บทที่ 10
เจ็บสัดๆ ขัดไปหมด พี่เขาไม่ยั้งเลย ใส่มาพรวดๆ กระแทกกระทั้น ถุงยางแทบฉีก ผมนั่งทุบหมอนไปมาบนเตียง พี่เมฆนอนมองผมแล้วดึงผใให้หันไปหาแก
“คราวหน้าจะทำอีกไหม”เขาถาม ในใจผมงี้เถียงยาวเป็นห่างว่าว ทำอีก จะเขียนให้เต็มตัว จะทำให้ยิ่งกว่าเดิมเลย แล้วก็จะใช้
เล็บข่วนให้หลังเป็นแผลยาว ให้แสบอาบน้ำไม่ได้เลย
“ถามทำไมไม่ตอบ”พี่แกเขย่าแขนผม ผมมองแกแล้วค้อนขวับ พี่เมฆเลยลุกขึ้นนั่งแล้วดึงผมไปกอด
“อย่าเล่นแบบนี้อีกรู้ไหม มันไม่ดี”พี่แกสอนผม
“แล้วทำไมพี่แกล้งผมได้ละ แล้วทำไมต้องทำกับผมแบบนี้ ออกไปเลยนะ ไม่ต้องมาบ้านผมเลย”ผมยกชี้ไล่แก แกหัวเราะดังลั่นแล้วหอมแก้มผม
“หน้าด้าน ไล่แล้วไม่ยอมไปอีก ออกไปเลย ไม่ต้องมาเลย”โป้งแล้ว แม่ง เจ็บอ่ะ พี่เขาไม่ตอบโต้ เปลี่ยนใบหน้าจากรอยยิ้มเป็นเรียบตึงหลังจากจบประโยคของผม
ผมเริ่มตัวสั่นพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทั้งๆที่เป็นเจ้าของบ้านแท้ๆดันกลัวคนแปลกหน้าซะงั้น
“พี่กลับแล้วนะ”พี่เมฆค่อยๆลุกใส่เสื้อผ้า เขาวางเงินไว้ที่เดิม แล้วเดินออกไป โดยไม่หันมามองผมเลยสักนิด
ทำไมผมอยากจะรั้งเขาไม่รู้ มือของผมยื่นออกไป แต่แตะไม่ถึงตัวเขาเลย
ไปจริงๆหรอ ผมวิ่งตามพี่แกไปถึงรั้วบ้าน พี่เขาเดินเข้าไปในรถแล้วขับออกไปไม่สนใจ
ผมเป็นแค่เด็กขายตัวนี่น่า ผมจะมีสิทธิ์อะไร เขาอยากจะนอนด้วยเขาก็มา เขาอยากจะไปก็ไป ไม่ได้สำคัญสักนิด
ฮือ ฮือ
ผมทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น แล้วร้องไห้โฮ ทำไมไม่ง้อผมสักนิด ทำไมหันหลังหนีผมอีกแล้วละ หนีผมเหมือนคนอื่นๆเลย ไหนบอกว่าอยากได้ตัวผม อยากให้ผมไปอยู่ด้วยไง แล้วหนีผมทำไม ทำไมไม่ลงโทษผมอีก ทำแรงๆก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้สิ
ผมนั่งครำครวญอยู่นาน ก่อนจะนึกได้ว่าต้องไปรับตัวน้องสนิม
ผมโทรเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่อู่ น้องสนิมซ่อมเสร็จแล้ว ค่าเสียหายพี่เมฆแอบจ่ายไว้ตั้งแต่ตอนมาส่ง ผมอยากโทรไปขอบคุณแล้วก็ขอโทษเขาแต่ไม่กล้า
ผมพูดแรงไปใช่ไหม ผมเครียดมากเลย ตั้งแต่ออกจากบ้าน ก็คิดถึงเรื่องพี่เมฆ ผมทิ้งเงินที่เขาวางไว้บนโต๊ะไว้อย่างนั้นไม่ได้หยิบมาฝากธนาคารเหมือนก่อนหน้า ถ้าพี่เขากลับมาผมอยากให้เขาเอาเงินคืนไป ผมไม่ได้ขายตัวแล้วและผมก็ไม่ชอบที่พี่เขาทำแบบนี้ แต่ผมก็พูดแรงไปจริงๆ ผมสำนึกผิด
แต่พี่เขาคงไม่ฟังหรอก เขาโกรธผมไปแล้วนี่น่า
ผมเป็นเด็กไม่ดี ใครๆก็ไม่อยากอยู่ด้วย ผมรู้ รู้มานานแล้ว แม่ก็ไม่รักผม พ่อก็ไม่รักผม
ไม่มีใครสนใจผมสักคน ไม่มีใครแคร์ความรู้สึกผมหรอก ว่าผมต้องการอะไร อยากได้อะไร อยากทำอะไร
มีแต่คนต้องการความสุขของตัวเอง สั่งนู่นสั่งนี่ ให้ทำตามที่พวกเขาต้องการ
เธอต้องเรียนแพทย์เท่านั้นจะได้เป็นประวัติกับโรงเรียน
เรียนหมอนะดิน พ่อจะได้เอาไว้อวดลูกบ้านข้างๆว่าลูกพ่อเรียนเก่ง
ดินไปเที่ยวกับเรานะ เราจะได้อวดว่ามีเพื่อนหล่อ
ไปกินเหล้ากัน มึงไปด้วยสาวๆจะได้มาหาเยอะๆไม่เห็นมีใครสนใจความรู้สึกผมจริงๆสักคน ว่าผมอยากเรียนอะไร ผมอยากเรียนหมอจริงไหม เรียนไปเพราะจำทน อยากมีเงินอยากหลุดจากวงจรอุบาวท์ ไม่ใช่เพราะอยากเรียนจริงๆ จะมีใครสนใจไหมว่าผมอยากกินเหล้าหรือเปล่า ชอบหลีผุ้หญิงไหม
ชอบสังคมกลางคืนหรือเปล่า
มีใครรู้ไหมว่าผมอยากเรียนสถาปัตย์
จะมีใครรู้ไหมว่าผมแพ้แอลกอฮอล์แอบมาเกาเพราะตุ่มขึ้นเต็มตัวหลังกินเสร็จ
มีใครรู้ไหมว่าผมแอบวาดรูปของพ่อตอนพ่อไม่อยู่บ้าน เติมแต่งมันจนเกือบเสร็จ
มีใครรู้ไหมว่าผมเล่นกีต้าร์เพราะชอบเสียงของมัน มันทำให้ผมหายเหงาไม่ใช่เพราะมันเท่
ไม่มีใครรู้สินะ ทุกคนก็มองแต่ตัวเองนั่นแหละ
หรือจะเถียงว่าที่ทุกคนบอกผม ทุกคนทำไปเพราะหวังดี
คุณครูอยากให้ผมมีอนาคตที่ดี
พ่ออยากให้ผมทำงานดีๆมีเงินใช้ ไม่เดือดร้อน
เพื่อนๆอยากพาผมไปเที่ยวสังคม ออกงานพบเจอผู้คน
พาผมไปเรียนรู้วัฒนธรรมการวางตัวในวงเหล้า อย่างนั้นหรอ
หวังดีกับผมจริงๆหรอ
กอดผมเพราะรักผมหรอ หรือแค่ต้องการ
คุณซื้อผมเพราะต้องการมีเซ็กส์ผมเข้าใจ แต่เมื่อผมปฏิเสธคุณบอกว่าต้องการผม อยากให้ผมไปอยู่ด้วยแล้วนี่อะไร
ผมกลับมาคิดถึงเรื่องพี่เมฆอีกครั้ง มันน้อยใจมากๆ เสียใจมากๆด้วยทำไมไม่อยู่รอฟังผมขอโทษก่อน ไม่รอฟังผมสำนึกผิด หรือฟังเหตุผลของผมก่อน
เขาไม่โทรมา ไม่มาหาที่บ้าน ผมไม่กล้าโทรไป ได้แต่นั่งรอโทรศัพท์ ไร้วี่แวว
ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆมหาลัยก็เปิด ผมหอบชีทปึกใหญ่ไปให้น้องรหัส น้องรหัสผมชื่อก้อง ได้ทุนแพทย์ชนบทมาจากโรงเรียนขนาดเล็กในภาคเหนือ บ้านอยู่บนดอย พ่อแม่เป็นแม้ว ปลูกผักอยู่บนดอย
“อ่ะ ชีทเอาไปอ่าน”ผมวางกองชีทบนโต๊ะกลางโรงอาหาร
น้องก้องเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะทำสีหน้าหวาดกลัวชีทตรงหน้าที่ถ้าเอามาวางตั้งคงสูงท่วมตัว
