Chapter 1 Oh! That’s you!!
ห้องจัดงานขนาดใหญ่ จุคนได้ประมาณ 50 ที่นั่ง ภายในจัดเป็นโต๊ะยาวคล้ายโต๊ะประชุมมีทั้งหมดสองโต๊ะตั้งขนานกันโดยหันหัวโต๊ะไปหน้าเวทีแต่ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเพราะจัดให้เป็นที่วางของรางวัล ทั้งสองโต๊ะมีของตั้งไว้เหมือนกันเปี๊ยบ เช่น เหล้านอก เบียร์กระป๋องจากนอกวางซ้อนกันห้าหกแพ็ก ถุงยางอนามัยกล่องใหญ่อีกหลายกล่อง ใครได้ไปคงได้ใช้ยันชาติหน้า =__=;; แต่ที่เด็ดสุดก็เป็น กำไลข้อมือทองคำที่โชว์อยู่บนมือหุ่นทั้งสองตัว ผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นรางวัลใหญ่สุดของงาน
มองขึ้นไปบนเวทียกพื้นสูงประมาณหนึ่งเมตร บนนั้นไม่มีอะไรเลย เป็นเวทีเปล่าๆ โล่งๆ เหมือนเตรียมการไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ผมแอบมองบรรยากาศภายในงานขณะที่กำลังยืนรอคิวลงทะเบียนอยู่ด้านหน้าห้องประชุม
“ชื่อเมมอะไรคะ ไม่ต้องส่งเสียงนะ หาจากรายชื่อแล้วเซ็นเลยค่ะ” สาวสวยหน้าฉ่ำ โบ๊ะแน่นจนเดาหน้าสดไม่ออกถามผมด้วยเสียงกระซิบพร้อมกับใช้มือป้องรายชื่อเอาไว้ตอนที่ผมก้มลงจรดปากกาท้ายชื่อของตัวเอง “อ๋อ คนนี้เองเหรอ คิกๆ ยินดีที่รู้จักนะคะ” เธอหัวเราะคิกคักแล้วทำท่าทางฟินๆ ผมยิ้มให้อย่างเก้อๆ ทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาเข้าสังคมกับคนที่ไม่รู้จัก
“เข้าไปเลยเหรอครับ” ผมถาม
“เดี๋ยวค่ะ เก็บอันนี้ไว้ให้ดี ห้ามเปิดจนกว่าจะมีประกาศนะคะ ไม่งั้นจะเสียเปรียบคนอื่นถ้าเค้ารู้ว่าคุณเป็นใคร อิๆๆ” เธออธิบายและหัวเราะเหมือนในการ์ตูนตอนท้ายประโยค
ผมพยักหน้ารับรู้พร้อมกับรับการ์ดใบเล็กๆ มาจากมือของเธอแล้วเดินเข้าไปจับจองที่นั่ง
“โต๊ะไหน ฝั่งไหนดีวะ” ถามตัวเองพลางกลอกตาหาฮวงจุ้ยเฮงๆ
โต๊ะฝั่งขวามีผู้ชายหกคนผู้หญิงสามคนนั่งเรียงกันกำลังหัวร่อต่อกระซิกอย่างออกรส ด้านตรงข้ามมีผู้ชายห้าคนและที่ว่างอีกหลายที่ ส่วนโต๊ะฝั่งซ้ายยังมีคนนั่งไม่ถึงห้าคน ด้านซ้ายของโต๊ะที่ติดกับผนังด้านในมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวอะโลน ผมจึงตัดสินใจเดินไปนั่งห่างๆ จากผู้ชายที่ดูจะนิ่งที่สุดภายในงาน
เหลือบมองด้วยหางตา ไอ้ห่านี่มันสวมเสื้อลายตัดอ้อยกับกางเกงขาเดฟสีดำ เดี๋ยวนะ! เสื้อลายตัดอ้อย!?? มึงกล้าใส่มางานที่จัดในโรงแรมได้ไงวะ! แต่ที่น่าโมโหก็คือ พอไม้แขวนเสื้อเป็นไหล่ผายๆ อกแน่นๆ ลำตัวยาวๆ ของมันกลับกลายเป็นดูดีไปซะฉิบ นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นผมใส่นะ โดนไล่ไปตัดอ้อยชัวร์!
“ขยับมานั่งใกล้ๆ ก็ได้ ผมไม่กัด” คือ…ประโยคแรกมึงก็กัดกูแล้วมิใช่หรือ?
