คริสเฝ้ามองหนุ่มน้อยหลับสนิทด้วยความรู้สึกที่ต่างจากเมื่อคืนวานโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกในคืนนี้เปี่ยมล้นด้วยความสุข
แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าระยะเวลาเพียง 11 เดือน เจ้าหนูผู้นี้ผ่านความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสมาแล้วถึง 2 ครั้ง การได้พบเจอกันระหว่างเขากับไมเคิลเป็นเรื่องเหลือเชื่อ หนุ่มน้อยร้องหาและเรียกให้เขาเข้าไปช่วยออกจากซอกหินบนเกาะร้างในฐานะพ่อ จริงๆ แล้ว ชีวิตของไมเคิลควรเป็นสิทธิของเขานับตั้งแต่นาทีนั้น เขาไม่ควรปล่อยให้ไมเคิลกลับไปกับลินดา ทำให้หนุ่มน้อยต้องพบกับชะตากรรมที่ลำบากและทุกข์ทรมานอีกครั้ง ขอบคุณพระเจ้าที่ปราณีต่อชีวิตเจ้าหนูที่แสนจะอาภัพผู้นี้ให้รอดพ้นจากโรคร้ายที่แสนจะน่ากลัว และอ้อนวอนต่อพระองค์ขอให้เคราะห์กรรมของไมเคิลจบสิ้นแต่เพียงนี้ด้วยเถิด
คริสสัญญากับตัวเองว่า เขาจะทำหน้าที่พ่อให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พ่อคนอื่นๆ ทำกัน แม้จะต้องสละความสุขหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนตัวบางเรื่องเขาก็ยอม
สีหน้าและอาการกระสับกระส่ายทำให้คริสรู้ทันทีว่าหนุ่มน้อยกำลังฝันร้ายอีกแล้ว
“แด๊ด... แด๊ดดี้อย่าไป”
“แด๊ดอยู่นี่ไมเคิล..”
ไมเคิลสะดุ้งตื่นผวากอดคริสแน่น
“แด๊ดอย่าไปนะ อย่าทิ้งผมไป ผมจะอยู่กับแด๊ด...”
“แด๊ดไม่ได้ไปไหน ไมเคิล.. แด๊ดอยู่นี่ อยู่กับลูกตรงนี้แล้วไง หือ..”
“มีคนจับผมไว้ไม่ยอมให้ผมไปกับแด๊ด.. เขาบอกว่าผมต้องอยู่สถานสงเคราะห์ ผมไม่อยากอยู่ที่นั่น ผมจะอยู่กับแด๊ด.. เมื่อไรเราจะได้อยู่ด้วยกันซะที… ฮึก..ฮือ ~ ~…”
ไมเคิลละล่ำละลักบอกกล่าว น้ำตาไหลพรากเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ คริสสวมกอดร่างเล็กแน่น ใจหายตามไปด้วย เพราะเรื่องที่ได้ยินหากเขาเป็นคนฝันก็คงตกใจตื่นเช่นกัน
“ลูกฝันร้ายไมเคิล แค่ฝันเท่านั้น เราสัญญาว่าจะไม่จากกันอีกแล้วไง แด๊ดไม่ยอมให้ลูกไปอยู่กับใครทั้งนั้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป..”
