ชั่งใจ ครั้งที่ 10: ฟิฟตี้เฉด ออฟ ธาร[2]ถึงจะบอกธารว่าอย่าหนีหน้า เอาเข้าจริงๆ มันก็หนีหน้าผมอยู่ดีนั่นแหละ จนผมชักจะรำคาญละ ปล่อยๆ มันไป ไม่ไปตามตื๊ออะไรอย่างเดิมด้วยเหนื่อยหน่าย อีกอย่าง ช่วงนี้ผมมีพี่จอมดื้อมาดึงความน่าสนใจไปมากกว่าด้วย ก็เลยลืมๆ เด็กนั่นไประยะนึงก่อน เด็กนั่นก็ติดซ้อมวิ่งสำหรับการแข่งกีฬาที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้าด้วย เลยกลับหอค่อนข้างดึก เห็นว่าไม่ได้ลงแข่งแค่วิ่งร้อยเมตร แต่ลงแข่งวอลเลย์บอลซึ่งนำทีมโดยน้องมายด์อีกด้วย ที่ลงก็เพราะน้องมายด์อ้างว่าเอาไว้ใช้เป็นตัวล่อความสนใจตุ๊ดจากทีมอื่น
ก็นะ มันหล่อนี่นา ไปใส่ขาสั้นโชว์ขาอ่อนนิดๆ หน่อยๆ ใครเห็นก็ยอมให้ตบลูกวอลเลย์อัดหน้าแล้ว
และการที่ธารหายหน้าหายตาไปช่วงนี้ ผมก็เลยมีเวลาให้พี่จอมดื้อมากขึ้น กระนั้นพี่จอมดื้อก็ไม่มีเวลาให้ผมอยู่ดี ได้แต่โทรคุยจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่พี่จอมดื้อทนไม่ไหว โทรมาคะยั้นคะยอให้ผมไปหาที่ลานนมแทน
[คืนนี้เหนือมาหาพี่หน่อยสิ ไม่ได้เจอหน้าเป็นอาทิตย์แล้ว พี่จะลืมแล้วเนี่ยว่าหน้าตาคนที่พี่จีบเป็นยังไง]
โห อ้อนๆ อ้อนมาอย่างนี้ มีเหรอที่จะไม่ใจอ่อน โคตรอยากไปหาเลย แต่ว่า...
“เหนือก็อยากไปหาพี่ดื้อนะครับ แต่ช่วงนี้เหนือยุ่งๆ เรื่องงานกีฬา”
แกล้งอ้างไปงั้นแหละ ที่จริงคือไม่อยากไปตอนที่จอมแก่นมันไปช่วยงานที่ร้าน ประเด็นก็คือ เดี๋ยวมันรู้ว่าพี่จอมดื้อจีบผมแล้วเอาไปบอกธาร ผมก็ได้อดลวนลามเด็กนั่นกันพอดี เมื่อวานเพิ่งจะบอกชอบมันไปแหม็บๆ
พี่จอมดื้อได้ยินก็หัวเราะร่วน ก่อนสวนกลับมา
[ยุ่งอะไร พี่รู้จากไอ้แก่นแล้วว่าช่วงนี้เหนือว่าง กลับหอเร็วขนาดนี้ ไม่เรียกว่ายุ่งแล้ว”
ได้ยินแล้วผมก็ชะงักไป สงสัยไปถามจอมแก่นมาแน่ถึงได้รู้ว่าวันนี้ผมกลับหอเร็ว
ไม่รู้จะแถไปต่อยังไง พี่จอมดื้อก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
“ขนาดไอ้แก่นมันยังว่างเลย ขอพี่หยุดงานไปเที่ยวเตร่วันนึง เหนือก็ต้องว่างเหมือนกัน นะ มาหาพี่หน่อย พี่คิดถึง]
เดี๋ยวนะ... จอมแก่นหยุดงาน งั้นมันก็ไม่อยู่น่ะสิ... แบบนี้ก็ไปได้น่ะสิไอ้เหนือ!
