เพราะว่าข้างนอกฝนตก ภายใต้ผ้าห่มบางๆจึงมีสองร่างแชร์ความความอบอุ่นอยู่
วันชนะหลับสนิทไปตั้งนานแล้ว แต่บอสยังลืมตาโพลงในความมืด ในหัวคิดอะไรให้วุ่นวายไปหมด ที่นอนอยู่ข้างๆเขาตอนนี้คือวันชนะ คนที่เขาชอบ จะเรียกว่ารักเหรอ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เพราะความรู้สึกบอกว่าชอบตั้งแต่แรกเห็นวันชนะตั้งแต่ยังไม่เจอกัน
บอสไม่เคยคิดว่าเขาผิดปกติที่ชอบผู้ชายด้วยกัน อาจเพราะเขาเคยได้รับรู้ความรักรูปแบบนี้มาจากภัทร ดังนั้นเขาเลยมองมันเป็นธรรมดา ความรักสำหรับบอสแล้วมันไม่มีเพศมาขีดทางให้หรอก
วันชนะขยับตัวเข้ามาใกล้ เพราะนอกผ้าห่มมันเย็น หรือเพราะร่างของคนที่นอนข้างๆคือแหล่งความอบอุ่นก็ตาม เขายกขาขึ้นทับพร้อมกับดึงร่างบอสมากอดเหมือนเป็นหมอนข้าง
บอสเองก็รู้สึกดี หัวใจเหมือนมีเสียงกลองเต้นระรัวอยู่ภายใน
เด็กหนุ่มยิ้มเปี่ยมสุขในความมืดแต่แล้วก็หุบยิ้มไปในทันทีเมื่อวันชนะกอดเขาแน่นขึ้น แต่ว่ามีชื่อหนึ่งหลุดออกมา
“ตั้ม”
..
..
∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞
ไอความชื้นจากข้างนอกเกาะกระจกจนมัวแต่แสงแดดก็ยังส่องผ่านเข้ามาได้จางๆ วันชนะงัวเงียพอรู้สึกตัวเต็มที่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในวงกอดของบอสที่นอนเอาหน้าซบหลังเขาอยู่
วันชนะแกะมือนั้นออกพลางยิ้มเอ็นดูแต่มันกลับทำให้บอสรู้สึกตัว มือนั้นเลยยิ่งประสานกันแน่น
“เอ้า ตื่นแล้วก็ปล่อยเสียทีสิ” วันชนะร้อง
“วันนี้วันเสาร์นี่” เขาพูดเสียงอู้อี้
“แล้วไงล่ะ” วันชนะพยายามแกะมือเขาซึ่งมันไม่เป็นผล
“ปกติวันเสาร์น่ะผมตื่นสิบโมง” เขาขยับแก้มที่แนบหลังวันชนะขึ้นลง
ถ้าเป็นปกติวันชนะคงจะโวยไปแล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่บอสเจอมาเขาก็จะยอมให้สักวัน
“ตั้มนี่ใครเหรอ” อยู่ดีๆเขาก็ถามแต่ยังหลับตาพริ้มหน้าแนบกับหลังวันชนะ “แฟนเก่าเหรอ”
วันชนะเหวอไปแต่ก็ตอบไปว่า
“อืม แฟนเก่าน่ะ”
เสียงโทรศัพท์มือถือของวันชนะดังขึ้นที่โต๊ะข้างๆเตียง เขาดันตัวจะลุกขึ้นแต่ก็โดนบอสออกแรงรั้งเอาไว้
“อย่าทำตัวเป็นเด็กนะ” วันชนะแกะมือเขาออก
บอสบุ้ยปาก พึมพำในคอ “คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก”
คุยโทรศัพท์สักพักเขาก็หนีไปเข้าห้องน้ำ ไม่นานวันชนะก็กลับมาที่เตียงพร้อมก็เสื้อผ้าชุดใหม่ “ตื่นๆ” ว่าพลางก็ดึงหมอนที่บอสหนุนออก
“ฮื่อ ตื่นก็ได้ๆ” เขาทำเสียงงัวเงีย
“ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปหาไรกินกัน” วันชนะยื่นผ้าเช็ดตัวแล้วไล่เขาไปทางห้องน้ำ จากนั้นจึงค้นตู้เสื้อผ้าหาชุดที่บอสพอจะใส่ได้มาวางไว้แถวๆหน้าห้องน้ำ แล้วจึงหันไปจัดการเก็บความเรียบร้อยบนเตียง
นานเท่าไรไม่รู้ที่วันชนะเผลองีบไประหว่างที่รอบอสออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจติดขัดและรอยอุ่นๆประทับที่ริมฝีปาก
“เฮ้...!” วันชนะตกใจแต่ก็พูดได้เพียงครึ่งคำเมื่อปากอุ่นๆนั้นประทับซ้ำเป็นรอบสอง ร่างกายที่ยังเย็นชุ่มหลังอาบน้ำมาหมาดๆเทน้ำหนักมาที่ตัวของวันชนะ มือที่ตั้งใจจะดันออกเมื่อสัมผัสกับหน้าอกกำยำของเด็กมัธยมห้ากลับต้องแผ่วแรงลง วันชนะเหมือนถูกริมฝีปากอุ่นนั้นดึงเข้าสู่ห้วงภวังค์ สองมือเปลี่ยนเป็นโอบกอด
“ตั้ม...” เขาหลุดปาก
ร่างหนาที่ทาบทับอยู่หยุดการเคลื่อนไหว
สัมปชัญญะที่จมดิ่งกลับคืนสู่สติอีกครั้ง มือที่โอบกอดเปลี่ยนเป็นดันออกแต่ร่างหนาไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย
เด็กวัยรุ่นมัธยมปลายมองหน้าเขานิ่งแววตาผิดหวัง “คุณยังไม่ลืมเขาอีกเหรอ”
วันชนะไม่ตอบแต่พยายามดิ้นให้หลุด บอสเองก็ไม่ปล่อยให้วันชนะทำได้ง่ายๆเหมือนกัน
“เขามีอะไรดี” เสียงห้วนๆแต่ปนความรู้สึกน้อยใจ
“ออกไปนะบอส” วันชนะออกคำสั่ง แต่เขาหูทวนลมกลับเอาหน้าเข้ามาใกล้วันชนะอีกจนลมหายใจอุ่นๆรดจมูก
สายตาที่คาดคั้นกับใบหน้าหล่อเหลาที่ขยับเข้าใกล้ทีละนิดๆหยุดลงแค่เพียงจมูกสัมผัส เมื่อวันชนะพูด
“ผมยังรักเขา”
น้ำตาที่ถูกกักเอาไว้มานานเพราะเรื่องนี้ต้องมีเหตุได้ล้นออกมาอย่างอ้อยอิ่งอีกครั้ง
“ผมแทนเขาไม่ได้เหรอ” น้ำตาถูกมือของเขาปาดออกเบาๆ
“...”
บอสพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกของวันชนะแต่เขาไม่ละความคิดที่จะเปลี่ยนใจวันชนะให้ได้สักวันหนึ่งข้างหน้า
คราวนี้ร่างหนาเกินวัยถอนออกไปด้วยตัวเอง
“ชุดที่คุณเตรียมไว้อยู่ตรงนั้นใช่มั้ยครับ” ท่าทีเขาสงบลง
วันชนะพยักหน้า
หลังจากที่บอสแต่งตัวเรียบร้อยเขามายืนอยู่ตรงหน้าวันชนะอีกครั้ง
“จะพาผมไปส่งให้พี่ภัทรเหรอ” เขารู้ว่าโทรศัพท์เมื่อกี้ภัทรต้องโทรมาถามกับวันชนะแน่ๆ
“อืม” วันชนะตอบอย่างเลี่ยงเสียไม่ได้เพราะท่าทีของบอสเหมือนเขาจะอ่านใจวันชนะออกไปเสียหมดทุกเรื่อง เด็กคนนี้โตกว่าวัยจริงๆ
เมื่อลงมาข้างล่างอพาร์ทเมนต์วันชนะก็ออกไปเรียกแท็กซี่ซึ่งผ่านมาจอดเทียบแบบไม่เสียเวลาเลย บอกจุดหมายเสร็จเขาก็กวักมือเรียกบอสที่กำลังยืนซึมๆอยู่ใต้ถุนอพาร์ทเมนต์ให้มาขึ้นรถ