ไมเคิลสงบลงเพราะรู้สึกตัวแล้วว่าเป็นความฝัน แต่ยังย้ำคำถามเดิมเพื่อความแน่ใจ
“ผมไม่ต้องไปอยู่สถานสงเคราะห์ใช่มั้ยครับ”
“เหลวไหล สถานสงเคราะห์เกี่ยวอะไรด้วย ลูกไม่ได้กำพร้าพ่อซะหน่อย แค่กำพร้าแม่เท่านั้น แด๊ดเป็นพ่อของลูกไม่ใช่หรือไมเคิล หือ… บอกกับศาลหรือใครๆ ก็ได้ ถ้าเขาไม่เชื่อก็เอารูปแด๊ดที่มีลายมือแม่ของลูกเขียนไว้ให้พวกเขาดู”
หนุ่มน้อยมีสีหน้าโล่งอก ยิ้มออก
“จริงด้วย”
สองพ่อลูกสวมกอดและหัวเราะให้กัน คริสไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาพูดอะไรออกไป แต่ทุกคำพูดออกจากความรู้สึกในใจเหมือนเขาคือบิลจริงๆ จริงซีนะ... ในเมื่อลินดาจากไปแล้ว หากเขายอมรับกับทุกคนว่าเขาคือพ่อของไมเคิล เขาก็คือพ่อของไมเคิลจริงๆ จะแปลกอะไรถ้าบิลและคริสจะเป็นคนๆ เดียวกัน ขอบคุณลินดาที่อุตส่าห์เขียนบอกว่าชายในรูปคือพ่อของไมเคิล และโชคดีเหลือเกินที่รูปใบนั้นยังอยู่ที่เขาจนถึงบัดนี้
…f a t h e r h o o d…
คริสยืนกอดอกบนระเบียงห้องพักมองลงไปที่สนามด้วยอารมณ์เบิกบานใจ นานแล้วที่เขาไม่ได้พบกับบรรยากาศของความสุขและเสียงหัวเราะเช่นนี้ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่วิ่งไล่ลูกบอลกันกลางสนาม สมาชิกทั้งหมด 9 คน แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมหนุ่มใหญ่มี 4 คน นำทีมโดยแฟรงค์ แพ็ททริค พ่อบ้านลู โชเฟอร์จอนนี่ นายชมคนสวน ทีมหนุ่มน้อย มี 5 คน โอ แจ๊ค บอย ทิม และลูกชายวัยโจ๋ของเขา ไมเคิล คริสอดยิ้มไม่ได้เมื่อเจ้าหนูไมค์ซึ่งตัวเล็กที่สุดในทีม สามารถแย่งลูกและส่งต่อให้เพื่อนได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของไมเคิลทำให้อารมณ์ของคริสสดชื่นและเบิกบานมากยิ่งขึ้น ณ เวลานี้เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว หนุ่มน้อยไมเคิลผู้อาภัพจะเติบโตขึ้นมีชีวิตและอนาคตที่สดใสเสียที ด้วยฝีมือการเลี้ยงดูของพ่อบุญธรรมมือใหม่อย่างเขา คริส บริเจคส์ มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่ผู้เคยมีชีวิตผูกพันอยู่กับงานและเด็กหนุ่ม แต่เดี๋ยวนี้หนุ่มน้อยเหล่านั้นไม่มีความหมายสำหรับเขาอีกต่อไป เพราะเขาได้พบสิ่งที่พยายามค้นหาโดยไม่รู้ตัวแล้ว
หลายปีที่ผ่านมาเขาเอ็นดูเด็กหนุ่มที่ถูกชะตาด้วยทุกคนโดยไม่รู้ตัวว่านั่นคือการค้นหา เขากำลังค้นหาใครบางคนที่มีจิตผูกพันกับเขา
และวันนี้เขาค้นพบใครคนนั้นแล้ว....เด็กชายไมเคิลเรียกหาพ่อของตัวเองตั้งแต่อายุ 5 ขวบ มันคงไม่ผูกพันมาถึงเขาได้ หากรูปเขาไม่ใช่ตัวแทนของพ่อที่เจ้าหนูนึกถึงและเรียกหามานานกว่า 7 ปี
...f a t h e r h o o d…
“อ๊ะ!! .. อา~~.. หยุดทำไมอ่ะคริส.. อือออ~~ ”
แฟรงค์ร้องครางอย่างขัดใจเมื่อร่างสูงหยุดการเคลื่อนไหวทั้งที่กำลังจะถึงจุดปลดปล่อยพร้อมกันแล้ว
“ฉันยังไม่อยากถึง...” เสียงทุ้มแหบพร่า นานมากแล้วที่เขาร้างจากความรู้สึกนี้ จึงอยากอดกลั้นและเก็บความสุขสมนี้ไว้นานๆ
“อือ~~ แต่ผมอยากอ่ะ ช่วยผมด้วย คริส...”
“สัญญาก่อนว่าจะให้ฉันกอดทั้งคืน”
“โอเค ผมให้คุณกอดทั้งคืน ตอนนี้ได้โปรดช่วยผมก่อน คริส..”
