รอยชัง ๖
รุ่งเช้าน้อยมารับจอมขวัญแต่เช้าเพราะวันนี้พวกเขาต้องออกเดินทางไปลำปางพร้อมกันกับนาย เนื่องจากจอมขวัญไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่างไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า แม้แต่กระเป๋าเดินทางสักใบก็ไม่มี น้อยจึงสั่งให้จอมขวัญมาแต่ตัวข้าวของเครื่องใช้ก็ค่อยไปหาเอาที่นู่นเมื่อถึง พวกเขามาถึงบ้านคุณอัศวินในไม่กี่นาทีต่อมา น้อยมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าหนึ่งใบให้จอมขวัญเป็นคนสะพาย รอนายทานข้าวเสร็จถึงจะได้ออกไปขึ้นเรือกัน จอมขวัญไม่มองหน้าคนใจร้ายแม้แต่น้อย อัศวินเองก็เช่นกัน วันนี้เขาต้องโทรติดต่อกับลูกค้าแต่เช้าเพราะทางโน้นมีปัญหาและทำให้เขาเดือดดาล กว่าจะรู้ตัวว่าตนขึ้นมานั่งอยู่บนรถกับลูกน้องและอีกหนึ่งผู้ไม่พึงประสงค์ก็เมื่อรถขับผ่านจังหวัดสุราษฎร์มาหลายชั่วโมงแล้ว
"เอ็งเริ่มหิวหรือยัง ถ้าจะอ้วกต้องรีบบอกนา เข้าใจไหม" อัศวินมองการกระทำของลูกน้องคนสนิท พูดเฉยๆจะไม่ว่า นี่มีการส่งมือไปโยกหัวเล็กๆของมัน ทำท่าเอ็นดูเป็นพิเศษ ไอ้เด็กนั่นรึก็หันมาส่ายหน้าทำตาปริบๆ น่ารักตายแหละ เขาเก็บโทรศัพท์มือถือก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง รู้งี้ไปเครื่องบินเสียก็ดี ลืมไปว่าเขามันหัวเดียว ไอ้น้อยน่ะมันอยู่ข้างไอ้เด็กนั่น
"นายจะแวะทานข้าวหรือเปล่าครับ ใกล้เที่ยงแล้ว" น้อยถามเมื่อเห็นคนด้านหลังเงียบไปแล้วหลังจากคุยโทรศัพท์อยู่หลายชั่วโมง
"ค่อยไปแวะที่ประจวบทีเดียว" เขาบอกก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสมอง เมื่อครู่กว่าจะคุยกันลงตัวเล่นเอาคอแทบแห้ง ลูกค้ารายนี้เป็นผู้หญิง แถมไม่ยอมใคร เจอแบบนี้เข้าก็ทำเอาอัศวินไปไม่เป็นเช่นกัน
"ทนหิวหน่อยนะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง" น้อยหันมาบอกเด็กข้างๆ จอมขวัญรีบพยักหน้า ดีที่เมื่อเช้าได้ข้าวเหนียวหมูจากพี่พรไปถุงใหญ่ ตอนนี้ยังอิ่มตื้ออยู่เลย ง่วงนอนก็มากแต่ก็ไม่อยากทิ้งให้พี่น้อยขับรถคนเดียว
ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงตามที่น้อยบอกพวกเขาก็มาถึงประจวบคีรีขันท์กัน น้อยเลี้ยวเข้ามาจอดรถที่จุดทานอาหารประจำเวลาที่เขามา หันไปมองเด็กคนข้างๆก็ต้องส่ายหัวให้กับความน่ารักของมัน ง่วงจนสัปหงกหัวโขกกระจกไม่รู้เท่าไหร่ยังจะพยายามลืมตาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเขา น่าตีให้ตายจริงๆ พอมองไปด้านหลังเห็นนายหลับตาอยู่จึงไม่อยากเรียก น้อยติดเครื่องไว้เปิดกระจกก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาสูบไปเรื่อยๆรอทั้งสองคนตื่น
