เมืองเวลล์ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าของเมืองมนุษย์ทำให้มีดินแดนอื่นๆ เข้ามาทำการค้าขายด้วยอย่างเปิดเผย หากจะหาความเสมอภาคที่สุดในดินแดนมนุษย์ก็คงจะหาได้จากเมืองนี้ มนุษย์ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะชินชากับดินแดนอื่น การเห็นปีศาจเข็นอัญมณีปาดหน้าไปมาเป็นเรื่องปกติ พวกเขากล้าขนาดที่ว่าจะตะโกนด่าด้วยซ้ำแต่ก็ไม่ได้ทำจริงๆ เพราะยังอยากมีหัวอยู่บนบ่า ส่วนเหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าทะเลาะกันคงจะเป็นค่าปรับมหาศาลกับทหารร่างยักษ์เดินถือดาบตรวจตราความเรียบร้อยแทบจะตลอดเวลา
รถม้าของโลกัสสามารถเข้าไปในเมืองได้อย่างง่ายดายโดยเสียค่าเข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โลกัสจ่ายเงินให้กับรถม้าด้วยเงินเหรียญทองที่เหลืออยู่ในกระเป๋าเพียงน้อยนิด
" ขอบคุณท่านมาก " ร่างนักฆ่าในคราบนักเดินทางผงกหัวน้อยๆ ให้กับเจ้าของรถม้าที่เป็นชายฉกรรจ์
" ขอบคุณท่านเช่นกันที่ใช้บริการข้า หากครั้งหน้าขอให้ข้าได้ให้บริการท่านอีก ข้าอวยพรให้้พวกท่านสนุกกับเมืองแห่งความหลากหลายนี่นะ ! " พูดด้วยรอยยิ้มกว้างมือลูบหัวม้าที่ก้มลงมาหาตัวเองอย่างรักใคร่
" ข้าจะใช้บริการท่านอีกแน่นอน " โลกัสแสร้งยิ้มก่อนจะขอตัวออกมา มือหยาบกระชับมือบางที่เจ้าของมือยังคงหาวหวอดๆ เดินด้วยตาที่จะปิด
" ข้าเตือนเจ้าแล้วองค์ชาย " ขยี้ผมสีดำด้วยความเอ็นดู
องค์ชายหน้างอยอมลืมตาขึ้นมา " ข้า ข้าไม่ได้ง่วงสักหน่อย ! " พูดอย่างร้อนตัวและเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ร้านค้าจำนวนมหาศาลที่มีทั้งการตั้งโต๊ะลวกๆ วางขายบนพื้น ไปจนถึงร้านหรูหราชั้นดี ผสมรวมกันจนน่าสับสนแต่ก็ดูมีสเน่ห์อยู่ในที ตามรายทางมีโคมไฟลวดลายนกสีเทาสยายปีกที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองคอยให้แสงสว่างและความสวยงาม แต่สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าการเดินซื้อของคือการแสดงเปิดหมวก ซุ้มดูดวง หรือแม้แต่คณะละครสัตว์ชื่อดังที่มักจะมาเยือนอยู่บ่อยๆ
อีกอย่างที่ทำให้ผู้คนแห่กันมาคือลานประลองที่มีการวางเดิมพันกันทุกเดือน จุดม่งหมายครั้งแรกที่สร้างของเจ้าเมืองคือให้คนที่มีเรื่องบาดหมางกันมาจัดการกันในนี้ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก จึงได้จัดเป็นการประลองประจำเดือนไปเลย มีการประกาศชื่อผู้ที่เป็นเจ้าสนามในแต่ละเดือนเพื่อดึงดูดความสนใจผู้คนมาเข้าร่วมเชียร์์หรือประลอง เงินรางวัลสำหรับผู้ชนะคือเงินส่วนหนึ่งของการตั้งโต๊ะพนันของเจ้าเมือง เรียกได้ว่าเจ้าเมืองเวลล์นั้นได้ทั้งขึ้นทั้งร่องเลยทีเดียว
" จะ เจ้าเสือคนเยอะมาก มากเลย " องค์ชายพูดอย่างตื่นเต้น
" ก็ปกติของที่นี่ " โลกัสตอบเสียงเรียบ รีบพาองค์ชายเข้าไปกลมกลืนในฝูงชนเมื่อเห็นหนูสีขาววิ่งอยู่ไกลๆ คงจะเป็นหนูขาย
ข่าวที่อัลฟินจ้าง พยัคฆ์ดำคิดอย่างหงุดหงิด หนูขายข่าวพวกนี้ทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดีคุ้มค่ากับค่าจ้างของมัน ความจมูกไวความขี้สังเกตและความฉลาดทำให้พวกมันกลายเป็นผู้ขายข่าวที่แม่นยำที่สุดในเวลานี้
ผลั่ก
เวสเปอร์ถูกชนแรงจนเกือบล้มหากโลกัสไม่ได้จับมือเอาไว้คงลงไปกองบนพื้น องค์ชายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บลูบไหล่ของตัวเอง รู้สึกขนลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุจึงจะเงยหน้าไปถามเจ้าเสือแต่พอเห็นสีหน้าของโลกัสก็ต้องชะงัก ก้มหน้าต่ำไม่กล้าพูดอะไรอีก
เจ้าเสือน่ากลัวจัง..
