“ถ้างั้นก็เตรียมตัวไว้”
“เรื่องอะไรพี่”
“คุยกับบ้านกูแล้ว เดี๋ยวต้องคุยกับบ้านมึงด้วยดิ อย่ามาเอาเปรียบ มึงได้กูแล้วคิดจะปิดแม่กับพี่ขมเหรอ”
“เฮ้ย! อะไรเร็วขนาดนั้น” ใครได้ใครพูดผิดพูดใหม่เลยเหอะ ผมเริ่มหน้าหงิกบ้าง
“ช้าไปนะกูว่า ช้ากว่าบ้านกูอีก”
“พี่แม่ง”
“จะบอกแม่มึงรึเปล่า หรือจะคบกันไปแบบแอบ ๆ ก็ได้นะ”
“เรื่องดิ่”
ผมตอบแทบจะทันที พี่เอย์มันยิ้มใหญ่เลยมันตบหัวผมเบา ๆ ผมรู้หรอกมันทำเป็นพูดลอกเลียนคำพูดผมน่ะ
“หึหึหึ”
“พี่แม่งหัวเราะไรอ่ะ”
“ตลกมึงไง”
“ตลกเรื่อง?”
“เปล๊า” มันปฏิเสธเสียงสูงยิ้มนิด ๆ ผมหมั่นไส้เหวี่ยงมือฟาดท้องมันไปที่ คุณชายร้องโอดโอย
“แล้วตกลงวันนี้นอนไหน”
“นอนบ้านเหอะ คิดถึงคุณนายอ่ะ”
พี่เอย์หักรถเข้าอีกเลนทันที เจอเรื่องครอบครัวมันแล้วผมปลงว่ะ คิดถึงคุณนายกับพี่ขม ผมมั่นใจแม่จะเข้าใจผม ครอบครัวของเราไม่จำเป็นต้องรักษาหน้าตาอะไรแบบของมันเพราะอย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายกว่ากันเยอะ ซึ่งผมเข้าใจนะไม่โทษหรอก
“ขอจูบก่อนเข้าบ้านได้ป่ะวะ”
มันล็อคเอาคอผมเข้าไปกอด ชะลอรถลงที่ข้างทางที่ดินว่าง ๆ ก่อนถึงหน้าบ้านผมแค่ไม่กี่เมตร พี่เขามองดูที่ดินมืด ๆ ลดเสียงเพลงลง มันก้มหน้าลงมาทำท่าจะจูบ ผมใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายยกท่อนแขนมันออก หน้ามันหงิกไปแล้ว ผมรีบชี้ๆไปที่หน้าบ้านบอกให้รีบขับไปดึกแล้ว มันขัดใจนิดหน่อยแต่ก็เข้าเกียร์เดินหน้าต่อ
ในที่สุดรถมาจอดลงด้านในรั้วไม้เตี้ย ๆ เรียบร้อย แม่กับพี่ขมยืนหน้าเขียวอยู่
“เจ้าปิงนี่จริง ๆ เลยนะ จะมาไม่เคยบอกก่อนเล๊ย เอย์กินข้าวมาหรือยังลูก” แม่บ่นผมแล้วถามพี่เอย์
“ทานเรียบร้อยแล้วครับ”
“ปิงก็กินแล้วครับ แม่อ่ะ ปิงคิดถึงอยากมานอนด้วยนี่ วีนทำไมเนี่ย”
“อ่ะแค่กๆๆๆ” เสียงคุณชายกระแอมไอ หน้าตานี่คือคิ้วขมวดสุดแค่ได้ยินผมอ้อนว่าอยากจะนอนกับแม่
“พูดแค่นี้ว่าแม่วีนเหรอเราเดี๋ยวเหอะ ไปอาบน้ำอาบท่ากันไป พาพี่เอย์เข้าไปหาผ้าเช็ดตัวในห้อง เดี๋ยวแม่ชงนมอุ่น ๆ ให้ พี่ขมเขาไปได้นมสดมาจากตลาดเจ้านี้อร่อยแม่เติมน้ำตาลลงไปนิด ๆ ไปอาบน้ำแล้วพาพี่เขาออกมากิน เจ้าปิงนี่เลิกดื้อได้แล้วปล่อยเอวแม่เดี๋ยวนี้” แม่ตีแขนผมเบา ๆ เพราะผมกอดเอวคุณนายไม่ยอมปล่อยจนเธอบิดพุงผมนั่นแหละผมเลยยอมปล่อยเอวเธอได้
