กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
จะให้อดทนถึงไหน เดี๋ยวนายเอกเป็นโรคหัวใจตายพอดี
ไผ่หวั่นไหวซะอย่างนั้นน่าสงสารจริงลป.ขอให้องค์ลงทีเดียวสามเรื่องเลยได้ป่ะป้า
ชอบจังองค์ป้าลง ขอให้ลงตลอดไป จนจบทุกเรื่องนะ 555+
อ้างจาก: Poes ที่ 18-03-2009 21:31:58 จะให้อดทนถึงไหน เดี๋ยวนายเอกเป็นโรคหัวใจตายพอดี พี่หนึ่ง อย่างนี้เค้าเรียกว่าดักม้าย 555 แวบมาจากนิยายจินเมะแล้วเหรอค้า (แอบรู้จากในกระทู้คนอื่น อิๆ)
ขอบคุณน้องคนเขียนที่อุตสาห์แวะมาตอบคอมเมนต์ของผม....แปลกใจครับที่น้องคนเขียนเคยอ่านนิยายของผม เพราะตามปกติแล้วเด็กรุ่นใหม่ๆๆจะไม่ค่อยทราบกัน.....ต้องขอสารภาพว่าผมเองยังเขียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร....ภาษายังไม่นุ่มเท่าที่ควร....ยังมีส่วนที่ขรุขระอยู่ค่อนข้างมาก....สาเหตุสำคัญเนื่องจากไม่ได้ใช้ภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาโทแล้วครับแวะกลับมาถึงนิยายของน้องคนเขียน.....ส่วนแรกที่ติดใจจนต้องเข้ามาอ่านคือ ชื่อเรื่อง...... นักเขียนหลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับชื่อเรื่องเท่าที่ควร โดยเฉพาะเด็กสมัยใหม่ที่มักจะตั้งชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ หรือไม่ก๊อขาดการเรียบเรียงคำสัมผัส....ซึ่งทำให้ดูกระด้างและไม่เรียกร้องความสนใจ.... นักเขียนควรจะใส่ใจกับชื่อเรื่องมากพอๆๆกับบทนำและจุดไคล์แมกซ์ เพราะคือจุดขายของนิยายเรื่องนั้นๆๆ.....นอกจากนั้นชื่อเรื่องยังคือกุญแจสำคัญในการใช้โทนภาษาทั้งหมดของเรื่องต้องชมว่าน้องคนเขียนมีทักษะทางภาษาไทยดี และถ่ายทอดได้เก่ง..... ยิ่งพอทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ผมก๊อต้องขอปรบมือให้....เพราะหายากที่เรื่องแรกจะเขียนได้ดีขนาดนี้.....แต่อย่างไรก๊อตาม ทุกอย่างคงไม่สมบูรณ์ไปเสียทั้งหมด....นักเขียนทุกคนทราบดี..... ผู้อ่านนั้นคือกระจกบานสำคัญที่จะช่วยสะท้อนสิ่งที่บกพร่องออกมาให้นักเขียนได้แก้ไข..... ผู้อ่านไม่จำเป็นที่ต้องเขียนนิยายเก่ง...หากแต่เพราะชอบอ่านและจินตนาการตามเนื่องเรื่องที่ผ่านตา ก๊อย่อมสามารถที่จะจับจุดที่ผิดปกติได้....ณ เวลานี้ ผมขอทำตัวเป็นผู้อ่าน และขออนุญาตแนะนำน้องผู้เขียน เพื่อที่จะนำไปปรับปรุงสำหรับเรื่องต่อๆๆไป ผมเคยเขียนไว้นานแล้วว่า บทนำคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนอ่านตัดสินใจอ่านต่อหรือไม่.... รวมถึงบทนำจะเป็นตัวคุมภาษาที่ใช้ในเรื่องทั้งหมด.... น้องคนเขียนเขียนบทนำได้ดี หากแต่ว่าผมมีข้อแนะนำบางประการ....ที่อาจช่วยทำให้ดีขึ้นจำประโยคที่ผมกล่าวไว้มั้ยครับว่า some words are out of sync ซึ่งหมายความว่า บางคำนั้นไม่เข้ากับองค์รวม.... ลองดูที่ผมแก้ให้นะครับ....อ้างถึงอะไรคือเหตุผลในการโคจรมาพบกันของคนสองคนบนโลกใบนี้ โชคชะตา พรหมลิขิต หรือเจตจำนงของใครบางคน?การได้ใช้วันเวลากับคนที่ทำให้หัวใจอบอุ่น...แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆทว่าความประทับใจที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของกันและกันนั้นสถิตอยู่นานเนิ่นเหนือขีดจำกัดของกาลเวลา*************นิ้วมือเรียวแต่แข็งแรงจับไม้ขนไก่ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนชั้นวางหนังสือขนาดกะทัดรัดซึ่งตั้งอยู่ข้างๆบันไดไม้ซึ่งทอดตัวสู่ชั้นบนของอาคารกึ่งไม้กึ่งปูนสูงสี่ชั้นซึ่งดัดแปลงจากบ้านเก่า ทั่วทั้งบ้านเงียบเชียบยกเว้นเสียงเข็มนาฬิกา เสียงไม้ปัดขนไก่กระทบชั้นหนังสือ และเสียงหายใจของเจ้าของบ้านที่อีกมือหนึ่งคอยจัดหนังสือให้เป็นระเบียบเท่านั้นเสียงเปาะแปะค่อยๆดังขึ้นภายนอก ตามมาด้วยเสียงซู่ซ่าที่ดังมากขึ้นๆจนอื้ออึงพร้อมกับความรู้สึกเย็นชื้นที่สัมผัสได้ทางผิวกาย ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะละมือจากไม้ปัดขนไก่เดินไปเลื่อนปิดประตูกระจกหลังบานมุ้งลวดตรงระเบียงที่ตอนแรกเปิดไว้ให้ไอเย็นที่อวลอยู่ในอากาศตั้งแต่เช้ามืดได้ถ่ายเทเข้ามาภายในบ้าน นัยน์ตาคมใต้คิ้วโก่งได้รูปทอดมองไปยังร่มไม้ดกครึ้มรอบบริเวณบ้านที่ดูจะปรีดีไปกับสายฝนที่เทลงมาราวได้น้ำทิพย์ชโลม แล้วใบหน้าเนือยๆเมื่อชั่ววินาทีก่อนก็คลี่ยิ้มบางๆ“เอาเถอะ ยังไงหน้าฝนอย่างนี้ก็คงไม่ค่อยมีคนขึ้นมาพักที่เกสต์เฮ้าส์เล็กๆ บนตีนเขานอกเมืองอย่างนี้สักเท่าไหร่”เสียงทุ้มทว่าใสราวกระดิ่งเงินพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนนัยน์ตาคู่สวยจะฉายแววเหงาๆ ออกมา ความทรงจำหวนกระหวัดไปยังเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนหน้า วันนั้น ฝนก็ตกกระหน่ำเหมือนกับวันนี้...........เมื่อเปลี่ยนเป็นอะไรคือเหตุผลของการโคจรมาพบกันของคนสองคนบนโลกใบนี้....พรหมลิขิต? ยามเมื่อหัวใจสองดวงโคจรมาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว.....ภายใต้ห้วงหนึ่งของกาลเวลา.....ความอบอุ่นของไอรักที่เกิดขึ้น....แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หากกลับประทับตราตรึง....เนิ่นนานในความทรงจำ************นิ้วมือเรียวแต่แข็งแรงจับไม้ขนไก่ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนชั้นวางหนังสือขนาดกะทัดรัดซึ่งตั้งอยู่ข้างๆบันไดไม้ซึ่งทอดตัวสู่ชั้นบนของอาคารสูงสี่ชั้นกึ่งไม้กึ่งปูนซึ่งดัดแปลงมาจากบ้านหลังเก่า ภายใต้ความเงียบสงัดที่ปกคลุมบ้านทั้งหลัง มีเพียงเสียงเข็มนาฬิกาโบราณเรือนใหญ่ที่ดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แทรกด้วยเสียงกระทบเบาๆๆของปกหนังสือเล่มหนากับแผ่นไม้สักของชั้นวางฯเพราะผู้เป็นเจ้าของกำลังจัดวางให่้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเก่า ไม่นาน.....เสียงสายฝนโปรยปรายก็ค่อยๆดังขึ้นจากภายนอก ตามมาด้วยเสียงลมที่พัดมาพร้อมกับความรู้สึกเย็นชื้นที่สัมผัสได้ผ่านผิวกาย ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะละมือจากการจัดหนังสือ และเดินไปเลื่อนปิดประตูกระจกตรงระเบียงหลังบ้านที่เปิดไว้ให้อากาศถ่ายเทเข้ามาภายใน นัยน์ตาคมใต้คิ้วโก่งได้รูปทอดมองไปยังร่มไม้ดกครึ้มรอบบ้านที่ดูเหมือนว่ากำลังยิ้มต้อนรับสายฝนที่ตกลงมาจากผืนฟ้ากว้าง.....ทุกอย่างดูมีชีวิตชีวายามเมื่อฝนหลั่ง....ข้อยกเว้นคงมีเพียงแต่ใบหน้าเรียบปราศจากความรู้สึกของเขา “อืม....หน้าฝนอย่างนี้ก็คงไม่น่าจะมีแขกมาพักที่เกสต์เฮ้าส์เล็กๆนอกเมืองอย่างนี้สักเท่าไหร่” ชายหนุ่มพึมพำกับตนเองเบาๆพร้อมกับความเหงาที่ฉายออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย วันนั้น....วันที่หัวใจยังคงมีความหวัง.....เมื่อสองปีก่อน.....ฝนก็ตกกระหน่ำเหมือนกับวันนี้.........เช่นกันลองดูนะครับ..... ว่าชอบหรือป่าวสวัสดีครับAndreas
อะไรคือเหตุผลในการโคจรมาพบกันของคนสองคนบนโลกใบนี้ โชคชะตา พรหมลิขิต หรือเจตจำนงของใครบางคน?การได้ใช้วันเวลากับคนที่ทำให้หัวใจอบอุ่น...แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆทว่าความประทับใจที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของกันและกันนั้นสถิตอยู่นานเนิ่นเหนือขีดจำกัดของกาลเวลา*************นิ้วมือเรียวแต่แข็งแรงจับไม้ขนไก่ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนชั้นวางหนังสือขนาดกะทัดรัดซึ่งตั้งอยู่ข้างๆบันไดไม้ซึ่งทอดตัวสู่ชั้นบนของอาคารกึ่งไม้กึ่งปูนสูงสี่ชั้นซึ่งดัดแปลงจากบ้านเก่า ทั่วทั้งบ้านเงียบเชียบยกเว้นเสียงเข็มนาฬิกา เสียงไม้ปัดขนไก่กระทบชั้นหนังสือ และเสียงหายใจของเจ้าของบ้านที่อีกมือหนึ่งคอยจัดหนังสือให้เป็นระเบียบเท่านั้นเสียงเปาะแปะค่อยๆดังขึ้นภายนอก ตามมาด้วยเสียงซู่ซ่าที่ดังมากขึ้นๆจนอื้ออึงพร้อมกับความรู้สึกเย็นชื้นที่สัมผัสได้ทางผิวกาย ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะละมือจากไม้ปัดขนไก่เดินไปเลื่อนปิดประตูกระจกหลังบานมุ้งลวดตรงระเบียงที่ตอนแรกเปิดไว้ให้ไอเย็นที่อวลอยู่ในอากาศตั้งแต่เช้ามืดได้ถ่ายเทเข้ามาภายในบ้าน นัยน์ตาคมใต้คิ้วโก่งได้รูปทอดมองไปยังร่มไม้ดกครึ้มรอบบริเวณบ้านที่ดูจะปรีดีไปกับสายฝนที่เทลงมาราวได้น้ำทิพย์ชโลม แล้วใบหน้าเนือยๆเมื่อชั่ววินาทีก่อนก็คลี่ยิ้มบางๆ“เอาเถอะ ยังไงหน้าฝนอย่างนี้ก็คงไม่ค่อยมีคนขึ้นมาพักที่เกสต์เฮ้าส์เล็กๆ บนตีนเขานอกเมืองอย่างนี้สักเท่าไหร่”เสียงทุ้มทว่าใสราวกระดิ่งเงินพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนนัยน์ตาคู่สวยจะฉายแววเหงาๆ ออกมา ความทรงจำหวนกระหวัดไปยังเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนหน้า วันนั้น ฝนก็ตกกระหน่ำเหมือนกับวันนี้...........
อ้างจาก: bellbomb ที่ 21-03-2009 15:55:45 อ้างจาก: Poes ที่ 18-03-2009 21:31:58 จะให้อดทนถึงไหน เดี๋ยวนายเอกเป็นโรคหัวใจตายพอดี พี่หนึ่ง อย่างนี้เค้าเรียกว่าดักม้าย 555 แวบมาจากนิยายจินเมะแล้วเหรอค้า (แอบรู้จากในกระทู้คนอื่น อิๆ)แอร๊ยยยส์ มีคนรู้ความลับเราแล้ว ถึงจะติดจินเมะไปแล้วแต่ยังมาอ่านของ บีบี นะ
กลิ่นตุๆ ดองได้ที่พอดี ได้กันแล้วๆ เรื่องกำลังเข้มข้น เมื่อลูกสะไภ้จะไปไห้วพ่อตาแล้วกว่าป้าสุดสวยจะมาต่ออีก มาต่อเร็วๆนะจ๊ะป้าสุดสวย mizzzzz u na ja