เด็กหนุ่มเหม่อมองดูข้างทางตลอดเวลาด้วยสายตาที่เรื่อยเปื่อยไปกับอาคารและผู้คนที่ผ่านกรอบหน้าต่างรถเข้ามาแล้วก็ผ่านไปจนกระทั่งรถจอดสนิท
“ลงมาสิบอส” วันชนะเรียก
เขาลงมาทำหน้าแปลกใจ “ที่ไหนเนี่ย”
“สวนรถไฟ” วันชนะพูดก่อนเดินนำบอสเข้าไปในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“สดชื่นจัง” บอสพูดขณะปั่นจักรยานคู่ไปกับวันชนะ “ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่ากรุงเทพก็มีที่อย่างนี้ด้วย”
“พูดอย่างกับนายไม่ใช่คนกรุงเทพอย่างนั้นแหล่ะ” วันชนะเหล่ตา
“ใช่น่ะมันใช่อยู่หรอก แต่ไม่เคยมานี่นา” เขาหันมาตอบก่อนจะเร่งฝีเท้าปั่นนำไปก่อน
“เฮ้ รอด้วยสิ” วันชนะรีบปั่นจักรยานตาม
จนกลับมาปั่นคู่กันอีกครั้งก็มีเสียงตะโกนแหลมๆดังขึ้น
“หลบคะ หลบไป ว้าย!”
หญิงสาวกำลังปั่นจักรยานตุปัดตุเป๋มาทางวันชนะ หล่อนกรีดร้องเมื่อไม่สามารถบังคับทิศทางของจักรยานได้และมันกำลังจะชนกับวันชนะ
จังหวะจวนตัวเกินไปจนทั้งคู่ไม่ทันได้ปัดป้อง จักรยานคันนั้นชนขาด้านข้างวันชนะเข้าเต็มๆจนจักรยานล้มไปโดนคันของบอสอีกที วันชนะรู้สึกว่าก้นตัวเองลอยหลุดจากเบาะนั่ง แต่ก็ถูกรับโดยอกของบอสก่อนจะล้มกลิ้งกันไปสองสามตลบ โดยจักรยานของหญิงคนนั้นหยุดลงได้และหล่อนยืนตะลึงคาจักรยานไปพักหนึ่ง
“ว้าย ตายแล้วๆ เป็นอะไรกันมากไหมคะ ขอโทษจริงๆค่ะ พอดีว่าตะกี้สะดุดหลุมตรงนั้นมาอ่ะค่ะ” หล่อนรีบลงจากจักรยานแล้วมายกมือไหว้
“ไม่เป็นไรครับ” บอสเป็นคนบอก
“คุณเป็นไรมั้ย” บอสถามวันชนะซึ่งตอนนี้อยู่ในวงกอดของเขา
“ไม่เป็นไร ขอบใจนะ” วันชนะตอบพลางดันตัวออกช้าๆ จึงรู้สึกเจ็บที่ขาแปลบๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ว้าย!” คนต้นเหตุอุทานเสียงดัง “คุณ เลือดออกนี่คะ ไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”
บอสถึงได้รู้ว่าที่ข้อศอกเขามีเลือดไหลออกมาจริงๆ จากนั้นก็เริ่มรู้สึกแสบๆ แต่พอสำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าเป็นแค่รอยถลอกนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“แค่ถลอกนิดเดียวครับไม่มีอะไรมาก” บอสว่า
“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ” วันชนะพูดอีกคน
“คุณก็ห่วงผมเหรอ” นัยน์ตาบอสดูมีประกายขึ้นมา
“เออ ก็ต้องห่วงสิ เอาตัวมารับเสียขนาดนี้”
“ให้ดิฉันไปด้วยนะคะ” หญิงคนนั้นว่า ตาคลอๆ
“ไม่เป็นไรมากจริงๆครับ” บอสว่าพลางทำสีหน้าท่าทางให้กระปรี้กระเปร่า ราวกับได้ยาดี
“แต่ดิฉันลำบากใจนี่คะ อย่างน้อยให้ดิฉันดูแลค่ารักษาก็ยังดีนะคะ แฟนดิฉันอยู่ทางนู้นแน่ะค่ะ เดี๋ยวให้เขาขับรถไปส่งนะคะ”