เราสองคนเข้าไปในห้อง พี่เอย์นอนแผ่หราลงกับฟูกทันที มันคงเหนื่อยแหละทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจ คือเดี๋ยวนี้เวลามานอนคุณชายยึดฟูกใหญ่ของผมไปแล้วเรียบร้อย ผมจะปูฟูกเล็กๆอีกอันลงข้าง ๆ แต่ตื่นเช้าขึ้นมาทีไรเราสองคนนอนอยู่ฟูกเล็กแคบ ๆ ทุกทีสิน่า ก็ไม่รู้จะปูทำไมเหมือนกัน
“พี่เอย์ครับ อาบน้ำ” ผมนั่งลงข้าง ๆ เอาผ้าเช็ดตัววางลงที่ท้องมัน พี่เขาดึงเอาตัวผมขึ้นไปกอด สภาพผมตอนนี้คือตะกายขึ้นมานอนอยู่บนตัวมันเรียบร้อย
“ปิง ที่ดินข้าง ๆ บ้านมึงนี่ที่ใครวะ”
“หือ?” ผมนึก
“ที่บ้านคุณย่าพี่พิมครับ พี่ถามทำไม”
“เขาจะขายไหม กูอยากได้นะ”
“ทำไมอ่ะพี่ นึกยังไง”
“ไม่อยากให้มึงต้องห่างแม่ ไหน ๆ จะออกมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ซื้อที่ที่มันใกล้กับบ้านมึงเลยไง มีที่ดินเปล่าติดกันแบบนี้ดีออก เดี๋ยวเราสร้างบ้านหลังเล็กๆเลี้ยงหมาสองสามตัว วันไหนมึงอยากมานอนกับแม่เราก็เดินข้ามรั้วมาก็ถึงแล้วไง ได้ดูแลท่านด้วย แบบนี้ไม่ชอบเหรอ”
“พี่เอย์?”
“กูพูดจริงนะ ลองถามพิมเขาให้หน่อย แบ่งขายไหมอยากได้สักแปดสิบตารางวาก็ได้ ไม่เอาเยอะหรอก”
“แล้วคอนโดพี่ล่ะ”
“นั่นน่ะแม่ซื้อให้ตั้งแต่กูเรียนมัธยมโน่น ถ้าจะออกมากูจะไม่เอาอะไรของเขาออกมาเลย เงินที่เก็บไว้พอจะมีอยู่ ค่อยมาหาเพิ่มเอาใหม่ ลำบากหน่อยแต่กูไม่เป็นไรหรอก เมียกูแกร่งหึหึ
โอ๊ยยย อย่าตีดิ”
“พี่แม่งพูดจาไม่รู้เรื่อง อาบน้ำเร็ว”
“อาบให้หน่อยดิ”
“ได้ที่ไหนเล่า แม่นั่งดูทีวีอยู่กับพี่ขมอ่ะ”
“ฟอดดด พูดเล่น” มันหอมแก้มผมแล้วลุกพรวดขึ้นเลย ชิงเข้าห้องน้ำได้ก่อนอีกต่างหาก ผมนึกถึงคำพูดของมันแล้วคิดตาม ถ้าพี่เอย์เอาจริงครอบครัวมันร้อนขึ้นมาแน่ ๆ ถึงผมจะอยากอยู่กับมันแต่ถึงขนาดให้มันทิ้งทุกอย่างแล้วแยกตัวออกมาแบบนี้ จะดีเหรอวะ? เฮ้อ...ผมถอนใจคิด ช่างดิ ผมก็รักของผมอ่ะ ถ้าพวกเขายอมรับความรักของเราไม่ได้ การที่มันคิดจะแยกตัวออกมานี่คือคงสุดๆของมันแล้วเหมือนกัน อะไรจะเกิดคงต้องปล่อย
ผมสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวลุกขึ้นตามมันออกไปอาบน้ำ เราแต่งตัวกันเสร็จออกมานั่งกินนมสดร้อนที่แม่อุ่นไว้ให้ ดูทีวีไปด้วยกันจากนั้นแม่กับพี่ขมเข้านอนกำชับผมกับพี่เอย์ปิดไฟให้เรียบร้อย