“ช่วยไม่ได้ ถ้าพี่ดื้อคิดถึง เหนือไปหาก็ได้ครับ” เทอ้อยแม่งเลย เทแบบมีชั้นเชิง
พี่จอมดื้อส่งเสียงดัง ‘เยส’ มาให้ได้ยินนิดนึง ก่อนจะตบท้าย
[มาเร็วๆ นะ พี่รอ]
“ครับ ไปมืดหน่อยนะ มีเรื่องให้ทำน่ะครับ” ว่าแค่นั้นก็ตัดสายไป
แต่ใครว่าผมจะไปมืดล่ะ เรื่องอะไรให้ทำก็ไม่มี พูดไปงั้นให้ดูไม่กระเหี้ยนกระหือรืออยากไปหามาก แต่ที่ไหนได้ วางสายปุ๊บ ก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่มาที่นี่ ไม่เคยแต่งตัวจัดเต็มแบบนี้เลยเถอะ แต่งเสร็จก็รีบวิ่งมาเอารถที่ลานจอดรถใต้หอแล้วบึ่งไปหาพี่จอมดื้อทันที
มาถึงลานนมได้ พี่จอมดื้อก็แซวนิดหน่อยว่ามาไวกว่าที่คิด ผมก็เลยแกล้งบอกว่า...
“สงสัยเหนือจะคิดถึงพี่เหมือนกัน”
เท่านั้นทุกอย่างก็ราบรื่น ปฏิบัติการการเต๊าะก็เริ่มต้นขึ้นทันที ไม่ใช่ผมเต๊าะพี่จอมดื้อนะ รายนั้นแหละที่เต๊าะผม นั่งคุยกับผมไม่หยุดตั้งแต่มาถึงจนผ่านไปหลายชั่วโมง งานการไม่ทำเลยเถอะ ใช้ให้พนักงานดูแลอย่างเดียว กระทั่งฟ้าเริ่มมืด เสียงดนตรีสดเริ่มบรรเลง การสนทนาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
ดีขึ้นมากถึงมากที่สุด ดีไม่ดีให้ดูผมนี่ แทบจะเลื้อยไปนัวเนียกับพี่จอมดื้อแล้วเถอะ รายนั้นก็คุยไป มือไม้ก็อยู่ไม่สุข จับมือผมบ้าง จับหน้าจับจมูกบ้าง เป็นการหยอกเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ แต่บอกเลยว่าฟิน ถึงจะไม่ฟินเท่าไอ้เด็กธารเพราะพี่จอมดื้อไม่แสดงท่าทางขัดเขินให้ผมกระชุ่มกระชวย ทว่าก็ทำให้เพลิดเพลินได้ไม่น้อย
หากแต่ความเพลิดเพลินนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อจู่ๆ เสียงคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้นขณะที่ผมกำลังส่งเสียงกระเง้ากระงอดกับพี่จอมดื้ออยู่
“เอ้า พี่เหนือมาได้ไงน่ะ” จอมแก่นร้องถามทันทีที่เห็นหน้าผม
ผมถึงกับชะงัก มองตามต้นเสียงก็เห็นจอมแก่น น้องมายด์ โรม แล้วก็ธารเดินเข้ามากันอย่างพร้อมหน้า เท่านั้นผมก็รีบถอยห่างพี่จอมดื้อที่กำลังเอาดอกไม้พลาสติกประดับแจกันบนโต๊ะมาทัดหูผมทันใด ก่อนที่พี่จอมดื้อจะเป็นฝ่ายตอบ
“เหนือมาหากู”
“มาหาพี่ดื้อ... หมายความว่า?” จอมแก่นเว้นจังหวะไป ทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่ต่างจากคนอื่นๆ กระทั่งพี่จอมดื้อตอบ
“ก็กูกำลังจีบอาจารย์พวกมึงอยู่ แล้วกูก็ชวนเหนือมาหาที่ร้านเพราะคิดถึง เหนือก็คิดถึงกูเหมือนกันก็เลยมา มันแปลกตรงไหน”
“อะไรนะ!” เสียงห้าวดังตามมาทันที ไม่ใช่เสียงจอมแก่น โรมหรือธาร แต่เป็นเสียงของน้องมายด์ที่จู่ๆ ก็แมนขึ้นมากะทันหัน พอปรับอารมณ์ได้ก็ยกมือขึ้นทาบอก ว่าพึมพำออกมา “อะหยังน่ะ ข้าเจ้าเต๊ะท่าจะงาบอ้ายดื้อมาจั๊ดหลายปี อีปี้มากำเดวก้าบไปกินหน้าซื่อเลยเจ้า (อะไรกัน หนูจ้องพี่ดื้อมาตั้งหลายปี เจ้มาทีเดียว คาบไปกินหน้าตาเฉยเลยนะคะ)”
พี่จอมดื้อหัวเราะร่วนให้คำพูดของน้องมายด์ คนอื่นๆ ก็หัวเราะตามด้วย มีแต่ผมนี่แหละที่หัวเราะไม่ออก ยิ่งเหลือบไปเห็นสีหน้าธารที่มีสีหน้านิ่งเรียบ มีเพียงหัวคิ้วย่นยู่ แถมทำหน้าตาน่ากลัว ผมก็ยิ่งหัวเราะไม่ออกใหญ่
นะ...ไหนไอ้พี่ดื้อบอกว่าจอมแก่นมันขอหยุดงานวันนึงไง! ไหงมันมากันครบแก๊งเลยวะ ถ้ารู้ว่าพวกมันจะโผล่มากันครบแบบนี้ กูไม่มาหรอกเว้ย!