“ก็ดีครับ” วันชนะตอบแทนคนเจ็บเสร็จสรรพพลางฉุดมือบอสให้ลุกขึ้นโดยมีเสียงครางโอดโอยเบาๆดังอยู่ข้างๆไม่ขาด
“ไหนว่าไม่เป็นไรมากไง” วันชนะเลิกคิ้ว
จนชั่วโมงหนึ่งผ่านไปหลังจากล่ำลากับคู่รักต้นเหตุรนจักรยานชน ทั้งคู่ก็ออกมาจากโรงพยาบาลโดยบอสมีผ้าปิดแผลที่ข้อศอกออกมาด้วย
“โธ่เอ้ย ก็แค่แผลถลอก” วันชนะแกล้งพูด
“แผลเล็กๆแต่มันก็เจ็บนะคร้าบ” บอสเกาะแขนวันชนะทำกะลิ้มกะเหลี่ย
“ปล่อยแขนสิ คนมองกันแล้วเห็นไหม” วันชนะพยายามแกะมือเขาออก
“ไม่เห็นเป็นไรเลยเขาคงคิดว่าน้าเดินมากับหลานน่ะแหล่ะ” เขาเกาะแขนต่อ
วันชนะคิดตาม อืม ก็จริงนะ เลยปล่อยให้บอสเกาะแขนต่อไปได้แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อเขากระซิบที่ข้างหูว่า
“แต่หลานคนนี้รักน้านะครับ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ช่วงสายของวันพระอาทิตย์เตรียมตั้งฉากกับศีรษะ แต่ว่าผู้คนก็เริ่มทยอยมาเต็มตลาดนัดสวนจตุจักร
“นึกไงเนี่ย นัดกะพี่ภัทรที่เจเจเนี่ย ร้อน” บอสพูดออกจะเป็นบ่นเสียด้วยซ้ำ ว่าไปมือก็ทำเป็นพัดๆไป
“เออน่า ขอแวะซื้อของหน่อย” วันชนะเดินนำ
เดินดูของเพลินจนลืมดูเวลาจนเกือบๆหกโมงเย็นเมื่อตะวันคล้อย วันชนะก็เดินหาที่นั่งพักเมื่อย
“เดี๋ยวก็ได้เวลากลับแล้วนะบอส” วันชนะพูดขึ้น
“อืม” เขาดูดน้ำอัดลมไปด้วย
“พี่ภัทรไม่ได้มารับหรอกนะ” วันชนะพูดต่อ
“อืม” เขายังคาบหลอดดูด “โตๆกันแล้ว เขาจะมารับผมทำไม”
“อืม นั่นสิ” วันชนะพูด นึกไปถึงเมื่อตอนเช้าเขาบอกภัทรไปว่าไม่รู้เรื่องที่บอสออกจากบ้าน แต่คิดว่าถ้าได้ทำให้บอสสบายใจขึ้นเขาก็น่าจะกลับบ้านได้เอง
“ขอบคุณนะ ที่พาผมมาวันนี้” บอสยิ้ม นัยน์ตาเขาสะท้อนแสงเป็นประกาย “ผมสบายใจขึ้นมากๆเลย”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากแยกกันกับบอสที่รถไฟฟ้าใต้ดินตรงตลาดนัดสวนจตุจักรก็มีสายโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของวันชนะ
“ครับ อาจารย์นุช” วันชนะพูด
“อาจารย์วินคะ ไม่ต้องเรียกนุชว่าอาจารย์ก็ได้ค่ะ วันนี้วันเสาร์นะคะ” ปลายสายพูดมา
“อะ ครับ นุช วันนี้วันเสาร์ครับ” วันชนะตอบลงไป
“ค่ะ วันเสาร์แล้วยังไงคะ” ปลายสายทำเสียงลุ้นๆ
“แล้วยังไงครับ วันเสาร์ก็ไม่ต้องไปโรงเรียน ก็ไม่ต้องเรียกอาจารย์ไงครับ” วันชนะตอบ
“ผิดค่ะ” นุชรินทร์ทำเสียงเหมือนเป็นพิธีกรเกมส์โชว์ตอนที่ดารารับเชิญตอบผิด “วันนี้เรามีนัดกันไปเซอร์เวย์สถานที่ที่จะไปทัศนศึกษาจำได้มั้ยคะ” หล่อนยังทำเสียงสูงตอนท้ายเลียนแบบพิธีกรรายการทีวี
ถึงตรงนี้วันชนะถึงได้สะดุ้งโหยงเพราะเพิ่งนึกออก “เฮ้ย จริงด้วยสิครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง วันพรุ่งนี้ค่ะ ฮิ ฮิ” นุชรินทร์ขำตัวเอง ก่อนจะพูดต่อเป็นการเป็นงานขึ้นว่า “นุชก็ลืมค่ะ ทิพย์ก็ลืม เราเลยโทรไปเลื่อนเป็นพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ ยังไงพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเจอกันก่อนที่โรงเรียนนะคะ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ็ดโมงเช้าวันอาทิตย์วันชนะจึงมาตามนัดที่โรงเรียนโดยมีนุชรินทร์และเอื้องทิพย์ตามมาสมทบ
“ไปกันเลยไหมครับ” วันชนะพูดเมื่อเห็นทุกคนพร้อม
“คงยังไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องรอคนจากบริษัทที่เราไปขอสปอนเซอร์เขามาอีกถึงคนหนึ่งน่ะค่ะ” นุชรินทร์บอกพลางยกข้อมือดูเวลา
“อ๋อ บริษัทปิโตรเลียมข้างๆโรงเรียนเราน่ะหรือครับ”
ยังไม่ทันตอบก็มีเสียงวิ่งมาหยุดข้างหลังวันชนะ
“พวกคุณจะไปเซอร์เวย์สถานที่ทัศนศึกษากันใช่ไหมครับ” คนมาใหม่ถามขึ้น เสียงนั้นฟังคุ้นๆหูวันชนะ เขาเลยหันไป
ฝ่ายนั้นก้มหน้าหอบแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูด “ขอโทษครับที่มาสาย คือผม...” เขาค้างไปพอๆกับที่วันชนะรู้สึกว่าเวลาหยุดเดินและทุกสรรพสิ่งในโลกถูกสต๊าฟเอาไว้
“คะ?” นุชรินทร์ตั้งใจฟังเขาพูด แต่ว่าเห็นชายตรงหน้าพูดค้างไว้เลยต่อให้ “คุณมาจากบริษัทปิโตรเลียม...ใช่ไหมคะ”
“ครับ” เขาตอบคำเดียว
นุชรินทร์กับเอื้องทิพย์ทำหน้างง “แล้วคุณอ๊อฟล่ะคะ”
“อ๊อฟถูกส่งตัวไปเคลียร์งานที่ต่างจังหวัดเดือนหนึ่งครับ ผมเลยมาแทน” เขาพูด แต่สายตาแทบจะไม่ได้มองที่สองสาว
“ว้า” เอื้องทิพย์หลุดออกมาต่างจากนุชรินทรืที่เก็บอาการได้มิดชิดกว่าแต่สีหน้าก็ดูผิดหวัง
“ยัยทิพย์” นุชรินทร์กระทุ้งเอวเพื่อนเบาๆ
“ค่ะๆ ดิฉันนุชรินทร์นะคะ เรียกนุชเฉยๆก็ได้ค่ะ นี่ทิพย์ แล้วก็วินค่ะ” นุชรินทร์แนะนำ
“ครับ ยินดีที่รู้จักครับ” เขายื่นมือมาจับอย่างเป็นทางการกับสองสาว และสุดท้ายที่วันชนะ
มือนั้นยกค้างอยู่ตรงหน้ารอวันชนะจับเพื่อทำความรู้จัก
“อ้อ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ” เอื้องทิพย์ถามเพราะดูเหมือนชายตรงหน้าจะจับมืออย่างเดียวแต่ลืมแนะนำตัวเอง
สายตาเขาดูมีประกายวูบวาบ รอยยิ้มที่มุมปากแม้จะเผยเพียงน้อยแต่แสดงเหมือนเขาดีใจสุดจะกลั้น มือยังยกค้างอยู่ตรงหน้าวันชนะ รอให้เขาจับ
“นักขัตครับ เรียกผมตั้มก็ได้”