม่กระพริบตายกเว้นเพื่อนกลุ่มเขา


“เหี้ย!!!” เอิร์ธอุทาน ยกมือชี้หน้าเนปจูนกับนนท์สลับไปมา


“พวกมึงเล่นห่าไรกันเนี้ยยยยย” แชมป์โวยวาย


“เล่นเลสให้พวกกูดูรึไง” กานต์บอกนิ่งๆ


“ฮ่าๆ เดี๋ยวพวกมึงก็ชิน ถ้าเจอมันสองคนอยู่ด้วยกันบ่อยๆ” มิตรบอกหัวเราะร่า


มีเพียงติณณภพเท่านั้นที่มองดูเฉยๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร


เขาไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเองและยอมรับว่ากับผู้ชายก็เคยมีอะไรด้วย
แต่แค่ครั้งเดียวกับเด็กขายเกรดเอ ไอ้กานต์เป็นคนพาไปลองเพราะมันเป็นไบรุก
ฉะนั้นการที่มาเห็นผู้ชายตัวเล็กสองคนนั่งดูดปากกัน เขาเลยไม่ตกใจอะไร
แต่แค่สงสัยนิดหน่อยว่ากลางร้านแบบนี้กล้าจูบกันได้ไง หึหึ




*โปรดติดตามตอนต่อไป*

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2014 20:28:33 โดย minime »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เอิร์ธมันรู้ตัวมั้ยนะว่ามันกำลังจะเป็นพ่อสื่อ :hao7:
และมันกำลังทำให้ตัวเองแพ้พนัน

 :a5: โชว์เลส
 :m20: กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

หนูติณไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ ไม่ใช่ลึกๆอยากจูบเค้านะ

รอตอนต่อไปจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
สนุกอ่ะๆ

รอตอนต่อไปนะคะ

 :z2: :laugh:


ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สนุกค่ะ ตามอ่านด้วยคน

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
แว่วเสียงดนตรีไทย....ห่ะ!?

มันใช่หรอ555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะกลายเป็นพ่อสื่อแม่ชักมักได้เองแน่ๆ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:เข้ามาติดตามด้วยคนจ้า :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ TinyB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2014 12:39:55 โดย TinyB »

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0

ตอนที่5-ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ




เนปจูนกับนนท์กลับมาถึงห้องในเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่แล้ว
พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์เขาคงต้องกลับบ้านไปทานข้าวกับน้องๆและพี่ชาย
ทั้งที่จริงแล้ววันนี้ต้องไปแต่เนื่องจากเคลียร์งานยังไม่เสร็จเลยขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้แทน


เขาบอกนนท์ให้ไปอาบน้ำก่อนจะมานั่งแหมะอยู่โต๊ะคอมหยิบรูปลูกค้าคนแรกขึ้นมาดู


คุณติณณภพ(เรียกในฐานะลูกค้า)ตัวจริงดูดีมาก ตอนนั่งกินเหล้าด้วยกันก็มีสาวๆเข้ามาหาไม่ขาดสาย
ต่างจากเขาที่ส่วนมากจะมีหนุ่มๆเข้ามาแต่ก็โดนกีดกั้นไปทุกราย เพราะไอ้นนท์ดันไปบอกว่าเขาเป็นผัวมัน -*-


เขาเป็นคนชอบคนง่าย รู้ตัวเลย แล้วยิ่งผู้ชายอย่างลูกค้าคนแรกของเขาโคตรจะตรงสเป็ก
แต่ก็แค่นั้น เพราะมันเป็นลูกค้าและไม่ใช่เกย์ ความเป็นไปได้ในทางชู้ชายตอนนี้เลยติดลบศูนย์


“เอารูปไอ้ติณมาจากไหนวะ” นนท์เดินเช็ดผมมายืนข้างหลังเพื่อน


“ลูกค้าคนแรกกูไง อย่าบอกใครละ” เนปจูนบอกแล้ววางรูปลง เดินไปนั่งโซฟาดูทีวี


“พูดเป็นเล่นป่ะจูน ไอ้ติณอ่ะนะมาจ้างบริษัทมึง” นนท์เดินตามไปนั่งข้างๆ


“เล่นไม่เล่นก็เป็นไปแล้วนี่หว่า”


“เหอะ มันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองพุทธวะ” นนท์พูดแล้วหัวเราะเบาๆ


“เกิดอะไรขึ้นกับมันมากกว่า” เนปจูนบอกแล้วเปลี่ยนช่องทีวี


จริงๆแล้วก็สงสัยอยู่มากเหมือนกันว่าทำไมมันไม่ไปจีบอิงฟ้าเองทั้งที่หน้าตาก็ให้
หล่อจนใครๆอยากควง แค่เดินเข้าไปบอกน้อง ขอเป็นแฟนก็คงได้แล้วมั้ง...





...
..
.

“พี่ติณ หวัดดีคร้าบบ”


หนุ่มน้อยชื่อหมูแดงมีศักดิ์เป็นน้องรหัสวิ่งมายกมือไหว้ติณ
แล้วรีบเดินขึ้นตึกไปเรียนอย่างเร่งรีบจนติณต้องป้องปากด่าตามหลัง


“เหี้ยหมู รีบขนาดนี้ไม่ต้องแวะไหว้กูก็ได้ สัด!” เขาส่ายหัวเล็กน้อย
กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีอีกคนมายืนขว้างไว้


“เออ...มึง”


“อ้าว มึง เจอกันเมื่อคืนนี่”


.....


“มีอะไร” เขาถามงงๆ เมื่อเห็นเนปจูนยังยืนเกาหัวเก้อๆไม่พูดอะไร


“เออ...มึง เอ๊ย...คุณติณณภพ”


“หือ?”


“คือ...กู ไม่ใช่...ผม...มาจากบริษัทพ่อสื่อที่คุณโทรไปจ้างน่ะ”


“หะ มึงว่าอะไรนะ” ติณถามอึ้งๆ โลกคงไม่กลมขนาดนั้นมั้ง


“อย่างที่ได้ยินแหละ แล้วพี่เจ้าของบริษัทมอบหมายงานนี้ให้ผมทำ”


ติณเงียบ พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นมันทำหน้าจริงจัง
แต่ปากมันที่พูดขยับเจื้อยแจ้วทำให้เขายืนมองซะเพลินเลย


“วันนี้ผมมาบอกคุณลูกค้าว่าเราอาจจะได้ทำงานร่วมกันบ้างบางครั้ง
และถ้าคุณอยากให้ผมทำอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากที่ผมทำได้ก็บอกแล้วกันนะครับ”


“เออ อืม” เขาขานรับ ยืนมองมันจนเดินลับตาไป พอรู้ตัวก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้


สรุปคร่าวๆว่าที่มันมายืนขวางหน้าแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ยาวเหยียดนี่เพื่อจะแนะนำตัวแค่นั้น?




RRR
“เออ ว่าไง”


(อยู่ไหน จะขึ้นเรียนแล้วนะเว้ย) เสียงมิตรโวยวายมาตามสายจนเขาต้องส่ายหน้ายิ้มๆ


“แถวห้องน้ำ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ รอด้วย”


วางสายเสร็จก็รีบจ้ำอ้าวกลับคณะ ทั้งที่เมื่อกี้ก็เดินจะถึงอยู่แล้ว
แต่ดันเจอลูกค้าเสียก่อน จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางแวะเข้าไปทักทาย


รู้มั้ยว่าทำใจกล้าพูดต่อหน้ามันแบบไม่ให้เสียงสั่นแทบไม่ไหว แม่ง
ก็เล่นยืนจ้องเงียบๆไม่พูดอะไรสักคำ ใครมันจะทนยืนคุยอยู่ด้วยได้นานๆว่ะ





...
..
.