ผมขยับก้นไปนั่งเก้าอี้ตัวติดกับผู้ชายคนนั้น พอเห็นใกล้ๆ รู้สึกว่าตัวเองหมองลงไปอีกสองเกวียน ก็เครื่องหน้าแม่งแน่นมาก ไม่บรรยายหรอกว่ายังไง บอกได้แค่ว่า แน่นเป๊ะ ส่วนผมน่ะเหรอ จะว่าหล่อก็ไม่หล่อ ขาวก็ไม่ขาว ดำก็ไม่ดำ เป็นคนสายกลางมากๆ กลมกลืนกับธรรมชาติมาก กล่าวคือ.. ไม่มีเหี้ยอะไรโดดเด่นกับเค้าเลยแม้แต่น้อย T__T จุกจิตขึ้นมาทันที รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาแบบเฉียบพลันทันใด
“พี่ชื่อเมมไรอะ” ผมถามด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็น
“เมื่อกี้ยังหงออยู่เลย เปิดปากประโยคแรกก็แสดงตัวตนว่าทำไร่เผือกแล้วเหรอวะ” ประโยคสองมึงก็ยังจิกกัดกูอย่างต่อเนื่อง =*=
“ตะกร้อสักอันมั้ยพี่ ไหนบอกว่าไม่กัดไง”
“ลามปาม” มันทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นจากเดิมที่หน้าเหมือนปวดขี้อยู่แล้ว “กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ” ผมยักไหล่ใส่อย่างชิวๆ
“ไม่เหมือนอะ ผมไม่เคยมีเพื่อนแก่คราวพ่อแบบนี้” จากหน้าปวดขี้ตอนนี้หน้าแม่งเหมือนกำลังเบ่งคลอด ก๊ากกก ฮาไปนะกูเนี่ย
“ปากดีไม่สมกับสภาพพิกลพิการของลำตัวเลยสัด” ด่ากูซะเสียหายเลย กูแค่ตัวสั้นเฉยๆ นี่ก็ยืดสุดๆ แล้วนะ 172 ก็ไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นคร้าบบบ มันส่ายหน้าเบ่งคลอดของมันไปมาแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ
เอ่อ! ว่าแต่ทำไมกูไม่ได้เครื่องดื่มอยู่คนเดียววะ หันซ้ายแลขวา พวกแม่งเอามาจากไหนกัน ทั้งเหล้าทั้งเบียร์จัดเต็มกันหมด
“อยู่มุมนู้น สะเหล่อ” มันคงเห็นว่าผมหันไปผิดทิศก็เลยชี้บอกทางสว่าง แต่ขอโทษเหอะครับ มึงแดกหมาที่แดกไก่เข้าไปรึไงถึงได้คอยจิกกัดกูทุกคำ!
“ใช่แล้วครับ ผมนี่แหละ เป้ สะเลอ” ผมทำหน้ามึนแล้วยืนขึ้นโค้งตัวให้จากนั้นก็เดินไปหยิบเครื่องดื่ม ได้เบียร์มาหนึ่งแก้วกับอีกหนึ่งเหยือก ของฟรีไม่มีในโลกหรอก กว่าจะได้มางานก็เสียตังค์ไปสามร้อยเก้าสิบเก้า เพราะฉะนั้นกูจะเอาคืนเป็นสองเท่า หึหึหึ
“เอามั้ยพี่” ผมยกเหยือกจะเทเบียร์ให้ กระชับมิตรหน่อยเดี๋ยวจะได้กินยำตีนแก่ คิกๆๆ
“มึงให้เอากูก็เอา ของฟรี กูไม่ปฏิเสธ” แน่ะ! ไอ้หื่น
“ไม่ฟรีดิ เอาได้แต่จ่ายหนัก เอาไม่พักจ่ายหนักเป็นสองเท่านะคร้าบ” ยักคิ้วกวนๆ ไปสามจึ๋งแล้วรินเบียร์ให้มัน “เอาป่าวๆ” ผมท้าไปอีกหลังจากวางเหยือกลงบนโต๊ะ บอกเลยว่าไม่ใช่ไก่อ่อนนอนให้มึงกัดแล้วไม่สู้หรอกนะ คนอย่าง ‘จ้าวโลก’ ไม่เจ๋งจริงไม่ชื่อนี้หรอกเว้ย
“มึงนี่เหมือนคู่จิ้นกู” มันว่าแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่ม ยิ้มเหยียดๆ ของมันทำให้ผมอนาถหนังหน้าตัวเองอีกครั้ง ทำไมแม่ถึงไม่ไปปล้ำณเดชบ้างวะ เบ้าหน้าผมจะได้เป๊ะกว่านี้ คิดแล้วโมโห ซัดเบียร์ไปอีกครึ่งแก้วด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจระรอกใหม่
“คู่จิ้นพี่เป็นใครเหรอ” หลอกถามซะเลยจะได้รู้ว่ามันเป็นใคร กวนนิ่งๆ แบบนี้ก็เหมือน ‘Buccaneer’ คู่จิ้นของผมเลยว่ะ แต่ไอ้พี่บั๊คสลัดผักมันคงไม่หล่อแบบนี้หรอก ไม่รู้ว่าจะมามั้ย หน้าตาจะเห่ยแค่ไหน คึคึ อยากเห็นเร็วๆ
