ระวังตัว ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์ที่แก้วมันไปนอนบ้านมัน หนึ่งอาทิตย์ที่มันเมินเฉยใส่ผม เครียดว่ะ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ไม่รู้ต้องตามไปขอโทษอีกนานแค่ไหนถึงจะได้แก้วคนเดิมกลับคืนมา มันใจแข็งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ถ้าผมรู้ว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นแบบนี้ ผมจะไม่มีทางไปหารตีคนเดียวแน่นอน ผมพลาดเองที่โง่คิดว่ารตีจะไม่ทำเรื่องเลวๆแบบนี้ ผมเสียใจที่ทำให้แก้วผิดหวังในตัวผม ผมขอยอมรับโทษทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาไว้เอง แต่ตอนนี้ผมใกล้จะบ้า บ้าที่แทบจะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวมันเลย
"มึงอย่ามาทำหน้าเศร้าเลยว่ะ กูเห็นแล้วเครียดแทน จะคบใครกูก็ไม่เคยเห็นมึงเครียดขนาดนี้เลยนะ" เสียงไอ้เลย์ด่าผม นั่นสินะ ก็ไม่เคยมีใครที่ผมรักได้เท่ามันนี่ แต่ก่อนผมคบใครก็คบเล่นๆ แค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น แต่กับมันผมรักมันแล้ว มันคือคนเดียวที่ผมอยากอยู่ด้วยไปจนตาย
"กูอยากกอดมัน" ผมพูดเสียงเบา หลับตากอดหมอนแน่น เมื่อคืนผมมานอนกับไอ้เลย์มัน ไม่อยากนอนคนเดียว มันเหงามากจริงๆบนเตียงกว้างๆแต่ไม่มีคนให้กอด
"มึงนี่เป็นเอามาก เดี๋ยวแก้วมันก็ใจอ่อนลงเองแหละน่า มึงก็ทำตัวดีๆ อีกสักพักมันก็คงกลับบ้านมึงเองแหละ" มันพูดลุกขึ้นจากที่นอน ส่วนผมขอนอนต่อ ไม่อยากลุกทำอะไรเลย น่าเบื่อมากๆ จากที่แต่ก่อนเคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อน เคยมีสาวๆล้อมรอบ พอมีมันผมก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย แค่ได้อยู่กับมันก็มีความสุขแล้ว การออกนอกบ้านก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
"แล้วนี่มึงจะไปไหน วันเสาร์นะ มีนัดหรอวะ" ผมถาม เพราะตอนนี้มันกำลังจะเข้าไปอาบน้ำ เห็นมันหยิบชุดนู้นชุดนี้มาลอง มีเดทหรอวะ ปกติเที่ยงๆบ่ายๆถึงจะตื่น
"เออๆ นัดคนไว้ว่ะ แล้วมึงล่ะ จะนอนตายซากอยู่ห้องกูทั้งวันเลยไง" มันถาม ผมนอนพยักหน้า เอาไว้บ่ายๆค่อยไปหาแก้วมันที่บ้าน จะหาเรื่องพาเจ้าตัวเล็กไปกินไอติม แล้วให้มันชวนแม่ทูนหัวมันไปด้วย คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ต้องใช้เด็กเป็นตัวสานสัมพันธ์ รู้ถึงไหน อายถึงนั่น
"กูไปละนะ มึงจะออกไปไหนก็ล็อคห้องให้กูด้วย" ไอ้เลย์เดินมาสะกิดผมแล้วเดินออกจากห้องไป ส่วนผมพอเห็นนาฬิกาบอกเวลาว่าจะเที่ยงแล้วก็รีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จก็รีบขับรถออกมาหาแก้วมัน รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่อยากเจอ ก็ยังจะไปหา แต่ผมอยากเจอมัน ถ้าไม่หน้าด้านคงไม่มีวันได้เจอ
......
