จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ  (อ่าน 136968 ครั้ง)

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
เอ้อ คือว่า ปอ บอกแล้วครับ แต่พลาดไปหน่อย ตั้ม เลยไม่ได้ยิน  :o11:

พอมีโอกาสอีกที ดันมัวแต่เคลิ้มกับบรรยากาศจนลืม  :sad3:

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
ทำไม


ทำไมถึงเป็นแบบนี้

เสียดายยยยยย

ปออุตส่าห์รวบรวมความกล้าที่มี บอกไปแล้ว

ดันไม่ได้ยินซะนั่น  เฮ้ออออออออออออออออ :o12:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๖๗ เพลงนี้เพื่อใคร

“ตั้ม วาเลนไทน์ ไปไหนวะ” โอ หันมาถามผมที่กำลังทำงานอยู่ ในช่วงพักกลางวัน
“วันไรอะ” ผมถามกลับทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้า
“วาเลนไทน์ไงเว๊ย” โอ เดินเข้ามาตะโกนข้างๆหูผม
“โอ๊ย ... หูระเบิดแล้ว” ผมโวยวาย พลางย่นจมูกมอง โอ “รู้แล้วอะว่า วาเลนไทน์ เราหมายความว่าตรงกับวันอะไร เสาร์หรืออาทิตย์”
“วันเสาร์ ว่าไง ไปทำอะไรที่ไหนหรือเปล่า” โอ ถามยิ้มๆ
“เสาร์เหรอ มีเล่นคอนเสริท” ผมตอบแล้วก้มหน้าทำงานต่อ
“เอาแต่เล่นดนตรี ไม่อ่านหนังสือสอบมั่งเหรอวะ” โอ ถามต่อ
“อ่านแล้ว เทอมก่อนหยุดไปเยอะ เลยอ่านล่วงหน้าไว้แล้ว” ผมตอบขณะที่ทำงานไปเรื่อยๆ
“อะไรนะ เอ็งอ่านตั้งแต่เทอมที่แล้วเหรอวะ” โอ ทำท่าตกใจ
“แปลกอะไรอะ” ผมเงยหน้าขึ้นมามอง โอ  “พวกนายก็ไปเรียนพิเศษกันตั้งแต่ปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ น่าจะอ่านกันมากกว่าเราอีกนะ”
“แล้วคอนเสริทคราวนี้ เอ็งร้องเพลงอะไรอีกรึเปล่าวะ” โอ เปลี่ยนเรื่อง
“ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะร้องเพลงอะไรดี เพื่อนๆมันอยากให้ร้อง Lovin’ You อีก” ผมตอบอย่างเซ็งๆ
“ฮ่าๆๆ คราวนี้จะร้องให้ใครล่ะวะ” โอ ถามพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พลางยักคิ้วให้อย่างกวนๆ เมื่อผมเงยหน้าขี้นมา
“เราไม่รู้จะร้องให้ใคร” แววตาผมสลดลง “มันเค้วงๆยังไงไม่รู้” ... ใครจะรู้ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ยังมีเรื่องที่บ้านอีก ...
“ถามจริงๆเหอะวะ มึงชอบมันตรงไหนวะ” โอ ถามพลางจ้องหน้าผม
“นายถามถึงใคร” ผมแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้
“เอ็งไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง จะว่าไปมันก็น่ารักนะ” โอ พูดพลางลูบคาง “แล้วมันก็หล่อดี” โอมองผม แล้วหัวเราะเบาๆ “สมกับที่มีฉายาร่วมกับกูว่า คู่แฝดมหัศจรรย์ ” ประโยคสุดท้าย ทำเอาผมอดไม่ได้ ที่จะต้องหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ เพราะคนหนึ่งขาวอีกคนดำ คนหนึ่งสูงอีกคนเตี้ย คนหนึ่งผอมอีกคนค่อนข้างสันทัดจนเกือบอ้วน แต่มักเรียกตัวเองว่าคู่แฝด
“เอ็งก็ทำใจให้ได้แล้วกัน” เสียง โอ อ่อนโยนลง “ตอนนี้มันก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว”
“อื้อ เราเข้าใจ ถึงจะยังไม่มี เราก็ต้องตัดใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ” ผมตอบอย่างปลงๆ
“เอ็งก็ตั้งใจกับดนตรีที่เอ็งชอบก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวพวกกูจะไปเชียร์” โอ พูดยิ้มๆ
“จะไปดูกันเหรอ” ผมถามด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น
“เออ ดิ เดี๋ยวถ้าพวกสาวๆรู้ คงตามกันไปกรี๊ดเอ็งเหมือนเดิม ว่าแล้วหมั่นไส้เอ็งหว่ะ ขอซักหน่อยเหอะวะ ” โอ พูดแล้วก็เอามือมาขยึ้หัวผมแรงๆ พลางหยิกแก้มผม แล้วก็วิ่งออกไปคุยกับเพื่อนๆ ที่จับกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้าห้อง

ผมตัดสินใจได้แล้วว่า ผมจะร้องเพลงอะไร ในคอนเสริทวาเลนไทน์ ที่ทางสถาบันจะจัดขึ้น ซึ่งมีคอนเสปว่า ... เพลงรัก ... มันคงจะไม่ผิดอะไร ถ้าผมจะตีความหมายของเพลงนั้นในแบบที่ผมคิด แล้วตอนเย็นเมื่อโรงเรียนเลิก ผมก็นั่งรถประจำทางไปสถาบัน เพื่อปรึกษากับอาจารย์ผู้สอน หลังจากที่ผมอธิบายถึงความคิดของผม อาจารย์ก็เห็นด้วย แล้วผมก็ฝึกซ้อมอยู่กับอาจารย์ จนเพลงเข้าที่ คืนนั้นผมก็โทรศัพท์บอกเพื่อนในวงบางคนที่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อนจะได้เตรียมตัวซ้อมก่อนจะมารวมวงกันในตอนเช้าวันเสาร์
....................................................................................
.................................
http://media.imeem.com/m/1XqglR_-bk/aus=false/
เสียงดนตรีบรรเลงจนถึงท่อนทึ่ควรจะเป็นเนื้อเพลง แต่ ตั้ม ยังคงนิ่งเงียบ ทำให้เพื่อนๆในวงเริ่มมองหน้ากัน ก่อนที่จะตกลงใจทำอะไร ตั้ม ก็ส่งสัญญาณมือบอกว่าให้เล่นกันต่อ
“ผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ คงมีคนที่สำคัญอยู่ในใจกันทุกคน” ตั้ม เริ่มพูดพลางมองไปรอบๆ นักดนตรีบางคนเริ่มผิวปากเป็นทำนองเพลงไปเบาๆ ขณะที่ ตั้ม พูด
“คนคนนั้นอาจจะเป็น คนรัก คนในครอบครัว หรือเป็นเพื่อนของคุณ” ตั้มพูดพลางหันไปมองยังกลุ่มเพื่อนนิ่ง
“ผมไม่รู้ว่าใครจะมีความรู้สึก หรือคิดอย่างไรกับคนที่อยู่ในใจของคุณ แต่สำหรับคนที่อยู่ในใจผม ผมคงรู้สึกไม่ต่างจากเพลงนี้นัก” ตั้ม ยิ้มกว้างให้เพื่อนๆด้านล่างเวที แล้วก็เริ่มร้องเพลงขึ้นมา

You know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you


ตั้ม ร้องเพลงพลางมองไปยังคนดูรอบๆ แววตาและรอยยิ้มรวมทั้งเสียงของ ตั้ม ดูสดใส ร่าเริง ผิดกับเสียงเพลงต้นฉบับที่มีแต่ความอ่อนหวานของชายหนุ่มที่มีให้คนรัก บางครั้ง ตั้ม ก็หันไปยิ้มกับเพื่อนๆในวง

You came along just like a song
And brightened my day
Who would have believed that you were part of a dream
Now it all seems light years away


แล้วจู่ๆ ตั้ม ก็หยุดมองไปยังคนสองคนที่เพิ่งจะเดินมาถึงบริเวณนั้นแน่วนิ่ง ดวงตาเป็นประกายมากขึ้น เหมือนกับดีใจมากที่ได้เห็นคนทั้งสอง ตั้ม ร้องเพลง พลางผายมือไปยังคนทั้งสอง และเสียงเพลงของ ตั้ม เหมือนจะยิ่งเปี่ยมไปด้วยความสดใส

And now you know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile

Now some people say happiness takes so very long to find
Well, I'm finding it hard leaving your love behind me

And you see I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel glad when you're glad
I feel sad when you're sad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you


ท่อนสุดท้ายของเพลง ตั้ม หันหน้าไปยังเพื่อนๆ ที่อยู่ด้านล่างเวที พลางยิ้มกว้างให้ทุกคนด้วยความสดใส ตั้ม มองไปที่หน้าของเพื่อนทีละคน และไปหยุดที่ ปอ

... เพลงนี้เพื่อพวกนายนะ เพื่อนของเรา  และ ปอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายนายทำให้เรายิ้มได้เสมอ ...

