ตอนที่ 6
พาร์ท ควิน
วันนี้วันอาทิตย์ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่เก้าโมงลืมตากลิ้งไปมาบนที่นอนเช่นเคย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอจิ้มเข้าแอพสีน้ำเงิน ผมเลื่อนไปเรื่อยจนมาสะดุดโพสของเพจหนึ่ง
เรื่องผู้ชายไว้ใจเจ๊ 2 hour ago
ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! ตื่นมาเจอรูปนี้คืออะไร? เมื่อคืนเจ๊พลาดเผือกอะไรไปใครก็ได้บอกเจ๊ที! นานๆทีถึงจะเห็นหลัวคิงออกมาเคลื่อนไหวในเฟสให้ชะนีกรีดร้อง แต่ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้น! คือหลัวออกมาโพสรูปกล่องข้าวลายขิกคุแถมแคปชั่นว่า 'ขอบคุณ' เอาตอนตี 1 !!! เอาล่ะค่ะประเด็นตอนนี้คือกล่องข้าวปริศนานี่คือของใคร? แล้วทำไมถึงได้โพสตอนตี 1 คะ? คือเจอกันดึกๆดื่นๆหรอ?! ฮือออออออออ คืออาร๊ายยยยยยยยย ไหนใครคือเจ้าของกล่องข้าวนั้นคะถ้าออกมาสารภาพแต่โดยดีเจ๊จะอนุโลมลดโทษให้กึ่งนึง แต่ถ้านางไม่มาเจ๊ขอเชิญชะนีทุกคนออกล่าค่ะ! #สวมบทอินเนอร์แบบมิสซิสสรรูปที่เพจแนบมาคือรูปที่แคปมาจากโพสเฟสของใครบางคน ในรูปเห็นแค่กล่องข้าวลายคุ้นตาที่วางอยู่บนโต๊ะเท่านั้น แคปชั่นสั้นๆได้ใจความ ผมกดค้นหาชื่อเฟสตามรูปที่เพจแคปมา อื้ือหือ มีคนติดตามเกือบแสน อะไรจะขนาดนั้นผมยังมีคนติดตามแค่สองสามหมื่อนคนเอง ผมเลื่อนหาโพสที่เพจว่าเลื่อนมาก็เจอเป็นโพสแรกเลยครับ ผมกดเปิดรูปแล้วบันทึกลงเครื่องทันที มองรูปอีกครั้งแล้วอดจะยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ
ก็เพราะว่าในกล่องข้าวนั้นไม่เหลืออะไรอยู่ข้างในเลยสักนิดเดียว...
ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาล้างหน้าอาบน้ำ วันหยุดอยู่ห้องทั้งทีผมก็ว่าจะจัดห้องใหม่อาทิตย์ที่ผ่านมผมเอาแต่ยุ่งอยู่กับรายงานห้องเลยรกขึ้นมาหน่อย ผมเก็บของที่ไม่ได้ใช้รวมใส่ถุงขยะปัดกวาดเช็ดถูทั่วทั้งห้อง จัดหนังสือทั้งบนชั้นทั้งบนโต๊ะ เสื้อผ้าที่กองไว้ก็จับใส่ตะกร้าเตรียมซักให้หมด กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปสามชั่วโมงได้เล่นเอาเหนื่อยพอตัวเลยล่ะ เหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะบ่ายแล้ว จะว่าไปนี่ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หว่า ผมเข้าอาบน้ำอาบท่าอีกรอบแต่งตัวสบายๆด้วยกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีดำกับเสื้อยืดคอวีสีน้ำเงินเรียบ หยิบกระเป๋าตังค์ติดมือมา ผมขี้เกียจขับรถครับว่าจะลงไปซื้อข้าวแถวคอนโดกินเอา
"เฮ้ย!" พอเปิดประตูออกมาผมก็ต้องตกใจกับบางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"เอ่อ คือ"
"อ่า มาทำอะไรตรงนี้ครับคิง" ครับ ตรงหน้าของผมคือคิงตัวเป็นๆแถมยังทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆอีก
"เอานี่มาคืน" คิงยื่นกล่องข้าวที่ผมให้ไปเมื่อคืนมาให้ผม
"อ่อ จริงๆไม่ต้องรีบเอามาคืนขนาดนี้ก็ได้นะ" ผมรับมาแล้วตอบกลับไป
"อร่อย"
"ขอบคุณครับ ถ้าอร่อยไว้วันหลังอยากกินอีกก็บอกแล้วกัน เดี๋ยวพี่ทำให้" เฮ้อ ทำไมเขาทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเลยนะ
"อือ ไปไหน"
"ห้ะ อ๋อ พี่น่ะหรอ? พอดีจะออกไปหาไรกินแถวนี้น่ะ"
"อ่อ"
"แล้ววว คิงกินข้าวหรือยังล่ะ?"
"...ยัง"
"งั้นไปกินด้วยกันป่ะ"
"ไป"
"งั้นพี่เอากล่องไปเก็บแปบนะ" อีกคนพยักหน้ารับรู้ผมเลยเข้าห้องมาในครัว ผมยืนข่มใจตัวเองไม่ให้เต้นแรงมากไปกว่านี้อยู่เกือบนาที นี่จะไปกินข้าวด้วยกันครั้งแรกเลยนะ! ผมก็ตื่นเต้นบ้างอะไรบ้างสิครับ หลังจากเรียกสติเสร็จก็เดินออกมา
""ไปกันเลยเนอะ"
"อือ"
ผมกับคิงออกมากินเกี๋ยวเตี๋ยวร้านติดกับคอนโด พอเข้ามาหาที่นั่งสั่งเกี๋ยวเตี๋ยวเสร็จก็ใช้เวลารอนิดนึงเพราะคนค่อนข้างเยอะ ผมเลยใช้จังหวะนี้ชวนอีกคนคุย
"วันหยุดไม่ออกไปเที่ยวไหนหรอ"
"ไม่ชอบคนเยอะ พี่ล่ะทำไมไม่ไป"
"พี่ก็ไม่ชอบคนเยอะเหมือนกัน แล้วปกติเสาร์อาทิตย์ไม่ได้กลับบ้านไง"
"อาทิตย์ที่แล้วไปมาแล้ว"
"หืม บ้านไกลหรอถึงไม่ค่อยกลับอ่ะ"
"เปล่า ขี้เกียจ"
"หึ นิสัยไม่ดี"
"ทีพี่ยังไม่กลับเลย" พออีกคนตอบกลับมาแบบนี้ผมก็สตั๊นไปนิดนึงเหมือนกัน ผมไม่ได้โกรธน้องนะครับแต่พอคิดว่าเพราะอะไรถึงไม่ได้กลับบ้านมันก็หน่วงๆในใจนิดหน่อย
"พอดีที่บ้านพี่ไม่มีคนอยู่น่ะ นานๆทีเลยค่อยกลับไปดูบ้านก็ได้"
"ทำไมไม่มีใครอยู่ล่ะ" คิงขมวดคิ้วเอียงคอถามสีหน้าเหมือนเด็กช่างสงสัย ผมเห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ เพราะว่าโต๊ะเป็นโต๊ะเล็กผมเลยเอื้อมมือไปขยี้หัวอีกฝ่ายให้หายหมั่นเขี้ยว
"หึ ช่างสงสัยนักนะ" คิงนิ่งไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปัดมือออก ผมก็ลืมนึกไปว่าบางทีเขาอาจจะไม่โอเคที่ผมทำแบบนี้
"เอ่อ ขอโทษทีนะ พอดีพี่เผลอน่ะ" ผมละมือจากผมอีกคนแล้วกำลังจะดึงมือกลับแต่กลับถูกอีกคนจับไว้ก่อน
"..."
"เอ่อ พี่ขะ-"
"ไม่เป็นไร ทำอีกก็ได้" หึ้ยยยยย!!! ทำไมน่ารักขนาดนี้นะ ผมอดจะยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ
"ครับ ที่ถามเมื่อกี๊คือพ่อแม่พี่เสียหมดแล้ว ญาติก็ไม่มีที่บ้านก็เลยไม่มีคนอยู่น่ะ"
"ขอโทษครับ"
"เฮ้ย ไม่เป็นไรเรื่องมันนานแล้ว พี่โอเค"
"ครับ"
ก๋วยเตี๋ยวที่สั่งไว้มาพอดีเลยไม่ได้คุยกันต่อ ผมตักเครื่องปรุงใส่ชามพลางเหลือบมองอีกคนก็เห็นว่าอีกคนจ้องชามของผมอยู่เลยถามออกไป
"มองชามพี่ทำไมเนี่ย อยากกินแบบนี้หรอ?"
