ขอโทษที่หลายใจ
เทียนเล่มที่ 3
เสียงร้องเพลงจังหวะสนุกสนาน เพลงล้อเลียน ดังขึ้นจากซุ้มรับน้องปี 1 นักศึกษาใหม่หน้าตาแปลกๆ เพราะถูกแป้งผสมสีทาเอาไว้ จนดูไม่ออกว่าจริงๆแล้วแต่ละคนหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนทรงผมนั้นก็มาเซ็ทเดียวกัน ไม่มัดแกะ ก็ผูกจุก พอมองแล้วก็เห็นขัน ยิ่งถูกพี่ๆแกล้งให้เต้นด้วยท่าทางประหลาดๆด้วยยิ่งแล้วไปใหญ่
“ เฮ้อ!!! เซ็งเลยแก ข้าบอกให้มาเร็วๆ มาก่อนที่รุ่นน้องมันจะจับแต่งหน้า แต่พวกแกมัวแต่ไปแหล่สาวปีเดียวกัน แล้วเป็นไง ทีนี้เลยไม่รู้ว่าน้องปี 1 ปีนี้มีใครน่ารัก น่าฟัด เอ้ย!!! น่า ทะนุถนอมบ้าง ” เสียงบ่นไม่จริงจังนัก ดังมาจากนักศึกษาชายกลุ่มหนึ่ง ที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ แกจะบ่นหาวิมานอะไรวะไอ้คุณโจ ถึงยังไงแกก็หลีหญิงได้อยู่ดี ไม่ได้ปี 1 ก็หลีปี 2 เมื่อกี้แกก็ร่วมวงด้วยไม่ใช่รึไง ” เสียงโต้แย้งจากอีกคนว่าขึ้น ซึ่งคนที่โดนว่าก็ใช่ว่าจะใส่ใจ เพราะเขาแค่เพียงไหวไหล่เล็กน้อยเท่านั้น
“ ก็ยัยนั่นหุ่นมันน่าฟัดจริงๆนี่หว่า อยู่มาตั้งนาน มันเพิ่งจะดูดี สงสัยไปอัพไซต์มาแน่ๆเลยว่ะ แต่วันนี้ที่ข้าเสียดายน่ะ ก็เพราะว่า จากสายข่าวของข้าบอกว่า จะมีน้องปี 1 จากภาคอินเตอร์มาเข้าร่วมกับเราอ่ะดิ ข้าก็เลย.... ”
“ เอ็งก็เลยอยากจะจิจ๊ะกับเขาอ่ะดิ ไอ้เฒ่าหัวงู แค่อ้าปากก็มองเห็นตูดแล้ว ” ชายหนุ่มคนเดิมว่าขึ้นมาอีกครั้ง
“ แล้วไงวะไอ้นิน อย่างข้าเขาเรียกเพลย์บอยโว้ย ไม่ใช่เฒ่าหัวงู เรียกให้มันดูดี มีชาติตระกูลหน่อยสิว้า เออ!!! แต่ตอนนี้ข้ามีไอเดียบรรเจิดแล้วว่ะ ” นายโจยังได้ต่อ ไม่มีสะดุดให้เสียดุล
“ ไอเดียอะไรของแกวะ ” นายนินถามขึ้นบ้าง
“ นี่ไอ้คุณชายพัทธยา1 แกไม่คิดจะเปิดปากพูดบ้างหรือไง รึกลัวว่าพูดแล้วดอกพิกุลจะร่วงวะ ” โจหันมาว่าเพื่อนอีกคนที่เดินมาด้วยกัน แต่ยังไม่คิดจะพูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้
“ ไม่มีอะไรน่าพูด เพราะข้ารู้ว่าถึงข้าไม่พูดเอ็งก็ต้องคลายออกมาอยู่ดี ” ชายหนุ่มที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก
“ เออๆๆ ข้าไม่เถียงสู้กับแกแล้ว ไม่อยากรังแกเด็กว่ะ ส่วนเรื่องไอเดียที่ข้าปิ้งขึ้นมาก็คือ ตอนนี้พวกแกก็เห็นว่าเด็กปี 1 หน้าพิมพ์เดียวกัน ” นายโจว่าพลางเว้นระยะให้น่าติดตาม
“ แล้วยังไงวะ ช่วยพูดให้มันจบเลยทีเดียวได้มะ ” ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะนายนินนั้นต้องการจะรู้ต่อว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะเป็นอย่างไร
“ เออๆๆ คือน้องปี 1 ตอนนี้เราแยกไม่ออกใช่มะว่าใครน่ารัก ใครขี้เหร่ ” นายโจว่า ซึ่งนายนินนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย นายโจจึงพูดต่อ
“ ก็อย่างนี้ไง มันก็น่าจะตื่นเต้นดี ถ้าเราเลือกใครสักคนออกมา เป็นคนที่มองหลบตาเราคนแรก ไม่ว่าคนๆจะน่ารัก หรือน่าชังขนาดไหน พวกเราก็ต้องคบกับคนๆนั้นให้ได้ 1 เดือน โดยไม่มีข้อแม้ ถ้าใครทำไม่ได้ คนนั้นต้องเป็นลูกไล่ของทุกคน โอป่ะ ” จะว่าไปมันก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เขาทั้ง 3 คนนั้นได้ชื่อว่าหล่อขั้นเทพ ใครๆก็พร้อมที่เข้าหา เพียงแค่เรียกเท่านั้น
หลังจากที่ฟังเงื่อนไงของเพื่อนแล้ว เขาก็ไม่ใคร่จะอยากร่วมด้วยนัก แต่ก็ไม่จะแย้งอะไรให้มันมากความ จึงเฉยไว้ แล้วปล่อยให้เจ้าพวกที่ชอบหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัวเล่นกันต่อไป
พัทธยา1 แปลว่า ลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในต้นฤดูฝน
“ นาย 2 คนเล่นกันเองแล้วกันนะ ฉันไม่อยากหาเหาใส่หัว ” เขาตอบ พลางจะเดินออก แต่ก่อนจะได้ทำเช่นนั้นก็โดนดึงแขนไว้เสียก่อน
“ อะไรวะ นายป๊อดหรือไง ไม่ต้องเลย ข้าต้องการให้แกเล่นด้วย เข้าใจมั้ย ” ว่าแล้วท่านโจก็ดึงแขนเพื่อนรักผู้ที่ไม่อยากจะร่วมวงด้วยเข้ามาเกี่ยวจนได้
จนแล้วจนรอด 3 ทหารเสือก็มายืนอยู่ด้านหน้าน้องใหม่จนได้ เด็กปี 1 หน้าตาจิ้มลิ้ม จะว่าไปแล้วตอนนี้ทุกคนมันก็ออกมาเซ็ทเดียวกัน ไม่รู้ว่าน้องปี 2 แต่งตัวให้ดีเกินไปหรือไง ถึงแยกความต่างไม่ออกเลย
เสียงเพลงสนุกสนานพลันเงียบลง เมื่อมีกลุ่มรุ่นพี่ปีสูงกว่าเดินเข้ามา เสียงทักทายจากน้องปี 2 และเสียงพูดคุยเบาๆ ที่เล็ดรอดออกมาให้ได้ยินจับใจความได้ไม่ยาก เพราะมันค่อนไปทางเดียวกัน คือ ‘ ใครน่ะ ’ กับ ‘ หล่อจัง ’ ซึ่งแน่นอนว่ากว่าครึ่งเป็นเสียงของผู้หญิง ซึ่งทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ายกยิ้มได้ไม่ยาก
“ สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อโจ ส่วนข้างซ้ายพี่ชื่อนิน ด้านขวาชื่อพี่พัทธ พี่ 3 คนขอเป็นตัวแทนเพื่อนๆในชั้นปี 4 กล่าวคำว่า ‘ ยินดีต้อนรับ ’ น้องใหม่ ปี 1 ทุกคนนะครับ ” ทุกสายตาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้า
“ สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ ” เสียตอบรับจากน้องใหม่ปี 1 ที่ตอบกลับมาพร้อมกัน แววตาของนักศึกษาหลายคนนั้นเป็นแววตาเดียวกัน คือออกจะชื่นชมรุ่นพี่ทั้ง 3 อยู่ไม่น้อย ซึ่งปี 2 นั้นบอกให้ปี 1 แนะนำตัวทีละคน
สองหนุ่มแจกยิ้มหวานที่คิดว่าละลายใจใครได้ไปทั่ว แต่กลับพัทธยานั้น เขาเลือกที่จะยิ้มแบบธรรมดาให้แทน เพราะเขาไม่คิดที่จะเล่นเกมส์นี้กับเพื่อนอยู่แล้ว แต่แล้วก่อนที่เขาจะเบนสายตาออกมาจากกลุ่มน้องปี 1 ก็มีดวงตาคมโตมองมาที่เขาก่อนจะหลุบตาหลบอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาหันมาสบตาเข้าพอดี และนั่นก็ไม่ได้รอดสายตาของสองสหายไปได้ เพราะเจ้าเพื่อนตัวดีนั้นกระทุ้งศอกใส่เขาเสียแล้ว
“ เอาล่ะครับน้อง พวกพี่ไม่กวนแล้ว ยังไงก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ปี 2 เขาแล้วกัน ยังพี่ก็ต้องบอกว่ายินดีต้อนรับอีกครั้งนะครับ แล้วเจอกันนะครับ ” นายโจกล่าวลาน้องใหม่ แต่ก่อนที่จะกลับนั้นเขาได้หันมากระซิบกระซาบบางอย่างกับรุ่นน้องปี 2 ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปแจกยิ้มอีกครั้ง แล้วจึงเดินตามเพื่อนๆออกมา
