ตอนที่ 42
ผมอยู่บ้านไอ้ฝิ่นแล้วตอนนี้ มันโทรมาแต่เช้าบอกให้ซื้อของกินมาด้วย สั่งๆๆๆๆ เหมือนตายอดตายอยาก ทำอย่างกับอยู่บ้านไม่มีอะไรจะกิน ป้านวลบ่นมันให้ผมฟังว่า ตั้งแต่คุณน้องของแกกลับมาจากเที่ยวและเป็นไข้ กินยากอะไรก็ไม่ถูกปากไม่ถูกใจ กินแต่นม ผลไม้ ขนม เมื่อวานก็แอบออกไปนอกบ้านซื้อส้มตำ ตำแตง ซุบหน่อไม้มากิน พอจับได้แกบ่นไม่ใช่ว่าไม่ให้กินของพวกนี้ถ้าหายอยากกินก็ค่อยกิน มันก็งอนบอกอยากกินและมันก็กินแค่นิดเดียวเอง แกบอกถ้าดื้อจะโทรบอกปู่มัน หรือไม่ก็ผม มันเลยเงียบแต่รู้ได้ว่ามันงอน
“นอนอยู่ที่ประจำแหละคะยังไม่ตื่นเลย พอปลุกให้ทานข้าวทานยาก็ต่อรองตลอดไปดูเอาเถอะคะ แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ”แกรายงานให้ผมฟัง ก่อนจะถาม อยากบอกเหลือเกินก็คุณน้องป้าแต่เมียผมโทรไปสั่ง
“คงจะโทรไปสั่งละสิคะ”ป้านวลบอกยิ้มๆ อย่างรู้ทัน”ป้าว่าที่คุณน้องดื้อก็เพราะพี่ไผ่แน่เลย”อ้าวป้า ความผิดผมตรงไหน
“ผม”ผมชี้ที่ตัวเอง ทำหน้าสงสัย แกเลยหัวเราะ รับของส่งให้พี่น้อยไปจัดใส่จาน ถ้าให้ดีพี่จัดใส่รางไปเลยก็ได้ ของที่มันชอบทั้งนั้น สัตว์ปีกยกเว้นเครื่องบิน สัตว์บกยกเว้นรถ สัตว์น้ำยกเว้นเรือ นอกนั้นไอ้ฝิ่นจัดเกือบหมด ยิ่งถ้ามันดูรายการเขาบอกที่ไหนอร่อยแล้วลากสังขารไปได้มันจะหันมาผมทันทีขุดความพยายามในตัวมันทั้งหมดลากผมไปจนได้ ผมไม่ได้จะไม่พามันไปหรอกแต่ชอบดูเวลามันสรรหาวิธีมาใช้กับผม คือมันลุ้นดี โคตรชอบเลย
“คะ บ่นว่าพี่ไผ่ยุ่ง ไปหาก็ไม่ได้ มาแป๊บเดียวก็กลับ และก็สั่งๆๆๆ อะไรประมาณเนี้ยะ หงุงหงิงไปตามเรื่อง”แกเล่าสบายๆ แสดงว่ามันคงมาฟ้องป้านวลว่าผมสั่งให้มันพักผ่อนห้ามไปไหน ที่จริงผมก็อยากจะดูแลมันแต่ติดต้องทำรายงานเยอะ คิดว่าให้มันอยู่บ้านสบายๆดีกว่า อย่างน้อยป้านวลก็ดูแลได้เต็มที่ แต่ผมก็โทรหาตลอดนะ บางทีก็ส่งข้อความถ้ายุ่งๆอยู่ ไม่ได้ตัดหางปล่อยบ้านซะที่ไหน แต่ก็ไม่เห็นมันพูดหรือโวยวายอะไรนอกจากกวนตีนกันตามประสา แต่เสียงมันก็หงอยๆ ผมฟังแกเล่าได้แต่ยิ้มรับ ก่อนแกจะบอกให้ผมเดินไปก่อนได้เลยเดี๋ยวของจะตามไป ผมก็เดินไปตามทางเจอเปลขนาดใหญ่มีเบาะรอง อยู่ภายใต้ร่มไม้ร่มพัดเย็นสบาย ไอ้ขี้บ่นนอนขี่ผ้าห่มกัดผ้านั่นคือท่าประจำมัน ผมเดินไปนั่งบนเปลที่รองรับได้ผื่นตามตัวจางเยอะแล้ว เอามือจะจับแต่นึกได้ว่ายังไม่ได้ล้างมือเลยต้องหยิบเจลมาล้างก่อน อนามัยโคตร เดี๋ยวผิวหลานเขาติดเชื้อจะแย่เอา ยิ่งปู่มันกำลังจะลงมาด้วย
“อื๊อ น้องจะนอน”เสียงมันพึมพำอย่างเอาแต่ใจ มันคงนึกว่าป้านวลมาปลุกมัน ตัวไม่ร้อนแล้ว หน้ากับตัวยังแดงหน่อยๆ นึกแล้วก็อยากเอาไปดูแลเอง ทำไมต้องมายุ่งช่วงนี้ด้วยวะ ตอนผมไม่สบายมันก็ดูแลผมเป็นอย่างดี บางทีก็เคยขำตัวเองวันไหนเลิกงานพิเศษดึกมันไม่ได้ไปหา ผมขี่รถมาบ้านมันประจำถึงไม่เห็นหน้าเห็นจานดำบ้านมันก็ยังดี แต่มันไม่รู้หรอก ผมก้มไปจูบหน้าผาก มันก็ย่นคิ้วย่นจมูกส่งเสียงในลำคออย่างขัดใจ
“เอาไว้พี่จะชดเชยให้นะ หายไวไว”ผมกระซิบบอก เอามือลูบหัว เมื่อวานเพื่อนมันรู้ข่าวเรื่องนั้นก็พากันมาถามพวกผมอย่างเป็นห่วงแกมสะใจ ยิ่งน้องออยนี่ชอบใจมาก บอกเสียดายไอ้ฝิ่นดันไม่สบายซะได้ ไม่งั้นเละแน่ ผมก็ได้แต่พยักหน้าเฉยๆ ก่อนพวกมันจะแซวไอ้บลูกับไอ้พาย ประมาณไม่จัดงานฉลองเหรอ ไอ้บลูบอกได้จัดให้แต่เอาไว้ให้ไอ้ฝิ่นหายก่อนไม่งั้นมันด่าตามหลังแน่ มึงนี่รู้จริง พอตกลงกันได้ที่แล้วก็กลับ ส่วนเรื่องเอมผมไม่อยากจะอะไรให้มากนักยังไงผมก็ผู้ชายออกตัวทำอะไรไปมากนักก็ดูไม่ดี แต่ถ้ายังไม่หยุดก็คงต้องจัดไป ก่อนจะผละออกไม่ทันเมื่อมีเสียงนุ่มๆทัก ไม่รู้มันกอดผมตั้งแต่เมื่อไรตายังหลับอยู่
“ป้าเอาวางไว้ตรงนี้นะคะ แล้วก็ฝากให้คุณน้องทานข้าวทานยาด้วยเลย วันนี้คงจะทานได้เยอะแน่”ป้านวลพูดยิ้มๆ พี่น้อยวางของไว้บนโต๊ะมีฝาชีคลุมอยู่บางอย่างอยู่ในกล่องเก็บความร้อน แกคงรู้ว่าคงยังไม่กินในทันที เพราะคุณน้องยังหลับสนิทศิษย์ส่ายหน้าอยู่เลย
“ครับ”ผมตอบรับอย่างเดียว แกก็เดินไป หันมามองไอ้ตุ๊กแกที่ยังเกาะไม่ปล่อยก็เลยต้องปล่อยตามใจตัวเองซะ ผมไถลตัวลงไปนอนข้างๆ เอาเถอะครับอยากกอดก็ต้องกอด เอาหัวมันหนุนแขนกอดเอาไว้ แค่ไม่กี่วันเหมือนจากกันนานมาก และถ้าผมออกค่ายคงคิดถึงมันมากแน่ ๆ ตอนนี้มันมากกว่าคำว่าชอบไปแล้วไม่ได้ผูกมัดด้วยคำว่าแฟนและเซ็กส์แต่เป็นความผูกพันที่เรียกว่าความรักเพียงแค่ยังไม่ได้เอ่ยออกมาเท่านั้นเอง
“ชื่อมึงนี่มันเสพติดจริงๆ ว่ะ”ผมพูดขำๆ ตรงนี้เป็นที่ส่วนตัวมันเลย ถ้าไม่ออกไปไหนมันก็จะนอนตรงนี้ประจำ หรือไม่ก็แต่งรถในโรงรถไม่ไกลจากตรงนี้นัก มันค่อนข้างโลกส่วนตัวสูงถ้ามันสนใจหรือทำอะไรใครจะไปวุ่นวายอะไรกับมันมากไม่ได้ เหมือนที่มันก็ไม่ทำกับคนอื่นเช่นกัน แต่เวลาอยู่ด้วยกันกับผมมันจะเป็นอีกคนที่วุ่นวาย แหย่ กวนตั้งแต่หัวจดตีน ผมอยู่นั่นแหละ และผมก็ตอบแทนมันกลับเช่นกัน มันมีมุมมองอะไรเยอะค้นหาไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อสองวันก่อนผมเจอไอ้เฟริส์แฟนเก่ามันที่ผับพี่กี้ตอนเลิกงานมันเดินมาหาผม ๆ กะว่าถ้ามึงพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเมียกูอีกโดนแน่จะเหยียบให้จมตีนเลยแต่ตรงกันข้าม มันขอโทษและยินดีกับผม มันบอกว่ามันโง่เองที่ไม่รู้จักรักษาสิ่งที่ดีไว้ มันไม่พูดว่าฝากเพราะมันรู้ว่าผมทำได้และทำได้ดีกว่ามันด้วย มันยังแปลกใจเลยที่ไอ้ฝิ่นดูแปลกไปไม่เคยดูเหมือนจะลงให้ใครได้ขนาดนี้ มันพูดเสร็จก็เดินไป และผมจะไม่ยอมเป็นคนโง่เหมือนมันแน่ กำลังคิดเพลินๆ
“เชี่ยะนิ มีกิ๊ก”เสียงมันละเมอ มือจากกอดก็กลายเป็นจิก ผมมองพลางส่ายหน้ากับจินตนาการอันเลอเลิศของมัน
“เป็นเอามากนะมึง ขนาดนอนยังละเมอคิดไปได้”ผมบิดจมูกมัน ก่อนจะหลับตาลง มือก็กอดกระชับอีกมือก็จับมือมันไว้ เผื่อมันลุกมาบีบคอผมตามที่มันละเมอ
V
V
V
ต่อ