"อื้อ ถึงแล้วเหรอครับ" จอมขวัญงัวเงียทำท่าปาดน้ำลายก่อนจะหันไปถามพี่ชายที่มองเขาอยู่
"เออดิ ขยี้ตาซะ เดี๋ยวลงไปล้างหน้าล้างตาจะได้สดชื่น" น้อยบอก และจอมขวัญก็พยักหน้าก่อนจะลงจากรถไปทำตามที่น้อยบอก
"นายครับ ถึงที่ทานข้าวแล้ว ลงไปเดินหน่อยไหมครับ" จากนั้นก็หันมาบอกคนด้านหลังต่อ ปกติก็ไม่ค่อยนั่งรถยาวๆสักเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไมคราวนี้นายถึงไม่ยอมไปเครื่อง เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก
"มึงลงไปกินกันเถอะ กูไม่หิว ขอแค่กาแฟกับขนมปังก็พอ" อัศวินเอ่ย เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับ ตอนนี้เลยอยากจะนอนให้เต็มอิ่ม
"ครับนาย" น้อยรับเงินมาก่อนจะรีบลงไปตามจอมขวัญเพื่อรีบหาข้าวกิน ใช้เวลาไม่นานก็ทานเสร็จ น้อยเข้ามินิมาร์ทเพื่อซื้อของตามที่นายสั่งและของกินเล่นอีกเล็กน้อยก่อนจะกลับไปยังรถ
"นี่ของนายครับ" น้อยเอ่ย ส่งกาแฟและขนมปังให้เขา
"อื้ม ขอบใจ" อัศวินว่าก่อนจะขอตัวลงไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้ชื่นใจ
"พี่น้อย อีกนานไหมกว่าจะถึง เมื่อยก้นจัง" จอมขวัญบ่น เหมือนไม่กี่วันที่แล้วเพิ่งจะนั่งลงมาเอง นี่อะไรต้องนั่งขึ้นไปอีกแล้ว
"อีกแปดชั่วโมงนับไป" น้อยบอกขำๆ หยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวเล่น
ไม่นานนายก็ออกมาจากห้องน้ำ จอมขวัญพยายามไม่มองหน้าหรือทำตัวให้เขารู้สึกหมั่นไส้ แค่นั่งรถมาด้วยกันก็อึดอัดจะแย่ อย่าใช้ให้เขาทำอะไรให้อีกเลย แค่นี้ก็สงสารตัวเองมากพอแล้ว
"มึงมานั่งกับกูด้านหลังนี่!" อัศวินว่าก่อนที่น้อยจะออกรถ สองคนด้านหน้าหันมามองหน้ากันก่อนที่น้อยจะเอ่ย "แต่นายจะอึดอัดหรือเปล่าครับ"
"กูสั่งให้มันมานั่งก็มา ทำไม? รังเกียจกูหรือไง!" อัศวินว่า เขาหมั่นไส้ที่เห็นมันมีความสุข เขาอยากให้มันสลดมากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เขานั่งเป็นหัวหลักหัวตอไม่สนใจ จอมขวัญปฏิเสธไม่ได้ต้องรีบลงมาจากรถ
"จอมบงการ!" จอมขวัญสบถอยู่นอกรถก่อนจะเปิดประตูเข้ามานั่งด้านหลังกับคนใจร้าย เขานั่งชิดประตูแน่น หน้าก็หันออกไปด้านนอกไม่สนใจคนข้างๆ
"น้อยออกรถได้ ส่วนมึง กูเมื่อย บีบขาให้กูหน่อย!" อัศวินบอกลูกน้องก่อนจะยื่นขายาวๆพาดไปที่หน้าตักเด็กข้างๆ จอมขวัญสะดุ้งตกใจ เขาหันมามองคนข้างๆด้วยสายตาเจ็บแค้น อีกแล้วนะ! ใช้เขาเป็นทาสอีกแล้ว!