"เปล่า" ผมพยักหน้าแล้วปรุงต่อ อีกคนก็เริ่มหยิบเครื่องปรุงปรุงบ้างแต่ท่าทางของอีกคนดูเงอะงะหยิบช้อนเครื่องปลุกใส่อย่างนิดอย่างละหน่อยจนผมต้องเอ่ยปากถามอีกรอบ
"มีอะไรหรือเปล่าคิง แปลกๆนะ"
"ปรุง..."
"อะไรนะ?" อีกคนพูดงึมงัมจนผมได้ยินไม่ค่อยชัด
"พี่ปรุงยังไง"
"ทะ ทำไมหรอ"
"...ข้าวเมื่อวานอร่อย"
"..." ตึก ตึก ตึก
"เลยคิดว่าถ้าปรุงแบบพี่ก็คงอร่อย" หึหึหึ คำตอบของอีกคนทำผมยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้วครับ
"งั้น งั้น งั้นพี่"
"งั้น งั้น งั้น" เพราะผมไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับยังไงอีกคนเลยพูดตามล้อๆแต่หน้านิ่งสุด ผมเกือบจะไม่รู้ว่าคิงล้อผมถ้าเกิดเขาไม่ยักคิ้วให้หลังพูดจบ
"เดี๋ยวเถอะ"
"งั้นพี่ปรุงให้ทีสิ"
"เอาจริงอ่ะ"
"อือ"
"อ่า...ก็ได้ แต่ถ้าไม่อร่อยอย่ามาโทษพี่ล่ะ" ผมคว้าชามตรงหน้าาปรุงเพิ่มนิดหน่อยแล้วยื่นกลับคืนไปให้ คิงเริ่มลงมือกินโดยไม่พูดอะไรสักคำ หรืิอไม่อร่อยแต่ไม่กล้าบอกวะ? ผมก็ไม่ถามให้ช้ำใจดีกว่าลงมือกินของตัวเองบ้าง กินเสร็จผมเป็นคนจ่ายเพราะผมเป็นคนชวนน้องมาตอนแรกคิงก็แย้งจะจ่ายให้แต่เพระไม่ได้พกกระเป๋าตังค์มาเลยได้แต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่คนเดียว จ่ายเสร็จผมก็ชวนน้องเดินกลับคอนโดผ่านป้อมยามเจอลุงชัยก็ทักทายแกไปจนเรามาถึงลิฟท์
"ครั้งหน้าผมจะเลี้ยงพี่" อยู่ดีๆคิงก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ไม่เป็นไรน่า แค่ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวคิดอะไรมากห้ะ"
"ครั้งหน้าผมจะเลี้ยงพี่" ผมยิ้มและส่ายหน้าให้กับความดื้อที่ไม่คิดว่าจะเจอของคิงแล้วไม่ได้ตอบอะไรอีกจนกระทั่งลิฟท์เปิดที่ชั้นของผม
"พี่ไปก่อนนะ" ผมบอกลาคิงแล้วเดินออกมา แต่เดินออกมาสามสี่ก้าวก็ต้องหันกลับไปอีกรอบ
"ตามพี่ออกมา มีอะไรหรือเปล่า"
"พี่...มีแฟนยัง" อะ อะไรนะ ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหมครับ ให้ตายสิ! นี่มีใครมาเปิดเพลงอีดีเอ็มในหัวใจผมหรือเปล่า ทำไมมันเต้นแรงได้ขนาดนี้ ผมเงียบไปนานมากเพราะสติผมหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็ผ่านไปเกือบนาทีได้
"ยัง ยังไม่มี"
"ไลน์" โทรศัพท์เครื่องหรูรุ่นล่าสุดถูกยื่นมาตรงหน้าผมพร้อมคำพูดขยายความสั้นๆ ผมอึ้งไปแปบนึงก่อนจะดึงสติกลับมาแล้วรับโทรศัพท์มากดแอดไลน์ตัวเอง บ้าชิบ ไอ้มือนี่ล่ะก็! อย่าสั่นดิวะ! กดเสร็จผมก็ยื่นกลับไปให้คิงอีกคนก็รับไปแล้วยัดใส่กางเกง แล้วก็พูดว่า...
"ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก" วอท? อีกคนอาศัยจังหวะที่ผมคงจะยืนเหวอกับประโยคที่ไม่คิดว่าอีกคนจะเอามาพูดตอนนี้เดินกลับไปทรอลิฟท์
"อะ ฮ่ะ ฮ่ะ...5555555555555" ผมกลั้นขำไม่ได้แล้วครับ อยู่ดีๆมาบอกว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อยมากหลังจากที่มาขอไลน์คนอื่นเขา ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อนเลย คนที่พึ่งเดินไปพอเห็นผมหัวเราะออกมาพอดีกับที่ลิฟท์มาพอดีก็รีบเดินเข้าไปในลิฟท์อย่างไว แต่ผมรีบเดินไปกดลิฟท์ให้เปิดก่อนที่มันจะปิดลง คนข้างในเบิกตาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ผมยปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วพูดออกไป
"จริงๆวันนี้...ก๋วยเตี๋ยวของพี่ก็อร่อยกว่าทุกวันเหมือนกัน"
"..."
"
น่าจะเพราะได้กินกับคิงล่ะมั้ง"
ผมถอยออกมาแล้วปล่อยให้ลิฟท์ปิดลง ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือหน้าแดงๆของคนด้านใน...
เหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายทำผมอารมณ์ดีไปทั้งวัน ตอนนี้ผมยังนั่งยิ้มเป็นคนบ้าอยู่เลยครับ พอนึกถึงทีไรมันก็อยากจะกระโดดเข้าไปฟัดอีกคนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เอ๊ะ เดี๋ยวนะ สถานการณ์ตอนนี้มันค่อนข้างเอนเอียงมาทางผมใช่ป่ะวะ เรื่องของผมกับคิงมีโอกาสเป็นไปได้สินะ แล้วที่อยู่ๆอีกคนมาถามผมว่ามีแฟนหรือยังแถมยังขอไลน์ผมอีกแสดงว่าคิงก็อาจจะ...สนใจผม
.
.
.
.
มันจะไปใช่ได้ยังไงล่ะ! แต่ถ้าไม่ใช่แล้วจะถามเรื่องแฟนทำไมอ่ะ งั้นมันก็ต้องใช่อ่ะดิ! แต่ว่าคิงไม่เคยสนใจผู้ชายมาก่อนนี่นาแถมรอบตัวเขาก็มีแต่ผู้หญิงสวยๆทั้งนั้นแล้วเขาจะมาสนใจผู้ชายอย่างผมได้ยังไง เฮ้ออออออ
.
.
.
แต่คิงเขาขอไลน์ผมด้วยนะ! หรือว่าแค่รู้จักกันแบบพี่น้องเฉยๆเลยขอไว้เผื่อปรึกษาอะไรไม่ได้ขอไว้คุยหรอกสินะ นี่ผมมโนไปเองทั้งหมดเลยใช่ไหมเนี่ยยยยยยย ในหัวของผมตอนนี้มีแต่เรื่องของเด็กหน้าตายเต็มไปหมด พอ เลิกคิดได้แล้ว จะเป็นยังไงก็ปล่อยมัน ผมกระโดดขึ้นเตียงเลิกฟุ้งซ่านสักที ผมหยิบโทรศัพท์มาตั้งนาฬิกาปลุกเสร็จแล้วก็ปิดไฟแล้วหลับตาลง
.
.
.
.
สรุปคิงจะชอบผมหรือเปล่าวะ! ผมพลิกตัวซ้ายก้แล้วพลิกขวาก็แล้วแต่ผมก็ยังนอนไม่หลับสักที มัวแต่คิดวนไปมาอยู่แต่เรื่องนี้นั่นแหละ
ติ๊ง ติ๊ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมเลยเอื้อมไปหยิบมาดูแต่พอเห็นแจ้งเตือนบนหน้าจอเท่านั้นผมก็เด้งลุกขึ้นมานั่งก่อนจะอ่านชื่อคนส่งอีกรอบเพื่อความชัวร์
King : พี่ควินผมปลดล็อคหน้าจอแล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
Q : ครับ
King : นอนยังQ : ยังๆ มีอะไรอ่อ
แต่พอผมตอบกลับไปอีกคนก็เงียบไปเลย หายไปไหนน่ะ ผมอยู่เกือบห้านาทีจนส่งข้อความไปอีก
Q : ยังอยู่ไหม
King : อยู่Q : อ้าว เห็นเงียบไปเลย
Q : แล้วมีอะไรป่าว?