RRR
(จูนเริ่มงานเป็นไงบ้าง)


“ก็...วันนี้ผมไปแนะนำตัวกับลูกค้าแล้วครับ”


(ทำแค่นี้เหรอวันนี้)


“ครับ”


(เค้าให้เวลาแค่สองอาทิตย์นะ ยังไงก็เร่งหน่อยแล้วกัน)


“ครับ”


(เดี๋ยวกูโทรหาอีกที)


“ครับ...หวัดดีครับ” วางสายจากพี่ลูกแก้วเสร็จ ทั้งเสียงและหน้าจ๋อยพอกันจนตั้มต้องถาม


“เจ้านายด่าเหรอว่ะ”


“เปล่า...เดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะพวกมึง เจอกัน”


เขาลาเพื่อนเดินกลับมาที่รถ ยืนครุ่นคิดสักนิดว่าจะไปไหนดี ระหว่างร้านดอกไม้กับรอปรึกษาลูกค้า


“ฮู้ววว งานช้างเลยวะ”


“ยืนพูดไรคนเดียว” ติณที่เพิ่งเรียนเสร็จกำลังจะเดินผ่านไปรถตัวเอง
เห็นเนปจูนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพึมพำคนเดียวอดสงสัยไม่ได้เลยหยุดถาม


“ห๊ะ...ห่า...เออ...” คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งอุทานตอบออกมาแทบไม่เป็นคำ


พอเห็นว่าใครมาทัก เขาจึงตัดสินใจได้แล้วว่าตอนนี้จะทำอะไรหรือไปไหนดี


“เอ้า ด่ากูซะงั้น”


“เออ ขอโทษครับๆ มาก็ดีละ คุณว่างมั้ย” เนปจูนค้อมหัวขอโทษให้คนคนที่ยืนงงเพราะเขาเผลอด่า


“ว่าง มีไร”


“ไปร้านดอกไม้กับผมที”


“ไปทำไม”


“ผมหิว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย” เขาตอบหน้าตายไม่ยิ้มไม่อะไร ไปร้านดอกไม้ก็ไปซื้อดอกไม้น่ะสิ ยังจะมาถาม


“กวนตีนนะมึง ตกลงไปทำไม” ติณยืนเท้าสะเอวมองคนกวน


มันกวนแบบหน้าตายๆได้น่าเดินเข้าไปเขย่าหัวมาก


“ก็ไปซื้อดอกไม้ให้น้องอิงฟ้าไง”


“น้องเขาชอบดอกไม้เหรอ”


“ใช่ อิงฟ้าชอบลิลลี่สีเหลือง”


“มึงรู้รายละเอียดของน้องเขาเยอะมั้ย”


“ก็พอรู้ แต่บอกคุณไม่ได้หรอก มันเป็นความลับของบริษัท”


“นั่นสิเนอะ ถ้ารู้แล้วใครจะมาจ้างพ่อสื่อให้ไปจีบ” ติณหัวเราะเบาๆให้กับคำพูดของตัวเอง


จะมีสักกี่คนกันที่จ้างบริษัทพ่อสื่อให้ไปจีบคนที่ตัวเองชอบ
แต่อย่างน้อยหนึ่งในนั้นก็มีเขาแหละว้า


“คุณจะสะดวกไปเจอกันที่ร้านหรือจะไปรถผม” เมื่อเห็นว่าเสียเวลาคุยกันมานานเลยตัดบทเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา


“ไปเจอกันที่ร้านแล้วกัน ว่าแต่ที่ไหนละ”


“Lilly Richly คุณรู้จักไหม”


“แถวxxx ใช่ไหม”


“ใช่ครับ”


“โอเค แล้วเจอกัน” ทั้งสองพยักหน้าให้กันก่อนจะแยกย้ายไปตามนัดที่ร้านดอกไม้


เนปจูนโทรไปบอกพนักงานในร้านให้เตรียมดอกไม้ไว้ และรีบขับรถมุ่งหน้าไปให้ถึงก่อนติณทันที


ร้านที่จะไป เป็นร้านแฟนของลูกพี่ลูกน้องเขา บางครั้งก็เบื่อๆไปช่วยจัดดอกไม้
นี่คือความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเขาที่ไม่ค่อยมีใครรู้นอกจากเพื่อนในกลุ่ม


ส่วนแผนงานพ่อสื่อให้หัวเขาตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากเลย
ตอนนี้ที่คิดอย่างแรกเลยคือ กะว่าจะเอาดอกไม้ไปให้เขา แล้วบอกว่าใครฝากมาเพื่อดูปฏิกิริยาฝ่ายหญิงก่อน


เหมือนจะง่ายนะ แต่รู้มั้ยว่าโครตยากกกกกกกส์!!
นี่เขาบอกจากก้นบึ้งของหัวใจเลย แล้วยิ่งไอ้ตัวผู้ชายมันดีๆน้อยซะเมื่อไหร่ งานนี้เพิ่มความยากไปอีกสิบเท่า





...
..
..
.

ติณเดินเข้าร้านมา สายตาสอดส่องหาคนที่นัดไว้อยู่เกือบรอบร้านแต่ก็ไม่ยักเจอ จึงเดินเข้าไปถามพนักงานที่เค้าน์เตอร์


“ขอโทษครับ เห็นผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาผอมๆไม่ค่อยสูงเดินเข้ามาในร้านมั้ยครับ”


“อ๋อ...มาหาคุณเนปจูนใช่มั้ยคะ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานสาวร้องอ๋อ
เดินนำไปยังมุมหนึ่งของร้านที่ค่อนข้างปลอดคน


ตรงนั้นมีผู้ชายคนที่ติณกำลังตามหายืนจัดช่อดอกไม้อยู่เงียบๆคนเดียว


“กำลังยืนจัดดอกไม้อยู่ตรงนั้นเลยค่ะ ให้ดิฉันเรียกให้มั้ยคะ”


“อ้อ ไม่ต้องครับ ขอบคุณมากฮะ” ติณค้อมหัวให้พนักงาน เหลียวมองจนเธอเดินลับหายไป แต่ยังไม่ยอมก้าวเข้าไปหา


ผู้ชายใส่ชุดนักศีกษา ชายเสื้อหลุดลุ่ยออกมานอกกางเกง ใบหน้าด้านข้างกำลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มยืนจัดดอกไม้
หยิบต้นเล็กต้นน้อยเลือกพิถีพิถันอยู่นาน กว่าจะตัดสินใจตัดก้านของดอกที่คิดว่าดูดีที่สุดแล้วเสียบลงไปในก้อนฟลอราเซลล์


...ช่างเป็นภาพที่หาดูยากมากๆในความคิดของเขา


“ยืนจัดดอกไม้อย่างกับผู้หญิง” อดไม่ได้จริงๆที่จะแขวะเข้าให้เมื่อเดินเข้าไปมองใกล้ๆ


เอาจริงๆ ผู้หญิงบางคนที่ทำงานร้านดอกไม้ยังไม่อารมณ์ดียืนจัดดอกไม้มากเท่ามันเลย


“นี่ชมเหรอครับ” เนปจูนถาม พยายามทำหน้านิ่งๆไม่หันไปมอง


“กูพูด ไม่ได้ชม ว่าแต่มึงน่ะ พูดกับกูแบบปกติก็ได้นะ”


“ผมไม่กล้าหรอกครับ คุณเป็นลูกค้าของเรา ยังไงก็ควรจะสุภาพไว้ก่อน”


“เออ อย่าให้กูได้ยินมึงแอบหลุดมาแล้วกัน”
เมื่อเห็นว่ามันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจัดช่อดอกไม้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกระแทกเสียงพูดตอบ


“แต่ถ้านอกเวลางานก็ไม่แน่”


“แล้วมึงทำงานเวลาไหนบ้าง”


“แล้วแต่อารมณ์”


“อ้าว...” ติณอุทานออกมาได้แค่นั้น ก็มีอันต้องปิดปากลงเพราะสายตาที่อีกคนส่งมาให้ออกแนวติดรำคาญแกมดุ


จากนั้นเขาเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเดินดูดอกไม้รอบๆแถวนั้นแทน


“เสร็จแล้ว” เนปจูนเอ่ยขึ้น
หยิบขวดน้ำบนโต๊ะมาฉีดช่อลิลลี่อีกสองสามทีเป็นปราการสุดท้ายก่อนจะยิ้มให้กับดอกที่จัดเองกับมือตรงหน้า


“ก็ดี” ติณเดินมายืนข้างๆ มองช่อลิลลี่สีเหลืองที่มีดอกหญ้าสีขาวแซมอยู่โดยรอบ


คนจัดยักไหล่ ยัดช่อดอกไม้ใส่มือลูกค้าแล้วเดินไปหยิบการ์ดเปล่า


“อะไร” ติณณภพถามอย่างงุนงง อยู่ดีๆก็ยื่นการ์ดมาให้ นี่อย่าบอกนะว่าจะให้เขาเขียนคำหวานๆลงไปเรอะ ไม่มีทาง


“จะเขียนอะไรหน่อยมั้ย” นั่นไงว่าแล้ว


“ไม่” ติณตอบทันทีแทบไม่ต้องคิด  นั่นจึงทำให้เนปจูนทำหน้าเอือมใส่ 


“งั้นก็ตามใจ แต่ผมบอกคุณไว้ก่อนนะ ว่าให้เวลาเราแค่สองอาทิตย์ ถ้าผมทำงานไม่สำเร็จอย่ามาโทษแล้วกัน”


“ได้ไง กูจ้างบริษัทมึงตั้งแพง”


“แล้วพี่ลูกแก้วไม่ได้บอกเหรอ ว่าบริษัทเรามีระยะเวลาในการเป็นพ่อสื่อมากสุดเท่าไหร่”


“ไม่ได้บอกและกูรอไม่ไหวหรอก”


“งั้นทำไมคุณไม่ไปจีบเองเลยละ จะได้ทันใจ”


“ก็ถ้ากูกล้าจีบ จะมาจ้างบริษัทมึงทำไม” ติณเดินเข้าไปใกล้ พูดชัดๆตรงหน้า


“นั่นสินะ ผมนี่ถามอะไรไม่คิดจริงๆ” เนปจูนตอบแบบประชดออกแนวจิกกัดตัวเองไปในตัว
เดินเอาการ์ดกลับไปไว้ที่เดิม แล้วออกมาจ่ายตังค์ที่เค้าน์เตอร์ข้างนอกโดยมีติณเดินตาม


“จะกลับแล้วเหรอค่ะ”


“ครับ” เขายิ้มให้พนักงานเล็กน้อย ควักธนบัตรใบสีเทาออกมายื่นให้


“รู้เหรอว่าน้องอิงฟ้าอยู่ที่ไหน”


“รู้ครับ”


“กูไปด้วยได้มั้ย”


“ไปได้ แต่ห้ามตามดูระหว่างผมปฏิบัติงาน ยังจะไปอยู่มั้ย”


“ไป งั้นเอารถกูไป ส่วนรถมึงจอดไว้นี่แหละ เดี๋ยวค่อยมาเอา”


“ครับ” เนปจูนพยักหน้า เดินตามติณไปที่รถ


“ไปไหน”


“ห้องสมุดประจำจังหวัด”



*โปรดติดตามตอนต่อไป*






เนปจูน
.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2014 20:40:01 โดย minime »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao7: ต่อไปคุณพ่อสื่อก็จะอยู่กับลูกค้า มากขึ้นๆ

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เนปจูนน่ารักกกกก   :-[

รอตอนต่อไปน้าาา  :L1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:เนปจูนน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0

ตอนที่6-อิงฟ้า



“เดี๋ยวมา” เนปจูนบอกแล้วถือดอกไม้ลงจากรถ


ติณณภพมองตามด้วยใจลุ้นระทึกจนมันเดินลับตาไป
แต่อีกคนเดินเข้าไปหาน้องอิงฟ้าด้วยใจห่อเหี่ยวนิดหน่อย


ให้รู้ไว้เลยว่าทุกประโยคที่คุยกับมันไม่มีครั้งไหนที่จะไม่ตื่นเต้นเลย เพียงแต่แค่เก็บอาการ
พยายามไม่ให้มันรู้ตัว ไม่ให้มันรู้สึก พยายามไม่ปลื้มมันมากไปกว่านี้ และเขาจะพยายามทำงานให้สำเร็จให้ได้

 
“สวัสดีครับน้องอิงฟ้า” เนปจูนเดินเข้าไปหาหญิงสาวรุ่นน้องแล้วพูดเสียงเบา


เธอกำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆอยู่ในมุมหนึ่งของห้องสมุด


“ค่ะ?” อิงฟ้าเงยหน้ามอง ขานรับถามด้วยคำสุภาพ ยิ้มให้เล็กน้อย


“มีคนฝากดอกไม้มาให้ครับ”


“ใครคะ” เธอทำหน้างงถาม ยื่นมือไปรับช่อลิลลี่สีเหลืองมาวางในบนเก้าอี้ตัวข้างๆ


“ยังบอกตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราอาจจะได้เจอกันบ่อยขึ้นนะ”


“คือฟ้า...”


“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธไม่ได้มั้ยครับ พี่ขอร้อง...นะ”


“แต่ฟ้า...” เธอรีบออกตัวจะปฏิเสธอีกครั้ง เมื่อสมองทบทวนถึงดอกไม้ที่ได้รับและคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า


“นะครับน้องฟ้า พี่ขอร้องจริงๆ เอาเป็นว่าพี่ขอตัวก่อนก่อนนะครับ
แล้ว...พรุ่งนี้ เจอกันที่มหาลัย โอเคมั้ย” เนปจูนรวบรัดคิดเองเออเอง แถมยังติ๊ต่างนัดเจออิงฟ้าในวันพรุ่งนี้อีกต่างหาก


ช่างเป็นพ่อสื่อที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาคิดในใจ


“พี่...อยู่มหาลัยเดียวกับฟ้าเหรอคะ” เจอลูกอ้อนและน้ำเสียงหวานๆแบบนี้ อิงฟ้าก็ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว


“ใช่ครับ พี่ชื่อเนปจูน เรียนมัณฑนศิลป์ อยู่ปีสาม สุดท้ายนี้ก็...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”


เขาขยิบตาให้หนึ่งทีเป็นการทิ้งทวนพร้อมกับเดินยิ้มกว้างออกไป





“เป็นไงมั่งว่ะ” ติณรีบถามเนปจูนอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าเขาเปิดประตูรถเข้ามานั่งอารมณ์ดี


“คอยดูพรุ่งนี้ได้เลย” เนปจูนยกยิ้มมุมปากแบบเท่ห์ๆ แต่คนมองกลับเห็นว่ามันน่ารักใช่หยอกทำให้ต้องแอบยกยิ้มตาม


และในใจก็แอบยิ้มกริ่มเหมือนกัน เมื่อลูกจ้างของเขาเดินยิ้มออกมาตอนเอาดอกไม้ไปน้องอิงฟ้าสำเร็จ
เพราะได้ข่าวมาว่าฝ่ายนั้นใฝ่เรียนมากกว่าใฝ่รัก