"จะทำไม่ทำ! ถอดรองเท้าด้วย นวดฝ่าเท้าให้ด้วยแล้วกัน" อัศวินเอ่ยหน้าขรึมพร้อมหลับตาลง
จอมขวัญหันไปสบตาคนหน้ารถอย่างบึ้งตึงก่อนจะได้คำใบ้ว่าให้เขาทำๆไปเถอะ เขาค่อยๆถอดรองเท้าของคนใจยักษ์ออก บ้าจริง! ที่เอาเขามาด้วยก็เพื่อสิ่งนี้ใช่ไหมล่ะ! เขาจำใจนวดคลึงฝ่าเท้าหนาของคนที่จงใจใช้เขาให้ทำเพื่อความสะใจ จอมขวัญบ่นงุบงิบ บีบๆนวดๆไปอย่างนั้น ไม่ได้ตั้งใจออกแรงตามที่ควรจะเป็น
"บีบให้มันแรงๆเป็นไหมวะ! บีบขึ้นมานี่ จะยึกยักทำไม!" อัศวินตบหน้าขาตัวเอง เขารู้ว่ามันไม่ยอมตั้งใจทำ แล้วเขาเองก็ยิ่งอยากแกล้ง เขาหลับตาลงอีกที คราวนี้มันยอมนวดแรงขึ้นและบีบขึ้นมาจนถึงต้นขาก่อนตะไล่ลงไปยังปลายเท้าอีกที
อื้ม สบาย
อัศวินยิ้มในใจ มันคงจะโกรธเลยพยายามจะใช้แรงทั้งหมดที่มี คงจะอยากให้เขาเจ็บแต่ก็ไม่ เขายิ่งชอบใจ และมันนั่นแหละที่จะหมดแรงไปเอง
จอมขวัญทั้งกดทั้งทุบกะว่าคนตรงหน้าจะร้องโอดโอยออกมาบ้างแต่ก็เปล่า เห้อ เขาคงลืมไปว่าไอ้บ้านั่นมันแข็งแรงยิ่งกว่าอะไร สุดท้ายเขาก็หมดแรง กลับมาบีบๆนวดๆแบบไม่ตั้งใจอย่างเดิม ข้างนึงผ่านไป อีกข้างหนึ่งก็ตามมา จอมขวัญอยากจะร้องไห้ เขาเองก็เมื่อยจะตายอยู่แล้ว ดันต้องมานวดให้คนอื่นอีก ซวยเป็นบ้าเลย ถ้าไม่ติดว่าพี่น้อยจะพาลซวยไปด้วย เขาจะไม่ยอมทำให้คนใจร้ายนี่เลยจริงๆ
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงอัศวินถึงจะเลิกแกล้งมัน เขาชักเท้ากลับและไม่เอ่ยขอบคุณใดๆทั้งสิ้น เห็นมันบ่นงุบงิบสะบัดมือแขนราวกับว่าเมื่อยมากแล้วก็สะใจ เรื่องอะไรจะยอมให้นั่งเฉยๆอย่างสบายๆล่ะ มึงเป็นทาสกูนะ ไม่ใช่ให้มาด้วยฟรีๆ แต่ต้องทำงานแลกเปลี่ยนกัน
ในรถไร้เสียงพูดคุยใดๆหลังจากนั้น จอมขวัญเองเริ่มเมื่อยที่ต้องนั่งแนบกับประตูไว้ตลอด สุดท้ายเขาก็กลับมานั่งดีๆก่อนจะเอาหัวพิงเบาะไว้ ง่วงจะตายอยู่แล้ว ถ้าเขาหลับคนข้างๆคงจะไม่สนใจเขาหรอกมั้ง คิดได้ดังนั้นจอมขวัญก็รีบหลับตาลง ตอนแรกก็แค่คิดว่าจะแกล้งหลับ แต่ตอนนี้เขาเข้าสู่ภวังค์อย่างแท้จริง
อัศวินหยิบไอแพดขึ้นมาดูรูปแบบกล่องรุ่นใหม่ที่บริษัทส่งมาให้เขา กำลังคิดอยู่ว่าแบบเก่ากับแบบใหม่ที่เพิ่งได้อะไรดูเป็นซิกเนเจอร์ให้บริษัทมากกว่ากัน แต่เสียงแปลกๆข้างๆก็ดังขึ้นมาอย่างขัดใจ
อัศวินหันไปมองร่างเล็กที่โงนเงนไปตามแรงรถ เสียงที่ดังรบกวนเขาคือเสียงหัวมันกระแทกกับกระจกรถบ้าง เบาะรถบ้าง นอนไปได้อย่างไรสภาพแบบนั้น เขาขมวดคิ้วก่อนจะเลิกสนใจกลับมาดูงานต่อ แต่เสียงมันก็รบกวนเขาจนไม่มีสมาธิ
"นอนดีๆไม่ได้หรือไงวะ!" เขาสบถดึงไหล่บางให้กลับมานั่งพิงเบาะไว้อย่างเดิม น้อยเองก็ลอบมองเจ้านายที่เริ่มหัวเสีย และมองคนที่สามารถทำให้นายฉุนเฉียวได้ แม้กระทั่งเวลาหลับ ไอ้ขวัญเอ้ย มึงนี่จริงๆเลยนะ!
อัศวินไร้อารมณ์จะดูงาน เขาเก็บไอแพดลงกระเป๋าก่อนจะหลับตาลง สักพักเสียงก็ดังขึ้นมาอีกหลังจากเงียบไปได้ไม่นาน เขาหรี่ตามองมันที่คราวนี้ดูจะโขกกับกระจกรถแรงเป็นพิเศษ
'กูว่ามึงคงได้ตายเพราะสมองไหลก่อนจะถึงลำปาง!'