“บอกก็ได้” มันพูดนิ่งๆ แล้วจิบเบียร์ ผมหูผึ่งทันที ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างมีมนุษย์สอดรู้สัมพันธ์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าเสือกนั่นแหละ “แลกกับสองน้ำ” วกเข้าใต้สะดือตลอดๆ
“สองน้ำก็ได้ แต่ผมแทงพี่นะ” ผมยักคิ้วให้พลางยืดแผงคอแสดงความแมน
“บ้านมึงมีกระจกปะ” มันถาม
“มีดิ ส่องเห็นเทพบุตรทุกวันจนเบื่อความหล่อแล้วเนี่ย อยากขี้เหร่ อยากขี้เหร่”
มันส่ายหน้าเพลียๆ “ถ้ามีมึงคงรู้ว่าหน้าเหี้ยเตี้ยสั้นอย่างมึงน่ะไปแทงใครไม่ได้หรอก” ปรี๊ดเลย ปรี๊ดขึ้นต้นมะพร้าว คนอย่างไอ้จ้าว ด่าพ่อล่อแม่เล่นหิ้งชิงเมียก็ไม่เคืองเท่าด่ากูสั้น แบบนี้มึงต้องโดน…
“สั้นไม่สั้นก็พันคอพี่ได้รอบแหละ” ผมเบะปากใส่แล้วกระดกเบียร์อีกครึ่งแก้วจนหมด “ผมไม่อ่อนเหอะ ถ้าอยากได้ใครไม่เห็นต้องกดให้เปลืองแรง ผมใช้วิธีมอมยาพาเสียวโว้ย” ยักคิ้วให้มันอีกรอบแล้วตบด้วยประโยคเด็ด “ลุกไปไหนก็หยิบแก้วไปด้วยนะ เพราะไม่งั้นผมอาจใส่ยาลงปายยยยยย” ลากเสียงยาวอ้อนตีนแม่งเลย
มันส่ายหัวแล้วหัวเราะหึหึ จากนั้นก็กระดกเบียร์เข้าปากแล้วแลบลิ้นเลียขอบปากที่ฟองเบียร์ติดอยู่
แม่ง...อย่างเท่ มึงจะเท่ไปไหนวะไอ้หล่อ ดูดีจนกูเกลียดเลยห่า อยากรู้ว่าชื่อเมมอะไรกันแน่ ถ้าให้เดาต้องเป็น ‘แมวเล้า’ แน่ๆ เห็นเค้าร่ำลือกันว่าตัวจริงมันหล่อ หรือไม่ก็อาจเป็นคู่จิ้นของมัน ‘เมียร์แคท’ สองคนนี้มันตั้งชื่อล้อกัน ตอนแรกเมียร์แคทมันชื่อ ‘หนอนชาเขียว’ แต่เปลี่ยนเป็นเมียร์(ไอ้แมว)แคทตอนที่โดนจับจิ้นกับแมวเล้า คู่นี้มันจะคอยเซอร์วิสให้พวกชอบจิ้นก็เลยอ้อนกันสวีทกันในทู้ตลอด แต่ผมกับไอ้พี่บั๊คจะทะเลาะกัน กัดกันซะส่วนใหญ่ ต่างแบบต่างสไตล์แต่คงถูกใจขาจิ้นเหมือนกัน คู่ผมกับคู่ผัวเมียแมวก็เลยเป็นสองคู่ที่ถูกจิ้นมากที่สุด
“ฮัลโหล หนึ่ง สอง สาม” ใครโทรมา ถุ้ย! นี่มันเสียงประกาศจากบนเวทีต่างหาก ผมเลิกสนใจไอ้พี่หล่อข้างๆ แล้วหันไปมองบนเวที
ไอ้ห่าบนเวทีก็โคตรหล่อ แม่งหล่อกว่าไอ้ที่นั่งข้างผมอีกว่ะ อะไรวะเนี่ย ไหนบอกว่าเว็บดำดิน ในดินมันต้องดำๆ ด่างๆ เหมือนกูสิ พวกมึงควรย้ายไปอยู่เว็บทวยเทพนู่น ไป๊ ชิ้ว!
“พวกคุณมึงเลิกจ่ายตลาดกันสักครู่นะครับ ฟังกูผมพูดแค่สองนาที ถ้าใครเปิดปากอีก...กูลบ!” เสียงเงียบกริบทันทีที่ได้ยินคำประกาศิต ไอ้ห่าพี่ดินแน่ๆ เอะอะขู่ลบเมมแบบนี้มีไม่กี่คนหรอก แต่ด้วยออร่าเลวๆ รอบตัวมัน ผมฟันธงเลยว่า มันต้องเป็นพี่ดินชัวร์!
“คืนนี้มีอาหารเครื่องดื่มเพียงพอให้พวกคุณมึงเสพไปสามวันสามคืน แต่กูผมมีเวลาให้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น เที่ยงปุ๊บไสหัวไปปั๊บ ถ้ากูผมยังเห็นใครหลังเที่ยงคืน..” มันยื่นไมค์มาด้านหน้า ทุกคนประสานเสียงตอบดังลั่น
“ลบ!!”“เก่งมาก” ไอ้พี่ดินตบมือแปะๆ ชื่นชมแล้วพูดต่อ “วันนี้กูผมมีเกมให้เล่น ชิงรางวัลใหญ่สองรางวัล นั่นก็คือกำไลทองแท้หนักอันละหนึ่งบาท” มันชี้ไปที่หัวโต๊ะทั้งสองตัว “วิธีจะได้มาก็คือ มึงหาคู่จิ้นของมึงให้เจอแล้วขึ้นมาบนเวทีก่อนสี่ทุ่มแต่ถ้าคู่ไหนขึ้นมาแล้วมีคนตะโกนเรียกชื่อคนใดคนหนึ่งได้ถูกต้องก็ถือว่าแพ้ฟาล์ว ถ้าไม่มีคู่แข่งมึงก็เอารางวัลไปเลยทั้งคู่ แต่ถ้ามีคู่แข่งมึงก็ต้องแข่งกัน คู่ไหนแข่งชนะก็เอาทองไป จบ!”