“แล้วนี่พวกมึงมาทำไร ไหนว่าขอหยุดงานวันนึง ขนกันมาขนาดนี้ หรือพวกมึงจะมาช่วยงาน?” พี่จอมดื้อถามในสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมาจนได้ ก่อนโรมจะเป็นฝ่ายตอบ
“ผมให้ไอ้จอมมันพามาเลี้ยงที่ผมออกจากโรง’บาลน่ะพี่ ออกมาหลายวันแล้วแต่ยังหาโอกาสมาไม่ได้ พอมีโอกาสก็เลยมา ตอนแรกว่าจะไปที่อื่นแต่นึกขึ้นได้ว่ามาร้านพี่แล้วกินฟรีเลยมา วันนี้ก็ลงบิลไอ้จอมไว้นะพี่” ว่าพลางยกแขนข้างที่ยังมีเฝือกอ่อนพันอยู่ขึ้นให้ดู
พี่จอมดื้อไม่ถามต่อ เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าโรมไปโดนอะไรมา ไม่ถามด้วยว่าทำไมเรียกจอมแก่นว่าไอ้จอมทั้งที่เขาเรียกจอมแก่นว่าแก่นเฉยๆ คงจะรู้อยู่แล้วแหละว่าเพื่อนๆ ที่วิทยาลัยจะเรียกจอมแก่นแค่ชื่อจริงตัวหน้า มีแต่ผมนี่แหละที่อยากถามพวกมัน
ทำไมพวกมึงไม่ไปเลี้ยงกันที่อื่น! พาไอ้เด็กธารมาเห็นตอนกูกำลังเต๊าะกับคนอื่นอยู่ทำไม กูเพิ่งจะบอกว่าชอบมันไปแหม็บๆ เดี๋ยวก็ชวดหรอก!
อยากจะเดินเข้าไปจับจอมแก่นเขย่าชะมัดที่ยอมตามใจเพื่อน มาเลี้ยงฉลองออกจากโรงพยาบาลกันที่นี่ แต่พี่จอมดื้อก็พูดขึ้นมาก่อน
“เออ งั้นพวกมึงตามสบายเลย ไม่ต้องลงบิลไอ้แก่นหรอก เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง อยากกินไรสั่ง ให้โควตาเบียร์ลังนึง”
พอพี่จอมดื้อว่ามาอย่างนี้ โรมก็ตบบ่าจอมแก่น ปากพูดไม่หยุดว่าพี่จอมดื้อใจปล้ำ น้องมายด์ก็ทำฮึดฮัดที่พี่จอมดื้อมาจีบผมอีกนิดหน่อยก่อนจะพากันไปนั่งที่ มีแต่ธารนี่แหละที่ไม่พูดอะไร เดินออกจากบริเวณนั้นเป็นคนแรกด้วย
ถึงจะไม่แสดงท่าทางอะไรออกมา ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นั่งมองเด็กพวกนั้นเดินไปนั่งก่อนจะเริ่มตั้งวงกันแล้วก็อยากจะลุกขึ้นไปหาชะมัด ถ้าไม่ติดว่าพี่จอมดื้อนั่งอยู่ด้วยล่ะก็ ผมคงจะเดินไปหาธารแล้ว
นั่งคุยกับพี่จอมดื้อไป ตาก็เหลือบมองธารเป็นระยะๆ เกือบชั่วโมง พอลูกค้าเริ่มเยอะ พี่จอมดื้อก็ขอตัว
“เดี๋ยวพี่ไปช่วยพวกเด็กๆ มันดูแลลูกค้าก่อน เหนือรอพี่ก่อนนะ สักพักเดี๋ยวกลับมา”
ผมพยักหน้ารับ พี่จอมดื้อลุกไปได้ ผมก็จะเข้าไปหาธาร หากแต่ธารกลับลุกออกจากที่ ตรงไปที่ห้องน้ำ ผมเลยรีบลุกตามไป แต่พอใกล้จะถึงห้องน้ำ เด็กนั่นก็เดินเบี่ยงเข้าไปทางซอกเล็กๆ มืดๆ ที่อยู่ข้างห้องน้ำแทน ผมก็เดินตามเข้าไปอยู่ดีแหละ พอโผล่หน้าไปปุ๊บ ก็เห็นธารยืนกอดอกมองอยู่
“ตามมาทำไม” ยิงคำถามใส่ผมทันทีด้วย สีหน้าบ่งบอกชัดเจนเลยว่าไม่พอใจสุดๆ น้ำเสียงก็ด้วยเถอะ
ไปทำอะไรให้มันโกรธตอนไหนวะ?