....................................................................................
..................................
“ไปหามันที่หลังเวทีดีมั๊ยวะ” เด็กหนุ่มรูปร่างสูง ผมทรงรองทรงสูง หันไปถามคนข้างๆ
“รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวจะคลาดกันเปล่าๆ” เด็กหนุ่มรูปร่างใกล้เคียงกันที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอบ
“งั้นมาพนันกันมั๊ยวะ” เด็กหนุ่มผมทรงรองทรงสูง ถาม
“เรื่องอะไร” เด็กหนุ่มอีกคน ถาม ดวงตาที่อยู่ใต้กรอบแว่น เป็นประกาย
“พนันกันว่า มันจะออกมาแล้วเดินไปหาเพื่อนๆมันก่อน หรือเดินมาหาพวกเราก่อน” เด็กหนุ่มผมรองทรงสูง พูด “ใครแพ้มื้อนี่จ่าย”
“เอางั้นเหรอ”  ดวงตาภายใต้กรอบแว่นทอแววขำขัน “งั้นให้นายทายก่อน”
“กูว่า มันต้องมาหาพวกเราก่อน” เด็กหนุ่มผมรองทรงสูง พูดพลางยิ้มเหมือนตัวเองชนะแน่ๆ
“หึ หึ” เด็กหนุ่มอีกคนหัวเราะเบาๆ “งั้นเราก็ต้องทายว่า ตั้ม จะไปหาเพื่อนๆก่อนน่ะสิ”
“ เออ คราวนึ้มึงแพ้แน่” เด็กหนุ่มผมรองทรงสูง พูดอย่างมั่นใจ

แต่รอยยิ้มอย่างเชื่อมั่นในอะไรสักอย่าง ของเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง เริ่มทำให้เขารู้สึกว่า เขาอาจจะแพ้อีกครั้งก็ได้
. ....................................................................................
.................................
ขณะพวกเรายืนอยู่ที่เดิม กำลังตกลงกันว่าจะไปไหนกันต่อดี ผมก็เหลือบไปเห็น ตั้ม วิ่งมาจากด้านเวทีแสดงคอนเสริท ซึ่งขณะนี้มีวงดนตรีวงอื่น ของสถาบัน ขึ้นไปแสดงต่อจางวงของ ตั้ม 
“ว่างายพวกเรา” ตั้ม ทักทาย พลางหันไปยิ้มให้พวกสาวๆ “ไม่เจอกันนานเลยนิ”
“เฮ๊ย ตั้ม เดี๋ยวไปด้วยกันดิ หาขนมกินกัน” ดม ชวน
“ตั้ม เพลงเมื่อกี้ร้องให้ใครเอ่ย” สาวแว่นถามยิ้มๆ ก่อนที่ ตั้ม จะตอบอะไร
“ก็ร้องให้เพื่อนๆเรานี่ไงล่ะ” ตั้ม ยิ้มกว้าง “ทุกวันนี้เรายิ้มได้ก็เพราะมีเพื่อนๆนี่แหละ”
“แหมๆ แน่ใจเหรอว่ามีแต่เพื่อนน่ะ” สาวผมหยิกถามยิ้มๆ “เมื่อไหร่จะมีแฟนล่ะ”
“สงสัยคงอีกนาน แฟนเราคงยังไม่เกิดมั๊ง” ตั้ม ตอบยิ้มๆ แต่ประกายในดวงตาเหมือนจางลง
“งั้นคนพิเศษล่ะวะ” โอ ถามบ้าง
“คนพิเศษเหรอ” ตั้ม ยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกายอีกครั้ง “ นั่นไง”  ตั้ม หันหน้าพยักเพยิดไปทางเด็กหนุ่ม ๒ คน ที่ยืนห่างออกไปพอสมควร ทุกคนก็เลยหันไปมองตาม
เด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งทั้ง ๒ คน โบกมือให้ ตั้ม คนหนึ่งไว้ผมรองทรงสูง อีกคนหนึ่งผมยาวประบ่า ใส่แว่นสายตา ผิวค่อนข้างขาวตามเชื้อสายจีนที่มีอยู่ในตัว หน้าตาจัดว่าดีทั้งคู่
“ใครอะ ตั้ม หล่อทั้งคู่เลย” สาวหนึ่งถามอย่างตื่นเต้น
“คนพิเศษไง” ตั้ม หัวเราะ “เราคงไปต่อด้วยไม่ได้แล้วหล่ะ เราขอโทษนะ” ตั้ม พูดกับเพื่อนๆ
“เออ มึงรีบไปเหอะ พวกนั้นรอนานแล้ว” ผม พูดแล้วยิ้มให้
“ปอ ไปด้วยกันสิ” ตั้ม พูดชวนผม
“ไว้วันหลังเหอะ บอกมันด้วย ว่าเราคิดถึง แล้วก็ขอบใจมันเรื่องเก่าๆด้วย” ผม บอกปฏิเสธไป
“งั้นเราไปก่อนนะ เจอกันที่โรงเรียน บายทุกคน” ตั้ม โบกมือให้พวกผม แล้ววิ่งตรงไปหาคนทั้งสอง
พอ ตั้ม ไปถึงก็กระโดดกอดเด็กหนุ่มที่ใส่แว่นตา พูดอะไรกับทั้งสองคนอยู่สักครู่ ก็หันไปกอดเด็กหนุ่มผมรองทรงสูง คุยกันอีกสักพัก ทั้งสองคนก็จูงมือ ตั้ม คนละข้าง คนใส่แว่นหันมาโบกมือให้ผม ผมก็โบกมือตอบกลับไป
“ปอ รู้จักสองคนนั้นด้วยเหรอ” สาวๆถามผม
“อื้อ พวกนี้ก็รู้จัก” ผมพยักหน้าไปทางพวก เชียร และ นึง
“ใครอะ ท่าทางสนิทกับ ตั้ม น่าดูเลย”
“พี่ชายมัน” ผมตอบยิ้มๆ
“เหรอ มิน่าถึงไม่มีแฟนซะที” สาวๆพูดพลางหัวเราะ
“นั่นดิ รักป๊ะป๋าขนาดนั้น แล้วยังมีพี่ชายเท่ห์ๆแบบนี้นะ เป็นเราก็ไม่มองใครทั้งนั้นแหละ” สาวผมหยิกหยุดพูดนิดหนึ่ง แล้วพูดต่อ “แล้วถ้าเรามีน้องแบบนี้ เราก็รักตายเหมือนกันแหละ” แล้วเธอก็หัวเราะร่วน  ท่ามกลางเสียงแสดงความเห็นด้วยของเพื่อนๆของเธอ


ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
แง๊ ๆๆ

ปอทำไมไม่ตามไปด้วยอ่ะ

อิอิ

ว้า

สรุปใครจะครองใจตั้มกันเนี่ย

เฮ้อออออออออออออออออ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เพลงนี้เพราะมากเลยจำได้ว่าเคยฟังตอนเด็กๆนะ :o8:
เมื่อไหร่ปอจะบอกรักอีกครั้งน้า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
  :laugh: ยังคงเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อไป :laugh:


 o12 ทำไมไม่มีใครใจดีพอจะช่วยปอเลยเหรอ o12


 :L2: :c5: :L2:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m24: เม้นท์ก่อน

น้องตั้มน่ารัก น่าหยิกจัง แก้มยุ้ยๆๆ อิอิ


ว่าแต่  มีกี่ตอนคะเรื่องนี้

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๖๘ ผลสอบคัดเลือก

พวกเรายืนคุยกันไปสักพัก ก็มองเห็น ตั้ม เดินไปยังกลุ่มเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ห่างจากเราสองคนไปพอสมควร
“อะไรวะ ทำไมไปหาพวกนั้นก่อน” ชัย พูดพลางขมวดคิ้ว
“เห็นมั๊ย เราชนะ” ผมพูดพลางหัวเราะเบาๆ “นายต้องเลี้ยงแล้วนะ”
“ฟลุ๊ค หรือ ของจริงวะ” ชัย หันมามองผมอย่างสงสัย
“ถ้านายยังสงสัยอยู่ งั้นมาพนันกันใหม่ก็ได้” ผมท้า
“เออ กูยอมแพ้ก็ได้วะ กี่ครั้งไม่เคยชนะซักที” ชัย บ่น “ว่าแต่ เอ็งแน่ใจได้ยังไงวะ ว่าจะเป็นแบบนี้”
“ง่ายๆ” ผม มอง ชัย ยิ้มๆ “ถ้านายกินเค๊กสตอเบอรี่ นายจะกินสตอเบอรี่ตอนไหน”
“นั่นมันความคิดเด็กเว๊ย ที่จะเก็บสตอเบอรี่ไว้กินสุดท้ายน่ะ” ชัย ทำท่าเหมือนเถียง
“คล้ายๆกันนั่นแหละ ก็ ตั้ม มันเด็ก” ผมหัวเราะ “คิดอะไรไม่ค่อยซับซ้อนหรอก เห็นแบบนั้นก็เถอะ มันโตแต่ตัว” ชัย ฟังคำตอบของผมก็เงียบไปสักครู่
“เออ หว่ะ ทำไมกูเพิ่งรู้ซึ้งวะ” ชัย พูดปลงๆ แล้วพวกเราก็หันหน้าไปมอง ตั้ม ในกลุ่มเพื่อนๆ

