ตอน:คุณแหละครับ...เมียลับผม!!
--------------------------------------
Talk to him......... [2]ตำรวจเพิ่งออกจากบ้านเช่าของผมไป
ผู้ชายคนนั้นปลอดภัยแล้ว.....
และผมต้องให้การกับตำรวจสองครั้ง.....
ในฐานะ....
พลเมืองดีผมเดินเข้าไปในห้องนอน...
หยิบรูปที่อยู่ใต้หมอนออกมา
รูปที่ผมไม่ได้ใส่คืนกลับเข้าไปในกระเป๋าสตางค์ใบนั้น
นิ้วค่อยๆไล้ไปที่ใบหน้าที่กำลังส่งยิ้มมาให้
ดีใจด้วยนะ.....ผมพูดกับเขาอีกแล้ว
เขายังยิ้มให้ผม...เหมือนเขาจะยิ้มกว้างขึ้นหรือเปล่า
ยิ้มเหมือนจะบอกผมว่า...
ขอบคุณครับผมรู้สึกว่าเขาวนเวียนอยู่ในหัวผมบ่อย ขึ้นทุกที
บางครั้ง....ก็เหมือนกับว่า เขานั่งอยู่ข้างๆผมนี่เอง
*****
หลายวันผ่านไป....เสียงทีวียังเล่นข่าว....ประธานบริหารชาวญี่ปุ่น
ของบริษัทร่วมทุนระหว่างประเทศถูกอุ้มดังมาเบาๆ
ผมกดรีโมทปิด....รูดซิบเสื้อผ้าร่ม หยิบหมวกกันน็อค
กำลังจะออกไปทำงาน...
ไปแล้วนะ....ผมคุยกับเขาบ่อยขึ้นทุกที
ขับรถดีๆนะครับ..... นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงเขา
ผมเห็นเขามาสักพักแล้ว....
เดินไปเดินมาอยู่ในบ้านของผม เด็กผู้ชายในรูปคนนั้น
วันนี้แต่งชุดนักเรียน
อายุน่าจะประมาณสิบหก ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ
เขาตัดผมม้าเต่อๆ ไว้ผมยาวแค่ต้นคอ หน้าตาแจ่มใส ดูซื่อๆ
ส่งยิ้มตาหยีๆให้ผม แก้มข้างหนึ่งมีรอยบุ๋มเล็กๆ
มือยังสาละวันจัดของใส่กระเป๋าเตรียมไปเรียนหนังสือ....
เมื่ออาทิตย์ก่อนดูเขาเศร้าๆ เขาคงเป็นห่วงผู้ชายคนนั้น
ไม่ค่อยยิ้ม และเหมือนจะเหม่อๆหน่อย
วันนี้ผมเห็นเขาชัดกว่าทุกวัน เขาดูสดใส
เดินมาส่งผมที่หน้าประตู
เรียนเสร็จแล้วรีบกลับนะ....ผมหันไปสั่ง
เขาโค้งรับคำ
เขาคือภาพหลอนในหัวของผม.....
ผมจะให้เป็นอย่างไรก็ได้
ตอนนี้ผมให้เขาไปโรงเรียนได้แล้ว....
ข้างๆบ้าน หลังที่รั้วติดกัน มีเด็กคนหนึ่งอายุเจ็ดขวบ
กำลังมุดรั้วบุกรุกเข้ามาในบ้าน
เขาเป็นเด็กขี้โรค มักต้องหยุดเรียนอยู่บ้านบ่อยๆ
เวลาหยุดเรียนจะชอบแอบมุดเข้ามาคุยด้วย
พี่ฟืน....ไปทำงานเหรอ เสียงเจ้าหนูที่ยังอยู่ในชุดนอนถาม
ฮือ...เย็นนี้จะซื้อขนมมาฝาก ผมตะโกนตอบ พร้อมโบกมือไล่ให้กลับบ้าน
ก่อนที่จะบิดมอเตอร์ไซน์ออกไป
******
ประมาณเก้าโมงเช้า....ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับของบริษัทแห่งหนึ่ง
“วันนี้มีเจ็ดรายการ.....” พนักงานต้อนรับผู้หญิง ส่งซองเอกสารให้
ผมหยิบมาพลิกๆดู บางซองจ่าหน้าเป็นภาษาอังกฤษ
ผมอ่านภาษาอังกฤษได้พอสมควร เป็นทักษะที่จำเป็นต้องฝึก
แต่ภาษาพูดค่อนข้างจะแย่
ผมไม่ใช่พนักงานของที่นี่....
แค่เข้ามารับงาน ผมเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานคนเดียว
ไม่ค่อยชอบยุ่งกับใคร
“อ้อ...มีฝากจ่ายบิลด้วย พวกเกินกำหนดไปจ่ายที่ไฟฟ้าให้ด้วย”
นอกจากส่งเอกสารแล้ว จ่ายบิล ส่งไปรษรณีย์ผมก็รับ
พี่ผู้หญิงคนนั้น ส่งบิลอีกสองสามใบ ที่มีเงินแนบมาด้วยให้
แล้วก็หันกลับไปสนใจงานตัวเองต่อ ไม่สนใจผมอีก...
*******
เอกสารทั้งหมด ถูกส่งภายในช่วงเช้า
ช่วงบ่ายค่อยไปจ่ายบิล....
ตามสำนักงานไฟฟ้า หรือประปา แม้แต่ไปรษณีย์เองก็เถอะ
มักจะคนเยอะมากตอนช่วงเช้าของวัน ทุกคนต่างอยากรีบทำให้เสร็จๆ
ผมจะเลือกมาช่วงบ่ายๆ....ไม่ต้องคอยนาน
เสร็จงานแล้วผมขับมอเตอร์ไซค์ไปจอดแถวๆท่ารถ
ที่มีคนพลุกพล่าน ที่ประจำก็มอชิต.....
ก็เหมือนทุกวัน อยู่ที่นี่ประมาณสองชั่วโมง
แล้วกลับบ้าน......
ผมหิ้วขนมกับข้าวของเข้ามาในบ้าน วางบนโต๊ะกินข้าว
จะห้าโมงแล้วทำไม่เขายังไม่กลับ....
ผมเอาขนมไปฝากเจ้าหนูบ้านข้างๆ
ยายเขาบอกว่านอนซมไข้ขึ้นซะแล้ว
หกโมงครึ่ง...ผมก็ได้ยินเสียง
กลับมาแล้วครับ.....พร้อมหน้าขาวๆส่งยิ้มสดใส ตาหยีๆมาให้ผม
กลับค่ำจัง......
******
ผมเรียกเขาว่าคุณหนู.....
เขาดูเหมือนคุณหนูในความรู้สึกของผม
เขาเรียกผมว่า...
พี่ฟืน ผมกำลังนึกหาชื่อให้เขา
ชื่อคนญี่ปุ่นที่เคยส่งเอกสารให้มีชื่ออะไรบ้างนะ
อยู่ๆเขาก็บอกว่า...
ชื่อ โยชิงั้นเขาก็เป็น
คุณหนูโยชิ เมียผมผมเป็นคนบ้านนอก....
ถ้ามีเมียก็อยากได้แบบขี้อ้อน ชอบแทนตัวว่าหนู
ตัวผมเอง เมื่อก่อนตอนที่แม่ยังอยู่
ผมก็แทนตัวว่า หนูกับแม่เหมือนกัน....
คืนแรกในบ้านของเรา....
หนูโยชิ เขายืนเก้ๆกังๆอยู่ที่ปลายเตียง
ทำหน้างงๆที่ต้องนอนบนเตียงเดียวกับผม
ก็ผมไม่ได้นึกเป็นอย่างอื่น....ผมนึกว่าเขาเป็นของผม
ผมจูงมือเขามาที่เตียง....
เรานั่งเอนๆพิงหมอนอยู่บนเตียงข้างกัน....
ห้องนอนในจิตนาการ....ไม่ใช่บ้านเช่าหลังเล็กนี่
แต่เป็นบ้านไม้แบบญี่ปุ่นสองชั้น
ห้องกว้างพื้นเป็นไม้ขัดมันเงาวับ มีระเบียง....
ผมเห็นภาพชัดเจนมาก ในความรู้สึกตอนนั้น
หนูโย คงสบายใจ...กับบ้านแบบนั้นมากกว่า
บ้านเราหลังนี้อากาศเย็นสบาย
แต่หนูโยชิ ทำท่าเหมือนเขาร้อน แก้มเขาแดง
ผมนึกให้อุณหภูมิหนาวขึ้นอีกหน่อย....
แต่เขาทำท่าร้อนอยู่ดี
ผมถอนใจบ่นเบาๆว่า
เอาหิมะตกเลยไหม.....เขาจ้องตรงไปที่ผนังห้องทำปากยื่นหน่อยๆ
บอกว่า...
ทำไมต้องประชดหนูด้วย...เขาขี้น้อยใจด้วยเหรอนี่
งั้น...เอาใหม่...
ผมนึก...ให้บ้านมีอุณหภูมิสัก เท่าไหร่ดี
อืมม...สิบองศาแล้วกัน
ทันทีเลย.....
ความหนาวเย็นค่อยๆแผ่คลุมไปทั่วบ้านของเรา
เขายิ้มได้....
ในขณะที่ผมควานหาผ้าห่มพัลวัน
ตัวสั่น ฟันเริ่มกระทบกัน กึกๆ....
แต่ผมก็ดีใจ ที่เห็นเขาขยับเข้ามาใกล้
ซุกตัวเข้าหาอกผม....
แล้วหลับสบาย......******
พี่ฟืน...อย่าเพิ่งเลยนะเขากระซิบบอกผมคืนวันหนึ่ง เมื่อผมเริ่มจูบเขา
ผมต้องประหลาดใจ เขาคือภาพในจิตนาการ....
เขามีความรู้สึก นึกคิด เป็นของตัวเองด้วยเหรอ
แต่บางทีความคิดของเรา ก็ยังขัดแย้งกันเองบ่อยๆนี่น่า
นึกได้อย่างนั้น ผมก็พยักหน้า
ก็ไม่เป็นไร...
แค่ได้อยู่ด้วยกัน ก็พอแล้ว......
ผมจูบแก้มเขาอีกที....เขายิ้มจนแก้มบุ๋ม
โผเข้ามากอดผม แล้วเราก็นอนกอดกัน
หนูโย มีนิสัยแปลกๆเวลาที่นอนด้วยกัน
เขาชอบใช้นิ้ว ลากเบาๆที่ตัวผม
เหมือนอยากสัมผัสกับผิวของผม...
ว่าเป็นของจริงหรือเปล่าผมรู้สึกกึ่งสุขกึ่งเศร้า....
ลูบผมนิ่มๆที่กำลังซบหน้าแนบกับอก
ย้ำเตือนกับตัวเองอีกครั้งว่า....
เขาต่างหากที่ไม่ใช่ของจริงTBC.
''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
อ่า...คนเขียนไข้ขึ้น
จะพยายามลงติดๆนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