ผมจะไปเกณฑ์ทหาร
บทที่ 7
เย้ ได้กลับบ้านแล้ว
หลังฝึกหนักครบสามเดือนพวกเราก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันเสาร์และต้องกลับมาที่ค่ายเย็นวันอาทิตย์ ทหารใหม่จะต้องแต่งเครื่องแบบทหารเข้าออกค่ายในทุกครั้ง และเมื่อถึงเวลาแปดโมงเช้าพี่แทนก็ขับรถกระบะของเขามารับผมที่หน้าประตูค่ายตามที่นัดหมายกันไว้
“รอนานไหมครับดีน”
พี่แทนถามเมื่อรับผมขึ้นรถมาแล้ว ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พี่แทนมาตรงเวลาเป๊ะๆเลย
“ไม่นานครับพี่แทน ผมเพิ่งมาเหมือนกัน ไอ้กาวมันปลุกแต่เช้าให้พามันไปโรงพยาบาล”
ผมเล่าเรื่องที่ไอ้กาวบัดดี้ของผมไปสร้างวีรกรรมที่โรงพยาบาลค่าย พี่แทนหัวเราะเบาๆเมื่อฟังจบ
“ดีนะที่เจอเกื้ออยู่เวร เกื้อมันใจเย็น”
พี่แทนเล่าให้ฟังว่าคุณหมอเกื้อหนุนเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแล้วค่อยมารับราชการทหาร ส่วนพี่แทนเรียนจบจากวิทยาลัยแพทย์ทหารโดยตรง หมอเกื้ออายุน้อยกว่าพี่แทนปีนึง ทั้งคู่สนิทสนมกันดี เราสองคนพูดคุยกันตลอดทางจากค่ายทหารเข้ากรุงเทพ
“ดีนจะกลับบ้านเลยใช่ไหม ไม่แวะที่ไหนแล้วนะ”
พี่แทนถามเมื่อใกล้ถึงกรุงเทพ ผมพยักหน้ารับแทนคำตอบ พี่แทนรู้จักบ้านผมแล้วตั้งแต่วันแรกที่เราพบกันและ เอ่อ นั่นแหละ มีอะไรกันที่โรงแรมแล้วพี่เขาก็พาผมกลับบ้าน เมื่อใกล้จะถึงพี่แทนหยุดจอดรถที่หน้าร้านขายผลไม้สดร้านหนึ่ง เขาเลือกซื้อผลไม้หลายอย่างจัดใส่กระเช้า
“ของฝากให้แม่ดีนไง จะจีบลูกชายแม่ต้องมีของฝากติดไม้ติดมือไปหน่อย”
แหม ไอ้พี่ ว่าจะไม่เขินแล้วนะ
มองกูตาพราวเชียวครับ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ แล้วทำไมต้องหน้าร้อนเห่อขนาดนี้วะเนี่ย พลทหารดรัณ!
“พี่แทนอย่าเพิ่งรุกมากสิ เดี๋ยวแม่ก็ตกใจหรอก”
ผมพูดปนหัวเราะเบาๆ ขำที่คนข้างๆใจร้อน พี่แทนดึงมือผมไปกุมไว้ตอนที่ขับรถอยู่
“มือดีนนุ่มจัง”
“มาจับมืออะไรตอนนี้ล่ะครับ ตั้งใจขับรถไปเลยนะ”
แกล้งส่งเสียงดังแก้เขินแค่นั้นแหละ จริงๆแล้วก็ปล่อยให้พี่แทนกุมมือไว้ อบอุ่นดีนะมือนี้
“แม่อยู่ที่ร้านอาหาร พี่แทนขับไปที่ร้านก่อนครับ”
ร้านอาหารของแม่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เป็นร้านอาหารไทยระดับกลางๆที่มีลูกค้าเยอะพอควร ผมให้พี่แทนจอดรถและเดินเข้าทางด้านหลังร้าน เจอแม่จุ๋มสุดสวยยืนสั่งงานลูกน้องอยู่ในครัว
“แม่จ๋า แม่จุ๋มคนสวย”
“ดีน ไอ้ตัวดีลูกแม่”
ผมปรี่เข้าไปกอดแม่ที่ยังทำหน้าตื่นเต้น แม่กอดตอบจนแทบหายใจไม่ออก
“แกหนีค่ายทหารมาหรือเปล่าดีน โอ๊ย คิดถึงจัง โห ลูกชายแม่มีกล้ามแล้วด้วย แล้วนี่กลับมาทำไมไม่บอกจะได้ไปรับ”