King : ฝันดีครับฝันดี แค่นี้อ่ะนะ ผมถอนหายใจทิ้งความรู้สึกเสียดายเล็กๆไปแล้วแชทต่อ
Q : ฝันดีเหมือนกันครับ
อีกฝ่ายอ่านแล้วแต่ยังไม่ตอบกลับมา ผมรออีกคนตอบอีกแปบนึงแต่ก็เงียบกริบ ผมเลยตัดใจล็อคหน้าจอแล้ววางลงข้างเตียงแล้วล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม เอาเถอะ แค่มาถึงตอนนี้ได้มันก็เกินกว่าที่เขาคาดไว้แล้ว
ติ๊ง ติ๊ง
ผ่านไปอีกเกือบห้านาทีก็มีแจ้งเตือนเข้าอีก ผมรีบคว้าโทรศัพท์มาขึ้นดูจากนั้นถึงกับต้องยกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้
King : ผมคุยกับพี่ได้มั้ย
หมายความว่าคุยกันแบบนั้นหรือเปล่าหรือแค่คุยกันธรรมดา นี่ถ้ามาให้ความหวังกันเล่นๆผมจะวิ่งขึ้นไปเคาะประตูเรียกออกมาต่อยเลยนะ
Q : คุยนี่คือยังไงอ่อ
.
.
.
.
.
King : จีบนะครับ
จีบนะครับ
จีบนะครับ
จีบนะครับ
จีบนะครับ
จีบนะครับ
จีบนะครับ
เหมือนผมโดนน็อคกลางอากาศโดยข้อความที่อีกคนส่งมา ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยิ้มกว้างแค่ไหนแต่ตอนนี้บอกเลยถ้าผมกรี๊ดเป็นผมกรี๊ดไปแล้วครับแต่เพราะทำไม่เป็นตอนนี้ผมเลยได้แค่คว้าหมอนมากอดแล้วซุกหน้าลงไปถูแรงๆ เดี๋ยว ใจเย็นไว้ควิน ใจเย็น เย็น เย็น...เย็นได้ก็บ้าแล้ว!!! ฮือออออออออออ โว้ยยยยยยยยยยย ไอ้ควิน ตั้งสติไว้ อย่าพึ่งโวยวาย สติมา สติมา สติ สติ สติไปไหนแล้ว!!! โอ้ย นี่ถ้าตอนนี้มีใครมาเจอผมเขาจะต้องหาว่าผมเป็นบ้าแน่ๆ แต่จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับตอนนี้ ผมนั่งหายใจเข้าออกเรียกสมาธิหยิบโทรศัพท์ที่เมื่อกี๊เผลอโยนไปขึ้นมา กว่าจะกดพิมพ์แต่ละตัวได้แสนจะยากเย็นเพราะมือไม้ผมตอนนี้มันสั่นไปหมด พอผมกดส่งไปก็ขึ้นว่าอ่านแล้วทันทีเหมือนอีกคนรอคำตอบอยู่ตลอดหลังจากนั้นอีกคนก็ไม่ส่งอะไรกลับมาอีกผมเองก็ไม่อยากให้คิงตอบอะไรกลับมาอีกแล้วเพราะแค่นี้ผมก็แทบจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วครับ คืนนี้ไม่รู้จะนอนหลับหรือเปล่า พรุ่งนี้ถ้าเจอคิงจะทำหน้ายังไงก็ไม่รู้ ผมยิ้มคนเดียวเป็นบ้าเป็นหลัง หยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่านแชทซ้ำไปมาบทสนทนาที่คุยวันนี้ผมแคปไว้หมดแล้วครับ 5555555555 ข้อความแรกคือข้อความที่คิงทักมาส่วนข้อความสุดท้ายเป็นข้อความตอบกลับของผมเอง พอมาอ่านที่ตัวเองพิมพ์แล้วก็หน้าร้อนขึ้นมาไม่รู้ว่าเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้ตอบกลับไปแบบนี้ได้นะเรา