“อย่านอนดึกนักนะลูก พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปทำงานอีก”
“ครับแม่”
“นั่งตักกูมา” มันพูดขึ้นดึงแขนผมจะให้ลุกไปนั่งที่ตักมัน
“ไม่เอา”
“งั้นเข้านอนป่ะ” มันชวนอีก อิพี่เอย์กอดเอวผมไว้แน่นกว่าจะลุกขึ้นได้กระทืบเท้ามันไปสองทีเอาหมอนอิงกดหน้ามันเราสู้กันจนโซฟาจะขาด พี่เขาลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง
“ผมจะปิดไฟแล้วพี่”
“อือปิดสิ”
ผมก็ปิดลงจริงนะ พี่เอย์ยังยืนอยู่ที่ตรงนั้นผมเดินเข้าไปที่ครัวเช็คดูไฟให้เรียบร้อย ออกมาเห็นมันเอาอะไรบางอย่างเก็บใส่กระเป๋า ผมเดินเข้าไปหา มันรีบดันตัวผมไว้เหมือนไม่อยากให้เดินเข้าไปแถว ๆ นั้น
ผมยิ่งอยากรู้สิ
“เข้าห้องป่ะ”
“พี่ทำอะไร”
“ง่วงนอนแล้ว มึงเข้าไปปูที่นอนก่อน”
“แม่จัดการให้แล้วครับตอนที่พี่อาบน้ำ” ผมชะเง้อไปทางโต๊ะริมหน้าต่างอิพี่เอย์แม่งโคตรพิรุธมันกักผมไว้ แล้วทำท่าจะกอดผมรีบหนี มันดึงมือผมแล้วพาวิ่งเข้าห้อง
“พี่เข้าไปก่อนนะ ผมลืมปิดไฟห้องน้ำ”
มันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไป ผมเดินไปดูในจุดที่ผมสงสัย ที่โต๊ะตัวนั้นมีเงินใบพันวางอยู่จำนวนหนึ่ง ทับไว้ด้วยแท่นกระดาษโน้ตอย่างดี
พี่เอย์วางเงินไว้ให้ ในที่ๆ ผมจะวางไว้ให้แม่เสมอเวลาที่แวะมานอนบ้าน
ผมเดินเข้าไปในห้อง เห็นมันนอนหลับตาไปแล้ว อยากจะถามนะแต่คิดอีกที ถ้าเป็นเรื่องที่มันอยากจะให้ผมรู้พี่เขาคงจะบอกออกมาแล้ว บางทีมันอยากจะหยิบยื่นเงินให้กับแม่แต่พูดไม่เป็น จะบอกผมก็คงจะอายเลยได้แต่ทำแบบนี้ มิน่า ผมนึกถึงวันก่อนแม่โทรมาบอกว่าผมวางเงินมากเกินกว่าทุกครั้ง ผมเองยังงงๆแต่คิดว่าแม่คงจำผิดเลยไม่ได้ท้วงอะไร ที่แท้เป็นพี่เขาวางเอาไว้ให้
“พี่เอย์ครับ นอนแล้วเหรอ”
อะไรก็ไม่รู้มันนอนห่มผ้าจนชิดคอหลับตาพริ้มท่าทางเหมือนคนหลับลึกลงไปแล้ว วันนี้อากาศเย็นห้องผมไม่มีแอร์นะ พัดลมก็ไม่ต้องเปิด ผมเดินไปผลักหน้าต่างกว้างออกอีกหน่อย ลมหนาวจากภายนอกโกรกผ่านเข้ามา
“อะไรเนี่ย หลับแล้วจริงดิ ผมปิดไฟเลยนะ”
“อือๆ” เสียงมันอืออาตอบรับ แต่ไม่ยอมลืมตานอนห่มผ้าแบบเหมือนคนหนาวจัดมาก ผมสงสัยนิด ๆ พอปิดไฟเสร็จลองคลานเข้าไปดูมัน
“เย้ยยยยยยยย!!!!!!!” กูว่าแล้ว แผนการคุณชาย ผมถูกลากเข้าไปในผ้าห่ม ไม่ตกใจหรอกมุขเก่า แต่ที่ตอนนี้นอนตาเบิกโพลงอยู่ก็เพราะ....
ภายใต้ผ้าห่มผืนโต พี่เอย์ล่อนจ้อนมาก มันเข้าห้องมาก่อนผมแค่แปปเดียวเท่านั้นทำไมถอดทุกอย่างไวแบบนี้
มือไม้มันกำลังฟัดผม ปลายจมูกโด่งระดมซุกลงมาแล้ว ผมดิ้น “เดี๋ยวๆๆๆอะไรเนี่ย พี่อยากกอดผมมากขนาดนี้เหรอ?”
มันชะงักกึกเลย
“อยากกอดก็บอกดี ๆ สิครับเดี๋ยวผมตั้งท่าก่อนจะให้กอดดีๆเลย นะๆตั้งท่าแปปๆ”
“จิ๊ กูบอกตอนไหนว่ากูอยากกอดมึง”
คึคึ เข้าแผนผมแกล้งมัน มันผลักผมออกพรืดดดดดจนสุดแขนเกือบตกฟูก คุณชายหน้างอลุกขึ้นนั่ง เสื้อผ้าก็ไม่ใส่หนาวขนาดนี้ ผมขยับดึ๊ดๆเข้าไปหาใหม่ ดึงผ้าห่มออกจากตักมันมาห่มให้ตัวเอง สรุปคือมันนั่งล่อนจ้อน
ตากูจะเป็นกุ้งยิงไหมเนี่ย ลูกชายมันชี้โด่เด่
“ตกลงพี่ไม่ได้อยากกอดผม?” ผมหรี่ตาแอบ ๆ มอง
“....” มันทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ ขยับตัวไปมาแต่ยังนั่งอยู่
“งั้นก็นอนลงนะครับนะ ไม่อยากกอดก็ไม่กอดเนอะ หนาว นอนเร๊ว” ผมดึงแขนมัน ดึงๆบอกให้มันนอนลง พี่เอย์หันขวับมามอง ปัดมือผมทำท่าไม่อยากให้จับ
นี่แหละเวลามันเล่นตัวกับผม งอนยิ่งกว่าสาวน้อย
“ทำไงดีว๊า ผ้าห่มผืนโต๊โตแต่ไม่มีใครเข้ามาห่มด้วยเล๊ย เดี๋ยวไปตามเจ้าโบวี่มานอนด้วยดีกว่าเนอะๆ พี่เอย์ครับเราไปรับโบวี่มาจากบ้านคุณย่าพี่ดีไหมขอยืมมาให้ผมนอนกอดหน่อยนะ”
“ฝันดิ่” มันว่าหน้าหงิกกระชากผ้าห่มผมออกแล้วตัวมันเข้ามานอนกอดก่ายผมไว้
“กูไม่ให้มึงไปกอดคนอื่น” คนอื่นที่ไหน นั่นมันน้องหมา
“แล้วให้ผมพูดว่ายังไงอ่ะ”
“พูดว่าอยากให้กูกอดแค่คนเดียว” น้ำเสียงคุณชายเอาแต่ใจมาก
“เฮ้ยพี่นั่นแหละอยากกอดผม ผมไปอยากให้พี่กอดตอนไหน”
“ไม่ใช่! มึงอยากให้กูกอดไงกูเลยต้องดึงเข้ามากอด แบบนี้อ่ะ แบบนี้ๆๆ” มันสาธิตคำพูดมันด้วยการกอดผมแน่นมาก ๆ รัดจนจะบิดเป็นเกลียวเชือกอยู่แล้ว
“แบบนั้นเหรอพี่ สรุปผมอยากให้พี่กอด พี่เลยกอดผม แบบนั้นดิ่”
“ก็เออ”
“พี่แม่งขี้โกงว่ะ”
“ตัวมึงทำไมหอมวะ วันนี้อาบน้ำแล้วถูสบู่อ่ะดิ่”
“ผมถูของผมทุกวันเหอะ”
“คึ ครีมอาบน้ำมึงสามเดือนไม่เคยเปลี่ยน กูรู้เวลามึงสระผมเอาน้ำแชมพูแทนครีมอาบน้ำใช่ไหมล่ะ ไอ้ขี้เกียจ”
“ทำเป็นรู้ดี”
“กลิ่นมึงกูรู้ทุกซอกทุกมุมนั่นแหละ”
“ทำไมพี่พูดแล้วมันลามกวะ”
“จริงดิ่”
ผมยักคิ้วให้ อิพี่เอย์ยกยิ้มร้าย ๆ ก่อนเลื่อนตัวขึ้นมากระซิบ
“หิวแล้ว....กินมึงบนเตียงนี่เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ มาที่นี่ทีไรได้กินทุกทีสิน่า” เสียงเซ็กซี่ดังขึ้นที่ริมหู ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงมาเล่นเอาให้ผมขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว จะว่าชินมันก็ชินอยู่ แต่จะว่าไม่ชินมันก็ไม่ชินนะ
มือมันเร็วมาก ทำงานควบคู่ไปกับริมฝีปากและปลายลิ้นได้อย่างลงตัว คำพูดนั้นของมันเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องให้กลายเป็นลามกขึ้นมาในทันที
“อื้มม พี่เอย์ครับ เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน”
“เงียบเถอะปิง”
เสื้อผ้าผมหลุดลุ่ยออกตั้งแต่ตอนไหน ทั้งมันทั้งผมกอดรัดฟัดเหวี่ยง ร่างกายเปลือยเปล่ารัดรึงทาบทับกับแสงของดวงจันทร์ที่ทอพาดลงบนฟูกหนานุ่ม
“ลองที่ริมหน้าต่างไหม อากาศดีด้วยวันนี้”
“ไม่เอาพี่ เดี๋ยวแม่ได้ยิน”
“มึงอย่าร้องดังดิ”
“ทำไม่ได้” ผมส่ายหน้า เวลารู้สึกดีผมชอบระบายออกมาทางเสียง นี่เป็นเสน่ห์อย่างนึงของผมนะบอกเลย เมื่อก่อนเวลานอนกับสาว ๆ ผมชอบคนที่ลีลาดี ๆ ร้องดัง ๆ ตอนนี้ผมเองเอามาปรับใช้กับตัว อิพี่เอย์ทั้งรักทั้งหลงอยู่นี่แหละผมไม่ยอมเป็นท่อนไม้หรอก ถึงจะอายแต่เรื่องแบบนี้มันต้องสามัคคีปรองดองเซ็กซ์น่ะมันต้องสองฝ่ายถึงจะสนุก ผมคิดแบบนั้น จะให้กลั้นเสียง ทำไม่เป็นหรอกครับ
มันยิ้มแล้วพลิกตัวลงมานอนแทนที่ผมเร็วมาก สภาพผมตอนนี้คือเปลือยกายนอนทับอยู่บนตัวมันพี่เอย์ประคองผมลุกขึ้นนั่ง
“ฟันดาบกันไหม”
“พี่แม่ง” ผมฟาดเพี๊ยะมัน “หน้าด้าน พูดจาลามก”
“ทำป่ะล่ะ”
“ทำดิ!”
