ตอนที่ 16 Part II
“คุณ... เข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”
มันเป็นคำถามแรกที่คุณหมอจิ๊บเอ่ยถาม เมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอผมที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้อง
ใช่ครับ ผมมานั่งรอ ไม่ได้หลบไปอยู่ใต้เตียงเหมือนเคย เพราะคิดๆ ดูแล้ว คนอย่างคุณหมอ ผมควรจะพูดตรงๆ ด้วยมากกว่าหากต้องการจะให้เขาเลิกพึ่งยานอนหลับนั่น เพราะงั้นผมถึงได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้ และตัดสินใจเผชิญหน้า แทนที่จะแอบไปเทยาทิ้งแล้วคุณหมอก็เอายาขวดใหม่มาทานอยู่เรื่อยๆเหมือนเดิม
ผมชูก๊อปปี้กุญแจบ้านที่ห้อยพวงกุญแจกระดิ่งรูปหมีขึ้น มันส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งเมื่อผมออกแรงเขย่านิดๆ คุณหมอจิ๊บเมื่อเห็นก็ทำตาเบิกโพลง แล้วก็รีบถลาตัวเข้ามาหยิบกุญแจออกจากมือผมทันที
แต่ผมก็ยกมือขึ้นสูงหลบหลีกเขาได้ทัน
“คุณมีมันได้ยังไง? ไอ้โรคจิต!!”
เขาตะโกนเสียงดังอย่างฉุนเฉียว
“คุณหมอฟังผมก่อนนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“แต่ผมไม่มี ออกไปได้แล้ว นี่มันห้องผมนะ!”
ถึงจะพยายามพูดกับเขาอย่างใจเย็น แต่ดูท่าเขาจะไม่ยอมฟังอะไรจริงๆ เพราะงั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเข้าประเด็นให้เร็วที่สุด
“คุณหมอ ผมรู้มาว่าคุณถูกพักงานเพราะติดยานอนหลับ ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะอยากจะมาขอให้คุณเลิก”
เขาทำหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดอย่างสุดๆ แล้วก็ส่ายหน้าให้ผมอย่างระอา
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี อย่างคุณจะไปรู้อะไร”
“งั้นคุณหมอก็ช่วยบอกให้ผมรู้ได้ไหมครับ...”
ผมเดินเข้าไปประชิดตัวเขา รวบเอวเขาไว้แน่น พยายามมองเข้าไปในแววตาที่แข็งกร้าว
“คุณจะบ้าหรือไง ปล่อย!”
เขาพยายามจะผลักตัวผมออก ออกแรงทึ้งผมใหญ่ แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากเขาง่ายๆ
“รู้ไหมว่าคุณหมอเกือบตายสองครั้งเพราะยานั่น...”
ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง คิ้วขมวดกันเป็นปม เขาดูนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด
“ครั้งแรก คุณเปิดแก๊สทิ้งไว้แล้วหลับไป ถ้าผมไม่ไปรีบปิดให้คุณ คุณจะยังสามารถกินยานั่นต่อได้ไหม”
“คุณพูดอะไรของคุณ ผมไม่รู้เรื่อง ปล่อยนะโว้ย! ไอ้บ้า โรคจิตหรือไงวะ!!”
ผมยกนิ้วขึ้นวางทาบริมฝีปากเขาไม่ให้พูดอะไรต่อ
“ครั้งที่สอง คุณหลับไปทั้งๆที่ยังอยู่ในอ่างอาบน้ำที่เปิดน้ำทิ้งไว้ แล้วถ้าผมไม่รีบไปอุ้มคุณออกมา คุณก็ไม่ได้มาว่าผมว่าโรคจิตอย่างนี้หรอก”
ที่ผมเอ่ย ไม่ได้หมายความว่าผมโกรธที่เขาว่าว่าผมโรคจิตหรอกนะครับ แต่ผมอยากให้เขารู้สึกตัวต่างหากว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขี้ยา ซึ่งมันก็ทำให้เขามีแต่เสียกับเสียเท่านั้น
“แล้วคุณไปรู้ว่าผมลืมเปิดแก๊สเปิดน้ำทิ้งไว้ได้ไง โม้รึเปล่า อย่าบอกนะว่ามีกล้องวงจรปิดติดไว้น่ะ?”
คุณหมอยังคงดึงดันที่จะเถียง มันก็จริง ผมไม่มีหลักฐานอะไรจะยืนยันได้ แล้วถ้าจะให้บอกว่าผมมารออยู่ใต้เตียงเขาทุกวัน เขาคงได้ยิ่งโมโหกว่าเดิมแน่
“ไงล่ะ... ถ้ามีก็เอามาให้ดูเป็นหลักฐานสิ แต่ถ้ามันมีจริงนะ คุณได้เข้าไปอยู่ในคุ...”
ผมไม่เปิดโอกาสให้คำพูดใดๆหลุดออกมาอีก ริมฝีปากเขาถูกผมประกบแน่น ได้ผล มีเพียงเสียงอู้อี้หลุดออกมาจากลำคอเท่านั้น แม้ร่างในอ้อมกอดจะพยายามจะดิ้นรนขัดขืน แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาหลุดออกไป ผมยิ่งเดินหน้ารุกล้ำต่อ และกระหวัดเกี่ยวลิ้นตัวเองให้รัดแน่นเข้ากับอีกฝ่าย ดูดเม้มให้ลิ้นรับรู้รสชาติหวานนุ่ม
เขาออกแรงจิกทึ้งผมอย่างแรง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ผมผละออกไปได้ จนกระทั่งเรี่ยวแรงที่แข็งขืนในตอนแรกค่อยๆอ่อนลง ผมจึงยอมถอนริมฝีปากออกมา
คุณหมอจิ๊บหายใจหอบแฮ่ก...
“อะ.. ไอ้ตุ๊ดโรคจิต...”
เขาเอ่ยพลางใช้หลังมือเช็ดถูปากตัวเองเสียแรง แถมยังสบถออกมาอีก ผมมันน่ารังเกียจมากเลยหรือไง?
“คุณก็ไม่ต่างจากผมหรอก...”
ก็ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งผมไม่มีทางจำผิด คุณหมอเองไม่ใช่เหรอ ที่เป็นคนจูบผมก่อนน่ะ
“หมอปกติที่ไหน เขาจูบคนไข้ไม่รู้สึกตัวกันบ้างล่ะ”
ผมเอ่ยเสียงนิ่ง ต่อจากนี้ คุณหมอจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ยอมเป็นจำเลยให้เขาเสมอไป เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็เหมือนมีอากาศอุดอยู่ที่ลำคอไว้ เนื้อตัวเขาสั่นเทิ้ม ใบหน้าก็เริ่มแดงก่ำ
“คุณจะว่าผมงั้นเหรอ คุณจะว่าผมใช่ไหม? ผมช่วยคุณไว้นะ”
เมื่อตั้งสติได้ เขาก็เริ่มออกแรงผลักผม แล้วก็โวยวายออกมาไม่หยุด
“ผมเป็นฝ่ายช่วยคุณนะ คุณต้องขอบคุณผมสิ ทำไม ผมมันเป็นหมอที่เลวมากใช่ไหม ผมเป็นหมอที่ทำผิดพลาดไม่ได้เลยใช่ไหม”
พอเขาเอ่ยออกมาอย่างนี้ ผมก็เริ่มจะเข้าใจสิ่งที่ทำให้คุณหมอเครียดแล้วว่ามันมีสาเหตุจากอะไร นี่ผมพึ่งจะทำให้เขาเครียดกว่าเดิมหรือเปล่า?
“คุณหมอครับ คนเราผิดพลาดกะ...”
เขาไม่ยอมให้ผมอธิบายจนจบ ก็รีบตวาดผมต่อ แล้วยังดันตัวผมออกไปยังทางประตูด้วย
“คุณอย่ามาพูดเหมือนรู้ดีหน่อยเลย ออกไปได้แล้ว คนอย่างคุณผมไม่อยากเห็นหน้า”
“ผมไม่ออก ผมจะอยู่กับคุณ คุณเป็นคนเรียกให้ผมตื่นขึ้นมาไม่ใช่เหรอ ผมก็ตื่นขึ้นมาแล้วไง แล้วทำไมต้องผลักไสผมออกไปด้วย”
ผมรวบตัวเขาไว้แน่น ผมจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ผมจะไม่ยอมทิ้งเขาไป ในเวลาแบบนี้หรอก
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ...”
“ผมจะปล่อยก็ต่อเมื่อคุณสัญญาว่าจะไม่ทานยานอนหลับนั่นอีก”
“ทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วยเล่า... ปล่อย!”
“เปิดใจรับผมบ้างเถอะนะครับ ผมเป็นห่วงคุณนะ ถ้าคุณเป็นอะไรไปขึ้นมา คนไข้อีกกี่ร้อยคนเขาจะเสียใจที่คุณหมอดีๆอย่างคุณมาอายุสั้นนะ”
คุณหมอสะดุดกึกทันทีที่ผมพูดจบ...
“นี่คุณ... แช่งให้ผมอายุสั้นงั้นเหรอ?”
ผมส่ายหน้า ทำไมคุณหมอเขาชอบตีความคำพูดของผมผิดอยู่เรื่อยเลย
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ... ผม...”
“ก็ได้ๆ... ผมไม่กินก็ได้ ปล่อยก่อนสิคุณ...”
จู่ๆเขาก็มีท่าทีอ่อนลง หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งที่ผมอยากจะสื่อแล้ว? ผมจึงเริ่มคลายอ้อมแขนออก พลางมองใบหน้าเขาที่เริ่มยิ้มเม้มปากเป็นเส้นตรงจนตาหยีกว่าเดิม
ผมยิ้มตอบให้เขา...
คุณหมอก้าวเท้าห่างออกจากผมไป แล้วก็ไปยืนเอามือเท้ากำแพงไว้ เขายังคงหันหน้ามายิ้มให้ผมอยู่
“ไอ้โง่”
!!!
พูดแล้ว เขาก็รีบหยิบขวดยาเล็กๆออกจากกระเป๋ากางเกงตัวเอง แล้วกรอกมันเข้าปากทันที!
.
.
TBC
______
Talk: มาลงต่อแล้วค่า ขอบคุณที่ติดตามคุณหมอกับคุณชายนะคะ ^^