ตอนที่ 3 เก็บน้องหมากลับบ้าน
วันนี้เลิกงานค่อนข้างเย็นผมเลยจอดรถไว้ที่โรงพยาบาลแล้วเดินเลียบถนนไปประมาณสิบห้านาทีมันจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยทั้งนักศึกษาและคนแถวนี้ชอบแวะมากันจนร้านแน่น
“สวัสดีครับคุณหมอ เลิกงานแล้วหรอครับ”
“ครับลุง เป็นไงบ้างครับข้อมือหายหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้วครับหมอ ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวผมหาโต๊ะให้นั่งครับ”
“ไม่เป็นไรครับลุง ผมรอได้ ตามคิวดีกว่า”
“ได้ครับคุณหมอ งั้นผมให้คุณหมอแบบพิเศษเลยนะครับ”
คุณลุงแกเป็นเจ้าของร้านแล้วไปเจออุบัติเหตุทำให้ข้อมือขวาหักตอนนี้ก็เป็นคนไข้ของผมอยู่ ดีมีลูกมือหลายคนคอยช่วยแกทำก๋วยเตี๋ยว
ผมเลือกมายืนเลยร้านไปหน่อยเพราะควันจากหม้อก๋วยเตี๋ยวมันร้อน ไม่น่าเชื่อว่าร้านเล็กๆมีโต๊ะนั่งสิบกว่าโต๊ะจะเป็นที่นิยมขนาดนี้
“ลุงงงง เหมือนเดิมมม หิวมากด่วนๆ ผมนั่งโต๊ะนี้นะ”
“ว้ะไอ้หนู มึงรอก่อน คิวเยอะ แล้วโต๊ะนั้นข้าจะให้คุณหมอ หมอเขาจองไว้ก่อนเอ็ง”
เสียงมันคุ้นๆ
“ลุงเห็นใจคนขาหักหน่อยเด้ หมออ่ะต้องมีจรรยาบรรณสละที่นั่งให้ผมอยู่แล้ววววว”
ผมหันไปชะเง้อดู คิดแล้วไม่มีผิด ไอ้เบียร์ปากเสีย !
“ถุยไอ้นี่ เดี๋ยวปั๊ดไม่ให้กิน หมอนั่นก็ลูกค้าข้านะโว้ย”
“ลุงง้ะ ไม่กินร้านลุงละผมจะไปกินร้านใคร มีร้านลุงร้านเดียวที่ทำได้ถูกใจผม น้าลุงน้า”
มันทำหน้าเง้างอดเกาะแขนลุงกระพริบตาปริบๆ ดูมันทำ ลุงแกก็ส่ายหัวผสมระอาผสมเอ็นดู ก็มันทำตัวซะน่าเอ็นดูขนาดนี้ใครจะเกลียดมันลง !
“ลุงครับ ผมนั่งกับเขาก็ได้ คนไข้ผมเหมือนกัน”
ผมเดินไปดึงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามไอ้เบียร์ออกมานั่ง มันเบิกตากว้างมองผมสลับไปมากับลุง
“ทำไม นั่งไม่ได้หรอครับ ?”
“อ่าวรู้จักกันก็ดีแล้ว พูดดีๆกับคุณหมอล่ะ เขาช่วยรักษาเอ็งนะ เข้าใจมั้ย คุณหมอรอสักครู่นะครับ”
ลุงเดินไปจัดการคุมลูกน้อยทำก๋วยเตี๋ยว ไอ้เบียร์ก็ทำแก้มป่องปากยื่นทันที
“ทำหน้าบูดเป็นตูดลิง”
“ไม่เหมือนโว้ย หมอชอบดูตูดลิงหรอถึงรู้ว่าเหมือน”
“แล้วตูดลิงต้องเป็นยังไง”
“แดงๆมีขน เฮ้ยไม่รู้ อย่ามาหลอกถามดิวะ”
“ก็ตอบไปแล้วนี่ ?”
“เออว่ะ ไรวะ!”
ผมว่ามันคงมีกระบวนความคิดที่สับสนในตัวเองอยู่แน่ๆ แต่มันก็ดูตลกดี เถียงแบบเด็กๆ ทำหน้าบูดๆ สไตล์มัน
“แล้วทำไมลุงมากินร้านนี่อ่ะ”
“ทำไมจะมาไม่ได้ทีเอ็งยังมาได้เลย”
“ก็คิดว่าหมอต้องกินร้านหรูๆในห้าง แบบดูดี๊ดูดีไฮโซอะไรงั้น เคยเห็นในหนังหมอแต่ละคนแม่งทำหน้าวิ้งกินอาหารอิตาเลียน”
“ก็มันแค่หนัง”
“ก็ว่างั้นเพราะลุงดำ ไม่ได้ขาวเหมือนหมอในหนังเลยอ่ะ”
ไอ้เด็กเปรต ! หมอดำก็มีเยอะแยะโว้ยแต่ดาราส่วนมากมันไม่ค่อยดำกันนี่หว่า อาบน้ำแร่แช่น้ำนมดูแลผิวกันตลอดเวลาเพราะมันใช้หน้าตาร่างกายทำงาน ส่วนกูนี่บางทีก็ต้องผ่าตัด เข้าเวรดึกๆดื่นๆ ดูแลคนไข้ทั้งวันจะเอาเวลาไหนไปบำรุงครับแหม่
“ติดละครจนเพ้อไปละ เอายาเพิ่มมั้ย ?”
“ทำมาหน้าบึ้ง แหย่เล่นนิ้ดดดดดเดียวววว อย่าน้อยใจเลยน่ะ เดี๋ยวผมให้ลูกชิ้นหนึ่งลูก ฮุฮุ”
“ลูกเดียว ?”
“อย่าโลภดิลุงนี่ตัดใจให้เลยนะ ปกติผมหวงมากกกกกกกกกกก”
เออกูเชื่อละหน้ามึงเครียดมาก
“อ่ะ เล็กต้มยำน้ำข้นสองที่ คุณหมอกับไอ้หนูชอบกินเหมือนกันเลย”
“เฮ้ยทำไมของลุงหมอเขาได้เยอะกว่าผมอ้ะ !”
ผมอมยิ้มเมื่อเห็นปริมาณชามตัวเอง เพราะลุงแกบอกไว้ว่าจะเพิ่มให้เป็นพิเศษ มันเลยมีทุกอย่างครบส่วนของไอ้เบียร์มันแบบธรรมดา
ไม่มีเส้นสาย
“ข้าพอใจ เอ็งจะทำไม”
“โด่ว ลำเอียงอ้ะ นี่ผมยังต้องเสียสละลูกชิ้นให้ลุงหมออีกตั้งลูก ฮืออ อยากจะร้องไห้ ทำไมรังแกเด็ก”
“นี่ไม่ได้ขอเลยนะ บอกจะให้เอง ลูกผู้ชายพูดแล้วห้ามคืนคำ”
“เออตามคุณหมอว่า ข้าเข้าข้างคุณหมอโว้ย ขอตัวไปดูลูกค้าต่อนะครับคุณหมอ”
“ครับลุงขอบคุณมากครับ”
ผมยิ้มให้ลุงแล้วหันมายักคิ้วกวนตีนให้คนเสียดายลูกชิ้น ในชามผมมีแล้วห้าลูก ส่วนมันมีสองลูกมันเลยทำหน้าเสียดายมาก
“ลาก่อนนะลูกชิ้น …”
มันกลั้นใจคีบลูกชิ้นมาใส่ชามผมหน้าตาน่าสงสารสุดๆ แต่ถ้ายอมมันเดี๋ยวมันได้ใจ เดี๋ยวมันเหลิง หาว่าผมใจดี ผมเลยคีบลูกชิ้นที่มันส่งให้เข้าปากเคี้ยวทันที
“อร่อยจริงๆด้วย ขอบคุณมาก”
“แง่งงง กินไปเลย !”
“ลุงจะไปส่งจริงอ่ะ หอผมไม่ไกลหรอก ไปเองก็ได้”
เราออกมายืนหน้าร้านแล้วแต่ผมไม่ค่อยอยากให้มันไปเองขามันยังเดี้ยงยังต้องใช้ไม้เท้าประคอง
“คราวก่อนไปก็ไม่ใกล้มากหรอก มาเถอะเดี๋ยวไปส่ง ขอบคุณที่เลี้ยงลูกชิ้นไง ดีมั้ยล่ะ ?”
“เหอะ เลิกพูดเรื่องนั้นเลยลุงงง มันเจ็บกระดองใจชะมัด !”
“ฮ่าๆ ป่ะๆ”
ผมไม่ได้ประคองมันเหมือนคราวก่อน มันจะดีกว่าถ้ามันฝึกเดินด้วยตัวเองจนชิน เพราะมันต้องอยู่กับเฝือกไปอีกสักพักใหญ่ๆ ผมแค่ก้าวเท้าให้สั้นลง มันจะได้เดินตามผมทัน
“จริงๆใช้ไม้ค้ำนี่มันสนุกนะลุง มันเหมือนจะกระโดดไกล แอ่นตัว ยกตัวแล้วพุ่ง ย๊ากกกก”
ไม่น่าเป็นห่วงมันเลย ! ดูมันเอ็นจอยชีวิตมาก ไอ้เด็กไฮเปอร์!
“ระวังหน้าถลาจะขำให้”
“โถ่ระดับนี้ ใครครับ ท่านเบียร์ครับ”
“ที่จอมยุทธ์ถลาหน้าทิ่มพื้นอะนะ ?”
“มันลื่นเฉยๆเฟ้ย !”
“หือ”
“มันลื่นเฉยๆครับ …”
“แล้วต้องใส่ชุดวอร์มไปเรียนทุกวันเลยสินะ”
เพราะใส่เฝือกจะให้ใส่กางเกงแสล็คหรือกางเกงยีนส์ไปเรียนคงจะไม่ถนัด มันเลยใส่ชุดวอร์มมหาลัยไปเรียนแทนแหงๆ
“ก็ช่ายยย นี่ทำเรื่องดรอปฟุตบอลไปด้วย ไว้ลงเทอมอื่น เซงเลย วันนี้รูมเมทก็ไปค่ายอาสาบนดอยเจ็ดวัน อดไปเลยอ่ะลุง เรียนอย่างเดียว โดนทิ้งอยู่หอ เสียใจสุดๆ”
“เอาน่ะ บางทีอาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ให้แปลกใจก็ได้นะ”
“ถ้ามีก็ดีเด้ ! เบื่อจะตายแล้ววว”
“นี่ไงเซอไพรส์มั้ยล่ะ”
ผมยิ้มขำกับคนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เพราะเข้าห้องไม่ได้เพราะมันลืมกุญแจห้องมันไว้ในห้อง ส่วนรูมเมทมันอีกสองคนไปค่ายต่างจังหวัดกันหมด
“ไม่เอาแบบนี้อ้ะ โอ้ยยยยยยยยย ทำไงเนี่ย เสื้อผ้าทุกอย่างของผมเลยนะ ไรวะแม่งงงง”
“เพื่อนคนอื่นล่ะ ลองโทรหายัง”
“ที่สนิทก็มีมันสองคนนี่แหละ ถึงจะคนละคณะก็เหอะ ส่วนเพื่อนในคณะที่ลุงเห็นส่วนมากมันนอนหอในกัน ที่ไปกลับก็กลับไปหมดแล้ว โอ้ยยยยหงุดหงิด ไม่อยากไปนอนหอในเลยอ่ะลุง”
“งั้นไปบ้านฉันมั้ยล่ะ ? ไม่ไกลมหาลัยเท่าไหร่ ฉันอยู่คนเดียว รับรองสบาย”
ผมไม่รู้ทำไมว่าต้องรู้สึกดีใจที่มันอาจจะต้องมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับผมทั้งๆที่มันกำลังลำบาก เอาเถอะไว้ค่อยคิดแล้วกัน … ผมยังหวั่นๆกับคำตอบตัวเองอยู่ …
“ลุงจะล่อลวงผมไปขายหรอ ?”
“ตัวก็แห้ง ขาก็หัก เอาไปก็ภาระ อย่าเพ้อเจ้อดิ”
“ลุงแม่งใจร้ายว่ะ ผมไม่ไปกะลุงหรอก ชอบว่าผม ผมจะนอนแม่งหน้าห้องนี่แหละ”
“โอเค งั้นกลับละ โชคดี”
ผมหันหลังให้มันแล้วเดินไปที่ลิฟต์ทันที แวบหนึ่งเหมือนเทคนิคการเลี้ยงน้องหมาที่เคยอ่านสมัยมัธยมก็แวบเข้ามา … ขั้นแรกต้องสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้น้องหมา … หมาที่ดีต้องไม่เอาแต่ใจ! และห้ามดื้อกับเจ้าของนะเบียร์!
“ลุงงง ไปด้วยย ผมขอโทษษ อย่าทิ้งผมไว้นะ !”
มันโวยวายแล้วใช้ไม้ค้ำพยุงตัวเองมาทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในลิฟต์ หึหึ ค่อยเป็นน้องหมาที่น่ารักหน่อย !
... วันนี้เก็บหมาได้หนึ่งตัว
- ------------------------------------------------------ --
ผู้ใหญ่มันหลอก หรือ เด็กมันอ่อยเนี่ยยยย 55555
#มาเรียนฟิลิปินส์ค่ะ เน็ตป่าช้ามากค่ะ TT พยายามอัพหลายวันละไม่ได้สักที ในที่สุด กริ๊ดดดดดดด