เขาสบถในใจก่อนจะคว้าไหล่ให้มันกลับมานั่งดีๆแต่ผิดคาด เด็กนั่นมันกลับเอียงตัวมาทางเขาและหัวมันก็ช่างลงมาเหมาะเจาะตรงหน้าขาเขาพอดี อัศวินสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะใช้มือดันตัวมันขึ้น แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน จอมขวัญเมื่อได้ที่เหมาะเจาะแล้วก็เกาะหมอนข้างแน่น ซุกตัวนอนขดอย่างจริงจัง มีการทำปากแจ๊บๆให้คนตรงหน้าโมโหเล่นด้วยแต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกรู้สานอนต่อไปเหมือนกำลังอยู่ที่บ้าน
"นายสงเคราะห์มันเถอะครับ ผมสงสาร" น้อยเอ่ยเสียงขัน จอมขวัญก็คือจอมขวัญ สามารถทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องน่าเอ็นดูไปเสียหมด
"กูเมื่อยนะเว่ย! อีกอย่างกูจำเป็นอะไรต้องให้ขามันนอนวะ!" อัศวินสบถหัวเสีย จากที่เคยจะแกล้งมัน กลับเป็นเขาเสียเองที่เสียรู้ บ้าจริง! มึงนอนลงมาอย่างสบายใจเกินไปแล้วนะไอ้เด็กมึน
"หรือนายจะทนฟังเสียงหัวมันโขกกระจกต่อไปล่ะครับ ถ้ามันกะโหลกร้าวนายอาจต้องเสียค่าพยาบาลอีกนะ" น้อยเอ่ยกลั้วหัวเราะ ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าไอ้ขวัญตื่นมาแล้วเห็นสภาพตัวเองกำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่บนขาคนที่ตัวเองไม่ชอบ มันจะเป็นอย่างไร
"สัตว์เอ้ย! เวรกรรมกูแท้ๆ" อัศวินว่าขยับขาแข้งเล็กน้อยให้เข้าที่ ดู! มันยังจะมีหน้าทำเสียงรำคาญใส่เขาอีกนะที่ขยับขา แม่งเอ้ย! มึงนี่อันตรายจริงๆ ไอ้เด็กจอมขวัญ!
สุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็จบลงที่จอมขวัญได้ที่นอนสุดแสนจะอุ่น แม้จะแข็งไปนิดแต่ก็สบายดี อัศวินเองก็นั่งโมโหมันจนตัวเองเผลอหลับไปด้วย เขานั่งเอาหัวพิงเบาะก่อนจะหลับไป น้อยมองภาพข้างหลังด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก ไม่รู้สิ เขาชอบภาพที่เห็น คนที่เอ่ยปากว่าเกลียดเด็กนั่นอย่างกับอะไร สุดท้ายก็ยอมให้มันพักพิงจนได้ แล้วดูคนที่พยายามหนีคนใจร้ายนั่นสิ กลับเป็นคนเข้าหาเขาก่อนเสียอย่างนั้น น้อยได้แต่เก็บภาพเหล่านี้ไว้ในความทรงจำ เพราะหลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะมีภาพแบบนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ เขาเองก็ไม่รู้อนาคตเช่นเดียวกัน
.....
"อื้ออออ" จอมขวัญบิดขี้เกียจ เอาหน้าซุกความอบอุ่นไว้อย่างเคยชิน เขากอดหมอนข้างแข็งๆก่อนจะซุกตัวเข้าหาอีกรอบ ที่นอนอุ่นมาก นอนสบายจังเลย ขวัญหลับฝันดีด้วยนะ
"อื้ม" อัศวินปรือตาเล็กน้อยก่อนจะใช้มือกอดร่างเล็กไว้อย่างลืมตัว เขาหลับต่อในไม่ช้า ความเบาของร่างที่นอนอยู่ไม่ทำให้ขาเขาได้รับความรู้สึกมากมายแต่อย่างใด อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่มีลูกแมวมาคอยคลอเคลียอยู่ข้างๆแบบนี้
น้อยกระดกกาแฟเรื่อยๆ เขาขับรถยาวจนมาถึงลำปางในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สองคนด้านหลังดูท่าน่าจะหลับเป็นตาย จึงไม่คิดปลุก ตอนนี้ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เขาออกมาตั้งแต่เช้า ขับรถอยู่หลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง น้อยค่อยๆเลาะทางเข้ามาในบ้านจารุพงษ์ไพศาล เขาขับเข้ามาจอดในบ้านก่อนจะบิดเนื้อตัวอย่างขบเมื่อย
"หึ" น้อยหันไปมองทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นอนหลับอย่างไม่รู้สึกตัวจริงๆ คนนึงก็ซุกตัวเข้าหาอย่างออดอ้อน อีกคนก็กอดมันไว้เหมือนกลัวมันตก เออเว้ย แทนที่จะรู้สึกจั๊กกะจี้เพราะทั้งสองคนเป็นผู้ชาย แต่น้อยกลับรู้สึกดีจนไม่อยากปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นมาเลย
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะกระจกจากด้านนอกทำให้น้อยสะดุ้ง ตายห่าแล้ว! คุณท่าน!
