Photo(4)
ทัพยกยิ้มกว้างทันทีเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วเห็นรูมเมทนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างที่บอกกับเขาในแชตก่อนหน้านี้ วันนี้เพ้นท์มีควิซช่วงเช้า สอบเสร็จเลยกลับห้องมานอนเพราะเมื่อคืนอ่านหนังสือจนดึกดื่น แม้ตอนนี้จะบ่ายสามแล้วก็ยังหลับลึกได้อย่างที่เห็น
ม่านตรงหน้าต่างปลายเตียงถูกเปิดแทนการเปิดไฟเพราะกลัวจะทำให้คนหลับตื่น บนชั้นวางมีกล่องข้าวที่น่าจะยังไม่ถูกเปิดกินวางอยู่ คาดว่าวางของได้เพ้นท์คงกระโดดขึ้นเตียงทันที รีบชนิดที่ว่าเข็มขัดกับถุงเท้ายังไม่ได้ถอดออก
พอเห็นแบบนี้แล้วความไม่ดีก็เริ่มผุดเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่ได้
ทัพเดินผ่านเตียงตัวเองไปนั่งลงบนเตียงของรูมเมท มองคนหลับลึกที่ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ไหนจะท่าทางการนอนที่ชวนให้คิดไม่ดี เหมือนมีความยั่วยวนเป็นพรสวรรค์ ทั้งที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบแท้ๆ
"เพ้นท์" ทัพลองเอ่ยเรียกด้วยระดับเสียงปกติเผื่อจะตื่น หากนับจากเวลาที่กลับมาถึงห้องเพ้นท์น่าจะนอนมาแล้วสองชั่วโมง เห็นเครื่องแต่งกายยังครบชุดเขาเลยตั้งใจจะช่วยถอดเข็มขัดกับถุงเท้าให้ หรือไม่ก็เปลี่ยนชุดให้ไปเลย แต่ไม่อยากทำให้คนหลับตกใจตื่นแล้วโวยวายลั่นห้อง
เสียงงึมงำตอบรับกลับมาเบาๆ คล้ายกับรับรู้การมา เพ้นท์เปลี่ยนจากนอนตะแคงมานอนหงายแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดตา สรุปว่าก็ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ดีว่าเจ้าของห้องอีกคนกลับมาแล้ว
เมื่อลองเรียกแล้วไม่ตื่นทัพก็ไม่สนใจอีกต่อไป เขาลงมือปลดเข็มขัดออกเป็นอย่างแรก ค่อยๆ ดึงสายให้รูดออกแต่เพราะโดนนอนทับไว้อยู่ทุกอย่างเลยไม่ง่ายดายนัก แต่คนหลับลึกอย่างเพ้นท์แค่ช่วยยกตัวขึ้นนิดหน่อยคงไม่ตื่นง่ายๆ
ทัพช้อนตัวคนหลับขึ้นเล็กน้อยค่อยๆ ดึงเส้นเข็มขัดออกแล้วโยนไว้ข้างเตียง เพ้นท์บิดตัวเบาๆ ทำเสียงงอแงตามประสาคนโดนกวนตอนนอน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี
ถัดจากเข้มขัดก็ตามด้วยถุงเท้า ทัพถอดมันออกอย่างง่ายดายภายในเวลาไม่ถึงสองนาที พอเห็นแบบนั้นสายตาก็เล็งไปยังเป้าหมายต่อไปซึ่งก็คือกางเกง
ใส่กางเกงนักศึกษานอนแบนี้มันไม่สบายตัวนักหรอก
จากที่นั่งอยู่ข้างเตียงทัพเปลี่ยนมานั่งคร่อมตัวคนหลับลึกที่ยังไม่รู้สึกตัวเอาไว้ มือปลดตะขอกางเกงดึงเสื้อนักศึกษาที่ยัดไว้ออกอย่างเบามือ เป็นคนที่แต่งตัวถูกระเบียบเรียบร้อยจนอยากยกให้เป็นนักศึกษาตัวอย่างจริงๆ