โลกัสหยุดเดินมองตามคนที่กล้าชนเวสเปอร์แล้วไม่ขอโทษที่ตอนนี้แทรกซึมหายไปในฝูงชนอย่างรวดเร็วด้วยความโกรธ เมื่อรู้ว่าตัวเองคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ก็กลับมาให้ความสนใจกับเวสเปอร์ " เจ็บรึเปล่า ? องค์ชาย " น้ำเสียงกระด้างเพราะอารมณ์
ฉุนเฉียวที่ยังคงค้างคา
องค์ชายสะดุ้งส่ายหน้าเป็นพัลวัน " ไป ไปต่อเถอะเจ้าเสือ " พึมพำตอบเสียงเบา
" อืม " ร่างนักฆ่าคว้าตัวองค์ชายมาโอบไหล่เอาไว้หลวมๆ ใช้แขนของตัวเองกับนัยน์ตามุ่งร้ายกันผู้คนออกจากเวสเปอร์จนผู้คนเผลอถอยห่างและหลีกทางกันอย่างว่าง่าย
เวสเปอร์มองรอบข้างด้วยความสนใจแต่ก็ไม่กล้าอ้อนเจ้าเสือให้แวะ ทำได้เพียงมองตามอย่างเสียดาย
" นายท่านสนใจจะดูดวงกับข้ารึเปล่า ? "
น้ำเสียงอ่อนเยาว์ที่แฝงไปด้วยความกระตือรือร้นดังชัดเจนราวกับพูดอยู่ข้างหูทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนวุ่นวาย
โลกัสกับเวสเปอร์ได้ยินเสียงนั้นชัดเจน แต่มีเพียงโลกัสที่มองหาที่มาของเสียงที่ว่า เพราะเวสเปอร์ยังกลัวๆ กับอารมณ์ของโลกัสอยู่จึงเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ความทรงจำที่ผ่านมาสอนให้เวสเปอร์รู้ว่าเวลาที่ใครก็ตามอารมณ์ไม่ดี สิ่งที่เขาต้องทำคือการเงียบไม่พูดอะไรไม่ทำตัวปัญญาอ่อนหรือทำตัวอย่างที่ชอบทำ
การโดนแม่ของตัวเองตบเพราะความรำคาญไม่ใช่เรื่องน่ารื่นรมย์ใจสักนิด
" ข้ามีนามว่าชาร์เลส หากนายท่านใคร่ที่จะฟังวาจาของข้า ขอให้หันมาทางซ้าย "
พยัคฆ์ดำหันขวับตามที่ว่าทันที เห็นซุ้มดูดวงสีดำเก่าๆ ภายในมีชายสวมชุดคลุมปกปิดใบหน้ากำลังนั่งกลิ้งลูกแก้วที่ภายในมีปลาสีรุ้งแหวกว่ายอยู่ ร่างนักฆ่าจึงพาองค์ชายไปนั่งเก้าอี้เก่าๆ ตรงข้ามชาร์เลส ที่มีเพียงตัวเดียวส่วนตัวเองยืนข้างๆ
หากเป็นเวลาปกติโลกัสแทบจะไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำเพราะเชื่อว่าตัวเองเป็นผู้กำหนดโชคชะตาไม่ใช่ลมปากของคนอื่น แต่
ในครั้งนี้สัญชาตญาณกลับรู้สึกว่าต้องรับฟังหมอดูผู้นี้
อะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าคำพูดทุกคำของคนผู้นี้จะเป็นความจริง
" ที่ข้าดูดวงให้กับพวกเจ้าเพราะข้าถูกชะตาน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก " หมอดูหัวเราะหึๆ อย่างอารมณ์ดีใช้นิ้วดีดลูกแก้วจนปลาที่อยู่ภายในตกใจว่ายสะเปะสะปะชนผนังรอบตัว " แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ข้าก็ต้องกินต้องใช้ ค่าอาหารสักนิดแลกกับการทำนายดวงชะตาก็น่าจะคุ้มนะ นายท่าน "
โลกัสพยักหน้ารับ หยิบอัญมณีที่ได้มาจากการเลาะดาบให้กับชาร์เลสอย่างว่าง่าย
ชาร์เลสรับไปพลิกไปพลิกมาด้วยตาเป็นประกาย มันถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อคลุมทำให้โลกัสเห็นเพียงร่างหมอดูกำลังมองสิ่งที่ตนเองให้อย่างสุขุม " ดี ค่อยคุ้มค่ากับค่าเสียเวลาข้าหน่อย "
องค์ชายมองชาร์เลสกล้าๆ กลัวๆ ถึงแม้การพูดจะฟังดูเป็นมิตรแต่ลักษณะการแต่งกายกลับสวนทาง เสื้อคลุมสีดำที่ปกปิดมิดชิดที่ข้อมือมีกำไลจากกระดูกสัตว์แขวนเป็นพรวนมันส่งเสียงน่าขนลุกยามที่เจ้าของมือขยับตัว
" ยื่นมือของท่านมา " ชาร์เลสพูดเสียงนุ่มสายตาจับจ้องบุคคลที่ถือได้ว่าเป็นลูกค้าคนแรกในรอบเดือนเขม็ง
เวสเปอร์สะดุ้งเฮือกยื่นมือสั่นๆ วางบนโต๊ะ มือของเวสเปอร์ถูกคว้าไปกุมแน่นทันทีซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างที่ยืนข้างองค์ชายขยับตัวจับจ้องชาร์เลสไม่วางตา บรรยากาศการฆ่าฟันแผ่ออกมาจากตัวโลกัสอย่างเห็นได้ชัด
และคนแรกที่เห็นก็ยังคงเป็นเวสเปอร์เช่นเคย
" ฮึก ข้า ขอโทษ" องค์ชายสะอื้นเสียงเบา
ข้าต้องทำผิดอีกแล้วแน่ๆ เจ้าเสือถึงได้น่ากลัวแบบนี้
" เวสเปอร์เจ้าร้องไห้ทำไม ? " บรรยากาศฆ่าฟันหายฉับพลัน โลกัสย่อตัวหยิบมืออีกข้างของเวสเปอร์ไปกุมแน่น
" จะ เจ้าเสือ ข้าขอโทษ "
สีหน้างุนงงเต็มพิกัดปรากฎบนใบหน้าโลกัส " ขอโทษ ขอโทษข้า ? "
องค์ชายพยักหน้าหงึก " จะ เจ้าเสือน่ากลัว ฮึก ข้า ข้าทำให้โกรธใช่ไหม "
" สนใจข้าหน่อยสิพวกท่าน " ชาร์เลสปล่อยมือจากเวสเปอร์และโบกมือเรียกความสนใจให้กลับมาที่ตัวเอง เมื่อกี้ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงจิตสังหารเพียงแต่เมินมันด้วยความไม่ใส่ใจเท่านั้น เขาเคยเจอแบบรุนแรงชนิดที่ว่าวิญญาณสะท้านจากคนที่เขารักที่สุด
หมอดูหลุดยิ้มบางเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา
" พูดสักที " โลกัสพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองให้ปกติ ส่วนมือที่ว่างก็ลูบหัวองค์ชายที่กอดตัวเองแน่นและเอาแต่บ่นพึมพำว่าขอโทษ