"มาถึงแล้วทำไมไม่ลงมากัน ฉันก็ยืนรอไปเถอะ" อำพรต้องเดินลงมาดูด้วยตนเองว่าใช่ลูกของเธอหรือไม่
"เอ่อ" น้อยเกาหัวแกรก ไม่รู้จะพูดอย่างไร
"ตาวินล่ะ" เธอถาม และน้อยเองก็บุ้ยไปทางหลังรถ
อำพรส่ายหัวให้กับลูกน้องของลูกชายคนนี้ ทำไมต้องทำท่าทางแปลกๆด้วยก็ไม่รู้ หล่อนถือวิสาสะเดินมาเปิดประตูรถด้านหลัง และภาพที่เห็นก็ทำเอาเธอตกใจมากอย่างที่ไม่เคยเป็น
"ตาวิน! ตื่น!!" อำพรเขย่าแขนลูกชาย อะไรกันเนี่ย แล้วคนที่นอนตักลูกชายหล่อนอยู่เป็นใคร
อัศวินสะบัดหัวไล่ความง่วงก่อนจะมองเห็นว่าคนบนตักที่กำลังงัวเงียอยู่เป็นใคร เขารีบดันมันออกไป ก่อนจะรีบลงมาจากรถ บ้าเอ้ย นี่เขาปล่อยให้มันหลับบนตักมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือเนี่ย
"แม่!" เขาแทบจะเป็นบ้า แม่คงเห็นหมดแล้วสินะ ถึงได้ทำหน้ามีคำถามแบบนี้
"ขึ้นมากับแม่เดี๋ยวนี้เลย! ลูกไม่มีสิทธิ์จะพูดจนกว่าจะถึงบนบ้าน!!" อำพรคาดโทษลูกชายก่อนจะหันมาหาลูกน้องอีกคน "แล้วแกก็พาเด็กนั่นตามขึ้นมาด้วย เข้าใจไหม!" เธอสั่งก่อนจะเดินขึ้นบ้านไป
"ครับ" น้อยรับคำก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเพราะนายหันมาทำท่าเอานิ้วปาดคอให้เขา ตายแน่ๆกู นี่กูผิดโทษฐานปล่อยให้เขานอนกอดกันใช่ไหมเนี่ย
"มีอะไรกันจ๊ะ" จอมขวัญหาวหวอด เขาบิดขี้เกียจก่อนจะออกมาจากรถ
"ยังจะกล้าถาม! นอนไม่รู้เรื่อง ทำคนอื่นเดือดร้อนเห็นไหม!" น้อยอยากจะเขกหัวเด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนนี้เสียจริง
"ก็ขวัญง่วง แล้วขวัญก็นึกว่าขาเขาเป็นหมอนข้างนี่นา" จอมขวัญยิ้มแหย ถึงแม้จะไม่ชอบหน้า แต่ขาเขามันก็เป็นที่นอนได้สบายดีจริงๆ
"เออๆ เก็บไว้ตอบคุณท่านละกัน เดินตามข้ามา พูดจามีสัมมาคารวะด้วยล่ะ รู้ไหม!" น้อยเออออหิ้วกระเป๋าของนายแล้วก็ของตัวเองลงมาก่อนจะเดินนำจอมขวัญเข้าบ้าน หวังว่านายจะตอบได้ถูกใจท่านแม่นะ ไม่อย่างนั้นไอ้ขวัญอาจโดนดีได้
"แม่จะไม่ถามถึงเรื่อง เอ่อ ภาพที่เห็นเมื่อครู่หรอกนะ แม่จะคิดเสียว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ .. ที่แม่จะถามก็คือ เด็กคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงมากับลูกได้ แล้ว .. สำคัญขนาดไหนถึงให้นอนตักกันขนาดนั้น" อำพรพูดเสียงเบาในตอนสุดท้าย เธอพยายามไม่สนใจแต่มันก็ติดตาไปเสียแล้ว ให้ตายเถอะ ลูกชายหล่อนเลี้ยงเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่
"ผมก็จะขอพูดแค่ครั้งเดียวเหมือนกัน ไอ้เด็กนั่นมันชื่อ จอมขวัญ เป็นลูกชายของไอ้โสภณ ตอนนี้ผมให้มันมาเป็นคนรับใช้ผม และภาพที่แม่เห็นนั้นมันแค่บังเอิญ ผมหลับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" นายหัวจอมเถื่อนลูบหน้าตัวเองอย่างละเหี่ยใจ ทำไมถึงไปกอดมันได้วะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