“ เป็นไงบ้างวะ น้องใหม่ปีนี้ ฉันว่ามีเด็ดเหมือนกันนะ แต่ที่อยากรู้น่ะของใครจะเด็ดกว่ากัน ” นายนินเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งสามเดินออกมายังโต๊ะประจำเป็นที่เรียบร้อย
“ ฉันว่าของฉันน่ะต้องเด็ดอยู่เหมือนกันนะ ถึงจะโดนทาสี แต่ก็ยังดูดีนะโว้ย ” นายโจเอ่ยขึ้นมา เมื่อน้องใหม่ที่หลบตาตนเองเป็นคนแรกตามกฎที่ตั้งไว้นั้นหน้าตาก็พอดูได้ เพราะเจ้าตัวไม่ได้โดนแป้งสีมากมัก ทำให้พอเห็นใบหน้าได้บ้าง
“ ทำเป็นพูดดีไป ของฉันก็ใช่ย่อยนะโว้ย หล่อ น่ารัก น่าฟัดอยู่ ” นายนินกล่าวขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าเด็กของตนเองนั้นจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ใช่ปัญหา
“ จะว่าไปแล้ว เด็กนายน่ะ ฉันว่านะหน้าตาคงดูไม่ได้แน่ๆเลยว่ะ ไม่งั้นไม่โดนโบ๊ะจนเละซะขนาดนั้นหรอก ฉันว่าคราวนี้เห็นแววคนแพ้มารำไรแล้วว่ะ ”
“ ฉันก็ว่างั้นแหละ ” นายนินว่าพลางหัวเราะคนที่นั่งเงียบอยู่ ซึ่งนายโจเองก็เห็นพ้องอย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้งคู่จึงหัวเราะเยาะเพื่อนอย่างสบายใจ
บ่ายคล้อยเสียงเพลงตามซุ้มต่างๆเงียบเสียงลง เสียงพูดคุยหยอกล้อจึงดังขึ้น เวลาที่ทั้งสามหนุ่มรอจึงใกล้มาถึง ก่อนกลับออกมาเมื่อตอนเช้านั้น นายโจได้กระซิบบอกน้องปี 2 ว่าต้องการพบน้องปี 1 ที่โต๊ะประจำ น้องคนที่รับเรื่องไว้นั้นก็ดูจะเข้าใจโดยพลัน เพราะยอดชายนายโจมักจะหาอะไรมาเล่นแก้เซ็งเสมอ และเมื่อเรียกน้องปี 1 ไปหาก็คงต้องเรื่องเล่นอะไรอีกเป็นแน่
นักศึกษาหน้าใหม่ที่เห็นเดินอยู่ไม่ไกลนั้นเรียกสัญชาตญาณความอยากรู้ให้เพิ่มขึ้นว่าแต่ละคนที่ตนได้เลือกนั้นจะหน้าเป็นไปตามที่คิดหรือเปล่า และแล้วน้องใหม่ทั้ง 3 ก็มายืนอยู่ตรงหน้า
“ เป็นยังไงบ้างครับน้อง รับน้องวันแรก ” นายโจเปิดประเด็นถามขึ้นก่อน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับแผ่วเบาประมาณว่า ‘ ดี ’
“ และหากว่าตอนนี้น้องๆกำลังสงสัยว่าทำไมต้องมาพบพี่ๆหลังเลิกซุ้ม พวกพี่จะช่วยเฉลยให้ดังนี้ ” นายนินพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่านายโจไม่มีทีท่าว่าจะพูดต่อ
“ ครับน้องๆไม่ต้องตกใจไปนะครับ พวกพี่แค่อยากจะพาน้องๆไปเลี้ยงข้าวสักมื้อเป็นการรับน้องไปในตัว ถือซะว่าเป็นรางวัลพิเศษที่น้องทั้ง 3 คนในความร่วมมือกับกิจกรรมเป็นอย่างดีแล้วกัน ” นายโจบอกจุดประสงค์เมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจระคนสงสัยของน้องปี 1
“ แต่ตอนนี้น้องช่วยแนะนำตัวกับพวกพี่อีกรอบแล้วกันนะครับว่าใครชื่ออะไรกันบ้าง ” ยังคงเป็นนายโจอีกเช่นเคยที่พูดขึ้นมา แต่ก็ทำให้น้องใหม่ที่ยืนก้มหน้าอายๆนั้นเอ่ยบอกชื่อตนเองเบา โดยคนที่ยืนอยู่ซ้ายสุดเป็นเด็กที่นายโจเลือกได้ แว่วว่าชื่อน้องพิม ส่วนเด็กหนุ่มตัวโย่งผิวเหลืองตรงกลางนั้นเป็นเด็กที่นายนินเลือกได้ชื่อว่ากันต์ และคนสุดท้ายนั้นเป็นของคุณชายที่นั่งเงียบมาตลอดรายการ เด็กหนุ่มตัวไม่ใหญ่มากที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนที่มองอยู่นั้นเอ่ยแนะนำตนเองเบาๆว่า ‘ ยิหวา ’
“ น้องๆก็แนะนำตัวกันไปแล้ว พี่ขอแนะนำตัวเองอีกครั้งนะครับ พี่ชื่อโจ ส่วนขวามือพี่ชื่อนิน และซ้ายสุดที่นั่งอยู่อมพะนำไม่พูดไม่จาอยู่นั่นชื่อพัทธ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ แต่ตอนนี้ก่อนที่พวกเราจะไปหาอะไรทานกัน พี่ว่าน้องๆไปล้างหน้า ล้างตากันก่อนดีกว่านะครับ ” นายโจว่าพลางเดินนำน้องไปยังห้องน้ำที่อยู่ภายในอาคารเรียน โดยมีนายนินที่กำลังดึงให้คุณชายเงียบสนิทอย่างพัทธยาเดินตาม หรือจะเรียกฉุดกระชากให้เดินตามก็คงไม่ผิดนัก เพราะเจ้าตัวดูจะไม่ค่อยกระตือรือร้นเลยแม้แต่น้อย
“ เป็นอะไรไปวะไอ้คุณชายพัทธยา ถึงกลับรับไม่ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอวะ เอาน่าทนๆไปเถอะ แค่เดือนเดียวเอง หรือไม่แกก็คิดเสียว่าทำบุญให้กับคนยากไร้ก็ได้วะ เพราะฉันว่านะหน้าตาแบบของเด็กแกน่ะ คงจะหาแฟนไม่ได้ว่ะ ” นายโจว่าเมื่อส่งเด็กของแต่ละคนเข้าห้องน้ำไปแล้ว
“ นั่นสินะ ฉันว่าได้บุญดีนา ” นายนินเห็นพ้องต้องกันกับนายโจ ส่วนพัทธยานั้นเขารู้สึกเฉยๆ เขาไม่ได้ต้องการจะเล่นแบบนี้อยู่แล้ว
หลังจากที่เด็กปี 1 หายไปพักใหญ่แล้วจึงกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่ดูดีกว่าเดิมมาก แต่กระนั้นแล้ว คนที่ยังไม่เสร็จออกมาคงจะเป็นน้องใหม่ที่ชื่อยิหวาคนนั้น
“ เฮ้ย!!! พัทธฉันว่าน้องแกโดนห้องน้ำกินตับไปแล้วมั้ง ” นายโจว่า เพราะเด็กของตนเองที่เข้าไปพร้อมกันนั้นออกมาตั้งนานแล้ว
“ ฉันก็ว่างั้น นายเข้าดูหน่อยดิ ” นายนินว่าขึ้นบ้าง ซึ่งพัทธยาเองก็ออกจะเห็นใจน้องคนนั้นอยู่ไม่น้อย โดนละเลงแป้งเสียเต็มหน้า เต็มตัวขนาดนั้น เขาจึงไม่ว่าอะไร เพราะเขาก็คิดว่าจะเขาไปดูอยู่พอดี แต่ก่อนที่จะได้ก้าวเท้าไปเสียงที่หน้าห้องน้ำก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ ขอโทษที่ให้รอครับ ” น้ำเสียงที่แสดงความเสียใจอย่างที่พูด บวกกับดวงตาที่ลุแก่โทษก็ทำให้คนอ้าปากจะว่าต้องหุบฉับทันที
“ โอ้!!! เงาะถอดรูปหรือไงวะ ” นายนินอุทานขึ้นเมื่อเห็นดวงหน้าที่ปราศจากแป้งสีนั้นชัดเจน
“ ก็ว่าอยู่ ตอนนี้ฉันเริ่มอิจฉาไอ้คุณชายพัทธซะแล้ว ” นายโจยืนกระซิบกับนายนิน
“ เอ่อ...ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ พอดีว่าแป้งมันเปื้อนเยอะน่ะครับ ต้องขอโทษจริงๆ ” ยิหวาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สองคนยืนกระซิบอะไรกันอยู่
“ เรียบร้อยแล้วก็ดีแล้วล่ะ เราไปทานข้าวกันเถอะ เดี๋ยวคนที่ร้านจะเยอะ ” พัทธยาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนอีกสองคนของตนเองนั้นกลายเป็นใบ้ไปเสียแล้ว เขาแตะศอกยิหวาเบาๆให้ออกเดินไปด้วยกัน พร้อมกับหันไปพยักหน้าให้น้องปี 1 อีกสองคนออกเดินเช่นกัน
ครั้งนั้นนับว่าเป็นการทำความรู้จักกันครั้งแรกในฐานะของรุ่นพี่รุ่นน้อง เวลาหนึ่งเดือนกับนายโจกำหนดไว้ดูจะไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเขายังคงไปมาหาสู่ยิหวาเหมือนเดิม ผิดกับอีกสองคนนั้นที่คบได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็โบกมือลากันเสียแล้ว
น้องพิมของนายนินนั้นเห็นเรียบร้อยน่ารัก แต่กับหว่านเสน่ห์ให้หนุ่มๆอีกมากมาย เรียกว่าต่างคนต่างแฟร์ ไม่มีพันธะต่อกัน ซึ่งก็เข้าทางนายนินอยู่ไม่น้อย ส่วนนายโจนั้นกับน้องกันต์เหมือนจะไปได้ดีแต่สุดท้ายนายโจก็ออกลาย เพราะไม่ชอบที่จะคบกับใครนานๆ
ส่วนตัวเขาเองนั้นถึงจะเป็นเพลย์บอยตัวเอ้ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องแพ้ใจให้กับเด็กอย่างยิหวา ยิหวาไม่เคยมาวุ่นวายในเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เคยก้าวก่ายในเรื่องที่เขาไม่บอก ไม่เคยเซ้าซี้ มีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่ยิหวามีให้เขาตลอด เขาไม่เคยคบกับใครโดยที่ไม่มีอะไรกับคนๆได้นานเท่ายิหวา ทุกคนที่เขาหาเขานั้นต่างก็มีข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำ สมเนื้อ แต่กับยิหวามันไม่ใช่ ยิหวาทำให้เขารู้สึกอย่างปกป้อง ให้เกียรติ ไม่อยากที่จะเกินเลย ยิหวาเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกว่าการรอคอยเป็นสิ่งที่ไม่น่าเบื่อ แต่เขากับรู้สึกเป็นสุขที่ได้รอ รอให้ทุกอย่างพร้อม
ยิหวาเป็นคนแรกและเขาคิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่เขาจะพาเข้าบ้าน แม้ว่าพ่อกับแม่จะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นพวกเสือไบ แต่ท่านก็คงไม่คิดว่าเขาจะจริงจังกับผู้ชายได้มากขนาดนี้ แรกๆนั้นพ่อของเขาไม่ยอมจะคุยด้วย ด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ยิหวากลายเป็นลูกรักแทนเขาไปเสียแล้ว ส่วนคุณแม่กับน้องสาวของเขานั้นยังเงียบๆอยู่ ประมาณว่าไม่ได้สนับสนุน แต่ก็ไม่ขัดขวาง ทุกอย่างตอนนี้ระหว่างเขากับยิหวาจึงดูราบรื่น
เพื่อนๆในคณะที่รู้จักชื่อเสียงของเขานั้น โดยเฉพาะนายโจ และนายนิน ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าเขาจะทิ้งลายคาสโนว่าให้กับเด็กอย่างยิหวาได้ ต้องบอกว่ายิหวานั้นเด็กก็จริง แต่ความคิดและการแสดงออกไม่ได้เด็กตามอายุเลย
ยิหวาเข้าเรียนก่อนวัยเขาจึงเด็กกว่าเพื่อนในชั้นปีเดียวกันเกือบสามปี แต่ยิหวากับเข้าเพื่อนๆและรุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี ด้วยการวางตัว การพูด การมีสัมมาคารวะ การช่วยเหลือทุกครั้งที่สามารถทำได้ ยิหวานั้นถือเป็นขวัญใจของของทุกคนเลยก็ว่าได้ ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ถ้าหากว่าไม่เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเสียก่อน