“พรุ่งนี้กูไปด้วยได้มั้ย” ติณถาม มองตรงไปยังข้างหน้า บังคับพวกมาลัยรถให้ไปในทางที่มันควรจะไป


“ไม่ได้” เนปจูนหันขวับมาตอบเสียงแข็ง แค่พามาดูด้วยรอบเดียวก็ผิดกฎจะตายละ


นี่ขืนไปดูด้วยทุกที ตายๆ พี่ลูกแก้วคงด่าเขาเละแน่ๆ


“ทำไมวะ”


“ค่อยไปวันอื่นแล้วกัน”


“กูถามว่าทำไม” ติณถามเสียงนิ่ง ไม่สนคำปฏิเสธ


“ไปบ่อยๆเดี๋ยวเขาก็รู้กันพอดี อีกอย่าง มันผิดกฎด้วย เข้าใจยัง”


“ขัดใจแม่ง” เขาสบถ น้ำเสียงอารมณ์เสียเหมือนคนเอาแต่ใจ


“เออ...รู้ไว้ ไม่มีใครตามใจมึงได้ทุกอย่างหรอก” เนปจูนพูดหยาบออกไป นั่นทำให้คนที่กำลังขับรถอยู่เกือบหยุดรถ


เมื่อกี้มันพูดว่าอะไรนะ?


“อ้าว เลิกงานแล้วเหรอมึง”


เนปจูนเงียบ ไม่ตอบมัน


“กูหิว หาข้าวกินก่อนละกัน”


“ไปส่งกูที่ร้านดอกไม้ก่อน”


“เดี๋ยวค่อยไป”


“เออๆ กลับไปส่งกูเอารถด้วยละกัน” 


“อื้ม” ติณณภพรับคำ หาแวะร้านทางข้างสบายๆกินมือเย็น


ใจเนปจูนอยากแยกกับมันจะตายแล้ว เป็นผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วอึดอัดชะมัด ถึงจะแอบปลื้มที่มันหล่อนิดๆก็เถอะ เหอะ






..
.

“เฮ้ย พวกมึง” ติณร้องทักเพื่อนๆ เมื่อเดินเข้ามาในร้าน


โลกนี้แม่งกลมไปป่ะว่ะ เมื่อก่อนตอนเขายังไม่เจอไอ้เนปจูนนี้ก็ไม่เห็นพวกมันจะรวมตัวกันสองกลุ่มเลย


“อ้าว ไปไงมาไงมาด้วยกันได้วะพวกมึง” กานต์ทักขึ้น ขยับที่ให้พอนั่งได้สองคน


“บังเอิญเจอกันหน้ามหาลัย รถมันเสีย กูเลยช่วย” ติณโกหกไป...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไรเหมือนกัน


แต่แค่ไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าไอ้คนข้างๆนี่แหละคือพ่อสื่อที่กำลังจีบหญิงให้เขาอยู่


“แล้วไม่พามันไปส่งอู่ดูรถละ” แชมป์ถามงงๆ มองเพื่อน


“กูหิวเลยแวะหาไรกินก่อน”


“อ้อ เออๆ พวกมึงอย่าถามมันมาก กินๆ” มิตรตบมือแปะๆเรียกสติทุกคนให้หันมาสนใจกับข้าวตรงหน้า


“น้องครับ ขอเบียร์เพิ่มสองเยือก” ติณณภพยกมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งเบียร์เพิ่มเมื่อเห็นที่มีอยู่มันใกล้หมดแล้ว


“ไหนบอกหิวข้าว”


“เดี๋ยวกูกิน”


“งั้นมึงก็สั่งเลยดิ”


ติณชายตามองขมวดคิ้วขัดใจ หันไปสั่งข้าวผัดหมูกับคนรับออเดอร์จานใหญ่และไม่ลืมถามคนที่พามาด้วย


“จะเอาอะไรมั้ย”


“ผัดผักคะน้า”


“ตามนั้นครับ”


เด็กเสิร์ฟพูดทวนรายการอาหารอีกรอบ ค้อมหัวให้แล้วเกินจากไป


“มึงอย่าแดกเบียร์มาก เดี๋ยวต้องไปส่งกูเอารถอีกนะ” เนปจูบกระซิบบอก กลัวที่ไอ้ติณมันโกหกเพื่อนความจะแตก


“เออน่า ไม่มากหรอก นิดเดียว” ติณบอกปัดๆ ซัดเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่


“รถมึงเอาเข้าอู่ยัง” นนท์ที่นั่งอยู่ข้างเนปจูนถามขึ้นเมื่อตัวเองกินข้าวอิ่มแล้ว


“ให้เขามาลากไปแล้ว เดี๋ยวกูก็กลับไปเอา” เนปจูนบอก คว้าหัวนนท์มาซบไหล่ตัวเอง


เอิร์ธหันไปมอง แอบสะกิดแชมป์ให้มองตาม
คืนก่อนยังตกใจไม่หายที่อยู่ๆพวกมันสองคนก็นั่งจูบกันให้ดู ไม่ใช่แค่กลุ่มเขานะที่มอง โต๊ะอื่นที่อยู่รอบๆก็มองเหมือนกันเหอะ!


“พวกมึงสองคนเป็นแฟนกันเหรอ” กานต์อดไม่ได้ต้องเอ่ยถาม


“เออ” นนท์ตอบ ยกมือกอดคอเนปจูนอ้อนๆ


“พวกกูเหมือนคนเป็นแฟนกันขนาดนั้นรึไงว่ะ” เขาถามอย่างแปลกใจ สำหรับเขา เขาว่ามันไม่แปลกนะ


เอ๊ะ...หรือแปลกว่ะ?


“ก็ไม่หรอก จริงๆแล้วเหมือนผัวเมียกันมากกว่า” แชมป์ตอบเล่นๆ หัวเราะร่า


“อ่ะถูก เนี้ยแหละ ผัวกู” นนท์ตอบแล้วยืดตัวไปหอมแก้มเนปจูนโชว์ไอ้คนถามซะเลย


“สัด มาเล่นเลสให้กูดูอีกล่ะ แม่ง เสียดายของ” แชมป์บ่นเบาๆ


มิตรกับตั้มได้แต่นั่งหัวเราะเพื่อนต่างกลุ่ม


“มึงมีแฟนยังวะจูน” เอิร์ธส่ายหัวให้กับภาพตรงหน้าก่อนถามเนปจูน


“ยัง”


“จริงดิ งั้นกูจีบมึงได้มั้ยว่ะ” เขายักคิ้วถามเล่นๆ ไม่จริงจัง แต่อยู่ๆนนท์ก็ขัดขึ้นมาเสียงดุ


“ไม่ได้!”