ผมได้แต่อมยิ้มฟังคำทักทายของแม่ รอให้แม่พูดจบค่อยตอบคำถาม
“มีคนพามาไงแม่ มานี่เร็ว”
ผมจูงแขนแม่มาด้านนอกครัวที่พี่แทนยืนรออยู่
“พี่แทนครับ นี่แม่จุ๋มสุดสวยของผมเอง แม่จ๋า คนนี้ไงที่ขับรถมาส่งดีน ชื่อพี่แทนเป็นหมอทหารในค่าย”
“สวัสดีครับคุณแม่”
พี่แทนไหว้อย่างสวย สีหน้าละมุนละไมจนแม่มองตาค้าง
“หล่อจังค่ะ เอ๊ย สวัสดีค่ะคุณหมอ”
คนถูกชมยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่แม่จนผมชักจะหมั่นไส้
“แหม คุณนายจุ๋ม ลืมลูกชายแล้วเหรอ”
“บ้า ใครจะลืมเล่าไอ้ลูกคนนี้” แม่หันมาเขกหัวผมดังโป๊ก “แล้วนี่เขาให้พักแล้วเหรอ กลับบ้านได้กี่วัน”
“พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้วแม่ ค้างที่บ้านได้คืนนึง”
“ดีๆ เย็นนี้จะได้ทำชาบูกินกันที่บ้าน แล้วคุณหมอล่ะคะพักที่ไหน อยู่กินชาบูด้วยกันนะคะ”
แม่เอ่ยชวนคุณหมอสุดหล่อซึ่งก็คงเข้าทางเขาพอดี พี่แทนตอบเสียงนุ่มเชียว เอาใจแม่เก่งจริงแฮะ
“คงจะพักโรงแรมแถวนี้ครับคุณแม่ แล้วพรุ่งนี้จะพาดีนกลับค่ายตอนบ่ายด้วยกัน”
“โอ๊ย งั้นจะพักโรงแรมทำไมกันคะ ที่บ้านก็ยังมีห้องว่าง ห้องติดกับไอ้ดีนมันไง ค้างที่บ้านก็ได้จะได้กินชาบูด้วยกัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องรีบร้อน”
ผมเหล่มองขวัญใจคนใหม่ของแม่ แหม ไม่ปฏิเสธเชียวนะ แม่บอกให้ผมกับพี่แทนขับรถกลับบ้านก่อน แม่ขออยู่สั่งงานลูกน้องอีกพักแล้วจะขับตามไป เมื่อถึงบ้านพี่แทนก็นั่งอ่านหนังสือปล่อยให้ผมกับแม่ได้เตรียมอาหารเย็นและพูดคุยกันตามประสาแม่ลูก เมื่อชาบูมื้อเย็นพร้อมแล้วพวกเราจึงมารวมกันที่โต๊ะอาหาร
“เต็มที่เลยนะคะคุณหมอ เอ๊ะ หรือต้องเรียกว่าผู้กอง ดีนเพิ่งบอกว่าคุณหมอมียศทหารด้วย”
“เรียกอะไรก็ได้ครับ หรือจะเรียกแทนอย่างเดียวก็ได้”
พี่แทนหว่านเสน่ห์อีกแล้ว แม่จุ๋มนี่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฮึ สงสัยลืมลูกชายไปแล้ว
“ดีนพาคุณหมอไปที่ห้องนะลูก ห้องข้างห้องดีนนั่นแหละ แล้วอย่าไปกวนคุณหมอเขานะ พรุ่งนี้ต้องขับรถกลับค่ายอีก เดี๋ยวคุณหมอจะเหนื่อย”
แม่สั่งเมื่อพวกเรากินอิ่มและช่วยกันทำความสะอาดถ้วยจานแล้ว ผมจึงพาพี่แทนไปที่ห้องติดกับห้องผม
“ห้องนี้ครับพี่ ห้องน้ำอยู่ด้านนอกนะครับ เดี๋ยวผมไปคุยกันแม่ต่อนะ”
พี่แทนยิ้มให้ผม เขาคงรู้ว่าผมคิดถึงแม่และอยากนอนหนุนตักแม่แค่ไหน ผมใช้ช่วงเวลาหัวค่ำอยู่กับแม่จนถึงเวลาที่แม่ต้องเข้านอน จากนั้นจึงขึ้นมาชั้นสองเข้าห้องของตัวเองและอาบน้ำให้หายเหนียวตัว
“ดีนครับ”
เสียงคุ้นหูดังหน้าห้อง ผมเดินไปเปิดประตูให้พี่แทนเข้ามา เขารวบตัวผมเข้าไปกอดและหอมแก้มผมดังฟอด