"คุณขุน" ฝ้ายทักตอนที่ผมเดินลงจากรถ เธอคงออกมาต้อนรับแขกตามปกติแต่คงตกใจพอเห็นรถผม ยังดีที่แก้วมันไม่ได้สั่งถึงขนาดไม่ให้ผมเข้าบ้าน ยังดีที่มันไม่ใจร้ายขนาดนั้น ผมทักทายฝ้ายแล้วเดินเข้ามาในบ้าน ในบ้านตอนนี้ดูเงียบๆ หรือว่าคนที่ผมมาหามันจะไม่อยู่
"คุณขุนมาหาคุณแก้วหรอคะ" ฝ้ายถาม เดินตามผมเข้ามาในบ้าน
"ใช่ อยู่ไหนกันล่ะ แล้วป๋าไม่อยู่หรอ ทำไมบ้านเงียบๆ"
"คุณป๋าณพไปต่างประเทศค่ะ ส่วนคุณแก้วตอนนี้กำลังนอนดูการ์ตูนกับเจ้าฟ้าในห้องดูหนัง" ฝ้ายบอก ผมเลยถือวิสาสะเดินเข้ามาเอง ในบ้านมันจะมีห้องนั่งเล่นดูหนังแยกไว้อีกห้อง เดินเข้ามาก็เห็นคนของผมกำลังนอนฟัดไอ้ตัวเล็กอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมแก้วมันถึงรักเด็กนี่มาก แต่พอได้อยู่กันจริงๆผมถึงรู้สึกได้ว่าฟ้ามันน่ารักและน่าเอ็นดู ใครๆก็ต่างพากันรักมัน
"พี่แก้วจ๋า .. พี่ขุนมาจ้า" เป็นตัวเล็กที่เห็นผมก่อน มันรีบเขย่าตัวเมียผมให้หันมา ส่วนไอ้แก้วพอมันได้ยินว่าผมมามันก็รีบหันมาดูอย่างหน้าตาตื่น
"พี่ขุนสวัสดีจ้า" ฟ้ามันพนมมือไหว้ผมอย่างสวยงาม ส่วนแก้วมันรีบหันหน้าไปยังทีวีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันน่าฟาดให้ตูดลายจริงๆ จะทักทายสักคำยังไม่มี
"ไม่คิดจะต้อนรับแขกหน่อยหรอครับ" ผมถามมัน เลยเจอค้อนกลับมาวงใหญ่ เดี๋ยวนี้ชักเริ่มน่ากลัวมากขึ้นทุกวัน
"ใครเชิญ" ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเล่นงานมันไปแล้ว แต่ตอนนี้ทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วลูบหัวสองสามที
"มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ" มันถามปัดมือผมออกจากหัวมัน ตายังไม่ลดละจากหน้าจอ
"จะมาชวนไปกินติม ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ขี้งอนนี่แหละ ไปไหม" ผมกอดอกถาม แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น
"ฟ้าอยากกินไอติมไหม พี่ขุนพาไปกินติมนะ" ไม่ได้ผลก็หันมาหาเด็ก พูดถึงไอศกรีมมีเด็กคนไหนบ้างไม่อยากทาน เจ้าตัวเล็กเริ่มออกอาการแล้วว่าอยากไป แต่ก็คงจะไม่กล้าพูดเพราะเห็นว่าครตัวโตข้างๆมีอาการตึงๆ
"ไปเถอะน่าแก้ว .. ไปสวนสนุกด้วยก็ได้" ผมบอก เจ้าตัวเล็กยิ่งมีสีหน้าท่าทางกระตือรือร้นมากเข้าไปอีก สงสัยจะไม่เคยไป มันดึงแขนเสื้อแม่ทูนหัวมันแล้วทำตาปริบๆ น่ารักไปไหน
"ว่างหรอครับ .. นึกว่าจะไปกับสาวๆที่ไหนเสียอีก" มันพูดน้ำเสียงประชดประชัน ทำไมวะ ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยนอกใจมันเลยนะ ทำไมต้องประชดกันแบบนี้ด้วย