สักพัก ตั้ม ก็ผละจากกลุ่มเพื่อน  วิ่งมาหาพวกเรา พอมาถึงตัวก็กระโดดกอดเอวผม
“พี่ราญ” ตั้ม เรียกเสียงค่อนข้างดัง ผมใช้มือหนึ่งโอบรอบเอว ตั้ม ไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งจับแก้มหยิบเบาๆ
“ตัวโตขนาดนี้แล้ว ยังกระโดดกอดพี่ชายอีก ไม่อายคนเหรอ” ผมถามยิ้มๆ
“ทำไมต้องอายอะ” ตั้ม ทำหน้า งงๆ “ก็คิดถึงนี่นา พี่ราญ ไม่ชอบที่ ตั้ม ทำแบบนี้เหรอ” หน้า ตั้ม สลดลง พลางคลายมือออกถอยตัวออกไป
“พี่ชายไม่ว่าอะไรหรอก แต่หมู่นี้ตัวโตขึ้น พี่ชายหนักน่ะสิ” ผมโอบตัว ตั้ม เข้ามาใกล้ๆเหมือนเดิม แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะ
“ทักแต่ พี่ราญ นะ พี่ชัย น้อยใจแล้ว” ชัย ยื่นหน้าเข้ามา
“ก็เจอ พี่ชัย บ่อยกว่า พี่ราญ นี่นา” ตั้ม หันหน้าไปพูด
“แต่ พี่ชัย อยากให้น้องกระโดดกอดมั่งนี่” ชัย พูดยิ้มๆ
ตั้ม ได้ยินก็ผละจากผม กระโดดเข้าไปกอดคอ ชัย บ้าง
“ตั้ม หนักมั๊ยอะ พี่ชัย” ตั้ม ถามพลางหัวเราะ
“ลูกหมาอะไรวะ ตัวหนักฉิบเป๋ง” ชัย พูดพลางเอามือทั้งสองหยิกแก้ม ตั้ม เบาๆด้วยความเอ็นดู
“ตั้ม หิวมั๊ย ไปหาอะไรกินกัน” ผมถามพลางเอามือลูบหัว ตั้ม เบาๆ
“ยังไม่หิวเลยอะ” ตั้ม ตอบพลางคลายมือออกมาออกจากการกอดคอชัย
“งั้นไปกินขนมกัน เอาอะไรดี” ผม ถาม
“พี่ชัย ว่าไงอะ” ตั้ม หันไปถาม
“ตั้ม อยากกินอะไรล่ะ วันนี้ พี่ชัย เลี้ยงเอง” ชัยบอกยิ้มๆ
“ทำไมต้องเลี้ยงอะ กินด้วยกัน ก็จ่ายด้วยกันดิ” ตั้ม ท้วง
“ชัย มันแพ้พนันพี่ชาย เลยต้องเลี้ยง” ผมบอก
“พนันไรกันเหรอ” ตั้ม ทำหน้าสงสัย
“พนันอะไรกับพี่ชายก็แพ้หมดแหละ” ผมบอกจบ ตั้ม ก็หัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ “งั้นไปกินไอติมกันดีกว่านะ” ผมสรุปให้ เพราะถ้ามัวแต่เลือกคงอีกนาน
แล้วเราสองคนก็จูงมือ ตั้ม คนละข้าง ผมหันไปโบกมือให้ ปอ ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ปอก็โบกมือตอบกลับมา แล้วพวกเราก็พา ตั้ม ไปยังร้านไอติมชื่อดังในศูนย์การค้าแห่งนั้น
..........................................................................
.....................................
“ไอ้ ตั้ม” ดม เรียกผมเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง พร้อมกับเดินมาหาผมที่โต๊ะ แล้วก็มีอีกหลายคนเดินมาล้อมผมไว้

ผมนึกอยู่แล้วว่าต้องโดนเรียกแน่ เพราะเมื่อเช้านี้ เพื่อนๆที่ไปสอบเข้าวิทยาลัยเอกชน พากันไปดูผลสอบคัดเลือก แต่ผมไม่ได้ไปด้วย เพราะต้องโดดเรียนวิชาในคาบเช้าบางวิชา อีกอย่างหนึ่ง ผลสอบจะส่งทางไปรษณีย์ด้วย เมื่อเพื่อนๆกลับมาประมาณคาบเรียนที่ ๓ ผมก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ เพราะแต่ละคนมักจะหันมามองผมบ่อยๆ ด้วยสายตาต่างๆกัน

“แสบจริงนะเอ็ง เมื่อกลางเทอมก็ดันสอบเลขผ่านอยู่คนเดียว ทั้งๆที่เพื่อนๆตกกันหมดทั้งห้อง” โอ พูดยิ้มๆ
“อ้าว” ผมพูดได้แค่นั้น เพราะกำลัง งง ว่าเกิดอะไรขึ้น  มองดูเพื่อนๆแต่ละคน มีทั้งหน้าเคืองๆ บางคนก็อมยิ้ม ...ตกลงโดนโกรธ หรือโดนชื่นชมกันแน่เนี่ย -*- ...
“ร้ายนะเอ็ง สอบผ่านคนเดียวอีกแล้ว” เชียร พูดยิ้มๆ
“สอบอาราย” ผมไม่ทันนึกถึงบางเรื่อง
... โป๊กกก ... นึงเอามือมาเขกหัวผม ผมไม่กล้าร้อง ได้แต่มองหน้าเพื่อนๆด้วยความงุนงง พลางเอามือคลำหัวตัวเองที่ถูกเขก
เงียบกันไปนาน ไม่มีใครพูดอะไร ผมมองหน้าเพื่อนๆทีละคน รู้สึกเหมือนตัวเย็นๆขึ้นทุกที ... ทำไมเงียบกันแบบนี้ ...
“พอได้แล้ว พวกนายนี่ ศิลปี งง จนทำอะไรไม่ถูกแล้ว” วัฒน์ พูดทำลายความเงียบ
“ตั้ม ดีใจด้วยอะ นายสอบเข้าที่วิทยาลัย****ได้แล้วนะ” หมู บอกผมยิ้มๆ
“หา เราอะนะสอบได้ แล้วคนอื่นอะ” ผมตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะสอบได้
“เอ็งสอบได้คนเดียวเว๊ย” โอ บอกอย่างหมั่นไส้นิดๆ
“อ้าว ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจเหรอ” เชียร ถามเมื่อเห็นว่าผมขมวดคิ้ว เม้มปากไว้นิดหนึ่ง ไม่ได้แสดงอาการว่าดีใจเลย
“ทำไมเป็นงั้นอะ เราไม่อยากได้นี่ เราอยากให้เพื่อนๆสอบได้กันมากกว่า” ผมพูดออกไปตามที่ใจผมคิด ก็ใบสมัครที่เพื่อนบอกว่าซื้อมาฝากนั้น ความจริงเป็นใบที่ซื้อเกินมาต่างหาก
“ไอ้นี่นี่ยังไงวะ คนทำหน้าเศร้าควรเป็นพวกกูนี่ ไม่ใช่เอ็ง” ดม ดุ
“ไม่เห็นดีเลย” ผมพูดพลางก้มหน้า
“เรื่องมากจริงเอ็งนี่ ไปกินข้าวกันดีกว่า หิวแล้ว” พอ นึง พูดจบ พวกเราก็พากันไปกินข้าวกลางวันที่โรงอาหาร
แต่ผมอึดอัดมากกว่าที่จะดีใจ เพราะระหว่ากินข้าว เพื่อนบางคนก็ยังพูดถึงเรื่องนี้ไม่ยอมจบ แล้วยังพูดโยงไปถึงผลสอบกลางเทอมหลายๆวิชา ที่ผมได้คะแนนแบบที่เรียกว่า หลุดเคิฟ อีกหลายวิชา
... แต่ผมต้องทำรายงานซ่อมวิชาพละ ไม่เห็นมีใครพูดบ้างเลย ...
..........................................................................
.....................................
กินข้าวกลางวันเสร็จ ผมก็เดินไปห้อง ๖/๒ ตั้งใจจะไปบอก พี่ชัย ว่าผมผ่านการสอบคัดเลือก แต่พอผมเดินเลี้ยวจะเข้าประตูห้อง ก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่ง ผมเอามือประคองแว่นที่เกือบหลุด รู้สึกว่ามีมือใหญ่ๆมาจับไหล่ผมไว้ คงเป็นมือของคนที่ผมชนนั่นเอง
“ขอโทษอะ” ผมรีบบอกขอโทษที่ผมเดินชน
“ซุ่มซ่ามจริงนะเอ็ง” ผมเงยหน้ามองก็เห็น สิทธิ์ มองผมยิ้มๆ
“แหะๆ” ผมได้ยิ้มแหยๆ
 “ไอ้เต่าไม่อยู่” สิทธิ คงคิดว่าผมมาหา เต่า
“มาหา พี่ชัย อะ” ผมบอกไป พลางเอะใจ เพราะมือของ สิทธิ์ ยังอยู่ที่บ่าผม
“อ๋อ มันไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมา มาหามันมีไรล่ะ” สิทธิ์ พูดพลางเอามือออก เพราะผมเริ่มมองไปที่มือบนไหล่
 “จะมาบอกผลสอบที่วิทยาลัย**** อะ  เพื่อนไปดูมาบอกว่าผ่านแล้ว” ผมบอกยิ้มๆ
“เหรอวะ เก่งนี่” สิทธิ์ ยิ้มอย่างดีใจ พลางเอามือขยี้หัวผม “แบบนี้ต้องให้รางวัลลูกหมาซะหน่อยแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องหรอก รู้นะจะให้กระดูกยางอันใหม่เราช่ายมะ” ผมพูดพลางหัวเราะ
“เอ็งคงมีไว้แทะเยอะแล้ว ให้อย่างอื่นดีกว่าหว่ะ มาทางนี้ดีกว่า” สิทธิ์ พูดพลางโอบไหล่ผมให้เดินตามไปริมหน้าต่างริมระเบียงทางเดิน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ ผมคงหาทางปลีกตัวออกมา แต่ระยะหลังนี้ สิทธิ์ เหมือนเป็นมิตรกับผมมากขึ้น ผมจึงเดินตามไปโดยที่ไม่คิดอะไร


