อะจ๊ากกก ปั่นเสร็จเมื่อกี๊สดๆ มาต่อแล้ว
กระผมนายเป้งสุดเท่มาแล้วคร้าบ
ตอนที่6 ***************************
ตอนนี้ผมกำลังขับรถกลับคอนโดโดยมีน้องมินนั่งอยู่ข้างๆนี่แล้ว โล่งใจไปได้หน่อยนึงล่ะนะ แต่เพิ่งจะมานึกขึ้นได้ว่าเรื่องมันยังไม่จบทั้งหมดนี่หว่า ลืมสารภาพเรื่องสำคัญที่สุดไปจนได้อ่ะ
จะอะไรซะอีกล่ะครับก็ไอ้เรื่องที่ไปสวมรอยไอ้ป้างนั่นไง เมื่อกี๊อุตส่าห์มีจังหวะเหมาะๆแล้วเชียว จะได้คุยไปเลยทีเดียวดันลืมซะสนิทเลยว่ะ บ้าจริงๆ
แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ เฮ้อ... ปวดหัวจริงเว้ย ยิ่งเหนื่อยๆอยากจะนอนอยู่ เออ... ช่างมันละกัน พรุ่งนี้ค่อยคิดหาทางอีกทีเว้ย
พอเปิดประตูห้องเข้าไปเท่านั้นแหละครับ ผมปลดกระดุมเสื้อออกทีเดียวเกือบหมดแล้วนอนแผ่มันกลางโซฟาเลย เหนื่อยมากๆ แค่วันนี้วันเดียวใจหล่นใจหายไม่รู้กี่ที แถมขับรถไปโน่นไปนี่ซะอีกหลายรอบมาก
" มินเก็บของเข้าห้องไปเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวพี่ว่าพี่คงจะไปนอนแล้วล่ะ ขอพักแป๊บ"
" เอ่อ... พี่ครับ พี่เหนื่อยมากเลยเหรอ ยังหิวอะไรมั๊ยครับ เดี๋ยวผมจะไปทำอะไรให้กินก่อนก็ได้นะ อยากทานอะไรล่ะครับ" มินบอกพลางเดินเข้าไปที่เค้าท์เตอร์ครัว
" ไม่เป็นไรครับ แค่ชงกาแฟให้พี่สักถ้วยละกัน"
" ครับ สักครู่นะครับ พี่จะเอากาแฟกี่ช้อน น้ำตาลกี่ช้อนดีครับ" เออ... ถามแบบนี้แสดงว่ามันรู้งานดีแฮะ
" อืม... อย่างละสองช้อนก็ได้ครับ"
" ไม่ใส่ครีมใช่มั๊ยครับ" น่ะ... รู้อีกว่าผมไม่กินใส่ครีม
" ครับ... แหม.. ทำไมรู้ใจพี่ยังงี้ล่ะ"
" ฮะๆ ก็เดาเอาครับ เห็นพี่มาดเข้มๆน่ะ น่าจะกินแบบนี้" มินหัวเราะเสียงใสแล้วเดินเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ผม
ผมลุกขึ้นนั่งแล้วรับถ้วยมาลองจิบดู แปลกแฮะ ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับว่ากาแฟมันอร่อยกว่าทุกทีล่ะ หรือว่าผมคิดไปเอง
" อืม... อร่อยดีนะ ฝีมือชงใช้ได้นี่"
" ขอบคุณครับที่ชม เมื่อก่อนผมชงบ่อยไง"
" เมื่อก่อนเหรอ? หมายถึงตอนที่เราทำงานน่ะเหรอครับ"
" ครับ ผมเคยทำงานที่ร้านกาแฟก่อนที่จะมาทำที่โรงหนังน่ะครับ"
" แล้วเราออกมาทำงานอย่างเดียวเลยเหรอครับ หลังจากจบม.6น่ะ"
" อ๋อ... ผมเรียนปวช.ครับ เป็นแผนกคหกรรมฯน่ะ"