เพราะรูปร่างและขนาดตัวที่คล้ายคลึงกับนายแบบวาบหวิวคนนั้น มักทำให้ทัพเห็นภาพของสองคนนี้ซ้อนทับกันอยู่บ่อยครั้ง เขารู้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่เห็นจนชินตาทำให้เผลอคิดมากไป อีกอย่างคนที่ดูขี้อายอย่างเพ้นท์จะกล้าเปลื้องผ้าโพสต์ท่าชวนให้เกิดอารมณ์แบบนั้นได้งั้นเหรอ แม้รู้ว่ายากที่จะเป็นไปได้แต่เขาก็ยังอยากพิสูจน์ให้หายคาใจอยู่ดี
ความคล้ายที่เหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน ระหว่างนายแบบคนนั้น กับรูมเมทของเขา
หากจำไม่ผิดจุดแรกที่ทำให้ทัพสงสัยคือขี้แมลงที่ต้นคอ นายแบบคนนั้นมี เพ้นท์เองก็มี จุดที่สองคือไฝที่หลังด้านซ้ายใกล้กับสีข้าง ส่วนจุดอื่นจะเป็นที่รูปร่าง ทั้งช่วงเอวและเรียวขา แม้จะรู้ว่ารูปภาพเหล่านั้นผ่านการปรับแต่งมาแล้ว หรือบางทีนายแบบคนนั้นอาจจะไม่ได้หุ่นดีอย่างในรูปก็ได้ แต่พอมองแล้วมันก็ยังมีส่วนคล้ายกันมากอยู่ดี
เมื่อดึงเสื้อออกจากกางเกงได้ผิวขาวกับหน้าท้องแบนๆ ก็ปรากฏให้เห็น ทัพใช้สองมือจับที่เอวคนหลับโดยไม่ทันคิด สมองเผลอสั่งการไปเองเพราะเห็นสิ่งยั่วยวนสายตาอยู่ตรงหน้า และการก่อกวนครั้งนี้ก็ทำให้คนหลับลึกตื่นขึ้นมาจนได้
เพ้นท์ลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงียเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างหนักๆ ทับอยู่บนตัว มันทำให้เขาฝันร้ายว่ากำลังโดนผีอำ จนเมื่อลืมตามองจนเต็มตาถึงได้รู้ว่าไอ้ผีร้ายที่ทำเขาฝันไม่ดีคือรูมเมทจอมกวนประสาทนี่เอง
"ไอ้ทัพ! เล่นอะไรของมึงเนี่ย!" เพ้นท์ร้องเสียงดังลั่น ดิ้นอย่างแรงพร้อมกับขาเตะไปมากลางอากาศหวังให้หลุดจากผีร้ายที่กำลังคุมคามเขาอยู่
"มึงจะดิ้นทำไมเนี่ย หยุดก่อน" ทัพรีบจับข้อมือทั้งสองข้างของเพ้นท์ไว้แล้วกดลงกับเตียงก่อนจะโดนต่อยคว่ำ เหลือแต่ขาที่ยังตีไปมาไม่หยุด
"มึงนั่นแหละเล่นอะไร ออกไปนะเว้ย! ไอ้เหี้ย! ไอ้โรคจิต! มึงเป็นคนแบบนี้เหรอทัพ"
"ไปกันใหญ่แล้ว กูแค่ถอดเข็มขัดให้กลัวมึงนอนไม่สบาย"
"ไม่ต้องมาโกหก"
"แล้วมึงคิดว่ากูจะทำไร"
คำถามนี้ได้ผลเมื่อเพ้นท์หยุดดิ้นและหยุดโวยวาย เขาจ้องหน้ารูมเมทจอมกวนประสาทเขม็ง ในหัวมีแต่ความคิดไม่ดีเต็มไปหมด ตื่นมาแล้วเจอคนนั่งคร่อมตัวเองแถมเสื้อยังถูกเปิดจนเห็นพุงแบบนี้จะให้คิดว่ายังไง เชื่อว่าช่วยถอดเข็มขัดอย่างที่บอกเหรอ ถ้าเชื่อแบบนั้นก็กินหญ้าแทนข้าวได้เลย
"มึงแกล้งกู"
"แกล้งยังไงขอรายละเอียด"
"ยังต้องให้กูพูดอีกเหรอทัพ มันชักจะหนักเกินไปแล้วนะ"
"หนักอะไรวะ หมายถึงน้ำหนักตัวกูใช่มั้ย"
"กวนตีนแล้วทัพ"
"กูยังไม่ได้ทำอะไรมึงเลย"
"มึงเปิดเสื้อกู จับพุงกูด้วย"
"โอเค ยอมรับว่าจับพุง มันเผลอ แต่กูไม่ได้มีเจตนาไม่ดี"
"เชื่อก็โง่"
"กูพูดจริงๆ"
"ปล่อยกูเลย เดี๋ยวนี้!"
ทัพยอมปล่อยมือคนใต้ร่างแล้วลุกออกจากตัวแต่โดยดี เพ้นท์รีบลุกขึ้นนั่ง จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มองทัพด้วยแววตาขุ่นเคืองปนหวาดระแวง การกระทำของรูมเมทตัวโตในครั้งนี้ทำให้เขาชักกลัวขึ้นมาจริงๆ
"อย่ามองแบบนั้น กูขอโทษ โอเค ยอมรับว่าจริงๆ ก็อยากแกล้งเล่น แต่กูก็ตั้งใจถอดเข็มขัดกับถุงเท้าให้นะ เพราะกลัวมึงนอนไม่สบาย เชื่อหน่อยดิ"
"ช่วงนี้มึงแกล้งแรงไปนะทัพ เป็นเหี้ยอะไรกับกูนักหนาวะ" เพ้นท์ถามเสียงสั่น ใจคนระแวงยิ่งถูกต้อนก็ยิ่งระแวงหนัก เขาไม่เข้าใจพฤติกรรมของทัพ แถมในหัวยังนึกถึงแต่เรื่องไม่ดี
"เพ้นท์ กูขอโทษ ไม่งอนแบบนี้ดิ" ทัพนั่งลงข้างเตียงพยายามจะปลอบคนขวัญเสียแต่เพ้นท์กลับขยับหนี ทำเอาใจที่ฮึกเหิมก่อนหน้านี้หดเหลือนิดเดียว
"กูไม่ได้งอน"
"ขอโทษที่ทำมึงตกใจ อย่าคิดมากดิ คนอย่างกูไม่มีวันทำร้ายมึงหรอกเพ้นท์"
เพ้นท์นั่งฟังอยู่เงียบๆ ไม่ปฏิเสธหรือตอบรับ สายตาทัพตอนนี้บอกให้เขามั่นใจอยู่แล้วว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง แต่สายตาตอนที่แกล้งกันก็บอกให้เขาต้องระวังตัวอย่างมากเช่นกัน คนอย่างทัพน่ะไม่ทำร้ายเขาหรอก ปกติก็แกล้งกันแบบนี้ แต่ทุกอย่างที่ทำให้เขารู้สึกกลัวเป็นเพราะระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผยแค่นั้น
ระแวงจนกลัวไปเอง
"ทีนี้จะเลิกงอนกูได้ยัง"
"ก็บอกว่ากูไม่ได้งอน"
"โอเค ไม่ได้งอนก็ไม่ได้งอน กูเห็นมึงซื้อข้าวมาแต่ยังไม่ได้กิน ข้าวเที่ยงใช่มั้ยกล่องนั้น" ทัพพาเปลี่ยนเรื่อง พยักพเยิดไปยังกล่องข้าวบนชั้นวางข้างหน้าต่าง
"อืม"
"หิวหรือยัง"
"อืม"
"งั้นลุกไปล้างหน้าล้างตาไป ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกัน เดี๋ยวกูเลี้ยงปลอบขวัญเอง"
เพ้นท์ยังนั่งนิ่งไม่ยอมขยับจนทัพเผลอถอนใจ เลยทำเป็นขยับเข้าไปใกล้กะว่าจะอุ้มเข้าห้องน้ำให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยถ้ายังเล่นตัวไม่ยอมลุก แน่นอนว่าวิธีนี้ได้ผล
สายตาเคืองๆ ยังมองมาไม่เลิกขณะที่ก้าวลุกออกจากเตียงหลบการโจมตีของรูมเมทตัวโตได้พอดี เพ้นท์ก้าวเร็วๆ เข้าห้องน้ำโดยไม่หันกลับมามองอีกคนที่ล้มตัวนอนยึดเตียงเขาไปแล้วเรียบร้อย
ทัพนอนยิ้มมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท ไม่เชิงว่ามีความสุขแต่ก็รู้สึกดีกว่าตอนที่เห็นเพ้นท์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่ เขารู้ว่าเพ้นท์ไม่ชอบให้แกล้งแรงๆ ไม่ชอบให้ทำตัวเกินเลยใส่มากไป แต่ถ้ายังตอบคำถามในใจไม่ได้เขาก็สัญญากับตัวเองไม่ได้ว่าจะเลิกแกล้งคนคนนี้ได้เมื่อไรเช่นกัน
บางทีอาจจะต้องแกล้ง ต้องโกรธ ต้องง้อกันตลอดไปเลยก็ได้
"เอฟ มึงไม่ตอบไลน์กู" ทันทีที่เจอหน้าเพื่อนรักใต้ตึกคณะเพ้นท์ก็รีบสาวเท้าเข้าไปหา วางกระเป๋าลงบนโต๊ะดังตึง ปากว่าหน้าง้ำหน้างอ จนเอฟต้องวางมือจากข้าวเหนียวหมูปิ้งแล้วทำมือให้เพื่อนใจเย็น
"เบาๆ ก็ได้มึง เมื่อคืนกูเหนื่อยเลยหลับตั้งแต่สี่ทุ่ม ขอโทษที่ไม่ได้ตอบ แต่กูอ่านหมดแล้ว"
"อ่านแล้วทำไมไม่ตอบ"
"เพิ่งอ่านก่อนมึงมาถึงสองนาที กูรู้ว่าเดี๋ยวมึงก็มาเลยไว้คุยทีเดียว แล้วนี่กินอะไรมายัง"
"ยัง"
"อ่ะกินก่อน กูซื้อมาฝาก" เอฟดันหมูปิ้งสามไม้กับข้าวเหนียวอีกห่อมาตรงหน้าเพ้นท์ ทำตัวเป็นเพื่อนแสนดีแต่เพื่อนสนิทอย่างเพ้นท์มีหรือจะไม่รู้ทัน
"เหลือก็บอก"
"จะกินไม่กิน"
"กิน"
"เออ กินๆ ไป ข้าวเช้าไม่ค่อยจะกิน"
เพ้นท์มองค้อนแบบที่ชอบทำเวลาโดนแหย่ให้หงุดหงิด เขาหยิบหมูปิ้งกับข้าวเหนียวที่เพื่อนสนิทโม้ว่าซื้อมาฝากขึ้นมากิน เผื่อของกินจะช่วยดับเรื่องที่กำลังร้อนใจได้บ้าง
"แล้วที่มึงบอกว่าไอ้ทัพแปลกไปนี่ยังไง"
"กินไปเล่าไปจะติดคอตายมั้ยวะ"
"งั้นก็ตายๆ ไปเถอะ"
"เอฟ มึงก็ไม่เล่นกับกูหน่อย พยายามทำให้มันไม่เครียดอยู่เนี่ย"
"เครียดเพราะมึงคิดไปเองอ่ะดิ"
"ก็ส่วนหนึ่ง แต่ทัพมันแปลกไปจริงๆ นะ"
"ปกติมันก็ชอบลวนลามมึงอยู่แล้วป้ะวะ"
"มันไม่เหมือนกัน"
"อ่ะยังไง เล่ามา" เอฟวางแขนเท้าไว้กับโต๊ะเหมือนท่ากอดอกทำหน้าตั้งใจฟัง
"จะเล่ายังไงดีวะ คือมันก็ชอบแกล้งกูนั่นแหละ แต่เดี๋ยวนี้มันแกล้งไม่เหมือนเดิม"
"แล้วมันไม่เหมือนเดิมยังไงเล่า พูดวนแบบนี้กูจะเข้าใจมึงมั้ย"
ยิ่งโดนจี้เพ้นท์ยิ่งกดดัน อยากเล่าอยากระบายแต่พอนึกถึงกลับรู้สึกอายเสียอย่างนั้น ปกติโดนแกล้งแบบถึงเนื้อถึงตัวบ่อยอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ทัพชอบถึงเนื้อถึงตัวแบบถึงเนื้อจริงๆ เนื้อที่หมายถึงผิวกายไม่ผ่านเสื้อผ้า
"มันชอบมาเปิดเสื้อ แล้วก็จับโดนเนื้อกูเลยอ่ะมึง"
"กูก็เห็นมันจับมึงปกตินะ"
"ไม่ปกติเว้ย! ปกติมันจับก็จับผ่านเสื้อผ้า แต่เดี๋ยวนี้มันจับเนื้อกูจริงๆ เลย ชอบมองด้วย มองขามองคองี้ กูว่ามันไม่ปกติ"
"คนเขาชอบก็ต้องมองหรือเปล่าวะ"
"ชอบมึงสิ"
"ชอบกูก็เหี้ยแล้ว"
"ไอ้เอฟกูเครียด" เพ้นท์เริ่มเสียงสูง แทบจะยกมือทึ้งผมตัวเอง ถ้าเอฟยังไม่หยุดแย้งหยุดแหย่เขาอยู่แบบนี้
"ใจเย็นๆ ก่อนมั้ย" เอฟพยายามจะปลอบเพื่อนแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไรเพราะเพ้นท์เริ่มสติแตกเข้าไปทุกที
สำหรับเอฟจากที่ฟังเพื่อนเล่าแล้วพฤติกรรมทัพดูเปลี่ยนไปก็จริงแต่มันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครมองก็รู้ว่ารูมเมทคู่นี้ความสัมพันธ์ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา แล้วมันผิดตรงไหนที่ทัพมันจะอยากแตะเนื้อต้องตัวคนที่ชอบ เป็นเขาก็คงทำแบบนั้น
"มึงว่ามันจะยังสงสัยเรื่องนายแบบอยู่มั้ย มันชอบพูดบ่อยๆ ว่าคล้ายกู"
"ยังไม่เลิกกังวลเรื่องนี้อีกเหรอ"
"จะให้เลิกกังวลได้ไงวะ ถ้าที่มันทำอยู่คือกำลังจับพิรุธกูทำไงอ่ะ"
"ก็เพราะว่ามึงทำตัวมีพิรุธนี่แหละ กูว่ามึงคิดมาก มันใช่ว่าจะจับผิดกันได้ง่ายๆ ที่ไหน"
เพ้นท์ไม่เถียง สารภาพเลยว่าเขาตื่นตูมทุกครั้งที่ทัพมันทำท่าเหมือนจะรู้ว่านายแบบคนนั้นเป็นใคร แสดงตัวมีพิรุธทุกครั้งที่มันพูดว่าเขาเหมือนนายแบบคนนั้น แต่ทุกครั้งที่ถูกพูดใส่เขาก็พยายามเก็บอาการเต็มที่ ทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะนิ่งได้ บางทีก็นิ่งจนเหมือนจะสติแตก
"กูว่าทัพมันคงไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก มึงก็อย่าไปคล้อยตามมันมาก หรือไม่ถ้ามันแกล้งอีกมึงก็ถามไปเลยว่าแกล้งแบบนี้ทำไม เผื่อมันจะยอมรับออกมาตรงๆ"
"ยอมรับว่าคิดว่ากูเป็นนายแบบอ่ะนะ"
"อันนี้กูก็ไม่รู้" ยอมรับเรื่องนายแบบก็ส่วนหนึ่ง หรืออาจจะยอมรับความจริงอีกเรื่องอันนี้เอฟก็ไม่สามารถบอกได้
"เอฟ" เพ้นท์เริ่มทำหน้าง้ำหน้างอใส่อีกครั้ง
"เออน่า บอกแล้วไงว่าถ้าเกิดมันจับได้จริงๆ ให้รีบบอกกู เดี๋ยวจะช่วยหาทางออกเอง บางทีมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรก็ได้"
"มึงก็พูดได้ดิ"
"เออ กูก็พูดอยู่แบบนี้แหละ มันไม่มีอะไรหรอก รีบกินๆ เข้าไปหมูปิ้งน่ะ จะได้เวลาแล้ว" เอฟตัดบทสนทนาโดยการบอกให้เพ้นท์รีบกินหมูปิ้งที่ยังไม่หมดสักไม้เพราะมัวแต่คุย
เรื่องความลับของพวกเขานั้น ถึงแม้ทัพจะรู้แต่เอฟกลับมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางทำให้เลยเถิดจนเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลาย ดีไม่ดีอาจจะทำให้เพ้นท์ตัดสินใจเลือกทางเดินในอนาคตได้ด้วยซ้ำ ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกเขาจะสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ไปอีกนานเท่าไร อาจจะอีกหนึ่งปี ห้าปี หรือสิบปี แต่มันคงไม่ใช่ตลอดไป
FxxanPxx ทวีต
มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะในคลาสเรียนสั่นแรงจนจิวที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมามอง ทัพรีบคว้ามันมาเปิดดูเพราะเป็นแจ้งเตือนจากแอคเคาต์โปรด ถึงจะแปลกไปสักนิดที่วันนี้โพสต์ตอนกลางวันก็ตาม
"ไอ้ทัพ มึงดูรูปโป๊เหรอ" ความเร็วของทัพหรือจะสู้ความใส่ใจเพื่อนฝูงของจิว แม้เพื่อนจะแอบเปิดดูใต้โต๊ะก็ยังมองเห็นอยู่ดี
"เสือก"
"เขาเรียกใส่ใจ"
"ไม่ต้องมาใส่ใจกู"
"ขอเพื่อนดูด้วย"
"ไอ้จิว อาจารย์มอง"
จิวรีบหันกลับไปมองอาจารย์หน้าห้องเพื่อพบว่าโดนเพื่อนหลอก แถมทัพยังย้ายมือถือไปวางอีกฝั่งแล้วเรียบร้อย
"ขี้หวงว่ะ"
"ไม่ใช่เรื่องของมึง"
"เนี่ย แม่งก็เป็นแบบนี้ มีของดีอะไรไม่เคยบอกเพื่อน ดูรูปโป๊ยังเก็บไว้ดูคนเดียว โคตรน้อยใจ" จิวเป็นคนที่ตัดพ้อได้เสแสร้งที่สุดเท่าที่ทัพเคยเห็นมา ด้วยความรำคาญเพราะคงโดนตามตื้อไม่เลิกเลยยอมบอกออกไป
"แอฟแอนพี ไปหาเอา"
"อะไรวะงง"
ทัพทำหน้าเบื่อใส่คนตีหน้ามึน ก่อนเขียนชื่อแอคเคาต์ใส่สมุดเลคเชอร์ให้ดู
"ทวิตเตอร์ใช่มั้ย"
"เออ"
"ขอบคุณครับ เพื่อนใครน่ารักเหี้ยๆ"
"สัด" ถ้าไม่ติดว่ากำลังเรียนอยู่ทัพคงด่าออกเสียงแทนการทำปากมุบมิบไปแล้ว
ความสนใจในการเรียนของจิวเหือดหายไปพอๆ กับไอทีที่นั่งเท้าคางแอบงีบมาได้พักใหญ่ มือถือถูกหยิบขึ้นมาเข้าทวิตเตอร์ พิมพ์ชื่อแอคเคาต์ลงไปเมื่อหาเจอแล้วจิวก็ได้เข้าสู่ความตื่นตาตื่นใจแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"ไอ้เหี้ยทัพ มึงแม่งแอบดูของดีอยู่คนเดียว"
"ดูไป อย่าพูดมาก"
จิวยิ้มกว้างจนฟันหน้าครบทุกซี่ ก่อนก้มหน้าก้มตาดูรูปในแอคเคาต์ที่เพิ่งได้มา เริ่มจากรูปที่เพิ่งโพสต์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางกับเสื้อเชิ้ตสีขาวโพสต์ท่าโก่งโค้งอยู่บนเตียง ทั้งที่เสื้อผ้าช่วยปกปิดจุดซ่อนเร้นของร่างกายแต่มันกลับดูเซ็กซี่โดยธรรมชาติ ไหนจะรูปร่างของนายแบบที่ดูคล้ายกับคนที่เพื่อนเขาหมายตาไว้อีก จึงไม่แปลกใจเลยที่ทัพจะชอบรูปพวกนี้
"โหมึง ทั้งขาวทั้งเนียน เหมือนเพ้นท์เลย"
ทัพเหล่มองด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก พอได้ฟังจิวพูดแบบนี้อยู่ๆ ก็รู้สึกหัวเสียขึ้นมา จะว่าหวงก็คงใช่ ทั้งที่ยังไม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่คัวเองคิดไว้จะเป็นจริงหรือเปล่า แต่การได้ยินคนอื่นพูดถึงเพ้นท์แบบนี้มันรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไร
"พูดให้มันดีๆ หน่อย"
"เอ้า แล้วไม่ดีตรงไหน นี่กูชมนะ มึงก็หวงไปแค่บอกว่าคล้าย ขนาดไอทีมันยังไม่หวงเลย ถ่ายรูปมิ้มลงประจำ อ่ะ ทีงี้ล่ะตื่นเลย"
คนที่หลับมาตั้งแต่ต้นคาบลืมตามองทันทีเมื่อได้ยินคนพูดชื่อแฟน ไอทีมองทะลุทัพที่นั่งคั่นกลางมาหาจิว สายตาบอกให้รู้ว่าอย่าริเอาชื่อมิ้มมาพูดเล่น
"ทำไมมีแต่คนขี้หวงวะ แซวนิดแซวหน่อย แค่พูดถึงชื่อแฟนก็หวง ขนาดคนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนแม่งก็หวง" จิวบ่นเป็นคนแก่ ก่อนจะเลิกสนใจเพื่อนขี้หวงทั้งสองแล้วตั้งใจฟังอาจารย์สอนแทน โดยหารู้ไม่ว่าประโยคที่พูดมันแทงใจดำใครบางคนเต็มๆ
ถ้าไม่ได้อยู่ในห้องเรียนทัพคงหาเรื่องทำร้ายร่างกายเพื่อนปากดีให้ร้องหาทางกลับบ้านไม่เจอ ยิ่งจิวเป็นคนพูดยิ่งรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจไปอีก สักวันเขาต้องหลุดพ้นจากคำนี้ได้แน่
คนที่ยังไม่ได้เป็นแฟน
TBC
แล้วนังทัพ(เรียกตามทีมแม่น้องเพ้นท์ ฮ่าๆๆ) ก็ยังตอดลูกเราไปเรื่อยๆ
เมื่อไรความจะแตกสักทีน้อ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ดีใจมากๆ แล้วเจอตอนหน้าค่า