คริสขยับกายตามคำร้องขอ เสียงครางอย่างพึงพอใจและสีหน้าสุดเซ็กซี่ของหนุ่มแฟรงค์ในเวลานี้เร้าอารมณ์ให้คริสต้องเร่งขยับกายหนักหน่วงและรุนแรง เพียงชั่วครู่ก็ถึงจุดปลดปล่อยพร้อมกัน
ร่างสูงโน้มตัวลงซบนิ่งบนร่างของชายหนุ่ม เสียงทุ้มกระซิบถาม
“เจ็บหรือเปล่า แฟรงค์ ฉันทำรุนแรงหรือเปล่า หือ..”
แฟรงค์หน้าแดงส่ายหน้าด้วยอาการเขิน
ไม่เคยเจอคำถามนี้จากคริส คริสถามเหมือนเขาเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งเคยมีเซ็กซ์เป็นครั้งแรก คืนนี้อารมณ์ปรารถนาของคริสรุนแรงมาก สอดใส่โดยที่ร่างกายเขายังไม่พร้อมทำให้เขาเจ็บจนเผลอร้องครางออกมา แต่เมื่อร่างสูงขยับกายแค่ 2-3 ครั้ง ความเจ็บก็หายเป็นปลิดทิ้ง
คริสถอนกายออกแผ่วเบาและล้มตัวลงนอนสวมกอดชายหนุ่มไว้ด้วยความรักและเสน่หา นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ในสภาพร่างกายและจิตใจที่ผ่อนคลายเช่นในคืนนี้ เมื่อความทุกข์ในอกคลายลง จิตใจสบายร่างกายก็ต้องการผ่อนคลายด้วยเช่นกัน คืนนี้เขาเป็นคนออกปากให้แฟรงค์ขึ้นมานอนด้วย แฟรงค์ตอบรับด้วยความยินดี มาถึงก็กระโดดขึ้นเตียงคว้าหมอนข้างนอนกอดเหมือนทุกคืนที่เขาให้มานอนเป็นเพื่อน แต่เมื่อเขาเอ่ยปากขอมีเซ็กซ์ด้วย จอมกะล่อนแฟรงค์ก็ตาลุกวาว
สลัดหมอนข้างลงจากเตียงขยับเข้ามากระแซะเปิดเกมรักก่อนทันที
“แฟรงค์..”
“หือ..”
“มีความสุขหรือเปล่า..”
แฟรงค์หน้าร้อนผ่าว ไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มใหญ่ข้างกายเขาคืนนี้คือคริส บริเจคส์ คนเดิม อารมณ์รักรุนแรงมากขึ้นในขณะที่คำพูดอ่อนโยนห่วงใยความรู้สึกเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“แน่นอนคริส.. คืนนี้ผมมีความสุขที่สุด แล้วคุณล่ะมีความสุขมั้ย..”
“สุขหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันหวงแหนความรู้สึกเวลาที่ได้กอดนาย ฉันคงทนไม่ได้ถ้านายไปนอนกับใครนอกจากฉัน”
“ผมบอกคุณแล้วไง ตั้งแต่ผมขึ้นมารับใช้คุณอีกครั้ง ผมไม่เคยนอนกับใครอีกเลย นอกจากเด็กของเรา”
คริสผละจากแฟรงค์ลุกขึ้นนั่ง สีหน้าเฉยแต่แววตาครุ่นคิด แฟรงค์รีบลุกขึ้นอธิบาย
“โกรธผมไม่ได้นะ!!.. ก็เพราะคุณน่ะแหล่ะไม่ต้องการพวกเขา เด็กก็เลยวิ่งมาหาผม คุณเองก็ยังเคยไล่ผมไปหาพวกเขาเลย..”
“ทุกคนเลยเหรอ..” คิ้วเข้มขมวด
“ก็.. แค่โอกับบอย...”
คริสนิ่งเงียบจนแฟรงค์คิดว่าอีกฝ่ายโกรธและไม่เชื่อใจเขา
“ถ้าคุณโกรธผมก็ขอโทษ ผมสัญญาว่านอกจากคุณแล้วผมจะไม่นอนกับใครอีก...”
