ดื้อรัก ♥♥ คุณพ่อลูกติด ตอน6
ดึกสงัดท่ามกลางความมืดของห้องนอนใหญ่ มีเพียงแสงไฟจากสนามหญ้าข้างบ้านสาดส่องเข้ามาพอให้เห็นเสี้ยวหน้าของใครอีกคนที่หลับสนิท ร่างเล็กนอนกอดก่ายกับเด็กชายตัวน้อยอีกคน ชาร์ลที่พึ่งกลับเข้ามาในห้องหลังจากออกไปเคลียร์งานที่คั่งค้างตั้งแต่หัวค่ำ ก่อนที่จะจัดการเรื่องผับที่มีคนแอบเอายามาปล่อยจนคนของเขาจับได้ ชายหนุ่มจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อย ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
เขายืนยิ้มกับตัวเองกับภาพตรงหน้า เวลาตื่นทะเลาะกันแทบจะตลอดเวลา แต่พอตอนหลับนี่กอดกันกลมยังกับลูกบอล อยากจะแอบถ่ายรูปของทั้งเด็กแล้วก็ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตไว้จริงๆ เลย โชวาน่ะไม่เท่าไหร่เพราะก็ดื้อตามประสาเด็ก แต่บราวนี่นี่สิจัดการยาก
เขาเดินตรงไปยังเตียงนอน ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ โชวา แต่ไม่ได้หลับหันไปมองร่างเล็กที่หลับสนิทหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้าไปจูบหน้าผากมนแผ่วเบา แค่นี้ชาร์ลก็ใจเต้นรัวราวกับกลองเพล ชาร์ลไม่รู้สึกแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว ตั้งแต่คนรักของเขาเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้ก็หายไป เกือบจะสิบปีแล้วมั้งที่เขาคนนั้นกับชาร์ลไม่ไดติดต่อกัน
คนรักเก่าของเขาเป็นผู้ชาย ทั้งสองคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ช่วงที่ชาร์ลย้ายมาประจำอยู่เมืองไทยแรกๆ เขาเป็นผู้ชายหน้าสวยคล้ายๆ กับพายพี่ชายบราวนี่ แต่ไม่ได้เรียบร้อยแบบนั้น เป็นคนมีความคิดเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจกับความคิดของตนเอง แน่วแน่และมุ่งมั่น ทะเยอทะยานเพื่อความสำเร็จ ทั้งสองไม่ได้บอกเลิกกันเพราะหมดรัก
"
พี่ชาร์ล....เฟียสจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น” ชาร์ลตกใจกับคำพูดของคนรักที่อยู่ดีๆ ก็พูดเรื่องไปเรียนต่อขึ้นมา
"ทำไมไม่เรียนที่ไทยล่ะ"
"เฟียสอยากเก่งภาษาญี่ปุ่น แล้วเฟียสก็ชอบญี่ปุ่นด้วย"
"แล้วพี่ล่ะเฟียส จะไม่คิดถึงพีีใช่ไหม"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ เฟียสแค่อยากทำอะไรที่มันท้าทาย อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต"
"อืม...ถ้าเฟียสคิดดีแล้วก็ไปเถอะ"
"แต่เฟียสมีอีกอย่างที่อยากจะบอกพี่ เฟียสไม่อยากให้เราทั้งสองคนผูกมัดอีกคนไว้เพราะคำว่ารัก เพราะกว่าเฟียสจะเรียนจบก็อีกหลายปี บางทีอาจจะทำงานต่อที่นั่นเลย ถ้าวันหนึ่งพี่เจอคนที่ดีกว่าเฟียสๆ ก็จะยอมปล่อยพี่ไป แต่ถ้าวันที่เฟียสกลับมาต่างคนต่างไม่มีใคร ค่อยกลับมาคบกันอีกดีไหม" ชาร์ลได้แต่อึ้งกับคำพูดของคนรัก ที่ดูเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเขาเลยด้วยซ้ำ มันพูดไม่ออกจุกอยู่ที่อกด้านซ้าย ทั้งๆ ที่รักมากทำไมถึงทำเหมือนว่าไม่เสียใจที่ต้องจากกันไป