“สัดนนท์ กูพูดเล่น ไม่ต้องหวงจริงจังขนาดนั้น แล้วมึงอ่ะ มีแฟนยัง” เอิร์ธเปลี่ยนเป้าหมายคนคุยด้วย


ตอนนี้ทั้งโต๊ะ มีแต่กานต์กับเนปจูนที่นั่งฟังนนท์กับเอิร์ธคุยกัน
ส่วนแชมป์คุยเรื่องรถกับติณ ตั้มกับมิตรหันไปนั่งจมอยู่กับโทรศัพท์


“ไม่มี แต่กูไม่เอามึงหรอกนะเอิร์ธ” นนท์ว่าแล้วแลบลิ้น


“แล้วถ้าเป็นกูอ่ะ” กานต์พูดสวนขึ้น มองหน้านนท์


“เหอะ” นนท์ทำหน้ายู่ สะบัดเสียงตอบ ซุกหัวซุกหน้ากับไหล่เนปจูน


ไอ้กานต์มันก็หล่อนะ คึคึ จะให้ตอบว่าไม่ก็ยังไงๆอยู่อ่า


“มันขี้อาย พวกมึงอย่าไปแกล้งมัน” จูนว่าป้องนนท์ขำๆ


“หึ กูจะเชื่อดีมั้ยเนี้ยว่าขี้อาย” เอิร์ธว่ายิ้มๆ


“เออมึง ช่วงนี้ไอ้พุทธไปไหนว่ะ กูไม่ค่อยเห็น” กานต์หันไปถามตั้มกับมิตรแล้วปล่อยให้คู่เลสมันนั่งงุ้งงิ้งกันสองคนตามประสาต่อไป


“ตามเคลียร์กับว่าที่อดีตคู่หมั้นอยู่”


“เฮ้ย กูได้ข่าวมานะว่ามันจะถอนหมั้น ตกลงเรื่องจริงดิ”


“เออ มั่ง ว่าแต่ทำไมข่าวไปไวจังว่ะ”


“แม่งก็ขึ้นโชว์สเตตัสเฟสหราขนาดนั้น ใครไม่รู้ก็บ้าละ” เอิร์ธตอบ หยิบถั่วเข้าปากเคี้ยวกรุบกรับ


“เอ้า ไอ้เชี่ยนี่ แล้วก็มาบอกกูว่าอย่าเพิ่งบอกใคร” ตั้มบ่นไอ้พุทธ ส่ายหัวไปมา


ไม่นานข้าวผัดหมูกับผัดผักคะน้าร้อนๆก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
คนไม่หิวกับจ้วงกินเอาเป็นเอาตาย แต่คนบ่นหิวดันไม่แตะสักนิดนอกจากยกแก้วในมือซดเอาซดเอา


ตกลงมึงอยากมาเพราะหาเรื่องแดกเบียร์ใช่มั้ยเชี้ยติณณณ!


“ถ้ามึงจะยังเอ้อระเหยไม่ยอมกินข้าวกูนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้” เนปจูนผละจากคุยกับนนท์หันไปกระซิบบอกคนนั่งอีกข้าง


ก็ไม่ได้รีบอะไรมากหรอก แต่ตอนนี้มันมืดแล้ว ร้านกำลังจะปิด บอกตรงๆเลยว่าเป็นห่วงรถ
และถ้ามันอยากนั่งต่อ เขากลับเองก็ได้ไม่มีปัญหา ที่พูดไปนี่ไม่ได้กะให้มันอารมณ์เสียเลยสักนิด แต่ก็ไม่ทันแล้ว...


ติณณภพถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยกดื่มเบียร์แก้วตัวเองจนหมดแล้วหยิบตังค์ออกมายื่นให้กานต์


“สองคน กูกลับละ มีธุระต่อ” เขาพูดแล้วเดินทำหน้าหงุดหงิดออกไป


“อ้าว เป็นอะไรของมันวะ” ตั้มอุทาน มองตามหลังเพื่อนต่างกลุ่มงงๆ


“เดี๋ยวกูไปเอารถก่อน แล้วเจอกันที่ห้องนะนนท์” เนปจูนบอกเพื่อนแล้วลุกขึ้นยืน


“เออๆ เดี๋ยวให้ไอ้มิตรไปส่ง”


“สัด ผัวเมียกัน ไม่กลับด้วยกันละ” เอิร์ธอดไม่ได้จึงแดกดันขึ้นมา


เนปจูนเลยผลักหัวมันไปทีก่อนเดินออกจากร้าน


“ทำห่าไร ชักช้า รีบมากไม่ใช่รึไง” ติณถามเสียงแข็ง เร่งกูยิกๆอยู่นั่น พอเดินมาถึงรถเสือกยังไม่ตามมาอีก 


จริงๆแล้วที่บอกว่าหิว เขาแค่อยากชวนมันมานั่งจิบเบียร์พูดเกี่ยวกับงานที่มันจะทำให้
แต่ก็ต้องผิดแผนเมื่อเจอเพื่อนทั้งหลายนั่งหน้าสลอนอยู่ในร้าน 


เขาเป็นพวกถ้ากำลังนั่งจิบเบียร์อารมณ์ดีชิลล์ๆไม่ชอบให้ใครมาสั่งโน้นสั่งนี้แล้วเร่งให้กลับ
จริงๆจะให้กลับแท็กซี่อย่างที่มันบอกเองก็ได้ แต่พอหันไปเจอหน้าขาวๆของมันแล้ว ยอมไปส่งทั้งที่ตัวเองอยากอยู่ต่อก็ได้ว่ะ


“กูผิดอะไรละ ไม่อยากไปส่งก็ไม่ต้องไปดิ บอกแล้วไงว่ากลับแท็กซี่เองได้!”


เนปจูนตอบเสียงแข็งกลับไป เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นแต่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรอีก


มันแค่เหยียบคันเร่งไปให้ถึงร้านภายในไม่กี่นาทีโดยไม่หือไม่อือกับคำขอบคุณที่เขาบอก
พอปิดประตูยังไม่ทันได้ละมือออกห่างหนึ่งคืบมันก็รีบขับรถออกไปพร้อมเขาที่ยืนเบะปากให้ตามหลัง


นี่เขาผิดอะไรว่ะ? แต่ต้องง้อใช่มั้ยเพราะมันเป็นลูกค้า


แล้วอีกอย่าง...ต่อจากนี้ไปทุกคืนจนกว่าจะครบสองอาทิตย์ เขาคงต้องควบคุมความประพฤติของคนๆนี้
ไม่ให้ไปมีเรื่องพัวพันกับหญิงสาวอื่นหรือมีเรื่องเสื่อมเสียหายเชิงชู้สาว ด้วยเหตุเพราะถ้ามันทำตัวดี
บางทีอิงฟ้าอาจจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น




*โปรดติดตามตอนต่อไป*

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2014 20:42:25 โดย minime »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ติณเป็นอะไรเนี่ย

ทำไมมีลางสังหรณ์ว่า ลูกค้ากับเป้าหมายจะเคลมพ่อสื่อทั้งคู่เลยล่ะ  :hao6:

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หวังว่าน้องอิงจะไม่ชอบพ่อสื่อซะเองนะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew2: :mew2: :mew2:งานนี้ถ้าน้องอิงฟ้าชอบเนปจูนละก็ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
น้องอิงฟ้าจะขัดว่าอะไร  อยากรู้ 

นนท์กับจูน ให้ความรู้สึกแปลกๆดี

นนท์จะเสร็จกานต์รึเปล่าหนอ?

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
จำได้ว่าเคยเม้นต์ไปที

อืมๆๆ ดูมีแววว่าติณจะตกหลุมรักพ่อสื่อแล้วจริงๆๆๆ

ออฟไลน์ minime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0

ตอนที่7-ขาที่ก้าวเข้ามา



เมื่อวานเป็นวันที่สองของการทำงาน เขาแวะเอาโหลคุ้กกี้ไปให้ฝ่ายหญิง และไม่ลืมที่จะไลน์รายงานบอกฝ่ายชาย


ฝ่ายหญิงน่ะ...เธอเฉยๆมาก แค่ยิ้มให้ รับของไป กำลังจะปฏิเสธแต่เขาก็ดันพูดขัดขึ้นมาแล้วรีบชิ่ง


ส่วนไอ้ฝ่ายชายเนี้ยสิ ตื่นเต้นใหญ่ ถามนู้นนี้ไม่เลิกทั้งที่วันก่อนหน้านั้นได้ข่าวมึงทำหน้าตึงใส่กูอยู่ไม่ใช่รึไง!?


