(ต่อค่ะ)
เวลาผ่านไปจนเกือบตีสอง ตอนนี้ร้านปิดแล้วครับแต่กลุ่มที่มางานวันเกิดยังคงนั่งดื่มกันอยู่ภายในร้าน เริ่มดื่มกันเงียบๆและนั่งคุยปรับทุกข์และอัพเดตชีวิตกันมากกว่า เพราะช่วงเที่ยงคืน พวกรุ่นพี่วิศวะที่เป็นศิษย์เก่าก็เข้ามาสมทบกันหลายคน คืนนี้ยาวแน่นอนครับ
ผมหันไปมองคนเก่งที่ตอนนี้นั่งหลับตาเอนตัวอยู่บนโซฟาพร้อมกับฟูจิที่นั่งอยู่ข้างๆในท่าเดียวกัน
"พวกมึงพาเมียกลับกันได้แล้วไป สงสารมัน คิดผิดจริงๆที่มาเอาผัววิศวะ ต้องมานอนเฝ้าผัวกินเหล้า" รุ่นพี่ที่นั่งดื่มอยู่หันมามองผมกับไอ้ธาวิน ผมกับไอ้ธาวินก็เลยขอตัวกลับเลยเพราะตั้งใจว่าจะขอตัวกลับอยู่เหมือนกัน
ไอ้ธาวินมันไม่ปลุกฟูจิครับแต่มันเข้าไปช้อนตัวอุ้มขึ้นมาเลย จนโดนพวกรุ่นพี่โห่แซว ผมเองก็อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะแต่ว่าเพราะเสียงโห่แซวที่ดังขึ้นทำให้คนเก่งลืมตาขึ้นมา ผมขยับไปจัดทรงผมให้น้องนิดหนึ่งก่อนจะชวนน้องกลับ น้องดูจะยังงงอยู่ แต่ก็พยักหน้ารับ
"พี่เต็มครับ" ตอนที่ผมลุกขึ้นยืนคนเก่งดึงเสื้อผมไว้
"ว่าไง" ผมถาม
"หนูเดินไม่ไหว หนูขี่หลังพี่เต็มได้มั้ย" ผมมองน้องด้วยความใจระทีกเพราะคนเก่งอ้อนผมเบอร์แรงมาก ทั้งน้ำเสียงทั้งสายตา ทั้งใช้คำว่าหนู .... ปกติน้องจะใช้คำว่าหนูแทนตัวเองเฉพาะเวลาที่มีอะไรกันกับผม เพราะผมขอให้น้องพูด แล้วประโยคเมื่อกี้ที่พูด ปกติถ้าอยู่บนเตียงคนเก่งจะต้องพูดว่า
... หนูไม่ไหวแล้ว พี่เต็ม xxx ให้หนูได้มั้ย
หรือ
... หนูไม่ไหวแล้ว หนูขอ xxx ให้พี่เต็มได้มั้ย
ผมว่าผมเริ่มจะหน้ามืดแล้วล่ะครับ
ผมนั่งลงหันหลังให้น้อง ก่อนที่น้องจะขึ้นมาขี่หลังผม ผมจับขาน้องและขยับตัวให้น้องขี่หลังดีๆ ก่อนจะหันไปดูที่โซฟาว่าลืมอะไรหรือทำอะไรหล่นไว้หรือเปล่า ผมหันมากล่าวลาพวกรุ่นพี่ ส่วนคนเก่งเองที่ถ้าไม่เมาหรือมึนมากก็คงจะยกมือไหว้ลาพวกพี่ๆ แต่สิ่งที่น้องทำคือยกมือขึ้นมาโบกและพูดว่าบ๊ายบายทั้งที่ยังขี่หลังผมอยู่
ผมพาคนเก่งเดินมาจนถึงรถ เอาน้องลงและจัดให้น้องนั่งดีๆพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยให้ ผมเดินมานั่งประจำที่ฝั่งคนขับ หลังจากที่สตาร์ทรถแต่ยังไม่ทันได้ขับรถออกไป ผมหันไปมองน้องที่กำลังลืมตามองผมอยู่ ผมเอื้อมมือไปเล่นผมนิ่มๆของน้อง
"ไปขับรถเล่นก่อนได้มั้ยครับ" คนเก่งถามผมซึ่งผมไม่ขัดใจน้องอยู่แล้ว
"ได้ครับ อยากไปไหนหรือเปล่า หรือแค่อยากให้พี่ขับรถเล่นรอบๆเมืองเฉยๆ" ผมถามคนเก่งอย่างเอาใจ
"ตามใจพี่เต็มเลยครับ" คนเก่งบอกแค่นั้นแล้วน้องก็หลับตาลง ผมปิดแอร์ในรถและลดกระจกลงเพื่อให้อากาศเย็นๆภายนอกได้พัดเข้ามา ผมขับรถออกมาสักพักหันไปมองน้องก็เห็นว่าน้องลืมตาขึ้นมาและมองออกไปนอกหน้าต่าง
