ตอนที่ 5
กลุ่มคนมากมายรายล้อมรอบงานจนน่าตกใจ ป้ายไฟของดาราที่ถูกเชิญมาโปรโมทสินค้าปรากฏชื่อให้เห็น เพราะว่างานนี้มีสองพรีเซ็นเตอร์เป็นดาราขวัญใจละครเพิ่งจะออนแอร์มาร่วมงานจึงไม่แปลกที่คนจะเยอะ ปัญญวัฒน์ยิ้มอย่างยินดีที่การโปรโมทดูเหมือนจะได้ผล
เหล่าพริ๊ตตี้ประจำซุ้มได้แจกกาแฟรสชาติใหม่ให้คนมาร่วมงานชิมกัน กิจกรรมซุ้มด้านหน้ามีเล่นเกมแจกของที่ระลึกทำให้คนแออัดเป็นพิเศษ เมื่อใกล้เวลาทางฝ่ายจัดงานให้สัญญาณกิจกรรมเล่นเกมเริ่มเร่งปิดท้ายเพื่อจะให้ผู้คนสนใจในกิจกรรมหลักของวันนี้
พิธีกรมืออาชีพออกมาทักทายหน้าเวทีก่อนเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ลูกพีช นิชาดา กับ ลม ไอรา นักร้องนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง ภายใต้สโลแกน ยิ้มรับวันใหม่กับกาแฟถ้วยโปรด หลังจากพูดคุยบนเวทีพอหอมปากหอมคอ ทางพิธีกรได้เชิญ ภาสวร สุธาภิวัฒน์ ประธานบริษัทกล่าวเปิดงานก่อน ภาพยนตร์โฆษณาเปิดฉายให้ผู้ร่วมงานได้ดู
ปัญญวัฒน์มองภาสวรที่นั่งพูดคุยกับเหล่าผู้บริหารอยู่ด้านหน้าด้วยความโล่งใจ งานวันนี้เปิดตัวได้อย่างงดงาม ทำเอาฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่เหน็ดเหนื่อยจัดงานยิ้มแก้มปริ ส่วนตัวเขาทางสุนทรีได้ให้มาสังเกตเปิดหูเปิดตาในงาน แม้จะเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆก็อดจะรู้สึกปลื้มใจไม่ได้ ที่มีคนสนใจและตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย
“น้องลูกพีชคะ มานี่เร็วลูกไปขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่เร็วๆ” เสียงแหลมๆด้านหลังทำให้ปัญญวัฒน์หันไปมอง ก่อนจะเลี่ยงเดินไปทางหลังเวที
“คุณภาคคะ เมนี่พาน้องลูกพีชมาขอบคุณค่ะ อุ๊ย คุณพสุธา ก็มาด้วย”
“สวัสดีครับคุณแมนสรวง คุณลูกพีช” ชายหนุ่มที่ชื่อพสุธาเอ่ยทัก
“เรียกเมนี่ ว่าเมนี่ค่ะ บอกหลายหนแล้วนะคะ” เมนี่ผู้จัดการดาราตีแขนล่ำๆของพสุธาเบาๆ
“ง่า ครับๆ” พสุธารับคำเบาๆก่อนจะขยับตัวให้ห่างผู้จัดการของนิชาดาที่กำลังเกาะแขนเขาอยู่
“ปัน ไอ้ปัน” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ปัญญวัฒน์มองหา ก่อนเห็นเพื่อนสนิทยิ้มร่าเดินเข้ามา
“ไอ้วิน มาไงวะ มึงไม่ทำงาน”
“ทำดิวะ ขืนไม่ทำพ่อกูเอาตาย ว่าแต่มึงเหอะมาทำไรที่นี่” นาวินถามเพื่อน
“กูก็มาทำงาน นี่ไงงานเปิดตัวกาแฟตัวใหม่ของบริษัท สนใจชิมป่ะ เดี๋ยวไปหยิบให้”
“ไม่อ่ะ กูสนทางโน้นมากกว่าเขามุงอะไรกันวะ” นาวินพยักหน้าไปยังกลุ่มคนที่มารวมตัว จะว่าบริษัทไอ้ปันแจกกาแฟฟรีคนก็ไม่น่าจะเยอะขนาดนี้
“อ๋อ ดารา พรีเซ็นเตอร์กาแฟตัวใหม่น่ะ มึงน่าจะรู้จักนะ” ปัญญวัฒน์บอก
“ใครวะ สวยป่ะ”
“มีสองคนทั้งสวยทั้งหล่อเลย” ปัญญวัฒน์ยิ้มกริ่มกับความดี้ด้าของเพื่อน จะว่าไปนาวินก็หล่อระดับเดือนมหาวิทยาลัย แถมรวยอีกตังหาก มีสาวๆเข้าหามากมาย แต่เพราะความเจ้าชู้ควงไปเรื่อยไม่จริงจังกับใคร ทำให้ชื่อเสียงออกจะติดลบมากอยู่
“ไหน มึงพากูไปหน่อยดิ” เฮ้อ พูดถึงคนสวยไม่ได้เลย หูกระดิกเลยนะไอ้วิน
“เดี๋ยวนะ มึงบอกว่าทำงาน แล้วทำไม... ตกลงนี่มึงอู้อยู่ใช่ไหม” ปัญญวัฒน์รีบดักคอเพื่อน มึงจะอู้อย่าลากกูไปด้วยเดี๋ยวกูจะซวย
“ไม่ได้อู้เว้ย กูนัดลูกค้าบ่ายสอง อีกตั้งนาน”
“นี่เพิ่งบ่ายโมง ผิดวิสัยมึงนะ ถ้าให้กูทายลูกค้าเป็นผู้หญิง” ปกตินัดกับนาวิน ถ้าไม่ไปปลุกมันถึงบ้านก็สายตลอด
“มึงอย่าพูดมากน่า เสียเวลาไปๆเร็ว” พูดจบนาวินก็ลากปัญญวัฒน์ไปยังกลุ่มคนที่กำลังถ่ายรูปกับศิลปินคนโปรดอยู่
“อ้าวไอ้วิน มาทำไรที่นี่”เสียงทักดังขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเขา นาวินกับปัญญวัฒน์รีบยกมือไหว้พี่รหัสของนารา แฝดคนละฝาของนาวิน
“โหพี่ลม ผมคิดว่าใครก่อม๊อบอยู่ตรงนี้เลยเข้ามาดูสักหน่อย” นาวินฉีกยิ้มให้ไอราก่อนจะศอกกลับปัญญวัฒน์ที่ตอนนี้ยิ้มระรื่นที่หลอกเขาได้
“ยังกวนตีนเหมือนเดิมเลยนะ นั่นปันใช่ไหม” ไอราเอ่ยถามเขาเคยเจอเด็กกลุ่มนี้บ่อยๆ ปัญญวัฒน์พยักหน้าตอบ
“เออ น้องรหัสกูเป็นไงบ้างหายเงียบไปเลย” ไอราถามต่อ เขารู้ว่านาราไปเรียนต่อทันทีหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี
“สบายดีครับพี่”
“เออ คุณลมเดี๋ยวถ่ายภาพหมู่ก่อนก็เรียบร้อยแล้วครับ” ผู้จัดการเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ ความจริงงานของชายหนุ่มเสร็จแล้วสามารถกลับได้เลย แต่พอเห็นแฟนคลับที่มารอกัน ทำให้เจ้าตัวปลีกเวลามาเซอร์วิสบรรดาแฟนคลับ
“เดี๋ยวขอตัวก่อนนะ แล้วคุยกัน” ไอราโบกมือให้รุ่นน้องก่อนเดินไปหากลุ่มแฟนคลับที่นั่งรอถ่ายภาพกับเขา
“มึงไม่ต้องยิ้มเลยไอ้ปัน ไหนวะสาวสวย กูยังไม่เห็นเลย” นาวินโวยวายขึ้นทันทีที่แยกออกมา
“น้องปันอยู่นี่เอง” พนิดาเดินเข้ามาชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ ทำให้นาวินชะงักหยุดโวยวายเพื่อนทันที
“ครับ พี่ดา มีอะไรหรือเปล่าครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาว
“พี่จะมาบอกว่า งานเสร็จแล้ว คุณภาคอนุญาตให้กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องเข้าออฟฟิตต่อ เจอกันวันอังคาร ขอให้สนุกกับวันหยุดยาวนะน้องปัน เดี๋ยวพี่ไปบอกคนอื่นต่อ” พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินไปหาพัชรีฝ่ายประชาสัมพันธ์ทันที นี่ถ้าพนิดาไม่ทักเขาก็ลืมไปแล้วว่าอาทิตย์นี้มีวันหยุดยาว
“งั้นมึงก็ว่างแล้วดิ” คำพูดของนาวินทำให้ปัญญวัฒน์อดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้ หวังว่าเพื่อนคงไม่ลากเขาไปทำอะไรแปลกๆนะ
“อืม ก็ตามนั้น”
“งั้น มึงพากูไปส่องสาวหน่อยดิ”
“สาวที่ไหน มึงลืมไปหรือเปล่าว่ามีนัดลูกค้าน่ะ” ปัญญวัฒน์บอกเผื่อเพื่อนจะเปลี่ยนใจ
“โห อีกนาน พรีเซ็นเตอร์สาวสวยของมึงน่าสนใจกว่า อยู่ไหนทางไหน” ปัญญวัฒน์ได้แต่ปลงลองนาวินตั้งใจแล้วเขาคงเปลี่ยนใจมันไม่ได้ ได้แต่ภาวนาให้ดาราสาวกลับไปแล้ว
“นั่นไง ลูกพีช นิชาดา พรีเซ็นเตอร์กาแฟรสชาติใหม่ของบริษัทกู คู่กับพี่ลม” ปัญญวัฒน์รู้สึกแปลกใจที่ดาราสาวกับผู้จัดการยังคุยกับเหล่าผู้บริหารอยู่ตรงโซนหน้าเวที ทั้งๆที่งานเสร็จสิ้นไปเกือบชั่วโมงแล้ว
“นึกว่าใคร กิ๊กพี่พงศ์นั่นเอง” คำพูดของนาวินทำเอาปัญญวัฒน์หันมามองเพื่อนอย่างแปลกใจ
“หมายความว่าไงวะ กิ๊กพี่พงศ์”
“มึงไม่รู้รู้เหรอ ไปอยู่ไหนมาวะปัน”
“อยู่ไหน ก็อยู่บ้านถัดจากมึงสามหลังไง ไอ้บ้า นี่กูจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเลยไหม กูไม่เหมือนมึงนี่ต้องรู้ทุกเรื่อง มึงน่าจะเรียนนิเทศสายข่าวมากกว่าวิศวกรรมโยธานะ” แสนรู้จริงๆ คำพูดหลังไม่ได้พูดออกมาได้แต่เก็บไว้ในใจ เพราะขนาดตัวนาวินสูงกว่าเขาเกือบสิบเซ็น ขืนพูดไม่เข้าหูโดนมันเตะกลางห้าง อาจได้ลงข่าวสังคมอับอายขายขี้หน้าแน่ๆ
“เออ กูลืมไป วันๆมึงไม่อ่านหนังสือก็เลี้ยงหลาน ถ้ามึงอยากรู้กูจะเล่าก็ได้ แต่มึงต้องเลี้ยงเหล้ากู” นั่นไงเพื่อนตัวดีหางโผล่มาแล้ว
“กูไม่อยากรู้แล้ว มึงไปทำงานของมึงเหอะ ป่านนี้ลูกค้ามารอแล้วมั้ง”
“เออ ไปแล้ว เย็นนี้กูจะลากไอ้รันไปด้วย” พูดจบนาวินก็โบกมือเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป ทิ้งให้ปัญญวัฒน์ยืนงงว่าตัวเองไปรับปากเพื่อนตัวดีนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
---- a little cupid ----[/center]
รถญี่ปุ่นคันไม่ใหญ่มากแล่นมาจอดในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแผนกอนุบาล ปัญญวัฒน์คว้าถุงขนมก่อนที่จะลงจากรถวันนี้เลิกงานเร็วทำให้เขามีโอกาสมารับเด็กหญิงอิงฟ้า จะบอกว่าชายหนุ่มเอาใจหลานสาวคนเดียวก็คงไม่ผิด เพราะไม่อยากให้หลานตัวน้อยงอนเขาอีก
ภาพเด็กอนุบาลนอนกลางวันเรียงกันเป็นแถวเรียกรอยยิ้มให้แก่เขา ปัญญวัฒน์เดินไปห้องที่ปาลิดาเป็นครูประจำชั้นอยู่ เด็กนอนหลับเป็นส่วนใหญ่มีไม่กี่คนที่ยังไม่หลับ ครูพี่เลี้ยงประจำห้องจะคอยดูแลให้เล่นเงียบๆไม่รบกวนการนอนของเพื่อนร่วมห้อง ชายหนุ่มโบกมือให้พี่สาวผ่านประตูหน้าห้องก่อนจะเดินเลี่ยงมานั่งคอยตรงม้านั่งหน้าประตู สักพักปาลิดาก็เดินออกมา
“ทำไมมาได้ล่ะ”
“วันนี้เปิดตัวกาแฟตัวใหม่ เสร็จงานไวเลยว่าจะมารับน้องฟ้า”
“ก็ดีนะ เมื่อวานงอนอาปันเสียยกใหญ่”
“นี่ไงซื้อขนมมาเอาใจหลาน” ปัญญวัฒน์ชูถุงขนมให้พี่สาวดู
“ทำไมเยอะอย่างนี้ล่ะ ของน้องฟ้าคนเดียวเหรอ”
“พี่ปากับน้องเรนด้วย ว่าแต่อีกนานไหมกว่าเด็กจะตื่น”
“ใกล้แล้ว เด็กๆจะถูกปลุกตอนบ่ายสาม เล่นอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เลิกเรียน ผู้ปกครองมารับแล้ว เอาพวกเค้กไปแช่ตู้เย็นก่อนดีไหม มาพี่จัดการให้” ปาลิดาคว้าถุงขนมจากน้องชายไปหลังพูดจบ
“เอ่อ เมื่อตอนเที่ยงเพื่อนพี่เอาบัตรนี่มาให้ เผื่อเราสนใจพาน้องฟ้าไปเที่ยว” ปาลิดาส่งบัตรสวนน้ำสี่ใบ
“บัตรผู้ใหญ่สองเด็กสอง พี่ปาสนใจไปกับปันไหม ไปค้างพัทยาสักคืนเปลี่ยนบรรยากาศ”
“ขอดูก่อนนะ ช่วงนี้พี่ต้องเตรียมงานแต่งงาน ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ไม่ไปชวนพวกเพื่อนเราล่ะ” ปาลิดาไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ ช่วงนี้เธอต้องเข้าคอร์สเจ้าสาว
“ไม่รู้พวกมันจะไปหรือเปล่า วันหยุดไอ้รันคงอยากนอนมากกว่า ส่วนไอ้วินมันคงอยากไปกับสาวๆมากกว่าจะมาช่วยดูหลาน นี่ถ้าภัทรยังอยู่ก็ดีมันคงยอมไปด้วย” ปัญญวัฒน์อดที่จะคิดถึงเพื่อนสนิทที่ไปเรียนต่อไม่ได้
“ถ้าไม่อยากไปก็เอาไปให้พวกพี่ที่ทำงานซิ เผื่อเขาจะพาลูกไปเที่ยว” ปาลิดาแนะนำน้องชาย ถ้าปัญญวัฒน์ไม่ไปจะทิ้งบัตรไปก็เสียดายสู้ให้คนอื่นที่เขาอยากได้ดีกว่า ส่วนพ่อแม่เด็กหญิงอิงฟ้า ช่วงนี้กำลังวุ่นวายกับงานที่บริษัท ไม่รู้จะไปได้ไหม
“อาปัน” เสียงเรียกอย่างยินดีทันทีที่เห็นหน้าผู้เป็นอาที่ห้องรับรอง ร่างเล็กที่เพิ่งตื่นนอนล้างหน้าทาแป้งเสียหอมฟุ้งจนปัญญวัฒน์อดที่จะหอมแก้มยุ้ยๆไปเสียหลายฟอด
“ขอบคุณนะครับ” ปัญญวัฒน์ขอบคุณครูพี่เลี้ยงที่พาหลานสาวมาส่ง
“น้องฟ้าหิวหรือยัง อามีขนมเดี๋ยวมาทานกันนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามหลานสาวทันทีที่ครูเดินออกไป เด็กหญิงยังไม่ทันตอบอะไร ประตูก็เปิดอีกรอบ
“น้องเรนอยู่กับอาปันที่นี่ก่อนนะครับ ถ้ามีคนมารับเดี๋ยวคุณครูมาตาม” ปาลิดาจูงเด็กชายมาส่งให้ปัญญวัฒน์
“อาปัน มาหาเรนเหยอ” เด็กชายเอ่ยถามหลังจากยกมือไหว้ชายหนุ่มแล้ว
“อาปันมารับเราหรอก” เด็กหญิงหญิงฟ้าค้านก่อนที่จะเดินไปแทรกกลางระหว่างอาหนุ่มกับเด็กชาย
“อามาหาทั้งคู่ครับ น้องฟ้าน้องเรนเป็นเพื่อนกันต้องรักกันนะครับ มีอะไรต้องแบ่งปันกัน เข้าใจไหม” ปัญญวัฒน์บอกทั้งคู่
“คับ/ค่ะ” เด็กทั้งสองรับคำอย่างหงอยๆที่โดนตำหนิ
“มาทานขนมกันดีกว่านะ มีเค้กช็อคโกแลตของโปรดใครนะ” ปัญญวัฒน์ชักชวนเด็กๆเมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มอึมครึม
“เรนคับ/ฟ้าค่ะ” เด็กสองคนรีบยกมือแย่งกันตอบด้วยใบหน้าที่สดใสกว่าเดิม
“มีให้ทั้งคู่เลย มาครับมานั่งกันก่อน” ปัญญวัฒน์วางจานขนมกับกล่องนมตรงหน้าเด็กทั้งสอง ทั้งคู่ตาวาวเมื่อเห็นของโปรด
หลังจากที่ทานขนมเสร็จแล้วเด็กทั้งคู่ก็ชักชวนไปเล่นที่สนาม ทำให้ปัญญวัฒน์ต้องย้ายตัวเองไปนั่งรอที่ข้างสนามเด็กเล่นด้วย
“อ้าวคุณภาค สวัสดีครับ” ปัญญวัฒน์ยกมือไหว้ภาสวรอย่างตกใจ เขากำลังมองเด็กๆเล่นเพลินๆก่อน ภาพถูกบดบังด้วยคนตัวโต
“คุณมารับหลานเหรอ” ภาสวรถือวิสาสะนั่งข้างชายหนุ่มที่กำลังมองหลานสาวของตัวเองเล่นกับลูกชายเขา
“ครับ คุณภาควันนี้มารับเองเลยนะครับ” ปกติแล้วภาสวรให้คนมารับลูกชายไปที่บริษัทก่อน
“วันนี้งานเรียบร้อยแล้วเลยมารับน่ะ”
“เอ่อ ช่วงวันหยุดนี้คุณภาคจะพาน้องเรนไปเที่ยวไหนไหมครับ” ปัญญวัฒน์ตัดสินใจถามขึ้น หลังจากที่ทบทวนอยู่นาน เขาอยากพาเด็กชายไปเที่ยวกับหลานสาวเขาด้วย
“ไม่นะ พอดีผมนัดผู้ใหญ่ไว้พรุ่งนี้ คุณมีอะไรหรือเปล่า” ภาสวรถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของชายหนุ่ม
“คือ พรุ่งนี้ผมจะพาหลานสาวไปเที่ยวสวนน้ำ กะว่าจะค้างที่พัทยาคืนหนึ่งแล้วค่อยกลับ ผมอยากขออนุญาตพาน้องเรนไปเที่ยวด้วยได้ไหมครับ” เขารู้ว่าภาสวรคงลำบากใจถ้าจะให้ลูกชายไปเที่ยวกับเขาตามลำพัง ตอนแรกเขาก็จะชวนเจ้านายด้วย แต่ภาสวรติดธุระ ครั้นเห็นเด็กชายแล้วเขาอดที่จะสงสารไม่ได้เลยลองถาม อยากให้ไปสนุกด้วยกัน
“คุณจะเอาเด็กสองคนอยู่เหรอ” ภาสวรถามกลับ
“ผมชวนแม่น้องฟ้าไปด้วย แล้วยังมีเด็กที่บ้านไปอีกคน ตอนเย็นพี่ชายผมก็จะตามไปด้วยครับ” ปัญญวัฒน์อธิบาย ชายหนุ่มได้โทรไปชวนพี่ชายกับพี่สะใภ้แล้ว พี่ชายเขาติดงานช่วงเช้าแต่ก็จะตามไป ส่วนพี่สะใภ้อยากไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วยเลยเสนอตัวจองที่พักอย่างเร่งด่วน
“คุณพ่อคับสวัสดีคับ/สวัสดีค่ะคุณอา” เสียงเด็กสองคนที่วิ่งมาหาภาสวรทันทีที่เห็นว่านั่งอยู่กับปัญญวัฒน์
“สวัสดีครับเด็กๆ น้องเรนครับอาปันเขาชวนน้องเรนไปเที่ยวพรุ่งนี้น้องเรนอยากไปไหม” ภาสวรเอ่ยทักเด็กๆ ก่อนหันมาคุยกับลูกชาย
“ไปๆ เรนไปด้วย” ไม่ว่าอาปันจะพาไปไหน เขาอยากไปหมด
“ไปไหนกันคะอาปัน” เด็กหญิงอิงฟ้าเงยหน้าถามอาทันที
“พรุ่งนี้อาจะพาไปเที่ยวทะเล ไปสวนน้ำไปไหมคะ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กหญิง
“ไปซิ อาปันบอกแล้วจะอยู่กับฟ้า”
“ใช่ค่ะ แล้วตกลงคุณภาคจะอนุญาตไหมครับ” ปัญญวัฒน์ตอบหลานสาวก่อนหันมาถามเจ้านายที่มองเขาอยู่
ภาสวรมองลูกชายเขาก่อน แววตาของเด็กชายมองเขาอย่างออดอ้อน ไหนจะชายหนุ่มที่มองมาอย่างขอร้อง เขาจะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร
“ถ้าน้องเรนอยากไป ผมก็อนุญาตพรุ่งนี้ผมไปส่งน้องเรนที่บ้านคุณแต่เช้า”
“ขอบคุณครับ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวด้วยกันนะน้องเรน” ปัญญวัฒน์เอ่ยกับเด็กชายอย่างยินดี
ความจริงคนที่ต้องขอบคุณคือเขาไม่ใช่ปัญญวัฒน์ ตั้งแต่ที่รู้จักชายหนุ่มมา ปัญญวัฒน์ได้ทำอะไรหลายอย่างให้ลูกชายเขา ทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด
--------------------
ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