เสียงกระซิบจากลมหนาว 4
"ทานนี่สิลม"
พี่ซัมเมอร์ระดมตักอาหารนานาชนิดมาให้ผม ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วเขี่ยอาหารไปมาเพราะกินไม่ลง หรือจะเอาจริงๆคือกินไม่ได้ พี่คงจะลืมไปแล้ว......ว่าผมแพ้อาหารทะเล
คุณป้า.....ผมของเรียกท่านว่าคุณป้าแล้วกันจะได้ชิน.......คุณป้าทำอาหารทะเลไว้เต็มโต๊ะเพื่อเอาใจพี่ซัมเมอร์ ตอนนี้ผมนั่งร่วมทานอาหารกับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น มีพ่อ....แม่....พี่.....น้อง
แต่ในนั้น.....ไม่มีผม ผมที่เป็นดั่งฤดูหนาว ผมที่อาจจะทำให้บ้านนี้มีแต่ความทุกข์
ผมได้แต่มองภาพครอบครัวสุขสันต์อย่างกระอักกระอ่วนใจ ผมรับรู้ได้ทันทีที่เข้ามาในบ้านนี้.....บ้านนี้ไม่เหลือที่ว่างให้ผมอีกแล้ว
หรือมันไม่มีที่สำหรับผมแต่แรกกันนะ
"ทำไมไม่ทานจ๊ะ......" คุณป้าหันมาถามผมด้วยรอยยิ้ม ผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงแผ่ว
"ผมแพ้อาหารทะเล.....ทุกชนิดครับ....."
คุณป้านิ่งไปก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างประหลาดใจ ก่อนที่พี่ซัมเมอร์จะแทรกขึ้นมาขอโทษขอโพยผม คุณลุงเองก็ตกใจไม่น้อย
"ตายจริง......ขอโทษที่ไม่ถามก่อนนะจ๊ะ"
"มะ.....ไม่เป็นไรครับ"
"แม่ไม่ต้องไปขอโทษหรอกครับ ลมมันก็ทำผิดกับซัมเมอร์ไว้ไม่ใช่น้อยๆ คนที่ทำให้ซัมเมอร์ต้องเข้าโรงบาลก็มันนี่แหละครับ" พี่ออทัมที่นั่งอยู่เงียบๆตั้งแต่ทีแรกรีบฟ้องคุณป้า ท่านเอามือกุมอกตัวเองแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป มันทำให้ผม.....รู้สึกเศร้าอย่างประหลาด
"มันเป็นอุบัติเหตุครับแม่ พี่นี่ก็เว่อร์เกินไป ลมเค้าไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย" พี่ซัมเมอร์บุ้ยปากก่อนจะตักกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าปาก แต่....แต่คุณป้าก็ยังคงมองผมด้วยสายตาแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ดีที่คุณลุงไม่ได้มองผมด้วยสายตาแบบนั้น.....ท่านดูจะเอ็นดูผมด้วยซ้ำ
ผมทำเรื่องอีกแล้วสินะ.......ผมทำพี่ออทัมเกลียดผมคนเดียวไม่พอ ผมยังทำให้แม่ไม่ชอบขี้หน้าผมอีกด้วย
สายใยของเรา.......มันขาดลงตั้งแต่แม่ตัดสินใจทิ้งผมไปในตอนนั้นใช่ไหมครับ
บอกผมได้ไหมครับแม่
"ลม......ใส่เสื้อผ้าเราได้ไหม มันใหญ่ไปรึเปล่า.....เอ......ว่าแต่ลมตอนไม่ใส่แว่นนี่น่ารักนะเนี่ย เราใจเต้นตึกตักเลยล่ะ" พี่ซัมเมอร์เดินเข้ามาประชิดตัวผม ก่อนจะช้อนหน้าผมขึ้นให้ไปสบตากับเขา รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ ก่อนจะประทับริมฝีปากแผ่วเบาลงบนหน้าผากผม
"ดูสิ.....หน้าใส๊ ใส ไร้สิวไร้ริ้วรอย"
".....เราว่าเราง่วงแล้วล่ะ......"