Q : จีบมาจีบกลับ พี่ไม่โกงนะครับ
ตอนนี้ผมกำลังเดินมาที่ลานจอดรถด้วยสภาพอิดโรยอ่อนแรงอย่างถึงที่สุด เพราะอะไรน่ะหรอครับ ไม่ต้องสงสัยเลยก็ลองมาเป็นผมดูสิใครจะข่มตาหลับลงได้ล่ะครับ เช้านี้ผมเลยมีสภาพเป็นซอมบี้แบบนี้แล้วถ้าจะให้ไปเบียดกับคนบนรถประจำทางก็ไม่ไหววันนี้เลยขอขับรถไปเองวันนึงแล้วกัน เดินอยู่ดีๆก็มีแรงปริศนามาดึงแขนผมด้วยความที่ผมไม่ได้ตั้งตัวเลยหันไปกระแทกเข้ากับใครบางคนเข้า
"โอ๊ย อะไรวะเนี่ย"
"ขอโทษครับ" เสียงคุ้นๆเหมือนว่าจะใช่และพอหันไปมองก็...ใช่จริงด้วย
"คิง เอ่อ ไม่เป็นไร" ผมพยายามทำหน้าให้ปกติไม่ยิ้มมากจนเกินงามแต่ทำไมมันยากจังงง
"พี่จะไปม.ใช่มั้ย"
"ครับ"
"ไปส่ง"
"คือจะไปส่งพี่อ่ะหรอ"
"..."คิงพยักหน้าตอบส่วนผมกำลังรวบรวมสติอยู่
"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ขับรถไปเองก็ได้" คิงไม่ฟังที่ผมพูดสักนิดจับข้อมือผมแล้วพาเดินไปอีกทาง
"เห้ย จะไปไหน"
"ไปส่ง"
"ก็บอกว่าไม่เป็นไร" เหมือนผมพูดกับลม คิงพาผมเดินมาถึงรถของตัวเองแล้วถึงจะยอมหันมาคุยกับผม
"เรานี่นะ พี่่บะ-"
"จีบ" ผมไม่สามารถหุบยิ้มได้อีกต่อไป จีบ คนอะไรจีบคนอื่นด้วยการบังคับไปส่ง หึ
"ไปสิ" เอาวะ จีบก็จีบ! อีกคนปลดล็อคให้ผมก้าวขึ้นมานั่งบนบีเอ็มคันหรู คิงก็ยังคงเงียบไปตลอดทางท่าทีไม่ได้เปลี่ยนตรงไหนไปสักนิดเดียว สรุปคือทุกอย่างเหมือนเดิมผมตื่นเต้นไปเองคนเดียวสินะ ผมนี่บ้าจัง
"กินอะไรยัง" ผมถามสารถีข้างๆ
"ยัง"
"รีบหรือเปล่า"
"ไม่"
"งั้นแวะกินอะไรกันก่อนมั้ย พี่หิวอ่ะ"
"พี่จะกินอะไร" คิงหันมาถามตอนที่รถติดไฟแดงพอดี
"เราอยากกินอะ-"
"บอกว่าคิงไง" คิงบอกพลางขมวดคิ้วขัดใจเหมือนเด็กเลยอ่ะ เอ็นดูวววววววว
"แล้วคิงอยากกินอะไรล่ะ" ผมยิ้มให้อีกคนแล้วถามกลับไป
"กินอะไรก็ได้ที่พี่อยากกิน" พอดีกับไฟเขียวคิงเลยหันกลับไปขับรถต่อแต่ผมนี่สิแข็งค้างเป็นหินไปแล้วครับ ฮือ
"งั้นคิงชอบกินอะไร"
"อะไรก็ได้ที่พี่ทำ" โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! ควินจะไม่ทนกับคนแบบนี้!
"เด็กบ้า" อีกคนหันมากระตุกยิ้มกระชากใจให้ผมใจสั่นไปอีก
"งั้นกินร้านแถวม.ก็ได้"
"ร้านไหนอ่ะ"
"แล้วแต่คิงเลย" คิงอมยิ้มโดยไม่ได้หันมาหาผม ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจนคิงขับมาแวะร้านข้าวมันไก่แถวม. ผมกับคิงเดินลงจากรถไปก็เจอเข้ากับสายตานักศึกษาหลายสิบคู่ที่นั่งอยู่ในร้านที่มองมาที่เราทั้งคู่เป็นตาเดียว
ฟัค! นี่ผมลืมไปได้ยังไงว่าผมมากับใคร แค่ตัวผมก็มีคนรู้จักอยู่ไม่ใช่น้อยแล้ววันนี้ผมดันมากับผู้ชายที่คนแทบทั้งมหาลัยให้ความสนใจอย่างคิงแถมลงมาจากรถคันเดียวกันอีก คนอื่นจะคิดยังไงกันวะเนี่ยแต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง คนอื่นคงมองเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องนั่นแหละครับ ผมว่านะ
"คิงกินอะไรเดี๋ยวพี่ไปสั่งให้ แล้วคิงก็ไปหาโต๊ะนั่งก่อนละกัน"
"เอาเหมือนพี่" พูดจบก็เดินไปเลยครับ นี่ถ้าคนไม่เยอะขนาดนี้ผมอยากจะตะโกนว่าน่ารักออกมาให้ลั่นร้าน ผมสั่งข้าวมันไก่ผสมพิเศษไปสองจาน ไม่รู้ว่าคิงชอบกินอะไรเลยสั่งผสมไปดีกว่า สั่งเสร็จก็ตักน้ำที่เขาให้บริการตัวเองมาสองแก้ว
"พี่ควินสวัสดีค่ะ"
"ครับ"
"หวัดดีครับพี่ควิน"
"ครับ" มีรุ่นน้องทักผมสองสามคนผมก็ยิ้มแล้วตอบกลับไปพอเดินมาถึงโต๊ะผมนั่งลงตรงข้ามกับคิง โต๊ะที่เรานั่งอยู่ตรงกลางร้านพอดีเพราะโต๊ะรอบๆมีคนนั่งหมดแล้ว
"ใคร" คิงถาม
"ใคร? คือใคร"
"ที่ทักพี่เมื่อกี๊"
"อ๋อ รุ่นน้องในคณะพี่เอง รู้จักกัน"
"ผมก็มีรุ่นน้อง ไม่เห็นต้องมีใครทักแบบพี่เลย" คิงพูดหน้าตาติดจะดุขึ้นมาหน่อย โถ นี่อิจฉาที่ตัวเองไม่มีรุ่นน้องทักบ้างหรอเนี่ย
"อิจฉาพี่หรออ ก็นะ คนมันฮอตก็งี้"
"ใช่ที่ไหนกันล่ะ"
"หรอออออออจ๊ะ"
"ไม่ได้อิจฉาแค่ไม่อยากให้ใครทักพี่ไม่อยากให้พี่ยิ้มให้ใคร" ผมตายได้ไหมครับ
"หูยยย พูดยาวๆแบบนี้ก็ได้หรอเนี่ย" ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้ตรงนี้ เผื่อโต๊ะอื่นได้ยินเข้าจะเป็นประเด็นเอาได้
"ตลกละ"
"หึหึ เด็ก"
"ไม่เด็ก" หน้าของคนตรงหน้าดูดุขึ้นทุกทียิ่งบอกว่าเด็กยิ่งเหมือนอีกคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่กลับกันเพราะมันทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นไปอีก 5555555555 ทำไมผมนิสัยไม่ดีล่ะเนี่ย
"เด็ก"
"ไม่ เด็ก"
"เด็กน้อยยยยยยย"
"..." เงียบ
"เด็ก"
"..." เงียบจริงเลยแฮะ
"อะไรรรร แค่นี้เงียบใส่พี่เลยอ่อ"
"..." คิงละสายตาจากหน้าผมหันไปเอาโทรศัพท์มากดแทน
"อ้าว เมินเฉยเลย"
"..."
"คิง"
"..."
"อย่าบอกนะว่าาาา...งอนพี่"
"..." คิงขมวดคิ้วเหลือบตาขึ้นมามองผมเหมือนไปจี้ใจดำเขา
"งอนแน่เลย"
"เปล่า"
"จริงอ่ะ"
"อืม"
"งั้นมองหน้าพี่"
"..." โห สาบานว่านี่ไม่งอน แถวบ้านนี่ไม่ได้เรียกมองนะครับสายตาแบบนี้เรียบกอาฆาตเลยก็ว่าได้ ผมยิ้มหวานใส่อีกคนจนสีหน้าของคิงเริ่มเปลี่ยนเป็นปกติ อาแปะเอาข้าวมันไก่มาเสิร์ฟพอดีเราก็ลงมือกินกันไปเงียบๆ กินเสร็จคิงก็เดินไปจ่ายตังค์พอผมจะท้วงคิงก็เถียงกลับมาว่ารอบนี้จะจ่ายเอง ผมก็ไม่อยากจะขัดใจอะไรคิงเลยปล่อยไป เราเดินกลับมาขึ้นรถท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทั้งร้านเหมือนเดิม
"ส่งพี่แถวๆคณะก็ได้ไม่ต้องเข้าไปถึงข้างในหรอก จะได้ไม่ต้องวนรถอกมาอีก"
"ไม่เป็นไร"
"เค ว่าแต่เด็กน้อยเลิกงอนพี่แล้วใช่ป่ะ"
"พี่ควิน"
"โอเค๊ ไม่แซวละ" อยู่ดีๆคิงก็เหยียบเบรกจนผมแทบจะพุ่งไปข้างหน้า
"เบรกทำไมเนี่ย " คิงไม่ตอบอะไรแต่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมถอยตัวติดเบาะลงเรื่อยๆ
"อะ อะไร"
"อยากรู้มั้ยล่ะพี่ควิน...ว่าผมเด็กอย่างที่พี่ว่าหรือเปล่า"
คิงพูดทั้งที่ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ใจของผมเต้นแรงจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน พอเห็นผมเหวอไปอีกคนก็ยิ้มออกมา ยิ้มของคนตรงหน้าที่ผมเพิ่งจะเคยเห็นชัดๆเป็นครั้งแรก รอยยิ้มของคิงทำให้คิงดูน่าหลงใหลมากไปกว่าเดิม ผมเหมือนถูกสาปให้มองภาพนี้โดยไม่ละสายตาไปไหน กว่าจะรู้ตัวใบหน้าของอีกคนก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที ริมฝีปากของอีกคนทาบทับมาที่ริมฝีปากของผมโดยไม่ทันตั้งตัว คิงไม่ได้รุกล้ำอะไรเข้ามาอีกฝ่ายทำแค่กดจูบค้างไว้แบบนั้น จะผิดไหมถ้าผมเองก็ไม่ได้คิดจะผลักไสอีกคนออกไปเลยแม้แต่น้อยแล้วจะผิดไหมถ้าผมบอกว่าผมต้องการมากกว่านี้ คิงผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เราจ้องตากันและกันเหมือนมีอะไรดึงดูดไว้แบบนั้น
"จองไว้แล้วนะครับ" ผมพยักหน้าตอบเหมือนคนละเมอคิงส่งยิ้มมาให้อีกครั้งก่อนจะออกรถไปต่อ ตลอดทางผมตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองก่อนที่จะถูกคิงเรียกสติกลับมา
"ถึงแล้วครับพี่ควิน"
"ห้ะ! อ๋อ เอ่องั้นพี่ไปนะ" ผมลงมาจากรถเสร็จสับก็กำลังจะหันหลังเดินเข้าคณะแต่เดินยังไม่ทันถึงสองก้าวก็ได้ยินเสียงคนในรถเรียกไว้ ผมหันไปมองก็เห็นว่าคิงเปิดกระจกลงมาเลยเลิกคิ้วถามอีกฝ่ายงงๆ
"อย่ายิ้มให้รุ่นน้องบ่อยนะพี่ควิน"
"..."
"
คิงหวง"
ไม่รู้ว่าอีกคนขับรถไปตอนไหน ไม่รู้ว่าผมพาร่างตัวเองมายังโต๊ะที่เพื่อนรออยู่ได้ยังไง ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนอยู่ตอนนี้ แต่ที่ผมรู้แน่ๆเลยตอนนี้...คือผมถอนตัวจากคิงไม่ได้อีกแล้ว
______________________________________________
ฮัลโหลลลลลลลลลลลล รอนานกันมั้ยคะทุกคน นี่เค้าพยายามปั่นสุดแล้วนะ5555555555555555555555
อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย หวังว่าทุกคนจะสนุกน้าา แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ชอบที่เมนต์ที่ให้กำลังใจนะคะ รักทุกคนนน <3