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
แง๊ ๆๆ

ปอทำไมไม่ตามไปด้วยอ่ะ

อิอิ

ว้า

สรุปใครจะครองใจตั้มกันเนี่ย

เฮ้อออออออออออออออออ
ถ้าเป็นคนอื่น ปอ ตามไปแน่ครับ แต่สำหรับ ๒ คนนี้ต้องยกไว้เป็นข้อยกเว้น  :try2:

  :laugh: ยังคงเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อไป :laugh:


 o12 ทำไมไม่มีใครใจดีพอจะช่วยปอเลยเหรอ o12


 :L2: :c5: :L2:
เพื่อนๆอยากช่วยเหมือนกันครับ แต่จากนิสัย ตั้ม ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า อย่าดีกว่า เดี๋ยวยิ่งยุ่งกว่าเดิม  :sad4:

:m4: :m24: เม้นท์ก่อน

น้องตั้มน่ารัก น่าหยิกจัง แก้มยุ้ยๆๆ อิอิ


ว่าแต่  มีกี่ตอนคะเรื่องนี้
อีกไม่กี่สิบตอน เอ๊ยยยยยยยยย มะช่ายยยยย :freeze:
อีกไม่ถึงสิบตอนก็จบแล้วค๊าบ  o18
เกินกว่าที่ตั้งใจไว้  o6
... เบื่อกันแล้วเหรอค๊าบ  :undecided:

GTo_CluB

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มๆๆๆๆ   :m4: :m4: :m4:

ยังไม่เบื่อหรอกคับ

เป็นกำลังใจให้ต่อไปคับ

 o13 o13 o13

 :oni2: :oni2: :oni2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






meawmeaw

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านตอนใหม่จ้า  :m13:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
อ๊ากกกกกกก

จะเกิดอะไรขึ้นป่าวววววว

ต่อด่วนๆๆ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :o ไรนะ  ใกล้จบแล้วเหรอเนี่ย 
 :serius2:
น้องตั้มยืดเรื่องหน่อยน้า... :m13:
แบบละครช่องหลายสีไง   :m23:
ก็เค้า   :m1:  น้องตั้มอ่ะ    :o8:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๖๙ เลี้ยงอำลา

“หลับตาก่อน เดี๋ยวจะหยิบรางวัลให้” สิทธิ์ พูดจบ  ผมก็หลับตา โดยที่มือของสิทธิ์ทั้งสองข้างยังวางไว้บนไหล่ของผม
แล้วผมก็รู้สึกว่ามีอะไรมาแตะที่แก้มผม พร้อมกับลมอุ่นๆ กับความชื้นของสัมผัสบางอย่าง ผมตกใจลืมตาขึ้น สิทธิ์ ถอนจมูกออกจากแก้มแล้วมองหน้าผมยิ้มๆ
“ฮ่าๆๆ ทำไมทำหน้าอย่างงั้นวะ” สิทธิ์ พูดพลางมองหน้านิ่ง
ผมก็นิ่งไม่ได้ตอบอะไร เพราะกำลัง งง กับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ใครจะพูดอะไร ก็มีแขนมาโอบไหล่ผม พร้อมกับเสียงคุ้นๆ
“มึงทำอะไรน้องกูวะ” ชัยถามดุๆ
“กูให้รางวัลลูกหมาอยู่หว่ะ” สิทธิ์ตอบ
“รางวัลไรวะ มึงฉวยโอกาสมากกว่า เดี๋ยวกูจะบอก ไอ้ปอ” ชัย พูดแล้วหัวเราะเบาๆ
... ทำไมต้องบอก ปอ... ผมหันไปมอง ชัย ด้วยความสงสัย
“อย่านะมึง  มันโกรธตาย” สิทธิ์ ห้ามหน้าตาตื่น
... ปอ น่ะเหรอจะโกรธ เมื่อก่อน สิทธิ์ ก็ทำแบบนี้บ่อยๆ ปอ จะหัวเราะชอบใจล่ะไม่ว่า เผลอๆจะทำแบบนี้อีกคนน่ะสิ ทำไมหมู่นี่มีแต่คนพูดอะไรแปลกๆ... ผมคิดพลางหันไปมอง สิทธ์ อย่าง งงๆ
“ตั้ม มันสอบติดที่****” สิทธิ์เปลี่ยนเรื่อง
“จริงเหรอวะ” ชัยหันมาถามผม
“อื้อ จะมาบอก พี่ชัย เนี่ย” ผมบอก
“เก่งนี่นา เดี๋ยวเย็นนี้ พี่ชัย ไปบอก ราญ ให้”
“เดี๋ยว ตั้ม โทรบอกเองดีกว่าอะ ถ้าไม่เกิน ๓ ทุ่ม ยังพอโทรฯได้” ผมบอกยิ้มๆ
“งั้น พี่ชัย ให้รางวัลมั่ง” ชัยพูด พลางเกาคางผมเบาๆ
“แบบตะกี้ม่ายเอานะ” ผมพูดพลางขมวดคิ้ว
“ทำไมล่ะ” ชัย ถามยิ้มๆ
“ก็แก้ม ตั้ม เลอะน้ำลาย สิทธิ์ อะ เดี๋ยว พี่ชัย เหม็นแย่เลย” ผมพูดเสียงอ่อย รู้สึกว่า็แก้มยังชื้นๆอยู่
“ฮ่าๆๆ เดี๋ยว พี่ชัย พาไปหาขนมอร่อยๆกินดีกว่า” ชัย พูดแล้วก็เปลี่ยนเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ พลางหันไปมองหน้า สิทธิ์ ที่ทำหน้าเจื่อนๆอยู่ด้านข้าง
แล้วพวกเราก็พากันคุยเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ สักพัก ศักดิ์ และ สมชายก็เดินมาสมทบ ทุกคนพากันดีใจไปกับผมด้วยที่ผมสอบผ่าน
..............................................................................................
..........................................
สัปดาห์หน้าก็จะสอบปลายภาคแล้ว ผมก็ยังไม่มีโอกาสที่จะบอกความในใจให้ ตั้ม รับรู้สักที บางครั้งผมเห็นว่า ตั้ม อยู่คนเดียว ก็เข้าไปคุยด้วย พอจะพูดอะไรออกไป ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะได้เสียทุกครั้ง หลายหนที่ทำเอาผมอารมณ์เสีย จนพาลพูดดุๆหรือตวาดไป ทำให้ ตั้ม งุนงงไปหลายครั้ง ยิ่งใกล้สอบผมยิ่งกระวนกระวาย ตัดสินใจไม่ถูก เพราะกลัวว่าถ้าพูดอะไรผิด จะทำให้ ตั้ม สะเทือนใจจนมีผลไปถึงการสอบ แล้วผมก็ยังกลัวว่าถ้า ตั้ม ปฎิเสธผม ตัวผมเองจะมีสมาธิกับการสอบหรือเปล่า สุดท้ายผมตัดสินใจว่า ควรให้การสอบผ่านไปก่อนจะดีกว่า

“ตั้ม สอบเสร็จแล้วไปไหนรึเปล่า” ผมถามขึ้นก่อนจะเข้าสอบวิชาสุดท้าย
“อื้อ วันนี้เรามีสอบที่สถาบันด้วย สอบที่นี่เสร็จต้องรีบไปเลย” ตั้ม ตอบมา “มีไรเหรอ”
“ก็...นิดหน่อยหว่ะ มีอะไรอยากคุยด้วย” ผมบอกเบาๆ
“อืม เอาไงดีอะ เราต้องรีบไปซะด้วยสิ” ตั้ม นิ่งคิด
“เสาร์อาทิตย์ล่ะวะ” ผมเริ่มใจไม่ดี
“มีเรียนที่สถาบันน่ะสิ ตั้งแต่เช้าเลย กว่าจะเสร็จก็ ๕ โมง” ตั้ม บอก “เอาไงดีอะ เรื่องสำคัญรึเปล่า ปอ” ตั้ม มองผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“เอ้อ ก็นิดหน่อยหว่ะ เอางี้เดี๋ยวเสาร์นี้กูไปหาที่สถาบันได้มั๊ยวะ” ผมตัดสินใจ
“ได้สิ” ตั้ม ยิ้มกว้าง  “ตอนไหนดีล่ะ เรามีพักเที่ยง ๑๑ โมง ถึงบ่ายหนึ่ง แล้วมีพักระหว่างชั่วโมงนิดหน่อย”
“ตอนเย็นเลยดีกว่าหว่ะ เดี๋ยว ๕ โมงกูไปหานะ ห้ามลืมเด็ดขาดนะเว๊ย” ผมย้ำ “ห้าโมงเย็นวันเสาร์นะ ตั้ม”
“ไม่ลืมหรอก ลืมได้ไง นัดกับเพื่อนคนสำคัญนี่นา แล้ววันนั้นไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะ” ตั้ม ยิ้มออกมาทั้งใบหน้า ทั้งดวงตา
... โอ๊ย วันเสาร์ อีกตั้ง ๓ วัน เอาหน่อยเหอะวะ ... คิดแล้วผมก็ดึงตัว ตั้ม มากอดแรงๆ ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองดูอยู่บ้างหรือเปล่า
“โอ๊ย ปอ ทำแบบนี้อีกแล้ว อึดอัดอะ” ตั้ม โวยวาย แต่ไม่ดิ้นรน มีเพียงอาการขยับตัวเล็กน้อย พอให้คนที่กอดอยู่รู้สึกว่า ตั้ม อึดอัดเพราะแรงกอดเท่านั้นเอง ผมเลยผ่อนแรงลงเล็กน้อย ตั้ม เองก็ปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจกับเสียงหัวเราะเบาๆ หรือสายตาของเพื่อนบางคนที่มองมาทางพวกเรา
“ปอ” ตั้ม เรียกเบาๆ
“อะไรวะ กำลังดีเลย” ผมกำลังเคลิ้ม ขยับมือลูบไหล่ ตั้ม เบาๆ
“อย่าให้เรารอเก้อนะ” ตั้ม พูดแล้วก็ซบหน้ามาที่ไหล่ของผม
“มึงก็อย่าเล่นซ่อนหากับกูอีกนะ กูเหนื่อย” ผมตอบไป พลางเอามือลูบหัว ตั้ม เบาๆ
......................................................................
...............................
“ไอ้ตั้ม อย่าลืมนะเว๊ย คืนนี้ที่บ้านไอ้นึก” โอ ตะโกนตามหลังผม ที่วิ่งลงจากตึกด้วยความรีบร้อน
“อื้อ เราไปช้าหน่อยนะ บาย” ผมตะโกนตอบไป