"แล้วพี่โทรหาได้ไหม"
"ได้สิครับ แต่ถ้าเฟียสไม่ว่างก็อาจจะไม่ได้รับนะครับ" นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้คุยกับคนรัก เพราะวันที่เฟียสบินไปญี่ปุ่นร่างสูงก็ไม่ได้ไปส่งเพราะทำใจไม่ได้ ช่วงแรกๆ ชาร์ลโทรหาคนรักตลอด แต่อีกคนก็รับบ้างไม่รับบ้าง จนผ่านไปเกือบปีทั้งเขาและคนรักก็ขาดการติดต่อกันไปโดยปริยาย เพราะเหมือนกับว่าชาร์ลโทรหาทีไรเฟียสก็ไม่ว่างรับสายทุกที จนชายหนุ่มเริ่มทำใจได้ จึงเลิกโทรหาเฟียสในที่สุด ความรักของทั้งสองคนจึงจบลงแบบไม่ได้ร่ำลา
ชาร์ลนอนมองหน้าบราวนี่อยู่อย่างนั้น คนที่นอนหลับอุตุไม่รับรู้ว่ากำลังถูกล่วงเกินทางสายตา คนเจ้าเล่ห์อย่างชาร์ลมีเหรอที่จะยอมหลับไปทั้งแบบนี้ เขาเดินมายังฝั่งตรงข้ามของเตียงข้างบราวนี่ ก่อนที่จะพยายามขยับแทรกกายใหญ่ของตนเองลงบนเตียงนอนข้างๆ ร่างเล็กที่ขยับยุกยิกถอยหนีเพราะรำคาญ เปิดโอกาสให้ชาร์ลสามารถนอนลงได้อย่างสบาย ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าบราวนี่นอนตรงกลางไปโดยปริยาย ชาร์ลยิ้มให้กับความฉลาดร้ายของตนเอง
เขาไม่รู้หรอกว่ารู้สึกยังไงกับบราวนี่ รู้แต่เพียงว่าร่างเล็กไม่เหมือนคนอื่นที่ผ่านมา แล้วถ้าถามว่ารู้สึกรักเหมือนตอนที่รู้สึกกับเฟียสไหม ชายหนุ่มตอบได้เลยว่ายังไม่ใช่ มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ทำให้เขาและลูกชายอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา
ชาร์ลยกลำแขนแกร่งกอดร่างเล็กที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลับลงในนาทีต่อมา ชาร์ลหลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็น ความรู้สึกอบอุ่นเกิดขึ้นในใจ รู้สึกเป็นสุขจนกว่าจะสะดุ้งตื่นก็เกือบหกโมงเช้า ก่อนที่จะรีบหันไปมองคนข้างๆ โชคยังดีที่ทั้งลูกชายตัวน้อยและบราวนี่ยังไม่ตื่น ทำให้ชาร์ลมีโอกาสได้ขยับไปนอนที่ของตนเอง ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพียงไม่นานบราวนี่ก็ขยับตัวลืมตาขึ้นมองภายในห้อง ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของชาร์ลโดยตลอด
“ตื่นนานแล้วเหรอครับ” ชาร์ลทำทีเป็นอ่านเอกสารนั่งพิงหัวเตียงอยู่ก่อนแล้ว เงยหน้าขึ้นมามองคนที่ถาม
“สักพักแล้วล่ะ” ชาร์ลปกปิดสีหน้าเจ้าเล่ห์ได้อย่างแนบเนียน จนบราวนี่ไม่รู้สึกผิดสังเกตุอะไร
“ฉันลงไปข้างล่างก่อน จะไปออกกำลังกายซะหน่อย” ชาร์ลไม่อยากอยู่กับบราวนี่นานกว่านี้เพราะกลัวว่าจะหลุดทำอะไรผิดสังเกตุให้คนตัวเล็กรู้
“ครับ” ชาร์ลลุกขึ้นจากเตียงนอน ชายหนุ่มไม่ได้สวมเสื้อนอน มีเพียงกางเกงวอร์มขายาวที่สวมอย่างหมิ่นเหม่แทบจะหลุดลงมาเห็นอะไรต่อมิอะไรแล้วด้วยซ้ำ แผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นอีก ทำให้บราวนี่ต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่ชาร์ลจะรับรู้ถึงอาการเขินอายของตนเอง เพราะตอนนี้ใบหน้าของบราวนี่เห่อร้อนไปหมด ดีหน่อยที่ชาร์ลไม่ได้หันมาหาเขาอีกทำให้บราวนี่รอดพ้นจากเหตุการณ์ที่น่าหวาดเสียวไปได้
“เกือบไปแล้วเรา” บราวนี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว
เสียงเคาะประตูดังแว่วๆ ออกมาจากด้านนอก ทำให้บราวนี่รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำตรงเปิดประตูห้องนอนให้กับคนที่น่าจะไม่ใช่ชาร์ลอย่างแน่นอน
“นี่เสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวคุณบราวครับ” เอกบอดี้การ์ดคนสนิทของชาร์ลยื่นของใช้ต่างๆ ให้บราวนี่ ร่างเล็กก้มมองก่อนจะยื่นมือไปรับด้วยความสงสัย เพราะของทั้งหมดเป็นแบรนด์ที่บราวนี่ใช้เป็นประจำ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับมันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” เอกก้มหัวให้บราวนี่ก่อนจะหันหลังเดิกลับไป ส่วนบราวที่ได้ของใช้ทั้งหมดก็รีบล็อกประตูห้องนอนเพราะต้องการอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนทีชาร์ลจะกลับขึ้นมาอีกรอบ
ร่างเล็กรีบถอดชุดนอนของตนเองออกตาก็เหลือบมองเด็กน้อยที่หลับอยู่บนเตียงนอนเป็นระยะ ขณะที่เขากำลังจะพันผ้าขนหนูรอบเอวเล็ก เสียงโชวาก็ร้องเรียกขัดจังหวะ ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาหาบราวนี่ในทันที ร่างเล็กตกใจจนเผลอปล่อยผ้าขนหนูหล่นลงพื้นอย่างไม่รู้ตัว
“บราวววว...พิกาจู” โชวาชี้ไปที่กลางกายของร่างเล็กที่โชว์หราให้กับเด็กน้อยได้มองเต็มๆ สองตา
“อะไร” คนที่ยังไม่รู้ตัวเอ่ยอย่าง งงๆ กับคำพุดของโชวา
“นั่นไงพิกาจูของบราว เล็กนิดเดียว ไม่เหมือนพิกาจูแดดดี๊เลย” มือป้อมๆ ชี้ไปยังจุดยุทธศาสตร์ของบราวนี่ จนคนที่มองตามนิ้วของเด็กน้อยรีบยกมือกุมเป้าตัวเองทันที ก่อนจะก้มลงหยิบผ้าขนหนูมาพันร่างให้เรียบร้อย
“ไม่ต้องมาว่าคนอื่น พิกาจูตัวเองก็เล็กเหมือนกันแหละ”
“แดดดี๊บอกว่าโชวายังเด็กถ้าโตแล้วพิกาจูก็จะใหญ่เหมือนของแดดดี๊เลย” โชวาพูดพร้อมกับมือป้อมๆ ที่ดึงกางเกงนอนตัวเองลงโชว์พิกาจูน้อยๆ ที่แสนน่ารัก
“เด็กแก่แดด ทำไมมาแก้ผ้าให้คนอื่นดูแบบนี้ห๊ะ”
“ก็โชวาอยากโชว์ นี่ๆ” เด็กน้อยส่ายพิกาจูไปมาก่อนจะหัวเราะชอบใจ แต่บราวนี่แทบจะเดินไปขย้ำเด็กตัวแสบด้วยความโมโห
“ใส่กางเกงเดี๋ยวนี้ แล้วกลับไปห้องตัวเองได้แล้ว”
“ม่ายเอา จะอาบน้ำกับบราว”
“อย่าชวนทะเลาะตั้งแต่เช้าได้ไหมเนี่ยห๊ะ”
“ไม่ได้ชวนทะเลาซะหน่อย ก็โชวาอาบน้ำด้วยนะบราวนะ” เด็กน้อยดึงกางเกงขึ้น พูดเสียงอ่อยๆ ก่อนจะเดินไปกอดร่างเล็กอย่างน่าสงสาร
“ไม่เอา” บราวนี่เริ่มพูดเสียงอ่อนลง เขาแพ้ทางเด็กแสบเข้าให้แล้ว
“โชวาอยากอาบด้วยนี่นา แต่ก่อนก็อาบกับแดดดี๊เป็นประจำ แต่เดี๋ยวนี้แดดดี๊งานเยอะโชวาต้องอาบคนเดียวประจำ” คำพูดเด็กวัยสี่ขวบที่ดูจะเกินเด็ก เรียกร้องความสงสารจากบราวนี่ได้เป็นอย่างดี จนร่างเล็กพยักหน้าตกลงโดยไม่รู้ตัว