เย็นนี้พอเลิกเรียนเขาก็กลับห้อง คิดหาทางช่วยลูกค้าทำให้ผู้หญิงประทับใจ
หัวตันๆแบบนี้พอได้อาบน้ำแล้วก็โล่ง แต่พอหยิบโทรศัพท์มาเช็คไอจีก็ต้องตันอีกเพราะคุณติณณภพมันไปเที่ยวแล้วอัพรูป


ถึงรูปที่มันอัพจะมีรอยยิ้มเห็นฟันเกือบครบสามสิบสองซี่และดวงตามีเสน่ห์เป็นจุดเด่นจนทำให้เขานั่งมองอยู่นานก็เถอะ
แต่ไม่ได้ งานก็คืองาน! ถ้าลูกค้าเขายังทำตัวเป็นโสดสำมะเลเทเมาอยู่แบบนี้ผู้หญิงอย่างอิงฟ้าไม่มีทางชอบมันแน่ๆ





'อยู่ไหน'


เขาจัดการไลน์ไปถาม แต่รออยู่เกือบชั่วโมงกว่ามันจะตอบกลับ แถมยังเป็นประโยคสั้นๆที่ไม่ได้ขยายความอะไรอีกด้วย


'ข้างนอก'


ขอบคุณ -_-'


'รู้แล้วครับว่าอยู่ข้างนอก แต่ช่วยตอบให้แคบกว่านี้ได้มั้ย'


'ที่นี่'


อ้อ...ร้านประจำ


'คืนนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับ'


'จำเป็นขนาดนั้น?'


ยังจะมาถาม! 


'มีกฏอีกข้อที่ผมลืมบอกคุณ'


'กฏอะไรว่ะ'


'อีกครึ่งชั่วโมงออกมาเจอกันหน้าร้าน'


เขาบอกนนท์ที่นอนคว่ำตัวเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงว่าจะไปข้างนอกแปป แล้วรีบบึ่งรถไปที่นี่โดยไว





ติณณภพเก็บมือถือเข้ากระเป๋า เดินไปบอกเพื่อนที่โต๊ะว่าจะออกไปสูบบุหรี่แล้วรวดรอคนที่ไลน์มาหา


งงเหมือนกันที่อยู่ๆเนปจูนก็ไลน์มาถามว่าอยู่ไหนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
และยังคงสงสัยว่ากฏอีกข้อที่พูดถึงมันสำคัญถึงขนาดต้องมาบอกเขาตอนนี้เชียว?


บุหรี่ม้วนที่สองเพิ่งหมดไปเขาก็เห็นรถพ่อสื่อขับเข้ามาจอด
มันเดินหน้ามุ่ยมาหา มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดเสียงเครียดใส่


“โทษทีที่ต้องขัดขวางความสุข แต่การที่คุณออกมาเที่ยวทั้งๆที่กำลังให้ผมจีบผู้หญิงให้อยู่
ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสม และต่อจากนี้ไปขอให้คุณงดเที่ยวกลางคืนเป็นเวลาสองอาทิตย์จนกว่างานผมจะเสร็จ ขอบคุณครับ”


มันพูดเสร็จแล้วเข้ามาลากแขนไปที่รถเขา


นี่อยากถามมันมากว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไรนะแต่กลัวจะโดนแยกเขี้ยวใส่ เลยได้แต่ยืนเลิกคิ้วมองงงๆ


“งงอะไร กลับห้อง”


“หะ”


“กลับห้อง”


เออ...! แล้วเขาต้องทำตามใช่มั้ย รู้สึกว่ายังไม่เคลียร์เท่าไหร่นะ


“เมื่อกี้พูดอะไร เอาให้เคลียร์หน่อย ขออีกที”


มันเม้มปากเข้ามากันแน่นเหมือนพยายามอดทนอดกลั้นอะไรสักอย่าง


อยากจะหัวเราะกับท่าทางนั้น แต่กลัวเสียมารยาทเลยได้แต่ยืนจ้องนิ่งๆกลับไป


“ติณ...กูซีเรียสนะ”


อ้าว...เปลี่ยนสรรพนามซะงั้น สงสัยจะเครียดจริง


“กูไม่รู้ว่ามึงมั่นใจมากแค่ไหนกับการที่มาจ้างพ่อสื่อให้จีบผู้หญิงให้
แต่บอกไว้ก่อนว่ากูไม่มั่นใจเลย และถ้ามึงจะยังทำตัวแบบนี้ มึงก็เลิกจ้างเถอะ”


“แล้วกูผิดอะไร แค่มาเที่ยว”


“มึงคิดว่าอิงฟ้าเขาจะชอบผู้ชายเที่ยวเยอะ มีเรื่องแยะแบบมึงงั้นเหรอ”


“แล้วกูต้องทำยังไง”


“หยุดเที่ยวสองอาทิตย์”


ให้ตายเถอะพับผ่า!...


สาบานเลยว่าเขาไม่ได้เมาแอ๋ถึงขนาดฟังผิด แต่...เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ!?


“กูเคยหยุดเที่ยวแล้ว แต่ทำไม่ได้ ทำไมว่ะ ก็แค่เที่ยว มันเสียหายตรงไหน”


“มันไม่เสียหายตรงไหน แต่ก็ไม่ตายไม่ใช่เหรอ...กลับห้องไปได้แล้ว”


เนปจูนพูดจบก็เดินเข้าไปตบๆกระเป๋าหากุญแจรถในกางเกงยีนส์ทั้งหน้าและหลัง


เขาปลดล็อคเปิดประตู ผลักมันที่ยังยืนงงทำหน้าไม่เข้าใจแล้วยัดกุญแจใส่มือ


“ขับรถดีๆละ ถึงแล้วไลน์บอกด้วย” เขาพูดแล้วเดินจากมา ไม่สนลูกค้าที่ยังนั่งงง


ไม่รู้มันจะทำตามมั้ย แต่ก็หวังว่ามันคงจะพยายามเข้าใจในสิ่งที่เข้าอธิบายบอกไปนะ -*-





...
..
.

RRR
(ไอ้จูน งานไปถึงไหนแล้ว) เสียงเจ้านายดังมาตามสาย ปลุกให้คนที่กำลังหลับอยู่ต้องรีบเด้งตัวมานั่งคุยอย่างจริงจัง


“คิดว่าสำเร็จไป15%แล้วครับ” ก็มันเพิ่งจะผ่านมาสองสามวันเองนี่หว่า... ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว


อย่างน้อยเธอก็ยอมรับของที่ให้ไปแหละ


(ก็ยังดี มีค่าใช้จ่ายอะไรรึยังว่ะ)


“ค่าดอกไม้กับคุ้กกี้ครับ”


(แล้วน้องเขาว่ายังไงบ้าง)


“เฉยมากครับ แต่ผมพยายามตื้ออยู่”


(เออ ดีๆนะมึง เต็มที่ไปเลย)


“แต่ว่าพี่ครับ พี่ขอเวลาลูกค้าให้นานกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอครับ”


(ไม่ได้ว่ะ โทษที เขากำหนดเส้นตายมาสองอาทิตย์ก็คือสองอาทิตย์) ลูกแก้วบอกเสียงเครียด


ค่อนข้างเห็นใจลูกน้องเหมือนกัน แต่ลูกค้าคือพระเจ้าและเขาก็เชื่อมั่นในตัวพระเจ้ามาตลอด


“ผมจะพยายามนะครับ แต่ถ้ามันไม่สำเร็จ...”


(มึงก็จะยังเป็นลูกน้องกูอยู่นี่แหละ อย่าคิดมาก ทำให้เต็มที่ก็พอ) เขาพูดขัดขึ้น ไม่ค่อยชอบเห็นใครดราม่าสักเท่าไหร่


“ขอบคุณมากครับพี่”





“ใครโทรมาว่ะ” นนท์ถามเมื่อเห็นเนปจูนวางสายไปแล้ว


ตอนนี้เขายังอยู่ห้องมันไม่ได้ย้ายไปไหน
กำลังรอจังหวะเวลาหาห้องใหม่ ได้ก็จะพาพวกเพื่อนๆไปขนของจากห้องเก่าออกมาให้หมด
ส่วนเรื่องไอ้เหี้ยนั่น ตอนนี้หัวใจเขาเริ่มลบมันใกล้หมดแล้ว


“พี่ลูกแก้วน่ะ โทรมาถามเรื่องงาน” บอกแล้วล้มลงนอนต่อ วันนี้เรียนบ่าย กะว่าจะแวะเอาขนมไปให้น้องอิงฟ้าอีกแล้วค่อยเข้าเรียน


“จะนอนต่อเหรอ กูหิว”


“ลุกหาไรแดกดิ”


“ไอ้ผัวจอมปลอม!” นนท์บ่นเสียงดัง เตะหน้าแข้งมันไปที ลุกไปอาบน้ำ ทำกับข้าวกินในครัว ไม่ลืมทำเผืื่อมันด้วย


พอสิบเอ็ดโมงกว่าๆเนปจูนก็ลุกมานั่งงงๆแล้วไปอาบน้ำแปรงฟัน


“ไอ้นนท์ อยู่มั้ยวะ” เขาร้องหาเพื่อนขณะแต่งตัวไปด้วย


“ไอ้นนท์” เดินออกมาข้างนอกก็เจอแต่ความว่างเปล่า จนมาหยุดอยู่หน้าตู้เย็น มีโพสต์อิทแปะอยู่


-กูออกไปหาห้องใหม่
ข้าวอยู่บนโต๊ะ เจอกันม'หาลัย-


“กูบอกไม่ต้องหาๆ แม่งไม่ฟังอีก” เขาบ่นแล้วเดินไปอุ่นข้าวมานั่งกิน


จริงๆแล้วห้องเขาอยู่ด้วยกันสองคนก็ไม่ได้ดูลำบากอะไรเลย แต่คิดว่าบางทีมันคงอยากมีพื้นที่ส่วนตัวถึงไปหาห้องใหม่


นั่งกินข้าวจนหมดจาน ก็เตรียมตัวเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อแวะซื้อขนมฝากน้องอิงฟ้า


เขาไม่รู้นะว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันอีกสองคนมันมีวิธีทำงานของมันยังไง ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่
แต่สำหรับเขา คิดว่าสองอาทิตย์คงไม่พอแน่ๆ ของอย่างนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด
และได้แต่ภาวะนาให้น้องอิงฟ้ารับรักคุณติณณภพทีเถอะ





...
..
.

12วันผ่านไป
นนท์ย้ายออกจากห้องเนปจูนไปตั้งแต่3วันที่แล้ว โดยไม่ได้บอกใครว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน


แผนที่บอกว่าจะให้ไปช่วยขนของออกจากห้องเก่าก็ไม่ได้ทำ แถมช่วงนี้เพื่อนตัวเล็กยังชอบทำตัวห่างเหิน หายตัวบ่อยๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ อึกอักเดินหนีไม่ค่อยมานัวเนียใกล้ๆอีกด้วย


(อีก2วันก่อนไปเรียนเข้ามาหากูด้วยนะ)


“ครับ” เนปจูนรับคำแล้ววางสายถอนหายใจเฮือกใหญ่


ถามว่าตอนนี้งานเขาเดินหน้าไปถึงไหนแล้ว บอกตรงๆเลยว่า 50-50 มาก


น้องอิงฟ้าดูเฉยมาก บางครั้งเอาขนมไปฝากก็แค่รับไว้ บอกขอบคุณแล้วเดินหนีไปเลย


มีอยู่วันนึง เนปจูนเลิกเรียนเร็วเลยแวะไปหาน้องอิงฟ้าเพราะรู้ว่าอีก10นาทีน้องจะพักแล้วเข้าเรียนต่อ


พอไปถึง ทันทีที่เห็นหน้า อิงฟ้าก็ทำเหมือนจะเดินหนีแต่ก็จำยอมต้องคุยด้วยเพราะเขาไปดักหน้าดักหลังพูดว่านล้อมขอเวลา สุดท้ายก็ได้มา2นาที


เนปจูนเปิดอกคุยกับน้องภายในสองนาที บอกแบบ(ไม่ค่อย)หมดเปลือกว่าที่ทำไปทั้งหมดนี่เพราะอะไร ทำไปทำไม และให้เวลาน้องตัดสินใจ


'น้องอิงฟ้าเคยเจอคนในรูปนี้มั้ยครับ' เขาถามแล้วยื่นรูปคุณติณณภพที่แนบมากับซองประวัติไปให้ดู


'เคยผ่านๆ มีอะไรเหรอค่ะ'


อิงฟ้ามองคนในรูป จำได้ว่าบังเอิญเจอตามร้านอาหารเวลาเขากินข้าวพักกลางวัน


'คนนี้แหละครับ ที่พี่กำลังจีบน้องให้มันอยู่ เพื่อนพี่เป็นคนขี้อายน่ะครับ ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ น้องพอจะรับรักมันได้มั้ยครับ'


น้องฟังจบก็นั่งเงียบ ไม่พูดอะไร เขาเลยขอนัดอีกทีในวันสุดท้ายของการทำงาน


'เอางี้ครับ พี่ให้เวลาน้องตัดสินใจ วันอาทิตย์หน้าตอนกลางวัน ถ้าสะดวกออกมาเจอพี่ได้มั้ยครับ'


น้องยังคงเงียบ


'ร้านxx หลังมอก็ได้ครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนครั้งสุดท้ายมากเกินไป'


น้องแค่พยักหน้ารับ


'พี่รู้นะครับ ว่าน้องเป็นเด็กใฝ่เรียน แต่น้องลองกลับไปคิดดูนะครับว่าถ้าลองมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิต
บางทีมันอาจจะดีก็ได้นะ มีคนช่วยคิด ช่วยแบ่งเบาเรื่องหนักใจ ลองดูนะครับ ชีวิตน้อง พี่ให้น้องตัดสินใจนะ แล้วเจอกันครับ'


เนปจูนเดินไปลูบหัวน้องอิงฟ้าสองทีแล้วเดินออกมา


เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไปเจอน้องทุกวันหรอก
ขืนไปทุกวันคงโดนรังเกียจเอาแน่ๆ เพราะแค่นี้น้องก็ไม่อยากจะเสวนาด้วยแล้ว


นี่เขาต้องเดินไปบอกคุณติณณภพมั้ยนะว่าให้ทำใจไว้ 50-50





“ไอ้พุทธเมื่อกี้กูเห็นนะมึงเดินกับใคร”


“เมีย”


“โห้ เต็มปากเต็มคำไอ้สัด”


“มันจะไปสนอะไร ตั้งแต่ถอนหมั้นไปแล้วนี่ แม่งกลับมาเลวแดกเหลือหลายเหมือนเดิม”


เนปจูนเดินส่ายหัวเข้ามาหาเพื่อนที่โต๊ะหน้าคณะขณะรอเข้าเรียนอีกครึ่งชั่วโมง


ได้ยินที่พวกมันคุยกันเมื่อกี้แล้ว ก็ฟังไม่ผิดหรอก
ไอ้พุทธมันถอนหมั้นไปแล้วจริงๆ พร้อมหลักฐานที่เอาไปโยนให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงดูถึงบ้าน