" ให้ข้าได้เรียบเรียงคำพูดหน่อยสิท่าน " ข้ออ้างถูกยกขึ้นมาฉับพลัน ชาร์เลสถอนหายใจเบาๆ หยิกตัวเองให้สนใจกับสิ่งที่กำลังทำ หยุดคิดเรื่องท่านผู้นั้นได้แล้ว ! คิดเตือนสติตัวเองซ้ำอีกครั้งก่อนจะหลับตานึกถึงภาพที่ตัวเองเห็นในหัว " ในอนาคตขอให้ท่านพึงระวังต่อการสูญเสียคนสำคัญ ในปัจจุบันขอให้ระมัดระวังคนแปลกหน้า สิ่งที่อยู่ในอดีตมีไว้เพียงย้ำเตือนถึงความผิดพลาด ดวงชะตาช่วงนี้ของท่านจะมีโชคเรื่องความรัก จะถูกรักด้วยความลุ่มหลงจนท่านจะปลีกตัวไปไหนไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่ข้าขอให้ท่านพึงระลึกไว้คือการรักตัวเอง ไม่ว่าท่านจะพอใจในร่างของท่านหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้วมันจะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือท่านเอง " กล่าวจบก็คลี่ยิ้มบางๆ
องค์ชายหยุดสะอื้นเมื่อได้ยินคำว่ารักตัวเอง ปล่อยมือออกจากตัวเจ้าเสือหันมาเผชิญหน้ากับหมอดูนิ่ง นัยน์ตาสีทองฉายความโศกเศร้าอย่างเห็นได้ชัด " ให้ ให้ข้ารักตัวเองทั้งๆ ที่ไม่มีใครไม่รัก รักข้างั้นเหรอ " พูดเสียงเบาน้ำตาไหลอาบแก้ม
ใช่ว่าองค์ชายจะไม่รู้เรื่องซะทีเดียวในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเกือบจะตลอดชีวิต เพียงแต่ว่าเวสเปอร์เลือกที่จะมองในสิ่งดีๆ เท่านั้นเพียงเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของตัวเอง พยายามลืมเลือนในสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวด แต่ลึกๆ แล้วในใจของเวสเปอร์ก็ยังคงอยากได้บางอย่างอยู่ดี
บางอย่างที่เรียกว่าความรัก.. กอดเขาในเวลาที่เขาหวาดกลัว ยิ้มตอบเวลาที่เขามีความสุข แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝันที่ถูกฝังลึกลงในสมอง
การกระทำของทุกคนรอบตัวนั้นก็เป็นคำตอบสำหรับเวสเปอร์อยู่แล้ว
ว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
โลกัสที่ไม่ได้ยินในสิ่งที่องค์ชายพูด เริ่มทำอะไรไม่ถูก เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่ใส่ใจหรืออ่อนโยนกับคนอื่นสักเท่าไหร่ " ข้าไม่ได้
โกรธเจ้าเวสเปอร์ อย่าร้องไห้สิ " หยิบฟินน์ที่นอนในเสื้อคลุมออกมาวางบนตักองค์ชาย " เจ้าแมวอยู่นี่ไง "
เจ้าแมวที่ถูกปลุกจากฝันหวานสะดุ้งตื่นงัวเงียสะบัดหัวมึนๆ ตาหรี่เล็กอ้าปากหาวหวอด แต่เมื่อเห็นว่าเจ้านายคนที่สองของมันร้องไห้ก็ตื่นเต็มตาพยายามอ้อนเต็มที่
รอยยิ้มมุมปากของชาร์เลสหายไปทันทีเหลือเพียงแววตาที่เห็นใจเล็กๆ เท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้มันก็เกิดขึ้นจนเขาชินตาซะแล้ว หัวใจของเขาหากผ่าออกมาคงจะมีแต่ความว่างเปล่า " ท่านสนใจเพียงคนที่อยู่ข้างกายท่านก็พอแล้ว คนอื่นๆ เป็นเพียงส่วนประกอบในชีวิตท่านไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากหรอก "
องค์ชายหัวเราะเสียงเบากอดเจ้าแมวแน่นไม่ได้พูดอะไรอีก
มือหยาบพยายามเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าองค์ชายด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ สีหน้าของโลกัสเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด หันไปตำหนิร่างหมอดู " เจ้ามันแย่ ทำให้ลูกค้าร้องไห้ "
คนโดนตำหนิหัวเราะตอบทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกขำ " ความจริงเป็นสิ่งที่ควรยอมรับไม่ใช่ผลักไสมันออก " พูดไปก็รู้สึกเหมือนด่าตัว
เองชอบกล ชาร์เลสก่นด่าตัวเองในใจ " ยื่นมือของเจ้ามาสิข้าจะดูให้เจ้าบ้างและไม่ต้องกลัวว่าข้าจะพิศวาสพวกเจ้าหรอกนะ ข้ามีคนในใจอยู่แล้ว เสียใจด้วย "
นักฆ่าขมวดคิ้วเมื่อตัวเองโดนเหน็บจึงยื่นมือให้หมอดูและบีบมือหมอดูแน่นจนดังกร็อบ
ชาร์เลสมีสีหน้าเหยเกในใจสบถด่าโลกัสด้วยร้อยแปดภาษาที่ปรากฎในหัว " เสือเวรไม่สิ.. ในอนาคตอันใกล้นี้เจ้าจะได้คำตอบ
ในสิ่งที่เจ้าต้องการ ข้าขอเตือนให้เจ้าอย่าใช้อารมณ์ในการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากมีสิ่งใดให้เจ้าเลือกขอให้เจ้าไตร่ตรองให้ดีมันจะเป็นผลต่อชีวิตเจ้ามาก ข้าคงบอกเจ้าได้แค่นี้ " ชาร์เลสกระตุกมือตัวเองกลับมานวด " อ้อ อีกอย่างความรักของเจ้ามันอาจจะร้อนแรงเผาผลาญไปนิดระวังจะไหม้คนที่เจ้ารักเอาล่ะ " พูดพร้อมเหลือบไปมองร่างที่เลิกร้องไห้แล้วเล่นกับแมวตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม
" ความรัก ? ข้าไม่ได้รักใคร " โลกัสทวนคำพูดงุนงง ตอนนี้ที่อยู่ด้วยก็มีแค่เวสเปอร์กับฟินน์ ข้าจะไปรักใครได้อีก กับเวสเปอร์ข้าก็มองว่าเป็นเพียงน้องชายที่ข้าต้องปกป้องเท่านั้น
ชาร์เลสหัวเราะ " นั่นมันก็เรื่องที่ท่านต้องไตร่ตรองเอาเองนะ " มองร่างนักฆ่าด้วยความเอ็นดู " เอาล่ะ ไปกันได้แล้วไป ข้าจะรับลูกค้าคนอื่นต่อ "
" ไป ไปกันเจ้าเสือ ข้าอยากกิน อันนั้น " องค์ชายที่กลับมาอารมณ์ปกติแล้ว กระตุกชายเสื้อโลกัสชี้ขนมที่ตัวเองเล็งไว้ตั้งแต่เดินมา
" ไปก็ไป แต่เจ้าเลิกร้องไห้เพราะฟินน์อีกแล้ว " โลกัสมองฟินน์ที่หาวหวอดนอนในเสื้อคลุมตัวเองต่อด้วยสายตาอ่านยาก ข้ามีอะไรที่ด้อยไปกว่าแมวปัญญาอ่อนนี่กัน..
แง้ว
ฟินน์เชิดหน้าใส่เจ้านายตัวเองคล้ายกำลังอวดชัยชนะของมัน
" งั้นข้าขอตัวแล้วกัน " พยัคฆ์ดำสอดนิ้วของตัวเองรับกับมือองค์ชายและกระชับไว้แน่นตามที่ตัวเองได้ตัดสินใจเอาไว้ เพราะความประมาทปล่อยให้องค์ชายเดินไปก่อนทำให้องค์ชายถูกลักพาตัวไป ดังนั้นร่างนักฆ่าจึงตัดสินใจทำให้ตัวเองตัวติดกับเวสเปอร์ตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่เวลาอาบน้ำ
องค์ชายยิ้มแกว่งมือที่ถูกเจ้าเสือจับเล่น ปล่อยให้เจ้าเสือนำทางให้ตัวเองเดินไปร้านที่หมายตา ส่วนตัวเองก็ยังคงมองร่างหมอดูที่โบกมืออยู่ไวๆ
ทันทีที่ร่างของลูกค้าทั้งสองกลืนเข้าไปในฝูงชน ชาร์เลสก็หัวเราะออกมาแต่น้ำตากลับไหลอาบแก้ม ปลาสีสวยจดจ้องร่างหมอดูนิ่งสักพักก่อนจะตกใจเมื่อโดนดีดใส่
" ข้าไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นใจหรอกนะ เจ้าปลาโง่ "
ทั้งๆ ทีพูดอย่างนั้นแต่น้ำตากลับไม่ได้ลดลงสักนิด
เขาคิดถึงคนๆ นั้นอีกแล้ว
หลังจากซื้อขนมให้เวสเปอร์เสร็จโลกัสก็พาเข้าโรงแรมที่มีเจ้าของเป็นคนรู้จักของตัวเองทันที มันเป็นโรงแรมสองชั้นสร้างจากไม้เนื้อดีถูกตกแต่ง่ายๆ สบายตา ทำให้ดูเป็นสถานที่ที่เข้าถึงง่ายจนมันเป็นที่นิยมในคนหมู่มาก อีกอย่างที่เลื่องชื่อของโรงแรมคือเจ้าของโรงแรมที่เคยชนะการประกวดสาวงามในเมืองเวลล์
ค่าห้องราคาไม่แพงกับอาหารตาประจำเมือง ใครเล่าจะอยากปฎิเสธ
เมื่อเข้าไปในโรงแรมได้โลกัสก็เอ่ยความประสงค์ที่จะพบเจ้าของโรงแรมกับพนักงานปีศาจกระต่ายที่มารับงานช่วงปิดเทอมมันหาวหวอดและกระโดดดึ๋งดั๋งไปเคาะห้องเจ้านายมันเพียงไม่นานก็ปรากฎร่างที่โลกัสต้องการจะพบ
" โอ้ ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าจะมีรสนิยมควงหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูแบบนี้นะ โลกัส " เกลหรือเพื่อนสมัยเด็กของโลกัสพูดขณะที่เดินสำรวจรอบตัวองค์ชายด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
" เขาเป็นน้องชายข้า " โลกัสหน้าบูด
" ยินดีที่ได้รู้จักนะ ข้าชื่อเกลแล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร ? " เกลคลี่ยิ้มเป็นมิตร
เวสเปอร์มองผู้หญิงหน้าสะสวยตรงหน้างงๆ ก่อนจะตอบคำถามด้วยยิ้มตาหยี " ข้า ข้าชื่อเวสเปอร์ ! เป็น เป็นเพื่อนกับเจ้าเสือล่ะ "
เกลเลิกคิ้วอย่างสนใจ " เจ้าเสือ ? "
" อื้อ เจ้าเสือใจดีมากเลย "
โลกัสดึงเวสเปอร์มายืนข้างหลังตัวเอง " เลิกเล่นเถอะ ข้ามาหาเจ้าเพื่อที่จะซ่อนตัวกับหาข่าว ไม่ใช่มาให้เจ้าเล่นสนุก "
" อะไรกัน สมัยเด็กเราออกจะสนิทกัน ไปไหนไปกัน พอเจ้ามีน้องชายคนพิเศษก็ลืมเพื่อนอย่างข้างั้นเหรอ " เกลพูดล้อๆ
พยัคฆ์ดำเมื่อไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะแก้ต่างให้ตัวเองจึงเปลี่ยนเรื่องคุยแทน " มีข่าวของพยัคฆ์ทมิฬบ้างไหม "
เจ้าของโรงแรมที่พ่วงสถานะนักสืบจำเป็นหน้าเจื่อนลง " ไม่มีเลย ไม่มีข่าวคราวเลยว่าพยัคฆ์ทมิฬตายที่ไหนหรือตายเพราะใครด้วยซ้ำ โลกัส ข้าว่าเจ้าเลิกตามหาเถอะ... "
โลกัสส่งสีหน้าเย็นชาตอบ หากไม่นับว่าเป็นเพื่อนกันคงจะฆ่ากันตายไปแล้วด้วยสาเหตุพูดพล่อยๆ
เพราะเขาจะไม่มีวันหยุดตามล่า
คนที่กล้าฆ่าพยัคฆ์์ทมิฬ
-----------------------------
ใครหนอ
ขอบคณทุกคอมเมนต์นะคะ อยากตอบแต่ดึกแล้ว ฮือๆ