ผมขับรถรอบเมืองไปหนึ่งรอบ ก่อนจะขับรถมาที่หนองน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ชานเมือง ถ้าเป็นช่วงเย็นแถวนี้คนจะพลุกพล่านพอสมควรเพราะมีคนมาออกกำลังกายรอบๆหนองน้ำ
ผมจอดรถตรงริมหนองน้ำที่มองดูแล้วไม่เปลี่ยวมากเกินไป มีแสงไฟส่องสว่างอยู่รอบบริเวณ ผมลดกระจกฝั่งคนเก่งลงจนหมดและดับเครื่องยนต์
"ดีขึ้นมั้ย เมามากหรือเปล่า" ผมปลดเข็มขัดนิรภัยตัวเองและหันไปถามคนเก่ง
"ไม่เมาครับ แค่มึน" คนเก่งตอบและเราสองคนก็ต่างคนต่างเงียบ แต่มันไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัด
"คนเก่ง" ผมเรียกน้องและน้องก็ขยับตัวหันมามองผมทั้งตัวพร้อมทั้งปลดเข็มขัดนิรภัย
"ครับ"
"ทำไมตอนที่คนเก่งรู้เรื่องย้ายหอ ... เรื่องที่พี่ไม่บอกความจริงเรื่องค่าปรับค่ามัดจำ ทำไมคนเก่งไม่ถามหรือไม่โกรธพี่เลยล่ะ" ผมถามด้วยความสงสัยเพราะตอนแรกคิดว่าคนเก่งจะต้องงอนผมแน่
"ที่พี่เต็มทำแบบนั้นเพราะพี่เต็มอยากจะอยู่กับผมใช่มั้ยครับ" คนเก่งไม่ตอบแต่ถามผมกลับ
"อยากสิ .. อยากมากด้วย ถึงแม้ทุกวันนี้คนเก่งจะอยู่กับพี่อยู่แล้ว แต่ตราบใดที่คนเก่งยังไม่ย้ายของออกมา ยังไม่แจ้งย้ายพี่ก็ไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น พี่ก็เลยใช้วิธีลัด อย่างน้อยก็ทำให้พี่มั่นใจว่าสุดท้ายยังไงคนเก่งก็ต้องมาอยู่กับพี่" ผมตอบตามความจริงที่ในใจมันรู้สึก
"ที่ผมไม่โกรธที่พี่เต็มไม่บอกผมเรื่องย้ายหอ ก็เพราะผมเองก็อยากอยู่กับพี่เต็มเหมือนกันครับ" คำตอบของคนเก่งทำให้ผมใจพองโต ผมดึงน้องเข้ามากอดและหอมที่แก้มที่ผมน้องหลายต่อหลายครั้ง
"พี่เต็มครับ" เสียงของคนเก่งเรียกผมในขณะที่น้องอยู่ในอ้อมกอดผม
"หืม" ผมขานรับ
"ทำกันมั้ย"
ห๊ะ?! ผมได้ยินสิ่งที่คนเก่งพูดนะแต่แค่แปลกใจที่น้องเป็นคนพูด
"ทำกันนะ นะครับ" คนเก่งเงยหน้ามามองผมพร้อมส่งสายตาที่อ้อนมากๆมาให้ผม แค่ตอนที่อยู่ในร้านผมก็อดทนตั้งนาน แล้วอยู่คนเก่งก็มาชวนผมแบบนี้
"ตอนนี้?" ผมถามเหมือนยื้อเวลาให้คนเก่งเปลี่ยนใจ
"ครับ"
"บนรถ"
"ครับ"
"หายเจ็บแล้วเหรอ" ผมไม่ใช่แค่ถามธรรมดานะครับ ผมใช้มือบีบลงไปที่สะโพกน้องเบาๆด้วย จะได้เข้าใจว่าผมหมายถึงตรงไหน
"ยังครับ แต่ทนได้" คนเก่งตอบเสียงแผ่วๆพร้อมกับเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตผมออก ปลดไปได้สามสี่เม็ดคนเก่งก็เริ่มใช้ริมฝีปากจูบลงที่แผ่นอกของผม และก่อนที่เจ้าตัวจะทำให้ผมร้องครางออกมา เพราะคนเก่งกำลังใช้ลิ้นเล็กๆของตัวเองเลียที่จุดสีน้ำตาลอ่อนบนตัวของผมไปมาหลายครั้ง โดยไม่ยอมให้ข้างใดข้างหนึ่งต้องน้อยใจ
"จะมาบอกให้พี่หยุด ก็ไม่ได้แล้วนะ" ผมพูดออกมาเสียงพร่า คนเก่งละสายตาออกจากหน้าอกผมและน้องก็ปีนขึ้นมานั่งบนตักผม
"อย่าหยุดนะครับ" คนเก่งพูดออกมาและเริ่มจูบที่ริมฝีปากผมก่อน ผมก็จูบตอบน้องกลับไป ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวไปหมดแล้วครับ พื้นที่คับแคบบนรถแต่สร้างความตื่นเต้นให้ผมเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เบาะฝั่งคนขับและน้องก็นั่งคร่อมอยู่บนตัวผม เราจูบกันโต้ตอบไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมสัมผัสบางอย่างจากร่างกายของคนเก่งที่บ่งบอกถึงความต้องการที่มันดันอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องของผม ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่คนเก่งใส่มาจนหมด ก่อนจะเปลี่ยนไปจัดการกับจุดสีชมพูเข้มทั้งสองข้างที่อยู่เบื้องหน้า เสียงครางของคนเก่งทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
"รู้มั้ยว่าหนูกำลังจะทำให้พี่คลั่งตาย" ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงพยายามสกัดอารมณ์ความต้องการของตัวเอง และผมก็ต้องสะดุ้งและร้องครางออกมาอีกครั้ง เพราะคนเก่งใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์ของผมและจับเข้าตรงส่วนนั้นของผมอย่างเต็มมือ
คนเก่งรั้งคอของผมเข้ามาจูบอีกครั้งโดนที่มืออีกข้างยังคงจับส่วนนั้นของผมอยู่ เหมือนน้องจะพยายามที่จะถอดกางเกงผมแต่ด้วยพื้นที่ในรถที่มันไม่ได้กว้างมากทำให้ค่อนข้างลำบาก
"พี่เต็มครับ เลื่อนเบาะหน่อย"
คนเก่งบอกผมเสียงเบาๆ กลายเป็นว่าน้องเป็นคนที่รู้ว่าผมควรจะเลื่อนเบาะไปด้านหลัง อันที่จริงผมก็ควรจะนึกได้แต่อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นมากจนเกินไปก็ได้
หลังจากเลื่อนเบาะออกไปจนสุด ทำให้ตอนนี้บริเวณเบาะที่ผมนั่งอยู่มีพื้นที่มากขึ้น ผมมองน้องที่อยู่บนตัวผมกำลังปลดกระดุมบนกางเกงยีนส์ของผมออก ตอนนี้คนเก่งตัวแดงไปทั้งตัวผมว่าน้องเองก็คงจะต้องอายมากแน่ๆ ผมดึงตัวน้องขึ้นมารับจูบจากผมอีกครั้งเมื่อน้องปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของผมเรียบร้อย ผมขยับสะโพกและใช้มือข้างหนึ่งถอดกางเกงของตัวเองออกจนตอนนี้กางเกงยีนส์ไปกองอยู่ที่ข้อเท้าของผม
คนเก่งใช้มือของตัวเองจับส่วนนั้นของผมอีกครั้ง พร้อมทั้งขยับไปมาขึ้นลง ผมหลุดครางออกมาอีกครั้งทำให้จากที่เราจูบกันอยู่ ริมฝีปากต้องผละออกไป คนเก่งค่อยจูบไล้บนตัวผมลงไปเรื่อยไปจนกระทั่งถึงขอบกางเกงบ็อกเซอร์ คนเก่งปล่อยมือจากส่วนนั้นของผมแต่ก้มลงจูบที่ส่วนนั้นของผมที่มันกำลังแสดงความใหญ่โตอยู่ภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์
คนเก่งที่ตอนนี้น้องกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นที่เล็กๆระหว่างพวงมาลัยกับเบาะที่ผมนั่งที่ตอนนี้เลื่อนจนสุด คนเก่งดึงกางเกงบ็อกเซอร์พร้อมด้วยกางเกงในของผมลงไปพร้อมกัน คนเก่งนั่งจ้องที่ส่วนนั้นของผมอยู่หลายวินาทีพร้อมกับผมเห็นน้องกลืนน้ำลาย จนทำให้ผมรู้สึกเขิน หลังจากผ่านไปหลายวินาทีคนเก่งก็ใช้มือจับที่ส่วนนั้นของผม ขยับขึ้นลงไปมาก่อนที่น้องจะค่อยบรรจงจูบลงไปที่ส่วนนั้นของผมอย่างแผ่วเบา จนใจผมหวิวๆ การกระทำแบบนี้ของคนเก่งทำให้ผมใจเต้นแรง
".... หนู" ผมครางเรียกคนเก่งออกมาตอนที่ส่วนนั้นของผมสัมผัสกับลิ้นและหายเข้าไปในโพรงปากของคนเก่ง ผมมองภาพตรงหน้าด้วยใจเต้นระรัวมากขึ้น
"อึก!" ผมรีบหยิบกระดาษทิชชู่เพื่อจะส่งให้น้อง เพราะผมปลดปล่อยออกมาโดยที่ทั้งผมและน้องไม่ทันตั้งตัว
"อย่ากลืน คายออกมา" ผมบอกน้องที่ตอนนี้น้องนั่งทำหน้าแปลกๆอยู่ และเอากระดาษทิชชู่ไปรองที่ตรงปากน้องเพื่อจะให้น้องคายออกมา แต่สุดท้ายคนเก่งกลับกลืนมันเข้าไปแทน
"รสชาติมันแปลกๆ" คนเก่งพูดออกมาจนผมอดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องใช้ปากทำให้ผม แต่ทุกครั้งผมจะไม่ยอมปลดปล่อยออกมาก่อนแบบนี้
"บอกแล้วว่าอย่ากลืน" ผมบอก
"ก็ .... อยากรู้ว่ารสชาติของพี่เต็ม ... เป็นยังไง ... แปลกแต่โอเคครับ" คนเก่งพูดต่อก่อนที่น้องจะใช้มือขยับที่ส่วนนั้นของผมอีกครั้ง ผมดึงตัวน้องขึ้นมาบนตัวผม คลอเคลียและจูบน้อง รสชาติของผมที่อยู่ในปากของน้องมันแปลกอย่างที่คนเก่งบอกจริงๆ
ผมว่ารสชาติของคนเก่งมันดีกว่าของผมเยอะครับ
ระหว่างที่ผมกำลังนัวเนียและเล้าโลมน้องอยู่ คนเก่งก็จัดการตัวเองด้วยการถอดกางเกงของตัวเองออก พอผมเห็นน้องทำแบบนั้น ผมรีบควานหาเจลหล่อลื่นรวมทั้งถุงยางอนามัยที่ผมจะมีติดรถติดกระเป๋าเอาไว้เสมอเผื่อฉุกเฉิน ... แบบนี้
หลังจากหาเจอเรียบร้อย ผมรีบช่วยเตรียมความพร้อมให้น้อง หลังจากนั้นผมก็แกะกล่องถุงยางอนามัยไปด้วย
"พี่เต็มจะใช้ถุงยางเหรอครับ" คนเก่งถามผมด้วยน้ำเสียงเขินอาย ผมจูบคลอเคลียกับน้อง
"ต้องใส่ครับ อยู่ข้างนอกแบบนี้ เดี๋ยวหนูจะลำบากกว่าจะกลับถึงคอนโด" คนเก่งพยักหน้ารับรู้
หลังจากที่ผมจัดการใส่ถุงยางอนามัยให้ตัวเองแล้วเรียบร้อย
"เดี๋ยวหนูทำเองครับ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความแปลกใจ คนเก่งโถมตัวเข้าจูบผม ก่อนที่น้องจะขยับตัวเองให้ตรงนั้นตรงกับส่วนนั้นของผม
"ฮึก .. " คนเก่งพยายามจับส่วนนั้นของผมให้เข้าไปที่ส่วนนั้นของตัวเอง ผมกอดเอวน้องไว้โดยพยายามที่จะระงับอารมณ์ของตัวเอง การได้มองน้องทำอะไรแบบนี้มันทำให้อารมณ์ผมขึ้นชะมัด
"พี่เต็ม .. ไม่ต้อง .. หนูจะทำเอง"
คนเก่งบอกผมตอนที่ส่วนนั้นของผมมันเข้าไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ผมก็เลยดันกระแทกเข้าไปเพราะผมเองใกล้จะไม่ไหวแล้ว ผมโอบกอดน้องและดึงเข้ามากอด พยายามดึงความสนใจให้น้องสนใจที่การเล้าโลมของผมเพื่อผมจะได้ช่วยให้น้องกลืนกินผมได้จนหมด ผมช่วยคนเก่งด้วยการดันสะโพกตัวเองขึ้นไปหาร่างกายของน้องที่อยู่ด้านบน จนในที่สุดส่วนนั้นของผมก็เข้าไปที่ร่างกายน้องจนหมด
ผมกอดคนเก่งอยู่นิ่งๆจูบซับเหงื่อของน้องที่เริ่มซึมออกมาบริเวณหน้าอกและลำคอ
"พี่ขยับนะ"
ผมบอกเพื่อให้น้องได้เตรียมตัว คนเก่งที่ซบหน้าอยู่ที่บ่าของผมพยักหน้าออกมาสองสามครั้ง ผมขยับเบาๆก่อนจะเริ่มกระแทกแรงขึ้นตามแรงอารมณ์และความต้องการ คนเก่งเองก็เหมือนจะไม่ยอมผมเหมือนกัน น้องขย่มผมบนร่างกายของผมจนผมแทบจะปลดปล่อยอีกรอบ
"อ๊ะ!"
ผมจับตรงส่วนนั้นของน้องขยับไปมารูดรั้งเพื่อช่วยให้น้องได้ปลดปล่อยพร้อมๆกับผม ปกติถ้าเรามีอะไรกันในห้องคนเก่งไม่เคยกลั้นเสียงตัวเองแบบนี้เลย แต่ตอนนี้ผมรู้เลยว่าน้องกำลังห้ามเสียงร้องของตัวเอง
"พี่เต็ม .. หนูจุก .. อึก"
ผมเบาจังหวะของสะโพกลงพอได้ยินน้องพูดแบบนี้ ก่อนจะค่อยๆเริ่มขยับใหม่จนเริ่มแรงขึ้น ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเก่งร้องครางออกมาเบาๆ ผมคลอเคลียจูบไปทั่วใบหน้าและแผ่นอกของน้อง มือของผมก็ยังรูดรั้งส่วนนั้นของน้องไปตามจังหวะของสะโพก
ไม่นานคนเก่งก็แหงนหน้าและแอ่นอกไปด้านหลัง หลังของน้องติดอยู่ที่พวงมาลัยรถ น้องร้องครางออกมาถี่ๆทำให้ผมรู้ว่าน้องใกล้จะถึงที่หมายแล้ว ทำให้ผมยิ่งต้องเร่งจังหวะทั้งมือตัวเองที่กำลังทำให้น้อง และสะโพกตัวเองที่กำลังรัวอยู่
ไม่กี่วินาทีคนเก่งก็ปลดปล่อยออกมาเต็มบริเวณหน้าท้องของผม และไม่กี่วินาทีต่อมาผมเองก็ปลดปล่อยตามน้องไปเช่นกัน คนเก่งยังคงนั่งพิงที่พวงมาลัยรถอยู่ น้องหายใจหอบด้วยความเหนื่อย ผมยิ้มกับภาพตรงหน้า ตอนนี้คนเก่งเซ็กซี่และยั่วยวนมากๆ น้องอยู่ในสภาพที่ท่อนบนมีเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมจนหมด เผยให้เห็นหน้าอกที่แดงจัดและมีเหงื่อไหลลงมา ส่วนท่อนล่างที่เปลือยเปล่ามีชายเสื้อเชิ้ตปิดบังตรงส่วนนั้นของน้องให้เห็นพอวับๆแวมๆ และผมยังไม่เอาส่วนนั้นออกมาจากร่างกายของน้อง
ผมลุกขึ้นนั่งและดึงตัวน้องมากอดและจูบอย่างปลอบขวัญ
"วันนี้หนูเก่งมากครับ" ผมเอ่ยปากชมคนเก่ง และหน้าน้องก็แดงมากกว่าเดิม
"เอาออกได้แล้วครับ .. " คนเก่งพูดออกมาเสียงแผ่วเบา ผมพยักหน้าและน้องเองก็ขยับตัวค่อยๆลุกออกจากตัวผม เห็นสีหน้าคนเก่งตอนที่ลุกออกจากตัวผม ผมรู้สึกสงสารน้องมากเลยครับ ทุกครั้งที่มีอะไรกันผมรู้สึกรักคนเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ คนๆหนึ่งเขาต้องรักเรามากขนาดไหนกัน เขาถึงได้ยอมเจ็บตัวแบบนี้
ผมช่วยให้คนเก่งขยับไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ น้องหยิบกางเกงที่วางอยู่ที่เบาะมาค่อยๆใส่ หลังจากนั้นผมก็กลับมาจัดการตัวเอง ผมหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดร่องรอยความรักของคนเก่งที่อยู่บริเวณหน้าท้องของผม และจัดการถอดถุงยางอนามัยออก ผมเอากระดาษทิชชู่ห่อถุงยางอนามัยก่อนจะวางไว้ที่บริเวณเท้า ผมดึงกางเกงของผมที่ร่นอยู่ที่ข้อเท้าขึ้นมาใส่ และติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง ผมหยิบกระดาษทิชชู่ที่ผมเตรียมจะทิ้ง และเปิดประตูรถลงมาก่อนจะเดินไปทิ้งที่ถังขยะที่อยู่ไม่ไกล
ผมเดินกลับมาที่รถและเดินไปเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับที่คนเก่งนั่งอยู่ ตอนนี้น้องแต่งตัวเรียบร้อยแล้วและกำลังนวดที่ปลายเท้าข้างขวาของตัวเองอยู่
"พี่นวดให้"
"ไม่ต้องครับ .. มันเป็นเท้านะ'
"พี่ไม่รังเกียจคนเก่งอยู่แล้ว"
ผมนั่งคุกเข่าชันขาข้างหนึ่งอยู่ตรงข้างรถฝั่งที่คนเก่งนั่ง คนเก่งนั่งหันข้างโดยหันหน้ามาหาผม ผมจับเท้าข้างขวาของน้องมานวดเบาๆ ที่ต้องทำแบบนี้เพราะคนเก่งจะมีอาการชาที่ปลายเท้าทุกครั้งที่ถึงจุดสุดยอด คนเก่งเคยชาจนถึงขั้นเป็นตะคริวตอนที่ถึงจุดสุดยอดหลายครั้งติดกัน
ผมว่ามันเป็นอาการที่น่ารักดี มันเหมือนเป็นหลักฐานว่าผมเจ๋งที่ทำให้น้องมีความสุขกับเรื่องบนเตียง
"ผมรักพี่เต็มนะ"
อยู่ๆคนเก่งพูดขึ้นมา ผมยืดตัวไปหอมที่แก้มของน้อง
"วันนี้ทำไมอ้อนจังเลย หืม .... พี่ก็รักคนเก่งนะ ... รักมากด้วย" ผมบอกรักน้องออกมาบ้าง
"จริงอ่ะ" คนเก่งมองผมและพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนผม
"หลงจะตายอยู่แล้วเนี่ย หลงมากขึ้นทุกวัน" ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบที่สะโพกน้องเบาๆ คนเก่งตีที่มือของผมเบาๆ
"ลามก" ผมหัวเราะกับคำพูดของคนเก่ง .. นี่คือด่าใช่มั้ย
"คนเก่ง .... ถ้าเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ"
ผมเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เราทั้งสองคนเงียบเพราะกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้าง มันเป็นสิ่งที่ผมคิดมาสักพักแล้วว่าจะต้องบอกคนเก่ง ซึ่งถึงแม้ว่าน้องจะรักผมแต่ผมก็ไม่ได้มั่นใจว่าน้องจะเห็นด้วย หรืออยากแต่งงานกับผมหรือเปล่า
คนเก่งมองหน้าผมด้วยสายตาที่ตกใจ จนผมไม่แน่ใจว่าน้องคิดเหมือนกับผมหรือเปล่า
คงต้องมาลุ้นกับคำตอบของคนเก่งอีกทีครับ
TBC.
#เติมเต็มรัก
ninewara✿
จะจบแล้วนะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะคะ