http://media.imeem.com/m/u6G4PRo5P3/aus=false/๔๓ ละครวันซ้อมใหญ่
“ปอ มาแล้วเหรอ เอ้านี่สูจิบัตร รีบเข้าไปนั่งเลย ตั๋วพวกนายมีเลขที่นั่งด้วย แถวที่สามนะ” ตุ่ม บอกผมพลางยื่นสูจิบัตรละครเล่มบางๆให้พวกผมคนละเล่ม ครูจันทร์ เป็นครูที่ปรึกษาคนหนึ่งของห้อง ๔/๙ นักเรียนในห้องจึงต้องมาช่วยงานในห้องประชุม
“เฮ้ย แล้วไอ้ตั้ม มันเล่นเป็นตัวอะไรวะ” ผมถาม
“เข้าไปก่อน แล้วอ่านดูในสูจิบัตรแล้วกันหว่ะ” ตุ่ม มันตอบยิ้มๆ พลางยักคิ้วให้ผมอย่างมีเลศนัย “เข้าไปก่อน ยืนนี่เกะกะ ชิ่วๆ” ตุ่มพูดพลางโบกมือไล่ แล้วหัวเราะเบาๆ
พวกผม ๓ คนจึงได้เดินเข้าห้องประชุมไป พอเข้าไปก็มองไปที่ตั๋ว เห็นมีเลขที่นั่งเขียนอยู่บนมุมบนด้านขวา
“C-15 มันอยู่ตรงไหนวะ” ผมหันไปถาม พล กับ นัส
“หน้าๆ” นัส บอก ...เออ กูรู้แล้วไอ้ตุ่มเพิ่งบอกตะกี้... ปอ นึกในใจ
พวกเราก็เลยเดินขึ้นไปด้านหน้าของหอประชุม เห็นมีตัวอักษรพร้อมตัวเลขติดอยู่ที่เก้าอี้ ผมเจอแล้ว แถว C แถวที่สามจากด้านหน้าเหมือนที่ ตุ่ม บอก พวกผมกำลังจะเดินเข้าไปนั่ง ก็มีนักเรียนห้อง ๔/๙ คนหนึ่งเข้ามาขอดูตั๋ว พอผมยื่นให้ ก็บอกพวกเราให้ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกลางๆแถว ที่มีหมายเลขติดอยู่
“นายเพื่อน ตั้ม ใช่รึเปล่าวะ ได้ที่นั่งดีซะด้วย ดูละครให้สนุกนะ” มันยิ้มให้พวกเราก่อนจะเดินไปดูแลที่นั่งให้คนที่ทยอยเดินเข้ามาในห้องประชุม ผมก็เลยนึกออก คนนี้เหมือนจะชื่อ เป็ด เป็นเพื่อนในห้อง ๓/๖ ที่ ตั้ม เคยเรียนด้วย
“ตั๋วฟรี ที่นั่งก็ดี” นัสพูดยิ้มๆ
“นั่นดิ เห็นขายตั๋วกันด้วย แต่ก็ยังมีคนเข้ามาดูกันเยอะนะเว๊ย” พล พูด
“เออ กูเห็นแล้ว พวกกระเทยกลุ่มนั้นแม่งกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ พระเอก พระรอง หล่อๆทั้งนั้นนี่หว่า” ผมพูดอย่างหมั่นไส้
“นางเอกก็ใช่ย่อยนะเว๊ย เห็นเค้าว่าทั้งสวย ทั้งน่ารัก” พล พูดยิ้มๆ
“แต่กูยังสงสัยอยู่เลยหว่ะ ไอ้ตั้ม มันเล่นเป็นตัวอะไรวะ” ผมพูดพลางทำท่าจะเปิดสูจิบัตรดู
“เฮ๊ย” เสียง นัส อุทาน พอหันไปมองก็เห็นมันดูในสูจิบัตรด้วยสีหน้าตกใจ
“อะไรของเอ็งวะ” ผม หันไปเอ็ดมัน
“ตั้ม”มันทำหน้าตื่นๆ เอามือชี้ไปบนสูจิบัตร ผมเลยชะโงกไปดู
“เฮ๊ย อะไรวะ” พล อุทาน
“เชี๊ย ล้อเล่นน่า” ผม แปลกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นชื่อนักแสดงในสูจิบัตร
เจ้าหญิงอันโดรเมดา นายศิลปี ********* นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔/๘.................................................................................
.......................................
( คลื่นกระทบฝั่ง )
... อันโดรเมดาสุดาวรรค์ ยิ่งกว่าชีวันเสน่หา
ขอเชิญสาวสวรรค์ขวัญฟ้า เปิดวิมานมองมาให้ชื่นใจ
ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์ ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ่
ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ ไม่เห็นโฉมประโลมใจก็มืดมน
อ้าดวงสุริย์ศรีของพี่เอ๋ย ขอเชิญเผยหน้าต่างนางอีกหน
ขอเชิญจันทร์แจ่มกระจ่างกลางสกล เยี่ยมให้พี่ยลเยือกอุรา...
( บังใบ )
...กามเทพหลอกลวงเสียบศรปักทรวงให้ห่วงหา
ให้รักแล้วใยมาริดรักลาแรมไกล
รักของข้าดั่งบัวบังใบบังมิให้ใครเห็น
คร่ำครวญหวนทุกเช้าเย็นตรอมตรม
สุดหักสุดหายหัวใจมิวายระทม
สุดตรอมสุดตรมใจยิ่งคิดยิ่งให้โหยหา
ตัองบังรักไว้ไม่กล้าบอกใคร
เย็นย่ำสุริยาตะวันจากลาพามืดมิด
โอ้ช่างเหมือนดวงจิตมิดมืดยามรักไกล
น้ำตาตกตามตะวันนึกแล้วหวั่นพรั่นใจ
อกเอ๋ยทำฉันใดเล่าเอย
คู่ชื่นคู่เชยรักร้างเลยแรมลายิ่งพาให้หนาวไฉน
ปองรักอย่างบัวบังใบต้องช้ำหัวใจเรื่อยมา....
( แขกสาหร่าย )
... ถ้าแม้นเลือกเกิดได้ตามใจพี่ จะไปพ้นที่นี้นั้นหาไม่
จะยืนชมขวัญตาผู้ยาใจ กว่าจะได้สวมกอดแม่ยอดรัก
ถ้าแม้นไม่เกรงใจบิดาเจ้า จะลักองค์นงเยาว์จากตำหนัก
นี่หากเกรงโฉมฉายจะขายพักตร์ จึงจำหักใจคอยดูถ้อยที ...
ร่างบางบนเวที ที่มีใบหน้าหวานๆ ผมสีทองยาวไปถึงกลางหลัง ในชุดวิวาห์สีขาวบริสุทธิ์ ทำให้นักเรียนหลายคนถึงกับเป่าปาก วี๊ดวิ้ว ชอบอกชอบใจ และปรบมือให้ดังสนั่น เมื่อจบการแสดงลง ผมยังตกใจและประทับใจ ตั้ม มันไม่หายตั้งแต่มันออกมาในฉากแรก บทเจ้าหญิงแสนสวย ที่ทั้งสวยงาม อ่อนหวาน จะยกแขน จะเดินเหิน ก็ดูนุ่มนวลไปทุกย่างก้าว ท่าทางที่เหมือนจะไร้เดียงสา แต่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบและความเสียสละ มันแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะนั่นแทบจะเป็นบุคลิกแท้ๆของมันอยู่แล้ว ท่าทางเขินอายในฉากที่พระเอกร้องเพลงบอกรัก ยิ่งทำให้คนดูปรบมือด้วยความพออกพอใจ เมื่อถึงบทที่ตัวเอกทั้งสองโอบกอดกัน ก็มีเสียงปรบมือและเสียงเป่าปากดังเป็นระยะ โดยเฉพาะเสียงกรี๊ดจากกลุ่มกระเทยประจำโรงเรียนเวลาที่พระเอกและพระรองทั้ง ๓ ออกแสดง ยิ่งดังเป็นพิเศษ
เสียงปรบมือยังคงดังอยู่ลั่นห้องประชุม ละครครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
.................................................................................
.......................................
“เหนื่อยมั๊ย น้องตั้ม” พี่ติ๊ก ถามผมหลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ
“ก็นิดหน่อยอะค๊าบ แต่ตื่นเต้นมากว่าอะ พี่ๆล่ะค๊าบ เหนื่อยกันแย่เลย” ผมตอบยิ้มๆ
“ตั้ม ทำได้ดีมากเลยนะวันนี้” พี่เอก พูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ ๒-๓ ที พี่วิทย์ก็เดินมามองผมยิ้มๆ
“ขอบคุณค๊าบบ” ผมยิ้มกว้าง
“นู๋ตั้ม ยังไงอีก ๓ วันที่เหลือก็ฝากด้วยนะ” พี่ไก่ กับ พี่วัน เดินเข้ามาบอกผมยิ้มๆ พี่ทั้ง ๒ คนปรกติจะว่าผมอยู่ตลอด วันนี้มายิ้มให้ผม ผมจึงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“พี่ๆต้องคอยช่วย ตั้ม ด้วยนะค๊าบ มีอะไรก็ช่วยบอกช่วยสอน ตั้ม ด้วย ตั้ม กลัวจะทำอะไรพลาดไปเหมือนกัน”ผมพูดยิ้มๆ
“ตั้ม พยายามขนาดนี้ ต้องทำได้ดีแน่ครับ” พี่วิทย์ พูดเบาๆ
“งั้น ๓ วันที่เหลือพวกเรามาพยายามด้วยกัน เพื่อละครของเรา” พี่ติ๊ก ยื่นมือออกมา
“เพื่อโรงเรียนของเรา” พี่เอก เอามือไปจับมือพี่ติ๊ก
“เพื่อ ครูจันทร์ ของพวกเรา” พี่วันบอก
พวกเราก็เอามือไปจับไว้ด้วยกัน แล้วร้อง เย้ ออกมาดังๆ
ครูจันทร์ ยืนมองอยู่ไม่ห่างจากพวกเด็กๆนัก ยิ้มด้วยความเอ็นดูและภาคภูมิใจในตัวนักเรียนทุกคนของครู