หลังสอบที่สถาบันเสร็จ ผมก็รีบกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมกระเป๋าที่จะไปงานเลี้ยงเล็กๆ ที่เพื่อนๆประมาณ ๑๐ กว่าคนจัดกันขึ้นเอง เหมือนเป็นการฉลองที่สอบเสร็จ งานนี้จัดที่บ้านของ นึก และมีเพื่อนหลายคน กว่าผมจะไปถึง ก็เกือบ ๒ ทุ่มแล้ว งานเลี้ยงไม่มีอะไรมาก มีกินอาหาร ปิ้งบาร์บีคิว เล่นกีตาร์ ร้องเพลง พูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนเวลาประมาณเที่ยงคืน เพื่อนๆบางคนก็ทะยอยกลับกันไปบ้างแล้ว เหลือกันไม่กี่คนที่จะอยู่ค้างคืน  เพราะกลับบ้านลำบาก รวมทั้งผมอีกคนหนึ่งด้วย

พวกเราช่วยกันเก็บจานชามต่างๆให้เรียบร้อย แล้วพากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเข้านอน ที่นอนก็ไม่มีอะไรมาก เด็กผู้ชายกันทั้งนั้น นึกแจกหมอนคนละใบ ให้จับจองที่กันเองบนฟูกที่ปูยาวอยู่ในห้องนอนของ นึก ผมเลือกที่ริมสุด ติดผนัง ถัดมาเป็น วัฒน์ และ หมู ส่วน นึง และ เชียร นอนบนเตียงกว้างๆกับ นึก
“ตั้ม มานอนบนเตียงดีกว่ามั๊ย” เชียร ถาม
“ไม่เป็นไร เรานอนนี่แหละดีแล้ว” ผมตอบยิ้มๆ “แต่ขอผ้าห่มเราหน่อยสิ เราไม่ถูกกับแอร์” ผมร้องขอ เพราะรู้สึกหนาวนิดๆ กับความเย็นของแอร์ในห้อง นึงหยิบผ้าห่มหนาๆผืนหนึ่งโยนมาให้ผม
“ไม่ต้องก็ได้มั๊ง มานอนตรงกลางสิ เดี๋ยวเรากับหมูจะกอดให้หายหนาว” วัฒน์ พูดยิ้มๆ
“แบร่” ผมแลบลิ้นใส่ วัฒน์หัวเราะพลางเอามือมาขยี้หัวผม
“เฮ๊ย ไอ้นึก พวงกุญแจนี่ยังอยู่อีกเหรอวะ” เชียร พูดเมื่อนึกเดินเข้ามาในห้อง พลางหยิบพวงกุญแจอันหนึ่งจากหัวเตียง ขึ้นมาแกว่งไปมา
“ยุ่งกับของกู เอามานี่” นึก คว้าพวงกุญแจเรซิ่นไปจากมือ เชียร เดินไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะหนังสือ แล้วหย่อนพวงกุญแจลงไป แล้วปิดลิ้นชักลง
“ตั้ม ไม่มานอนบนเตียงล่ะ” นึก ถามพลางเดินมานั่งที่ขอบเตียง
“ตรงนี้ก็นอนได้ ไม่เป็นไรหรอก” ผมตอบเบาๆ พลางก้มหน้าหลบสายตาที่มองมา
“ดึกแล้วนอนเหอะ” นึก บอก แล้วพวกเราก็ล้มตัวลงไปบนที่นอนของตัวเอง นึกเดินไปปิดไฟ แล้วทั้งห้องก็หลงเหลือเพียงเสียงเบาๆของเครื่องปรับอากาศ ที่ทำงานอยู่

ผ่านไปนานพอสมควร ผมยังนอนไม่หลับเพราะความแปลกที่ ผมเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงต้นคอ เพราะความเย็นของเครื่องปรับอากาศ พลางขยับตัวจากท่านอนหงาย เป็นท่านอนตะแคงหันหน้าไปทางผนังห้อง แล้วขยับตัวเอาหน้าผากไปแตะกับผนังห้องตามความเคยชิน เพราะเวลาอยู่ที่บ้าน ผมมักเอาหน้าผากแตะไว้ที่หมอนอีกใบหนึ่ง สักพักผมได้ยินเสียงเหมือนมีคนลุกจากที่นอน เดินมายังกลุ่มพวกผมที่นอนอยู่บนพื้น สักพัก วัฒน์ ที่นอนอยู่ข้างๆผมก็ลุกขึ้น เหมือนกับไปคุยกับคนคนนั้นเบาๆ แล้วทั้งสองคนก็กลับไปยังที่นอนของตน

แล้วผมก็รู้สึกว่า วัฒน์ ขยับตัวมานอนบนหมอนใบเดียวกับผม ซุกตัวเข้ามาในผ้าห่ม พลางเอาแขนข้างหนึ่งโอบกอดผมจากทางด้านหลัง เอามือมาจับมือผมไว้ ส่วนแขนอีกข้างหนึ่งสอดเข้ามาใต้ศรีษะ แล้วโอบกอดลำคอผม
“วัฒน์ ทำอะไรอ๊ะ” ผมพูดเบาๆอย่างตกใจ
“ตั้ม” เสียงที่เรียกชื่อผม ทำเอาผมแทบหยุดหายใจ

 ... นึก ...

เมื่อเห็นผมเงียบไป นึก ใช้แขนที่โอบเอวผมอยู่รั้งตัวผมเข้าหา จนแผ่นหลังของผมแนบติดกับแผ่นอก เปลี่ยนเอามือของผมที่จับไว้ไปไว้ในมือที่โอบคอผมอยู่ มือที่โอบเอวเลื่อนมาจับที่แก้ม สักพักนิ้วโป้งบนแก้มของผม เริ่มขยับลูบวนไปมา แล้วเลื่อนมาลูบวนที่ริมฝีปากของผม ใบหน้าที่ซุกอยู่ที่ลำคอ ทำให้ผมรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารด ตัวของผมเริ่มสั่นเทา ลมหายใจเริ่มติดขัด
“ไม่ต้องกลัวนะ ตั้ม เราไม่ทำอะไรหรอก แต่เราขออยู่แบบนี้จนเช้าได้มั๊ย” เสียงกระซิบเบาๆที่หู
ผมไม่ได้ตอบ ได้แต่บีบมือที่กุมมือผมอยู่นั้นอย่างแผ่วเบา
......................................................................
...............................
ผมมาถึงก่อนเวลานัดประมาณครึ่งชั่วโมง ยืนลังเลอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะผมลืมถาม ตั้ม ว่า จะให้ผมไปหาตัวได้ที่จุดไหนในสถาบัน เพราะผมมองดูแล้วมีห้องมากมายเหลือเกิน จะให้ไปเดินหาทีละห้อง คงลำบากเหมือนกัน แล้วผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ตรงเคาเตอร์
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยมั๊ยค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวสวยถามผม
“เอ้อ คือผมมาหา ศิลปี น่ะครับ” ผมตอบอย่างลังเล คนตั้งมากมาย เค้าจะรู้ไหมว่าผมหมายถึงใคร
“หนูตั้ม เหรอค่ะ”เจ้าหน้าที่ถามกลับมายิ้มๆ
“ใช่ครับ ตั้ม น่ะครับ ไม่ทราบอยู่ที่ห้องไหนครับ” ผมรีบตอบ
“เอ วันนี้ยังไม่เห็นเลยนะคะ” เธอหยุดพูด พลางมองไปทางประตู เหมือนเห็นอะไรสักอย่าง “สักครู่นะค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม
“บุ๋ม น้องบุ๋ม” เธอเรียกเด็กหนุ่มตัวสูงที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน เด็กหนุ่มคนนั้นหันหน้าเดินมาที่เคาเตอร์
“อะไรครับพี่” คนชื่อ บุ๋ม ถามเจ้าหน้าที่
“คนนี้เค้ามาหา หนูตั้ม แน่ะ” เธอชี้มาที่ผม
“วันนี้ พี่ตั้ม ไม่มา” บุ๋ม บอกผมหลังจากที่นิ่งมองผมสักครู่
“ไม่มาได้ยังไง ก็นัดกันไว้” ผมลืมตัว พูดเสียงแข็งๆออกไป
“นัดไว้เหรอ” บุ๋ม มองผมกวนๆ
“ใช่ นัดว่าเดี๋ยวจะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” ผมจ้องหน้าตอบไป ... ทำไมรู้สึกเขม่นมันแบบนี้วะ...
“งั้นผมขอโทษแทนด้วย” บุ๋มตอบ
... เอ็งเป็นใครวะ มาขอโทษแทน ตั้ม มัน ... ผมยิ่งรู้สึกเขม่นคนคนนี้มากขึ้น
“พี่ตั้ม ไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล แล้วเดือนนี้คงไม่มา เพราะใกล้สอบเอ็นฯแล้ว”
“อ้าว พ่อมันเป็นอะไร” ผมถามด้วยความตกใจ
“ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ ต้องเข้าเรียน” แล้ว บุ๋ม ก็เดินเข้าไปด้านใน
“เอ้อ พี่ครับ จะติดต่อ ตั้ม ได้ยังไงครับ พอจะมีเบอร์โทรศัพท์ไหมครับ” ผมหันไปถามเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น
“ต้องขอโทษนะคะ ไม่มีเลยค่ะ เพราะปรกติเวลามีอะไร น้องเค้าจะโทรฯมาบอกเองค่ะ แล้วอย่างที่ บุ๋ม บอก น้องเค้าลาเรียนไว้ ๒ เดือน แต่วันธรรมดาอาจจะมาซ้อมบ้างนะคะ”
“วันไหนครับ ตั้ม จะมาซ้อมวันไหนบ้างครับ” ผมรีบถาม
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะทางเราไม่ได้ฟิคเวลา ไว้เดี๋ยวถ้าพี่เจอ พี่จะบอกให้แล้วกันนะค่ะ ว่ามีคนมาหา”
“ขอบคุณครับ” ผมตอบเธอเบาๆ แล้วก็เดินออกมา

ผมกลับบ้านด้วยความเซ็งสุดขีด ในหัวของผมคิดวนไปวนมา ผมจะทำอย่างไรดีถึงจะได้เจอ ตั้ม อีก จะไปหาที่บ้าน ผมก็จำทางไม่ค่อยได้ บ้านมันไกลเหลือเกิน นั่งรถไม่รู้กี่ต่อ นี่ผมหมดโอกาสแล้วหรือ
ความรักของผม จะต้องจบลงแบบนี้หรือไร
“ปอเอ๊ย มีคนโทรมาหาตั้งแต่เมื่อคืนแน่ะ ว่าจะบอกตั้งแต่เช้าแล้วบอกไม่ทัน อ่านดูที่แม่เขียนโน้ตไว้ข้างโทรศัพท์นะ” แม่ตะโกนบอกเมื่อผมเดินเข้าบ้าน
“ครับ แม่” ผมตอบแล้วเดินไปหาโทรศัพท์ ... ใครโทรมาวะ ... ผมหยิบกระดาษมาอ่านดู

... พ่อเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน พรุ่งนี้ไปตามนัดไม่ได้ ขอโทษด้วย จากตั้ม ... แม่ลงเวลาไว้ ๒๒.๓๐น. ของเมื่อวานนี้

ผมอ่านข้อความบนกระดาษซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ พลางนึกแปลกใจว่า ตั้ม เอาเบอร์โทรศัพท์ของบ้านผมมาจากไหน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2008 13:16:41 โดย บุหรง »

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :m4:  ดีใจจัง ได้อ่านอีกตอน
เด๋ว น้องตั้มเข้ามาอัพอีกป่ะ จะได้คอยเข้ามาดูเป็นระยะ 


แต่หมั่นไส้นึกอ่ะ    o12  ได้ข่าวว่ามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ
ยังทำเนียนมานอนกอดน้องตั้มนะ    :m16:
 :เฮ้อ: แล้วน้องตั้มก็เป็นใจด้วยเนี่ยสิ

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เบื่อค่า  แต่ที่ถามเพราะว่า อยากรู้ว่ามันมีจนจบม.6หรือว่าเข้ามหาลัย หรือปัจจุบัน ประมาณเนี้ยอ่า

 :o แล้วตั้มไปเอาเบอร์จากไหนอ่า

ที่สำคัญ  ตั้มคิดไงกับปอเนี่ย แล้วก้นึกด้วย  ชักหงุดหงิดกับตั้มแล้วน้า  ทำตัวแปลกๆๆ 55

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
:m4:  ดีใจจัง ได้อ่านอีกตอน
เด๋ว น้องตั้มเข้ามาอัพอีกป่ะ จะได้คอยเข้ามาดูเป็นระยะ 


แต่หมั่นไส้นึกอ่ะ    o12  ได้ข่าวว่ามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ
ยังทำเนียนมานอนกอดน้องตั้มนะ    :m16:
 :เฮ้อ: แล้วน้องตั้มก็เป็นใจด้วยเนี่ยสิ
เง้อ ...   :o7: ตั้ม แค่เห็นใจอะค๊าบ ม่ายได้เป็นใจ ถ้าเป็นใจนะ หันหน้าหาแล้ว  :laugh3:
เพราะเหตุผลที่ นึก บอกกับ ตั้ม (แต่ไม่ได้เขียนไว้) มันก็พอจะรับฟังได้  :o211:
ไม่ได้เบื่อค่า  แต่ที่ถามเพราะว่า อยากรู้ว่ามันมีจนจบม.6หรือว่าเข้ามหาลัย หรือปัจจุบัน ประมาณเนี้ยอ่า

 :o แล้วตั้มไปเอาเบอร์จากไหนอ่า

ที่สำคัญ  ตั้มคิดไงกับปอเนี่ย แล้วก้นึกด้วย  ชักหงุดหงิดกับตั้มแล้วน้า  ทำตัวแปลกๆๆ 55
อ๋อ... เดี๋ยวช่วงเรียนมหาวิทยาลัยจะเขียนแค่ ๒ ตอนค๊าบ
แล้วเรื่องคงจบลงหลังจากที่ ตั้ม เรียนจบประมาณปีนึงน่ะครับ   o8
สำหรับนึก แหม มันน่าจะชัด...มะอยากพูด เขิล  :-[
ส่วน ปอ ช่วงนี้คงสับสนกันหน่อย แต่คงมีบางคนเอะใจกันบ้างนะครับ กับตัวละครบางตัวว่าทำไมผมเขียนถึงบ่อยนัก  :undecided:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2008 18:00:24 โดย บุหรง »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๗๐ เอนทรานซ์

แล้วการสอบเอนทรานซ์ก็มาถึง ผมวุ่นวายนิดหน่อย เพราะในวันสอบวันแรกตรงกับวันลงทะเบียนเรียนคอร์สปรับพี้นฐาน ของวิทยาลัยเอกชนที่ผมสอบเข้าได้ ทำให้ผมเกือบไปไม่ทันในวันสอบวันแรก

“ตั้ม ทางนี้โว๊ย” ดม เรียกผม เมื่อผมเดินออกมาจากตึกที่เป็นห้องสอบ ผมเดินตรงไปหาเพื่อนๆที่รวมกลุ่มกันอยู่ตรงโต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่ ริมสนามบอลของมหาวิทยาลัยที่เป็นสนามสอบ
“ออกจากห้องสอบกันไวจัง” ผมยิ้มให้เพื่อนๆ วันนี้ผมออกจากห้องสอบช้ากว่าเพื่อนๆ ทั้งๆที่การสอบที่ผ่านมาในโรงเรียน บางวิชาผมออกจากห้องสอบเป็นคนแรกด้วยซ้ำไป
“เอ็งนั่นแหละ ออกมาช้า ทำอะไรกันมากมายวะ” โอ พูดยิ้มๆ
“อื้อ ช้าจริงๆแหละ ต้องระวังหน่อยสิ ไม่ใช่สอบที่โรงเรียนนี่นา” ผมหันไปตอบ “จริงสิ ที่สอบทฤษฎีดนตรีอยู่ที่ไหนอะ เราไปไม่ถูก เย็นนี้พาเราไปดูที่สอบหน่อยดิ๊” ผมหันไปหา ธง กับ ตี๋ ที่จะสอบวิชานี้ด้วยกัน
“แถวนี้แหละ ไม่ต้องไปดูหรอก ไว้ไปด้วยกันวันสอบ” ธง ตอบ ผมก็รับคำไป แล้วพวกเราก็เดินไปยังโรงอาหารเพื่อหาข้าวกลางวันกินกัน
..............................................................................................
..........................................
“เดี๋ยวมาเจอกันตอน ๑๑ โมงนะ กินข้าวกันก่อนแล้วไปพร้อมกัน” ธง กับ ตี๋ พูดย้ำก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องสอบในช่วงเช้า ส่วนตอนบ่ายจะเป็นการสอบวิชาทฤษฎีดนตรี

ผมออกจากห้องสอบประมาณ ๑๐.๔๐ แล้วมานั่งรอเพื่อนๆ ที่โต๊ะตัวเดิม เมื่อมาถึงโต๊ะ ไม่มีใครเลยสักคน ผมก็นั่งรอไป เพราะคิดว่าคงยังไม่มีใครออกมาจากห้องสอบ
๑๑.๐๐
๑๑.๓๐
๑๒.๐๐
๑๒.๓๐
ผมเริ่มกระวนกระวาย มันผิดปรกติเกินไป หมดเวลาสอบไปนานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครออกมาจากห้องสอบเลย
๑๓.๐๐
ถึงเวลาสอบทฤษฎีดนตรีแล้ว แต่ผมยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
๑๖.๐๐
หมดเวลาสอบ ผมก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน
๑๙.๐๐
ฟ้ามืดแล้ว ผมลุกจากโต๊ะ เดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้ๆ ผมหยอดเหรียญ มือหมุนหมายเลขที่ผมจำได้
“สวัสดีค๊าบ ขอสาย วัฒน์ ค๊าบ” เสียงจากอีกฟากบอกให้ผมรอสักครู่
“วัฒน์ เหรอ ตั้ม เองนะ” ผมเว้นระยะเพราะวัฒน์ พูดตอบมา “เมื่อกลางวันหายไปไหนกันหมดอะ” ผมถามต่อ พลางนิ่งฟังที่ วัฒน์ พูด
“แล้ว ธง กับ ตี๋ ไปด้วยเหรอ” ผมรอคำตอบ “อยู่ที่มหาวิทยาลัยนี่แหละ” ผมตอบเพราะ วัฒน์ ถามว่าผมโทรไปจากที่ไหน
ผมได้ยินเสียง วัฒน์ อุทานอย่างตกใจและถามว่า ผมยังทำอะไรอยู่ที่นี่ ผมไม่อยากโกหกเพื่อน จึงเลี่ยงที่จะไม่ตอบ
“เอ้อ งั้นแค่นี้นะ เราจะกลับบ้านแล้ว บาย” ผมวางหูโทรศัพท์ น้ำตาผมเริ่มไหล

จากคำตอบที่ผมถาม เพื่อนๆออกจากห้องสอบกันครบประมาณเวลา ๑๐.๓๐ แล้วพากันไปกินข้าวกลางวันนอกมหาวิทยาลัย ไม่มีใครรอผมสักคน รวมทั้ง ธง กับ ตี๋ หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ทั้งสองคนก็แยกตัวนั่งรถตุ๊กตุ๊ก ไปยังสถานที่สอบอีกที่หนึ่ง มันมักเป็นแบบนี้เสมอ เพื่อนๆมักนัดกันไปไหนสักแห่งโดยไม่มีผม หรือมักเปลี่ยนสถานที่นัดโดยไม่บอกผม

สรุปคือ นี่เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ผมโดนเพื่อนๆทิ้ง
..............................................................................................
..........................................
“ตั้ม ไม่มาหรอกวันนี้ ” หมู ตอบเมื่อ ปอ ถามถึง ตั้ม
วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบเอนทรานซ์ หลายๆกลุ่มจึงนัดมาเจอกันที่โรงเรียน ก่อนจะไปยังสถานที่ประกาศผลพร้อมๆกัน
“ทำไมวะ แล้วมันจะไปกับใคร” ปอ ถาม
“ก็ ศิลปี ไม่ได้ไปสอบ ๒ วิชา แบบนี้สอบไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว ก็เลยไม่ไป” วัฒน์ บอกพลางถอนหายใจ
“วิชาอะไรวะ แล้วทำไมมันไม่ไปสอบ” ปอ ถามอย่างตกใจ
“ตั้ม ไปสนามสอบวิชาทฤษฎีดนตรีไม่ถูก ก็เลยไม่ไปสอบปฏิบัติด้วย” หมูบอก
“อ้าว ไหงยังงั้นวะ ไปไม่ถูก ทำไมไม่ถามพวก ธง กับ ตี๋ มันล่ะ” ปอ อารมณ์เสีย
“เอ้อ เราก็ไม่รู้รายละเอียดนะ รู้แต่ว่าไม่ได้ไปสอบแค่นั้นแหละ” วัฒน์ ตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนี่ง
“นั่นไง มันมากันพอดี” ปอ พูดพลางเดินไปหา ตี๋ ที่เดินเข้าโรงเรียนมา วัฒน์ กับ หมู ก็เดินตามไปด้วย
“ตี๋ ทำไม ไอ้ตั้ม มันไม่ไปสอบทฤษฎีดนตรีวะ” ปอ ถามทันที
“เอ้อ... กูก็ไม่รู้” ตี๋ ตอบอ้อมแอ้ม
“แต่เราได้ยินนาย กับ ธง บอกให้ ตั้ม คอย จะได้ไปพร้อมกันนี่นา” หมู ถามบ้าง
“ก็พวกเราทำข้อสอบเสร็จเร็ว ก็เลยไปกินข้าวกับพวก ดม มัน” ตี๋ตอบ “ก็มันตั้งเกือบชั่วโมงนี่หว่า กว่าจะถึงเวลานัดน่ะ ขี้เกียจรอมัน”
“อ้าว ทำไมนายทำแบบนั้นล่ะ แล้วไปนัด ศิลปี ทำไม” วัฒน์ พูดอย่างตกใจ
“ก็ถ้ามันไม่เจอพวกเรา มันก็น่าจะถามคนอื่น แล้วไปเองได้นี่” ตี๋ พูด
“จะบ้าเหรอไง” วัฒน์ พูดเสียงดัง ปรกติ วัฒน์จะสุภาพกับเพื่อนๆเสมอ คราวนี้แปลว่าโกรธมากๆ  “ ทำยังกับไม่รู้นิสัยกัน เรียนด้วยกันมาตั้ง ๓ ปีแล้วนะ เรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้ เห็นแบบนั้นก็เถอะ เวลาอยู่คนเดียว ศิลปี กลัวคนแปลกหน้า ไม่เข้าไปถามอะไรใครหรอก แล้วนี่นายรู้รึเปล่า ศิลปี รอพวกนายถึงกี่โมง” วัฒน์ พูดอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห
“คงไม่นานมั๊ง เพราะสอบบ่ายนี่ ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมมันไม่ไปสอบ” ตี๋ พูดอย่างไม่คิดอะไร
“นายจำที่พวกนายนัด ศิลปี ไปติววิชาดนตรีได้รึเปล่า ตอนนั้น ศิลปี รอพวกนายกี่ชั่วโมง แล้วตอนที่พวกนายจะให้พาไปหาโน้ตเพลงที่สถาบัน แต่พวกนายไม่มาตามนัด ศิลปี รอนายกี่ชั่วโมง” วัฒน์ รู้เพราะทั้งสองครั้ง วัฒน์ กับ หมู มาทำรายงานกับเพื่อนๆที่โรงเรียนพอดี

ยังจำได้ว่า ตั้ม รอทั้งสองคนจนเย็น ตอนกลางวันเขาต้องพูดเกลี้ยกล่อมให้ ตั้ม ไปกินข้าวอยู่นาน โดยรับปากว่าจะคอยดูคนทั้งสองให้ หากทั้งสองคนเข้ามาในโรงเรียน

“เฮ๊ย ไม่มั๊ง นี่มันสอบเอนทรานซ์นะเว๊ย สำคัญขนาดนี้ มันจะรอจนไม่ไปสอบเหรอไง” ตี๋ ตกใจ เพราะเขาเองยังจำเรื่องนั้นได้ดี
“ตั้ม รอพวกนายจนถึงทุ่มนึง” หมู ตอบแทน วัฒน์
“อะไรนะ มันรอถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” ตี๋ ยิ่งตกใจมากขึ้น  “นายรู้ได้ยังไง”
“ศิลปี โทรหาเราคืนวันนั้น ถามว่าพวกนายหายไปไหนกันหมด เราว่า ศิลปี รอพวกนายตั้งแต่เวลานัด จนถึงตอนที่โทรมาหาเรา” วัฒน์ ตอบช้าๆ พลางจ้องหน้า ตี๋ นิ่ง “เราว่า ข้าวกลางวันก็ไม่ได้ไปกิน ศิลปี คงนั่งรอพวกนายไม่ได้ไปไหนเลย เพราะกลัวว่าถ้าพวกนายมาถึงจะไม่เจอ”
“พวกมึงทำแบบนี้กันได้ยังไงวะ” ปอ พูดด้วยความโมโห “ไอ้ตั้ม ก็เหลือเกิน โดนหลอกให้รอหลายทีแล้วยังไม่เข็ด”
“ปอ พูดแบบนี้เหมือนไม่เข้าใจ ศิลปี เลยนะ” วัฒน์ พูดพลางมองผมอย่างตำหนิ “เรานึกว่า นายจะเป็นคนที่เข้าใจ ศิลปี ที่สุดซะอีก”

ปอ รู้สึกเหมือนตัวเองถูกตบหน้า เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำไมเขาจะไม่เข้าใจล่ะ
ก็อย่างที่ วัฒน์ พูด เขาควรจะเข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุด เพราะเขาทำเรื่องทำนองเดียวกันนี้มาแล้วหลายหน แต่ ตั้ม ก็อภัยให้เขาเสมอ ไม่เคยแม้แต่พูดถึงเรื่องเหล่านั้นสักครั้ง

สำหรับ ตั้ม เพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ ... สำคัญยิ่งกว่าการสอบเอนทรานซ์เสียอีก
..............................................................................................
..........................................
“ดีใจด้วยหว่ะ พวกเอ็งสอบติดที่เดียวกัน” ปอ หันไปยินดีกับ วัฒน์ และ หมู
“ปอ ไม่ต้องเสียใจนะ ยังมีที่เรียนอีกเยอะ แล้วถ้าอยากสอบใหม่ ปีหน้ายังมีโอกาส” วัฒน์ พูด “แต่น่าเสียดายนะ ศิลปี สอบไม่ติดจริงๆด้วย”
“เออ พวกเอ็งไปบ้าน ตั้ม มันถูกรึเปล่าวะ” ปอ ถามอย่างกระตือรือร้น
“ทำไมเหรอ” หมู ถามอย่างสงสัย
“กูอยากไปหามันที่บ้าน นะ ช่วยพากูไปหน่อย” ปอ มองอย่างอ้อนวอน
“พาไปน่ะได้อยู่หรอก แต่จะไม่เจอน่ะสิ” วัฒน์ ตอบยิ้มๆ
“อ้าว ทำไมวะ มันไปไหนล่ะ” ปอ ถามอย่างสงสัย
“ก็ช่วงนี้ที่วิทยาลัย ตั้ม มีเรียนไง ออกจากบ้านแต่เช้า กว่าจะกลับบ้านก็ดึก บ้านอยู่คนละมุมเมืองกับวิทยาลัยแบบนั้น” หมู  ตอบ
“เหรอวะ สงสัยกูต้องตัดใจซะแล้วเหรอวะ” ปอ พูดเศร้าๆ
“ปอ อย่าเพิ่งท้อสิ  ยังไงคงต้องได้เจอกันอีก เดี๋ยวถ้า ศิลปี โทรหาพวกเรา จะบอกให้ว่านายเป็นห่วง แล้วให้โทรหานายบ้าง” วัฒน์ ให้กำลังใจ

ทำไม วัฒน์ กับ หมู จะไม่รู้ ว่า ปอ รู้สึกกับ ตั้ม อย่างไร ไม่เพียงแค่เขาสองคนเท่านั้น แต่เพื่อนๆทั้งห้อง เหมือนจะรู้และเข้าใจกันหมด ยกเว้น ตั้ม ที่ทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

คิดขึ้นมาได้ วัฒน์ ก็ต้องถอนหายใจยาว
เรื่องของ นึก กับ ตั้ม คงจบไปได้ในคืนนั้น ทั้งสองคนทำความเข้าใจกันไปแล้ว
แต่เรื่องของ ตั้ม กับ ปอ เขายังนึกไม่ออกเลยว่าจะลงเอยเมื่อไร และอย่างไร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2008 21:28:47 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อ่านแล้วนึกถึงตอนแรกขึ้นมาได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับปอรึเปล่าคะ
เรื่องคงไม่เศร้าขนาดนั้นมั๊ง อย่าเลยนะ

ปล. รักตั้มกับปอและเพื่อนๆทุกคน ยกเว้น เจ้านึก :เตะ1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
อ่านแล้วนึกถึงตอนแรกขึ้นมาได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับปอรึเปล่าคะ
เรื่องคงไม่เศร้าขนาดนั้นมั๊ง อย่าเลยนะ

ปล. รักตั้มกับปอและเพื่อนๆทุกคน ยกเว้น เจ้านึก :เตะ1:
อยากบอกหลายๆคนว่า อย่าเกลียด นึก เลยค๊าบ เพราะความจริง เขาก็ห่วง ตั้ม เหมือนกัน ไม่เชื่อลองย้อนอ่านไปหลายๆตอนดูสิครับ  :try2:
บางครั้งอาจจะแสดงออกเกินไปบ้างก็ตาม ลองคิดสิครับ ถ้าเป็นคนอื่น ตั้ม คงจะ เรียบร้อยโรงเรียนนึก ไปนานแล้ว ไม่ปล่อยไว้แบบนั้นหรอก.... จริงมะ  :laugh3:

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
เข้ามากด + ให้น้องตั้มคนขยันนนน

แง๊ๆๆๆ

เป็นห่วงปอจังเลยยย


 :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
วันเสาร์ผมคงมาอัฟเดทให้ช่วงกลางคืนนะครับ เพราะตอ้งออกไปทำงาน แล้ววันอาทิตย์คงต้องของด ๑ วัน เพราะไปต่างจังหวัด กลับวันจันทร์ ซึ่งยังไม่ทราบเวลา อาจจะมาอัฟเดทวันจันทร์ดึกๆ หรือเช้าวันอังคาร  o1

มีใครอยากรู้บ้างไหมครับ ว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน นึก ทำให้ วัฒน์ คิดแบบนั้น ถ้ามี เดี๋ยวผมลงเป็นตอนพิเศษให้ครับ เพราะเนื้อเรื่องหลักผมเขียนจบแล้ว แต่ขอทยอยลงนะครับ  :haun5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2008 06:28:45 โดย บุหรง »

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านค่า

ปล. ตั้ม เชียรืนึกออกนอกหน้าเลยอ่า อิอิ เชียปอน้า  สู้ๆๆ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  เจอเพื่อนแบบธงกะตี๋นี่ นับเป็นคราวเคราะห์ของตั้มนะ
มัน2คน (ขอเรียกแบบนี้แหล่ะ น้องตั้มอย่าเพิ่งโกรธนะ) จะรู้สึกผิดบ้างไม๊เนี่ย
แต่น้องตั้มก็นะ   o12 นั่งรออยู่ได้ ซื่อจริงจิ๊ง 
 :L1:    :L1:
ช่วงนี้ น้องตั้มเข้าข้างนึกแบบออกนอกหน้ามากเลยนะ    :m14:
พระเอกตัวจริงคงเป็นนึกแน่แล้วสิเนี่ย    :seng2ped:
 :m15: สงสารปอ
แต่ว่า   :m1:  น้องตั้มเหมียลเดิม


ไหนๆนึกก็เป็นพระเอกละ   :m12:
น้องตั้มเล่าเรื่องคืนนั้นที่ตกเป็นของนึกด่วนนนนน   :o8:
 :laugh:  เอาละเอียดๆเลยนะ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
กรี๊ดเจ้าค่ะ!!ตกลงนึกเป็นพระเอกจริงง่ะ :serius2:
สงสารปออ่ะ :sad2:
ว่าแต่....ตั้มเข้าข้างนึกจริงๆน๊า!!น่าหมั่นใส้ เชอะ!!!!(ล้อเล่นน๊า)
ยังคงหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องขึ้นกับปอนะคะ กลัวจัง......

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
อยากอ่านค่า

ปล. ตั้ม เชียรืนึกออกนอกหน้าเลยอ่า อิอิ เชียปอน้า  สู้ๆๆ

ช่วงนี้ น้องตั้มเข้าข้างนึกแบบออกนอกหน้ามากเลยนะ    :m14:
พระเอกตัวจริงคงเป็นนึกแน่แล้วสิเนี่ย    :seng2ped:
 :m15: สงสารปอ
กรี๊ดเจ้าค่ะ!!ตกลงนึกเป็นพระเอกจริงง่ะ :serius2:
สงสารปออ่ะ :sad2:
ว่าแต่....ตั้มเข้าข้างนึกจริงๆน๊า!!น่าหมั่นใส้ เชอะ!!!!(ล้อเล่นน๊า)
ยังคงหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องขึ้นกับปอนะคะ กลัวจัง......
หง่ะ  :o แค่บอกว่าอย่าเกลียด นึก เลย กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้ว
คือ อยากจะบอกว่า แต่ละคนทำอะไร เค้าก็มีเหตุผล มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีนัก ในมุมมองของเรา แต่ก็นับว่า มันเป็นเหตุผล.... งง มะค๊าบ ผมยัง งง เลย  :confuse:
อย่างเพื่อนๆที่นัดกันไปไหน แล้วไม่ยอมบอก หรือพอ ตั้ม จะไปด้วย ก็พากันย้ายที่นัด บอกสั้นๆนะครับ เค้าจะไปเที่ยวกันแบบผู้ชาย แต่ ตั้ม น่ะ ผู้หญิง ห้ามไป  :freeze: อันนี้เรื่องจริงครับ เพื่อนบอกผมหลังจากงานรับปริญญาไม่นาน

เดี๋ยวผมขอตรวจตอนพิเศษก่อนแล้วกัน รีบเอามาลงก่อนจะเข้าใจผิดมากกว่านี้
่ว่าแต่คิดได้ยังไงเนี่ย อันนี้

น้องตั้มเล่าเรื่องคืนนั้นที่ตกเป็นของนึกด่วนนนนน   :o8:
 :laugh:  เอาละเอียดๆเลยนะ


 :sad3: :sad3: :sad3:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 :m4:เนี่ยแหละอีกอย่างที่เราชอบ ตั้ม คอยตอบคำถามหรือความรู้สึกของผู้อ่านน่ารักจริงๆ :กอด1:
เป็นอันว่าเข้าใจแล้วจ้า เรื่องนึก จะไม่เกลียดนึกแล้วจ้า
รอตอนพิเศษนะคะ :bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด