ตอนที่ 1
“เอ่อ...” เด็กหน้าตาดีทำท่าทางแปลกๆ ใส่ผม
“ยืนนิ่งทำไม ทักแล้วก็รีบเดินไปดิ” เด็กหน้าตาดีอีกคนที่อยู่ข้างๆ เขาพูดเสียงดัง
“คือกูยังไม่ได้ทักเลย หวัดดีครับพี่ดิน”
“อืม หวัดดี” ผมรับไหว้ ‘ฟืน’ ตอนที่เขาอยู่หน้าโรงเรียน วันนี้เขามาเรียนกับแฟนของเขาซึ่งเป็นเพื่อนเขามาก่อน มันชื่อว่า ‘ฟิสิกส์’ หรือ ‘สิก’ หลังจากที่สิกมันยกเลิกการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา สองคนนี้ก็ตัวติดกันเหมือนกับที่เคยเป็น แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือไม่มีใครไปแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่อีกแล้ว
ผมเคยเข้าไปแทรกครับ และมันก็ไร้ประโยชน์ ทั้งสองรักกันมากจนกลายเป็นแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างเหนียวแน่น ใครเข้าไปใกล้แม่งก็ถูกผลักออกมาหมดแหละ
ผมชอบฟืนน้อยลงไปมากแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ชินเวลาที่เจอสองคนนี้อยู่ด้วยกันสักเท่าไหร่ มันสะอึกหน่อยๆ น่ะครับแต่ไม่ใช่อาการที่น่ากังวลอะไร
สงสัยผมคงอิจฉามั้ง...อยากมีบ้างประมาณนั้น
ไอ้เด็กสิกพยายามดันร่างของฟืนให้รีบเดินผ่านผมไป ผมทำหน้าท้าทายมันเล็กน้อยขณะที่มันทำหน้าเบื่อผม ผมไม่ได้ไม่ชอบมันนะครับ เพียงแต่ผมทั้งหมั่นไส้และก็อิจฉาที่มันได้ใจของฟืนไป สำหรับผมฟืนน่ารักมากในแบบที่มองไม่เบื่อ ไอ้สิกก็คงคิดเหมือนผม มันถึงหวงฟืนอย่างออกนอกหน้าแบบนี้นี่ไง
“มองตามตาละห้อยเลยนะมึง” ‘ไอ้โชค’ เพื่อนของผมท้วง “อะไรที่จบๆ ไปแล้วก็ให้มันจบไปเถอะ เป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้”
“กูรู้น่า”
เราสองคนเป็นอดีตสารวัตรนักเรียน มันเคยเป็นรอง ผมเคยเป็นหัวหน้า หน้าที่ของสารวัตรนักเรียนคือเป็นผู้ช่วยอาจารย์ฝ่ายปกครอง ดูแลให้นักเรียนอยู่ในกฎระเบียบ และยังรวมไปถึงคอยช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนอีกด้วย ที่จริงผมกับไอ้โชคไม่ต้องมายืนทำหน้าสลอนอยู่ตรงนี้ก็ได้เพราะหมดหน้าที่แล้ว เพียงแต่วันนี้รุ่นน้องสารวัตรนักเรียนมันขอน่ะครับเพราะมันไม่ว่าง ผมกับโชคก็เลยมา
ผมกับไอ้โชคมายืนเป็นเวรหน้าประตู 1 ในวันนี้
“ได้ข่าวมาว่าเมื่อวานมึงบุกเดี่ยวไปถามไลน์ของน้องสตาร์เหรอวะ”
ผมถลึงตาใส่ไอ้ชินที่ทำหน้าล้อเลียนผม ไม่คิดว่าข่าวมันจะไปไวขนาดนี้ แปลว่าไอ้เด็กที่ผมคุยด้วยคงจะกระจายข่าวนี้ต่อไปเรื่อยๆ สินะ!
ไอ้โชคนี่แหละครับที่เป็นคนบอกผมว่าไอดีไลน์ของสตาร์ตัวละสามพันอ่ะ
“แล้วเป็นไง ราคาสูงสมกับที่กูพูดมั้ย”
“เออ” ผมตอบเสียงแข็ง “กูว่าหน้าตามันไม่เหมาะกับราคาไอดีไลน์ของมันเลย”
“แล้วมึงไปขอกับเพื่อนน้องมันทำไมล่ะ”
“ก็กูอยากรู้ว่าจริงมั้ย”
“ถุย ไอ้สัด ถ้ามึงไม่สนน้องมึงคงเลิกสนใจเรื่องนี้ไปแล้ว” โชคพูดอย่างรู้ดี “กูบอกมึงว่าไลน์น้องสตาร์ราคาแพงตั้งแต่เดือนที่แล้ว เรื่องนี้ยังไม่หายไปจากหัวมึง ก็แปลว่ามึงสนน้องมันไม่มากก็น้อยนั่นแหละ”
“อย่ามามั่วได้เปล่าวะ”
“อกหักจากฟืนก็ขอมาเยียวยากับน้องสตาร์เลยเหรอจ๊ะ” ไอ้โชคพูดยิ้มๆ
“ไม่ใช่!”
“โวะ ปากแข็งเข้าไป”
“...”
“เฮ้ย นั่น น้องดาวมาแล้ว!” โชคกระตือรือร้นพลางชี้มือไปที่รถตู้สีดำที่เพิ่งจอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน มาอีหรอบนี้ดูก็รู้ว่าเป็นลูกผู้ดีมีเงิน
“น้องดาว?” เด็กโรงเรียนชายล้วนมีคนชื่อนี้ด้วยเหรอวะ
“ก็สตาร์ยังไงล่ะ”
“ทำไมมึงไปเรียกมันแบบนั้น”
“ก็หน้าน้องมันสวยสมกับคำว่าน้องดาว” โชคพูดไปด้วยมองดูภาพไอ้สตาร์เดินลงมาจากรถตู้ไปด้วย ดวงตาของมันใกล้จะเป็นรูปหัวใจอยู่แล้ว “มึงดูสิ ขาวก็ขาว น่ารักก็น่ารัก สวยก็สวย เกิดมากูไม่เคยเห็นเด็กผู้ชายคนไหนสวยแบบนี้เลยว่ะ มึงว่าป่ะดิน”
“กูว่าฟืนสวยกว่า”
ไอ้โชคหน้าบึ้ง “น้องฟืนของมึงก็ดี แต่ผัวมันเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นอยู่นั่นมึงจะกล้าปลื้มน้องมันอีกเหรอ”
“กูจีบมาแล้ว และก็อกหักมาแล้ว” ผมพูดเหมือนผมภูมิใจกับมันมาก
“นี่คือสิ่งที่มึงควรโม้ให้เพื่อนฟังเหรอวะ”
สายตาของผมมอง ‘น้องดาว’ ของไอ้โชค มันสะพายกระเป๋าเข้ามาในโรงเรียน ใบหน้าของมันดูง่วงงุนมากจนเหมือนเดินหลับ มือของมันยกมือไหว้คุณครูรัวๆ และก็ไหว้ยาวมาจนถึงผมกับไอ้โชค
ดวงตาของสตาร์หันมามองผม หลังจากนั้นมันก็หันหน้าหนีและก็เดินจากไป
สายตาของมันกวนตีนมากกกกกก ผมขอบอก
“มันกวนตีน” ผมทำท่าจะเข้าไปอบรมสั่งสอนไอ้สตาร์ แต่ไอ้โชคคว้าผมเอาไว้
“กวนตีนห่าอะไร น้องมันง่วง”
“มันกวนตีนจริงๆ” คนที่ผมยอมให้ต่อกรด้วยเห็นทีจะมีแต่ไอ้สิก เพราะมันเป็นคนที่ผมมองว่ามีความคล้ายผมอยู่ในตัวค่อนข้างสูงอีกทั้งยังเป็นคนที่ฟืนชอบ สำหรับรุ่นน้องคนอื่นๆ นั้นอย่าแม้แต่ที่จะคิด
“มึงอยากคุยกับน้องมันใช่มั้ยล่ะ”
ไอ้โชคร้อง แต่ผมไม่ทันได้ฟัง และในที่สุดผมก็ไปยืนขวางหน้าสตาร์จนได้ สตาร์ถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าผม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” เหล็กจัดฟันสีฟ้าดูเข้ากับมันดีจริงๆ
“มึงกวนตีนกูเหรอ มึงมองกูแบบนั้นทำไม”
“ผมมองยังไง” มันหาว
“ก็มองแบบ...เหมือนกูเป็นขี้อ่ะ”
“พี่ไม่ใช่ขี้สักหน่อย”
“สายตามึงทำกูรู้สึกอย่างนั้น”
“อย่าไร้สาระได้ป่ะครับ” สตาร์ทำหน้าเหมือนผมเป็นขี้อีกรอบก่อนที่จะเดินหนี ผมต้องขวางมันไว้อีกรอบ “ผมมีเรียนก่อนเข้าแถว ขอทางได้มั้ย”
มันเป็นเด็กห้องคิงที่บางครั้งก็ไม่ได้ลงมาเข้าแถวเพราะต้องเรียนเพิ่ม บางครั้งก็ต้องไปเรียนจนกว่าจะเข้าแถว ผมรู้ดีเพราะม.6 ห้องคิงห้องข้างๆ ผมก็เป็นแบบนั้น (ไม่รู้ควรจะเรียกว่าห้องคิงหรือห้องเตรียมสอบหมอดี)
“พี่จะมาพูดเรื่องเมื่อวานหรือเปล่าครับ” สตาร์พูดเสียงเรียบ
“เรื่องเมื่อวาน?”
“เพื่อนผมเล่าว่าพี่มาขอไลน์ผม”
ผมรู้สึกหน้าชายิ่งกว่าตอนที่ไอ้สิกมาบอกว่ามันกับฟืนรักกันอีกครับ ครั้งนี้มีความอับอายรวมเข้ามาด้วย
“พี่จะเอาไปทำไม หรือเพราะอยากให้ผมเลี้ยงข้าว”
ผมเคยช่วยมันไว้เมื่อเดือนก่อนๆ ตอนที่มันตกน้ำพร้อมกันกับฟืน สิกช่วยฟืนไว้ ส่วนผมเป็นคนช่วยสตาร์ มันบอกว่าอยากเลี้ยงข้าวผมเพื่อเป็นการตอบแทนแต่ผมไม่ยอมเอง เพราะสตาร์มันพูดว่าอยากขอบคุณผมตอนที่มันจริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์
‘ผมจะเลี้ยงข้าวพี่เป็นการตอบแทนที่ช่วยผมก็แล้วกัน’ ตอนมันขอเลี้ยงในครั้งนั้นแม่งไม่เห็นมีความจริงใจเลย ใครจะไปยอม
“เรื่องของกูก็แล้วกัน” ผมตอบส่งๆ
“เพื่อนผมบอกว่าพี่จะมาตื๊อจนกว่าจะได้” เมื่อไหร่ปากเล็กๆ นั่นจะหยุดพูดสักที ผมรู้สึกเสียหมายังไงก็ไม่รู้ เหมือนมันถือไพ่เหนือกว่าผมน่ะครับ และคนอย่างผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เอามากๆ “และเพื่อนมันก็ยังบอกอีกว่าอย่าให้ผมยอมง่ายๆ”
“เพื่อนมันเป็นพ่อมึงหรือไง ทำไมต้องฟัง”
“ทุกคนก็ต้องฟังคำเตือนเพื่อนกันทั้งนั้น อีกอย่างหนึ่งเพื่อนบอกว่าพี่เป็นตัวอันตราย อย่าเข้าใกล้ให้มาก”
“...”
“ผมขอตัวนะครับ”
ผมมองตามหลังไอ้เด็กปากดีด้วยใบหน้าหงุดหงิด สตาร์มันเปลี่ยนไปจากเดือนก่อนๆ ไม่มากก็น้อยอาจเป็นเพราะมันอกหักจากสิก สำหรับผมความน่ารักของมันลดลงเพราะการที่มันชอบต่อปากต่อคำกับผมนี่แหละ
แม่ง อยากท้าทายอำนาจกูนักใช่มั้ย
ผมจะไม่มีวันยอมให้มันปากเก่งกับผมอีก
พักกลางวัน
ช่วงนี้ม.6 หลายคนเตรียมตัวที่จะสอบหรือไม่ก็ยื่นคะแนนเข้าโควตารับตรงอยู่ครับ จึงมีหลายคนที่แอบโดดเรียนไปอ่านหนังสืออยู่บ้านบ้าง (เพราะอ่านไม่ทัน) ผมทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะตำแหน่งที่พ่วงติดท้ายชื่อของผมมีเยอะเกินไป (หัวหน้ากองร้อยตอนเรียนรด. อดีตหัวหน้าสารวัตรนักเรียน และก็เป็นอดีตคนในสภานักเรียน) ผมต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีบางตำแหน่งที่ผมหมดหน้าที่ไปแล้วก็ตามที
ตอนลงมากินข้าวที่โรงอาหารจึงมีแค่ผมกับโชคสองคนเท่านั้น ปกติกลุ่มผมแม่งมีเกือบสิบคนอ่ะ
โรงอาหารมีแต่เด็กม. 4 กับม. 5 พวกเด็กเล็กๆ กินข้าวกันไปหมดแล้วครับ โรงเรียนเรามีเด็กค่อนข้างเยอะจะปล่อยให้ลงมาทานอาหารพร้อมกันไม่ได้เพราะจะไม่มีที่นั่งกัน ทางโรงเรียนเลยแบ่งให้พวกเด็กประถมและม.ต้นกินกันก่อน หลังจากนั้นจะเป็นคิวของม.ปลาย
ไม่ว่าผมจะเดินไปไหน ผมก็มีคนไหว้ทำความเคารพผมแทบทุกครั้งไป เป็นเพราะผมทำกิจกรรมเยอะอีกทั้งรุ่นน้องมันยังเกรงใจผมด้วยนั่นแหละ วันนี้ผมได้รับไหว้เยอะเป็นพิเศษเพราะมีรองสารวัตรนักเรียนอย่างไอ้โชคเดินมาด้วย
ได้ยินเสียงซุบซิบๆ จากพวกเด็กๆ ว่าเราสองคนคือ ‘โหดแพ็คคู่’
โหดบ้าโหดบออะไร ออกจะแบ๊วเหอะ
“เหี้ย ไม่มีที่นั่งเลยว่ะ” โชคพึมพำเมื่อมองไปทั่วโรงอาหาร “มึงใช้สายตาพิฆาตขู่รุ่นน้องให้แม่งลุกหนีดิ๊”
ผมกำลังจะทำแบบนั้น แต่มีมือๆ หนึ่งกำลังโบกไม้โบกมือเรียกผม และมีอีกมือที่กำลังห้ามมือนั้น
ฟืนกับสิก
ผมกลืนน้ำลาย หันไปมองไอ้โชคอย่างตัดสินใจ มันยักไหล่เป็นเชิงบอกว่าแล้วแต่ผม ผมก็เลยเดินไปหาสิกกับฟืนอย่างไม่มีทางเลือก บนโต๊ะมีเพื่อนของพวกมันอีกสองคนด้วยแต่ผมจำชื่อไม่ได้
“เรียกมาทำไม” สิกเอ็ดแฟนมัน
“ก็พี่เขาไม่มีที่นั่ง เราจะลุกแล้วก็แบ่งๆ พี่เขาไปดิ” ฟืนเถียง
“แบ่งคนอื่นได้ แต่แบ่งคนนี้ไม่ได้”
“กูมานั่งแล้ว” ผมยักคิ้วใส่ไอ้สิก หมั่นไส้ในความหวงโอเว่อร์โอวังของมัน “มึงมีปัญหาอะไรอีกมั้ย”
สิกหน้าบึ้งตึง มันหยิบจานของมันกับจานของฟืนขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปเก็บ ถึงมึงจะหงุดหงิดแต่มึงก็ช่วยเก็บจานให้เขาอยู่เนอะ
โถ ไอ้พ่อบ้าน “เมื่อวานพี่ไปขอไลน์สตาร์ถึงห้องเลยเหรอ” ฟืนถามผมอย่างตื่นเต้น
ความรู้สึกของผมกระอักกระอ่วนนิดๆ อย่างไม่ถูก คนที่ผมเคยชอบมาถามเรื่องผมไปขอไลน์คนอื่นนี่มันแปลกๆ อยู่ไม่ใช่เหรอครับ
ใครแม่งกระจายข่าววะ อย่าให้กูรู้นะ เดี๋ยวเตะไส้แตก
“ก็...เออ” ผมยอมรับ ปิดบังไปก็เท่านั้นเพราะเขารู้กันทั่วแล้วมั้ง
“พี่ชอบสตาร์เหรอครับ”
ถึงมึงจะน่ารักสำหรับกู แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์ถามทุกเรื่องนะเว้ยฟืน เพราะกูไม่รู้จะตอบยังไงเลยเนี่ย
“ผมมีไอดีไลน์เขานะ พี่อยากได้มั้ย”
หา ไอดีไลน์ราคาหกหมื่นบาทนั่นน่ะนะ!
“ไม่เอา” ผมโบกมือปฏิเสธ
“มันอยากไปขอเอง” ไอ้โชคเสริม “ตอนนี้ในหัวมันมีแต่เรื่องขอไลน์น้องสตาร์”
ฟืนยิ้มให้ผมอย่างล้อเลียนนิดหน่อย ในขณะที่ผมนั้นรู้สึกเหงื่อแตกไปหมด
อากาศในนี้มันร้อนๆ ยังไงไม่รู้
“ถ้าอยากได้ก็ต้องไปขอ แต่ถ้าเขาไม่ให้ก็ต้องไปตื๊อ” ไอ้สิกที่ซื้อน้ำเปล่ากลับมาแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ฟืน มันซื้อมาเผื่อแต่เมียมัน ไม่ซื้อมาเผื่อคนอื่นเลย ไอ้เด็กเชี่ย
“พี่เขาก็ต้องอยากได้สิ ถึงไปขอที่ห้องน่ะ” ฟืนพึมพำ
ผมชักจะสับสนแล้วว่าผมอยากได้จริงๆ หรือเปล่า เพราะเรื่องอยากได้กับเรื่องเอาชนะการท้าทายมันผสมปนเปกันจนชักจะมึน
“ลองถามใจตัวเองดูว่าอยากได้จริงๆ หรือเปล่า”
ผมมองไอ้สิกพลางเลิกคิ้ว คำพูดของมันสะกิดอะไรหลายอย่างในใจผม
อย่างที่ผมบอก มันเป็นรุ่นน้องเพียงคนเดียวที่ผมยอมให้ต่อกรด้วย
“ถ้ากูอยากได้จริงๆ พวกมึงจะช่วยกูป่ะล่ะ” ผมถามไปรอบๆ โต๊ะ ทุกคนมีสีหน้าในทางเดียวกันนั่นก็คือทำตาโตกันใหญ่
“ช่วยสิ!” ฟืนพูด
“เมียช่วย ผมก็ต้องช่วย” ไอ้สิกเสริม
“กูดันหลังมึงตลอดอยู่แล้วหัวหน้า” ไอ้โชคกล่าว
“ผมช่วย ผมช่วย” เพื่อนสิกกับเพื่อนฟืนร้องลั่น ผมมารู้ทีหลังว่าสองคนนี้ชื่อ ‘อ๊อฟ’ กับ ‘ตัง’
คำถามนั้นผมไม่ได้คาดหวังในคำตอบด้วยซ้ำ แต่ผมก็อดซึ้งใจไม่ได้จริงๆ ครับ
หน้าห้องม. 5/1
ออดเลิกโรงเรียนดังไปแล้วแต่เด็กห้องนี้มันก็ยังเรียนอยู่ ระหว่างที่ผมกำลังรอผมก็ทำการเปิดดูข้อมูลสมัครโควตารับตรงไปด้วย (ใช้เวลาให้มันคุ้ม) ไม่นานเกินเฝ้ารอเด็กห้องนี้ก็พากันเดินออกมา
พอพวกมันเห็นผม พวกมันก็ชะงักและหันไปบอกพวกที่ยังอยู่ในห้องว่า “อย่าให้สตาร์เดินออกมา!”
เป็นอีกครั้งที่ผมต้องคิดในใจว่า ‘นี่เพื่อนหรือพ่อ’
ไอ้สตาร์ไม่เดินออกมาอย่างที่เพื่อนมันพูด ผมจ้องหน้าเด็กห้องนี้เขม็งจนพวกมันรู้สึกหวั่นเกรง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นพวกมันเตรียมพร้อมที่จะไฟต์กับผม
“พวกผมคุยกันแล้ว” ไอ้คนที่บอกผมว่าไอดีไลน์ของสตาร์ตัวละสามพันเป็นคนพูด มันชื่อว่า ‘บูบู้’ ครับ ตอนที่ผมรู้ชื่อมันผมถึงกับต้องถามคนที่บอกผมอีกทีว่ามันชื่อนี้จริงๆ หรือเปล่า “ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าต้องเห็นความพยายามของพี่ก่อนถึงจะยอมให้ไลน์ของสตาร์”
กูไปถามฟืนก็จบแล้วมั้ยวะ แต่เพราะศักดิ์ศรีและอะไรหลายๆ อย่างมันค้ำคออยู่ผมก็เลยคิดว่าไม่ควรทำแบบนั้น
ตอบรับคำท้าไปแล้ว ก็ต้องลงมือให้ถึงที่สุดสิ
“อีกอย่างสตาร์ก็เห็นด้วยกับพวกเราครับ”
มุมปากผมกระตุกนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำนั้น
“พี่เป็นคนหล่อ” ไอ้บู้พูด ส่วนเพื่อนร่วมห้องนั้นพยักหน้าอย่างแข็งขืน “รวย เรียนเก่ง เพอร์เฟ็กต์ ทำกิจกรรมไปทั่วจนพวกผมเองก็จำไม่ได้ว่าพี่ทำอะไรบ้าง คุณสมบัติพี่ผ่านทุกอย่าง เว้นอยู่ข้อเดียว”
แม่งต้องจริงจังกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ
นี่ไม่ใช่เพื่อนแล้วล่ะครับ แต่คือพ่อของสตาร์ และมันก็มีพ่อหลายสิบคนเลย ให้ตายเถอะ
“พวกเราไม่รู้ว่าพี่ชอบสตาร์จริง หรือพี่หาคนมาแทนที่ฟืน”
คำพูดของมันเหมือนมีธนูหลายดอกปักเข้าตรงกลางใจของผม ผมอึ้งไม่น้อยจนตัวแข็งไปหมด
“ถ้าพี่อยากได้จริงๆ พี่ต้องพยายามให้พวกเราดูก่อน”
“...”
“วันนี้ช่วยทำความสะอาดห้องแทนเวรประจำวันทีนะครับ”
บู้พูดจบมันก็เดินนำหน้าพรรคพวกของมันทั้งหมดไป ทิ้งให้ผมอ้าปากพะงาบๆ ชี้หน้าด่าคนพวกนั้น แต่ด่าไปก็ไร้ประโยชน์ รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเบี้ยล่างของไอ้เด็กห้องนี้ก็วันนี้
นี่กูกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ทำไมกูไม่เอาเวลาไปจริงจังกับการสมัครเรียนต่อวะเนี่ย
สตาร์โผล่มาทีหลังสุด เพื่อนทุกคนของมันปล่อยมันให้อยู่กับผม มันมองผมอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ ก่อนที่จะพูดว่า “ทำไมไม่อยู่เฉยๆ ทำไมต้องหาเรื่องเข้าตัวด้วย”
ผมเดินชนไหล่มันเข้าไปในห้องพร้อมกับพูดเสียงแข็ง “อย่าพูดมาก ไม้กวาดอยู่ไหน”
จริงๆ ห้องม. 5/1 เป็นห้องที่สะอาดมากอยู่ก่อนแล้ว ผมไม่ได้ทำความสะอาดอะไรมากนอกจากกวาดห้อง เทขยะในถัง และก็เก็บเก้าอี้ สิ่งที่ผมเซอร์ไพรส์มากที่สุดก็คือสตาร์เป็นคนทำทั้งหมดนั่นช่วยผม ในห้องมีแต่ผมกับมันสองคน
“พี่หมดมาดขาโหดประจำโรงเรียนเลยรู้ป่ะ” มันพูดไปด้วยยกเก้าอี้ไปด้วย “ผมไม่รู้ว่าพี่ไปท้าทายกับเพื่อนมันทำไม พี่ก็น่าจะรู้อยู่ว่าเพื่อนผมมันก็เป็นแบบนี้ ชอบหวงผมแบบไร้สาระ”
กูไม่รู้มาก่อนเว้ย กูเพิ่งมารู้เนี่ย!
“แล้วทำไมมึงต้องทำตามที่พวกมันขอ มึงก็เอามาไอดีไลน์ให้กูดิจะได้จบๆ ไป” ผมสวนแบบไม่คิดอะไร
“ก็เพื่อนมันพากันขอร้อง แทบจะคุกเข่าขอผมอยู่แล้วว่าห้ามให้ไอดีไลน์พี่ดินก่อนเด็ดขาด”
“เรื่องจริงเหรอ”
“จริงสิครับ”
เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินอะไรแบบนี้นี่แหละ นักเรียนม. 5/1 รุ่นนี้ช่างเป็นอะไรที่มีสีสันแบบแปลกๆ
“ผมไม่คิดว่าพี่จะอยากได้จริงจังขนาดนี้”
“มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี โดนท้ามาก็ต้องเอาชนะคำท้าสิวะ”
“เอาชนะด้วยการทำความสะอาดห้องให้คนท้าเนี่ยนะ” สตาร์มองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กลับลำเรือยังทันนะครับพี่ เพื่อนผมมันอาจจะแกล้งพี่ไปอย่างนั้น พี่ไม่จำเป็นต้องจริงจังกับคำพูดของพวกมัน”
“...”
“ผมสงสาร ผมไม่ชอบเห็นคนหล่อคนเท่อย่างพี่ต้องมายอมเด็กอย่างพวกผมอ่ะ”
คำชมตรงๆ ของมันทำเอาผมถึงกับทำไม้กวาดอยู่ในมือลงไปกองกับพื้น ผมมองหน้าไอ้สตาร์ที่กำลังมองผมด้วยนัยน์ตากลมโตของมัน คำพูดเมื่อกี้ของมันเต็มไปด้วยความจริงใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
ถ้าไอ้โชคเป็นผมตอนนี้มันคงละลายตายห่าไปแล้ว นี่สินะความรู้สึกของการที่โดนคนน่ารักมากๆ เอ่ยปากชมเราน่ะ
เออ ผมยอมรับก็ได้ครับว่ามันหน้าตาน่ารักมากกกกกก ยิ่งเห็นมันช่วยผมโดยที่ไม่มีคนอื่นยอมมาช่วยเลยผมก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความน่ารักของมันจริงๆ
แต่ผมจะไม่แสดงออกเหมือนที่มันเพิ่งชมผมเมื่อตะกี้หรอกนะ
“ถ้าวันไหนกูทนไม่ไหว กูก็จะล้มเลิกไปเองนั่นแหละ” ผมพูดเพื่อให้มันสบายใจ แม้ลึกๆ ในใจของผมจะบอกกับตัวเองว่า ‘ถ้ากูยังไม่ได้ ยังไงกูก็ไม่ยอมแพ้’
ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ
“สัญญาแล้วนะครับ” สตาร์ถามย้ำ “พูดจริงๆ นะ ผมลองมองดูแล้ว ผมไม่ชอบเห็นพี่หมดมาดเลย”
“เออ กูรับผิดชอบเองได้น่า”
มันมองผมอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินไปที่มุมห้องและก็เขียนอะไรบางอย่างไม่รู้ สักพักหนึ่งมันก็โพสต์อิทสีเหลืองที่มีลายมือตัวกลมๆ น่ารักๆ มาให้
ไอดีไลน์ตัวที่ 1
T
ถ้าพี่ไม่ไหวพี่ต้องเลิก พี่สัญญาแล้วนะ ผมมองสตาร์อย่างตกตะลึง สีหน้าของมันจริงจังกับสิ่งที่มันเขียนมาก แต่ใจผมเนี่ยดิ มันสั่นแปลกๆ ว่ะ อาจเป็นเพราะไม่เคยมีใครแคร์ผมแบบนี้และทำกับผมแบบนี้มาก่อนก็ได้มั้ง
มันกร๊าวใจมากกกกกกกกกกกกก
ไอ้สิกได้ทำแบบนี้กับฟืนบ้างหรือเปล่าวะ สงสัยจริงๆ
เพิ่งได้มาแค่ตัวแรก เหลืออีกตั้งสิบเก้าตัว ก่อนจะถึงวันนั้น ผมจะโดนเด็กม.5/1 มันแกล้งยังไงบ้างวะ
“ไม่ต้องห่วง หนทางอีกยาวไกล แต่ผมจะช่วยพี่ ผมจะอยู่ข้างๆ พี่เอง”
คำพูดของสตาร์ทำเอาผมอุ่นใจไปได้เยอะ บางทีคนอย่างมันก็เหมาะกับคำว่า ‘น้องดาว’ อย่างที่ไอ้โชคบอก
สัดโชค กูขอเรียกสตาร์ว่าน้องดาวบ้างจะได้มั้ยวะ
TBC*เด็กมันน่ารักใช่มั้ยล่ะพ่อออออออ...
เรื่องสิกฟืนเป็นโน้ตการ์ด
เรื่องดินสตาร์เป็นโพสต์อิทไอดีไลน์ 555