Magica Café
Magic (2)โต๊ะทานข้าวในครัวสำหรับพนักงานร้าน Magica Café ปอมปอมกำลังนั่งดื่มน้ำหลังจากเพิ่งทานข้าวเสร็จ ปากยังคงคาบหลอด
ดูด ขณะที่สายตากลอกไปมาท่าทีมีพิรุธ ถ้าเป็นในการ์ตูนคงมีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาเป็นแน่ อาร์ดิวนั่งอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ ท่าทาง
น้องชายของเขาคงไปทำอะไรเอาไว้อีกแน่ๆทีเดียว ก็ชีวาเล่นมานั่งจ้องเสียขนาดนั้นนี่นะ
ป๋าวาของกะปอมนั่งกอดอกจ้องหน้าเจ้าตัวแสบ ตั้งแต่วันที่มีลูกลิงทโมนปีนข้ามมาที่ห้องของเขาแล้วเอาอะไรไม่รู้มาซ่อนเอา
ไว้ ชีวาก็พยายามหามันแทบตายแต่ก็ไม่เจอ ตอนนี้เขาจึงได้มานั่งจ้องหน้าตัวการเพื่อจับพิรุธ กะปอมน้อยถอนใจเฮือกเมื่อชีวา
ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกจ้อง
“ป๋าเป็นอะไรน่ะ มองหน้าปอมอยู่ได้”
ปอมปอมหน้ามุ่ย จะจ้องให้ท้องเลยหรือไง จากที่หวั่นใจตอนนี้ชักจะกลายเป็นไม่พอใจแล้ว จ้องอะไรหนักหนา
“ป๋า…”
“เอาอะไรไปซ่อนไว้ที่ห้องพี่ ปอมปอม?”
ชีวาเอ่ยแทรกเมื่อปอมปอมอ้าปากจะพูด พอถูกถามมาเช่นนั้นตัวแสบก็หุบปากฉับ แสดงอาการมีพิรุธให้เห็นก่อนจะเอ่ยปฏิเสธ
เสียงสูง
“อะไร ไม่มี๊~”
“เสียงสูงอีกแล้ว” ชีวายังจับผิด
“เอ๊า ก็มันไม่มี!”
หนุ่มน้อยยังยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองเสียงแข็ง ดวงตาที่ดูเฉี่ยวขึ้นตรงหางตาตามแบบฉบับของชีวา พอจ้องแบบจับผิด
เช่นนี้แล้วมันทำให้คนโดนจ้องออกอาการหวาดๆเหมือนกัน ปอมปอมก้มหน้าก้มตาดูดน้ำในแก้วไม่มองใคร นั่นยิ่งทำให้เขาจับ
พิรุธได้กันหมด
“อย่าให้พี่จับได้นะตัวแสบ เดี๋ยวได้โดนหนัก” ชีวาข่มขู่
“ใครกลัว ใครแคร์ ฮูแคร์ครับผม~~”
หนุ่มน้อยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ท่าทางดูยียวนน่าหมั่นไส้เหลือเกินในสายตาชีวา จมูกที่ยื่นมานั่นเลยถูกคนพี่บีบเข้าให้ ปอมปอม
ร้องโวยวายให้อาร์ดิวช่วย แต่พี่ชายกลับลุกเอาจานชามที่ทานข้าวเสร็จแล้วไปล้างหน้าตาเฉย ไม่มีใครอยู่ข้างปอมเลยอ่า~~
“ชอบบีบจัง มันยิ่งมีน้อยอยู่” ปอมปอมบ่นพึมเมื่อชีวายอมปล่อยจมูกตนเอง
“เออนะ มีน้อยจริงๆนั่นล่ะ ฮ่าๆ”
ชีวาขำกลิ้ง ทั้งยังตอกย้ำซ้ำเติม หนุ่มน้อยเลยหน้างอ จมูกแดงๆนั่นทำเอาชีวาหัวเราะขำไม่หยุดเลยโดนตัวแสบโป้งไม่ยอมพูด
ด้วย แล้วใครแคร์? ฮูแคร์? ป๋าไม่แคร์หรอกครับ เดี๋ยวหายงอนลูกลิงก็ย่องมาหาป๋าเองแหละ หึหึ
+++++++++++++++
ปอมปอมเดินหน้างอง้ำออกมาหน้าร้าน อาร์ดิวหันมามองน้องชาย ก่อนเบนสายตาไปยังคนที่เดินตามกันออกมา ทะเลาะอะไร
กันอีกแล้วไม่รู้คู่นี้ เด็กหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นเพื่อนวัยเด็กอย่างชีวาตีสีหน้าท่าทางยียวนใส่น้องชายของตนเอง ปอมปอมยิ่งหน้า
งอหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำแบบนั้น
“งอนอะไรกันอีกล่ะปอมปอม?” อาร์ดิวเอ่ยถามน้องที่กำลังส่งสายตาเขียวปั๊ดไปให้ป๋าวาอยู่
“ไม่รู้ ปอมงอน!”