"เมื่อคืนไปนอนกับไอ้เลย์มา .. กุเคยมีคนอื่นเหรอแก้ว .. เฮ้อ .. ไม่เอาอย่าพูดเรื่องนี้เลย .. ไปแต่งตัวเถอะ .. พี่จะออกไปรอด้านนอก" ผมลูบหัวมันอีกทีก่อนจะเดินออกมานั่งรอด้านนอก ผมรู้ว่ามันจะต้องไป แม้มันจะโกรธผม แต่มันก็ไม่ใช่คนใจร้ายนี่ครับ นั่งสักพักฝ้ายมันก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ แล้วพาเจ้าฟ้าไปแต่งตัว ผมลองชวนฝ้ายแล้วแต่เขาไม่ไป ผมก็แล้วแต่เขา สำหรับเรื่องที่ฝ้ายเคยมองหน้าผมบ่อยๆผมก็ถามเธอด้วยเลยนะครับ เธอบอกว่าขอโทษที่มองแต่เพราะเธอสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับแก้วมัน ก็เลยเผลอมองโดยไม่รู้ตัว ผมก็เฉยๆครับ หลังๆพอรู้ว่าพวกผมแต่งงานกันแล้ว ฝ้ายก็ไม่เคยมองผมแบบนั้นอีกเลย ก็ดีครับ ผมยิ่งถูกมองว่าหน้าหม้ออยู่ด้วย ถ้าไอ้แก้วรู้มันเล่นผมตายแน่ๆ
"พี่ขุนจะพาหนูไปสวนสัตว์เหรอจ๊ะ .. หนูน่ะชอบพี่ยีราฟกับพี่หมีมากๆเลยล่ะ" มันวิ่งออกมาในชุดเอี๊ยมน่ารัก มองแบบนี้มันเหมือนเด็กผู้หญิงเลยครับ ผมยาวถึงต้นคอแถมหยักโศกอีก
"เดี๋ยวพาไปเที่ยวแล้วไปกินติมต่อ .. ดีไหม" ผมลูบหัวเด็กน้อย มันพยักหน้ารัวๆ ผมเลยอุ้มมันมานั่งตัก ตัวฟ้ามันหอมเหมือนแม่ทูนหัวมันเลย สงสัยจะอยู่ด้วยกันมากไป
"เสร็จแล้วหรอ .. ไป" ผมบอกตอนมันเดินลงมาจากด้านบน แก้วมันใส่เสื้อแขนยาวสีเหลืองกับกางเกงสามส่วนสีกรมท่า ทั้งตัวดูดีมีสีสันมาก ยกเว้นหน้ามัน ที่ตอนนี้ยังเก็บอารมณ์ได้ดีอยู่
"จะให้พี่เป็นคนขับรถหรือครับน้องแก้ว" ผมแซวตอนมันจะเปิดไปนั่งหลังกับฟ้า เอากับมันสิครับ จะโกรธผมไปถึงไหน มันจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูมานั่งกับผมด้านหน้า
"คาดเข็มขัดด้วยครับ หรือ จะให้พี่คาดให้ครับ .. หืมมม" ผมถามทำท่าจะเอื้อมไปคาดให้ มันเลยรีบจัดการเข็มขัดของตัวเองให้เรียบร้อย หน้าเสียเลยครับที่รักผม ส่วนเจ้าตัวเล็กนี่คิกคักอยู่คนเดียว จนแก้วมันต้องหันไปปราม ฟ้ามันเลยนั่งนิ่งๆของมัน รอไปเที่ยวสวนสัตว์อย่างใจจดใจจ่อ
.........
"แดดร้อนหน่อย .. มึงไม่เป็นไรนะ" ผมถามแก้วมัน เรากำลังเดินเข้ามาด้านใน วันนี้คนเยอะนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับแออัด มันสองคนทานข้าวมาแล้ว ผมเลยไม่พาไป เดี๋ยวขากลับค่อยแวะทานทีเดียว ตอนนี้เด็กที่มาด้วยเริ่มตื่นเต้นแล้ว
"ครับ" มันขานรับแล้วจูงมือเด็กเดินตามกรงไปเรื่อยๆ เจอสัตว์ตัวไหนเจ้าฟ้ามันก็ทำเสียงเลียนแบบสัตว์ตัวนั้น เห็นก่อนมาฝ้ายมันบอกไม่เคยพาลูกไปเที่ยวเลย ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งแรก
"น่ารักมาก .. พี่หมีน่ารัก" มันกระโดดโหยงๆชี้หมีตัวใหญ่ในกรง ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะน่ารักตรงไหน
"เชยชมอีกนานไหม .. ตัวอื่นยังมีนะ" ผมบอก แก้วมันเอามือปาดผมชื้นเหงื่อให้เจ้าตัวเล็กก่อนจะจูงเดินไปดูสัตว์ตัวอื่น ผมถ่ายรูปให้พวกมันสองคนอยู่เรื่อยๆ จนมาถึงครึ่งทางเห็นสัตว์น่ากลัวมันก็เริ่มงอแง
"มาพี่อุ้มเอง" ผมบอกแก้ว มันเริ่มงอแงละ เดี๋ยวจะไม่สนุก ผมอุ้มมันขึ้นก่อนจะเริ่มเดินไปเรื่อยๆ แก้วเองมันก็ลอบมองลูกระกมันบ่อยๆ แต่พอผมอุ้มมันก็หายงอแงแล้วครับ กอดผมแน่นเลย พอเห็นสัตว์ตัวไหนที่ตัวเองชอบก็เอามือคว้าจนผมต้องพาไปเกาะกรง