"แน่ะ.....เขินล่ะสิ" ผมก้มหน้านิ่ง ไม่ได้เขิน....ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่พี่ไม่รังเกียจผม
"และขอโทษนะ ที่ลืมไปว่านายแพ้อาหารทะเล คราวหน้าเราจะระวังให้มากกว่านี้" พี่ซัมเมอร์เปลี่ยนจากประคองหน้าผมมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ผมส่งยิ้มให้เขาอย่างตื้นตันใจและดีใจที่พี่จะจำจดเรื่องราวของผม แม้......แม้นิดเดียวก็ยังดี
ผมดีใจ......ที่ครั้งนึงในชีวิต เรื่องราวของผม ตัวตนของผมจะถูกบันทึกในความทรงจำของพี่....พี่ชายคนนี้ พี่ชายที่แสนดี
พี่ซัมเมอร์เดินออกไปได้ซักพักแล้วล่ะ ผมนั่งอยู่ในห้องนอนสำหรับรับรองแขก ห้องนี้มีเฟอนิเจอร์ครบครัน ห้องตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาวเหมือนท้องฟ้า
อา.....ผมคิดถึงเธออีกแล้ว
RRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงริงโทนปลุกผมจากภวังค์ เป็นไอดินที่โทรมา ผมรีบกดรับเพราะกลัวว่าเค้าจะโกรธ
"ฮัลโหล......"
[เมื่อไหร่มึงจะเลิกรับสายด้วยเสียงหงอยๆอย่างนี้เนี่ย]
"ก็.....ก็กูเป็นของกูแบบนี้มาตั้งนาน มึงยังไม่ชินอีกเหรอ"
[เออๆ กูชินแล้วล่ะ แล้วนี่มึงอยู่ไหนเนี่ย อยู่บ้านป่ะ....พรุ่งนี้เจอกันเว้ยย]
"กูอยู่บ้าน....บ้านพี่" ผมตอบไม่เต็มเสียงนัก ไอดินเงียบไปซักพักก่อนจะถามเสียงเรียบ เสียงแบบนี้แหละ.....น่ากลัวเป็นที่สุด
[ไปทำไม.........]
"กูแค่.....กูแค่อยากรู้"
[รู้แล้วเป็นไงล่ะ!! ไปตอกย้ำตัวเองทำไม ทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง!!]
"ไอดิน" น้ำตาผมร่วงผอยๆ เมื่อมันตะหวาดผม บวกกับที่ผมเจอเรื่องสะเทือนใจมาก่อนหน้านี้ ทำเอาผมปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ทำไมผมอ่อนแออย่างนี้นะ......เมื่อไหร่กัน.....เมื่อไหร่จะเข้มแข็งเสียที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังมาสองสามที ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูทำให้ผมหันไปดูด้วยความตกใจ ก็คนที่เดินเข้ามาเป็นพี่ออทัมน่ะสิ!!
"พี่ออทัม...." ผมรีบปาดน้ำตาตัวเองแล้วละล่ำละลักบอกลาไอดินที่รอสายอยู่
"ไอดินแค่นี้ก่อนนะ"
[เดี๋ยววินด์ ไอ้พี่นั่นเข้ามาทำไม ตอบกู......] ผมรีบกดวางสายไอดินแล้วมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยความหวาดหวั่นในใจ
"เอ่อ...พี่ออทัมมีอะไรครับ"
"กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาเรียกกูพี่!!" สะอึกครับ รู้สึกสะอึกกับคำพูดตอกย้ำของเขา ผมกัดปากตัวเองจนมันเป็นเส้นตรง ส่วนมือก็กำหมัดจนแน่น
"รุ่นพี่มีอะไรกับผมก็ว่ามา....." ไม่ใช่อวดดี เพียงแต่อยากจะรู้จุดประสงค์ของเขาเท่านั้นว่าต้องการอะไรจากผมกันแน่ จะเข้ามาทำร้าย....ทุบตี หรือมาด่าให้ช้ำใจเล่นกัน
พี่ออทัมเดินเข้ามาอย่างมุ่งร้าย ทำให้ผมถอยหนีด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาผลักผมล้มลงเตียงก่อนจะคร่อมผมไว้ มือหนาจิกผมผมให้เงยหน้าไปสบตาวาวโรจน์
"อย่ามาอวดดีกับกู......."
"ผมเปล่า....."พี่ออทัมจิกหัวผมแรงขึ้น จนตอนนี้มันเจ็บไปหมด ผมได้แต่กัดปากแน่นด้วยกลัวว่าจะส่งเสียงแสดงความอ่อนแอออกไป
"กูจะเตือนมึงอีกครั้งนะ......อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก!!"
"ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ.....โอ๊ย"
"อย่ามาปากเก่ง ไอ้สัด" พี่ออทัมดูเหมือนว่าจะโกรธจัด แต่ผมก็ไม่อยากยอมแพ้เขา ทำไมนะ...ทำไม แค่ผมอยากเข้าใกล้พี่ชายตัวเอง อยากรู้จักทุกคนในครอบครัวนี้มันผิดตรงไหน!!