“เย้ๆๆ” บราวนี่ไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำก่อนที่จะเติมครีมอาบน้ำลงไปตีให้เกิดฟอง ยืนรอเจ้าตัวแสบอยู่ในห้องน้ำ เพียงไม่นาโชวาก็วิ่งดุ๊กดิ้กเข้ามาไร้ซึ่งผ้าขนหนูพันกาย พิกาจูน้อยที่ส่ายไปมาตามแรงขยับของเด็กชาย
“ทำไมไม่เอาผ้าขนหนูเข้ามาด้วย”
“เอาไม่ถึงนี่นา”
“เออๆ ลงไปในอ่างรอ เดี๋ยวออกไปเอามาให้” บราวนี่ออกไปเตรียมผ้าขนหนูเข้ามาให้โชวา ก่อนที่ตัวเองจะถอดผ้าขนหนูออกเดินลงอ่างอาบน้ำนั่งลงข้างๆ โชวา
การอาบน้ำเต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะโชวาเอาแต่เล่น แกล้งเป่าฟองสบู่ใส่บราวนี่บ้าง กว่าจะอาบเสร็จก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ทั้งสองคนแต่งตัวเดินตากันลงบันไดไปยังชั้นล่าง ก่อนที่จะสวนกับชาร์ลที่พึ่งกลับเข้ามาเพราะออกกำลังกายเสร็จพอดี
“แดดดี๊” โชวาวิ่งเข้าไปหาพ่อตนเองที่ยืนรออยู่ด้านล่าง
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับตัวห้อมหอม” ชาร์ลนั่งคุกเข่าหอมแก้มลูกชายซ้ายทีขวาที
“อาบแล้ว อาบกับบราวนี่ด้วย”
“จริงเหรอครับเนี่ย มิน่าหอมกว่าทุกวัน” ชาร์ลพูดกับโชวา แต่หันไปมองบราวนี่ที่ยืนนิ่งทำตัวไม่ค่อยจะถูกอยู่ข้างๆ
“พิกาจูของบราวนี่เล...” ก่อนที่โชวาจะพูดจบมือเล็กของบราวนี่ก็พุ่งเข้าปิดปากเด็กแสบทันที ร่างเล็กเหลือกตาโตๆ ของตนเองด้วยความตกใจ ตาที่กลมโตอยู่แล้วกลับโตเข้าไปใหญ่
“อะไรกันเหรอ” ชาร์ลที่พอเข้าใจว่าลูกชายตัวเองกำลังหมายถึงอะไร แต่เขากลับทำเป็นไม่เข้าใจเพราะกลัวว่าบราวนี่จะอาย เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ก็เท่านั้น เอาไว้ถามเรื่องพิกาจูตอนอยู่กับโชวาสองคนดีกว่า
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากดูการ์ตูนพิกาจู เลยชวนโชวาไปซื้อก็เท่านั้น” บราวนี่แก้ตัวในทันที มือเล็กก็ยังคงปิดปากเจ้าเด็กแสบอยู่ คนตัวเล็กหน้าแดงลามไปถึงหูเพราะความอาย ยังดีที่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าสิ่งที่ลูกชายตัวน้อยของตนเองพูดหมายถึงอะไร ร่างเล็กได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตื่นมาเจอหน้ากันไม่กี่ชั่วโมงก็มีแต่เรื่องให้อาย ถ้าต้องมาอยู่ด้วยกันจริงๆ จะป็นอย่างไรล่ะที่นี้
“อ๋อเหรอ เอาไว้ว่างๆ จะพาไปแล้วกัน ฉันไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวจะลงมาทานมื้อเช้าด้วย” ชาร์ลเอ่ยก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดบ้านไป
“ที่หลังห้ามพูดเรื่องพิกาจูอีกนะ” บราวนี่กระซิบกับโชวาเบาๆ เพราะเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน
“ทำไมล่ะ”
“ไม่อะไรหรอกน่า ถ้าโชวาพูดอีกบราวจะไม่เล่นด้วยแล้วนะ”
“ก็ได้” คำพูดติดปากของเด็กน้อยถูกเอ่ยขึ้นเมื่อยอมทำตามข้องตกลงของบราวนี่ แม้ว่าจะไม่เข้าใจก็ตาม แต่ไม่อยากให้บราวนี่โกรธแล้วไม่มาเล่นกับตัวเองเลยรับปากไปก็เท่านั้น
60%
*****************
ยังไม่จบตอนนะคะมาลงให้ก่อนแต่งได้เท่านี้ถ้าทันก็จะมาต่อตอนดึกๆ ถ้าไม่ทันก็วันหลังนะคะ