แต่กระนั้นผมก็ส่งยิ้มหวานให้ ก่อนจะตอบออกไป
“พี่เหนือก็แค่อยากคุยกับน้องธารน่ะครับ ตั้งแต่เจอหน้ากันเมื่อกี้ ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
ทว่าธารก็ยังคงทำหน้าเข้มเหมือนเดิม หยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาจุดสูบ เมินผมซึ่งๆ หน้าอีกด้วย
การเมินของมันก็คือการยืนพ่นควันบุหรี่ปุ๋ยๆ เหมือนผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นน่ะ เห็นแล้วก็น่าหงุดหงิดชะมัด งอนล่ะสิ เฮอะ งอนอะไรก็ไม่รู้แต่ง้อก็ได้
“น้องธารกินข้าวมาหรือยัง...”
“ไปคุยกับพี่ดื้อสิ”
กะจะชวนคุยก่อนแล้วค่อยตะล่อมเข้าการง้อ แต่พูดยังไม่ทันจบเลย ธารก็สวนขึ้นมาซะก่อนโดยไม่มองหน้า ทำเอาผมหยุดกึก
“หือ?”
“บอกว่าไปคุยกับพี่ดื้อสิ” คราวนี้หันมาบอกกับผมเสียงเรียบ แต่แววตาประกายวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ
โอ๊ะ! เดี๋ยวๆ พูดอย่างนี้หมายความว่าหึงใช่มั้ยจ๊ะ? แหม มีใจให้พี่เหนือแล้วล่ะสิ มิน่าถึงได้ทำท่าเหมือนหมาไม่ได้ฉีดยากันโรคพิษสุนัขบ้า เข้าใจละว่าทำไมถึงโกรธ
ใช่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วล่ะ อารมณ์ดีมากขึ้นกว่าเดิมด้วย ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วทำใจดีเข้าล่อต่อ
“แต่พี่เหนืออยากคุยกับน้องธารมากกว่า”
ทว่าธารกลับไม่แยแสความกะล่อนของผมสักนิด ยืนดูดบุหรี่จนหมดมวน บ้วนน้ำลายทิ้งแล้วทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น เอาเท้าขยี้ก้นบุหรี่พลางพูดไปด้วย
“พี่เคยทำให้ใครไว้ใจบ้างหรือเปล่าวะ”
“ฮะ?”
พูดอะไรแปลกๆ ขึ้นมาอีกแล้ว แต่รอบนี้ธารไม่ย้ำประโยคเดิมที่พูดเมื่อกี้ หันมามองหน้าผมแล้วพูดประโยคใหม่
“ไหนพี่บอกว่าชอบผมไง แล้วไปกับพี่ดื้อนี่หมายความว่าไง”
โอย... หึงแรง หึงแน่ๆ ไม่หึงก็หวงล่ะวะ ต้องมีสักอย่าง
ผมอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมอีกที่ธารแสดงออกแบบนี้ ถึงจะไม่รู้ว่าที่มันทำท่าแบบนี้เป็นเพราะมีใจให้ผมจริงหรือเปล่า หรือผมแค่คิดไปเอง แต่แสดงออกแบบนี้ งั้นก็แสดงว่าต่อจากนี้ผมจะล่อหลอกมันง่ายขึ้นแล้วสินะ
“ก็ชอบน่ะสิ ชอบน้องธารจริงจริ๊ง อยากได้อยากโดนมานานละ” ได้ทีก็บอกไปตรงๆ เลย
ธารทำหน้าตกใจไปนิด ก่อนจะกลับมาเคร่งเครียดเหมือนเดิม
“แล้วน้องธาร... ไม่ชอบพี่เหนือเหรอ” ผมหยอดกลับเมื่อเห็นว่ามันไม่พูดอะไร
ธารตวัดดวงตาเกรี้ยวกราดมามองทันที
“ไม่ชอบ! ไม่ได้เป็นเกย์นะเว้ย!”