"เช็ดให้พี่บ้างสิ" มันกำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้ตัวเล็กอยู่ครับ ผมเลยยื่นหน้าไปให้แก้วมันเช็ดให้บ้าง พองี้ล่ะหันหนีเลย แถมเขินหน้าก็แดงเป็นลูกตำลึง น่าหอมแก้มให้จม
"พี่ขุนหนูหิวน้ำ" ตัวเล็กพูด ผู้ปกครองมันเลยรีบปลอบว่าออกไปก่อน ก็ดีครับ กลัวจะติดโรคจากสัตว์ พี่ที่ทำงานเขาพาลูกไปเล่นอัลปาก้าที่ราชบุรี กลับมาเป็นมือเท้าเปื่อย ไว้ใจไม่ได้เลยครับ
"เดินดูหมดแล้วถ้างั้นไปล้างมือกลับกันเถอะ" ผมบอก ตอนนี้ก็ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้ว ฟ้ามันก็เดินไม่ไหวแล้ว ผมพามันมาล้างมือจนเสร็จเรียบร้อยก็พาไปขึ้นรถ เดี๋ยววันนี้จะพาเด็กดำไปทานอาหารญี่ปุ่น มีอะไรแปลกใหม่หวังว่ามันจะชอบ
เราล้างมือกันที่ห้างอีกรอบก่อนจะเดินเข้าร้านอาหาร รอคิวประมาณสองคิวถึงจะได้สั่ง ก็สั่งมาเป็นกับครับ แยกมา ส่วนตัวเล็กสั่งเซ็ตแยกให้ จะได้ไม่กวนเวลาทาน แก้วเองสีหน้ามันก็อิดโรยนิดหน่อยคงเป็นเพราะช่วงนี้งานก็เยอะด้วย ผมเข้าใจมันนะครับ หลังๆผมเลยไม่ค่อยเข้าไปกวน ได้แต่ฝากของบำรุงไปให้มันบ้างบางที ทานเสร็จก็เปลี่ยนไปร้านไอศกรีมต่อ ทีนี้ล่ะเจ้าตัวเล็กร่าเริงขึ้นมาเชียว ผมเองก็อยากให้บรรยากาศมันดีๆ ไม่ใช่มานั่งทำหน้ามุ่ยตลอดเวลาแบบนี้ เราทานไปหัวเราะฟ้ามันไปจนอิ่ม ก็ต้องกลับ แม้จะอยากอยู่ต่อ แต่มันคงไม่ยอม ขับรถมาเรื่อยๆจนถึงบ้านแก้วมัน ผมขับมาจอดในบ้านแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับ
"อย่าเพิ่งปลุกเลย .. ขออยู่แบบนี้สักพักได้ไหม" ผมบอกกุมมือแก้วไว้ ตอนนี้ฟ้ามันหลับอยู่ยิ่งเป็นโอกาสดีที่ผมจะขอใช้เวลาตรงนี้เพื่ออยู่กับมัน
"ขอโทษเรื่องที่ผ่านมานะ .. ขอโทษจริงๆ .. หายโกรธเมื่อไหร่รีบกลับมาหากูนะแก้ว .. กูคิดถึงมึงจะแย่แล้วรู้ตัวบ้างไหม" ผมพูดย้ำพลางเอามือมันมาจูบ คิดถึงจนจะทนไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องบวกลบคูณหารอะไรของมันออกมาเป็นรูปแบบไหน มันยังไม่อยากตอบ ผมก็ไม่ได้เร่งเร้า แค่อยากให้คำตอบมันเป็นบวก ผมขอแค่นั้นก็พอ
"เอาไว้ผมพร้อมผมจะบอกพี่นะครับ .. กลับได้แล้ว .. ขอบคุณที่พาไปเที่ยว .. ขับรถดีๆ" มันหันมาพูดแล้วกำลังจะเปิดประตูออก แต่ผมดึงมันเข้ามากอดพร้อมจูบไปที่ขมับเนิ่นนาน คิดถึงมัน คิดถึงที่สุด
"กูรักมึง .. ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรกูก็รักมึง" ผมจูบไปที่ขมับอีกที รู้ตัวเลยว่าเสียงกำลังสั่น ตอนนี้แก้วลงจากรถไปแล้ว มันอุ้มฟ้าลงไปจากรถแล้ว แต่ผมก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ นั่งจมกับความผิดทั้งหลายที่ผมเคยทำไว้ พอคิดได้ก็ออกรถกลับบ้าน ในเมื่อมันยังไม่ปฏิเสธผม ผมก็คงมีโอกาสที่จะได้จากมันอีกครั้ง
................