"ลูกชายโสภณรึ ทำไมหน้าตาไม่มีส่วนคล้าย แถมดูจะอายุไม่เท่าไหร่เอง" อำพรสงสัย หล่อนเคยเจอโสภณอยู่บ่อยครั้ง แต่เด็กที่เห็นเมื่อครู่ไม่มีเค้าโครงของโสภณแม้แต่น้อย
"ลูกคนทรยศอย่างมันนี่แหละครับ ผมจะฆ่ามันหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยสำเร็จเพราะไอ้น้อยมันขัดคำสั่งผมอยู่เรื่อย" อัศวินบอกอย่างหัวเสีย
"ตายแล้วตาวิน! จะคิดฆ่าคนที่ไม่รู้เรื่องได้อย่างไร ลูกอำมหิตแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ห๊ะ!" อำพรตกใจกับคำที่ลูกชายพูด ปกติตาวินไม่เคยพาลคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขนาดนี้ แต่ทำไม
"คุณท่านครับ ไหว้ท่านสิเอ็ง" น้อยกับจอมขวัญเดินเข้ามาพอดี น้อยสั่งเด็กตรงหน้าให้ไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อมและจอมขวัญก็รีบทำตาม
"ไหนเข้ามาใกล้ๆสิ อายุเท่าไหร่นะเรา" อำพรเรียกเด็กตรงหน้าให้เข้ามาใกล้
"สิบแปดครับ" จอมขวัญคลานเข่าเข้ามาใกล้ๆคุณหญิงท่าน เนื้อตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว
"เราเป็นลูกของโสภณจริงๆน่ะหรือ" อำพรเชยหน้ามนดูใกล้ๆ ใบหน้าหวานกว่าผู้ชายทั่วไปอยู่มากโข ยิ่งมีผมยาวเลยบ่าด้วยอีกก็ยิ่งเหมือน แต่ไม่ยักจะมีเค้าโครงของคนเป็นพ่อสักนิด
"ใช่จ่ะ ขวัญเป็นลูกพ่อ แต่พ่อบอกว่าขวัญได้แม่มาเต็มๆจ่ะ เลยไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด" จอมขวัญตอบอย่างลืมตัว ลืมไปว่านี่คือแม่ของคนที่คิดจะฆ่าเขา และคนที่ว่าก็นั่งจ้องตาเขม็งอยู่ข้างๆ
"อื้ม คงใช่ล่ะนะ เอาเถอะ น้อยพาจอมขวัญไปพักผ่อนซะ ดึกมากแล้ว" อำพรว่า เธอมีเรื่องจะคุยกับลูกชายต่อ น้อยพาจอมขวัญออกไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เธอกับลูกชาย
"ดูท่าทางออกจะน่าเอ็นดู อายุก็เพิ่งจะเท่านี้ ลูกกล้าฆ่าเขาจริงๆน่ะหรือ" อำพรถามลูกชายที่นั่งหน้าตายอยู่ข้างๆ อัศวินโตเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากพอ แต่ทำไมเรื่องนี้ลูกชายเธอถึงไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
"ปากดี ดื้อ หยิ่ง จองหองเหมือนพ่อมันนั่นแหละ ผมถึงอยากจะปราบมัน ตอนนี้ผมก็เลิกคิดจะฆ่ามันแล้วล่ะครับ แต่ก็ไม่อยากให้มันอยู่สบายๆ เป็นคนรับใช้ผมนี่ล่ะ ดูเข้าท่าสุดละ" อัศวินเอ่ย สีหน้าที่มันมองเขาแต่ล่ะครั้งก็เชิดรั้นจนน่าโมโห ยิ่งมองยิ่งอยากเข้าไปบีบคอแรงๆให้หายซ่า
"อคติเกินไปหรือเปล่า ถึงแม้โสภณเขาจะผิดจริงแต่ลูกก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้นกับเขานะลูก" อำพรเตือนลูกชาย แม้ในใจเธอจะไม่คิดว่าโสภณจะทำแบบนั้นจริงๆ แต่ลูกชายเธอนี่สิ พูดอย่างไรก็ไม่ฟังกันบ้างเลย