“อ้าว?” อาร์ดิวอุทานงงๆ ก่อนหัวเราะขำ
“แล้วเรื่องที่ชีวาพูดที่โต๊ะกินข้าวน่ะ คืออะไร?”
อาร์ดิวเอ่ยถามถึงเรื่องที่ปอมปอมกับชีวาคุยกันในครัว ปอมปอมแยกเขี้ยวใส่ป๋าวาที่ถือถาดอาหารเดินผ่านไปเสิร์ฟ ก่อนหันมา
ถามพี่ชายกลับกวนๆ
“อะไรคืออะไร?”
“เอาอะไรไปซ่อนในห้องชีวา?”
“เปล่าสักหน่อย” หนุ่มน้อยลอยหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ปากแข็ง... อ้อ~ รู้ละ” คนเป็นพี่อมยิ้มเมื่อเริ่มรู้อะไรเลาๆ ปอมปอมตาโตก่อนกระซิบบอก
“อย่าบอกป๋านะดิว”
“คิดว่ามันจะได้ผลจริงเหรอ?”
“ช่างปอมเถอะ”
ปอมปอมบอกก่อนหันไปคิดเงินค่าอาหารจากบิลที่พนักงานเอามาวางให้ต่อ อาร์ดิวมองน้องยิ้มๆ ปอมปอมไปได้เคล็ดอะไรจาก
เพื่อนผู้หญิงในห้องมาไม่รู้ เห็นบอกว่าเป็นเคล็ดลับทำให้คนที่ตัวเองแอบชอบหันมารักชอบได้ ดูเป็นสาวน้อยมากกับการเขียน
ชื่อตัวเองกับคนที่ชอบลงบนกระดาษหนึ่งแผ่น ให้ครบหนึ่งพันครั้ง ต้องให้พอดีกับกระดาษแผ่นเดียวด้วยมันถึงจะได้ผล น้อง
ชายเขาก็มานั่งวัดนั่งคำนวณอยู่นั่น แถมเคล็ดยังให้เขียนด้วยมือห้ามปริ้นท์เอาอีก ลงทุนกันน่าดู จากนั้นแล้วยังไม่พอ เพราะ
ต้องเอาไปซ่อนในห้องของคนที่ตัวเองแอบชอบอีก เอาเข้าไป คิดแล้วอาร์ดิวก็อยากจะขำนะ แต่มันทึ่งมากกว่าอีกที่ทำกันถึง
ขนาดนี้
ชีวาเข้าไปเอาอาหารในครัวเพื่อนำไปเสิร์ฟอีกรอบ เดินผ่านเคาน์เตอร์ที่สองพี่น้องประจำการอยู่ก็ยังมายักคิ้วกวนใส่ปอมปอมอีก
อาร์ดิวถอนใจเฮือก ช่างไม่รู้อะไรเลยนะชีวา…
+++++++++++++++
การพาสาวมาที่ห้องมันคงกลายเป็นกิจวัตรสำหรับชีวาไปแล้ว และค่ำนี้ก็เช่นเคยที่พริม สาวรุ่นพี่ที่กำลังคบหากันอย่างเปิดเผย
กับชีวา แต่ทั้งคู่กลับไม่เรียกความสัมพันธ์นี้ว่าแฟน ชีวาพารุ่นพี่สาวมาที่ห้อง ให้นั่งรอสักเดี๋ยวขณะที่ตนเองลงไปหาอะไรมาให้
ทานเล่น
ขณะที่นั่งรอชีวา พริมก็เลยไปเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อไม่ให้มันเงียบจนเกินไป พอจะกลับมานั่งที่เตียงก็เห็นมีอะไรไม่รู้อยู่ใต้เตียง พริม
คุกเข่านั่งลงไปเก็บเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษที่ถูกขยำเป็นก้อนกลมๆแล้วติดเทปใสแน่นหนา รุ่นพี่สาวขมวดคิ้วเพราะไม่รู้
ว่ามันคืออะไร จับพลิกไปพลิกมาแล้วจะแกะออกดู ชีวาเข้ามาในห้องพร้อมน้ำและผลไม้ในจาน เด็กหนุ่มเอาถาดของว่างนั้นไป
วางบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์ ก่อนเดินมานั่งข้างๆพริมที่เตียงแล้วเอ่ยถาม
“อะไรน่ะครับ พริม?”
“ไม่รู้สิ มันอยู่ใต้เตียงวาน่ะ”
พริมยื่นให้ชีวาดู เด็กหนุ่มรับมามองๆแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามันน่าจะเป็นของที่ปอมปอมเอามาซ่อนไว้แน่ เพราะเขาไม่เคยมีไอ้ก้อน
กลมๆนี่สักหน่อย อุตส่าห์หาแทบตายกลับไม่เจอ พริมเพิ่งมาแต่กลับเจอมันง่ายๆ อะไรกันนี่??
ชีวาเอาก้อนกระดาษไปใส่ไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียงแล้วมาคุยกับสาวต่อ กระหนุงกระหนิงกันตามประสา เด็กหนุ่มขยับเข้าใกล้สาวมาก
ขึ้น ค่อยโน้มหน้าเข้าไปจูบเธอเบาๆ มองสบสายตาอย่างรู้กันดี ก่อนเอนกายสาวเจ้าลงบนที่นอนนุ่ม ปล่อยให้น้ำที่ตนเองถือมา
กร่อยไม่เป็นท่าเมื่อไม่มีคนสนใจ
ชีวาซุกไซ้ซอกคอสาว ขณะที่เธอเองก็เอียงคอให้ด้วยความเต็มใจ ใบหน้าสวยหันไปทางประตูกระจกบานเลื่อนที่รูดม่านปิดเอา
ไว้ แต่มันมีช่องเล็กๆที่ยังปิดไม่สนิท ลมพัดม่านเบาๆทำให้สายตาสาวสวยมองเห็นคนยืนก้มหน้าอยู่ในเงามืด ดวงตาพริมเบิก
กว้าง ก่อนริมฝีปากจะส่งเสียงกรีดร้องลั่น
“กรี๊ดดดดดๆๆๆ วา... วาคะ ผี... ผี!!!!”
“ผีที่ไหนครับ?”
ชีวาผละลุก อารมณ์หวามไหวปลิวหายไปหมดเมื่อรุ่นพี่สาวสวยกรีดร้องออกมา ก่อนหันไปมองทางที่พริมหลับตาปี๋แล้วชี้มือไป
แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรอย่างที่อีกฝ่ายบอก เด็กหนุ่มลุกลงจากเตียงไปที่ประตูกระจกก่อนรูดม่านแล้วเลื่อนประตูเปิด ก้าวออกไป
ที่ระเบียงห้อง สายตาจ้องมองห้องตัวแสบฝั่งตรงข้ามก็เห็นยังเปิดไฟอยู่ ก็นี่มันยังหัวค่ำอยู่นี่นะ เด็กอนามัยคงยังไม่นอน
ชีวากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เอ่ยปลอบใจสาวว่าเพียงตาฝาดไป แต่พริมที่เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วจึงเอ่ยขอตัวกลับจะดีกว่า ชีวาถอน
ใจกับเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้น ก่อนออกไปส่งรุ่นพี่สาวสวย พอกลับเข้ามาที่ห้องอีกทีปอมปอมก็นั่งหน้าแป้นแล้นอยู่บนเตียงแล้วเป็น
ที่เรียบร้อย
“นึกแล้วเชียว ลูกลิงตัวแสบ”
ชีวาบ่นพึม กอดอกมองหนุ่มน้อยที่บุกรุกห้องของตนเอง ไอ้ผีที่ว่าน่ะคงไม่พ้นปอมปอมนั่นล่ะ บ้านเขามีผีที่ไหนกัน นี่คงปีนข้าม
มาอีกแล้วล่ะสิ บอกกี่ทีแล้วว่ามันอันตรายก็ไม่เคยเชื่อฟังกัน
“ป๋าหื่นจัง” ปอมปอมเอ่ยว่าตาใส
“ใครๆก็เป็น” ชีวายักไหล่เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่รู้สึกเนียมในใจอยู่เล็กๆที่ให้เด็กน้อยข้างบ้านเห็นอะไรแบบนั้น
“ปอมไม่เห็นเป็น”
“...........” เจอประโยคนั้นเข้าไปทำเอาชีวาหมดคำอธิบาย ก็นะ เรื่องแบบนี้ควรมานั่งอธิบายให้ใครฟังหรือไง
“อ้อ! ไอ้ก้อนกลมๆที่เราเอามาซ่อนไว้น่ะ พี่เจอละ อยากรู้นักว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น”
ชีวาเอ่ยขึ้นเมื่อนึกได้ รอยยิ้มเป็นต่อผุดขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนเดินไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง ปอมปอมยังนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงเฉย
ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจแต่ประการใดจนชีวานึกแปลกใจ พอเปิดลิ้นชักหัวเตียงออกมาแล้วไม่เจอเจ้ากระดาษก้อนกลมนั้นเสียแล้ว
ชีวาถึงเพิ่งเข้าใจว่าทำไม เด็กหนุ่มหันมามองปอมปอมที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ซ่อนไว้ที่ไหน?”
“อะไร?”
หนุ่มน้อยลอยหน้าถามเมื่อพี่ชายข้างบ้านเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า ปอมไม่รู้เรื่อง~
ชีวาขยับเข้าไปใกล้อีกนิด หรี่ตาหน่อยๆท่าทางเหมือนเสือเตรียมขย้ำ ปอมปอมพลิกตัวขึ้นไปบนเตียงเพื่อที่จะหนีลงไปอีกด้าน
แต่ขาเรียวเล็กนั้นกลับโดนชีวาคว้าหมับจับไว้
“ป๋า งืออออ อย่าจับขาปอม ปอมไม่ได้ซ่อนอะไรเอาไว้น้า~” ปอมปอมดิ้นแรง ทั้งยังถีบขาไปมา ชีวาจึงรวบขาทั้งสองข้างนั้นกด
เอาไว้
“โกหก ไหน ซ่อนไว้ตรงไหน หืม?”
“อ๊ากกกก ป๋าอ่ะ ฮือออ~”
ชีวาขึ้นมาบนเตียงแล้วนั่งทับขาที่ถีบไม่หยุดนั่นไว้ ก่อนดันตัวผอมบางให้ยึดติดที่นอน กลายเป็นว่าตนเองนั่งคร่อมน้องอยู่ไม่รู้ตัว
เด็กหนุ่มลูบมือเข้าไปในเสื้อแขนยาวตัวหนามีฮูดหูแมว ในใจคิดว่าน่าจะเป็นหูลิงมากกว่าจะได้เหมาะกับตัวแสบอย่างปอมปอม
หน้าท้องขาวๆโผล่ออกมาอวดสายตาเมื่อชีวาล้วงมือสูงขึ้นไป ความอุ่นและสากแปลกๆของมือชีวาทำให้ปอมปอมดิ้นไปมา ไม่
ยอมอยู่นิ่งๆให้ค้นได้ง่ายๆ จั้กจี้อ่ะ~
จนเมื่อค้นเจอชีวาถึงผละออกมา และถึงเพิ่งรู้ว่าตนเองกับน้องชายข้างบ้านอยู่ในท่าล่อแหลมแค่ไหน เด็กหนุ่มรีบลุกโดยเร็วไว
ก่อนจะปรับสีหน้าตื่นๆของตนเองให้เป็นปรกติ กระแอมกระไอเล็กน้อย ยกก้อนกระดาษในมือขึ้นมาแล้วเอ่ยเยาะเย้ยตัวแสบที่
นอนหอบแฮ่กอยู่บนเตียง
“ได้มาแล้ว หึๆ”
ปอมปอมยังคงนอนหอบอยู่ ก็เขาร้องห้ามจนเหนื่อยป๋าก็ไม่ยอมหยุด มือเรียวจับชายเสื้อของตนเองที่ร่นขึ้นมาถึงหน้าอกให้ขยับ
เข้าที่เข้าทาง ทำให้สายตาของชีวาพลอยมองตามไปด้วย พอเผลอมองแล้วก็ชะงักกับภาพที่เห็น ถ้าเป็นสาวเป็นนางหน่อยเขา
จะคิดว่านอนยั่วกันเลยนะนี่ เด็กอะไรวะ ตัวบางๆ ขาวๆ น่าฟัดชะมัด... โอ๊ยยย หื่นไปแล้วชีวาาา ป๋าหื่นแทบอยากจะทึ้งหัวตนเอง
ที่คิดอะไรเลยเถิดกับเด็กผู้ชาย
ปอมปอมลุกขึ้นนั่งแล้วมองชีวางอนๆ ป๋าหื่นสลัดความคิดชั่วร้ายของตนเองทิ้ง ก่อนที่จะแกะก้อนกระดาษนั้นออกดู คนบนเตียง
ลุกขึ้นยืนทำให้ชิดกับชีวาที่อยู่หน้าเตียงพอดี ชีวาเลิกคิ้วมองว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แขนเรียวเล็กโน้มคอคนเป็นพี่ลงมาไม่ให้ทัน
ตั้งตัว ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มๆจะแตะเข้ากับปากของพี่รวดเร็ว
จุ๊บ!ชีวาอึ้งค้าง ความรู้สึกนุ่มนิ่มที่แตะผ่านรวดเร็วนั่นมัน...