" อ้าว... เหรอครับ แล้วนึกไงเรียนคหกรรมฯล่ะ พี่ยังนึกว่าเรียนพาณิชย์ซะอีก"
" ก็ชอบๆอยู่นะครับ อยากทำอาหารเก่งๆสักวันจะได้เปิดร้าน" ผมฟังแล้วก็สะดุดใจจนต้องหันไปมองหน้าน้องมันทันที อะไรมันจะบังเอิญอย่างนี้
เพราะทุกวันนี้ผมเองก็เรียนเมเจอร์ของการโรงแรมเป็นสายของเชฟหัวหน้าพ่อครัวอยู่ครับ ก็ชอบเรื่องทำอาหารเหมือนกันแหละ คิดอยากเปิดร้านเหมือนกันด้วยนะ โห... นี่เนื้อคู่กูรึไงวะเนี่ย บังเอิญไปมั๊ยน้อง
" ทำไมเหรอครับพี่...." มินเอ่ยถามแล้วจ้องหน้าผมอย่างสงสัยที่เห็นผมอมยิ้มอยู่
" อ๋อ... ไม่มีอะไรหรอก ตกลงว่าเราน่ะ ชอบทำอาหารเหรอ แล้วคิดอยากเรียนต่อมั๊ยล่ะ"
" ก็คงต้องไว้ก่อนครับ เรื่องแม่สำคัญกว่าผมไม่มีเงินเหลือพอจะไปเรียนตอนนี้หรอก"
" เรื่องนั้นมันไม่เป็นไรหรอก พี่บอกเราแล้วว่าจะช่วยเอง ไม่ต้องห่วงนะ เอาไว้เราลองไปเลือกคอร์สดูว่าอยากเรียนที่ไหนยังไง หรือจะมาเป็นรุ่นน้องพี่ก็ได้นะ แต่คงไม่ทันว่ะ เพราะพี่คงจบซะก่อน หึๆ" หวังว่าคงจบนะปีนี้ เหอๆ
" อ้าว... แล้วตอนนี้พี่เรียนคณะอะไรอยู่เหรอครับ" เด็กน้อยถามขึ้นอย่างสนใจ ด้วยสายตาวิ้งๆอีกแล้ว เฮ้อ....
" ก็การโรงแรมนั่นแหละ พี่ก็อยากเป็นเชฟเหมือนกัน เราล่ะครับ อยากเป็นมั๊ย" มินฟังแล้วก็ทำตาโตทันที
" จริงๆเหรอครับพี่ ดีจังเลยครับ ผมอยากเรียนด้านนี้จะตาย แต่... มันก็แพงจะตายเหมือนกันนะครับ" น้องมินเสียงอ่อยลงไปทันที
" เอาน่า... ไม่ต้องห่วงพี่ออกทุนให้ไง จบแล้วค่อยมาใช้ทีหลัง ป๋ามาเองแล้ว ไม่ต้องไปกู้กองทุนทำเรื่องให้เมื่อยหรอก"
" เอ่อ... มันจะ..."
" มันจะดีเหรอพี่" ผมแกล้งพูดสวนขึ้นพร้อมๆกับมัน เพราะรู้เลยว่ามันต้องพูดประโยคนี้แน่ๆ จนน้องมันทำหน้าเหวอๆ ผมเลยนั่งหัวเราะ
" มันดีแน่ๆคร้าบ นะ... บอกแล้ว เชื่อพี่ ว่าง่ายๆโตไวๆ" ผมบอกแล้วก็ลูบหัวมินเบาๆอีก ยิ่งลูบก็ยิ่งติดใจแฮะ
" ครับ เอางั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวค่อยดูว่าจะเลือกที่ไหนดีนะครับ" คราวนี้มินเลยยิ้มอย่างพอใจ ผมก็จิบกาแฟแสนอร่อยต่อ แต่พอหันไปอีกทีก็เห็นน้องมันกำลังจ้องมาที่หน้าผมอยู่
" ทำไมเหรอครับ จ้องพี่มีอะไรเหรอ"
" ป่าวครับ ผมแค่แปลกๆใจนิดนึง"
" หือ... แปลกใจอะไรครับ"
" ก็เวลาผมมองหน้าพี่ กับรูปร่างพี่ชัดๆแบบนี้ผมกลับรู้สึกว่าพี่ป้างตอนนี้ดูไม่เหมือนกับในทีวีเลยครับ ยังกะว่าเป็นคนละคนกัน...."
" พรวด...ด.ด.ด"
" เฮ้ย.. พี่" มินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ จะอะไรซะอีกล่ะครับ พอผมฟังน้องมันพูดยังงี้ผมก็ตกใจสำลักพ่นกาแฟออกมาซะนี่
" อ่ะ.... ขอโทษครับ พอดีจิบเร็วไปหน่อยมันยังร้อนน่ะ แฮะๆ" แถไปก่อน กู...
" ครับ เดี๋ยวผมไปเอาผ้ามาเช็ดนะ" น้องบอกแล้วก็รีบหยิบผ้ามาจากในครัวมาเช็ดกาแฟที่กระเด็นอยู่บนโต๊ะรับแขกนั้น
" อืม... แต่จริงๆนะครับ ผมว่าพี่ดูไม่เหมือนในทีวีจริงๆนะ ที่ผมเห็นๆ พี่จะดูตัวเล็กกว่านี้อ่ะครับ แต่นี่พี่ดูสูงล่ำหุ่นดีกว่าที่เห็นในทีวีอีกนะครับ" อ้าว... เฮ้ย ยังไม่จบเหรอวะ อ๊ากกกก....ก ทำไงดี
" เอ่อ.... อ๋อ... ก็พอดีว่าช่วงนี้พี่เล่นเวทมากขึ้นนะครับ ว่าจะให้ร่างกายมันเฟิร์มกว่านี้ หนากว่านี้หน่อยไง จะได้เท่ๆ" แถอีกแล้ว
" อ่า.. ครับ ก็ดีนะ หุ่นพี่ดีมากจริงๆครับ เท่สุดๆไปเลยจนผมเองยังอยากลองจับดูเลย ฮะๆๆ" มินหัวเราะเหมือนกับว่าตัวเองพูดเล่น แต่ผมไม่ล้อเล่นด้วยหรอกนะ หึๆ
" ก็อยากลองจับมั๊ยล่ะครับ" ว่าแล้วผมก็แบะสาบเสื้อออกกว้างโชว์อกล่ำๆให้น้องมันดูเล่นๆ
" เฮ้ย... พี่อ่ะ บ้า... น่าเกลียดอ่ะครับ" อายม้วนจนหันหน้าหนีเลย ผมล่ะชอบจริงๆ
ผู้หญิงน่ารักทั่วๆไปอายผมว่ามันก็ดีน่ามองอยู่ แต่ทำไมกับมินผมยิ่งรู้สึกอยากจะมองมากกว่านั้นเป็นสิบๆเท่าเลยเนี่ย ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
" ฮ่าๆ พี่ล้อเล่น เขินขนาดนี้เลยเหรอครับ"
" ป่าวอ่ะครับ" หึๆ ป่าว แต่หน้าแดงไปหมด แก้ตัวฟังไม่ขึ้นเลยนะน้อง
" พี่ไม่ง่วงแล้วเหรอครับ" แน่ะๆ คิดจะหนีเหรอ อิอิ
" กินกาแฟของมินไปพี่ตาสว่างแล้วครับ"
" อ่า.... งั้นผมไปนอนก่อนแล้วกันนะครับ พรุ่งนี้พี่อยากให้ผมปลุกกี่โมงดีครับ" หึๆ หาเรื่องหลบไปจนได้ ยังอยากคุยต่อเลยแฮะ
" อืม... สักเก้าโมงก็ได้ครับ งั้นก็กู้ดไนท์นะ ฝันดีครับ"
" ครับผม กู้ดไนท์เหมือนกันนะครับพี่ ฝันดีครับ" อ่ะ เสียดายแฮะ กู้ดไนท์ปากเปล่า ไม่มีคิสอ่ะ เหอๆ
พอน้องมันเข้าห้องไปผมก็เลยกลับเข้าห้องบ้าง แล้วเอากล่องของกลางที่เพิ่งเอาคืนมาจากไอ้แมนวางไว้บนโต๊ะทำงาน
ตอนนั้นผมไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่แล้ว ก็เดินมานั่งที่โต๊ะทำงานนั่นแหละพลางคิดทบทวนเรื่องต่างๆทั้งหมดในวันนี้
ผมว่าผมคงตัดสินใจถูกนะที่ให้น้องมินมาอยู่ด้วยแบบนี้ มันคงไม่คิดจะยกเค้าผมไปอีกรอบหรอกน่า เพราะก็คุยกันรู้เรื่องแล้วคงไม่น่าจะเกิดเรื่องอีก
แต่ที่สำคัญที่สุดผมว่านะ สงสัยผมอาจจะต้องยอมเป็นเกย์ซะแล้วมั๊งนี่ เพราะบอกตรงๆว่าตอนนี้ผมตกหลุมรักน้องมินเข้าจังๆเลย และครั้งนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าผมค่อนข้างจะจริงจังมากๆเลยด้วย
ก็คงเพราะน้องมันไม่เหมือนคนไหนที่ผ่านๆมาของผมทั้งหมด เด็กคนนี้มันใสๆไม่มีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังและมันก็น่ารักยิ่งกว่าใครๆสำหรับผมตอนนี้ แต่ผมก็อยากให้เวลาตัวเองกับน้องมันอีกหน่อยนะ ให้แน่ใจตัวเองกันทั้งคู่ก่อนแล้วกัน
แต่อยู่ดีๆนี่ ผมจะกลายเป็นเกย์ได้ยังไงกันล่ะ ใครจะรับผมได้
งั้นก็ช่างมันสิเว้ย ใครจะมาสนผมล่ะ พ่อผมหรือใครๆก็คงไม่สนใจหรอกว่าผมจะเป็นยังไงน่ะ และผมก็ไม่จำเป็นต้องไปประกาศให้ใครรู้ด้วย
ว่าแต่ แม่ผมล่ะ เฮ้อ.... แม่ต้องช๊อคแน่ๆเลย จะทำไงดีว้า เพราะผมแคร์แม่แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
งั้นก็ต้องปิดเป็นความลับไปก่อนล่ะนะ คงดีที่สุดแล้วไม่มีทางเลือกอื่นว่ะ
-
-
เสียงออดดังขึ้นสักพักนึงปลุกผมให้ตื่นขึ้น ผมหันแว่บไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าเพิ่งแปดโมงเลยลุกขึ้นโดยที่ใส่บ๊อกเซอร์แค่ตัวเดียวออกไปดู
แต่เสียงออดก็เงียบไปตามด้วยเสียงการปลดล๊อคของคีย์การ์ด ซึ่งนั่นทำให้ผมตกใจสุดขีดเลยครับหายเมาขี้ตาทันที
ยิ่งพอประตูเปิดออกผมยิ่งตกใจอย่างสุดๆ
" ไอ้ป้าง.... "
" อ้าว... ไอ้นี่ มึงเพิ่งตื่นเหรอวะ มานี่เลยมึง ดูผลงานของมึงดิ๊ สัด" มันบ่นผมทันทีพลางโยนหนังสือกอสซิบดาราลงบนโต๊ะรับแขกแล้วไปนั่งบนโซฟาอย่างไม่พอใจ
แต่ผมดิ ทำอะไรไม่ถูกแล้วลุกลี้ลุกลนไปหมดไม่รู้ว่าน้องมินอยู่ในห้องตัวเอง ห้องน้ำ ที่ระเบียงหรือว่าหลังครัวรึเปล่า ต้องรีบไปดูก่อนเว้ย แย่ๆๆๆ เอาไงดีวะกู.....
" เฮ้ย... มึงเดินไปเดินมาทำไมวะ กูบอกให้มานี่" ไอ้ป้างโวยขึ้นมาที่เห็นผมเดินว่อนไปหมด
" อ๋อ... แป๊บนะเว้ย"
" เอ๊ะ ไอ้ห่านี่ อะไรของมึงวะ ท่าทางมีพิรุธ อ๋อ... กูรู้ละ" ไอ้ป้างบอกพร้อมกับเดินย่างสามขุม จะไปเปิดประตูห้องผม
" เฮ้ย... มึงจะทำอะไร" ผมร้องเสียงหลงเลย มันก็หันมาทำหน้าเอือมๆใส่ผม
" มึงเอาหญิงมานอนกกอีกแล้วใช่มั๊ย สัด... คอนโดพี่โป้งไม่ใช่โรงแรมนะเว้ย ไอ้เชี่ยนี่" พูดไม่พูดเปล่ามันเปิดผั้วะเข้าไปทันทีครับ แน่นอนว่ามันไม่มีอะไร หึๆ ก็กูเพิ่งเดินออกมาเนี่ย
" ไหนล่ะ มีมั๊ยมึง อย่ามาใส่ร้ายกูนะ ไปๆมึง เดี๋ยวลงไปกินข้าวข้างล่างกันเลย กูหิวแล้ว" ผมเริ่มแถไปอีก หวังจะให้มันรีบออกจากห้องไป ไม่สิ ต้องให้มันออกไปนอกรัศมีหนึ่งกิโลเมตรของคอนโดนี้ด้วยซ้ำ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าน้องมินตอนนี้อยู่ในห้องรึเปล่า
" อ่ะ อย่ามากลบเกลื่อนตบตากูซะให้ยาก คิดเหรอว่ากูไม่รู้ไส้มึง มึงกะกูน่ะเป็นอะไรกัน เค้าว่าฝาแฝดมันสื่อถึงกันได้เว้ย และตอนนี้กูรู้สึกเลยว่ามึงมีพิรุธ กำลังซ่อนอะไรไว้อยู่แน่ๆ สารภาพมาเลยมึง หึๆ" ดูมันครับ มันยังไม่ยอม
" ไอ้สัด... แหม.. สื่อถึงกัน งั้นถ้ากูไปเอากะใครอยู่แล้วมึงต้องเสียวค...ไปด้วยมั๊ย พูดมาได้ ถุย... ดูหนังมากไปมั๊ยมึง" ผมเริ่มฉุนเลยด่ามันไป แต่มันดิครับกำลังเอื้อมจะไปเปิดประตูห้องน้องมินแล้วอ่า
" เฮ้ย... มึงจะทำอะไร" ผมร้องเสียงหลงอีก แม่งเอ๊ย... ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เลยว่ะ ลนไปหมดแล้ว
" ทำไม มึงซ่อนอะไรไว้ใช่มั๊ย"
" เปล๊า ไม่ได้ซ่อนเว้ย"
" หึ.. ปฏิเสธเสียงสูงเลยนะมึง ถ้าไม่ได้ซ่อนก็ให้กูเข้าไปดูซะ หรือมึงไม่บริสุทธ์ใจ" แง่งง...ง ไอ้สาด รู้ทันดีนักนะมึง แต่มันไม่ฟังแล้วเปิดผั้วะเข้าไปอีกแล้วครับ ผมหลับตาปี๋เอามือกุมขมับทันทีเลย ตายแน่กู
แต่ในห้องก็มีแค่ความว่างเปล่า เตียงและข้าวของถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อยมีแค่เป้ใบนั้นของน้องมินวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งพอไอ้ป้างมันมองไปเห็นมันก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็เกาหัวแกรกๆเดินออกมาจากห้องอย่างเซ็งๆ แต่ผมดิ แมร่ง.... โคตรสะใจและโล่งใจไปพร้อมๆกัน
" ไหนอ่ะ กูซ่อนอะไร มีมั๊ย สัด... เจอเชี่ยอะไรมั๊ย อย่าดีกว่าขอร้อง อย่าคิดมาจับผิดคนอย่างกูเลย เร็วไปสิบปีว่ะ หึๆ" ผมเยาะเย้ยมันอย่างสะใจ กวนตีนกูดีนัก
" เออ... กูจับปลาไหลอย่างมึงไม่ได้ก็แล้วไป ว่าแต่ลืมเลย นี่กูจะมาเอาเรื่องมึงนะ มาดูนี่" มันบ่นแล้วก็เดินกลับไปหยิบหนังสือกอสซิบเมื่อกี๊มา แล้วชี้รูปที่หน้าปกให้ผมดู
" วันก่อนมึงไปผับไหนมาวะ ทำไมมันเป็นข่าวยังงี้ ภาพพจน์กูเสียหายนะเว้ย มึงอย่าให้มันมากนักดิวะ แม่ง...." มันบ่นอุบเลย
พอผมเอามาดูก็พบว่าเป็นข่าวจากที่ผมไปผับแล้วเจอน้องมินไปเต้นโคโยตี้อยู่นั่นเอง ในภาพก็เป็นผมเองกำลังยืนชิดกับน้องมินเลยด้วย ซึ่งมุมที่ถ่ายออกมามันก็นะ... ช่างดูส่อไปในทางที่ว่าผมต้องมีอะไรกับน้องมินแน่นอนเลย
" ลำพังแค่มึงเปลี่ยนหญิงไม่ซ้ำหน้าเนี่ย กูก็พลอยซวยไปด้วยแล้วนะมึง คนอื่นเค้าหาว่ากูอ่ะถ้ามีข่าวไม่ดีๆออกมาก็จะโทษว่าเป็นมึงตลอด เรียกว่าป้ายขี้ให้มึงทุกอย่าง แต่พอข่าวดีก็จะบอกว่าเป็นตัวกูเอง แม่ง.... ยังงี้บ่อยๆกูก็ไม่ไหวนะเว้ย เข้าใจกูมั่งมั๊ย" มันบ่นแล้วก็กอดอกอย่างไม่พอใจ
ผมก็ได้แต่นิ่งฟังมันเพราะถูกของมันแล้วครับ ยิ่งผมทำตัวแย่เท่าไหร่ก็เหมือนกับว่าดึงให้มันต่ำลงไปด้วย แม้จะบอกว่าเป็นผมแต่คนอื่นก็ยังครหามันได้อยู่ดี นี่แหละน๊า.... ปากคน
" เออ... โอเคว่ะ ป้าง กูขอโทษที่ทำมึงซวยไปด้วยอย่างนี้น่ะ"
" อ่ะ เฮ่ย... นี่มึง ขอโทษกูเหรอ กูฟังไม่ผิดใช่ป่ะ" มันร้องออกมาซะเสียงหลง เว่อร์ละมึง
" สัดนี่... กูขอโทษจริงๆ ทำไมวะ คนอย่างกูมันเชี่ยมากจนถึงกับจะพูดขอโทษคนอื่นไม่ได้เลยรึไง"
" เปล่า... กูแค่งงว่ะ ทุกทีมึงไม่เคยยอมกูนี่หว่า เถียงกูหัวชนฝาทุกอย่างอ่ะ เหมือนมึงไม่เคยคิดว่ามึงผิดเลยไง แต่คราวนี้ทำไมยอมง่ายๆวะ"