"มีสิครับ ผมมีสิทธิ์ในตัวมันทั้งหมด แม่ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้หรอก มันคือคนที่ผมจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ พ่อมันเลว ลูกมันก็ต้องรับกรรมไป ถือว่าเสมอกัน ผมขอตัวนะครับ นั่งรถมานานเริ่มจะเมื่อย ฝันดีครับ" อัศวินกอดมารดา หอมแก้มสองข้างก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินเข้าห้อง
"อะไรกันลูกคนนี้ ยิ่งโตยิ่งเข้าใจยากเย็นดีแท้" อำพรส่ายหัว หล่อนเองก็เลี้ยงตาวินมาตั้งแต่เด็กๆ แม้จะเด็ดขาดแต่ก็มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่ใช่คนขาดสติและมีโทสะแบบนี้เลย
อัศวินเดินเข้ามาในห้องพลางโยนกระเป๋าไว้บนเตียง เขารีบถอดเสื้อผ้าก่อนจะลงไปแช่น้ำให้สมองโปร่งกว่านี้สักหน่อย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว แทนที่เขาจะรู้สึกรังเกียจเนื้อตัวมัน แต่เขากลับรู้สึกดีกับมันเสียได้ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาโบ้ยความผิดให้กับความง่วงที่ทำให้เขาเผลอลืมตัวไปว่ามันเป็นใคร ถึงได้กล้ากอดมันไปแบบนั้น ป่านนี้ไอ้เด็กนั่นมันคงจะยิ้มเยาะเขาแล้วสินะ บ้าจริง! เสียหมด! อุตส่าห์ทำให้มันกลัว ป่านนี้มันไม่กล้าเล่นหัวเขาหมดแล้วรึ!
"ที่นี่มีน้ำอุ่นด้วย ดีจังเลยจ่ะพี่น้อย ขวัญยังจำเวลาที่ต้องอาบน้ำในห้องน้ำกลางป่าได้อยู่เลย หนาวก็หนาว กลัวก็กลัว แต่ก็ต้องอาบ" จอมขวัญบ่นเสียงอึงตั้งแต่เข้ามา น้อยเองต้องทนฟัง เขาให้มันมานอนด้วยกันในห้องหลังบ้าน ที่นี่เป็นห้องคนใช้คนเก่า มีสองเตียงพอดิบพอดี
"อย่าบ่นนักเลย เวลาอาบก็ขัดขี้ใครเสียบ้าง เนื้อตัวจะได้สะอาดสะอ้าน" น้อยเอ่ยปัดๆที่นอนก่อนจะไหว้พระแล้วล้มตัวลงนอน
"พี่น้อยจะพาขวัญไปบ้านเมื่อไหร่จ๊ะ พรุ่งนี้เลยใช่ไหม" จอมขวัญถามในสิ่งที่เขาตั้งตารอ ที่ยอมมาด้วยก็เพราะว่าจะได้กลับบ้าน จะได้เจอบ้านของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ไม่เหลือใครบนโลกนี้อีกแล้ว
"อย่าเพิ่งคาดหวังเลยขวัญ พรุ่งนี้ข้าต้องพานายไปหลายที่ เอาเป็นว่าข้าบอกจะพาไปก็คือพาไป หลับซะ เลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง" น้อยเอ่ยอย่างสงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาคิดจะพามันไปสักวันก่อนที่จะกลับ แต่ก็ต้องไม่ใช่วันที่ต้องขับรถให้นาย
"ขวัญจะรอนะจ๊ะ ขวัญคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ" จอมขวัญว่าก่อนจะล้มตัวลงนอน เขาหลับตาพลางคิดถึงเวลาที่เคยมีกัน ตอนที่บ้านยังไม่ถูกเผาและเขากับพ่อก็ยังอยู่กันอย่างมีความสุข ขวัญอยากให้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแค่เพียงความฝัน อยากให้พ่อยังไม่ตาย และเราก็ยังอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆหลังนั้นเหมือนเดิม อยู่กันสองคนพ่อลูก ไม่มีใครมาทำลายครอบครัวเราได้
.......