“หึหึ” และแล้วมันก็จัดการ ใช้มือมันนั่นแหละผมอายขนาดนี้อย่าให้ผมเป็นฝ่ายทำเลย พออยู่บนเตียงแล้วพี่เอย์แม่งมันด้านสุดไรสุด ผมตัวเกร็งไปหมด เกี่ยวแขนกอดคอมันไว้ซุกหน้าลงที่ไหล่ครางลอดออกมาเบา ๆ
“ปิงชอบเหรอครับ หื้ม?”
ผมพยักหน้าหงึกๆ มันเลื่อนมือข้างที่ว่างขึ้นมาประคองท้ายทอยผม เราจูบกันอีกครั้งในขณะที่ส่วนล่างยังสู้กันอยู่ไม่หยุด
“มึงทำนะ วันนี้”
“ไม่เอา” ผมส่ายหน้าอีกมั่นใจว่าหน้าตัวเองแดงเถือกไปหมดแน่ ๆ มันยิ้มแล้วดูดปากผมแรง ๆ หนึ่งที ก่อนพลิกตัวผมลงไปที่ฟูกคุณชายตระหง่านพร้อมรบอยู่ที่หว่างขาผมเรียบร้อย ผมดึงแขนมันลงมา เราจูบกันอีกหน ปลายนิ้วร้อนลากยาวลงไปจนถึงส่วนที่สำคัญ ผมสะดุ้ง
“ฮ..อ๊ะ...” ครางจิกต้นแขมมันแน่น ตัวสั่นนิดๆเมื่อนิ้วร้ายเคลื่อนตัวเข้าออก
มันทำอย่างที่เคยทำ
ผมร้องอย่างที่เคยร้อง
ริมฝีปากกดจูบลงมา ลูกชายเราทั้งคู่พรักพร้อมมากแล้ว
...ร้อน.....“จะเข้าไปแล้วนะ” มันจับขาผมชูขึ้น ก้มดูดเบา ๆ ที่โคนขาด้านในก่อนสอดแทรกกายใหญ่เข้ามา
“พี่แม่ง จะทำอะไรก็รีบทำอย่ามาพูดนะ เรื่องแบบนี้...” ผมอาย เอามือปิดหน้า ผ่อนลมหายใจ ทำอย่างที่มันเคยสอน ทุกอย่างกำลังดำเนินไป พี่เอย์แม่งเลวมันปัดมือผมออกบอกไม่ให้ปิดหน้าปิดตามันจะมอง ผมเลยหลับตาลงช่างแม่งแล้วแต่มัน
ไม่รู้จะมองทำเหี้ยไร คนอายจะตายห่าแล้ว
มันแทรกกายเข้ามาจนสุด ชายผ้าม่านพลิ้วไปตามกระแสลมเอื่อยๆจากภายนอก
สองร่างหลอมรวม
จุดเชื่อมต่อร้อนราวกับไฟ
ห้องทั้งห้องลุกโชน
ลมหายใจแห่งรักผสานเป็นหนึ่งเดียว
มันโอบกอดผมไว้ ขยับกายด้านล่าง....ผมชอบให้มันทำแบบนี้ที่สุด
หยาดเหงื่อผุดพรายขึ้นที่หน้าของสองเรา
ทั้งผมทั้งมันปาดเช็ดออกให้แก่กัน ริมฝีปากจูบซับอีกครั้งอีกหนที่ไรผมหอม
“อ๊ะๆ....พี่เอย์..ช้าหน่อย...อ่ะอื้มม..”
มันเป็นคนที่ชอบจูบมากมายจริง ๆ
จูบมาราธอน.....จูบแบบลืมตาย......จูบข้ามคืนคุณเชื่อไหม...ผมทำมาหมดแล้ว
“พี่เอย์ อ๊ะๆๆ ผม ผะ...ผม...อ๊าา.....” ผมจิกฟูกจนเล็บจะหลุด เสียวสุดไรสุด ก่อนปลดปล่อยทุกอย่างของผมออกมา พี่เอย์ซอยถี่กระแทกเข้าออกเป็นว่าเล่น ผมครางสั่นจนลืมตาย ไม่สนแล้วใครจะได้ยินอะไรยังไง มันรีบคว้าผมเข้าไปจูบปิดปาก
“อื้มมมมม....อื้อออ....”
เสียงเราสองคนครางออกมาพร้อมกันทั้งที่ยังจูบ มันพาไปแตะเส้นขอบฟ้าถึงสองครั้งเอาจนผมหอบ เสยปอยผมเปียกชื้นออกให้ผมอีกครั้ง กดจูบลงมาที่ขมับอย่างรักใคร่
นัยน์ตาอ่อนโยนจ้องผมแน่นิ่ง
คำพูดที่มันมักจะพูดเสมอทุกครั้งที่เรารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“หมาปิง....รักมึงนะ”ผมพยักหน้ารับเลื่อนมือขึ้นมาประคองแก้มมันไว้ รั้งตัวเองขึ้นไปจูบมันอีกหน
“ผมก็รักพี่”คืนนั้น...พระจันทร์ยังคงเต็มดวงสวย ถึงแม้ครอบครัวพี่เขาจะรับเรื่องราวของเราไม่ได้ แต่มันยังคงมีผม มีครอบครัวของผม ผมมั่นใจแม่ผมจะไม่ห้ามความรักของเราสองคน
....โปรดอย่าให้มีใครต้องทิ้ง หรือถูกทิ้งไปอีกเลย.....“ไปด้วยกันไหม ปิง!?”
ผมตัดสินใจแล้วตั้งแต่ตอนที่เอื้อมมือไปคว้าจับมือใหญ่และเย็นนั้นไว้
Tbc.
มาเสิร์ฟแล้วค่ะ พี่เอย์หมาปิง คัมแบ็ค!
ขอบคุณมากทุกๆข้อความกำลังใจ เราไม่ได้ต้องการคำชมหรอกไม่อยากให้เข้าใจผิด เจอกระแสดราม่าตั้งแต่ตอนที่พี่เอย์ทิ้งปิงไปเรียนต่อแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่ขอร้องเรื่องเดียวค่ะอย่าไปบลัฟความคิดเห็นคนอื่นเลยนะ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นสงครามโต้กันไปมาไม่จบสิ้น เราคิดแบบนั้นตอนนั้นเลยอยากจะชะลอเนื้อเรื่องลงก่อน ไม่ใช่ว่าแตะไม่ได้ยุ่งไม่ได้วิจารณ์ไม่ได้ วิจารณ์เลยได้ทุกอย่าง แต่อย่าบลัฟกันค่ะ ไงๆเขาก็เป็นคู่รักกัน ทะเลาะกันเถียงกันมันเรื่องธรรมดานะ มันเป็นทิศทางของบทแค่นั้นเอง อินจ๊าดดดดดดดดดดดดดดดดด และต้องขอโทษด้วยหากทำให้ไม่สบายใจ
ตอนนี้มาแล้วนะคะ อาจจะมีหลายคนที่ไม่เข้าใจเราแล้วทิ้งกันไป ทว่ายังคงเหลือแต่คนที่เข้าใจเหตุผลของเราแบบนั้นจะดีกว่า ค่อย ๆ อ่านไปเด้ออออ
ปล. ช่วงนี้นานๆมาทีได้ป่ะคะ?? เทศกาลสอบมาถึงแล้ว รบกวนรักและเอ็นดูหมาปิงกับพี่เอย์ต่อไปด้วย ขอบคุณงับ มิลเลี่ยนแต้งส์