เอ้า ไม่ชอบแล้วจะมาทำท่าทางเหมือนหวงกูทำไมเนี่ย เมื่อวันนั้นก็ทำท่าเขินอีก ตกลงจะเอาไง!
ผมย่นจมูกขัดใจเล็กน้อย ก็รู้อยู่หรอกว่าไม่ได้เป็น แต่ก็แหม ไม่เห็นต้องดับฝันกันขนาดนี้ เอาเถอะ เต๊าะไปเรื่อยๆ มันก็ต้องมีสักวันที่อยากจะเปลี่ยนสายบ้างล่ะวะ
“น้องธารไม่ชอบพี่เหนือก็ไม่เป็นไร แต่พี่เหนือชอบน้องธารจริงๆ นะ วันนี้เห็นน้องธารไม่ร่าเริง พี่เหนือเห็นแล้วเป็นห่วงสุดๆ” นอกจากเป็นปลาสวายหน้าวัดที่เอาแต่ตอดเล็กตอดน้อยแล้ว ก็ยังเป็นปลาไหลอีกด้วย ไหลลื่นกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
แต่ธารก็ยังนิ่ง ถอนหายใจใส่ผมแล้วจ้องหน้าเขม็ง
“เพราะไม่ได้ไม่โดนกับผม ก็เลยไปกับพี่ดื้อใช่มะ”
จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่อง ทำเอาผมชะงัก พอตั้งสติได้ก็คิดหาคำพูดตอบมันทันใด
แหม จะยอมรับก็ตรงไป จะบอกว่าได้ทั้งน้องธาร ทั้งพี่จอมดื้อก็ดี นี่ก็ตรงไปอีก งั้นใช้ลูกแง่ลูกชนหน่อยแล้วกัน กล้าพูดมาอย่างนี้ แสดงว่าจริงๆ ก็มีใจให้ผมแหละวะ ถึงจะไม่พูดก็เถอะ
“ก็...นิดนึงนะ แต่ถ้าน้องธารยอมพี่เหนือล่ะก็ สัญญาเลยว่าจะไม่ยุ่งกับใคร” ชูสามนิ้วแสดงสัตย์ปฏิญาณด้วย
ธารก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลายความย่นยู่บนหัวคิ้วแม้แต่น้อย
เอาวะ ง้อแบบปัญญาอ่อนซะหน่อยแล้วกัน จะได้หายทำหน้าบูดซะที
“ดีกันนะน้องธาร พี่เหนือเกเรไปนิดเดียวเอง แต่ยังชอบน้องธารเหมือนเดิมนะ นะๆ ดีกันนะ” ขยับเข้าไปหา ชูนิ้วก้อยไปง้อมันอีก บอกเลย...ปัญญาอ่อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ทว่าเหมือนจะเข้าไปผิดจังหวะนิดหน่อย แค่เอานิ้วก้อยไปจิ้มแก้มมัน มันก็ชักสีหน้าใส่ ก่อนจะคว้าข้อมือผมแล้วเหวี่ยงเข้ากับกำแพงเต็มแรง หลังกระแทกปูนซีเมนต์จนผมต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นธารเดินเข้ามาใกล้ เอามือข้างหนึ่งค้ำกับกำแพงไม่ให้ผมหนี หน้านี่ก็เข้ามาใกล้เพียงคืบ จากที่เล่นๆ เมื่อกี้ เจอแบบนี้ผมก็ตกใจจนไปไม่ถูกเหมือนกัน
อะ...อะไรของมันวะ จู่ๆ ก็โหด เป็นอะไรของมันเนี่ย!
คือไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไง ไม่เคยแสดงท่าทางกรุ่นโกรธอะไรขนาดนี้มาก่อนด้วย อย่างดีก็แค่หงุดหงิดใส่ผมเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ผมก็ตั้งท่าจะถามว่ามันเป็นอะไรเพราะเสียวจะถูกมันกระทืบเหลือเกิน สีหน้ามันตอนนี้กินหัวผมได้เลยเถอะ แต่ธารก็ขยับริมฝีปากขึ้นก่อน
“ทำไมพี่มั่วจังเลยวะ”
เดี๋ยว!? ด่าแบบไม่ทันได้ตั้งตัวคืออะไร!
“บอกว่าชอบผมแต่ทำแบบนี้ โคตรเป็นคนไว้ใจไม่ได้เลยนี่หว่า”
“...”