“อยากกอดแบบนี้ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว”
พี่แทนนั่งลงบนเตียงและดึงให้ผมนั่งอยู่บนตักของเขา เราสบตากันจนผมชักเขินกับนัยน์ตาคมของพี่แทน
“ขอบคุณดีนมากนะที่เปิดโอกาสให้พี่เข้ามาในชีวิต ให้พี่ได้รู้จักแม่ของดีน”
“ไม่เปิดแล้วได้ไหมโอกาสเนี่ย แม่ผมปลื้มพี่แทนไปแล้วสิ อิจฉา”
ผมย่นจมูกใส่เขาจนพี่แทนต้องบีบจมูกผมเบาๆ
“อิจฉาทำไม แม่รักดีนจะตายไป เหมือนที่พี่เองก็รักดีน”
ทำไมต้องหน้าร้อนไอ้ดีน แค่เขาบอกรัก โว้ยยยย เขิน
“รีบรักเร็วไปหน่อยไหมครับ เรายังรู้จักกันไม่นานเลย”
“เวลาไม่เกี่ยวสักหน่อย พี่รักดีนตั้งแต่สบตาแล้วนะครับ”
พี่แทนยึดคางผมไว้ เขาโน้มหน้ามาจูบ ตอนแรกก็แค่แตะๆแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น เหมือนจูบนี้จะเรียกร้องให้ผมต้องจูบตอบ ผมเปิดทางให้เขาส่งลิ้นเข้ามาในปาก เราจูบกันดูดดื่มจนแทบขาดใจกว่าจะยอมผละออกจากกัน
“คุณแม่นอนห้องไหนครับ”
เขากระซิบถาม ผมยิ้มอย่างรู้ทัน
“ห้องข้างล่างนี่แหละครับ”
ขำสีหน้าพี่แทน เหมือนเขาเสียดายที่รู้คำตอบ
“ว้า ถ้าอย่างนั้นพี่กลับไปนอนที่ห้องดีกว่า เกรงใจคุณแม่”
“นอนคนเดียวเหงานะครับ” ผมกระซิบตอบ “ให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนไหม”
#คนหื่น2018 ยกแฮชแท็กให้เลย
พี่แทนลุกขึ้นและจูงมือผมไปที่ห้องข้างๆซึ่งกลายเป็นห้องพักชั่วคราวของเขา เราเอนกายลงไปบนเตียงตะแคงหันหน้าเข้าหากัน เขาโอบกอดผมไว้และดึงให้ผมเข้าไปแนบชิด เราจูบกันอีกครั้งและครั้งนี้ความหมายคือความต้องการซึ่งกัน
มือร้อนสอดเข้าไปในชุดนอนของผม พี่แทนลูบไล้ไปตามผิวกายจนผมถอนหายใจหนักหน่วง ร่างกายตื่นตลอดทั้งตัวจนต้องยกขาไปเกี่ยวเอวของพี่แทนจนส่วนกลางถูไถกัน ได้ยินเสียงครางลึกในลำคอของพี่แทนลอดออกมา
“พี่แทน” ผมเรียกชื่อเสียงพร่า เขาถอดเสื้อผ้าของผม ส่วนผมก็ถอดเสื้อผ้าของเขา “ห้องแม่กว้างมาก”
มือที่กำลังถอดกางเกงของผมชะงักครู่หนึ่งก่อนจะดึงมันออกไป
“ห้องแม่กินเนื้อที่ถึงห้องนี้ด้วย ถ้าเราเสียงดังแม่อาจจะตื่น”
นัยน์ตาคมแสดงความเสียดายวูบ ผมจูบปลอบใจเขา
“ถ้าพี่แทนทำเสียงอาจจะลอดลงไป”
“แล้ว... เราทำได้แค่นอนกอดกันใช่ไหมครับดีน”
ผมหลุดหัวเราะออกมาจนได้ อยากให้พี่แทนเห็นหน้าตัวเองตอนนี้จริงๆว่าจ๋อยแค่ไหน
“ก็ถ้าไม่อยากนอนกอดกันทั้งคืน ให้ผมช่วยดีกว่านะครับ”
ผมดันไหล่กว้างให้นอนหงายก่อนจะขยับไปอยู่ตรงกลางกายของเขา ความแข็งแกร่งนั้นพุ่งตรงชี้ไปยังเพดานบอกให้รู้ว่าเจ้าตัว “ขึ้น” แค่ไหน ผมกำโคนมันไว้และใช้อีกมือลูบไล้ปลายมนสวยจนน่าอิจฉา น้ำใสดันออกมาจากแฉกเมื่อผมแตะปลายลิ้นลงไป
มีต่ออีกนิด...