เสียงโหยหวนดังขึ้นเพราะมันเป็นการอธิบายที่สั้นห้วนไร้ความกระจ่าง แต่พอไอ้พี่ดินมันพูดว่า “ใครโห่กูลบ” เสียงนั้นก็หายไปกลายเป็นพูดคุยกันถึงเรื่องเกมแทน =__=;;;
ถามว่ามันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ การโดนลบเมมเบอร์เนี่ย ผมบอกตามตรงนะว่าผมน่ะ
‘โคตรกลัว’ ฮ่าๆๆ ก็เว็บนี้มันโคตรสนุก ผมเล่นมาตั้งแต่ ม.5 รู้จักคนในบอร์ดแทบจะหมด เวลาเครียดๆ ก็เข้าไปคุยหรือถ้ามีปัญหาอะไรก็เข้าไประบาย ทุกครั้งก็จะได้ประโยคเหี้ยๆ แต่ความหมายดีๆ มาใช้แก้ปัญหาได้ตลอด โดยเฉพาะไอ้พี่สลัด ถึงมันจะชอบทำเหมือนไม่สนใจผม แต่เวลาผมมีปัญหามันก็จะเข้ามาด่าแต่แฝงข้อคิดให้ตลอด
...ผมรักที่นี่ รักคนในบอร์ดประหนึ่งเป็นญาติสนิทที่ตายไปแล้วเลยล่ะ บรือออส์ พวกแม่งน่ากลัวกว่าผีอีก ก๊ากกกก ได้ด่าพวกมันในใจก็สะใจแล้ว
ในระหว่างที่รอให้ถึงสี่ทุ่ม ก็มีการเสาะหาเบาะแสว่าใครเป็นใคร ไอ้ครั้นจะประกาศว่า เฮ้ย กูชื่อนี้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวใครรู้จักก็แพ้ฟาล์ว ไอ้ผมมันก็ไม่สนใจอยากได้รางวัลอะไรหรอกนะ ก็แค่…
“พี่รู้จักใครมั่งอะ บอกหน่อยดิ ผมอยากได้ทอง” ผมสะกิดบอกคนข้างๆ อย่างไว้ท่า(?)
“บอกมาก่อนว่าคู่จิ้นมึงเป็นใคร” ฮั่นแน่! ถ้ากูบอกว่าคู่จิ้นเป็นใคร มึงก็รู้ดิว่ากูเป็นใคร เห็นหน้าโง่ๆ แต่กูฉลาดนะเว้ย
“บอกให้โง่ดิ เดี๋ยวอดได้ทอง” มันยกเบียร์จิบแล้วแลมองผมยิ้มๆ
“อยากได้มากเหรอ ให้กูช่วยเอาปะ” มันถามด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์
“แลกกับกี่น้ำ” ผมดักคอแม่งก่อนเลย
“ไม่ต้องแลก มึงได้ทอง กูได้ทอง แต่มึงห้ามถามวิธีการ ทำตามที่กูบอกก็พอ” ผมขมวดคิ้วมองมันอย่างสงสัย
“ทำไมถามไม่ได้ ถ้าเกิดพี่ให้ผมแก้ผ้าบนเวทีผมก็ฟินตายดิ คิกๆๆ” ไอ้พี่นั่นส่ายหัวกับความไร้สาระของผม
“มันก็อยู่ที่มึง ถ้ากูใช้แล้วมึงไม่ทำซะอย่าง มึงก็ไม่ได้ฟิน ก็แค่นั้น” เออ ก็จริงแฮะ ถ้ามันบอกให้ผมทำอะไรแปลกๆ แล้วผมไม่ทำ ก็แค่ไม่ได้ทอง ก็ถือว่าแพ้ไป ไม่เห็นเป็นไร
“โอเคๆ เอาไงเอากัน” ผมยักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี
“มึงพูดเองนะ” อะไรอีกล่ะ พูดอะไรส่อๆ อีกล่ะสิ
...เดี๋ยวนะ ขอคิดก่อน อ๋อ!
“เอากันก็ได้แต่ขอผมวางยาพี่ก่อนนะ” พูดแล้วก็ยกเบียร์ขึ้นจิบโชว์ความเหนือใส่มัน ไอ้พี่บ้านี่ก็ยิ้มเท่อีกละ แล้วก็ชอบหัวเราะหึหึข่มให้ผมหมองลงทุกทีๆ เฮ้อ กระดกเบียร์แก้เซ็งรอเวลาไปรับทองดีกว่า คริกๆ
“อีกห้านาทีจะสี่ทุ่ม ใครเจอคู่แล้วขึ้นมาได้เลย” เสียงประกาศจากคนเดิมดังขึ้น ตอนนี้ผมว่ามันหล่อกว่าเมื่อกี้เยอะเลยว่ะ เฮ้ย คนอื่นก็ดูดีขึ้นเป็นกอง เหล้านี่ใส่กลูต้าไทโอนรึไงวะ แดกแล้วสวยหล่อบริ๊งๆ ก๊ากกกๆๆๆ
มันเป็นมุกกกก รู้หรอกน่าว่าผมเองนั่นแหละที่กรึ่มๆ จนตามันพล่า คิกๆ เบียร์ไม่อั้นแบบนี้สบายหายห่วงหมาที่บ้านเลยละ อ้วกให้แดกสามวันสามคืนไปเลย กร๊ากกกก กูนี่ฮาจริงๆ เรียกกูว่าไอ้จ้าวเชิญยิ้ม เอิ๊กๆๆ
“ยิ้มเหี้ยไรอยู่ได้วะ ไปได้แล้ว” ไอ้พี่หน้าหล่อแม่งกระตุกแขนกูทำไม แล้วต้องขึ้นเวทีด้วยเหรอ ไปทำอะไร กูร้องเพลงไม่เป็นนะ
“โด่ โด่ โด่เรมีฟาซอลลาทีโด๊..”
“ร้องโน้ตทำเชี่ยไรเนี่ย” หนอย มาทำหน้าโหดใส่กูทำไม กูกำลังวอร์มเสียงเหอะ
“ซ้อมลูกคอไง เดี๋ยวร้องเพลงไม่เพราะ” เสียงเริ่มยานๆ แล้วกูเนี่ย แต่ผมว่าเซ็กซี่ดีนะ คิกๆ กูนี่มองโลกในแง่ดีจริงๆ
“ไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลง ไปเล่นเกม” เสียงเขียวเลย กูขอเสียงแดงได้มั้ย กูชอบไอ้มดแดงมากกว่าไอ้มดเขียว ฮ่าๆๆๆๆ ฮามั้ยๆ “จะเอามั้ยทองน่ะ” มันถามย้ำมาอีก คราวนี้หูผึ่งเลยครับ
“เออใช่ ต้องหาคู่จิ้นไปเอาทองนี่หว่า จำได้ละ ไปเร็วๆ มัวยืนทึ่มอยู่ได้” ผมลุกขึ้นแล้วลากแขนไอ้พี่หล่อขึ้นไปบนเวที
“กูอยากจะบ้าตายกับมึงจริงๆ” เสียงบ่นงึมงำตามหลังแต่ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้ยืนอยู่กลางเวทีพร้อมกับยิ้มแฉ่งอวดฟันขาวสามสิบสองซี่เพราะยังไม่เห็นว่าจะมีคู่แข่งขึ้นมา
...ได้แน่ กูได้แน่ๆ
“อีกยี่สิบวินาที” เสียงไอ้พี่ดินประกาศแล้วนับถอยหลัง ผมกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อนับถึงสิบ
เก้า
แปด
เจ็ด
หก
ห้า
สี่...
“มาแล้ววว” เชี่ย!!! มาหาพ่อมึงเหรอ ไป๊ๆ อย่าขึ้นมา! ผมทำท่าจะไปไล่ไอ้สามคู่ที่กำลังขึ้นเวทีแต่ไอ้พี่ข้างๆ มันล็อกคอไว้ซะก่อน
“ยืนยังไม่ตรงจะทำซ่าอีกไอ้ลูกหมา” มันก้มมากระซิบด่าผม ไอ้ห่านี่ว่าผมเป็นลูกหมา ชิส์ ผมเป็นลูกแมวน้อยคอยรักต่างหาก ฮิ้ววววววววว
“ซ่าไม่ซ่าโซดาเรียกพี่เหอะ” เสียงยานๆ ของผมกว่าจะหลุดออกจากปากก็แสนเชื่องช้า หรือโลกหมุนช้าลง ไม่สิ ต้องบอกว่า.. โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอยยยย
“เต้นทำไมเนี่ย มึงอยู่นิ่งๆ ได้มั้ย อายคนอื่นเค้า” ห่า กูร้องเพลงในใจกูก็ต้องเต้นสิ ขี้บ่นว่ะไอ้แก่นี่
“หมดเวลา!” เสียงประกาศที่ดังขึ้นทำให้ผมอดต่อล้อต่อเถียงกับไอ้แก่ที่จับแขนสองข้างของผมให้แนบลงกับตัว “สรุปว่ามีทั้งหมดห้าคู่ที่หาคู่จิ้นได้”
โห่ วัยรุ่นเซร็ง!
“มาสกรีนกันก่อนว่าถูกคู่มั้ย” อ้าว ไม่ได้เตี๊ยมกันไว้นี่หว่าว่าถ้าเค้าถามกูจะรู้มั้ยว่าไอ้แก่นี่เป็นใครอะ “หยิบการ์ดใบเล็กที่ได้ตอนลงทะเบียนขึ้นมาครับ ใครไม่มีลงเวทีไปเลย กูผมถือว่าแพ้ฟาล์ว” มีสองคู่ที่ทำท่าหงุดหงิดแล้วลงเวทีไป
อ๋อ รู้แล้ว ในการ์ดนี่ต้องมีชื่อของเราไว้ ถ้าเอามาดูก็จะรู้ว่าถูกคู่รึเปล่า เฮ้ย! งั้นก็อดได้ทองดิ ไอ้แก่นี่ไม่ใช่พี่สลัดของกูอยู่แล้ว เฮ้ออออ
“จะไปไหน” โดนล็อกคออีกละ =*= กูไม่ใช่มอเตอร์ไซค์นะ จอดที่ไหนมึงจะได้ล็อกคอกูตลอดเนี่ย กร๊ากกกกก ฮามั้ยๆๆ ถ้าฮาก็เรียกข้าว่า...จ้าวเชิญยิ้ม!
“ก็แพ้แล้วจะอยู่เพาะเห็ดอะไรบนนี้เล่า” ผมบอกอย่างหงุดหงิด
“เอาการ์ดมึงออกมาก่อน” ไอ้พี่มันกระดิกมือขอการ์ดของผม
“อะ” ยื่นแปะลงไปบนฝ่ามือมัน เป็นจังหวะเดียวกับที่มันกำมือรับทำให้มือผมโดนมันจับไว้เต็มๆ เหมือนมีกระแสไฟพุ่งใส่ฝ่ามือแล้วไหลไปตามเส้นเลือด มันช็อตแปล๊บๆ จนผมงง เงยหน้ามองมันก็เห็นดวงตาคู่คมขมวดมุ่นอย่างสงสัย
“มือเย็นเหมือนศพเลยว่ะ มึงตายรึยังเนี่ย” กระแสไฟหายไปทันที ผมได้สติจึงดึงมือออกมา
“ตายแล้ว ตายเพราะโดนประหารชีวิตตอนไปฆ่าหั่นศพพี่ไง” น้ำลายห่านี่ก็ปริ่มอยู่ตรงมุมปาก คอยจะไหลออกมาอยู่ได้ ตายห่า เมาจนคุมน้ำลายตัวเองไม่อยู่ กูเรื้อนขนาดนี้เลยเหรอวะ
"แมวเล้า กับ เมียร์แคท ...ถูกคู่” เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดหวีดร้องและเป่าปากจากด้านล่าง ผมจึงหันไปมอง ไอ้พี่ดินมันชูการ์ดสองใบขึ้นโชว์แล้วหันไปรับการ์ดอีกสองใบจากอีกคู่
“ผู้หญิงกลางคืน กับ เสือหื่น…ถูกคู่” สาวสวยกับหนุ่มหน้าเห่ยมันถูกคู่ได้ไงฟระ ต้องกูนี่ที่คู่ควรกับอกอึ๋มคู่นั้น
“จะไปไหนนนนน” เสียงต่ำๆ แต่ลากยาวยังไม่เท่ากับคอผมที่โดนล็อก อีกแล้ว!
“เลิกล็อกซะทีเหอะ ล็อกจนเข้าบ้านไม่ได้แล้วเว้ย” ดูท่าว่ามันจะไม่เก็ตมุกผม ไอ้พี่คนแก่ส่ายหน้าไม่สนใจแล้วนิ่งฟังประกาศจากไอ้พี่ดิน
“เบลล่า กับ WOODOO ผิดคู่ ไสหัวไปเลยอีเหียก ขอเสียงโห่ให้มันสองตัวหน่อยครับ” แล้วเสียงโห่ก็ถูกส่งขึ้นมายังสองสาวที่ปิดหน้าปิดตาวิ่งลงเวทีไป
ฉิบหาย เดี๋ยวกูก็จะโดนโห่ ไม่นะ! กูไม่ใช่พ่อนาค ไม่ต้องมาโห่ให้ กูไม่ได้บวช!
“ส่งมาเลยครับ” ไอ้พี่ดินแบมือ ส่วนไอ้พี่หล่อมันก็ยื่นการ์ดทั้งของมันและของผมไปให้
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ตึกตักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้เหี้ย! ประกาศซะที มึงจะดึงเซ็งทำไม หัวใจกูจะหลุดออกมาเต้นแร็ปบนเวทีแล้วโว้ย!
“จ้าวโลก กับ...” ทีคนอื่นทำไมมึงไม่เว้นช่องไฟ ทีคู่กูมึงจะเว้นไว้ให้เมียมาอยู่ไฟรึไงฟระ ประกาศเร็วเร้วววววว
“จ้าวโลก กับ Buccaneer” อะไรนะมันพูดชื่อผมกับบักแคนเนี่ยเหรอ อ๋อ คนอีสาน บักแคน กร๊ากกกก เจ้าเป๋นคนอีสานดั้งเจ้าคือโด่งแท้ อีสานปล๋อมตี๊ล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
“ปรี๊ดดดดด วิ้ววววววววววววว กรี๊ดดดดดดดด วู้วๆๆๆๆๆ ” สารพัดเสียงกรีดร้องเป่าปากจากด้านล่างดังขึ้น
ทำไม ดีใจอะไรกันวะ
“ถูกคู่”อ๋อ ดีใจที่กูจับคู่จิ้นถูกว่างั้น
o_O!!!
เฮ้ย!!
ถ...ถูก ถูกคู่!! ป...แปลว่า... ไอ้แก่นี่ก็…
“ไอ้พี่สลัด!!!”
ป้าบ!!
“โอ๊ย เจ็บสลัด!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกตบท้ายทอยอย่างแรง
“ยังจะสลัดอีก! ลามปามทั้งในจอนอกจอไอ้ห่านี่” อันแรกกูเรียกมึงจริงๆ แต่อันที่สองกูอุทานมั่งเหอะ ตบมาได้ หน้าเกือบคะมำ
“พี่บั๊คจริงดิ” ผมมองมันอย่างไม่เชื่อสายตา พี่สลัดคู่จิ้นกูเนี่ยนะ เฮ้ย ได้ไง หล่อไปนะพี่!
“เออดิ” มันตอบแล้วยักคิ้ว
“ก็ดีใจอยู่หรอกที่บังเอิญถูกคู่ แต่อะไรไม่ว่า ไอ้ห่าพี่แม่งตบกูน้องซะสร่างเบียร์เลยว่ะ” ผมทำหน้ามุ่ยด่ามัน “มีอย่างที่ไหน คนเพิ่งเคยเจอกัน มาถึงเนื้อถึงตัวแต๊ะอั๋งเค้าอยู่ได้ แอร๊ยยยยย เขินจุง” ผมแกล้งทำท่าคิกขุใส่
“ยังไม่สำนึก เดี๋ยวก็โดนอีกป้าบ” ไอ้พี่บั๊คเงื้อมือจะตบผมอีกรอบแต่เสียงระฆังช่วยเอาไว้ซะก่อน
“เลิกจีบกันสักครู่ครับไอ้สลัดกับน้องจู๋เล็ก” นั่นไง โดนแพ็กคู่เลย
“จีบพ่อง” พี่สลัดมันด่าพี่ดิน
“ระวังวาจาด้วยนะครับ มึงอยู่บนเวที ที่นี่กูหญ่ายยยย” พี่บั๊คเบะปากใส่แล้วพี่ดินก็พูดต่อ “เป็นอันว่าได้ผู้เข้าชิงสามคู่ ก็เลยต้องงัดกติกาเด็ดเพื่อชิงทองกัน นั่นก็คือ...” เว้นช่องไฟอีกละ เอาเมียมึงไปอบซาวน่าดีกว่ามั้ย กูรำคาญ!! “...ทำยังไงก็ได้ให้กูเชื่อว่ามึงสองคนเป็นคู่เรียล ไม่ใช่แค่คู่จิ้น” แห!!! อะไรนะ! “ทำยังไงก็ได้ให้กูเชื่อว่าพวกมึงเป็นผัวเมียกันไม่ใช่แค่คู่จิ้น” O{}O!!?? ก็พวกกูไม่ใช่อะ แล้วจะไปทำให้มึงเชื่อได้ไงไอ้ห่าพี่ดิ๊นนนนนนนน
ไอ้พี่ดินมันย้ำกติกาแบบชัดเจนอีกครั้งเพราะคงเห็นพวกผมมองด้วยสายตาควายงง พอมันบอกเสร็จก็ยิ้มกริ่มประหนึ่งว่าเมียมันได้สมสู่กับเจมส์จิแล้วออกลูกมาหล่อเกินหน้าพ่อ “ใครไม่ทำ กูลบเมม!” อ้าว ทำไมมึงไม่บอกก่อนว่านี่คือการบังคับให้ชิงทองไม่ใช่สมัครใจมาชิงทอง
พอหันไปมองหน้าไอ้พี่บั๊ค มันก็บุ้ยปากไปทางคู่ผัวเมียแมว ตอนนี้ไอ้หน้าสวยตัวสั้นยืนหน้าซีดปากสั่นถูกไอ้หน้าหล่อสูงโย่งตัวดำๆ กอดจนจมเข้าไปในร่าง กอดไม่พอแม่งยังยกขึ้นเหวี่ยงๆ หมุนๆ อีกต่างหาก เมื่อกี้ผมก็ไม่ได้ดูว่าใครชื่ออะไรแต่ไอ้คนสูงคงเป็นไอ้แมวเล้า ไอ้คนเตี้ยคงเป็นเมียร์แคทละมั้ง
“ผ่าน!!!” เสียงประกาศจากไอ้พี่ดินดังขึ้น ไอ้สองคนก็ผละกอดออกจากกัน ไอ้ตัวเล็กหันไปถลึงตาใส่ไอ้ตัวสูงเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ คิกๆ ทีในทู้มึงออดอ้อนรำพันแทบจะสมสู่กันโชว์พวกกูอยู่แล้ว ทีงี้มาทำอาย เดี๋ยวดูคู่กูมั่งเหอะ
ว่าแต่.. คู่กูจะทำไรดีวะ!
มองหน้าไอ้พี่บั๊คอีกรอบแล้วเกิดอาการแปลกๆ ขึ้นอีกครั้ง เหมือนเห็นกระแสไฟพุ่งเข้ามาในตาผมแต่แล้วก็หายไปเมื่อมันบุ้ยปากไปที่อีกคู่ ไอ้หน้าเห่ยช้อนตัวสาวสวยอกอึ๋มขึ้นอย่างยักแย่ยักยัน มันยกร่างบอบบางแค่นั้นไม่ไหวได้ไงวะ มานี่เดี๋ยวพี่จ้าวจะสอนเอง
“ไปไหนนนนนนนนนนน” พยางค์สั้นลงแต่ลากเสียงยาวขึ้น เพื่อ?? “เตรียมตัวเตรียมใจ เดี๋ยวถึงตาเราแล้ว” มันบอก
“ทำไรดีอะพี่ ไม่ต้องอุ้มผมนะ น่าอายว่ะ” ผมบอกมันหน้านิ่ว
“เตี้ยล่ำขนาดนี้ขืนกูอุ้มบั้นเด้าก็เสียหมด” จังไรแท้คำพูดมึงเนี่ย =*=
“แล้วจะทำไรดี” ผมถามพร้อมกับการประกาศผลของคู่ที่สอง
“มึงอุ้มเมียหรือหิ้วถุงขยะไอ้เสือหื่น พรุ่งนี้กูจะเปลี่ยนชื่อเมมมึงเป็น เสือเห่ย ไม่ผ่าน ไป๊!” โดนไล่ลงเวทีไปพร้อมเสียงโห่ กูกลัวว่ะ ไม่ชอบเสียงโห่เลย บอกแล้วไงว่ากูไม่บวช!!!
“คู่สุดท้าย ถ้ามึงคิดว่าเจ๋งน้อยกว่าไอ้คู่แมวก็เดินลงเวทีไปเลย กูขี้เกียจยืนแล้วเมื่อยไข่!” ไอ้ห่าพี่ดินแม่งก็โชว์กากตลอด
“กูจะจูบ” ห้ะ!! จ...จูบ!!! มึงพูดเหมือนมึงแค่จะเชคแฮนด์กับกูงั้นแหละ
“บ้าไปแล้ว แบบนี้ไม่เล่น ไม่เอา!”
“เล่นๆ ไปเหอะ รีบจูบรีบจบจะได้ไม่แหยงนาน คิดซะว่าทำเพื่อกำไลทองก็แล้วกัน”“เฮ้ย ไม่เอา! เค้าจะเก็บจูบแรกไว้ให้น้องไลลา ลูกพอลล่า ยอมแพ้เหอะพี่ ขอบายดีกว่า”
“ไม่ได้! ไม่กลัวโดนลบเมมเหรอ” ก็กลัวอยู่หรอก แต่ก็น้อยกว่าโดนมึงจูบปะวะ “มึงเคยเห็นในละครมั้ย แบบใช้มุมกล้องน่ะ” ผมคิดตามแล้วพยักหน้า “นั่นแหละ เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงแค่อย่าฝืนอย่าขืนตัว ถ้าอ่อนหัดก็หลับตาไปจนกว่าไอ้ดินจะประกาศ” ทุกอย่างเข้าใจ โอเครับได้ แต่ไอ้คำว่า ‘อ่อนหัด’ นี่คืออัลรายยยย คนอย่าง จ้าวโลก ไม่อ่อนนะคร้าบบบบ
“เดี๋ยวได้รู้” ผมว่าแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด ไอ้พี่บั๊คแม่งก็ประชิดตัวเข้ามาซะติด ครึ่งล่างตั้งแต่เอวลงไปนี่มดแดงเดินผ่านยังตายว่างั้นเหอะ มึงโก่งตูดหน่อยมั้ย อนาคอนด้ากูไม่มีที่หายใจ
“อย่าโหย่งตัวสิวะ เดี๋ยวไม่เนียน” แน่ะ พอกูจะโก่งตูดซะเองก็มาดักทางกูซะงั้น “เดี๋ยวกูจะขยับใกล้อีกเรื่อยๆ แต่มึงไม่ต้องกลัว ปากไม่โดนกันแน่ กูแขยง” ไอ้เชี่ย คำนี้อีกละ มึงแขยงกูก็ขยาดล่ะวะ ปากกูก็ไม่เหม็นซะหน่อย มาแขยงกูทำไม เอ๊ะ หรือว่าเหม็น เมื่อเช้าแปรงฟันรึเปล่า อ๋อ แปรงแล้วฉะนั้นหายห่วง >O< “ยิ้มเชี่ยไรอีกแล้วเนี่ย มึงบ้ารึเปล่าไอ้จ้าว เมาแล้วเรื้อนสัด”
ปากมันก็ด่านะ แต่ตามึงจ้องลึกเข้ามาในตากูแบบนี้คืออะไรวะไอ้ห่าพี่บั๊ค!***********************
ตอนแรกมาแล้วค่า