พุทธตั้งใจลาเรียน1อาทิตย์เต็มๆเพื่อบินไปเก็บหลักฐานถึงที่
โดยตามดูตามถ่ายรูปอยู่เงียบๆทั้งที่ในใจอยากเดินเข้าไปแสดงตัวมากกว่า แต่ก็กลัวอดีตคู่หมั้นจะช็อคไปซะก่อน


จนมันกลับมา ไปล้างรูปสองชุด ให้พ่อกับแม่มันดูหนึ่งชุด
แล้วทั้งครอบครัวก็บุกไปบ้านพ่อแม่อดีตเมียมันเอารูปงามหน้างามตาที่มันถ่ายได้ไปให้ดูอีกหนึ่งชุด งานนี้เรียกว่าเจ็บจริงจบจริง


แต่คนอย่างพุทธ-พุทธชาติ ก็เจ็บได้แค่แปปเดียว เพราะอีกสองวันให้หลังมันก็ไปควงสาวใหม่ ซึ่งก็คือเมียที่มันพูดบอกเมื่อกี้


“ยิ้มมาแต่ไกลเลยนะ” มิตรแซวเนปจูนที่ดูก็รู้ว่ามันประชด


“เชี้ยไร” เขาบอกเหวี่ยงๆ แย่งขนมมันมากิน


“เป็นอะไรวะ” ตั้มเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มาถาม


“เปล่า กูแค่เซ็งๆ ไรมึงเนี่ยนนท์ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ ไหนดูดิ มีไร” คนพูดพยายามแย่งโทรศัพท์จากนนท์ที่ยื้อของรักของหวงไว้สุดแรง


“ปล่อยยยย ไอ้เหี้ยจูน”


“ด่าขนาดนี้ มีผัวใหม่ก็บอกมา กูรู้นะ”


เนปจูนปล่อยโทรศัพท์แล้วชี้หน้าขู่มัน ที่จริงทำเล่นๆอย่างงั้นแหละ เห็นมันมีความสุขก็ดีแล้ว


“มีที่ไหนเล่า กูรักมึงจะตาย” นนท์รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วกอดแขนอ้อนเพื่อน


“แหนะๆ ไอ้นนท์ เมื่อคืนกูเห็นนะ มึงยืนดูดลิ้นกับใคร” มิตรแซวเล่นๆแต่คนโดนแซวเสือกหน้าแดงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่


“อะไร มึงมั่วป่ะมิตร เมื่อคืนกูอยู่ห้อง”


“แล้วอยู่ห้องกับใคร” ตั้มรีบถามสมทบ มือก็กดเล่นเกมส์ไพ่แข่งกับพุทธไปด้วย


“ก็...” คนตอบชะงักไว้แค่นั้นก่อนจะคิดได้ว่าเสียรู้พวกมันเข้าแล้ว


“ไอ้ห่า พวกมึงรุมกู” นนท์ได้แต่นั่งบิดแขนเนปจูนที่ก็นั่งขำด้วยความโมโหเพราะเถียงอะไรไม่ได้


ก็เมื่อคืนเขายืนดูดลิ้นกับใครอีกคนอย่างที่พวกมันว่าจริงๆนี่หน่า


Panyakorn : อย่านั่งใกล้มันมาก ไปเรียนแล้วนะ เจอกันที่ห้อง


ความสั่นจากกระเป๋าทำให้นนท์รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วยิ้มก่อนจะกระเถิบห่างออกมานิดหน่อยจากเนปจูน


NoN_k : อื้ม ตั้งใจเรียนนะ




“เห้ย”


“อ้าว มึงมานั่งข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมกูไม่เห็น” เนปจูนถามงงๆมองหน้าคนทัก


“ก็มึงจำหลังกูไม่ได้ไง” มันตอบกวนแล้วยกยิ้ม


“สัด แล้วนี่เพื่อนมึงไปไหนหมด ไม่ไปเรียนกันเหรอ”


“พวกมันขึ้นไปก่อนแล้ว งั้นกูไปแล้วนะ” ประโยคหลังเขาพูดแล้วมองตาผ่านๆกับนนท์แบบไม่มีใครสังเกตได้


“เออ เจอกันมึง” เขายกมือตอบสามสี่คนที่นั่งอยู่ก่อนจะมองหน้านนท์อีกทีแล้วเดินขึ้นตึกไป




“อ้าวไอ้ติณ มาสายละสิ เพื่อนมึงเพิ่งเดินขึ้นไปเมื่อกี้”


“เออๆ” ติณณภพรับคำแค่นั้นแล้วรีบวิ่งขึ้นตึกไปเรียน


ขนาดว่ามีเรียนบ่ายแล้ววันนี้เขายังตื่นสายได้ เพราะเมื่อคืนมัวแต่นั่งเล่นเกมส์แท้ๆ แถมนาฬิกาในโทรศัพท์ก็ยังทรยศไม่ปลุกอีกด้วย


พอเห็นไอ้ติณรีบวิ่งไปเรียน เนปจูนก็แอบหัวเราะมันเบาๆ


หลังจากวันที่ลงทุนขับรถไปพูดกับมันคืนนั้น ถัดมาจนถึงเมื่อคืนเขาก็ไลน์ไปบอกคุณติณณภพทุกคืนว่าห้ามออกไปไหน
แต่มันก็บ่นมาว่าอยู่ห้องไม่มีอะไรทำ เบื่อ ออกไปกินเหล้านิดหน่อยคงไม่เป็นไร
ซึ่งเนปจูนถึงกับต้อง Video call ไลน์ไปบอกมันเสียงดุเลยว่าจะนิดหน่อยหรือนิดเดียวก็ไม่ได้
ถ้าเบื่อก็หาอะไรทำ มันก็ทำตามแต่โดยดี โดยลากเขาเข้าไปอยู่ในส่วนเกี่ยวข้องนั้นด้วย


ทุกคืนมันจะชวนเขาเล่นเกมส์แล้ว Video call ไลน์คุยกันไปด้วย นั่นทำให้เขาไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยเหมือนกัน


แล้ววันนี้ที่มันสายเพราะเมื่อคืนกว่ามันจะยอมเลิกเล่นเกมส์ก็ปาไปตี4 นี่ยังโชคดีที่วันนี้มีเรียนแค่คนละตัว


เมื่อนึกมาถึงตรงนี้เขาก็ยิ้มให้กับความน่ารักของคุณติณณภพ
สงสัยคงชอบน้องอิงฟ้ามากสินะถึงขนาดยอมไม่ออกไปไหนตั้งเกือบสองอาทิตย์


แต่มันจะรู้มั้ยว่าความน่ารักของมันยิ่งทำให้เขาจากที่แค่ปลื้มแต่ตอนนี้กลายเป็นชอบมากขึ้นเรื่อยๆ
จากที่หลงแค่หน้าตา ตอนนี้กลายเป็นว่าขามันเข้ามาหย่อนในใจเขาแล้วข้างหนึ่ง 


รู้นะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่เชื่อเถอะ เขาจะไม่ขัดขวางเหมือนที่นางร้ายในทีวีทำกันหรอก
เจ็บนิดๆกับการเห็นมันมีความสุข เขาก็ไม่เป็นไร...



*โปรดติดตามตอนต่อไป*



ติณอัพรูปลงไอจี... 5555 ก็จิ้นกันไป



ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew2: :mew2: :mew2:อยากรู้ว่านนท์คบใครอะ :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
มันเป็นการจีบทีแบบเอิ่ม.......
นึกว่าจะมีอะไรกุ๊กกิ๊กกว่านี้
ส่งของให้ตลอดสองอาทิตย์แต่เจ้าตัวไม่ปรากฏ อิงฟ้าจะรับรักเหรอ
ส่วนสองหนุ่มทำไรถึงตีสี่น่ะ จิ้นกระจาย เหอๆ  :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด