จบแล้วครับ
ตอนที่ 44ในบ้านชั้นล่างตอนนี้นอกจากเฮียซาโต้ที่นั่งจิบเบียร์อยู่กับเฮียพี และผองเพื่อนแล้วยังมีไอ้เบิร์ดที่เข้าไปช่วยพี่หน่อยล้างจานในครัว ส่วนไอ้อ๋องนั่งดูซีดีการ์ตูนชินจังอยู่กับคีย์ หัวเราะกันร่วนเมื่อไอ้อ๋องทำท่ากระดกก้นแบบชินจัง
“กูจะบ้า” คีย์ทำท่าหัวเราะกลิ้ง ไอ้อ๋องเลยหันมาถีบ
“ห่าตาโปน หัวเราะดังเดี๋ยวน้องตื่น”
คีย์ทำคอย่นแลบลิ้น หันมามองคุณลุงรูปหล่อแต่ดุที่วงเหล้า
ยิ้มไม่เปิดปาก แค่พยักหน้าคีย์ก็ลุกมานั่งข้างหลัง
“ผมกินเบียร์ได้ยัง”
“ยัง”
สั้นๆได้ใจความ คีย์ยิ้มจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง “โห...จิบเดียวได้มะ”
“ไม่”
“สั่งไอ้อ๋องไอ้เบิร์ดไว้ใช่มั้ยเนี่ย มันถึงได้คุมผมแจ”
“ถูกต้อง”
คีย์คอตก
“ใจร้ายอ่ะ ทุกคนกินได้ ผมต้องกินน้ำอัดลมอยู่คนเดียว”
“ดีแล้ว” พี่บอกแล้วดึงจมูกดื้อรั้นเบาๆ
“แต่อยากกินอ่ะ”
พี่หันมามอง “อยากกินจริงหรือ”
“เปล่า...โกหกรับมุกไปงั้นแหละ”
คีย์บอกแล้วทำท่าจะขยับหนี
“แสบนะเนี่ยพออยู่กับเพื่อนแล้วแพรวพราว”
ไอ้เบิร์ดเอายำหมูย่างออกมาวาง คีย์กลับมาใหม่อ้าปากให้พี่จิ้มเนื้อหมูป้อนให้
“อ๊ากกกกก เผ็ดๆๆๆๆ” คีย์ร้องลั่นวิ่งมาคายทิ้งใส่ถังขยะในครัว
พี่หน่อยคนทำยำหมูย่างพลอยหน้าตาตื่น
“เผ็ดหรือคะ ขอโทษๆ”
“มากอ่ะ มากคูณ100” คีย์หน้าแดง ปากแดง แลบลิ้นโบกไปมา ขณะที่เสียงหัวเราะข้างหลังดังไม่เลิก
พี่เดินตามเข้ามาในครัว รอยยิ้มยังระบายเต็มหน้า ในมือมีแก้วใส่น้ำแข็ง
“ขอโทษ”
“ไม่ต้องเลย เจตนาแกล้งอะดิ” บ่นไปน้ำตาร่วงผล็อย
“กินน้ำแข็ง” พี่บอกแต่กลับหยิบน้ำแข็งในแก้วใส่ปากตัวเอง
คีย์ตาโตแทบหลุดออกมานอกเบ้า ก้าวเท้าถอยหลัง แต่ยังเห็นพี่หน่อยที่ก้มหน้ารีบออกมาจากครัว
“พะ พี่ ขะ ข้างนอกคน เพียบ”
“อืม กินน้ำแข็งไง” พี่ดันคนตัวเล็กติดมุมห้องครัว 2 มือช้อนคอดันใบหน้าเงยรับน้ำแข็งก้อนเล็กไหลลงมาพี่ม้วนกักไว้ในลิ้นนุ่ม
คีย์กอดเอวพี่ไว้หลวมๆ ขณะที่ขาแข็งแรงเบียดแทรก ยกขาเรียวเล็กข้างหนึ่งขึ้นมาพาดต้นขา
จูบจนน้ำแข็งละลายหมดก้อน
“หายเผ็ดหรือยัง”
คีย์พยักหน้า เหลือบมองไปที่ประตูครัว
“มองพี่”
ดวงตากลมหันกลับมาทันที “ฮะ”
“หายเผ็ดหรือยังครับ”
คีย์ช้อนมอง “ยัง”
อันนี้ยังไม่หายเผ็ดจริงๆ ไม่ได้อ้อนกลัวคนเห็นจนมือสั่นแล้วเนี่ย
พี่หยิบน้ำแข็งอีกก้อนส่งผ่านปลายลิ้น แขนแข็งแรงโอบรัดเอวบาง แต่พอเสื้อยืดสีอ่อนถูกรั้งขึ้น คีย์ก็ตาเหลือก
“ไม่ๆๆๆ”
ยังไม่หายเผ็ดก็ช่างมันเหอะ
“นิดเดียว”
“ไม่นิด”
“นะ”
“ไม่นะ”
“คีย์ครับ”
“ถ้าไม่หยุด อด 3 เดือน”
“ห๊ะ”
พี่ร้องเสียงดัง หยุดนัวเนีย แต่ยังไม่ถอยออก
“ไม่ต้องห๊ะเลย อดจริงๆด้วย”
“โห ตั้ง 3 เดือน”
พี่ถอยออก คีย์รีบดึงเสื้อลง “ไม่ต้องมาทำเป็นร้องเลย ชอบแกล้งดีนักสมน้ำหน้า”
คีย์บอกแล้ววิ่งหนีออกมาจากครัวเจอกับไอ้แมนไอ้เอกที่เดินลงบันได
ไอ้เอกปากแดงแช๊ด พอๆกับคนที่ออกมาจากครัว ต่างคนต่างมองหน้ากัน
แต่ให้ตายเถอะมีอยู่คนเดียวที่เก้อเขินไม่เลิก
อีก 3 คนน่ะเขาเฉยมาก ยิ่งพระเอกนะยิ่งทำเหมือนกับว่าเมื่อกี้ขึ้นไปสนทนาธรรมกันงั้นแหละ
แล้วก็ยังมีอีกคนหาญกล้าไม่กลัวตาย
“ขู่คนกลัวได้ทั้งเมือง เจอไอ้ตัวเล็กเข้าไปถึงกับร้องเสียงหลง”
“สัดพี แดกๆไปเลยนะมึง”
ไอ้เอกนั่งลงข้างๆคีย์ รับกระป๋องเบียร์จากไอ้เบิร์ด
“มึงดูชินจังกันเหรอเนี่ย”
คีย์หันไปมองนาฬิกา แล้วเอนตัวลงจะนอนตักไอ้อ๋องดูทีวีต่อ
เสียงกระแอมดังขึ้นด้านหลังไอ้อ๋องรีบผลักหนุ่มตัวเล็กออก “กูอยากตายแบบชิ้นส่วนอยู่ครบ”
“เชี่ย ขอนอนหน่อยดิ” คีย์บอกขณะที่ดึงขาไอ้อ๋องจะนอนหนุน แต่พอไม่ได้ก็หันมาหาไอ้เอก “เอกนอนหน่อย”
“ขอกอดก่อนแล้วให้นอน”
ไอ้เอกบอกแล้วกอดเพื่อนตัวเล็กจริง ๆ คีย์ชะโงกมองข้ามไหล่คว้ากระป๋องเบียร์ไอ้เอกมาจิบอึกใหญ่
“สัดเดี๋ยวหลับ” ไอ้เบิร์ดที่นั่งอยู่ข้างๆ รีบแย่งกลับมา
“หลับบนตักไอ้เอกไง” คีย์เลื้อยนอนตักไอ้เอกดูการ์ตูนต่อ
วุ่นวายจนไม่ได้รู้ว่ามียักษ์นั่งมองตาแทบหลุด กระแอมจนลูกกระเดือกเกือบแตกเป็นเสี่ยง
“ก่อนนี้นั่งซบยังถีบ เดี๋ยวนี้ขอกอดก็ให้กอดโว้ย” ไอ้อ๋องว่า
“กูกอดออกจะบ่อย” ไอ้เอกทำยืด ไอ้เบิร์ดเลยหันไปฟ้อง
“เฮีย ไอ้เอกมันบอกว่ากอดไอ้ตาโปนบ่อย”
ไอ้พระเอกเพิ่งนึกออก แต่ที่ทำตาเหลือกอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่กลัวเฮียซาโต้ แต่กลัว...ไอ้คิ้วแหว่งที่นั่งทำหน้ามึนต่างหาก
ไอ้เบิร์ดหยิบกระป๋องเบียร์ไอ้เอกขึ้นมาเขย่า
“เอก มึงแดกเบียร์ไวขนาดนี้เลยหรือวะเนี่ย ลงมาก้นยังไม่แตะพื้นยังไม่ทันอุ่นหายไปครึ่งแล้ว”
ทุกสายตาหันไปมองคนที่นอนดูการ์ตูน เงยหน้าขึ้นมาทำตาใสซื่อ
“ไอ้ตาโปนขโมยเบียร์กูตอนไหนวะเนี่ย”
“ไรวะ ขอนิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้” คีย์กลิ้งตัวหนี
“เรื่องอื่นช้า แต่ขโมยแดกเบียร์ไวนะมึง” ไอ้อ๋องหันมาซ้ำ
คีย์คลานไปคว้าขาของไอ้แมนแล้วลงนอนกอดขาไว้
“นอนหน่อย เริ่มมึนๆแล้วอ่ะ”
พี่ขยับลุกขึ้น
“ปะ กลับบ้าน”
“เดี๋ยวก็ได้”
แต่ตอนนี้ทุกคนลุกขึ้นแล้ว คีย์ก็เลยเดินเป๋ๆตามออกมาด้วย
“มันขโมยเบียร์ของทุกคนแดกหมดเลยหรือวะเนี่ย” ไอ้อ๋องพลอยเขย่ากระป๋องเบียร์ตัวเองที่เบาโหวง
เฮียพีเดินตามมาส่งถึงรถ พี่หันมาบอกเบาๆ “อย่ายกแก๊งค์มากินเหล้าที่บ้านแบบนี้ โดยไม่มีพวกไอ้แมน เพราะมันไม่ปลอดภัยต่อหนูนิด กับหน่อย”
เฮียพีหันไปมองข้างใน เหมือนเพิ่งคิดได้เหมือนกัน
“เดี๋ยวผมจะบอกให้หน่อยขึ้นไปอยู่กับหนูนิด”
“อือ...ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเพื่อนมึง แต่เหล้าเข้าปากคนก็กลายเป็นตัวอะไรก็ได้ทั้งนั้น บอกว่าจะดูแลเขาให้ดี ก็ต้องคิดให้รอบคอบกว่าเดิม”
จนเมื่อเข้ามาอยู่ในรถ พี่หันมามองคนที่ทำหน้ายิ้มแป้น
“อะไร”
“อยากยิ้ม”
พี่ดึงจมูกดื้อรั้น “หลับไปเลยก็ได้เดี๋ยวพี่ปลุกเอง”
“เหนื่อยมั้ย”
คีย์ขยับนั่งหันหน้ามาหาพี่ตรงๆ
“ไม่นี่ เรื่อยๆไปตามปกติ”
“เรื่องจะจบลงด้วยดีมั้ย”
“มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองที่มุมไหน อย่างเรื่องของคีย์ถ้าติดอยู่กับความกลัวว่าจะเป็นภาระ ก็เป็นภาระแต่เมื่อคีย์มองว่าเป็นความท้าทาย เปลี่ยนความสนใจไปที่เรื่องอื่น คีย์ก็ลืมๆมันไปใช่มั้ย”
คีย์พยักหน้าคิดตาม “แต่พี่ก็เหนื่อยเพราะผมเอาเรื่องเหมือนกัน”
“ไม่หรอก พี่ก็มองว่ามันคือความท้าทายของพี่ไง”
“สมกับเป็นพ่อมด อ๊ะ...ไม่ใช่สิ” คีย์ทำตาโตยกมือ “พี่อย่าเพิ่งดุว่าผมดูละครมากไปนะ”
พี่พยักหน้า ดวงตาจ้องมองถนนข้างหน้า
“ผมว่าพี่เหมือนต้นไม้ใหญ่อ่ะ อยู่ที่นี่ ตรงนี้ มีนกเข้ามาเกาะทำรัง เกาะกิ่งไม้พักเหนื่อยแล้วไปต่อ คนเข้ามาพักพิงอาศัยร่มเงา เก็บผลไปกินได้”
เวลามีใครเดือดร้อนมาบอกว่า เฮียช่วยผมหน่อย ผมเดือดร้อนจริงๆ ก็ช่วยกันไปแล้วเขากลับมาขอบคุณบ้าง แกล้งหลงลืมไปบ้าง ก็ไม่เคยคิดติดใจอะไร มองว่าเรื่องปกติ คนมีหลายแบบ
แต่พอคนนี้พูดอะไรแบบนี้ ความรู้สึกว่า-พิเศษ-มันทำให้หัวใจพองฟู
จอดรถที่ลานจอดรถเหมือนทุกที แล้วเดินกลับมาที่ห้องแถวด้วยกัน
หันกลับไปมอง ดวงตากลมวาว จะด้วยแอลกอฮอลล์หรือความสุขที่เกิดขึ้นที่บ้านไอ้พียังคงอยู่หรืออะไรก็ตามที แต่ภาพในดวงตามันฉายชัด
คว้ามือน้องมากุมไว้ เอียงตัวกระซิบที่ข้างหู “รักคีย์ที่สุด”
เจ้าตัวหยุดก้าวทำหน้าตาเลิกลั่กเหลียวมองซ้ายขวา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ”
คีย์ทำตาโตแล้วก้มหน้า “เข้าบ้านก่อน เดี๋ยวบอก”
ไขกุญแจเปิดประตูด้านข้าง ก้าวเดินเข้าไป แล้ววิ่งนำขึ้นไปหยุดรอที่ชั้นบน
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ดื่มไปหลายแก้ว ตามมาด้วยคำพูดหวานๆ กับปริศนาคาใจ อยากวิ่งตามไปเหมือนกันแต่กลัวฤทธิ์แอลกอฮอลล์จะกระชากขาตกลงมา พอมาถึงหน้าห้องน้องเบี่ยงตัวให้ไขกุญแจเข้าห้องชั้น 4
“อะไรเนี่ย” พี่หันมายิ้มแต่คีย์เหวี่ยงแขนโอบรอบคอรั้งพี่ลงมาจูบ
ชอบนะที่เขาจูบน่ะ แต่ตรงนี้มันอันตรายต้องล็อคเอวจับเขามายืนแนบประตู
คีย์ละจากริมฝีปากพี่ซุกไซ้ที่แก้มที่คาง
“ใจเย็นคีย์ ใจเย็น”
พอกลับเข้ามาในห้องมือก็จะกดเปิดสวิทช์ไฟ แต่คีย์รีบท้วง
“อย่าเปิดไฟ”
....รู้แล้ว....
ยกขาเหน็บเอว ช้อนสะโพกอุ้มกลับมาที่โซฟา เพราะว่ามันอยู่ใกล้ประตูที่สุดแล้ว เข้าห้องน่ะแน่นอน แต่ไว้ก่อน
คีย์เลื่อนหน้าจูบแรง ดันตัวดันอกขึ้นเสียดสี
จนเมื่อนั่งตักพี่คีย์เลื่อนมือช้อนคอพี่ไว้ แล้ว....แลบลิ้น
“แบร่”
คิดหรือว่าหลอกกันแล้วจะลุกหนีได้ง่ายๆ
หัวเราะร่วนเมื่อพี่รั้งเอวบางกลับมาแนบ ทั้งซุกไซ้ต้นคอขาว
“พอแล้วๆๆๆ ยอมแพ้แล้ว หยุดก๊อนนน”
พี่ยังจับหอมแก้มฟัดคอไม่ยอมหยุด “ชอบทำให้ค้าง เด็กคนนี้ ฟัดให้ตาย”
คีย์ยังไม่หยุดหัวเราะคิก “ก็เมื่อกี้พี่ยังแกล้งผมเลยอ่ะ ที่บ้านเฮียพีอ่ะ แค่นี้มาทำเป็นจะฟัดให้ตาย หยุดก๊อนนนนน”
หอมแรงๆอีกครั้ง ปล่อยให้เขานั่งซุกไหล่
“โอยเหนื่อย”
“เสียฟอร์มว่ะ ฟัดเมียแล้วเมียหัวเราะเนี่ย”
คนที่หยุดเสียงหัวเราะไปแล้วกลับมาหัวเราะได้อีก แถมยังทุบเข้าที่อกพี่เบาๆ
“ไม่ชอบให้เรียกเมียไง ชอบแกล้งลืม”
พี่หัวเราะดึงใบหน้ากลับมาจูบอีกที
“ผมรักวันนี้จัง” คีย์บอกกับแก้มพี่
“อ้าว แล้วพี่ล่ะ”
คีย์ทำตาโต แก้มพองปากจู๋ “เออ...นั่นสิดูเหมือนว่าจะไม่รักไม่สำเร็จ คงต้องพยายามมากอีกหน่อย”
“ไรเนี่ย” พี่ทำเสียงล้อเลียน “บอกตั้งหลายหนแล้วว่าถ้ามันยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปทำอะไร ปล่อยมันไปอย่างนั้นแหละ”
คีย์ยิ้มหวานแล้วกลายเป็นลังเล สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนพี่ต้องขำ
“เชิญผู้ร่วมรายการถามคำถามครับ”
“ทำไมพี่ถึงรักผม”
“ไม่มีเหตุผล”
“ไม่ได้ ต้องมีเหตุผล~~รักต้องมีเหตุผล~~” ตัวแสบร้องเป็นเพลง
“ไม่มี” อยากจริงจัง แต่มันหุบแก้มไม่ลงทำไงดี “ตั้งแต่มองผ่านประตูครัวออกมาเห็นว่ายืนคุยกับมิซาวันนั้น ก็อยากเก็บไว้คนเดียว แต่เพราะพี่ไม่รู้ว่าเขาจะเกลียดคนแบบพี่หรือเปล่า ก็เลยดูมาเรื่อย หยอดอยู่ทุกวันจนใครๆก็รู้กันหมด แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่อง จนวันที่คีย์เมาหลับก็คิดว่าอีกนิดๆ บอกกับตัวเองว่าจะไม่ทำให้เสียใจ รู้ตัวอีกทีพี่ก็นอนกอดคีย์ซะแล้ว”
มือใหญ่เกลี่ยผมยุ่งที่ระหน้าผากระแก้ม เสียงใหญ่ ทุ่มต่ำ แต่กลับทำให้คนฟังล่องลอย
“คิดวุ่นวาย กลัวว่าสิ่งที่ทำลงไปจะทำให้ถูกเกลียด”
“ผม....ไม่เกลียด ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมก็คิดว่าถ้าเมาแล้วตื่นมาในสภาพแบบนั้น ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวายเสียใจ.....ผมอาจตกใจ หรือกลัวแต่....ไม่เสียใจ...ไม่รู้ทำไม ถึงต่อมาอยู่ด้วยกันแล้วรู้ว่าพี่ไม่เหมือนคนอื่นก็...ไม่เกลียด”
พี่ถอนหายใจยาว แต่รอยยิ้มยังระบายเต็มใบหน้า “จริงเหรอ”
“ที่บอกตัวเองมาตลอดก็คืออย่ารักคนๆนี้ เพราะจะโดนทิ้งสักวัน”
“อ้าว..”
“อย่าเพิ่งขัดสิ ก็....ผม....”
พี่ลูบแก้มลูบหน้า คล้ายเวทมนต์พิเศษ ทำให้อาการขัดเขิน ตื่นเต้นง่ายคลายลง.....ซะที่ไหน....คนนี้มันเขินยังไงก็เขินอยู่อย่างนั้น ไม่งั้นจะบอกให้ปิดไฟเหรอ
“นั้นแหละ แค่นั้นแหละ”
......อ้าวเฮ้ย...มันทำค้างทั้งปี....
“ไม่เกลียดเหรอ”
“อื้อไม่หรอก”
“กลัวหรือเปล่า”
“ไม่ดุก็ไม่กลัว”
“เวลาที่พี่ทำรุนแรง”
“ก็เจ็บแต่ไม่เกลียด ไม่ได้กลัวหรอก”
ทั้งที่ความสุขอยู่รอบตัว คนที่รักสุดหัวใจอยู่บนตัก อยู่ในอ้อมแขน มองเห็นชัดเจน แต่เสียงของคนที่ไม่ควรใส่ใจกลับแทรกเข้ามา
“ที่อยู่กับพี่เพราะกลัวหรือเปล่า”
“ไม่ใช่” คีย์รีบบอก เพราะได้ยินที่อาจารย์มิกิพูดอยู่เหมือนกัน “แต่แรกมาพี่ก็ใจดีกับผมมาตลอด พี่อาร์ตกับเจ๊มิซา ถึงจะเฮียพีก็ยังโดนพี่ดุมากกว่าผมหลายเท่า ที่อยู่ไม่ใช่เพราะเงินที่พี่ให้ผม ไม่ใช่เพราะทุกอย่างที่พี่ทำให้ แต่เพราะ......พี่เป็นคนเดียวที่กอดผมแบบนี้แล้วมัน......อุ่นมาก เหมือนไม่มีอะไรหรือใครจะทำอะไรผมได้.....พี่เข้าใจป่ะ”
....แบบพูดไปพูดมาชักวกวนจนต้องถามซ้ำอ่ะ....
“เข้าใจ” พี่ยิ้ม ช้อนคอน้องดันหน้าขึ้นมาจูบ
เอียงหน้า รับจูบแลกลิ้นฝ่ามือใหญ่เลื่อนลูบไล้ไปทั่ว หัวใจเต้นแรงจนรับรู้ได้ แต่ยังอยากได้ยินชัดกว่าเดิม
“รักคีย์ที่สุด รักมาก”
กระซิบบอกแล้วแนบหน้าผาก ปลายจมูก
“อย่าไปไหนนะ”
“ทำตัวดีๆ สิแล้วจะไม่ไป” บอกเสียงจริงจัง แล้วเจ้าตัวก็แหงนหน้าหัวเราะร่วน
“ไอ้ต๊องเอ๊ย..... คนเค้ากำลังซึ้งดันมาฮาซะได้”
“ก็ฮาไง วันนี้ผมมีความสุขมากที่สุดในโลก พี่มีความสุขมั้ย”
“อะไรทำให้อารมณ์ดีได้ขนาดนี้เนี่ย”
“ก็อารมณ์ดี เพราะเฮียพีดีกับพี่หน่อยมาก พี่หน่อยก็มีความสุข ไอ้เอกกับไอ้แมนก็......ฮ่าๆๆๆ”
คนอารมณ์ดีหัวเราะร่วน จนพี่ยิ้มกว้างตามไปด้วย จู่ๆ ใจก็บอกว่า ใบหน้าแบบนี้ต่างหากคือความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่แก้มเปื้อนน้ำตาที่ทำให้อยากกินน้องให้หมดทั้งตัว
“ไอ้อ๋องถึงจะยังเป็นเพื่อนกับพี่ส้ม แต่ทั้งคู่ก็จะเป็นกำลังใจให้กัน ส่วนไอ้เบิร์ดกำลังทำคะแนนกับพี่เจี๊ยบอยู่ ที่สำคัญนะ พี่ยังคงครองตำแหน่งฮีโร่ประจำซอย เย๊”
สีหน้าของคนตัวโตที่กลับมานิ่งขึง ดวงตาวาว ทำให้คีย์หยุดหัวเราะกะพริบตามอง
“มะ มีอะไรหรือเปล่าฮะ”
รอยยิ้มที่มุมปากพี่ ดวงตาสีเข้มกวาดมองทั่วใบหน้าเหมือนเก็บทุกรายละเอียด
“พะ พี่....ทะ ทำไมเหรอ มีอะไร” กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ
พี่ช้อนคอให้เงยหน้าขึ้นมามอง เกลี่ยนิ้วหัวแม่มือที่แก้มใส ค่อยจรดริมฝีปากลงหา แผ่วเบา แล้วเพิ่มแรงบดขยี้ ปลายลิ้นสอดชิม
คีย์หลับตา แขนขาเหมือนไร้เรี่ยวแรง ส่งเสียงครางอือแผ่วๆ
หอบหายใจน้อยๆ เมื่อพี่ละริมฝีปากออก แต่ยังไม่อยากลืมตา
“คีย์ครับ”
“จูบแบบนี้ฆ่ากันให้ตายซะเลยดีกว่า”
“จะฆ่าทำไม ทำอย่างอื่นกันเถอะ”
พี่บอกแล้วถอดเสื้อยืดให้ เกลี่ยนิ้วทั่วใบหน้าแล้วลากเรื่อยลงมาที่ลำคอสัมผัสที่ยอดอกสีอ่อน ที่ผ่านมาที่มักลงน้ำหนักมือจนน้ำตาร่วง.......แต่วันนี้พี่กลับสะกิด กดนิ้ววนรอบ จนต้องร้องขอ
“พี่.....ผม.....”
…….พี่ฮะผมวัยรุ่นนะ เส้นประสาทมันตื่นง่าย....
“ยังไงดี”
คิ้วสวยยกขึ้นสูง ดวงตาจนถึงมุมปากเต็มไปด้วยความพอใจ
คีย์ปัดมือพี่ออก คว้าใบหน้าที่เข้ามาจูบแรง แล้วกระซิบบอก “พาผมเข้าห้องเหอะ ตรงนี้ยังไงก็ไม่กล้า”
........END………
จบแล้ว และมีคำถามดัีงนี้
จะอ่านตอนพิเศษพรุ่งนี้เลย หรือ ให้ผมทำเป็นเล่นตัวบ้างไรบ้าง 555555555
ขอบคุณทุกความเ็ห็น และคำแนะนำครับ หวังว่าคุณจะอ่านเรื่องที่ผมเขียนด้วยความสุข
ขอขอบคุณจากใจ
ไจฟ์ครับ