พะ...พูดไม่ออกเลยแฮะ โดนด่าแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้รู้สึกเหมือนโดนเอามีดพร้าฟันหน้า แต่โอเค้! ยอมรับก็ได้ว่าผมน่ะเป็นพวกไว้ใจไม่ได้ มันก็แค่เรื่องเดียวนี่หว่า ไอ้เรื่องเต๊าะไปทั่ว มั่วไม่เลือกเนี่ย แต่มันไปเกี่ยวอะไรกับเด็กนี่ล่ะ มันก็ไม่ได้ชอบผมนี่ แถมมันก็ไม่ได้เป็นเกย์อีก เวลาโดนผมแกล้ง มันก็ไม่เห็นจะทำท่าชอบใจสักนิด มีแต่ผมนี่แหละที่หยอกไปหยอกมาเป็นหมาหยอกไก่ มันก็น่าจะรู้ไง แล้วจะมาเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรถ้าผมจะไปเต๊าะคนอื่นด้วย
หรือว่า... ผมจะไปเต๊าะมันจนมันหวั่นไหวเข้าให้แล้ว? ถ้าเป็นแบบนี้นี่งานงอกเลยนะเว้ย ดูท่าทางไอ้เด็กนี่จะจริงจังซะด้วย มารู้ว่าผมเต๊าะมันเล่นๆ นี่ซวยหนักแน่
“น้องธาร...” ผมตั้งท่าจะถามเลยว่าอะไรยังไง กะจะเอาให้เคลียร์ไปเลย ถ้ามันหวั่นไหวจริง ผมจะได้รีบถอนตัว
แต่แค่อ้าปากเรียกชื่อมันเท่านั้น มันก็ใช้มือข้างที่ยังว่างอยู่มาบีบใต้คางผมให้เชิดขึ้นสบตา หน้าตามันตอนนี้ดูโคตรจะหาเรื่องเลย แถมยังว่าเสียงแข็งออกมาอีก
“พี่น่ะ...อยากได้อยากโดนมากใช่มั้ย” พูดไปก็ทำหน้าน่ากลัวไปด้วย ผมนี่เสียวสันหลังวาบเลย
มะ...ไม่อยากได้แล้วจ้า ปล่อยกูไปเถอะ
แทบจะกราบกรานมันแล้วตอนนี้ อารมณ์สนุกตอนแรกหายมลายสิ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ตอนนี้มีแต่ความกลัวว่ามันจะบีบคอผมแรงกว่านี้แล้วเอาหัวโขกกำแพงตายชะมัด
แต่เปล่า... มันไม่ได้ทำ มันจ้องหน้าผมนิ่ง เม้มปากแน่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ว่าออกมา
“ได้ จัดให้”
แค่นั้นแหละ มันก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาเลย ใจผมคือคิดว่ามันต้องจูบแน่ ทว่าไม่ได้จูบ ซุกหน้าลงซอกคอแทน ก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงแรงดูดแรงๆ บนผิวเนื้อก่อนที่จะได้ถามว่ามันคิดจะทำอะไร
สัมผัสคุ้นเคยทำให้ผมรู้ทันทีว่าสิ่งที่ธารทำอยู่ก็คือ...คะ...คิสมาร์ก! คิสมาร์กแน่นอน ไม่ผิดแน่!
ฟะ...ฟิฟตี้เฉด ออฟ น้องธาร อูย...เชิญธารลงทัณฑ์บัญชา จนสมอุรา จนสาแก่ใจ...
เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ความจริงผมต้องตกใจหรือเปล่าวะ ปกติมันหนีตลอด จู่ๆ วันนี้มันบุกเองนี่มหันตภัยแล้ว
“ดะ...เดี๋ยวก่อนนะน้องธาร...”
ผมพยายามจะดันมันออก แต่แค่ยกมือขึ้นวางบนหน้าอกมันเท่านั้น มันก็ผลักผมจนหลังกระแทกกำแพงเต็มแรง ริมฝีปากหนาที่ประทับบนลำคอผมก็ออกแรงดูดมากขึ้นไปอีก ชักจะรู้สึกได้ถึงแรงขบกัดแล้วด้วย
โอ้โห คิสมาร์กมาเต็ม ดูดแรงซะจนรู้สึกเลยว่าอีกไม่นาน เนื้อผมจะต้องหลุดติดปากมันไปแน่ๆ แถมมือก็ยังบีบใต้คางผมอยู่ด้วย ชักจะหายใจไม่ถนัดละ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ จากที่ฟินจะกลายเป็นสิ้นลมแน่นอน ผมเลยยกมือขึ้นดันหน้าอกมันเป็นเชิงให้ถอยออกไปอีกครั้ง
“นะ...น้องธาร ถอยไปก่อนนะ พี่เหนือหายใจไม่ออก”
แล้วออกมั้ย... ไม่ ดูดแรงกว่าเดิมอีก มือที่บีบใต้คางผมอยู่ก็ออกแรงมากขึ้น... แรงจนผมต้องเบ้หน้าเพราะชักจะเจ็บมากซะแล้ว เจ็บทั้งบริเวณที่ถูกทำคิสมาร์ก เจ็บทั้งใต้คางที่กำลังถูกบีบอยู่
“น้องธาร... พี่เหนือเจ็บ...”
เจ็บจริงๆ ไม่ได้สำออย แต่ธารก็ไม่ยอมปล่อยจนผมต้องเป็นฝ่ายดิ้นหนีทว่าก็สู้แรงมันไม่ได้ โดนมันจับล็อคแล้วดันเข้าชิดกับกำแพงอีก
เอ่อ...อย่าเรียกว่าดันเลย เรียกว่าจับกระแทกดีกว่า แรงมันจะเยอะไปไหน! เห็นตัวใหญ่กว่ากันนิดเดียว ใครจะไปคิดวะว่าแรงจะเยอะขนาดนี้ นี่สูงกว่าผมไม่เกินสิบเซ็นต์เองนะเนี่ย
“น้อง...น้องธาร...” ผมพยายามเรียกสติมันอีก แต่ก็ไร้ผลเลยตัดสินใจยืนนิ่งๆ ให้มันกระทำจนพอใจแทน
ขัดขืนไปก็เหนื่อยเปล่า งั้นก็เอาที่น้องธารสบายใจแล้วกัน
ครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าธารจะผละออกมา แถมตอนผละก็ไม่ได้ถอยห่างเฉยๆ คือสะบัดน่ะ สะบัดผมทิ้งอย่างกับหมาสลัดหมัดก็ไม่ปาน ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเซเกือบล้ม ดีที่มีกำแพงรองรับอยู่ ไม่อย่างนั้นล่ะก็หงายหลังแน่นอน
“ทำอะไรเนี่ย” ตั้งหลักได้ ผมก็ยกมือขึ้นประคบบริเวณที่ถูกดูดดึงเมื่อครู่เบาๆ รู้สึกว่าผิวเนื้อที่ถูกดูดเมื่อครู่จะบวมขึ้นมาหน่อยๆ ด้วย
ทว่าธารไม่ตอบ มองผมอย่างเหยียดๆ แล้วว่าเย้ย
“คนอย่างพี่น่ะ ไม่เหมาะกับพี่ดื้อหรอก”
“หือ?”
“พี่ดื้อเค้าไม่เคยจีบใครเล่นๆ จริงจังคือจริงจัง ขอร้องเลย อย่ามาทำให้พี่ดื้อเจ็บ ไม่งั้นผมไม่ไว้หน้าพี่แน่”
ตอนนี้ผมเข้าใจละว่าที่มันโกรธ ไม่ใช่เพราะมันหึงหรือหวงอะไรผมที่พี่จอมดื้อมาจีบ แต่มันไม่พอใจที่พี่จอมดื้อมาจีบคนอย่างผม ดูท่าแล้วมันน่าจะรู้ไปถึงตับไตไส้พุงแล้วล่ะว่าผมเป็นคนยังไง มารู้ชัดเจนเอาก็ตอนที่เห็นผมมากระหนุงกระหนิงกับพี่จอมดื้อหลังจากบอกชอบมันนี่แหละ ผมก็ลืมไปสนิทเลยแฮะว่าจอมแก่นบอกว่าไอ้เด็กนี่กับพี่จอมดื้อสนิทกัน มันจะโกรธก็ไม่แปลก แต่ผมนี่...ซวยแล้วสิ
“แล้วพี่ก็ไปแก้ตัวกับพี่ดื้อเองแล้วกันว่าโดนอะไรมา ถ้าบอกว่าเป็นฝีมือผมล่ะก็ ระวังตัวไว้ได้เลย อยู่พิษ’โลกไม่เป็นสุขแน่ อีกอย่าง เลิกยุ่งกับผมด้วย ผมไม่ชอบให้คนอย่างพี่มาถูกเนื้อต้องตัว เข้าใจนะ” พูดขึ้นอีกครั้งแค่นั้น แล้วก็เดินออกไปเลย ทิ้งให้ผมมองตามอย่างตระหนก
มาดูดคอกูอย่างนี้ พี่จอมดื้อก็ได้คิดว่ากูไปกินจานด่วนกับใครตอนพี่แกเผลอมาน่ะสิ!
พอมันเดินไป ผมก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ดูร่องรอยที่มันทิ้งไว้แล้วก็เบิกตาโต
โอ้โห ดูดกูขนาดนี้นี่ มึงดูดหัวกูไปเลยก็ได้นะ นี่รอยคิสมาร์กหรืออะไร ทำไมมันช้ำเลือดช้ำหนองอย่างนี้!
ธารคงจะตั้งใจให้พี่จอมดื้อเข้าใจว่าผมเป็นคนไม่ดีแล้วก็เลิกยุ่งกับผมน่ะ แผนแค่นี้ทำไมผมจะไม่รู้ แล้วคิดเหรอว่าพี่จอมดื้อจะไม่รู้ว่าผมเป็นคนยังไง แค่วันที่ผมเทกระจาดอ้อยใส่ พี่แกก็น่าจะเดาออกแล้วแต่ยังเดินหน้าจีบผม แสดงว่าไม่แคร์เรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกัน
กระนั้นผมก็ไม่มีหน้าเดินไปหาพี่แกแล้วทำเป็นลอยหน้าลอยตาบอกว่า ‘อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่รอยคิสมาร์ก ขายอ้อยและต้อยติ่งเหนือต่อเถอะ’ หรอก เป็นอย่างนี้แล้ว ชิ่งกลับเลยดีกว่า
ชิ่งกลับจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น ออกจากห้องน้ำมาได้ก็วิ่งพรวดพราดออกมาจากร้านท่ามกลางความแปลกใจของพวกจอมแก่นที่ร้องถามผมว่าจะไปไหน แม้แต่พี่จอมดื้อเองก็ร้องเรียกผมเหมือนกัน จะมีก็แต่ธารเท่านั้นที่นั่งดื่มเบียร์ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เห็นแล้วก็อยากจะเข้าไปปลุกปล้ำมันชะมัด
ไม่สิ... ต้องกระโดดถีบสินะ แต่เอาเถอะ ผมไม่อยู่แล้วล่ะ งานนี้ต้องกลับลูกเดียว
หนีหน้าไปพักนึงก่อนจนกว่ารอยนี่จะหายไปแล้วกัน ส่วนไอ้เด็กธาร...
มาทำให้อยากแล้วจากไป ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ได้ทีจะตอดให้ร้องขอชีวิตเลย!
---------------------------------------
มาดึกนิดนึงนะคะ วันนี้ฝึกงานเหนื่อยมาก กลับมาได้ก็เผลอหลับยาวเลย ตอนแรกกะว่าจะมาไม่เกินสี่ทุ่ม ฮาา
ตอนนี้บอกเลยว่าสปอยล์ดับฝัน อย่าไปหวังอะไรกับเมะอย่างน้องธาร บอกแล้วว่าน้องใสๆ ส่วนนังพี่เหนือ...ไสยๆ ตามเดิม กร๊ากกก
มีคนถามว่ามีอิมเมจสามพี่น้องจอมมั้ย หนูแดงแปะให้แล้วกันค่ะ แปะรูปไม่เป็น เอาลิงค์ไปแทนแล้วกันเนอะ
https://www.facebook.com/NooDangzzz/photos/a.162822727106922.46922.122468307809031/950705528318634/?type=3&theaterพี่ดื้อแซ้บแซ่บ หูยยย... ฟินปังๆ น้ำลายไหล 555
ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าสามพี่น้องนี้ หนูแดงไม่เขียนเรื่องออกมาต่อนะคะ ไม่อิน จะเขียนแต่เรื่องของพี่ดื้อเท่านั้น วางพล็อตคร่าวๆ ไว้แล้ว มีชื่อเรื่อง มีนายเอกแล้ว ชื่อเรื่อง #สะบายดีจอมดื้อ นายเอกของพี่ดื้อเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-ลาว ชื่อ ปั้นรัก เหตุการณ์เกิดขึ้นในลาว โทนเรื่องเป็น Comedy-Feel good เช่นเคยค่ะ ไว้เขียนพี่เหนือกับน้องธารจบก่อนนะ แล้วจะเริ่มเขียนเน้อ
ปล. ฝากส่งฟีดแบ็กกันหน่อยน้าตัวเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้เก๊าเอาตัวอย่างตอนใหม่มาแปะให้นะ