"กูได้ข่าวว่ารตีกลับมาไทย .. แต่ไม่รู้เชื่อได้แค่ไหน .. มึงจะเอาไงต่อ .. คิดจะล้างแค้นบ้างป่ะ" ไอ้เลย์ถามผม นี่ผ่านมาสองวันแล้วหลังจากพาแก้วไปเที่ยววันนั้น
"กูก็แค้นนะ แต่ไม่อยากยุ่งว่ะ ถ้ารตีไม่มายุ่งกับกูอีกกูก็จะปล่อยเธอไปตามทาง ยังไงซะตอนนี้รตีก็ไม่ได้มีเหมือนที่เคยมีแล้ว น่าจะทำอะไรยากขึ้น แต่ถ้ารตีกล้าลองดีกูคงต้องเอาจริงละ" ผมบอก เอาจริงๆผมอยากทำอะไรให้เจ็บแสบนะ แต่พ่อผมก็ยึดทุกอย่างมาจนหมดแล้ว ผมคงไม่ลงไปสู้รบกับผู้หญิงหรอก แค่นี้เธอคงไม่สามารถทำอะไรผมได้ แต่ก็ไม่แน่ที่ไอ้เลย์บอกว่ารตีกลับมา ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น รตีคงไม่ได้กลับมาเพื่อเที่ยวเล่นแน่ๆ
"ระวังแก้วไว้หน่อยก็ดีนะเว่ย .. นั่นน่ะจุดอ่อนมึงเลย" ผมเริ่มเครียด ถ้ารตีคิดจะทำอะไรแก้วจริง ผมคงไม่ปล่อยไว้แน่ ตอนนี้คงทำได้แต่คอยดูแลไม่ให้มันคลาดสายตาได้
"เออๆ ขอบใจว่ะ " ผมเรียกเด็กมาเก็บตังแล้วแยกจากไอ้เลย์ ผมกลับบ้าน มันกลับคอนโด ทำงานเสร็จก็ดื่มกาแฟเย็นอ่อนๆสักแก้วก่อนจะกลับบ้าน
(( ครับ ))
"กลับบ้านหรือยัง พี่มีเรื่องคุยด้วย"
(( กำลังจะกลับครับ วันนี้มีงานข้างนอก ))
"อืม แล้วไปกับใคร"
(( ก็พี่ครามครับ เดี๋ยวพี่เขาไปส่งที่บ้าน ))
"ระวังตัวด้วยนะแก้วช่วงนี้ พี่เป็นห่วง"
(( ค .. ครับ ? ))
"รับปากสิครับ .. ว่าจะระวังตัวให้มากๆ"
(( ได้ครับ พี่ขุนแค่นี้นะครับ ))
ผมตอบรับ มันวางไปแล้ว โล่งอกที่ได้พูดเตือนไป ไม่อย่างนั้นผมคงต้องนั่งระแวงตลอดเวลาว่ามันจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไรมันหรือเปล่า โดยเฉพาะไอ้คนชื่อคราม ผมโคตรไม่สบอารมณ์ ไม่ถูกชะตาด้วยเลยเวลาเจอหน้ามัน เหมือนมันก็เกลียดขี้หน้าผมเอามากๆเหมือนกัน แต่ก็พูดเรื่องคนชื่อนี้กับแก้วมันมากไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมอคติเสียเปล่าๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นไม่พอใจผมขึ้นมาเสียอีก
"นึกไงกลับบ้านไวห๊ะ นึกว่าจะไปตามเฝ้าเมียซะอีก" เข้าบ้านมาก็เจอเลยครับ คนที่เคารพสูงสุด ท่านประมุขของบ้าน
"วันนี้มันออกไซต์ ผมก็ไปกับไอ้เลย์มา" ผมบอก พอคิดว่าจะต้องขึ้นไปบนห้องที่มีผมอยู่แค่คนเดียวแล้วมันก็เศร้า
"อะไรวะ สิ้นลายซะเเล้วลูกชายป๋า" ป๋าถามตอนผมเดินมานั่งที่โซฟา พร้อมถอนหายใจแรงๆ
"ก็รักมันนี่ครับ ทำร้ายมันไม่ลงหรอก" ผมพูดหลับตาพักสมอง ป๋าหัวเราะชอบใจพร้อมเดินมาตบบ่าให้กำลังใจผมก่อนจะเดินออกไป ส่วนผมเองก็นั่งอยู่สักพักจนรู้สึกดีขึ้นถึงได้เดินขึ้นห้อง ก็เหมือนเดิมครับ ถอดเสื้อผ้านั่งทำงานจนดึก ส่งข้อความไปบอกฝันดีมันก่อนจะหลับตานอน เหงามากแต่ก็ต้องทน แค่นี้ยังไม่พอต่อสิ่งที่แก้วมันเจอหรอก
...............
แก้ว ผมนอนคิดมาหลายคืนเรื่องพี่ขุน คำตอบผมคิดว่าผมมีแล้วครับ เพียงแต่ตอนนี้ผมอยากให้พี่ขุนและผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย เวลาที่คนเรามีเรื่องให้ต้องทะเลาะหรือเลิกรา ก็จะต้องให้เวลาเยียวยารักษาแผลใจ แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้เลิกกัน เรื่องพี่ขุนกับคุณรตีผมก็ฟังมาจากป๋าจนเข้าใจแล้ว จึงไม่ต้องเก็บมาคิดให้มากความ ป๋าแนะนำให้ผมดัดหลังพี่ขุนไปนานๆเลยยิ่งดีครับ แต่ผมเองผมก็อยากให้เขาเปลี่ยนตัวเองมากกว่านี้อีกนิดนึง ทั้งเรื่องของอารมณ์และจิตใจ ผมว่าเขาก็ทำดีขึ้นมากแล้วถ้านับจากเมื่อก่อน เมื่อเขาพร้อมแก้ไขและยอมรับผิด ผมก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาเสมอ แม้จะไม่ใช่ตอนนี้ก็ตาม
ฝันดีนะครับที่รักของพี่ .. อย่าลืมที่สัญญาไว้ล่ะ .. ดูแลตัวเองดีๆด้วยผมนอนอ่านข้อความที่พี่ขุนส่งมาให้ ไล่เปิดของวันที่ผ่านมาก็ยิ่งทำให้ผมยิ้มได้ เขากลายเป็นคนน่ารัก เอาใจใส่กันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ เมื่อก่อนเขายังไม่เคยที่จะสนใจเรื่องราวใดๆของผม ขนาดหน้าตาที่ผมเมคขึ้นมาเขายังจับไม่ได้เลย แต่นี่อะไร คอยดูแลเป็นห่วงได้ทุกฝีก้าวสิน่า
"ทานข้าวเลยไหมคะ" นมถาม ผมเลยพยักหน้า เดี๋ยวต้องนั่งรถไปส่งฟ้าก่อนถึงจะไปทำงานได้ ออกเช้าหน่อยไม่เป็นไรครับ
"ทานดีๆครับ ระวังจะเปรอะ" ผมบอกน้อง ใส่ผ้ากันเปื้อนให้ น้องยิ้มแล้วตักอาหารทาน เดี๋ยวนี้เขาเก่งครับ ตักนู่นตักนี่ให้ชาวบ้าน ป๋าผมนี่หลงจะแย่
"หนูไปโรงเรียนแล้วนะ .. สวัสดีครับ" ไหว้แม่และป้าๆเสร็จก็พาร่างอันน้อยนิดกระโดดขึ้นหลังรถ ผมก็ตามขึ้นมาติดๆ วันนี้ผมมีไปนอกสถานที่อีกแล้วครับ เลยกะจะเข้าไปเคลียร์เอกสารเสียก่อนค่อยออกมา
"ขอบคุณครับพี่คนขับ .. สวัสดีครับพี่แก้ว" เด็กน้อยกระโดดลงจากรถ ผมลงมาส่งแปปเดียวคุณครูก็รีบวิ่งมารับ เห็นหลังไวๆเข้าไปในโรงเรียนแล้วก็วางใจ ขึ้นรถมาบริษัท ตอนนี้คงยังไม่มีใครมาหรอกครับ กว่าจะมาก็แปดโมงครึ่งนู่น
"พ .. พี่ขุน!" เข้ามาในห้องก็ต้องตกใจ ที่เห็นเป็นพี่ขุนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานผม ไฟก็ไม่เปิด ผมเปิดไฟมา ตกใจแทบช็อคตาย ใครจะไปนึกว่าจะมีคนมานั่งอยู่
"ตกใจหรอ พี่ขอโทษนะ พอดีขี้เกียจเปิดไฟ มันแสบตา" มีอย่างนี้ด้วย เอากับเขาเถอะครับ อยากทำอะไรก็ทำ
"ทำไมวันนี้มาเช้า" เขาถามลุกขึ้นมานั่งฝั่งตรงข้าม ผมเดินเข้ามาที่โต๊ะแล้วจัดเอกสารให้เข้าที่
"ไปส่งน้องที่โรงเรียนมา" ผมบอก
"ทานข้าวเช้ามาหรือยังล่ะ"
"เรียบร้อยครับ" ผมตอบ พี่ขุนทำท่าเหมือนหาคำถามจะมาถามผมให้ได้ เห็นแล้วก็ตลกดี ไม่รู้ทำไมต้องทำขนาดนี้
"เที่ยงนี้ ..."
"ผมไปข้างนอกครับ กลับอีกทีตอนเย็นๆ พี่ขุนมีอะไรอีกหรือเปล่าครับ" ผมตัดบทเพราะรู้ว่าเขาคงอยากชวนผมไปทานข้าว
"อ่อ งั้นไม่เป็นไร อย่าลืมระวังตัวด้วยล่ะ พี่ไปทำงานแล้ว" พี่ขุนพูดแล้วเดินออกจากห้องไป ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพี่ขุนให้ผมระวังตัวทำไม เขากูกังวลและพูดกับผมบ่อยมาก หรืออาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวคุณรตี แต่ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ผมไม่ใช่คนที่ยึดทรัพย์บ้านเขาเสียหน่อย
"โบว์เดี๋ยวเข้ามาหาผมหน่อยนะ เอกสารเซนต์เสร็จแล้ว" ผมคอลบอกเลขาหน้าห้อง เดี๋ยวสิบโมงครึ่งผมต้องออกไปกับพี่ครามแล้ว เราทำโปรเจคเดียวกันครับ ของคุณติณตอนนี้ยังไม่เสร็จเลย
"อ่ะนี่ครับ .. เดี๋ยวผมออกไปเลยนะ .. เย็นนี้จะไม่เข้ามาแล้ว .. มีอะไรด่วนโทรหาผมละกัน" เธอตอบค่ะพร้อมหอบกองเอกสารออกไป ผมรอสักพักพี่ครามก็มารับ เราก็ไปด้วยกันครับ ผมขับรถไม่เป็นอยู่แล้ว ดีเสียอีกไม่ต้องลำบากคนขับรถบริษัท เพราะอย่างไรเราก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว
"เดี๋ยวเที่ยงไปหาข้าวทานกัน .. เมื่อเช้าพี่ไม่ได้ทานข้าวหิวมาก" พี่ครามพูดสีหน้าดูจะหิวจริงๆ
"ได้ครับ" เราเข้ามาที่ไซต์งาน โรงแรมทำเสร็จไปแล้วเกือบครึ่งครับ เข้ามาถึงก็คุยกับพวกวิศกรเรื่องที่จะต่อเติม ส่วนมากเป็นพี่ครามคุยครับ ผมแค่มาดูแลเฉยๆ
"เหนื่อยหรือเปล่า .. พักไหม" ผมพยักหน้า ใกล้เที่ยงแล้วเดี๋ยวคงออกไปทานข้าว ตอนนี้เรามานั่งพักกันในออฟฟิศชั่วคราว ตากแอร์ก่อนครับ ข้างนอกร้อนจนเหงื่อแตก
"พี่ครามมีอะไรหรือเปล่าครับ เห็นจ้องหน้าผมตั้งแต่เช้า" ผมเลิกคิ้วถาม เห็นจ้องอยู่นาน บางทีเขาอาจมีอะไรอยากจะพูดกับผมหรือเปล่า
"อ่อ .. เปล่าๆ .. ไปทานข้าวกันเถอะ .. หิวแล้ว" เขาตอบไม่มีอะไร เราเลยไปหาข้าวเที่ยงทาน พี่ครามพาผมมาถึงร้านอาหารไทยติดแอร์ อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยครับ เลยสั่งจานเด็ดมาอย่างละหนึ่ง ทานกันจนอิ่มก็คิดเงินกลับ ขากลับก็ซื้อขนมกับน้ำหวานไปฝากด้วย ปกติไม่ต้องก็ได้นะครับ แต่นี่งานใหญ่ ผมเลยอยากลงมาดูแลด้วยตนเอง
เราช่วยกันดูงานจนถึงหนึ่งทุ่มกว่าๆ ตอนแรกว่าจะกลับด้วยกันกะพี่คราม แต่พี่ครามติดธุระที่อื่นผมเลยต้องกลับเอง ผมไม่ได้โทรหาพี่คนขับรถบริษัทหรือพี่ขุนเพราะมันเย็นแล้ว ไม่อยากรบกวนใคร กลับแท็กซี่เองก็คงไม่อันตรายหรอก ผมเป็นผู้ชายนี่ เงินติดตัวก็มีไม่กี่บาท เขาคงไม่ปล้นผมระหว่างทางหรอกใช่ไหม
ผมเดินออกมาด้านนอก หน้าถนนมีรถแท็กซี่จอดอยู่ผมเลยรีบบอกพี่เขาว่าจะไปไหน พี่เขาก็ตอบรับผมเลยขึ้นรถมา ระหว่างทางก็ปกติดีไม่มีอะไร แต่พอนั่งมาได้สักพักผมก็เริ่มรู้ว่าเขาไม่ได้พาผมกลับบ้านแน่ๆ เพราะทางนี้มันกำลังจะออกจากตัวเมืองแล้ว ผมรีบคว้ามือถือขึ้นมากำลังจะปลดล็อค แต่อยู่ดีๆแท็กซี่ก็ปาดเข้าข้างทางอย่างแรง จนตัวผมไหลไปกระแทกประตู ตอนนี้รถจอดสนิทแล้ว แต่ผมทำอะไรไม่ถูกรีบคว้าโทรศัพท์ที่ตกพื้นเมื่อครู่ขึ้นมาแล้วกำลังจะเปิดประตูออก ถ้าวิ่งออกไปคงมีคนช่วยได้บ้าง แต่จู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้เปิดประตูเข้ามา ผมรีบตะเกียกตะกายหันไปเปิดประตูอีกข้างแต่ไม่ทันจริงๆ เขาตามมากระชากตัวผมกลับไปแล้วใช้ผ้าปิดจมูกผมไว้ สักพักผมก็ไม่รู้เรื่องราวรอบตัวอีกเลย และนั่นเป็นความรู้สึกสุดท้ายของผมตอนที่ยังมีสติ
- ♛ ขุนแผน ปะทะ แก้วหน้าม้าเดอะซีรีย์ ♞ -
มาช้ามากเลย ขอน้อมรับความผิดค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ จะนำคำชี้แนะไปปรับปรุงให้ในเรื่องต่อไปค่ะ
ตอนหน้าจะรีบมานะคะ ตอนนี้เอาไปอ่านกันก่อน
ขอโทษจริงๆค่ะ
ปล. เมื่อสองวันที่แล้วเราไปเป็นลมบน bts ค่ะ สามรอบด้วยกัน
คนช่วยพากันลงมาห้องพยาบาลเยอะมาก
คนไทยใจดีนะคะ ทั้งคนที่ช่วยเหลือ และป้าแม่บ้าน พี่คนคุมอีก
ต้องขอบคุณจริงๆ นึกว่าจะตายซะแล้ว 55
ยังไงดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