" เออ...อ อย่ามาตั้งคำถามกูเยอะแยะ เอาเป็นว่ากูรู้ตัวแล้วว่ากูผิด โอเคมั๊ย... ต่อไปกูจะถนอมตัวไม่ให้เป็นข่าวอีกละกัน มึงไม่ต้องมากังวลแล้ว แต่ถ้าอยากให้กูไปนั่งแถลงแก้ข่าวให้ก็นัดวันมา" ผมสรุปอย่างรวดเร็ว
ห่าเอ๊ย.... กลับๆไปซะทีเว้ย เดี๋ยวเกิดน้องมินมันกลับมาเจอมึง กูก็เน่าดิ
" ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูดูก่อน อาจจะไม่ต้องมาแถลงข่าวอะไรอีกก็ได้ เออ.. กูขอบใจมึงนะ" มันยิ้มให้ผมซะกว้างเลย จะว่าไปผมเองก็ไม่ได้เห็นมันยิ้มอย่างนี้กับผมมานานแล้วเหมือนกันนะ
" เออๆๆ ไม่ต้องมาอะไรกะกูละ สัด... กลับๆไปได้แล้ว กูง่วง จะนอนต่อแล้ว" ผมว่าแล้วก็รีบดันหลังมันไปที่ประตูทันที
" อ้าว... ไอ้เชี่ยนี่ แล้วเมื่อกี๊บอกกูว่าหิวจะชวนลงไปกินข้าว เปลี่ยนอารมณ์เร็วจังนะมึง" ฉิบหาย กูพูดยังงั้นเหรอวะ แม่งเอ๊ย.... ลนจนได้เรื่องละ
" โว้ย... ไอ้ห่า ก็ตอนนี้กูง่วงอีกแล้ว มึงจะทำไมกูห๊ะ ไสหัวกลับไปได้แล้ว" ผมโวยวายไปพร้อมๆกับยังคงดันตัวมันออกไปหน้าห้องจนแทบจะต้องเอาตีนยันแทนอยู่แล้ว พอมันออกพ้นประตูไปผมก็รีบปิดทันทีโดยไม่ฟังเสียงมันอีก
แม่ง.... กว่าจะไล่ไอ้ตัวปัญหาไปได้ แทบตายเลยกู เกือบซวยแล้วมั๊ย แต่ว่าในขณะที่ผมยืนโล่งใจอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงปลดล๊อคคีย์การ์ดอีกแล้วครับ
" เฮ้ย... กูลืมมือถือกูกับหนังสือน่ะ" มันเปิดประตูเข้ามาอีกแล้วครับ แล้วก็เดินมาหยิบมือถือกับหนังสือเมื่อกี๊ที่โต๊ะรับแขก แมร่งเอ๊ย....ย ไอ้เชี่ยป้างง...ง กูจะฆ่ามึ๊งง......ง
" ไอ้สัด.... ของแค่นี้ทำไมต้องลืมวะ แมร่ง" ผมบ่นเสียงดังอย่างหัวเสียสุดๆ
" เอ๊ะ... ไอ้นี่ แค่นี้มึงจะมาโมโหกูทำไมวะ เมายังไม่สร่างเหรอมึง" มันบ่นบ้าง
" ไปเลยๆ สัด กูจะนอน" ผมผลักมันไปที่ประตูอีกครั้ง แต่.... มีเสียงปลดล๊อค จากนั้นประตูก็เปิดออก
ผมกับไอ้ป้างได้แต่ยืนอึ้งกันอยู่หน้าประตูตรงนั้นเอง
" อ้าว... เอ๊ะ... พี่... "
งานเข้ากูแล้ววววว.......... สราด...ด งานช้างเลยด้วย
*********************************