"ผมไม่ได้ปากเก่ง!"
"อยากลองดีใช่ไหม.....คราวที่แล้วไอ้เฟสคงสั่งสอนมึงไม่พอสินะ ดี!! เจอกูหน่อยเป็นไง" ผมเบิกตากว้าง เมื่อพี่ออทัมประกบปากลงมา มันป่าเถื่อน รุนแรง จนปากผมเจ็บไปหมด พี่จะจูบผมไม่ได้นะ.....พี่จะทำอะไรผมไม่ได้นะ....!!
"อื้อๆ"
ผมส่งเสียงท้วงในลำคอ มือก็ทุบตีเขาไม่หยุด จนพี่ออทัมรำคาญรวบมือทั้งสองของผมไว้เหนือศรีษะ รสจูบจากที่รุนแรงเปลี่ยนมาเป็นเร่าร้องและวาบหวามแทน......จูบครั้งแล้วครั้งเล่าเนิ่นนานราวกับชั่วกัปชั่วกาลทำเอาผมเริ่มเคลิ้ม ทำไมพี่ออทัมจูบเก่งขนาดนี้.....พอมารู้ตัวอีกที เสื้อผ้าของผมก็หลุดออกจากตัวไปหมดแล้ว
"กูก็ไม่เคยกับผู้ชายซะด้วยสิ......แต่แทงมั่วๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
"อย่า......มะ......ไม่นะพี่ อย่าทำผมเลย"
"ทำไมจะไม่ได้ กูพอใจมึงจะทำไม"
ที่ไม่ได้.....เพราะเราเป็นพี่น้องกันยังไงล่ะ และผมก็เป็นผู้ชาย พี่ก็ผู้ชาย เราจะมีอะไรกันได้ยังไง
"ลมมมมมม เปิดประตูหน่อย~ เราซัมเมอร์เอง" พี่ออทัมรีบเด้งตัวขึ้นก่อนจะวิ่งแล้วออกไปทางหน้าต่าง ผมหันรีหันขวางอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก จนในที่สุดพี่ซัมเมอร์ก็เปิดประตูเข้ามาจนได้ ในมือของเค้ามีกุญแจสำรองอยู่ ที่เตรียมมาคงกลัวผมไม่เปิดให้ล่ะสิ
"นอนด้วยคนสิ.....เป็นห่วงลมน่ะ กลัวจะมีคนมาลอบทำร้าย อิอิ" พี่ซัมเมอร์กระโจนเข้ามาในผ้าห่มกับผม ก่อนจะสวมกอดผมจากทางด้านหลัง มือหนาพาดผ่านเอวของผมทำเอาผมขนลุกซู่ ลืมไปว่าผมกำลังล่อนจ้อนอยู่ พี่ซัมเมอร์ซุกหน้าเข้ากับหลังเปื่อยเปล่าของผมก่อนจะพูดเบาๆ
"น่าแปลกใจจัง ว่าลมของเราทำไมไม่ใส่เสื้อผ้านอน กลัวไม่เป็นหวัดหรือไงครับ......อื้ม......แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อิอิ
".....ปล่อยเรา"
"อะไรกัน......นอนกอดกันแบบนี้แหละ อุ่นดีออก อีกอย่างตัวลลมก็ห้อมหอมดีด้วย อิอิ"
"......."
"แต่อย่าขยับตัวบ่อยล่ะ เดี๋ยวเราจะอดใจไม่ไหว" ว่าแล้วก็มุดหน้าลงกับหลังผมแล้วก็เงียบไป ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ
ดีเหมือนกัน......ที่คืนนี้ผมไม่ต้องหลับไปอย่างเดียวดาย
คืนนี้.....ผมมีพี่ที่เฝ้าตามหามาตลอด นอนกอดทั้งคืน
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ
*****
มนุษย์ไม่มีวันรู้จักกับคำว่าเพียงพอ หากไม่ตัดความโลภออกไปจากสามัญสำนึก
แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น มันก็ตัดออกไปไม่ได้อยู่ดี
เหมือนกับตัวเอกของเรื่องนี้ ที่ตัดมันออกไปไม่ได้
ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัวพันกับคำว่า....ไม่สิ้นสุด
ฮ่า....เป็นบทความที่เด็ดดวงจริงๆ(คนอะไรชมตัวเองก็เป็น
)
ขอบคุณสำหรับทุกรีพรายค่ะ