“ฉันไม่ได้โกรธนาย.. ฉันรู้สึกผิดมากกว่า คงต้องเรียกพวกเขาขึ้นมาหาทางชดเชยให้”
แฟรงค์ใจหายเมื่อคริสคิดจะเรียกเด็กขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วแต่คุณ คุณเป็นเจ้านาย อยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น” แฟรงค์ล้มตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้เจ้านายสุดที่รักด้วยความรู้สึกน้อยใจ
คริสระบายยิ้ม น้อยครั้งที่จะเห็นแฟรงค์ออกอาการแง่งอนแบบนี้
“คิดว่าฉันควรจะทำยังไงหรือแฟรงค์..”
“แล้วแต่คุณ ผมยังไงก็ได้ ให้ผมอยู่รับใช้ต่อ หรือจะให้เด็กๆ ขึ้นมาปรนนิบัติเหมือนเดิมก็แล้วแต่คุณ..” แฟรงค์ตอบทั้งที่หันหลังให้
คริสหัวเราะ เอนกายพิงหัวเตียงในท่าสบาย
“เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือแฟรงค์.. ว่าฉันไม่คิดจะมีอะไรกับเด็กหนุ่มอีก..”
“แล้วการนอนกับฉัน สำหรับนายก็ไม่ควรใช้คำว่า
รับใช้.. เพราะถ้าเป็นการรับใช้ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ฉันคงไม่ขอกอดนายทั้งคืนหรอก..”
แฟรงค์หันกลับมาเบียดกระแซะร่างสูง อ้อนถามเอาใจ
“ก็คุณบอกว่าจะชดเชยนี่นา จะให้อะไรพวกเขาเหรอ..”
“เรื่องของเด็กไว้คุยทีหลัง ตอนนี้คุยเรื่องของเราก่อน ฉันมีเรื่องอยากตกลงกับนาย นับจากวันนี้นายเป็นคนเดียวที่ฉันจะนอนด้วย เพราะงั้น.. ฉันก็ต้องเป็นคนเดียวของนายด้วยเหมือนกัน ”
“หมายความว่า.. แม้แต่โอกับบอยก็ห้ามใช่มั้ย”
“กับเด็กสี่คนนี้ฉันไม่ห้าม อยู่ที่นายจะเห็นสมควร แฟรงค์.. ถ้าฉันเรียกเด็กขึ้นมาปรนนิบัติเหมือนเดิมแล้วทำให้ใจนายไม่เป็นสุข ขอให้รู้ว่าความรู้สึกของฉันก็ไม่ต่างกัน มันไม่สำคัญว่านายเป็นคนทำหรือถูกกระทำ ความหวงแหนของฉันอยู่ที่ร่างกายนี้...” มือใหญ่ไล้แผ่นหลังร่างเปลือยของชายหนุ่มที่นอนซบอกเขาอยู่..
แฟรงค์หัวใจพองด้วยความยินดี สวมกอดร่างกำยำแน่น
“ผมสัญญา คริส.. นับจากนี้ไปผมมีคุณคนเดียวแน่นอน.. ไม่ว่าคุณจะเห็นผมอยู่ในฐานะอะไร ขอให้รู้ว่าผมอยู่กับคุณด้วยความรัก ไม่ใช่เพราะเงิน..”
“จริงเหรอ.. ถ้างั้นเงิน 5 ล้านที่จะขอเบิกก็ไม่ต้องแล้วซี..”
แฟรงค์ตาลุกวาว ลุกพรวดขึ้นนั่ง
“หา!!!.. ไม่เกี่ยวนะ คริส... นั่นเป็นเงินลงทุนทำธุรกิจนะ!!.. ”
คริสหัวเราะ ดันร่างชายหนุ่มลงนอนและโน้มกายลงคร่อม
“ฉันมีความลับอะไรจะบอก แฟรงค์..”
“อะไรเหรอ..”
“ฉันรู้สึกดีกับนายตั้งแต่วันที่ฉันกอดนายครั้งแรกแล้ว.. ฉันเพิ่งแน่ใจว่าฉันชอบนายตอนที่ไมเคิลจากไป วันที่นายกลับมาให้ฉันกอดอีกครั้ง.. วันนั้นฉันถึงได้รู้...”
แฟรงค์หน้าแดงซ่าน
ไม่อยากเชื่อว่าถ้อยคำหวานนี้เป็นคำพูดของคริส
“ผมก็มีความลับจะบอกคุณ..”
“อะฮะ”
“ผม.. ไม่เคยให้ใครเข้ามาในร่างกายผม คุณเป็นคนแรกและคนเดียวของผม คริส.. คุณจะเชื่อรึเปล่าก็แล้วแต่คุณ ผมแค่อยากบอกว่า.. ผมตั้งใจจะเป็นของคุณคนเดียวตั้งแต่วันแรกที่ผมนอนกับคุณแล้ว..”
คิ้วเข้มเลิกขึ้น ดวงตาคู่สวยวาววับ
“คุณไม่เชื่อเหรอ..” แฟรงค์หน้าเสียเมื่อคริสอมยิ้มกับพูดของเขา
“ช่างเถอะ! คิดซะว่าผมไม่ได้พูดล่ะกัน เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครเชื่อหรอก ในสายตาคุณผมคงเป็นแค่เลขาจอมกะล่อน เที่ยวแร่ดไปกับ..”
มือใหญ่ปิดปากที่กำลังฉอดๆ ไว้ เสียงทุ้มกระซิบแผ่ว
“ฉันเชื่อ.. ร่างกายนายบอกฉันแล้ว แฟรงค์..”
คริสปล่อยมือ แฟรงค์ยิ้มเขินหน้าแดงแล้วแดงอีก
“แต่ถึงจะรู้ ฉันก็อยากลองพิสูจน์ดูอีกสักครั้ง พร้อมจะให้ฉันพิสูจน์อีกรอบรึยังแฟรงค์ หือ.. ”
แทนคำตอบหนุ่มแฟรงค์โน้มลำคอร่างสูงมอบจุมพิตที่ดูดดื่มให้ หัวใจพองคับอกเมื่อได้รู้ความลับในใจของคริส ต่อให้ต้องพิสูจน์ทั้งคืนเขาก็เต็มใจยอมพลีกายให้..
... ผมสบายอยู่แล้ว อยู่ที่คุณแหล่ะ คริส..
จะมีแรงพิสูจน์ผมสักกี่ยกเชียว หุ หุ ...
…f a t h e r h o o d…
คริสเรียกหนุ่มน้อยทั้งสี่มาพูดคุยด้วย ทุกคนเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของเขา ไม่มีใครท้วงถามถึงเหตุผล แจ๊คและทิมออกอาการดีใจ โอและบอยสลดแต่ทุกคนก็เข้าใจและเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าเป็นคุณแฟรงค์ พวกเขายินดีและเต็มใจแต่ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาไม่ยอม
คริสเอ่ยปากให้ทุกคนมีสิทธิเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง จะอยู่ที่คฤหาสน์บริเจคส์ต่อไปหรือจะกลับไปอยู่กับครอบครัวก็ได้ แต่ไม่อนุญาตให้แยกไปอยู่ตามลำพังจนกว่าจะเรียนจบ เขายินดีที่จะอุปการะเลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนจนจบการศึกษาเท่าที่ความสามารถของแต่ละคนพึงมี.. ทุกคนไม่คิดจากไป ต่างให้เหตุผลเดียวกันว่าจะขออยู่เพื่อทดแทนบุญคุณ
คริสยินดีเมื่อทุกคนสมัครใจขออยู่เป็นครอบครัวเดียวกับเขาต่อไป แต่ใครจะรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของหนุ่มน้อยแต่ละคนคืออะไร ทรัพย์สมบัติมากมายของมหาเศรษฐีบริเจคส์ ที่มีลูกชายบุญธรรมเพียงคนเดียว อาจจะตกถึงมือพวกเขาบ้างก็ได้ ไม่มากก็น้อย..
เรื่องนี้เป็นยังไงบ้างคะ ต่างจากเรื่องเจ้านายเลยเนอะ เรื่องนั้นมีแต่รอยยิ้ม ชุ่มชื่นหัวใจ เรื่องนี้อ่านแล้วหน้านิ่ว หัวใจบีบรัด เต้นตุ้บๆ ลุ้นแล้วลุ้นอีก ดีนะที่ได้อ่านต่อเนื่อง ไม่ต้องค้างคา
นิยายเจ๊หมวยได้หลายรส หลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน
รอภาค 2 ต่อปาย ทำใจให้เข้มแข็งเหมือนเดิมล่ะ
ลัลล้า