"จะออกไปเลยหรือตาวิน รอแปดโมงก่อนก็ได้นี่ลูก" อำพรบอกลูกชายที่เช้านี้รีบตื่นมาทานข้าวแล้วก็จะรีบออกไปอีก เพิ่งจะกลับมาบ้านให้แม่ชื่นใจไม่ทันไรก็จะออกอีกแล้วลูกคนนี้
"ไม่ได้หรอกครับแม่ ผมจะเข้าไร่" เขาบอกก่อนจะดื่มน้ำแล้วลุกขึ้นยืน
"อ้อ แม่ครับ วันนี้ผมฝากดูไอ้เด็กนั่นด้วย ใช้มันทำงานได้ตามสบาย ถ้ามันดื้อก็จัดการได้เลยนะครับ" อัศวินว่า วันนี้เขาไม่อยากพามันไป
"แม่นึกว่าลูกจะให้เขาตามไปด้วยเสียอีก" คุณหญิงเอ่ย ไหนว่าให้มาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวไง
"วันนี้ผมไม่อยากเห็นหน้ามัน เอาเถอะครับ ให้มันอยู่ช่วยงานที่นี่แหละ ผมไปละ วันนี้รีบ" อัศวินว่าก่อนจะรีบออกไปขึ้นรถน้อยที่จอดรออยู่เพื่อแวะไปที่ไร่เป็นอันดับแรก
"ไม่อยากเห็นหน้า แล้วจะพามาด้วยทำไม" อำพรบ่นพึมพำพลางส่ายหัว เขาเดาใจอัศวินไม่ออกจริงๆ บางทีลูกก็ดูจะเข้าใจง่าย แต่บทจะเข้าใจยากขึ้นมา ขนาดหล่อนเป็นแม่แท้ๆยังขอบาย
"ป่านนี้จะตื่นหรือยังล่ะนี่ ลำดวน ไปดูเด็กที่นอนกับน้อยให้หน่อยสิว่าตื่นหรือยัง" เธอตะโกนเรียกสาวใช้ให้ไปตามลูกชายของโสภณ เธอมีเรื่องอยากคุยกับเด็กคนนั้น
"ตื่นนานแล้วค่ะนายหญิง พี่น้อยพาไปฝากไว้ในครัวแต่เช้า จะให้ตามไหมคะ" สาวใช้เอ่ยถาม เธอเองก็ได้พูดคุยกับจอมขวัญเรียบร้อย เด็กอะไร น่าเอ็นดูล้นเหลือ
"อย่างนั้นหรอกหรือ อื้ม ไปตามมาแล้วกัน" คุณหญิงว่า หล่อนมีหลายเรื่องทั้งอยากจะถามและอยากจะขอโทษ อย่างน้อยเธอก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่าโสภณจะเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
"คุณแม่ทำไมตื่นเช้าจังคะวันนี้" อัจฉราเดินลงมาจากบนบ้าน เมื่อคืนเหมือนจะได้ยินเสียงรถของพี่ชาย แต่เธอง่วงจนไม่มีแรงลุกมาต้อนรับ
"พี่วินของแกเขาออกไปไร่แต่เช้า แม่ตื่นมาสั่งข้าวต้มกุ้งให้ ทานได้นิดเดียวก็ออกไปเสียแล้ว" อำพรเอ่ยส่ายหัวไม่รู้หน่าย
"ยังไม่ชินอีกหรือไงคะ พี่วินก็แบบนี้ เห็นงานสำคัญกว่าทุกสิ่ง" อัจฉราว่า พี่ชายเธอวันๆแทบจะไม่สนใจใคร มองเห็นก็แต่งาน งาน แล้วก็งาน
"สงสัยแม่จะต้องรีบหาเมียให้ ตาวินน่ะสามสิบกว่าแล้วนะ ไม่มีลูกตอนนี้จะไปมีตอนแก่หรือ แม่ไม่ยอมหรอก" อำพรเอ่ย หล่อนคิดเรื่องคู่ครองของตาวินมาหลายปี แต่ก็ยอมให้เขาได้เลือกเอง แล้วดูสิผ่านไปกี่ปีลูกชายหล่อนก็สนใจแต่งาน แบบนี้สงสัยจะต้องหามาให้ จับแต่งไปทีเดียว รอมีหลานให้อุ้ม แบบนั้นคงง่ายกว่า
TBC.
Talk: ขอออกไปทำธุระก่อนค่ะ ถ้าทันตอนหน้าอาจจะมาคืนนี้ ไม่ทันพรุ่งนี้น้า ^^