“ปีสองเรียนเยอะขนาดนี้เลยหรอพี่ดิน”น้องมันโอดครวญ
“อันนี้แค่ของเทอมหนึ่ง ของเทอมสองอยู่ที่บ้านขนมาไม่หมด”ผมบอกแล้วนั่งลงตรงข้ามมัน แล้วหยิบชานมไข่มุกของมันมาดูด
“อยากจะร้องไห้”มันก้มหน้าก้มตารื้อกองชีทเปิดออกมาดูว่าต้องเรียนอะไรบ้าง ก่อนจะผงะออกกลับลงไปนั่ง
“จะไหวไหมเนี่ย ถ้าเกรดผมไม่ถึงสามผมหลุดทุนแน่ๆพี่”
“สู้ๆสิวะ เอ็งเรียนเก่งจะตาย ทำได้อยู่แล้วแหละ”มันสอบได้ที่หนึ่งของสายชั้นเรียนเก่งมาก ทั้งขยันและตั้งใจเรียน ผมสู้ไม่ได้เลย
“เงินทุนที่ได้มาทุกเดือนกับเงินกยศ.มันไม่พอน่ะสิพี่ ผมต้องส่งไปให้น้องด้วยมันเข้ามาเรียนในเมืองเนี่ย ผมก็เลยรับจ้างทำงาน
พิเศษ งานก็เยอะจนผมแทบไม่มีเวลาเลย”มันบ่นงุ้งงิ้งตามภาษา
“งานอะไรวะ”
“ผมไปช่วยอาจารย์สุทธิพงษ์วาดอนาโตมี่น่ะพี่ อาจารย์เขาจ้างรูปละ 500 วาดแล้วก็เขียนรายละเอียดส่วนประกอบแต่ละชิ้นด้วย ปิดเทอมผมวาดไปได้แต่ 20 รูปเอง เหลืออีกเป็นร้อยเลย”ผมตาลุกวาวรูปละห้าร้อย สิบรูปก็ห้าพันแล้ว เงินๆทั้งนั้นนี่หว่า
“เฮ้ย แนะนำให้พี่บ้างดิ๊”ผมสะกิดไหล่มัน
“พี่สนใจหรอ”มันตาโต ทำเหมือนไม่เชื่อ
“เออดิ สนใจมากด้วย”ผมพยักหน้า
“ดีเลยพี่ อาจารย์กำลังหาคนช่วยอยู่ เหมือนสวรรค์มาโปรด ผมทำคนเดียวไม่เสร็จแน่ๆ ไปพี่เดี๋ยวผมพาไปหาอาจารย์”ผมพยักหน้ารับมัน ถ้าได้งานนี้ผมสบายเลย มีรายได้ด้วยโว้ย ไม่ต้องไปสมัครร้านกาแฟ ร้านหนังสือแล้วเย้
ผมรีบลุกตามน้องก้อง ผมเอาหนังสือเข้าไปส่งมันในหอในก่อน ผมเคยอยู่ที่นี่ตอนปีหนึ่ง ห้องหนึ่งนอนสี่คน มีห้องอาบน้ำ น้องน้ำแยกส่วนตัว แต่ละคนจะมีเตียง ตู้เล็กแล้วก็โต๊ะอ่านหนังสือส่วนตัว ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ ใกล้สอบทีไร เป็นปัญหาทุกที อีกคนจะอ่านหนังสือเปิดไฟ อีกคนจะนอนก็ปิดไฟ ทะเลาะทันแทบตาย
ผมแอบหนีไปนอนบ้านบ่อยๆ พออาจารย์มาตรวจค่อยมานอนในหอใน
“จะนอนได้หรอวะเนี่ย” เตียงน้องก้องมีพื้นที่เล็กๆเพราะทั้งหมดเต็มไปด้วยกองหนังสือและชีท
“นอนได้พี่ จะนอนก็แหวกๆเอา ผมก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน จะทิ้งก็เสียดาย ว่าจะเก็บโละให้น้องปีหนึ่งเหมือนกัน”
“เออๆ พาหลานรหัสมาแนะนำให้รู้จักด้วย เดี๋ยวพาไปเลี้ยง”
“ครับ”มันตอบรับอย่างนอบน้อม เสร็จมันก็พาผมไปคณะ ตรงไปห้องพักอาจารย์ อาจารย์สุทธิพงษ์นั่งอยู่ในห้องผมเดินเข้าไปฝากเนื้อฝากตัว
“คุณอยากทำงานกับผมหรอ”อาจารย์เหล่ตามองผม พุงยื่นๆของแกกระเพื่อมขึ้นลง
“ครับอาจารย์”ผมบอกอย่างมั่นใจ
“คุณเคยโดดคลาสผมนะ นายธนาทิปผมจำคุณได้”ซวยแล้วไอ้ดิน ทำวีกรรมอะไรไว้
“มันนานมาแล้วครับอาจารย์ตั้งแต่ปีหนึ่ง ให้ผมแก้ตัวเถอะนะครับ”ผมอออดอ้อนเต็มที่ งานถนัดผมเลยนะ วาดรูปเนี่ยถนัดมาก เวลาเรียนทีไรผมเป็นคนวาดตลอด เซลล์พืช เซลล์สัตว์ เนื้อเยื่อ กระดูก
“คุณลองวาดกล้ามเนื้อบริเวณแขนมาซิ”ผมรีบจับดินสอแล้วนั่งลงวาดอย่างไว ผ่านไปไม่กี่นาทีผมก็ส่งกระดาษคืนให้อาจารย์ น้องก้องยืนลุ้นอยู่ข้างหลัง
แกเอาไปไตร่ตรองดูซักพัก ลูบเคราไปมาก่อนจะพยักหน้าไปมากับรูปของผม
“ใช้ได้ๆ เอาอย่างนี้เดี๋ยวผมติดต่อคุณไปอีกทีแล้วกันว่าจะรับมาช่วยทำงานไหม”
“ได้เลยครับอาจารย์”ผมตอบรับอย่างแข็งขัน น้องก้องยืนเชียร์อยู่ข้างๆยิ้มร่า
“นั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”ผมกับน้องก้องไหว้ลาอาจารย์ แกยิ้มให้แล้วนั่งทำงานต่อ
ผมหมุนตัวเดินเกาะคอน้องออกจากห้องพักครู
ผมชะงักอยู่หน้าประตูเมื่อเจอร่างสูงของบุคคลที่คุ้นเคย ยืนจังก้าอยู่
ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหยุดแข็งทื่อขยับไปไหนไม่ได้ น้องก้องหยุดตามผมแล้วหันมองหน้าอย่างงๆ
มือของผมเย็นเฉียบ เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก อยากจะร้องไห้
พี่เมฆ
เขาขมวดคิ้วมองหน้าผมเช่นกัน ทำไมพี่เมฆมาอยู่ที่นี่ ผมก้มลงมองชุดนิสิตของตัวเอง
“ธนาทิปพรุ่งนี้มาทำงานได้เลย ผมจองตัวคุณนะ”อาจารย์สุทธิพงษ์เดินตามมาบอก
“ครับอาจารย์”ผมหันไปตอบรับก่อนจะโค้งให้แล้วหันกลับมา
“เย้ ได้งานแล้วพี่”น้องมันหันมาทำท่าดีใจกับผม
วืบ
ลมเย็นๆปะทะหน้า พี่เมฆเดินผ่านตัวผมไป ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน ผมกัดปากที่สั่นระริก ดวงตาร้อนผ่าวก่อนจะเดินตามน้องก้องออกจากห้องพักอาจารย์ไป
...........................................................................
ตี 1.53 นาที แฮ่ๆๆๆ
พรุ่งนี้มีสอบตอน 9 โมงเช้า ไปนอนก่อนนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้น์ ฝ้ายอ่านทุกอันเลย
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณที่อบรมสอนเด็กคนนี้ ทั้งเรื่องนิยาย
และเรื่องการใช้ชีวิตในการเรียน
ขอบคุณค่ะ >///<
ปอลอ
แม่ยกท่านใดรอเอ็นซี เห็นจะได้ว่ารออีกสักตอนสองตอนนะคะ
ยาวติดๆกัน เดี๋ยวเป็นดรคหอบหื่นกันหมด อุอิ ^^
ไหนบอกว่าต้องการผมไง แล้วทิ้งผมไปทำไม