“ปอม…”
เด็กหนุ่มเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายคล้ายละเมอ เมื่อเห็นแก้มของหนุ่มน้อยตรงหน้าแดงน่าฟัดเป็นบ้า ปอมปอมผละออกมาแล้ววิ่งไป
ที่ประตูกระจกตรงระเบียง ก่อนจะหยุดกึกเมื่อเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ขาเรียววิ่งดุ๊กดิ๊กย้อนกลับมาที่ประตูหน้าห้อง เปิดมันออกไป
ก่อนที่จะปิดมันลงยังหันกลับมามองเจ้าของห้องอีกที อมยิ้มแล้วเม้มปากเขินๆก่อนผลุบหายไป
ชีวายังยืนเพ้ออยู่ที่เดิม ก่อนที่จะสะบัดหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อของตนเอง เมื่อก้มลงมองที่มือปรากฏว่ากระดาษก้อนนั้นมันได้
อันตรธานหายไปเสียแล้ว ริมฝีปากของเด็กหนุ่มยกยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่เอาไป
‘แสบนักนะ กะปอมน้อย’-----------------
กระดาษเจ้าปัญหากลับมาอยู่ในมือปอมปอมเป็นที่เรียบร้อย หนุ่มน้อยนั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงนอนของตนเองเมื่อได้ดั่งใจ
แต่พอนึกถึงสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วก็เขิน มือเรียวยกขึ้นจับแก้มตนเองเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนวูบวาบ ริมฝีปากก็กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่
“แรดจริงๆเลยเรา”
ว่าตัวเองแล้วปอมปอมก็หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะลงจากเตียงแล้วโผล่หน้าออกไปส่องที่ระเบียง เห็นชีวายืนอยู่ที่ระเบียงห้อง
ตรงข้ามกำลังมองมาทางนี้ด้วยเหมือนกัน ชีวายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะแตะนิ้วกับริมฝีปากตนเองแล้วจุ๊บเบาๆ ปอมปอมมองแล้วอ้า
ปากค้างเมื่อถูกล้อเลียน
“ป๋าบ้า!!!”
หนุ่มน้อยตะโกนใส่พี่ชายข้างบ้าน ก่อนผลุบหายเข้าไปในห้องแล้วไม่โผล่ออกมาอีก ชีวาอมยิ้ม ยืนมองห้องตรงข้ามอยู่จนไฟ
ในห้องนั้นดับลงจึงได้เดินเข้าห้องของตนเองบ้าง
+++++++++++++++
ร้านMagica Café
“นี่ ดิวไม่ต้องคิดมากหรอก เราไม่ได้เอาตัวเข้าไปยุ่งกับเขาสักหน่อย อยู่ห่างกันขนาดนี้ ไม่มีทางเกิดอะไรอย่างที่ดิวกังวลขึ้น
หรอกน่า”
ปอมปอมนั่งทานไอศกรีมอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงินในร้าน เอ่ยปลอบใจพี่ชายที่ตอนนี้เป็นกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิด ตั้งแต่ได้เจอ
กับพี่หน้าหล่อคนนั้น พี่ชายของเขาก็ดูจะเครียดเอามากๆ การได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นมันก็ไม่ได้ดีเสมอไป
“จริงเหรอ?”
อาร์ดิวรับถาดอาหารจากพนักงานในครัวมาส่งให้ชีวาที่รอทำหน้าที่เสิร์ฟอยู่ใกล้ๆ ปากก็เอ่ยถามน้องกลับไป
“เชื่อปอมป่ะล่ะ?” ปอมปอมยักคิ้วขณะที่ตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำโต
“เชื่อได้เหรอ?” คนเป็นพี่หรี่ตาเชิงล้อเมื่อเอ่ยถาม ทำให้น้องชายทำเสียงเง้างอด
“ดิวววววว”
“โอ๋ พี่ล้อเล่นน่า~”
อาร์ดิวดึงแก้มน้องชายที่ทำแก้มพองเพราะงอนเขา เอ่ยง้อนิดๆหน่อยๆหนุ่มน้อยหน้ามนก็หายงอนแล้ว ปอมปอมลุกจากหลัง
เคาน์เตอร์เพื่อเข้าไปล้างมือหลังร้าน อาร์ดิวจึงรับหน้าที่แทนชั่วคราว เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้ามา เสียงต้อนรับ
ของพนักงานก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงเหมือนเคย
“อาร์ดิว”
“มิว”
อาร์ดิวเอ่ยทักกลับไปพร้อมรอยยิ้ม มิว หรือ มิมิว เพื่อนสมัยเด็กอีกคนของเขานอกจากชีวา
“เหมือนเดิมจ้ะ” เด็กสาวตาโตน่ารักเอ่ยบอกกับอาร์ดิวอย่างรู้กัน
“ครับผม นั่งก่อนเลย”
อาร์ดิวเชิญเพื่อนให้ไปนั่งรอที่โต๊ะ เพื่อที่ตนเองจะได้ไปสั่งในครัวให้จัดการทำอาหารของโปรดที่เพื่อนชอบมาให้ มิมิวยิ้มให้
เพื่อนก่อนหันไปเรียกใครอีกคนให้เข้ามาในร้าน
“การ์ฟ เข้ามาสิคะ”
ชื่อที่เด็กสาวเอ่ยเรียกนั้นทำให้อาร์ดิวชะงัก ปอมปอมเดินกลับมาจากหลังร้านแล้วส่งยิ้มให้เพื่อนพี่ชาย ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นว่า
ใครเดินเข้ามา โลกมันกลมไปหรือเปล่า??
“นี่ มิวจะแนะนำให้รู้จัก”
มิมิวกระซิบเพื่อนอย่างอาร์ดิวที่ยังคงมองการ์ฟนิ่งอยู่ เจอกันอีกแล้วกับคนนี้ แถมยังรู้จักกับเพื่อนวัยเด็กของเขาเสียด้วยสิ
“นี่การ์ฟ... แฟนมิวเอง” มิมิวกระซิบบอกอาร์ดิวพร้อมรอยยิ้มเขินในตอนท้าย
“หา!!?”
เสียงร้องอุทานนั้นไม่ใช่เสียงของอาร์ดิวแต่อย่างใด ทุกสายตาหันไปมองที่มาของเสียง ชีวายิ้มเจื่อน เกาท้ายทอยตัวเองเก้อๆ
กับสายตาเหล่านั้น
“ชีวา เสียงดังไปนะ”
มิมิวหัวเราะน้อยๆพอน่ารักเมื่อพูดกับเพื่อนอย่างชีวา ขณะคนที่ได้ชื่อว่าแฟนอย่างการ์ฟจ้องอาร์ดิวเขม็ง มิมิวชวนการ์ฟไปนั่งที่
โต๊ะเพื่อรออาหาร การ์ฟละสายตาจากเด็กหนุ่มหน้าตี๋แล้วเดินตามแฟนของตนเองไป ในหัวของเขากำลังเกิดความสงสัย เพราะ
มันบังเอิญจนเกินไปที่เขาและอาร์ดิวได้มาพบเจอกันอยู่เรื่อยๆ แถมคนรอบกายยังรู้จักกันเป็นอย่างดีเสียอีก มันเป็นเรื่องบังเอิญ
เกินไปจริงๆ
เด็กหนุ่มพยายามไม่นึกถึงคำทำนายของน้าชายอย่างเทสต์ คงมีคนสงสัยว่าทำไมคำพูดเทสต์ถึงได้มีผลกับเขานัก นั่นเพราะคำ
ทำนายของเทสต์มันไม่เคยพลาด เทสต์ไม่ได้เป็นหมอดู แต่ทุกคำที่พูดออกมามักมีผลเป็นจริงตามนั้นเสมอ ทั้งที่การ์ฟไม่ชอบ
เรื่องพวกนี้ แต่คนรอบกายเขากลับมีแต่คนประหลาด รวมทั้งอาตี๋นั่นด้วย
พูดถึงอาตี๋ การ์ฟก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเดินหายเข้าไปหลังร้านการ์ฟจึงขอไปเข้าห้องน้ำ มิมิวพยักหน้า
รับรู้ ไม่ได้เอะใจอะไร
“นายจงใจหรือเปล่าน่ะ?”
การ์ฟเดินตามอาร์ดิวเข้ามาด้านหลังร้าน ทั้งที่บอกกับมิมิวว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงกลับมาหาเรื่องเพื่อนของเธออยู่ตรงนี้
ต่างหาก
“อะไรของคุณ?”
อาร์ดิวขมวดคิ้วกับคำถามลอยๆของการ์ฟ จงใจมาหาเรื่องกันโดยเฉพาะเลยสินะ
“ก็จงใจเป็นเพื่อนกับแฟนฉัน”
การ์ฟขยับเข้ามาใกล้อาร์ดิว กอดอก หรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม ขณะที่อาร์ดิวก้าวถอย ไม่อยากอยู่ใกล้นายคนนี้เท่าไหร่
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย?”
“จะไปรู้กับนายเหรอ”
คนนี้ก็ช่างตอบกำปั้นทุบดินเหลือเกิน อาตี๋หน้ามุ่ยกับคำตอบที่ได้รับก่อนเหน็บแนมไปเบาะๆ
“ถ้าไม่รู้แล้วอยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ”
อาร์ดิวจะเดินกลับไปยังหน้าร้านเมื่อเอ่ยจบ การ์ฟคว้าจับแขนของอีกฝ่ายไว้ เจ้าตัวเขาจะสะบัดออกแต่กลับต้องชะงักนิ่งไปเมื่อ
เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นอีกแล้ว
“อะไรอีก?”
เมื่อเห็นอาตี๋นิ่งไป การ์ฟก็หันซ้ายแลขวาอย่างระแวงว่าจะมีอะไรหล่นมาใส่หัวตนเองอีกหรือเปล่า ยังจำได้แม่นนะเรื่องกระถาง
ต้นไม้นั่นน่ะ
“ปล่อยผม…”
อาร์ดิวเอ่ยบอกเสียงติดจะเครียดจนการ์ฟจับสังเกตได้ มือของการ์ฟจึงค่อยปล่อยแขนอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ อาร์ดิวหมุนกายแล้ว
เดินหนีทันทีไม่มีรีรอ เด็กหนุ่มรีบจ้ำเดินไม่เหลียวหลัง พยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดภาพที่เห็นให้หลุดจากหัว แต่มันกลับชัดเจนขึ้น
เรื่อยๆจนน่าโมโห ใบหน้าเด็กหนุ่มร้อนผะผ่าวกับภาพสุดท้ายที่ผ่านวูบเข้ามาจนเผลอยกมือแตะปากตนเอง
... เขากับการ์ฟจูบกัน ไม่จริงใช่ไหมมมมมมมมมม? ...
เมื่อออกมาด้านนอกแล้วอาร์ดิวก็แทบอยากจะมุดเคาน์เตอร์หนี มันน่าอายมากที่เห็นอะไรแบบนั้น จนมิมิวกับการ์ฟทานข้าว
เสร็จ ก่อนกลับสาวน้อยน่ารักก็มาเอ่ยชวนอาร์ดิวไปเดทคู่ด้วยกันวันอาทิตย์หน้า ขณะที่การ์ฟกำลังจัดการจ่ายค่าอาหารอยู่
กับปอมปอม เธอบอกว่าหากไปกับการ์ฟสองคนคุณพ่อต้องไม่อนุญาตแน่ อาร์ดิวเลยถามว่าจะให้เขาไปเป็นไม้กันหมาหรือ?
“ไม่ใช่ มิวอยากให้อาร์ดิวไปด้วยอ่ะ ไปด้วยกันเถอะนะ มัวแต่ทำงานไม่ได้เที่ยวเล่นบ้างเลย” มิมิวยกเหตุผลร้อยแปด
“นะอาร์ดิว” เด็กสาวยังอ้อนอีกเมื่อเพื่อนยังนิ่งเฉย แถมยังมองเธอแบบจับผิดด้วย อย่าบอกนะว่าอาร์ดิวรู้...
“ใครใช้มา?” อาร์ดิวเอ่ยถาม รู้สึกผิดสังเกตกับการคะยั้นคะยอของเพื่อน
“เปล่า” มิมิวปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก แถมไม่กล้าสบตาเพื่อนอีกด้วย
“มิมิว”
“โธ่ อาร์ดิวมีนิมิตนี่เนอะ ต้องดูออกอยู่แล้วอ่ะ” มิมิวบ่นอุบอิบเมื่อไม่สามารถโกหกเพื่อนได้ เธอไม่เคยจะโกหกได้แนบเนียนสัก
ทีอยู่แล้วล่ะ
“ไม่ต้องมีนิมิตก็ดูออกเถอะมิว คาดคั้น คะยั้นคะยอขนาดนี้”
อาร์ดิวว่า ทำสีหน้าให้ดูขรึม สายตาจ้องเพื่อนสาวเขม็งทำให้ฝ่ายนั้นต้องสารภาพเสียงออดอ่อย
“พี่มีนอ่ะ” มิมิวเอ่ยบอกเสียงเบา
“นี่พี่มีนยังไม่เลิกอีกเหรอ?”
พอรู้ว่าใครใช้ให้เพื่อนมาชวนอาร์ดิวก็ออกอาการเหวอหนัก การ์ฟที่จัดการธุระเรื่องค่าอาหารเรียบร้อยแล้วมายืนข้างๆแฟนของ
ตนเอง นั่นทำให้อาร์ดิวรู้สึกเกร็งขึ้นมา จะมายืนตรงนี้ทำไมว้า
“ก็ศรรักมันปักอก”
มิมิวทำมือเป็นรูปหัวใจแล้วหัวเราะคิกคัก อาตี๋สะดุ้งหน่อยๆเพราะมันมาพ้องกับที่ตนเองกำลังคิด ได้แต่ต่อว่าตนเองในใจว่ามิมิว
พูดถึงพี่มีนต่างหาก มันคนละเรื่องเดียวกัน
“สนับสนุนให้เพื่อนได้กับพี่ชายตัวเองจริงนะมิว”
อาร์ดิวประชด แต่คนถูกประชดกลับหัวเราะชอบใจ ก็มันถูกอย่างที่อาร์ดิวว่านั่นล่ะ พี่มีน พี่ชายของเธอสนใจอาร์ดิว มิมิวและคน
ในครอบครัวรู้กันดีว่าพี่ชายเธอชอบผู้ชายด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ที่พี่มีนจะสนใจอาร์ดิว และมิมิวก็เห็นว่าเพื่อนเธอออก
จะเป็นคนดีเลยสนับสนุนเต็มที่ ติดตรงที่อาร์ดิวไม่เล่นด้วยนี่สิ เซ็งเลย
“ไปนะอาร์ดิว หยุดงานวันหนึ่งไม่เป็นไรหรอก นะ น้า~” มิมิวเขย่าแขนเพื่อน ทำสีหน้าและน้ำเสียงอ้อนๆ
“ดิวไม่อยากให้ความหวังพี่มีนนะมิว ดิวไม่ได้ชอบเขา และที่สำคัญดิวเป็นผู้ชาย”
อาร์ดิวบอกเหตุผล เขาไม่ได้ชอบพี่มีน และไม่มีทางชอบ เขารู้ตัวเองดี และพี่มีนก็น่าจะรู้ว่าใครคือคนที่ใช่ ถ้าพี่มีนไม่ปิดหูปิดตา
ตัวเองล่ะก็นะ
“อาร์ดิว…”
มิมิวจ๋อยลงไปเมื่อเพื่อนตัดรอนแบบนั้น ก็เธออยากช่วยพี่ชายนี่นา การ์ฟเองก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย พูดถึงการ์ฟ พักนี้แปลกๆ
อย่างไรไม่รู้ ชวนมาที่ร้าน Magica Café ทีไรเป็นได้ปฏิเสธทุกที วันนี้เธอเลยบังคับให้มา ก็เธอไม่ชอบให้ใครขัดใจนี่นา
“จะไปไหนกันเหรอครับพี่มิว?”
ปอมปอมโผล่หน้าเข้ามาถามเพื่อนพี่ชายเมื่อเห็นบรรยากาศดูเครียดๆ หางตาเหลือบมองพี่หน้าหล่อแฟนพี่มิมิว ไม่ได้รู้สึกไปเอง
สินะว่าพี่หน้าหล่อกำลังจ้องพี่ชายของเขา อย่ามายุ่งกับพี่เขานะ ไม่อยากกินมาม่ารสรักสามเส้า
“ไปเที่ยวสวนสนุกน่ะ แต่ว่าอาร์ดิวไม่ยอมไป”
มิมิวเอ่ยบอก ช้อนสายตามองอาร์ดิวท่าทางหงอยได้ที่ แต่เพื่อนเธอดูจะรู้ว่าเธอแกล้งทำเลยไม่ยอมตกหลุมพรางรับปากเธอเลย
แย่ชะมัด
“ไปสิดิว ปอมไปด้วย”
เมื่อปอมปอมบอกกับพี่ชายเช่นนั้น มิมิวก็ตาโต รีบรับลูกต่อทันที ได้พวกแล้ว~
“เนอะๆๆๆ ปอมปอมไปด้วยกัน ให้ชีวาไปด้วย ดีไหมอาร์ดิว?”
“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย”
อาร์ดิวถอนใจกับท่าทางของเพื่อนที่ดูรื่นเริงขึ้นมาทันทีที่ได้พวกเพิ่ม ก่อนมองสายตาปิ๊งปั๊งของน้องชายที่ส่งมาอ้อนตนเอง
ท่าทางคนที่อยากไปจะเป็นปอมปอมมากกว่านะ
“เดี๋ยวปอมไปชวนป๋าดีกว่า~”
หนุ่มน้อยเอ่ยบอกน้ำเสียงร่าเริง มิมิวยกนิ้วให้อย่างถูกใจเธอเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหันมาส่งสายตาอ้อนเพื่อนต่อ
“นะอาร์ดิว”
“อืม” อาร์ดิวตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ปอมปอมอยากไปนี่นะ ทำอย่างไรได้
“งั้นมิวกลับก่อนนะ อาทิตย์หน้าอย่าลืมนะดิว”
“อืม”
อาร์ดิวตอบรับ มองเพื่อนกับการ์ฟที่เดินตามกันออกจากร้านไป ก่อนจะชะงักเมื่อการ์ฟหันกลับมามอง เด็กหนุ่มหน้าตี๋เบือน
สายตาไปทางอื่น ตกใจหมดเลย บ้าเอ๊ย!
พอนึกถึงเรื่องที่รับปากเพื่อนไปแล้วอาร์ดิวก็ชักจะหนักใจขึ้นมาอีก ยิ่งอยากหนีก็ยิ่งเจอ บางทีการเผชิญหน้าตรงๆอาจดีกว่าก็ได้
เรื่องจูบนั่นมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้นี่ ที่เห็นน่ะมันเหมือนจะเป็นริมสระน้ำ... ริมสระน้ำ งั้นเราก็ไม่ไปที่ที่มีน้ำก็จบ มันจะได้ไม่ต้อง
จูบ...
“ดิว เป็น’ไรอ่ะ หน้าแดง??”
ปอมปอมที่วิ่งลั้นลากลับมาหลังจากไปชวนป๋าชีวาไปเที่ยวด้วยกันเอ่ยถามพี่ชายที่ยืนหน้าแดงอยู่หลังเคาน์เตอร์ ไม่สบายรึเปล่า
นะ?
อาร์ดิวยกมือจับแก้มตนเอง ก่อนที่จะกุมหัวเมื่อสลัดความคิดเรื่องจูบไปไม่พ้น ได้แต่คร่ำครวญในใจ
‘ฮืออออ เลิกคิดสิอาร์ดิววววว~’
TBCถึงแล้วววว อย่างรวดเร็ว ตอนต่อไปก็เป็นตอนใหม่แล้วเนอะ
ฝากติดตามด้วยนะคะ บวกๆค่ะ
วันใหม่